ชุลมุนแผนร้าย ... ป่วนใจ
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ทำไมเธอจะต้องมารับรู้เรื่องปวดหัวพวกนี้ด้วย!
ทั้งคนเล่นตลกกับเธอ ผีก็ยังมาเอ็นดูหลอกเธออีก
กอกานต์อยากจะกรีดร้อง หลังจากรู้ว่าเธอถูกหลอกทั้งจากคน และผี!
ในความวุ่นวายที่เธอต้องช่วยตามหาความจริง
อยู่ๆ เธอก็รักคนที่ไม่ควรรักขึ้นมา
เธอจะตัดใจจากตัวยุ่งอย่างดี??
ทั้งคนเล่นตลกกับเธอ ผีก็ยังมาเอ็นดูหลอกเธออีก
กอกานต์อยากจะกรีดร้อง หลังจากรู้ว่าเธอถูกหลอกทั้งจากคน และผี!
ในความวุ่นวายที่เธอต้องช่วยตามหาความจริง
อยู่ๆ เธอก็รักคนที่ไม่ควรรักขึ้นมา
เธอจะตัดใจจากตัวยุ่งอย่างดี??
Tags: ผี ฆาตกรรม ปิ่นนลิน
ตอน: ตอนที่ 10-50%
ตอนที่ 10-50%
ในเช้าวันถัดมาที่มารดาเข้าโรงพยาบาลภาสวินท์มาเยี่ยมแต่เช้าและเขาก็ดีใจที่สีหน้ามารดาสดใสขึ้นกว่าวันแรก
หลังจากมารดารับประทานอาหารเช้าและยาเรียบร้อย ภาสวินท์ซึ่งนั่งอยู่ข้างเตียงก็ถามมารดาอย่างเป็นห่วง
“ทำไมอยู่ๆ แม่ถึงเครียดล่ะครับ แม่ก็รู้ว่าถ้าแม่เครียด แม่จะวูบ ถ้าคุณแก้มไม่ไปเจอคงแย่แน่ๆ” ภาสวินท์ขอบคุณกอกานต์ไปตั้งหลายครั้งผ่านโทรศัพท์ เขาห่วงมารดาจึงยังไม่ได้เข้าบริษัทไปจัดการงานตั้งแต่เมื่อวาน
อนงค์นางเลิกคิ้วขณะมองหน้าลูกชาย คิดทบทวนก็ร้องอ๋อออกมา
“แก้มนี่ใช่ผู้หญิงที่ช่วยแม่เมื่อวานใช่ไหม แม่ต้องขอบคุณหนูคนนั้นมากๆ เลยนะที่ช่วยแม่ ไม่อย่างนั้นก็คงแย่อย่างที่วินท์พูดจริงๆ แม่เห็นหน้าไม่ค่อยชัดแต่แม่ว่าหนูคนนั้นหน้าตาน่ารักดี”
“แม่ยังไม่ตอบผมเลยว่าแม่เครียดเรื่องอะไรครับ” ภาสวินท์ถามพลางจับมือมารดาเอาไว้ เขาจ้องตาเพื่อไม่ให้มารดาหลบเลี่ยงไปเรื่องอื่นอีก
“แม่ก็เครียดเรื่องทั่วไปแหละลูก เรื่องงาน เรื่องพี่ชายเรา”
“ถ้าเป็นเรื่องเดิมๆ แม่ไม่ต้องเครียดจนวูบอีกก็ได้นะครับ ผมขอร้องล่ะ” ภาสวินท์อ้อนวอน “งานที่ห้างฯ ก็ไม่มีอะไรน่าเครียดสักหน่อย ถึงงานจะเยอะแต่ก็ต้องผ่อนคลายบ้างนะครับ รับปากผมนะว่าจะไม่เครียดอีก”
“ได้จ้ะ วินท์ไปทำงานเถอะลูก แม่อยู่ได้” อนงค์นางไม่อยากให้ลูกต้องเสียงานเสียการ
“ครับ จริงสิ วันนี้ผมได้พนักงานใหม่อีกคนด้วยนะครับ” ภาสวินท์เล่าพลางสงสัยว่าแทนไทจะจัดการทุกอย่างได้เรียบร้อยหรือเปล่า
