รหัสรัก...รหัสหัวใจ
อิงลดา หญิงสาวที่เพิ่งอกหักหมาดๆ ได้รับของขวัญประหลาดเป็นชายหนุ่มรูปงาม ดวงตาสีฟ้า มีชื่อเล่นแปลว่าน้ำแข็ง เขาบอกตัวตัวเองเป็นของขวัญ แต่สำหรับเธอ คิดว่าเขาเป็นหุ่นยนต์ในคราบปีศาจร้ายที่เข้ามาวุ่นวายในชีวิตมากกว่า เพราะเพียงเริ่มได้รู้จักกัน ชีวิตของเธอก็เปลี่ยนไปแบบที่เจ้าตัวไม่เคยคิดมาก่อน
Tags: สิรินดา, รหัสรักรหัสหัวใจ, นิยายรัก
ตอน: 24. คุณห่วงผม
"พี่อิง พี่ชาติเรียกหาตั้งแต่เช้าแล้วล่ะ ไปหาแกหน่อยดิ ไม่รู้มีเรื่องด่วนอะไรหรือเปล่า"
ยังไม่ทันที่จะวางกระเป๋าสะพาย เพื่อนร่วมงานที่โต๊ะข้างๆ รีบกระซิบบอก
วันนี้ฉันลางานช่่วงเช้า ไม่รู้จะมีงานด่วน หรือทำอะไรพลาดไว้หรือเปล่า เจ้านายของฉันเป็นคนจะเอียดเรื่องงานมาก การเรียกเข้าหาแต่เช้าแบบนี้ แสดงว่าอาจจะทำอะไรพลาด ฉันรีบเดินเข้าห้อง ซึ่งเจ้าของห้องกำลังชงกาแฟให้ตัวเองอยู่
"พี่ชาติมีอะไรหรือเปล่าคะ เมื่อเช้าอิงลา..."
"ยอดวิวทะลุเป้าในคืนเดียว..."
"คะ" ฉันเลิกคิ้ว ยังงงๆ กับคำตอบ แต่ด้วยสีหน้าที่ไม่ได้เคร่งเครียดของอีกฝ่าย ทำให้ฉันลดความกังวลได้กว่าครึ่ง
"บทความที่อิงเพิ่งเขียนไง อัปโหลดเมื่อวาน แต่ยอดคนอ่านทะลุเป้าไปหลายหมื่นในคืนเดียว"
"จริงหรือคะ อิงยังไม่ได้ตามดูข่าวเลย เมื่อเช้ามีธุระด่วนนิดหน่อย ยังไม่ได้ออนไลน์" ฉันเขียนบทความออนไลน์ แต่เป็นคนที่มักจะออฟไลน์ และไม่รับข่าวสารต่างๆ ถ้าไม่จำเป็น
โลกโซเชี่ยลมีสองมุม บางทีรับข่าวมากเกินไปมันทำให้เครียดกับเรื่องของคนอื่นมากเกินไป
"จริง...เขียนยังกับรู้จักเจ้าของร้านนั่นมาก่อน ลงรายละเอียดได้น่าสนใจมาก ขอชมจริงๆ สำหรับบทความนี้"
ฉันยิ้ม "ขอบคุณค่ะ นึกว่าจะโดนดุเสียอีก พี่เขียนนอกเรื่องไปเยอะเหมือนกัน"
เจ้านายหัวเราะ "คำถามแหวกแนวดี ไปทำงานเถอะ เขียนดีๆ แบบนี้ เดี๋ยวส่งงานให้อีก"
เดินออกจากห้องเจ้านายด้วยรอยยิ้ม เป็นครั้งแรกที่เจ้านายชมอย่างจริงจัง เมื่อถึงโต๊ะ จึงอดที่จะเปิดบทความออนไลน์ที่ตัวเองเพิ่งเขียนมาอ่านไม่ได้ หลังจากใส่อาร์ตเวิร์ก ใส่รูป วีดีโอสัมภาษณ์บางช็อต มันทำให้เนื้อหาโดยรวมน่าสนใจมากจริงๆ
