A castle wall *กำแพงรัก*
ถ้าความรักคือเรื่องของคนสองคน ต้องมนต์ คงไม่นับรวมอยู่ในนั้นเป็นแน่ เพราะการแอบรักคนที่ไม่มีวันเป็นไปได้อย่าง ปัถย์ มันก็เหมือนยืนบนพื้นดินแล้วแหงนคอมองคนบนหอคอย อย่างไรอย่างนั้น...แต่ก็ไม่รู้ทำไม เสียงข้างในจิตใจก็ร่ำร้องถึงเค้าอยู่ร่ำไปสิน่า..
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: บทที่ 8 : เหนือคำบรรยาย - - - (50%)หลัง

บทที่ 8 : เหนือคำบรรยาย - - - (50%)หลัง



ฉันตัดสายจากเพื่อนสาวสิงห์รถบรรทุก โดยไร้ข้อสรุปใดใด หรือว่าฉันควรจะทำตัวให้สาบสูญ แต่ก็จะไม่ได้เห็นหน้าคุณปัถย์อีกต่อไป เพราะถ้าฉันหายตัวไปเค้าคงไม่ออกตามหาฉันเป็นแน่(ทำใจไม่ได้ตรงนี้).......เสียงเคาะประตูห้องของฉันดังขึ้นอีกครั้ง(ที่นี้น่าจะเจาะตาแมวหน่อยก็ไม่ได้)





ปีศาจหื่นปรากฏตัวต่อหน้าฉันอีกครั้ง





“เห็นยังไม่ลงไปข้างล่างสักที เลยมาตาม”




“คุณปัถย์....มาตามแป๋มเนี่ยนะค่ะ” เหลือเชื่อ แล้วคุณปราชญ์กับคุณหญิงจะว่ายังไงล่ะ





“ผมสิ.....แล้วทำไมยังไม่อาบน้ำ ไม่กลับบ้านเหรอ หรือจะอยู่จนงานหมั้นเลย”
ประโยคนี้กระตุ้นต่อมทำงานฉันได้ดีทีเดียว เพราะพอจบประโยคฉันก็กุลีกุจอ วิ่งเข้าห้องน้ำ อาบน้ำและออกมาภายในเวลาไม่ถึง ห้านาที





“อ้าว...คุณปัถย์ยังไม่ลงไปข้างอีกเหรอค่ะ” นั่งเป็นยักษ์ปักหลั่นอยู่นั่นแหละ




“ผมแค่จะเตือนคุณว่า อย่าลืมสัญญาเมื่อคืน อย่าตุกติก เพราะผมไม่รับประกันความปลอดภัยของตัวคุณ”
เขียนใส่กระดาษแล้วแปะหน้าฉันเลยสิ...เอาเลย...เอาให้สาแกใจ





“และที่สำคัญอย่าคิดหนี...เพราะไม่มีอะไรที่ผมอยากได้แล้วไม่ได้”
ค๊าบบบบพี่โหดดด





หลังจากคุณปัถย์ออกไป ฉันได้แต่ภาวนาขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายเล็งเห็นความหายนะในชีวิตฉัน หากว่าฉันรอดพ้นเรื่องร้ายไปฉันจะยอมทำบุญล้างซวยสิบวัด และขอปฏิญาณว่าจะไม่มองคนที่หน้าตา รูปลักษณ์ภายนอก จะมองที่จิตใจลึกลึก...ได้โปรดเห็นคำอธิษฐานของฉันด้วย