พนักงานคนใหม่ของแผนกออกแบบเป็นผู้หญิงตัวผอมสูงเธอชื่อ คิราริน เคยทำงานออกแบบสิ่งพิมพ์มาสองปี อายุมากกว่ากอกานต์สองปีด้วยเช่นกัน แทนไทเป็นคนพามานั่งโต๊ะซึ่งอยู่ข้างๆ กอกานต์ พร้อมทั้งแนะนำให้สองคนได้รู้จักกันด้วย
“มีคุณรินมานั่งด้วยแล้ว ต่อไปคุณแก้มจะได้ไม่เหงานะครับ” แทนไทรับคำสั่งจากภาสวินท์ว่าวันนี้จะมีพนักงานใหม่ จัดการให้เรียบร้อยก่อนภาสวินท์จะเข้าบริษัท
กอกานต์รู้สึกดีที่มีเพื่อนนั่งด้วยกันแล้ว บรรยากาศในห้องแผนกออกแบบก็สดใสมากขึ้นด้วยเช่นกัน
“โชคดีจังเลยนะครับที่คุณรินไม่เชื่อเรื่องผีและไม่กลัวผี ตรงกับที่เราต้องการเลย” แทนไทรายงานความเรียบร้อยเรื่องพนักงานใหม่ให้เจ้านายซึ่งนั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานฟัง
ภาสวินท์ไม่ได้ตอบอะไร เขาเหลือบมองสองสาว กอกานต์และคิรารินกำลังตรวจดูสีและความเรียบร้อยของตัวอย่างงานพิมพ์ที่จะใช้ประดับห้างในช่วงเทศกาลวันแม่ ดูๆ แล้วเหมือนสองสาวจะเข้ากันได้ดี กอกานต์ร่าเริงส่วนคิรารินก็ดูเป็นผู้หญิงใจดี ทำงานคล่องแคล่ว สมแล้วที่หนึ่งฟ้าแนะนำคนนี้มาให้
เมื่อมีเพื่อนร่วมงานแล้ว และให้แทนไทหัดพากอกานต์ไปร่วมสังคมกับพนักงานคนอื่นๆ แล้ว กอกานต์คงไม่คิดจะบินจากเขาไป
…ไม่สิ ภาสวินท์เหลือเรื่องค้างคาอยู่ …เรื่องผีนั่น เขาควรจัดการเรื่องนี้อย่างไรดีนะ?
“พี่รินไปกินข้าวเที่ยงกันค่ะ” กอกานต์หันไปชวนคิรารินอย่างร่าเริง หากคิรารินต้องขอโทษขอโพยน้องในทีมเป็นการใหญ่
“ขอโทษนะน้องแก้ม มีคนมัดมือชกนัดกินข้าวเที่ยงไว้แล้วด้วยสิ ไว้พรุ่งนี้นะ พี่ขอโทษจริงๆ นะคะ” คิรารินบอกอย่างรู้สึกผิด วันแรกควรไปกินข้าวกับเพื่อนร่วมงานใหม่ แต่คนที่แนะนำงานให้ก็เอาแต่ใจเหลือเกิน!
กอกานต์เข้าใจจึงไม่โกรธอีกฝ่ายแต่อย่างใด เธอตั้งใจจะลงไปหาขนมปังกินจากในห้างวัสวาที่อยู่ติดกัน และเธอก็เจอคนทำตัวลับๆ ล่อๆ เดินตัดหน้าเธอไป
ผู้ชายผมสั้นสวมหมวกแก๊ป แจ็คเก็ตสีน้ำตาลอ่อน และกางเกงยีนส์ แม้วันนี้จะพรางหน้าด้วยแว่นสายตา แต่ก็หลอกหญิงสาวไม่ได้ เธอจำภาสวัสร์ได้ขนาดมองผ่านชุดพวกนั้นก็รู้ว่าเป็นใคร!
