ชุลมุนแผนร้าย ... ป่วนใจ
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ทำไมเธอจะต้องมารับรู้เรื่องปวดหัวพวกนี้ด้วย!
ทั้งคนเล่นตลกกับเธอ ผีก็ยังมาเอ็นดูหลอกเธออีก
กอกานต์อยากจะกรีดร้อง หลังจากรู้ว่าเธอถูกหลอกทั้งจากคน และผี!
ในความวุ่นวายที่เธอต้องช่วยตามหาความจริง
อยู่ๆ เธอก็รักคนที่ไม่ควรรักขึ้นมา
เธอจะตัดใจจากตัวยุ่งอย่างดี??
ทั้งคนเล่นตลกกับเธอ ผีก็ยังมาเอ็นดูหลอกเธออีก
กอกานต์อยากจะกรีดร้อง หลังจากรู้ว่าเธอถูกหลอกทั้งจากคน และผี!
ในความวุ่นวายที่เธอต้องช่วยตามหาความจริง
อยู่ๆ เธอก็รักคนที่ไม่ควรรักขึ้นมา
เธอจะตัดใจจากตัวยุ่งอย่างดี??
Tags: ผี ฆาตกรรม ปิ่นนลิน
ตอน: ตอนที่ 9 - 50%
ตอนที่ 9
“อย่ามาพูดอะไรที่เป็นไปไม่ได้เลยค่ะ” กอกานต์มองหน้าคนพูดเรื่อยเปื่อยอยู่นานเพราะความตกใจ แววตาซุกซนของเขาปลุกให้เธอหาเสียงตัวเองเจอ สวนกลับไปพร้อมสีหน้าต่อว่าเขาช่างพูดอะไรเพ้อเจ้อ!
“ทำไมแก้มจะต้องทำตามที่คุณพูดด้วย”
“เพราะผมชอบคุณมากกว่ายัยหนูผีนั่น หรือว่าคุณไม่ชอบคนหล่อ ดี เก่งอย่างน้องชายผม”
ภาสวัสร์ไม่เข้าใจว่าทำไมกอกานต์ถึงไม่เห็นด้วยกับเขา ภาสวินท์มีครบทุกอย่างไม่ว่าจะหน้าตา การศึกษา ฐานะ รวมถึงนิสัยก็ดี เป็นคนสุภาพอ่อนโยน ใจเย็นมากด้วย ขนาดเขาป่วย เคยอาละวาดใส่ตั้งหลายที ภาสวินท์ยังอดทนกับเขาเลย
“แก้มไม่ได้ชอบคุณวินท์แบบนั้น … พอเถอะค่ะ ถ้าหากคุณยังมีความคิดบ้าๆ แบบนี้ แก้มจะไม่คุยกับคุณภาสวัสร์อีก” กอกานต์ตัดบทแล้วจะรีบหนีเข้าลิฟท์ที่มาถึงพอดี
ภาสวัสร์อยากจะตามไปห้ามไม่ให้หญิงสาวทำแบบที่ขู่ เขาคงทนไม่ได้ถ้าไม่ได้คุยกับเธออีก แต่ติดที่มีคนอยู่ในลิฟท์ทำให้เขารีบเดินหลบไปอีกทางอย่างเสียดาย
ทางด้านกอกานต์ยังไม่พอใจภาสวัสร์จนออกสีหน้า คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันระหว่างเดินกลับห้องทำงาน เธอดึงบัตรพนักงานที่คล้องคอขึ้นมาแตะเครื่องแสกนบัตรข้างประตูเข้าห้องพลางบ่นไม่หยุด เขามีสิทธิ์อะไร อยู่ๆ ก็มาบอกให้เธอไปชอบคนโน้นคนนี้
“อะไรทำให้เขาพูดออกมาแบบนั้น สติดีหรือเปล่านะ”
กอกานต์เพิ่งรู้ตัวว่าเธอหอบไอ้ถุงสีขาวของฝากจากภาสวัสร์ติดมือมาด้วยก็ตอนวางของในอ้อมแขนลงบนโต๊ะ ยังไม่ทันจะเปิดถุงดูว่าด้านในคืออะไร ก็เห็นภาสวินท์กลับมาจากข้างนอก เธอจึงเลิกคิดเรื่องที่ค้างคาใจแล้วรีบเอางานตัวอย่างจากโรงพิมพ์ไปให้เจ้านายอนุมัติเพื่อจะได้สั่งผลิตงานทันวันใช้งาน