หลังจากฉันล่ำลาคนในบ้านปิลันธบุตรที่ให้ความกรุณาให้ที่พักพิงอันแสนอบอุ่นกับเด็กเช่นฉัน จึงขอตัวลากลับบ้านทันที โดยที่ปราศจากปีศาจโหดหื่นในรัศมีมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า (ฉันสำรวจรอบด้านอย่างถี่ถ้วน) แต่พอมาถึงรถยนต์คันน้อยของตัวเอง ความไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อรถยางแตก แบนสี่ล้อ...แบบไร้สมรรถนะใดใดในการใช้งาน ทำได้อย่างเดียวคือปลูกผัก ฉันได้แต่ยืนอนาถสังเวชกับความเป็นไปในชีวิต หันซ้ายแลขวาก็พบรถสัญชาติยุโรปก็ขับมาจอดเทียบหน้าฉันพอดี ไม่ต้องเดาถึงคนในรถ





“ผมไปส่ง”





“เอ่อ...แป๋มนั่งแท็กซี่ดีกว่าค่ะ รบกวนคุณปัถย์เปล่าเปล่า”





“อย่าให้พูดสองรอบ” เยี่ยม...เจาะจมูกฉันเลยสิ แล้วเชิญลากจูงได้ตามสบาย





“........................”





“จะขึ้นเองหรือจะให้อุ้ม”





“โอเคค่ะ”
ฉันดูไม่มีทางเลือกในชีวิตเลยตั้งแต่พบคุณปัถย์ เค้าปิดประตูลงกลอนอย่างแน่นหนา เหลือไว้เพียงทางเดียวคือทางที่เค้ากำหนด





“ผมเจาะยางรถแป๋มเอง....ไม่ใช่ผมสิ คนขับรถผมเอง” สารภาพได้หน้าด้านด้านมาก ฉันจะไปทำอะไรแกด้ายยยยย นอกจากโกรธแกกกกกกกก...สาบแช่งแก....แกมาทำฉันทำไมมมมมมมมมมมมม





“เดี๋ยวจะให้คนไปซ่อมให้”







“ขอบพระคุณที่กรุณาซ่อมให้ค่ะ” ฉันเรียบเรียงคำพูดพวกนี้ให้สวยหรูแล้วจริงจริง อดทนไว้....อดทนไว้.....





“อย่าประชด เพราะถ้าผมไม่ทำแบบนี้ก็ไม่ได้มาส่งแป๋มแน่”





“........................”






“ต่อไปเรียกผมว่าพี่นะ เลิกเรียกคุณได้แล้ว ห่างเหิน”






“ค่ะ...พี่ปัถย์” ฉันเหนื่อยเกินกว่าจะต่อล้อต่อเถียงกับอีตาผีบ้านี่เต็มทน






“ดีมาก...เชื่อฟังพี่แบบนี้ ไหนมาหอมทีสิ” แต่มนุษย์เช่นนี้มีหรือจะแค่พูด จบประโยค การกระทำก็ส่งทอดมาทันที ฉันได้แต่นั่งนิ่งเป็นสาก อย่าให้ถึงคราวฉันบ้าง




“พี่จะบอกให้นะ ต่อให้แป๋มนิ่ง....แป๋มโวยวาย....ดื้อด้านกับพี่มากแค่ไหน ยังไงพี่ก็เลือกแป๋มอยู่ดี” ฉันควรภูมิใจใช่ไหมที่เป็นหนึ่งเดียวในตัวเลือกกำมะลอ




“เพราะอะไรค่ะ”




“เพราะแป๋มเป็นแป๋ม”
ฉันไม่เข้าใจความหมายนี้สักเท่าไร แต่รู้สึกดีชะมัด จิตใจอีกด้านพยายามกู่ก้องร้องว่า อย่าได้เชื่อวาจา จากบุรุษนามว่า ปัถย์






