ชุลมุนแผนร้าย ... ป่วนใจ
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ทำไมเธอจะต้องมารับรู้เรื่องปวดหัวพวกนี้ด้วย!
ทั้งคนเล่นตลกกับเธอ ผีก็ยังมาเอ็นดูหลอกเธออีก

กอกานต์อยากจะกรีดร้อง หลังจากรู้ว่าเธอถูกหลอกทั้งจากคน และผี!

ในความวุ่นวายที่เธอต้องช่วยตามหาความจริง
อยู่ๆ เธอก็รักคนที่ไม่ควรรักขึ้นมา

เธอจะตัดใจจากตัวยุ่งอย่างดี??
Tags: ผี ฆาตกรรม ปิ่นนลิน

ตอน: ตอนที่ 10-100%

ตอนที่ 10-100%


“เอ่อ ให้รินช่วยอีกแรงไหมคะพี่วินท์” คิรารินเองก็รู้สึกแปลกๆ จนไม่กล้ากลับบ้านก่อน ทั้งที่สะพายกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว

แต่ภาสวินท์ส่ายหน้าไปมา “ไม่ต้องครับ น้องรินกลับก่อนเลย … งานแค่นี้ ทำได้ใช่ไหมคุณแก้ม” ภาสวินท์ถามกอกานต์เสียงเข้ม

“แก้มทำได้ค่ะ” กอกานต์ตอบด้วยอาการงุนงง นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย?

ภาสวินท์เดินกลับไปโต๊ะทำงาน พอดีที่แทนไทเดินเอาเอกสารมาให้เซ็น หน้าตาเหมือนไม่พอใจทำให้คนสนิทถามอย่างสงสัย

“คุณวินท์มีอะไรหรือเปล่าครับ หรือคุณนิกกี้ออกฤทธิ์ใส่ครับ” คาดเดาจากเหตุการณ์ก่อนหน้า ชนิณิภางอแง โวยวายใส่คนอื่นไปทั่วทั้งๆ ที่ล้มเองแท้ๆ ทุกคนเดาว่าเป็นเพราะส้นสูงทรยศเจ้าของ!

“เปล่า นายเองถ้าไม่มีอะไรก็กลับไปก่อนได้เลย ผมยังไม่กลับ บอกคนขับรถให้กลับไปบ้านก่อนเลย ไม่ต้องรอผม” ภาสวินท์ยังพาลตอบแทนไทเสียงดุไปด้วย

“ครับ งั้นผมกลับก่อนนะครับ” แทนไทตอบรับด้วยอาการคิ้วขมวด ถ้าไม่ใช่หงุดหงิดคู่หมั้นเอาแต่ใจหรือเรื่องงานมีปัญหา ซึ่งแทนไทไม่เห็นว่างานชิ้นไหนมีอะไรผิด แล้วเจ้านายหงุดหงิดเรื่องอะไรหว่า แต่แทนไทรู้ดีว่าไม่ควรซักไซร้มาก ด้วยกลัวโดนลูกหลงเลยรีบหนีกลับบ้านตามคำสั่งเจ้านาย

เสียงพิมพ์คีย์บอร์ดและคลิกเมาส์ภายในแผนกการตลาดเบาลง พร้อมกับความมืดเริ่มแผ่ขยายเต็มท้องฟ้าด้านนอก ไม่นานก็มืดไปทั้งฟ้า และเหลือเพียงเสียงคลิกเมาท์จากห้องแผนกออกแบบกับห้องเจ้านายเท่านั้น

กอกานต์นั่งไล่หาไฟล์งานทีละโฟลเดอร์ เธอมองดูแล้วกว่าจะเสร็จงานก็คงดึกแน่นอนเลยรีบโทรศัพท์บอกป้าแพรวก่อนว่าจะกลับดึก พอเธอวางสายเสร็จ เจ้านายที่ไม่รู้ว่าไปกินรังแตนที่ไหนมาก็เดินถือแฟ้มจำนวนหนึ่งพร้อมลากเก้าอี้มานั่งข้างๆ เธอ