“คุณวินท์โอเคกับสีของโปสเตอร์ไหมคะ” กอกานต์ถามความเห็นเจ้านายหลังจากวางตัวอย่างโปสเตอร์ลงบนโต๊ะตรงหน้าภาสวินท์ ภาสวินท์กวาดตามองครู่เดียวก็กุมขมับ
“ขอเวลาผมสักครู่นะคุณแก้ม ผมตาลายน่ะ สงสัยเพราะไม่ได้กินมื้อเที่ยง” ภาสวินท์บอกด้วยแววตาอิดโรย สีหน้าไม่สดใสเหมือนปกติ
“งั้นแก้มไปซื้ออะไรมาให้ทานก่อนดีไหมคะ” กอกานต์ขันอาสา
“ผมฝากแทนไปจัดการแล้วล่ะ แต่ไม่รู้ไปทำอะไรอยู่ที่ไหน … สำหรับงานนี่ เดี๋ยวผมเรียกคุณอีกทีนะ”
หญิงสาวรับคำ แม้เดินกลับมายังโต๊ะทำงาน แต่ก็อดหันมองเจ้านายในห้องด้วยความเป็นห่วงไม่ได้ เริ่มมองหาของบนโต๊ะเธอที่น่าจะมีอะไรพอจะให้ภาสวินท์กินแก้หิวได้บ้าง สายตาเลื่อนไปหยุดที่ถุงสีขาว กอกานต์จึงรีบหยิบถุงมาเปิด แล้วหยิบของในนั้นออกมาทีละอย่าง
ช็อคโกแลตบาร์ มาร์ชแมลโล่ว์ เจลลี่หมี คุกกี้!
กอกานต์เบิกตากว้างเพราะไม่คิดว่าข้างในถุงจะอุดมไปด้วยขนมกินเล่นมากมายเต็มไปหมด นี่ภาสวัสร์มองเธอเป็นเด็กประถมเลยคิดจะเอาขนมมาหลอกล่องั้นหรือ!
นอกจากนั้นในถุงยังมีกระดาษแผ่นใหญ่ที่พับทบจนเหลือขนาดแค่ฝ่ามืออยู่ด้วย เธอสงสัยว่าในกระดาษแผ่นนั้นจะเต็มไปด้วย ‘ข้อมูลเชิงลึก’ ของภาสวินท์จริงหรือ นึกอยากหยิบออกมาเปิดอ่านทันที เพียงแต่ว่าเจ้าของข้อมูลในกระดาษเดินมาเรียกเธอเสียก่อน
“คุณแก้ม”
“คะ! คุณวินท์” กอกานต์รีบขย้ำปากถุงปิดเพราะกลัวเขาจะเห็นกระดาษที่ภาสวัสร์ให้เธอมา
ภาสวินท์หรี่ตามอง แม้จะเจอพิรุธในแววตาคนตากลมๆ หากก็ไม่ได้ซักถามอะไร ตอบคำถามที่หญิงสาวถามเมื่อครู่ด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง
“ผมอนุมัติให้โปสเตอร์แผ่นนี้ผ่านนะ สั่งผลิตได้เลย คุณติดต่อฝ่ายจัดซื้อด้วยนะ ถ้ามีอะไรไม่เข้าใจก็ถามคุณแนทได้ … ทำได้ใช่ไหม”
“ได้ค่ะ แก้มจะไม่ให้มีอะไรผิดพลาดเลยค่ะ” กอกานต์ก็ตอบเสียงดังฟังชัด
“อืม นี่มีอะไรปิดบังผมหรือเปล่า หรือไปทำผิดอะไรมา หน้าคุณน่ะเหมือนเด็กทำผิดเลยรู้ตัวไหม” ภาสวินท์ยืนมองหญิงสาวไม่วางตา
“เปล่าค่ะ ไม่มีอะไรค่ะ ไม่ได้ทำผิดกฏบริษัทสักข้อเลยค่ะ” คนมีพิรุธสุดๆ ส่ายหน้าหวือ ก่อนชิงเปลี่ยนเรื่อง “จริงสิคะ แก้มมีขนมเพียบเลย คุณวินท์ทานรองท้องก่อนนะคะ” พร้อมยื่นคุกกี้ช็อคโกแลตชิพที่อยู่ในห่อให้เจ้านาย