กอกานต์เห็นภาสวัสร์ก็นึกถึงเรื่องเมื่อวันก่อน เขาเล่าเรื่องผีคอหักกับผีลุงที่วัสวากรุ๊ปจบ
‘แก้มเชื่อคุณนะคะ แก้มเคยเห็นผีคอหักค่ะ’
ภาสวัสร์นิ่งไปนานก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา ‘เอาจริงอะ นี่เชื่อผมจริงเหรอ’
‘หมายความว่ายังไงคะ’ กอกานต์สับสนกับปฏิกริยาชายหนุ่ม เมื่อครู่เขาพูดด้วยสีหน้าจริงจัง แต่มาตอนนี้กลับหัวเราะเหมือนเธอทำอะไรผิด หรืออะไรน่าขำ
‘บอกแล้วไงว่าถ้าพูดว่าเห็นผี จะต้องโดนฉีดยา ถ้าไม่อยากกลายเป็นคนสติไม่ดีก็อย่าพูดไปเรื่อยนะ นี่คือคำเตือน’
แล้วเขาก็ทิ้งเธอไว้กับความงุนงง ก่อนจะหายตัวไปหลายวัน เธอเองที่เป็นฝ่ายมองหาว่าจะเจอเขาอีกหรือไม่ นี่เป็นโอกาสที่จะจับตัวมาถามอีกครั้งเขาพูดจริงหรือแกล้งหลอกให้เธอกลัวกันแน่
ไวเท่าความคิด กอกานต์พุ่งตรงไปคว้าแขนหนาของภาสวัสร์ รวดเร็วปุบปับเสียจนคนถูกจับตัวสะดุ้งโหยง ก่อนจะเห็นเขาถอนหายใจเมื่อหันมามองหน้าเธอ
“นี่ลูกอม คุณทำผมหัวใจวายตายได้นะ” เขาตำหนิหญิงสาวที่จ้องเขาตาเขม็ง
“เรามีเรื่องต้องคุยกันนะคะ” กอกานต์จับแขนชายหนุ่มแน่น ด้วยกลัวจะหนีไปดื้อๆ อีก
“คุยเรื่องอะไร เรื่องสนุกหรือเปล่า ถ้าเรื่องน่ากลัวๆ ไม่เอานะ เมื่อคืนก็ฝันร้ายทั้งคืน” ภาสวัสร์เล่าความจริง ดูเหมือนคนฟังจะไม่สนใจ เธอคงคิดว่าเขาพูดเล่นเรื่อยเปื่อย
คนตัวสูงระบายลมหายใจออกมา ก่อนจะดึงมือเล็กจากต้นแขนมาวางที่มือเขาแทน
“อย่าคุยตรงนี้เลย ไปหาที่ที่คนไม่พลุกพล่านคุยกันดีกว่า คุณต้องกินข้าวกลางวันใช่ไหม งั้นเราไปหาร้านนั่งคุยกันเถอะ”
“ก็ได้ค่ะ แต่คุณห้ามหนีไปดื้อๆ อีกนะคะ แก้มไม่ปล่อยคุณไปแน่ๆ คุณภาสวัสร์! ” กอกานต์กระชับมืออีกฝ่ายแน่น ด้วยกลัวอีกฝ่ายจะบินหนีไปอีกรอบ
หญิงสาวเลือกร้านอาหารฟิวชั่นง่ายๆ เธอสั่งสปาเก๊ตตี้ผัดซอส ขณะที่ชายหนุ่มเลือกแค่ช็อคโกแลตปั่นแก้วเดียว
“คุณภาสวัสร์โกหกเรื่องผีสาวคอหักหรือคะ” กอกานต์ถามหน้าตาจริงจังมาก
“คุณจะรู้ไปทำไม ไม่กลัวหรือไง คิดว่าเป็นแค่ข่าวลือจะดีกว่าไหม” ภาสวัสร์แนะนำให้กอกานต์เลิกคิดเลิกถาม
“แล้วอย่าเรียกชื่อผมเต็มยศขนาดนั้น ไม่อย่างนั้นทั้งผม คุณ และคนอื่นจะเดือดร้อน”
ภาสวัสร์ทำท่าลุกลี้ลุกลน กลัวน้องชายจะเดินผ่านมาเห็นแล้วจำเขาได้