หญิงสาวมองเขานิ่งๆ ขณะเจ้านายนั่งไขว่ห้างเปิดแฟ้มอ่านเอกสาร พอรู้ตัวว่าถูกจ้อง เขาก็เงยหน้ามองเธอตอบ

“หาไฟล์ต่อไปสิ” ภาสวินท์พยักเพยิดให้เจ้าของตากลมๆ ทำงานต่อ

“ค่ะ” กอกานต์ถอนหายใจ แล้วนั่งหาสิ่งที่เจ้านายต้องการต่อ

โดยภาสวินท์กลับเป็นฝ่ายถอนสายตาจากกอกานต์ไม่ได้ ในที่สุดเขาหลุดถามสิ่งกวนใจออกมา

“มีแฟนแล้วหรือครับ”

“คะ?” กอกานต์ทำตาโตขณะสบตาคนถาม “แก้มหรือคะ แก้มยังไม่มีแฟนสักหน่อย พี่รินเข้าใจผิดค่ะ”

“อ้าว แล้วที่รินแซวคุณเมื่อกี้ล่ะ ที่ว่าไปนั่งจับมือจับไม้กัน” ภาสวินท์ถามกลับ เขาได้ยินเต็มสองหูเลยนะ!

“เรื่องนั้น … เรื่องเข้าใจผิดค่ะ ไม่ใช่จับมืออะไรแบบนั้นหรอกค่ะ” กอกานต์ยืนกรานหนักแน่น

ภาสวินท์ไม่รู้ว่าจะสบายใจที่หญิงสาวยังโสด หรือจะกังวลที่หญิงสาวไม่รู้จักระมัดระวังตัวดี กอกานต์ดูเป็นผู้หญิงเรียบร้อยและรักษาระยะห่างกับเพศตรงข้าม แต่บางครั้งเธอก็เปิดโอกาสแบบไม่รู้ตัว โดยเฉพาะการมองด้วยตาใสแป๋ว เธอคงไม่รู้ว่ามันคือสเน่ห์ที่ชวนให้หลงรักได้ไม่ยากเลย

เขาเอง ถ้าไม่ติดที่มีคู่หมั้นแล้ว และเป็นเจ้านายของกอกานต์ เขาก็คงหลงรักเธอไปแล้ว …

“ถ้าไม่ใช่แฟน หรือไม่ได้คิดอะไรก็อย่าไปนั่งจับมือผู้ชายสิ”

แม้เธอไม่บ่นหรือถามออกมา ภาสวัสร์อ่านจากสายตากอกานต์ ก็เห็นความสงสัยในดวงตาคู่กลมว่าทำไมเขาถึงมาเจ้ากี้เจ้าการเรื่องแบบนี้

เขาจึงทำเป็นให้เหตุผลว่า “ผมแค่เตือนเพราะเป็นห่วง เราน่ะเป็นผู้หญิงนะ คนอื่นเข้าใจผิด เดี๋ยวคนมาชอบก็ไม่กล้าจีบกันพอดี”

“งั้นแก้มปล่อยให้คนเข้าใจผิดดีกว่า ถ้าถูกเข้าใจผิดแล้วไม่มีคนมาจีบ”

กอกานต์เห็นเป็นเรื่องดีเสียอีก ตั้งแต่สมัยเรียนแล้ว เธอรู้สึกอึดอัดทุกทีเวลาโดนพวกผู้ชายเข้ามาขายขนมจีบ ยิ่งคนไม่รู้จักกันยิ่งไม่ไว้ใจ กับเพื่อนผู้ชายก็ไม่ได้ชอบใครสักคน แถมช่วงเรียน นอกจากตั้งใจเรียนให้ได้เกรดดีๆ รับทุนการศึกษา เธอก็เน้นทำงานพิเศษหาเงินจนไม่มีเวลาให้ผู้ชายเข้ามาจีบ

ถ้าเธอชอบใคร เธอขอเป็นฝ่ายจีบเขาเองดีกว่า!