“ขนมเยอะไปไหมครับเนี่ยคุณกอกานต์” ชายหนุ่มยิ้มด้วยแววตาเอ็นดู ปริมาณขนมบนโต๊ะมันเยอะจนน่าแซวจริงๆ พอเห็นแบบนี้ก็ทำให้นึกถึงพี่ชายขึ้นมา ภาสวัสร์ชอบกินขนมมาก โดยเฉพาะสารพัดช็อคโกแลตกับเจลลี่หมี พี่ชายจะดีใจทุกครั้งที่เขาซื้อขนมพวกนี้ไปฝาก
“แต่ก็ขอบคุณนะ ผมไม่ชอบกินคุกกี้ครับ นี่ผมยังไหวอยู่”
หากคนบอกว่ายังไหวกลับเสียหลักทำท่าจะล้มลงกับพื้น ด้วยความตกใจ กอกานต์รีบยื่นแขนสองข้างออกไปตามสัณชาติญาณ ซึ่งเมื่อร่างสูงล้มลงมาก็กลายเป็นเธอกอดเขาอย่างเต็มไม้เต็มมือ
กอกานต์แทบกลั้นหายใจกับไออุ่นและกลิ่นน้ำหอมของเขา นอกจากจะได้ยินเสียงหัวใจตัวเองดังก้องอยู่ในอก แล้วยังได้ถึงเสียงหัวใจคนตัวสูงแข่งกันส่งเสียงดัง ตอนนี้ไม่รู้เลยว่าหัวใจใครเต้นแรงกว่ากัน!
ส่วนคนหน้ามืดที่จับโต๊ะทำงานได้ทันไม่ล้มไปจูบพื้น แต่ตอนนี้เขากลับคิดว่าสู้ล้มไปจูบพื้นยังดีกว่า!
เขาหลับตากับการสัมผัสได้ถึงไออุ่นจากใบหน้าหญิงสาวที่ซบกับไหล่ ปลายคางสัมผัสกับกลุ่มผมนุ่มและหอมของคนตัวเล็ก รวมถึงกลิ่นน้ำหอมหวานๆ เหมือนลูกอม สิ่งพวกนี้กำลังสาปให้เขาเคลื่อนไหวร่างกายตัวเองไม่ได้ แถมร่างกายที่เมื่อครู่เหมือนจะหมดแรงยังตื่นตัวแปลกๆ อีกต่างหาก
ภาสวินท์ไม่รู้ว่าตัวเองยืนให้หญิงสาวกอดนานแค่ไหน จนได้ยินหญิงสาวบ่นออกมา
“หนักค่ะ เอ่อ คุณวินท์ยืนไหวไหมคะ”
คนตัวใหญ่ถึงได้สติรีบดึงตัวเองขึ้นยืน ใบหน้าคมร้อนเหมือนอยู่ข้างไฟกองใหญ่ เวลานี้แก้มของเขาคงแดงมากแน่ๆ ภาสวินท์รีบหันหน้ามองไปทางอื่น คิ้วหนาขมวดน้อยๆ เพราะไม่รู้จะทำหน้ายังไงดี
“ขอโทษนะ สงสัยผมจะไม่ไหวจริงๆ ขอบคุณสำหรับคุกกี้นะครับ”
ภาสวินท์หยิบคุกกี้จากโต๊ะไปหนึ่งห่อ สบตาเธอหนึ่งทีก่อนจะเดินกลับไปนั่งโต๊ะทำงาน ไม่นานแทนไทกับแม่บ้านก็ยกอาหารเที่ยงมาให้ถึงโต๊ะ โดยทั้งบ่ายวันนั้นภาสวินท์ไม่สามารถสลัดทั้งกลิ่นน้ำหอมและไออุ่นของกอกานต์ไปจากความรู้สึกเขาได้เลย
ไม่ใช่แค่ภาสวินท์หรอกที่ต้องซ่อนหน้าแดงจากอีกฝ่าย กอกานต์ก็ก้มหน้าลง ปิดบังแก้มแดงก่ำของเธอเช่นกัน
“เพราะตกใจแน่ๆ ยัยแก้ม เพราะตกใจก็เลยหายใจไม่ปกติ ไม่มีทางเป็นอะไรอย่างอื่นหรอก” กอกานต์เตือนตัวเองพลางเป่าลมออกจากปาก เพื่อให้หัวใจกลับไปเต้นในจังหวะปกติ
จบครึ่งแรกค่า
คนพี่ชอบทำให้โกรธ
ส่วนคนน้องชอบทำให้ใจเต้น!!