...ผู้ชายดิบๆ ที่ชอบทำอาหาร และมีงานอดิเรกสะสมมอเตอร์ไซค์คันโต คุณสมบัติที่หาไม่ได้ง่ายๆ ในสมัยนี้
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขณะกำลังอ่านบทความของตัวเอง
"วันนี้คุณกินข้าวกลางวันกี่โมง"
"คะ" ไม่รู้ทำไม แค่ประโยคเดียว ฉันก็รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร ผู้ชายรักต้นไม้ ขับบิ๊กไบค์ และตรงไปตรงมาสุดๆ ที่ทำให้เรตติ้งบทความของฉันพุ่งสูงปรี๊ดได้ภายในเวลาข้ามคืน
"ผมจะไปรับ ก่อนเที่ยงสิบนาที" ไม่ใช่ประโยคคำถาม แต่เป็นประโยคคำสั่ง
"คือ"
"แล้วเจอกันนะ ถึงแล้วจะโทรไปอีกที" ปลายสายอีกด้านวางหู ไม่รอให้ตอบรับหรือปฏิเสธ
เอ๊ะ...ทำใมใจเต้นแรงผิดปกติ เขาไม่ใช่มนุษย์ แถมเขาเป็นคน เอ๊ยหุ่นยนต์ ที่รู้จักกันดีพอสมควรแล้ว แต่...ทำไมใจฉันเต้นผิดปกตินะ
มอเตอร์ไซค์คันใหญ่คันนั้น มาจอดรอรับฉันตรงเวลา
"คุณไม่ต้องดูแลที่ร้านเหรอ"
"ผมจัดการได้" เขาตอบสั้นๆ แค่นั้น บิกไบค์คันใหญ่พาฉันผ่านการจราจรอันวุ่นวายออกนอกเมืองอย่างรวดเร็ว ความเร็วของมอเตอร์ไซค์ทำให้ฉันไม่สามารถถามได้ว่าเขา
จะพาไปกินข้าวกลางวันที่ไหน เพียงสิบนาทีรถคันใหญ่นั่นก็มาจอดที่คอนโดแห่งหนึ่ง
"จะพาฉันไปไหน"
คนขับรถถอดหมวกกันน็อคของตัวเอง เอามือปัดผมที่ตอนนี้ยาวกว่าปกติเล็กน้อย ตอบด้วยน้ำเสียงแสนธรรมดา "กินข้าวไง"
"แต่ที่นี่มัน..." ฉันเหลียวซ้ายขวา ในขณะที่พยายามจะถอดหมวกกันน็อคของตัวเอง
"คอนโดของผมเอง" เขาตอบ เอื้อมมือมาดึงมันออกให้ ปลายนิ้วของอีกฝ่ายสัมผัสข้างแก้มของฉันโดยบังเอิญ นั่นทำให้ต้องกลั้นหายใจโดยอัตโนม้ติ....มัน...แปลกๆ
"แล้ว...มากินข้าวกลางวันที่คอนโดของนายนี่นะ ทำไมไม่หาอะไรกินแถวๆ ที่ทำงาน หรือว่าที่ร้านของนายล่ะ"
"เบื่อ อยากทำอะไรกินเอง มาเถอะเดี๋ยวคุณกลับไปทำงานไม่ทัน" อีกฝ่ายหันหลังเดินไปที่ลิฟท์ "อ้าว ทำไมยืนเฉยล่ะ"
การกระทำของเขาดูต่าง ท่าทางมั่นใจสุดๆ กางเกงยีนสีเข้ม รองเท้าผ้าใบ เสื้อแจ๊คเก็ตหนัง ...เป็นไอแซคจริงหรือเปล่านะ มันดูต่างกับผู้ชาย เอ้ย หุ่นมาดเนี้ยบที่ฉันเคยรู้จัก
"ฉันกลัว..."