“ทำไมล่ะ” ภาสวินท์แปลกใจ ก่อนจะถามด้วยความหวั่นใจ “หรือว่าคุณเป็นเลสเบี้ยน ไม่ชอบผู้ชาย” กลัวว่าเธอตอบว่าใช่

“เปล่าค่ะ แก้มไม่ได้ชอบผู้หญิง แต่แก้มรำคาญเวลาโดนจีบค่ะ ต้องมาคอยรับโทรศัพท์ หรือฟังคำหวานเลี่ยน มันชวนขนลุก” เธอให้เหตุผล

“นั่นเพราะว่าคุณยังไม่เจอคนที่ใช่น่ะสิ ถ้าเกิดว่าคุณชอบใครสักคน คุณจะอยากเห็นเขาทั้งวัน อยากได้ยินเสียงเขาตลอดเวลา คำพูดหวานๆ ก็ทำให้โลกของคุณเป็นสีชมพู ไม่เลี่ยน ไม่ขนลุกแน่นอน” ภาสวินท์ยิ้มหลังอธิบายจบ เขาเปลี่ยนท่านั่งจากพิงพนักเก้าอี้มาเป็นเท้าคางกับโต๊ะทำงานหญิงสาว

“แล้วเวลานั่งใกล้ๆ มองตากันแบบนี้ โลกก็เหมือนหยุดหมุน และคุณก็จะอยากหยุดเวลาเอาไว้แบบนี้”

คนพูดทำแววตาเป็นประกายระยิบระยับ คล้ายกำลังร่ายมนต์ใส่หญิงสาวให้หายใจลำบาก แก้มใสเริ่มแดงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จังหวะการเต้นของหัวใจก็เร็วมากกว่าปกติ

กอกานต์ถูกภาสวินท์กักขังไว้ด้วยสายตา เธออยากตัดพ้อใส่เขาจัง เขาคงไม่รู้สึกตัวว่าสายตาเขาเต็มไปด้วยเสน่ห์มากแค่ไหน

ให้ความรู้สึกหวาดหวั่น คล้ายตัวเธอเป็นลูกกระต่ายและเจ้านายเป็นเสือตัวใหญ่ที่อยากจะจับเธอกินเสียให้ได้ เธอรู้ว่าควรหนีไปให้ไกล แต่ทำไมใจลึกๆ ถึงอยากจะขยับไปใกล้ๆ เสือหนุ่มตัวร้ายก็ไม่รู้

หญิงสาวก้มหน้า หลบตาหนี พยายามหัวเราะกลบเกลื่อนบรรยากาศแปลกๆ ระหว่างเธอกับเจ้านาย

“ความรู้สึกที่เวลาคุณวินท์อยู่กับคุณนิกกี้ ก็คงเป็นแบบที่ … คุณวินท์พูดใช่ไหมคะ โรแมนติกจังค่ะ”

คำถามที่เหมือนน้ำเย็นๆ สาดใส่หน้า ภาสวินท์ทำหน้าเซ็งขึ้นมาทันที

“ไม่รู้สิ” คนตัวสูงตอบแล้วลุกจากเก้าอี้ หน้าตาบึ้งตึงใส่หญิงสาวอีกครั้ง “คุณจะยินดีที่ให้คนอื่นเข้าใจผิดอะไรก็ช่างคุณก็แล้วกัน ผมไม่ยุ่งด้วยแล้ว เชิญตามสบายเลย ผมเตือนก็เพราะ …ผมหวังดีหรอกนะ”

“คุณวินท์คะ” กอกานต์คาดเดาจากสีหน้า น้ำเสียง และการเดินฉับๆ กลับไปในห้องของเขา ภาสวินท์คงงอนเธอ คิดว่าเธอดื้อไม่เชื่อที่เขาเตือนจึงรีบลุกตามไปขวางหน้าคนตัวโตไว้