“งั้น...จะให้แก้มเรียกคุณว่าอะไรคะ” กอกานต์ไม่เข้าใจว่าทำไมอีกฝ่ายจะต้องทำตัวลึกลับขนาดนี้
“เรียกว่า …พี่หมีละกัน” ภาสวัสร์นึกไม่ออกจนหันไปเห็นตุ๊กตาหมีจากร้านขายของฝั่งตรงข้าม จัดการเรื่องชื่อตัวเองได้ ภาสวัสร์ก็ยังแนะนำหญิงสาวเหมือนเมื่อครู่
“ลืมเรื่องผีสาวคอหักนั่นไปเถอะ ผมว่าคุณคงไปได้ยินใครเล่า แล้วคุณหลอนไปเองหรือเปล่า ผมจะเตือนให้อีกเรื่องนึงนะว่าน้องชายผมไม่ชอบได้ยินเรื่องผี ที่คนเก่าๆ โดนไล่ออกไปหมดก็เพราะเอาแต่พูดและเล่าว่าที่ตึกนั่นมีผี ทำงานดึกๆ ก็ได้ยินเสียงเพลงตามทางเดินทั้งที่ไม่มีใครเปิดเครื่องเล่นเพลงอะไร ถ้าคุณยังเอาแต่คิดและถามคนอื่นเรื่องผี คุณจะเดือดร้อนนะ ลูกอม”
“คุณภาสสะ …เอ่อ คุณพี่หมี” กอกานต์ถึงกับกินสปาเก็ตตี้แสนอร่อยไม่ลงเลยทีเดียว “นอกจากคุณแล้ว ก็ไม่มีใครเคยเล่าให้แก้มฟังเลยค่ะ แก้มเพิ่งรู้ด้วยว่าพนักงานคนเก่าๆ ออกเพราะเหตุผลอะไร”
ตายแล้ว …ภาสวัสร์โอดในใจ นี่เขาพูดมากไปสินะ!
“ที่นี่ … มีผีจริงๆ สินะคะ ใช่ไหมคะ” กอกานต์วางช้อนส้อมลง เป็นฝ่ายยื่นมือไปเขย่ามือชายหนุ่มที่นิ่งไปเหมือนคิดอะไรอยู่ เธอไม่ได้ตาฝาดไปเองใช่ไหม?
“เอ่อ” ภาสวัสร์อึกอักๆ ไม่ยอมตอบคำถามสักที และก็ถูกขัดจังหวะจนได้
“อ้าวแก้ม มากินข้าวร้านนี้เหมือนพี่เลย” คิรารินนั่นเอง ตอนนี้เพื่อนร่วมงานยืนอยู่เพียงลำพัง “เจ้านายเก่าพี่กำลังไปจ่ายเงินน่ะะ” คิรารินพยักเพยิดไปยังเคาน์เตอร์หน้าร้าน กอกานต์มองตามเห็นผู้ชายสวมเสื้อเชิ้ตหน้าตาดียืนมองมาทางเธอสองคน ก็ตอบแค่เพียง
“ค่ะ” แล้วส่งยิ้มให้
“งั้นเจอกันที่ออฟฟิศนะ” คิรารินพูดจบ แม้เห็นหนุ่มที่กอกานต์นั่งด้วยเอาแต่ก้มหน้าก้มตาดูดช็อคโกแลตปั่นในแก้ว ไม่ยอมมองหน้าใครเลยก็ไม่ได้ถามอะไร เดินออกจากร้านไปพร้อมชายหนุ่มที่มาด้วยกัน
“นั่นใครน่ะ” ภาสวัสร์เงยหน้ามาถาม เมื่อผู้หญิงแปลกหน้าเดินจากไปแล้ว
“พี่รินค่ะ คุณวินท์เพิ่งรับเข้ามาทำงานใหม่วันนี้ รู้สึกจะมากินข้าวกับเจ้านายเก่านะคะ แก้มได้ยินว่าเจ้านายเก่าเป็นเพื่อนคุณวินท์ด้วย ชื่อ คุณหนึ่งฟ้า ค่ะ”
“ว่าไงนะ! ” ภาสวัสร์ตาโตตกใจกับชื่อหนึ่งฟ้า หนึ่งฟ้าเป็นเพื่อนสนิทของน้องชายที่รู้จักและจำหน้าเขาได้แน่นอน …นี่หนึ่งฟ้าจะเห็นหน้าเขาหรือเปล่า?