คนฟังเลิกคิ้ว
"ฉันจะไว้ใจนายได้ยังไง ฉันเป็นผู้หญิงนะ"
อีกฝ่ายหรี่ตา "เมื่อปีก่อน เราค้างอยู่ห้องเดียวกันเกือบอาทิตย์ ขนาดเสื้อผ้าของผมคุณยังใส่ นอนกอด...."
ฉันรีบโบกมือห้ามก่อนที่จะมีประโยคลึกซึ้งตามมาอีก
ถ้าเขาไม่ใช่ไอแซค...เขาจะรู้เรื่องนี้ได้ยังไง
"มาเถอะ ลิฟท์มาแล้ว"
ไอแซคเล่าให้ฟังว่าเขาซื้อคอนโดนี้ไว้เมื่อสองสามเดือนก่อน แต่ส่วนใหญ่จะพักที่ร้านนอกเมืองมากกว่า เปิดประตูเข้าไป ฉันพบอะไรบางอย่างที่คล้ายกัน ห้องเรียบร้อยสะอาดสะอ้านกว่าห้องผู้หญิงเสียอีก เขาเปิดตู้เย็นเอาผักสดออกมา ทำสลัดง่ายๆ กินกับเสต็กที่เขาทำด้วยไมโครเวฟ ให้ตายเถอะ กลิ่นของมันหอมตลับไปทั่วห้อง
"ฉันจัดจานให้" ฉันพยายามจะหาอะไรที่ช่วยพ่อครัวร่างสูง
"ไปนั่งรอเถอะ เปิดโทรทัศน์ดูก็ได้ อีกสามนาทีเรียบร้อย"
ภายในเวลาไม่ถึงสิบนาที เขาทำสลัดจานใหญ่ พร้อมกับเสต็กสองชิ้นเสร็จเรียบร้อย เจ้าตัวยกไปวางที่โต๊ะกระจกนอกระเบียงซึ่งมีกระถางต้นใม้ใหญ่ให้ร่มเงา
"ทำไมทำเร็วจัง"
อีกฝ่ายยิ้ม "มาเตรียมไว้ก่อนไงล่ะ ไม่ได้ใช้เทคนิคอะไรหรอก"
"คุณบอกว่าไม่ได้มาที่นี่บ่อย ทำไมต้นไม้มัน...ดูดีแบบนี้ล่ะ"
"ผมเป็นนักวิทยาศาสตร์ ที่มีงานอดิเรกผสมพันธ์ไม้ใหม่ๆนะ" เขาตอบ "มันเป็นพันธุ์พิเศษ ต้นเบา และสวย ที่สำคัญไม่ชอบน้ำมาก"
"ให้เดา มันไม่มีพันธุ์นี้ในโลก"
"เปล่า มันมี ผมไม่ได้สร้างมันใหม่ เพียงแต่ไม่ค่อยมีใครรู้จักมัน" เขาตอบ "แล้วก็ใช้เทคนิคการเลี้ยงนิดหน่อย มันก็โตได้แบบนี้ภายในหกเดือน...ว่าแต่เราอย่ามัวแต่คุยกัน
เรื่องต้นไม้เลย สเต็กจะเย็นเสียหมด"
ไม่รู้ว่าอาหารอร่อยเพราะความสดของส่วนประกอบ หรือเพราะฝีมือ แต่หลังจากตักคำแรก ฉันก็หยุดทุกอย่าง และกินไม่หยุด
"คุณไม่ได้กินแบบนี้มานานแล้วใช่ไหม หรือต้องรีบกลับไปทำงาน" น้ำเสียงคนถามเจือความขบขัน
ฉันวางช้อนเม้มปาก อีกฝ่ายเอาซ่อมจิ้มสลัด อมยิ้ม แบบที่คงทำให้สาวๆ ทั้งเมืองหยุดหายใจได้ไม่ยาก
"คุณผอมไปจากเดิมมาก แต่ก็ดูแข็งแรงนะ"
ฉันกินน้อย แถมออกกำลังกายสม่ำเสมอ น้ำหนักลดลงหลายกิโลกรัมอย่างที่เขาบอกจริงๆ
"คุณตามดูฉัน..."