“แก้มขอโทษนะคะ ไม่ได้จะไม่เชื่อที่คุณเตือนนะคะ แก้มรับปากคุณวินท์ก็ได้ค่ะว่าจะระวังตัวมากกว่านี้ จะไม่ให้มีเรื่องเข้าใจผิดแบบนี้อีกค่ะ”

กอกานต์เพิ่งรู้สึกตัวว่าเธอห่วงความรู้สึกภาสวินท์มากอยู่เหมือนกัน การถูกมองด้วยแววตาไม่สนใจ ทำให้เธออยู่เฉยไม่ไหว คงเพราะเขาเป็นเจ้านายคนแรกที่ให้โอกาส และเขาก็เอ็นดูเธอมากด้วย เธอไม่ควรสงสัยในความหวังดีจากเจ้านายของเธอเลย

“ดีมาก” ภาสวินท์เริ่มยิ้มออก หลังจากได้ยินสิ่งที่อยากฟังจากปากหญิงสาว “ไปเก็บของ เดี๋ยวค่อยมาทำต่อพรุ่งนี้ละกัน ผมจะกลับบ้านแล้ว”

“แต่ว่า” กอกานต์ยังทำงานที่เขาสั่งไม่เสร็จเลย

“ยังไม่ไปปิดคอมพ์อีก ไม่กลัวผีแล้วหรือไง เดี๋ยวก็ทิ้งให้อยู่คนเดียวเสียหรอก” ภาสวินท์แกล้งขู่ ซึ่งได้ผล คนลังเลใจรีบกลับโต๊ะ จัดการเก็บของลงกระเป๋าทันที

ระหว่างทั้งสองเดินไปยังลิฟท์ ภาสวินท์ก็ขันอาสา “ดึกแล้วเดี๋ยวผมไปส่งคุณที่บ้านละกัน”

“ไม่ต้องหรอกค่ะ แก้มขึ้นรถไฟฟ้ากลับบ้านได้ค่ะ” กอกานต์เกรงใจชายหนุ่ม เขาเป็นเจ้านาย จะให้ไปส่งที่บ้านบ่อยๆ ก็แปลกๆ ไม่ใช่หรือ

“ผมหิวน่ะ อยากกินก๋วยเตี๋ยวเจ้าที่คุณเคยบอกว่าอร่อย หรือว่าคุณจะขัดใจผม อย่าลืมนะว่าถ้าคุณยังไม่ไปพิสูจน์เรื่องผีในตึก คุณก็ยังไม่ผ่านการทดลองงาน” ภาสวินท์แกล้งเตือน พอเห็นว่าหญิงสาวไปไม่เป็นก็ลอบยิ้มอย่างพอใจ

กอกานต์ถอนหายใจ ไม่คิดเลยว่าเธอจะถูกเอาเรื่องผีและก๋วยเตี๋ยวมาเป็นเงื่อนไขผ่านงาน!!


อีกด้านหนึ่งณ บ้านวัสวาธีรนนท์ สิริมาเตรียมนมอุ่นกับแซนด์วิชมาให้ภาสวัสร์ในห้องนอนอย่างทุกคืน ถ้าเป็นเวลาหัวค่ำอย่างนี้ ภาสวัสร์คงขลุกอยู่กับเกมคอมพิวเตอร์ ซึ่งถ้าอนงค์นางเข้าไปเห็นก็จะบ่นลูกเพราะห่วงกลัวลูกชายจะนอนดึก แต่จะให้ห้ามปรามจริงจังจนขัดใจลูกชายคนโต อนงค์นางไม่กล้าทำแน่นอน