จบ ตอนที่ 10-50%
คุณ kaelek - นั่นสิคะ พี่วินท์หาเพื่อนใหม่ให้ได้แล้วนะเนี่ย จะกลัวผี หนีไปหรือเปล่า
คุณ แว่นใส - ตาพี่วัสร์พลาดเล่าอีกแล้วววว
พบกันใหม่ตอนหน้าค่า
ในเช้าวันถัดมาที่มารดาเข้าโรงพยาบาลภาสวินท์มาเยี่ยมแต่เช้าและเขาก็ดีใจที่สีหน้ามารดาสดใสขึ้นกว่าวันแรก
หลังจากมารดารับประทานอาหารเช้าและยาเรียบร้อย ภาสวินท์ซึ่งนั่งอยู่ข้างเตียงก็ถามมารดาอย่างเป็นห่วง
“ทำไมอยู่ๆ แม่ถึงเครียดล่ะครับ แม่ก็รู้ว่าถ้าแม่เครียด แม่จะวูบ ถ้าคุณแก้มไม่ไปเจอคงแย่แน่ๆ” ภาสวินท์ขอบคุณกอกานต์ไปตั้งหลายครั้งผ่านโทรศัพท์ เขาห่วงมารดาจึงยังไม่ได้เข้าบริษัทไปจัดการงานตั้งแต่เมื่อวาน
อนงค์นางเลิกคิ้วขณะมองหน้าลูกชาย คิดทบทวนก็ร้องอ๋อออกมา
“แก้มนี่ใช่ผู้หญิงที่ช่วยแม่เมื่อวานใช่ไหม แม่ต้องขอบคุณหนูคนนั้นมากๆ เลยนะที่ช่วยแม่ ไม่อย่างนั้นก็คงแย่อย่างที่วินท์พูดจริงๆ แม่เห็นหน้าไม่ค่อยชัดแต่แม่ว่าหนูคนนั้นหน้าตาน่ารักดี”
“แม่ยังไม่ตอบผมเลยว่าแม่เครียดเรื่องอะไรครับ” ภาสวินท์ถามพลางจับมือมารดาเอาไว้ เขาจ้องตาเพื่อไม่ให้มารดาหลบเลี่ยงไปเรื่องอื่นอีก
“แม่ก็เครียดเรื่องทั่วไปแหละลูก เรื่องงาน เรื่องพี่ชายเรา”
“ถ้าเป็นเรื่องเดิมๆ แม่ไม่ต้องเครียดจนวูบอีกก็ได้นะครับ ผมขอร้องล่ะ” ภาสวินท์อ้อนวอน “งานที่ห้างฯ ก็ไม่มีอะไรน่าเครียดสักหน่อย ถึงงานจะเยอะแต่ก็ต้องผ่อนคลายบ้างนะครับ รับปากผมนะว่าจะไม่เครียดอีก”
“ได้จ้ะ วินท์ไปทำงานเถอะลูก แม่อยู่ได้” อนงค์นางไม่อยากให้ลูกต้องเสียงานเสียการ
“ครับ จริงสิ วันนี้ผมได้พนักงานใหม่อีกคนด้วยนะครับ” ภาสวินท์เล่าพลางสงสัยว่าแทนไทจะจัดการทุกอย่างได้เรียบร้อยหรือเปล่า
พนักงานคนใหม่ของแผนกออกแบบเป็นผู้หญิงตัวผอมสูงเธอชื่อ คิราริน เคยทำงานออกแบบสิ่งพิมพ์มาสองปี อายุมากกว่ากอกานต์สองปีด้วยเช่นกัน แทนไทเป็นคนพามานั่งโต๊ะซึ่งอยู่ข้างๆ กอกานต์ พร้อมทั้งแนะนำให้สองคนได้รู้จักกันด้วย
“มีคุณรินมานั่งด้วยแล้ว ต่อไปคุณแก้มจะได้ไม่เหงานะครับ” แทนไทรับคำสั่งจากภาสวินท์ว่าวันนี้จะมีพนักงานใหม่ จัดการให้เรียบร้อยก่อนภาสวินท์จะเข้าบริษัท
กอกานต์รู้สึกดีที่มีเพื่อนนั่งด้วยกันแล้ว บรรยากาศในห้องแผนกออกแบบก็สดใสมากขึ้นด้วยเช่นกัน
“โชคดีจังเลยนะครับที่คุณรินไม่เชื่อเรื่องผีและไม่กลัวผี ตรงกับที่เราต้องการเลย” แทนไทรายงานความเรียบร้อยเรื่องพนักงานใหม่ให้เจ้านายซึ่งนั่งอยู่หลังโต๊ะทำงานฟัง
ภาสวินท์ไม่ได้ตอบอะไร เขาเหลือบมองสองสาว กอกานต์และคิรารินกำลังตรวจดูสีและความเรียบร้อยของตัวอย่างงานพิมพ์ที่จะใช้ประดับห้างในช่วงเทศกาลวันแม่ ดูๆ แล้วเหมือนสองสาวจะเข้ากันได้ดี กอกานต์ร่าเริงส่วนคิรารินก็ดูเป็นผู้หญิงใจดี ทำงานคล่องแคล่ว สมแล้วที่หนึ่งฟ้าแนะนำคนนี้มาให้
เมื่อมีเพื่อนร่วมงานแล้ว และให้แทนไทหัดพากอกานต์ไปร่วมสังคมกับพนักงานคนอื่นๆ แล้ว กอกานต์คงไม่คิดจะบินจากเขาไป
…ไม่สิ ภาสวินท์เหลือเรื่องค้างคาอยู่ …เรื่องผีนั่น เขาควรจัดการเรื่องนี้อย่างไรดีนะ?