อิอิ
คุณแว่นใส - พี่วัสร์พูดจริงไหมไม่รู้ ต้องรอดูไปอีกสักพักนะค้า
คุณ kaelek - ถึงแก้มจะกลัวและเกรงใจพี่วินท์ แต่ว่าอย่าให้แก้มจับทางอยู่น้า พี่วินท์ก็พี่วินท์เถอะ อิอิ
พบกันใหม่ตอนหน้าค่า
“อย่ามาพูดอะไรที่เป็นไปไม่ได้เลยค่ะ” กอกานต์มองหน้าคนพูดเรื่อยเปื่อยอยู่นานเพราะความตกใจ แววตาซุกซนของเขาปลุกให้เธอหาเสียงตัวเองเจอ สวนกลับไปพร้อมสีหน้าต่อว่าเขาช่างพูดอะไรเพ้อเจ้อ!
“ทำไมแก้มจะต้องทำตามที่คุณพูดด้วย”
“เพราะผมชอบคุณมากกว่ายัยหนูผีนั่น หรือว่าคุณไม่ชอบคนหล่อ ดี เก่งอย่างน้องชายผม”
ภาสวัสร์ไม่เข้าใจว่าทำไมกอกานต์ถึงไม่เห็นด้วยกับเขา ภาสวินท์มีครบทุกอย่างไม่ว่าจะหน้าตา การศึกษา ฐานะ รวมถึงนิสัยก็ดี เป็นคนสุภาพอ่อนโยน ใจเย็นมากด้วย ขนาดเขาป่วย เคยอาละวาดใส่ตั้งหลายที ภาสวินท์ยังอดทนกับเขาเลย
“แก้มไม่ได้ชอบคุณวินท์แบบนั้น … พอเถอะค่ะ ถ้าหากคุณยังมีความคิดบ้าๆ แบบนี้ แก้มจะไม่คุยกับคุณภาสวัสร์อีก” กอกานต์ตัดบทแล้วจะรีบหนีเข้าลิฟท์ที่มาถึงพอดี
ภาสวัสร์อยากจะตามไปห้ามไม่ให้หญิงสาวทำแบบที่ขู่ เขาคงทนไม่ได้ถ้าไม่ได้คุยกับเธออีก แต่ติดที่มีคนอยู่ในลิฟท์ทำให้เขารีบเดินหลบไปอีกทางอย่างเสียดาย
ทางด้านกอกานต์ยังไม่พอใจภาสวัสร์จนออกสีหน้า คิ้วเรียวขมวดเข้าหากันระหว่างเดินกลับห้องทำงาน เธอดึงบัตรพนักงานที่คล้องคอขึ้นมาแตะเครื่องแสกนบัตรข้างประตูเข้าห้องพลางบ่นไม่หยุด เขามีสิทธิ์อะไร อยู่ๆ ก็มาบอกให้เธอไปชอบคนโน้นคนนี้
“อะไรทำให้เขาพูดออกมาแบบนั้น สติดีหรือเปล่านะ”
กอกานต์เพิ่งรู้ตัวว่าเธอหอบไอ้ถุงสีขาวของฝากจากภาสวัสร์ติดมือมาด้วยก็ตอนวางของในอ้อมแขนลงบนโต๊ะ ยังไม่ทันจะเปิดถุงดูว่าด้านในคืออะไร ก็เห็นภาสวินท์กลับมาจากข้างนอก เธอจึงเลิกคิดเรื่องที่ค้างคาใจแล้วรีบเอางานตัวอย่างจากโรงพิมพ์ไปให้เจ้านายอนุมัติเพื่อจะได้สั่งผลิตงานทันวันใช้งาน
“คุณวินท์โอเคกับสีของโปสเตอร์ไหมคะ” กอกานต์ถามความเห็นเจ้านายหลังจากวางตัวอย่างโปสเตอร์ลงบนโต๊ะตรงหน้าภาสวินท์ ภาสวินท์กวาดตามองครู่เดียวก็กุมขมับ
“ขอเวลาผมสักครู่นะคุณแก้ม ผมตาลายน่ะ สงสัยเพราะไม่ได้กินมื้อเที่ยง” ภาสวินท์บอกด้วยแววตาอิดโรย สีหน้าไม่สดใสเหมือนปกติ
“งั้นแก้มไปซื้ออะไรมาให้ทานก่อนดีไหมคะ” กอกานต์ขันอาสา
“ผมฝากแทนไปจัดการแล้วล่ะ แต่ไม่รู้ไปทำอะไรอยู่ที่ไหน … สำหรับงานนี่ เดี๋ยวผมเรียกคุณอีกทีนะ”
หญิงสาวรับคำ แม้เดินกลับมายังโต๊ะทำงาน แต่ก็อดหันมองเจ้านายในห้องด้วยความเป็นห่วงไม่ได้ เริ่มมองหาของบนโต๊ะเธอที่น่าจะมีอะไรพอจะให้ภาสวินท์กินแก้หิวได้บ้าง สายตาเลื่อนไปหยุดที่ถุงสีขาว กอกานต์จึงรีบหยิบถุงมาเปิด แล้วหยิบของในนั้นออกมาทีละอย่าง
ช็อคโกแลตบาร์ มาร์ชแมลโล่ว์ เจลลี่หมี คุกกี้!