“คุณวัสร์คะ วันนี้เป็นแซนวิชทูน่าค่ะ คุณวัสร์ต้องชอบแน่เลย” สิริมาบอกขณะยกถาดอาหารไปในห้อง แต่เธอกลับเห็นภาสวัสร์ยืนเกาะประตูเลื่อนกระจก มองอะไรบางอย่างที่สนามหญ้าด้านนอกห้อง

“คุณวัสร์มองอะไรอยู่หรือคะ” สิริมามองตามสายตาชายหนุ่ม เธอไม่เห็นอะไรนอกจากสนามหญ้าโล่งๆ ใต้ท้องฟ้ายามมืด แต่แสงไฟจากห้างวัสวาที่ยังเปิดทำการถึงสี่ทุ่มทำให้บรรยากาศตรงสนามหญ้าไม่มืดและน่ากลัวมากนัก

“ผีผู้หญิงคอหัก กับวิญญาณของพ่อยังอยู่” ภาสวัสร์ตอบโดยสายตายังมองที่สนามหญ้าค้าง

“คุณวัสร์! ” สิริมาเผลอหันไปมองประตูห้อง กลัวว่าจะมีใครผ่านมาได้ยินแล้วเอาไปเล่าให้อนงค์นางฟัง อนงค์นางคิดว่าภาสวัสร์อาการกำเริบ เห็นภาพหลอน คงได้ตามหมอมาฉีดยาภาสวัสร์อีก สิริมาไม่ชอบเวลาภาสวัสร์ถูกจับฉีดยา ทั้งสงสารและปวดใจทุกครั้งที่เห็น

“ส้ม ผมไม่ได้หลอนไปเองนะ ลูกอมก็บอกว่าเห็นยัยสายสุดากับพ่ออยู่ที่ตึก” ภาสวัสร์หันมาเล่าให้สิริมาฟังด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นปนดีใจ “ผมไม่ได้บ้าอย่างที่แม่กล่าวหา ยัยผีสายสุดากับพ่อยังไม่ไปไหน”

“คุณวัสร์พูดเบาๆ ค่ะ เรื่องผีสายสุดาอะไรนั่น ส้มว่า … ส้มว่าคืนนี้คุณวัสร์กินยาดีกว่านะคะ จะได้นอนหลับสบายๆ ไม่ฝันร้ายอีก” สิริมาเกรงว่าภาสวัสร์จะเห็นภาพหลอนจริงๆ

แล้วไม่รู้ไปคุยอะไรกัน ภาสวัสร์ถึงมั่นใจแบบนี้ นี่สิริมาคิดผิดคิดถูกนะที่ปล่อยให้ภาสวัสร์ไปเจอผู้หญิงที่ชื่อลูกอมคนนั้น

“ผมไม่ได้บ้านะส้ม พ่อกับยัยสายสุดายังอยู่ในตึกจริงๆ …ผมสงสารพ่อ คงเพราะว่าพ่อฆ่าตัวตายก็เลยไปไหนไม่ได้สักที ผมจะช่วยพ่อได้ยังไง” ภาสวัสร์ถอนหายใจเฮือกยาว เขาจะต้องหาคำตอบเรื่องนี้ให้ได้!



จบตอนที่ 10-100%


นำนิยายมาส่งค่า


คุณ kaelek - หวงก็หวง อยากเดินหน้าก็ใช่ แต่ยังทำอะไรประเจิดประเจ้อไม่ได้อะเนอะ ^^"

คุณแว่นใส - ถ้าเกิดรู้ว่าคนที่แก้มจับมือด้วยคึือใคร พี่วินท์จะทำยังไงน้าเนี่ยยย


พบกันใหม่ตอนหน้าค่าา



ปิ่นนลิน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 31 ก.ค. 2560, 08:22:42 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 31 ก.ค. 2560, 08:22:42 น.

จำนวนการเข้าชม : 879





<< ตอนที่ 10 - 75%   ตอนที่ 11 - 35% >>
แว่นใส 31 ก.ค. 2560, 17:24:59 น.
ต้องทำให้หมดห่วงล่ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account