“พี่รินไปกินข้าวเที่ยงกันค่ะ” กอกานต์หันไปชวนคิรารินอย่างร่าเริง หากคิรารินต้องขอโทษขอโพยน้องในทีมเป็นการใหญ่
“ขอโทษนะน้องแก้ม มีคนมัดมือชกนัดกินข้าวเที่ยงไว้แล้วด้วยสิ ไว้พรุ่งนี้นะ พี่ขอโทษจริงๆ นะคะ” คิรารินบอกอย่างรู้สึกผิด วันแรกควรไปกินข้าวกับเพื่อนร่วมงานใหม่ แต่คนที่แนะนำงานให้ก็เอาแต่ใจเหลือเกิน!
กอกานต์เข้าใจจึงไม่โกรธอีกฝ่ายแต่อย่างใด เธอตั้งใจจะลงไปหาขนมปังกินจากในห้างวัสวาที่อยู่ติดกัน และเธอก็เจอคนทำตัวลับๆ ล่อๆ เดินตัดหน้าเธอไป
ผู้ชายผมสั้นสวมหมวกแก๊ป แจ็คเก็ตสีน้ำตาลอ่อน และกางเกงยีนส์ แม้วันนี้จะพรางหน้าด้วยแว่นสายตา แต่ก็หลอกหญิงสาวไม่ได้ เธอจำภาสวัสร์ได้ขนาดมองผ่านชุดพวกนั้นก็รู้ว่าเป็นใคร!
กอกานต์เห็นภาสวัสร์ก็นึกถึงเรื่องเมื่อวันก่อน เขาเล่าเรื่องผีคอหักกับผีลุงที่วัสวากรุ๊ปจบ
‘แก้มเชื่อคุณนะคะ แก้มเคยเห็นผีคอหักค่ะ’
ภาสวัสร์นิ่งไปนานก่อนจะระเบิดเสียงหัวเราะออกมา ‘เอาจริงอะ นี่เชื่อผมจริงเหรอ’
‘หมายความว่ายังไงคะ’ กอกานต์สับสนกับปฏิกริยาชายหนุ่ม เมื่อครู่เขาพูดด้วยสีหน้าจริงจัง แต่มาตอนนี้กลับหัวเราะเหมือนเธอทำอะไรผิด หรืออะไรน่าขำ
‘บอกแล้วไงว่าถ้าพูดว่าเห็นผี จะต้องโดนฉีดยา ถ้าไม่อยากกลายเป็นคนสติไม่ดีก็อย่าพูดไปเรื่อยนะ นี่คือคำเตือน’
แล้วเขาก็ทิ้งเธอไว้กับความงุนงง ก่อนจะหายตัวไปหลายวัน เธอเองที่เป็นฝ่ายมองหาว่าจะเจอเขาอีกหรือไม่ นี่เป็นโอกาสที่จะจับตัวมาถามอีกครั้งเขาพูดจริงหรือแกล้งหลอกให้เธอกลัวกันแน่
ไวเท่าความคิด กอกานต์พุ่งตรงไปคว้าแขนหนาของภาสวัสร์ รวดเร็วปุบปับเสียจนคนถูกจับตัวสะดุ้งโหยง ก่อนจะเห็นเขาถอนหายใจเมื่อหันมามองหน้าเธอ
“นี่ลูกอม คุณทำผมหัวใจวายตายได้นะ” เขาตำหนิหญิงสาวที่จ้องเขาตาเขม็ง
“เรามีเรื่องต้องคุยกันนะคะ” กอกานต์จับแขนชายหนุ่มแน่น ด้วยกลัวจะหนีไปดื้อๆ อีก
“คุยเรื่องอะไร เรื่องสนุกหรือเปล่า ถ้าเรื่องน่ากลัวๆ ไม่เอานะ เมื่อคืนก็ฝันร้ายทั้งคืน” ภาสวัสร์เล่าความจริง ดูเหมือนคนฟังจะไม่สนใจ เธอคงคิดว่าเขาพูดเล่นเรื่อยเปื่อย