ระหว่างที่เรานั่งรถกลับ ฉันพยายามจะมองออกนอกหน้าต่าง แต่ก็ไม่วายมีคนข้างข้างส่งเสียงเรียกให้หันมาหาเค้าเป็นระยะ ฉันคาดเดาว่า คุณปัถย์น่าจะมีนิสัยของลูกคนเดียว นั่นคือ เรียกร้องความสนใจ....แล้วทำไมฉันไม่เป็นล่ะ ฉันเลยตัดสินใจชวนคุยเรื่องที่เกี่ยวกับตัวเค้า แต่มันก็หาได้เพิ่มเติมจากที่ฉันรู้ไม่ ยังมีสิ่งหนึ่งที่ฉันยังคงสงสัยไม่เสื่อมคลายแม้คำตอบจากปากของคุณปัถย์จะบอกว่า...ไม่เคย....นั่นก็คือเรื่องที่คุณตี้กับเขาเคยคบหากัน




พ่อและแม่ต่างดีใจ ชื่นชมในรูปโฉม และ ท่าทีที่อ่อนน้อมของคุณปัถย์(นักแสดงเข้าสิง) แม่ฉันยังมีการพูดอีกว่า ให้ตักเตือนฉันได้ตามสะดวกเลย หากคุณปัถย์เห็นว่าไม่เหมาะไม่ควร(แม่ไปฝากฉันทำไม) เราคุยกันสักพัก คุณปัถย์ก็เอ่ยขอตัวกลับ




“ตัวจริงเค้าดูดีจริงจริงนะลูก...รูปก็งาม นิสัยก็ดี สมกับเป็นคนผู้ดีเลย”
ฮึ!!!!แม่ไม่รู้อะไร เมื่อก่อนแป๋มก็คิดแบบนั้น




“คุณปราชญ์กับคุณหญิงท่านเป็นคนดี คุณปัถย์จะเป็นแบบนั้นก็ไม่แปลก” ฉันว่าควรเปลี่ยนประโยคหลังได้ไหม




“เอ่อ..นี่แป๋ม เมื่อวานลูกไปงานเลี้ยงน่ะ ลูกก็ต้องได้ยินข่าวที่คุณปราชญ์ประกาศหมั้นน่ะสิลูก...แม่เห็นข่าวซุบซิบจากหนังสือพิมพ์เมื่อเช้า....ว่าที่ลูกสะใภ้เค้าทั้งสวยทั้งการศึกษาดี ” แม่พูดซะฉันเห็นภาพเลย




“ครอบครัวนี้เค้าผูกกันมาตั้งแต่เด็กเด็กยังเล็กแล้วแม่”
พ่อฉันเสริมทับเข้าไปให้น่าเชื่อถืออีก




“ก็จริงแหละพ่อ...เค้าเหมาะสมกันมาก ไม่ว่าจะด้วยอะไรก็ตาม วาสนาเค้าดี บุญเค้าทำมาดีแหละเนอะ” ใช่แม่....หนูสิ ทำบุญด้วยอะไร ถึงเจอคุณปัถย์ภาคพิสดารแบบนี้




“เอ้อ...แป๋มลูก วันนี้แม่มีกินข้าวกับเพื่อนแม่ ไปด้วยกันเป็นเพื่อนแม่นะลูก”





“เอ่อ...กี่โมงค่ะ”





“สักห้าโมงเย็น”




เสียงโทรศัพท์ดังกรีดร้องในกระเป๋าถือของฉัน เมื่อหยิบมาดูก็พบกับเบอร์ของคุณเต้ เค้าติดต่อมาเพื่อทวงสัญญาเมื่อวาน...ใครไปสัญญากะเค้าเนี่ย ฉันเลยปฏิเสธข้างข้างคูคูว่าอ่อนเพลียมาก....ต้องการการพักผ่อน เค้าตัดพ้อฉันมาสักสองสามประโยค ก็วางสาย....ให้มันได้งี้เส่!!!!! อะไรกันนัก!!!!!