กอกานต์เบิกตากว้างเพราะไม่คิดว่าข้างในถุงจะอุดมไปด้วยขนมกินเล่นมากมายเต็มไปหมด นี่ภาสวัสร์มองเธอเป็นเด็กประถมเลยคิดจะเอาขนมมาหลอกล่องั้นหรือ!
นอกจากนั้นในถุงยังมีกระดาษแผ่นใหญ่ที่พับทบจนเหลือขนาดแค่ฝ่ามืออยู่ด้วย เธอสงสัยว่าในกระดาษแผ่นนั้นจะเต็มไปด้วย ‘ข้อมูลเชิงลึก’ ของภาสวินท์จริงหรือ นึกอยากหยิบออกมาเปิดอ่านทันที เพียงแต่ว่าเจ้าของข้อมูลในกระดาษเดินมาเรียกเธอเสียก่อน
“คุณแก้ม”
“คะ! คุณวินท์” กอกานต์รีบขย้ำปากถุงปิดเพราะกลัวเขาจะเห็นกระดาษที่ภาสวัสร์ให้เธอมา
ภาสวินท์หรี่ตามอง แม้จะเจอพิรุธในแววตาคนตากลมๆ หากก็ไม่ได้ซักถามอะไร ตอบคำถามที่หญิงสาวถามเมื่อครู่ด้วยน้ำเสียงแหบแห้ง
“ผมอนุมัติให้โปสเตอร์แผ่นนี้ผ่านนะ สั่งผลิตได้เลย คุณติดต่อฝ่ายจัดซื้อด้วยนะ ถ้ามีอะไรไม่เข้าใจก็ถามคุณแนทได้ … ทำได้ใช่ไหม”
“ได้ค่ะ แก้มจะไม่ให้มีอะไรผิดพลาดเลยค่ะ” กอกานต์ก็ตอบเสียงดังฟังชัด
“อืม นี่มีอะไรปิดบังผมหรือเปล่า หรือไปทำผิดอะไรมา หน้าคุณน่ะเหมือนเด็กทำผิดเลยรู้ตัวไหม” ภาสวินท์ยืนมองหญิงสาวไม่วางตา
“เปล่าค่ะ ไม่มีอะไรค่ะ ไม่ได้ทำผิดกฏบริษัทสักข้อเลยค่ะ” คนมีพิรุธสุดๆ ส่ายหน้าหวือ ก่อนชิงเปลี่ยนเรื่อง “จริงสิคะ แก้มมีขนมเพียบเลย คุณวินท์ทานรองท้องก่อนนะคะ” พร้อมยื่นคุกกี้ช็อคโกแลตชิพที่อยู่ในห่อให้เจ้านาย
“ขนมเยอะไปไหมครับเนี่ยคุณกอกานต์” ชายหนุ่มยิ้มด้วยแววตาเอ็นดู ปริมาณขนมบนโต๊ะมันเยอะจนน่าแซวจริงๆ พอเห็นแบบนี้ก็ทำให้นึกถึงพี่ชายขึ้นมา ภาสวัสร์ชอบกินขนมมาก โดยเฉพาะสารพัดช็อคโกแลตกับเจลลี่หมี พี่ชายจะดีใจทุกครั้งที่เขาซื้อขนมพวกนี้ไปฝาก
“แต่ก็ขอบคุณนะ ผมไม่ชอบกินคุกกี้ครับ นี่ผมยังไหวอยู่”
หากคนบอกว่ายังไหวกลับเสียหลักทำท่าจะล้มลงกับพื้น ด้วยความตกใจ กอกานต์รีบยื่นแขนสองข้างออกไปตามสัณชาติญาณ ซึ่งเมื่อร่างสูงล้มลงมาก็กลายเป็นเธอกอดเขาอย่างเต็มไม้เต็มมือ
กอกานต์แทบกลั้นหายใจกับไออุ่นและกลิ่นน้ำหอมของเขา นอกจากจะได้ยินเสียงหัวใจตัวเองดังก้องอยู่ในอก แล้วยังได้ถึงเสียงหัวใจคนตัวสูงแข่งกันส่งเสียงดัง ตอนนี้ไม่รู้เลยว่าหัวใจใครเต้นแรงกว่ากัน!