คนตัวสูงระบายลมหายใจออกมา ก่อนจะดึงมือเล็กจากต้นแขนมาวางที่มือเขาแทน
“อย่าคุยตรงนี้เลย ไปหาที่ที่คนไม่พลุกพล่านคุยกันดีกว่า คุณต้องกินข้าวกลางวันใช่ไหม งั้นเราไปหาร้านนั่งคุยกันเถอะ”
“ก็ได้ค่ะ แต่คุณห้ามหนีไปดื้อๆ อีกนะคะ แก้มไม่ปล่อยคุณไปแน่ๆ คุณภาสวัสร์! ” กอกานต์กระชับมืออีกฝ่ายแน่น ด้วยกลัวอีกฝ่ายจะบินหนีไปอีกรอบ
หญิงสาวเลือกร้านอาหารฟิวชั่นง่ายๆ เธอสั่งสปาเก๊ตตี้ผัดซอส ขณะที่ชายหนุ่มเลือกแค่ช็อคโกแลตปั่นแก้วเดียว
“คุณภาสวัสร์โกหกเรื่องผีสาวคอหักหรือคะ” กอกานต์ถามหน้าตาจริงจังมาก
“คุณจะรู้ไปทำไม ไม่กลัวหรือไง คิดว่าเป็นแค่ข่าวลือจะดีกว่าไหม” ภาสวัสร์แนะนำให้กอกานต์เลิกคิดเลิกถาม
“แล้วอย่าเรียกชื่อผมเต็มยศขนาดนั้น ไม่อย่างนั้นทั้งผม คุณ และคนอื่นจะเดือดร้อน”
ภาสวัสร์ทำท่าลุกลี้ลุกลน กลัวน้องชายจะเดินผ่านมาเห็นแล้วจำเขาได้
“งั้น...จะให้แก้มเรียกคุณว่าอะไรคะ” กอกานต์ไม่เข้าใจว่าทำไมอีกฝ่ายจะต้องทำตัวลึกลับขนาดนี้
“เรียกว่า …พี่หมีละกัน” ภาสวัสร์นึกไม่ออกจนหันไปเห็นตุ๊กตาหมีจากร้านขายของฝั่งตรงข้าม จัดการเรื่องชื่อตัวเองได้ ภาสวัสร์ก็ยังแนะนำหญิงสาวเหมือนเมื่อครู่
“ลืมเรื่องผีสาวคอหักนั่นไปเถอะ ผมว่าคุณคงไปได้ยินใครเล่า แล้วคุณหลอนไปเองหรือเปล่า ผมจะเตือนให้อีกเรื่องนึงนะว่าน้องชายผมไม่ชอบได้ยินเรื่องผี ที่คนเก่าๆ โดนไล่ออกไปหมดก็เพราะเอาแต่พูดและเล่าว่าที่ตึกนั่นมีผี ทำงานดึกๆ ก็ได้ยินเสียงเพลงตามทางเดินทั้งที่ไม่มีใครเปิดเครื่องเล่นเพลงอะไร ถ้าคุณยังเอาแต่คิดและถามคนอื่นเรื่องผี คุณจะเดือดร้อนนะ ลูกอม”
“คุณภาสสะ …เอ่อ คุณพี่หมี” กอกานต์ถึงกับกินสปาเก็ตตี้แสนอร่อยไม่ลงเลยทีเดียว “นอกจากคุณแล้ว ก็ไม่มีใครเคยเล่าให้แก้มฟังเลยค่ะ แก้มเพิ่งรู้ด้วยว่าพนักงานคนเก่าๆ ออกเพราะเหตุผลอะไร”
ตายแล้ว …ภาสวัสร์โอดในใจ นี่เขาพูดมากไปสินะ!