ฉันล้มตัวลงนอนบนเตียงภายในบ้านน้อยที่อบอุ่น ด้วยจิตไม่เป็นปกติ(ฉันสงสัยว่าตั้งแต่ฉันสบตาคุณปัถย์วันนั้น...คำว่าสงบแปลว่าอะไร?) ภาพเหตุการณ์เดิมเดิมก็วนฉายไปมาอีกครั้ง ยิ่งคิดฉันก็ยิ่งสับสน อะไรเป็นเหตุให้คุณปัถย์เลือกฉัน ทำไมคุณปัถย์ไม่เลือกคนอื่น...แล้วทำไมที่บ้านเค้าถึงไม่บอกกล่าวเรื่องการหมั้นหมายให้เค้าได้รู้...แล้วที่คุณปัถย์บอกว่าไม่เคยคบหากับคุณตี้ มันหมายความว่าไง....แล้วที่สำคัญ คุณปัถย์จูบฉันทำไม แฟร๊กกกกกกกกก!!!!! ยุ่งเหยิงโว๊ยยยยยย เสียงสัญญาณเตือนข้อความเข้าดังขัดห้วงอารมณ์อันสับสนของฉัน




“แม่มดน้อยอย่าคิดมาก ปล่อยให้เป็นเรื่องของพี่จัดการเอง"


ปีศาจปัถย์!!!!! แกนี่มันอยู่เหนือชั้นบรรยากาศ เหนือการควบคุมของฉันจริงจริง ไม่มีอะไรสามารถหยุดยั้งความหลอกหลอนจากเค้าได้...ปล่อยเป็นเรื่องของแก!!!ฉันยิ่งเครียดหนักย่ะ...แล้วคุณปัถย์รู้เบอร์ฉันได้ไง? ทันใดนั้นเองคำพูดว่า ((เพราะไม่มีอะไรที่ผมอยากได้แล้วไม่ได้))....เหนือเมฆจริงจริง




ร้านอาหารที่แม่นัดกับเพื่อนเป็นร้านอาหารริมแม่น้ำเจ้าพระยา บรรยากาศสุดโรแมนติก แม่บอกว่าเพื่อนแม่คนนี้เป็นเจ้าของสวนผลไม้ขึ้นชื่อของจังหวัด จันทบุรี จริงจริงคุณป้าคนนี้เคยเป็นอาจารย์เหมือนกันกับแม่ แต่พอตอนแกแต่งงานแกก็ลาออกไปทำสวนกับสามีแก





“นี่ไง..แป๋มคุณป้าพรรณีลูก...นี่เธอจำแป๋มได้ไหม”





“หนูแป๋มเหรอเนี่ย...หน้าตาสะสวยจังลูก สวยเหมือนเธอเลยขวัญตา” แม่ฉันลอยไปนอกชั้นบรรยากาศแล้วเป็นแน่





“แล้วลูกชายเธอล่ะ” ฉันรู้สึกได้กลิ่นไม่ดี





“ไปเข้าห้องน้ำ เดี๋ยวคงมา...นี่ตาภูก็เพิ่งจบปริญญาโท แฟนก็ไม่เคยมี...ดีใจที่หนูแป๋มยอมมากะเธอนะขวัญตา ฉันว่าเด็กทั้งคู่น่าจะเข้ากันได้ดี”
ลูกป้าอยู่รอดมาได้ไงเนี่ย แล้วก็ขี้ตู่ชะมัดรู้ได้ไงว่าจะเข้ากันได้





แต่เมื่อฉันเห็นหน้าภูธเนศ หรือ ตาภู ที่คุณป้าพรรณีเรียก ฉันก็ไม่สงสัยว่าทำไมเค้าถึงอยู่รอดปลอดภัยไร้กังวลเช่นนั้น...ฉันเคยบอกกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไปแล้วว่า ฉันจะไม่มองคนที่หน้าตา แต่อีตาภูนี่ไม่ผ่านทั้งหน้าตา และ การพูดจาทั้งสิ้น แต่แม่กลับชื่นชมในทุกสิ่งที่ฉันกล่าวมา(วันนี้แม่คงไม่ได้เอาแว่นมา) แม่แนะนำเสร็จสรรพ ว่าฉันโสดสนิทและไม่มีบุรุษเพศมาเข้าใกล้ในระยะสามร้อยเมตร(ใส่พานยกฉันให้ฟรีง่ายกว่านะแม่) ฉันไม่ใช่เด็กป.หนึ่งนะที่ไม่รู้ว่า นี่คือการนัดดูตัว!!!!!! บรรยากาศยกยอปอปั้นลูกชายลูกสาวของแต่ล่ะฝ่ายทำให้ฉันอยากอ้วกเหลือทน ฉันนั่งทำหน้าบอกบุญไม่รับไม่นานก็มีเสียงเตือนข้อความเข้าดังขึ้นอีกครั้ง