ส่วนคนหน้ามืดที่จับโต๊ะทำงานได้ทันไม่ล้มไปจูบพื้น แต่ตอนนี้เขากลับคิดว่าสู้ล้มไปจูบพื้นยังดีกว่า!
เขาหลับตากับการสัมผัสได้ถึงไออุ่นจากใบหน้าหญิงสาวที่ซบกับไหล่ ปลายคางสัมผัสกับกลุ่มผมนุ่มและหอมของคนตัวเล็ก รวมถึงกลิ่นน้ำหอมหวานๆ เหมือนลูกอม สิ่งพวกนี้กำลังสาปให้เขาเคลื่อนไหวร่างกายตัวเองไม่ได้ แถมร่างกายที่เมื่อครู่เหมือนจะหมดแรงยังตื่นตัวแปลกๆ อีกต่างหาก
ภาสวินท์ไม่รู้ว่าตัวเองยืนให้หญิงสาวกอดนานแค่ไหน จนได้ยินหญิงสาวบ่นออกมา
“หนักค่ะ เอ่อ คุณวินท์ยืนไหวไหมคะ”
คนตัวใหญ่ถึงได้สติรีบดึงตัวเองขึ้นยืน ใบหน้าคมร้อนเหมือนอยู่ข้างไฟกองใหญ่ เวลานี้แก้มของเขาคงแดงมากแน่ๆ ภาสวินท์รีบหันหน้ามองไปทางอื่น คิ้วหนาขมวดน้อยๆ เพราะไม่รู้จะทำหน้ายังไงดี
“ขอโทษนะ สงสัยผมจะไม่ไหวจริงๆ ขอบคุณสำหรับคุกกี้นะครับ”
ภาสวินท์หยิบคุกกี้จากโต๊ะไปหนึ่งห่อ สบตาเธอหนึ่งทีก่อนจะเดินกลับไปนั่งโต๊ะทำงาน ไม่นานแทนไทกับแม่บ้านก็ยกอาหารเที่ยงมาให้ถึงโต๊ะ โดยทั้งบ่ายวันนั้นภาสวินท์ไม่สามารถสลัดทั้งกลิ่นน้ำหอมและไออุ่นของกอกานต์ไปจากความรู้สึกเขาได้เลย
ไม่ใช่แค่ภาสวินท์หรอกที่ต้องซ่อนหน้าแดงจากอีกฝ่าย กอกานต์ก็ก้มหน้าลง ปิดบังแก้มแดงก่ำของเธอเช่นกัน
“เพราะตกใจแน่ๆ ยัยแก้ม เพราะตกใจก็เลยหายใจไม่ปกติ ไม่มีทางเป็นอะไรอย่างอื่นหรอก” กอกานต์เตือนตัวเองพลางเป่าลมออกจากปาก เพื่อให้หัวใจกลับไปเต้นในจังหวะปกติ
จบครึ่งแรกค่า
คนพี่ชอบทำให้โกรธ
ส่วนคนน้องชอบทำให้ใจเต้น!!
อิอิ
คุณแว่นใส - พี่วัสร์พูดจริงไหมไม่รู้ ต้องรอดูไปอีกสักพักนะค้า
คุณ kaelek - ถึงแก้มจะกลัวและเกรงใจพี่วินท์ แต่ว่าอย่าให้แก้มจับทางอยู่น้า พี่วินท์ก็พี่วินท์เถอะ อิอิ
พบกันใหม่ตอนหน้าค่า
ปิ่นนลิน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 25 ก.ค. 2560, 23:25:28 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 25 ก.ค. 2560, 23:30:16 น.
จำนวนการเข้าชม : 909
<< ตอนที่ 8 | ตอนที่ 9 - 100% >> |
แว่นใส 26 ก.ค. 2560, 06:17:03 น.
น่ารักทั้งพี่ทั้งน้องแหละ
น่ารักทั้งพี่ทั้งน้องแหละ
kaelek 26 ก.ค. 2560, 06:51:41 น.