“ที่นี่ … มีผีจริงๆ สินะคะ ใช่ไหมคะ” กอกานต์วางช้อนส้อมลง เป็นฝ่ายยื่นมือไปเขย่ามือชายหนุ่มที่นิ่งไปเหมือนคิดอะไรอยู่ เธอไม่ได้ตาฝาดไปเองใช่ไหม?
“เอ่อ” ภาสวัสร์อึกอักๆ ไม่ยอมตอบคำถามสักที และก็ถูกขัดจังหวะจนได้
“อ้าวแก้ม มากินข้าวร้านนี้เหมือนพี่เลย” คิรารินนั่นเอง ตอนนี้เพื่อนร่วมงานยืนอยู่เพียงลำพัง “เจ้านายเก่าพี่กำลังไปจ่ายเงินน่ะะ” คิรารินพยักเพยิดไปยังเคาน์เตอร์หน้าร้าน กอกานต์มองตามเห็นผู้ชายสวมเสื้อเชิ้ตหน้าตาดียืนมองมาทางเธอสองคน ก็ตอบแค่เพียง
“ค่ะ” แล้วส่งยิ้มให้
“งั้นเจอกันที่ออฟฟิศนะ” คิรารินพูดจบ แม้เห็นหนุ่มที่กอกานต์นั่งด้วยเอาแต่ก้มหน้าก้มตาดูดช็อคโกแลตปั่นในแก้ว ไม่ยอมมองหน้าใครเลยก็ไม่ได้ถามอะไร เดินออกจากร้านไปพร้อมชายหนุ่มที่มาด้วยกัน
“นั่นใครน่ะ” ภาสวัสร์เงยหน้ามาถาม เมื่อผู้หญิงแปลกหน้าเดินจากไปแล้ว
“พี่รินค่ะ คุณวินท์เพิ่งรับเข้ามาทำงานใหม่วันนี้ รู้สึกจะมากินข้าวกับเจ้านายเก่านะคะ แก้มได้ยินว่าเจ้านายเก่าเป็นเพื่อนคุณวินท์ด้วย ชื่อ คุณหนึ่งฟ้า ค่ะ”
“ว่าไงนะ! ” ภาสวัสร์ตาโตตกใจกับชื่อหนึ่งฟ้า หนึ่งฟ้าเป็นเพื่อนสนิทของน้องชายที่รู้จักและจำหน้าเขาได้แน่นอน …นี่หนึ่งฟ้าจะเห็นหน้าเขาหรือเปล่า?
จบ ตอนที่ 10-50%
คุณ kaelek - นั่นสิคะ พี่วินท์หาเพื่อนใหม่ให้ได้แล้วนะเนี่ย จะกลัวผี หนีไปหรือเปล่า
คุณ แว่นใส - ตาพี่วัสร์พลาดเล่าอีกแล้วววว
พบกันใหม่ตอนหน้าค่า
ปิ่นนลิน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 28 ก.ค. 2560, 16:14:42 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 28 ก.ค. 2560, 16:21:54 น.
จำนวนการเข้าชม : 1024
<< ตอนที่ 9 - 100% | ตอนที่ 10 - 75% >> |
แว่นใส 28 ก.ค. 2560, 23:22:55 น.
อ้าว จะซวยไหมนะ
อ้าว จะซวยไหมนะ
kaelek 29 ก.ค. 2560, 00:11:12 น.
โอ้ววว พี่วินท์สายเปนี่นารับเพื่อนมาให้ด้วย ..พี่วัสร์หนีเที่ยวตลอดๆ ความลับเปิดแน่ หึหึ
โอ้ววว พี่วินท์สายเปนี่นารับเพื่อนมาให้ด้วย ..พี่วัสร์หนีเที่ยวตลอดๆ ความลับเปิดแน่ หึหึ