“กลับบ้านเดี๋ยวนี้!!!!”
เย้ยยยย......ข้อความของปีศาจ ฉันได้แต่ลุกลี้ลุกลน หันซ้ายแลขวา จนแม่ต้องหันมาปราม นี่คุณปัถย์อยู่บนคอฉันรึเปล่า...หรืออยู่ข้างหลัง...บรื่ออออออออออ ไม่เกินสามนาทีข้อความถัดไปก็ปรากฏอีกครั้ง



“ถ้าไม่ไป...ผมจะเข้าไปเดี๋ยวนี้”



....หลอกหลอนนนนนน ไม่สามารถอธิบายคำใดได้นอกจากหลอกหลอน ปีศาจปัถย์ไม่เคยทำให้ฉันผิดหวังในด้านคำพูดของเค้าสักที เค้ามักแสดงให้ฉันรับรู้ และ เตรียมรับมือกับความเป็นคนจริงของเค้า เพราะเพียงไม่กี่อึดใจ...ตัวเป็นเป็นก็ปรากฏกายทันที



“สวัสดีครับคุณป้า....ผมมารับแป๋มกลับบ้าน” ธรณีเอ๋ย...สูบร่างต้องมนต์ไปบัดเดี๋ยวนี้!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!


- - - - - - - - - - - - - - - - - - -
ในที่สุดบทที่ 8 ก็จบลง อย่างที่บอกค่ะว่า ทางแป๋มก็โดนคลุมถุงชนเหมือนกัน แต่งานนี้แป๋มเอ๋อ สู้ตายค่ะ งานนี้ต้องมาลุ้นคุณปัถย์แทน ว่าที่พี่แกบอกว่า จะจัดการเอง นั้นเป็นวิธีอะไร

ขอบคุณผู้อ่านทุกท่านเน้อออออ.....เลิฟเลิฟ <3



คุณิณพัณณ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 13 ส.ค. 2554, 22:07:20 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 13 ส.ค. 2554, 23:20:43 น.

จำนวนการเข้าชม : 2415





<< บทที่ 8 : เหนือคำบรรยาย - - -50%   บทที่ 9 : ใครมีลูกสาวมาแลกลูกเขย - - - 40% >>
xeve 13 ส.ค. 2554, 23:48:36 น.
ขอชมหน่อยว่าชอบคําที่บรรยายอารมณ์นางเอกมาก ทั้งฮา ทั้งโก๊ะ น่าสงสาร แต่น่าแกล้ง เข้าใจพระเอกเลย ต้องยกความดีให้ผู้เขียนเลยนะเนี่ย


เรือใบ 14 ส.ค. 2554, 08:13:22 น.
ชอบบบบ อยากหาแฟนที่น่ารักๆมาแกล้งมั่งจัง 555 อยู่ทีมคุณปัถย์สุดๆ


รอให้เป็นเล่ม 14 ส.ค. 2554, 10:45:28 น.
ปีศาจปัถย์!!! ฮ่าๆๆๆ
รู้สึกเหมือนคุณ xeve เหมือนกันค่ะ ชอบที่บรรยายอารมณ์นางเอกมาก อ่านเมื่อไหร่ฮาเมื่อนั้น


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account