คนฟังไม่ตอบ
"ถามจริงๆ คุณตามฉันมาโลกนี้อีกทำไม"
"เปล่า"
ฉันเลิกคิ้ว นั่นสิ เขาจะตามมาทำไม ฉันสบายดีไม่ได้คิดจะฆ่าตัวตายแล้วนี่
"ผมผิดสัญญากับพ่อ"
"หมายความนายหนีท่านมา งั้นรึ"
อีกฝ่ายพยักหน้า แววตาของเขาเศร้าลงอย่างเห็นได้ชัด "มันจำเป็น ถ้าไม่หนีมา ท่านก็จะต้องทำลายผมทิ้ง ผมหนีมาปีหนึ่งแล้ว ต้องมาเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด หางานทำ ซื้อที่ดินแล้วก็เริ่มทำร้านอาหารเล็กๆ นั่นจนมันมีชื่อเสียง"
ฉันอ้าปากค้าง หมายถึงว่าเขามาตั้งแต่ฉันกลับมาใหม่ๆ งั้นรึ ฉันเขียนถึงเขาอยู่เป็นปี...ที่แท้เขาอยู่ใกล้แค่นี้เอง
"แล้วนายอยู่ในอันตรายหรือเปล่า มีใครตามมาไหม การที่ฉันเจอกับนาย มันจะทำให้นายเป็นอะไรหรือเปล่า"
"คุณ...ห่วงผม"
คำถามกลับมาสั้นๆ นั่นทำให้ฉันก้มหน้า หลบตาทันควัน
เมื่อก่อน ฉันไม่เคยพ่ายแพ้สายตาคมๆ ของเขานี่นะ แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้น แล้วมันเกิดขึ้นได้ยังไง
ยังไม่ทันที่จะวางกระเป๋าสะพาย เพื่อนร่วมงานที่โต๊ะข้างๆ รีบกระซิบบอก
วันนี้ฉันลางานช่่วงเช้า ไม่รู้จะมีงานด่วน หรือทำอะไรพลาดไว้หรือเปล่า เจ้านายของฉันเป็นคนจะเอียดเรื่องงานมาก การเรียกเข้าหาแต่เช้าแบบนี้ แสดงว่าอาจจะทำอะไรพลาด ฉันรีบเดินเข้าห้อง ซึ่งเจ้าของห้องกำลังชงกาแฟให้ตัวเองอยู่
"พี่ชาติมีอะไรหรือเปล่าคะ เมื่อเช้าอิงลา..."
"ยอดวิวทะลุเป้าในคืนเดียว..."
"คะ" ฉันเลิกคิ้ว ยังงงๆ กับคำตอบ แต่ด้วยสีหน้าที่ไม่ได้เคร่งเครียดของอีกฝ่าย ทำให้ฉันลดความกังวลได้กว่าครึ่ง
"บทความที่อิงเพิ่งเขียนไง อัปโหลดเมื่อวาน แต่ยอดคนอ่านทะลุเป้าไปหลายหมื่นในคืนเดียว"
"จริงหรือคะ อิงยังไม่ได้ตามดูข่าวเลย เมื่อเช้ามีธุระด่วนนิดหน่อย ยังไม่ได้ออนไลน์" ฉันเขียนบทความออนไลน์ แต่เป็นคนที่มักจะออฟไลน์ และไม่รับข่าวสารต่างๆ ถ้าไม่จำเป็น
โลกโซเชี่ยลมีสองมุม บางทีรับข่าวมากเกินไปมันทำให้เครียดกับเรื่องของคนอื่นมากเกินไป
"จริง...เขียนยังกับรู้จักเจ้าของร้านนั่นมาก่อน ลงรายละเอียดได้น่าสนใจมาก ขอชมจริงๆ สำหรับบทความนี้"
ฉันยิ้ม "ขอบคุณค่ะ นึกว่าจะโดนดุเสียอีก พี่เขียนนอกเรื่องไปเยอะเหมือนกัน"
เจ้านายหัวเราะ "คำถามแหวกแนวดี ไปทำงานเถอะ เขียนดีๆ แบบนี้ เดี๋ยวส่งงานให้อีก"
เดินออกจากห้องเจ้านายด้วยรอยยิ้ม เป็นครั้งแรกที่เจ้านายชมอย่างจริงจัง เมื่อถึงโต๊ะ จึงอดที่จะเปิดบทความออนไลน์ที่ตัวเองเพิ่งเขียนมาอ่านไม่ได้ หลังจากใส่อาร์ตเวิร์ก ใส่รูป วีดีโอสัมภาษณ์บางช็อต มันทำให้เนื้อหาโดยรวมน่าสนใจมากจริงๆ
...ผู้ชายดิบๆ ที่ชอบทำอาหาร และมีงานอดิเรกสะสมมอเตอร์ไซค์คันโต คุณสมบัติที่หาไม่ได้ง่ายๆ ในสมัยนี้
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นขณะกำลังอ่านบทความของตัวเอง
"วันนี้คุณกินข้าวกลางวันกี่โมง"
"คะ" ไม่รู้ทำไม แค่ประโยคเดียว ฉันก็รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร ผู้ชายรักต้นไม้ ขับบิ๊กไบค์ และตรงไปตรงมาสุดๆ ที่ทำให้เรตติ้งบทความของฉันพุ่งสูงปรี๊ดได้ภายในเวลาข้ามคืน
"ผมจะไปรับ ก่อนเที่ยงสิบนาที" ไม่ใช่ประโยคคำถาม แต่เป็นประโยคคำสั่ง
"คือ"
"แล้วเจอกันนะ ถึงแล้วจะโทรไปอีกที" ปลายสายอีกด้านวางหู ไม่รอให้ตอบรับหรือปฏิเสธ
เอ๊ะ...ทำใมใจเต้นแรงผิดปกติ เขาไม่ใช่มนุษย์ แถมเขาเป็นคน เอ๊ยหุ่นยนต์ ที่รู้จักกันดีพอสมควรแล้ว แต่...ทำไมใจฉันเต้นผิดปกตินะ
มอเตอร์ไซค์คันใหญ่คันนั้น มาจอดรอรับฉันตรงเวลา
"คุณไม่ต้องดูแลที่ร้านเหรอ"
"ผมจัดการได้" เขาตอบสั้นๆ แค่นั้น บิกไบค์คันใหญ่พาฉันผ่านการจราจรอันวุ่นวายออกนอกเมืองอย่างรวดเร็ว ความเร็วของมอเตอร์ไซค์ทำให้ฉันไม่สามารถถามได้ว่าเขา
จะพาไปกินข้าวกลางวันที่ไหน เพียงสิบนาทีรถคันใหญ่นั่นก็มาจอดที่คอนโดแห่งหนึ่ง
"จะพาฉันไปไหน"
คนขับรถถอดหมวกกันน็อคของตัวเอง เอามือปัดผมที่ตอนนี้ยาวกว่าปกติเล็กน้อย ตอบด้วยน้ำเสียงแสนธรรมดา "กินข้าวไง"
"แต่ที่นี่มัน..." ฉันเหลียวซ้ายขวา ในขณะที่พยายามจะถอดหมวกกันน็อคของตัวเอง
"คอนโดของผมเอง" เขาตอบ เอื้อมมือมาดึงมันออกให้ ปลายนิ้วของอีกฝ่ายสัมผัสข้างแก้มของฉันโดยบังเอิญ นั่นทำให้ต้องกลั้นหายใจโดยอัตโนม้ติ....มัน...แปลกๆ
"แล้ว...มากินข้าวกลางวันที่คอนโดของนายนี่นะ ทำไมไม่หาอะไรกินแถวๆ ที่ทำงาน หรือว่าที่ร้านของนายล่ะ"
"เบื่อ อยากทำอะไรกินเอง มาเถอะเดี๋ยวคุณกลับไปทำงานไม่ทัน" อีกฝ่ายหันหลังเดินไปที่ลิฟท์ "อ้าว ทำไมยืนเฉยล่ะ"
การกระทำของเขาดูต่าง ท่าทางมั่นใจสุดๆ กางเกงยีนสีเข้ม รองเท้าผ้าใบ เสื้อแจ๊คเก็ตหนัง ...เป็นไอแซคจริงหรือเปล่านะ มันดูต่างกับผู้ชาย เอ้ย หุ่นมาดเนี้ยบที่ฉันเคยรู้จัก
"ฉันกลัว..."
คนฟังเลิกคิ้ว
"ฉันจะไว้ใจนายได้ยังไง ฉันเป็นผู้หญิงนะ"
อีกฝ่ายหรี่ตา "เมื่อปีก่อน เราค้างอยู่ห้องเดียวกันเกือบอาทิตย์ ขนาดเสื้อผ้าของผมคุณยังใส่ นอนกอด...."
ฉันรีบโบกมือห้ามก่อนที่จะมีประโยคลึกซึ้งตามมาอีก
ถ้าเขาไม่ใช่ไอแซค...เขาจะรู้เรื่องนี้ได้ยังไง
"มาเถอะ ลิฟท์มาแล้ว"
ไอแซคเล่าให้ฟังว่าเขาซื้อคอนโดนี้ไว้เมื่อสองสามเดือนก่อน แต่ส่วนใหญ่จะพักที่ร้านนอกเมืองมากกว่า เปิดประตูเข้าไป ฉันพบอะไรบางอย่างที่คล้ายกัน ห้องเรียบร้อยสะอาดสะอ้านกว่าห้องผู้หญิงเสียอีก เขาเปิดตู้เย็นเอาผักสดออกมา ทำสลัดง่ายๆ กินกับเสต็กที่เขาทำด้วยไมโครเวฟ ให้ตายเถอะ กลิ่นของมันหอมตลับไปทั่วห้อง
"ฉันจัดจานให้" ฉันพยายามจะหาอะไรที่ช่วยพ่อครัวร่างสูง
"ไปนั่งรอเถอะ เปิดโทรทัศน์ดูก็ได้ อีกสามนาทีเรียบร้อย"
ภายในเวลาไม่ถึงสิบนาที เขาทำสลัดจานใหญ่ พร้อมกับเสต็กสองชิ้นเสร็จเรียบร้อย เจ้าตัวยกไปวางที่โต๊ะกระจกนอกระเบียงซึ่งมีกระถางต้นใม้ใหญ่ให้ร่มเงา
"ทำไมทำเร็วจัง"
อีกฝ่ายยิ้ม "มาเตรียมไว้ก่อนไงล่ะ ไม่ได้ใช้เทคนิคอะไรหรอก"
"คุณบอกว่าไม่ได้มาที่นี่บ่อย ทำไมต้นไม้มัน...ดูดีแบบนี้ล่ะ"
"ผมเป็นนักวิทยาศาสตร์ ที่มีงานอดิเรกผสมพันธ์ไม้ใหม่ๆนะ" เขาตอบ "มันเป็นพันธุ์พิเศษ ต้นเบา และสวย ที่สำคัญไม่ชอบน้ำมาก"
"ให้เดา มันไม่มีพันธุ์นี้ในโลก"
"เปล่า มันมี ผมไม่ได้สร้างมันใหม่ เพียงแต่ไม่ค่อยมีใครรู้จักมัน" เขาตอบ "แล้วก็ใช้เทคนิคการเลี้ยงนิดหน่อย มันก็โตได้แบบนี้ภายในหกเดือน...ว่าแต่เราอย่ามัวแต่คุยกัน
เรื่องต้นไม้เลย สเต็กจะเย็นเสียหมด"
ไม่รู้ว่าอาหารอร่อยเพราะความสดของส่วนประกอบ หรือเพราะฝีมือ แต่หลังจากตักคำแรก ฉันก็หยุดทุกอย่าง และกินไม่หยุด
"คุณไม่ได้กินแบบนี้มานานแล้วใช่ไหม หรือต้องรีบกลับไปทำงาน" น้ำเสียงคนถามเจือความขบขัน
ฉันวางช้อนเม้มปาก อีกฝ่ายเอาซ่อมจิ้มสลัด อมยิ้ม แบบที่คงทำให้สาวๆ ทั้งเมืองหยุดหายใจได้ไม่ยาก
"คุณผอมไปจากเดิมมาก แต่ก็ดูแข็งแรงนะ"
ฉันกินน้อย แถมออกกำลังกายสม่ำเสมอ น้ำหนักลดลงหลายกิโลกรัมอย่างที่เขาบอกจริงๆ
"คุณตามดูฉัน..."
คนฟังไม่ตอบ
"ถามจริงๆ คุณตามฉันมาโลกนี้อีกทำไม"
"เปล่า"
ฉันเลิกคิ้ว นั่นสิ เขาจะตามมาทำไม ฉันสบายดีไม่ได้คิดจะฆ่าตัวตายแล้วนี่
"ผมผิดสัญญากับพ่อ"
"หมายความนายหนีท่านมา งั้นรึ"
อีกฝ่ายพยักหน้า แววตาของเขาเศร้าลงอย่างเห็นได้ชัด "มันจำเป็น ถ้าไม่หนีมา ท่านก็จะต้องทำลายผมทิ้ง ผมหนีมาปีหนึ่งแล้ว ต้องมาเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด หางานทำ ซื้อที่ดินแล้วก็เริ่มทำร้านอาหารเล็กๆ นั่นจนมันมีชื่อเสียง"
ฉันอ้าปากค้าง หมายถึงว่าเขามาตั้งแต่ฉันกลับมาใหม่ๆ งั้นรึ ฉันเขียนถึงเขาอยู่เป็นปี...ที่แท้เขาอยู่ใกล้แค่นี้เอง
"แล้วนายอยู่ในอันตรายหรือเปล่า มีใครตามมาไหม การที่ฉันเจอกับนาย มันจะทำให้นายเป็นอะไรหรือเปล่า"
"คุณ...ห่วงผม"
คำถามกลับมาสั้นๆ นั่นทำให้ฉันก้มหน้า หลบตาทันควัน
เมื่อก่อน ฉันไม่เคยพ่ายแพ้สายตาคมๆ ของเขานี่นะ แล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้น แล้วมันเกิดขึ้นได้ยังไง
สิรินดา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 13 ส.ค. 2560, 10:12:42 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 9 ม.ค. 2561, 13:01:11 น.
จำนวนการเข้าชม : 1717
<< 23: การเริ่มต้นของบางสิ่ง | 26: การลาจาก และการเริ่มต้นใหม่ >> |
คิมหันตุ์ 14 ส.ค. 2560, 18:36:23 น.
ยังไม่รักกันสักที
ยังไม่รักกันสักที
titirat 15 ส.ค. 2560, 12:24:37 น.
ตามค่ะ นางเอกยังไม่รู้ใจตัวเอง ได้แต่สงสารไอแซค
ตามค่ะ นางเอกยังไม่รู้ใจตัวเอง ได้แต่สงสารไอแซค
titirat 15 ส.ค. 2560, 12:25:42 น.
มาอัพบ่อยๆนะคะ
มาอัพบ่อยๆนะคะ
Kim 16 ส.ค. 2560, 09:39:20 น.
มาต่อเร็วๆนะคะ
มาต่อเร็วๆนะคะ
สิรินดา 19 ส.ค. 2560, 22:25:38 น.
เง้อ...กำลังปั่นค่าาาา
เง้อ...กำลังปั่นค่าาาา