ชุลมุนแผนร้าย ... ป่วนใจ
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ทำไมเธอจะต้องมารับรู้เรื่องปวดหัวพวกนี้ด้วย!
ทั้งคนเล่นตลกกับเธอ ผีก็ยังมาเอ็นดูหลอกเธออีก
กอกานต์อยากจะกรีดร้อง หลังจากรู้ว่าเธอถูกหลอกทั้งจากคน และผี!
ในความวุ่นวายที่เธอต้องช่วยตามหาความจริง
อยู่ๆ เธอก็รักคนที่ไม่ควรรักขึ้นมา
เธอจะตัดใจจากตัวยุ่งอย่างดี??
ทั้งคนเล่นตลกกับเธอ ผีก็ยังมาเอ็นดูหลอกเธออีก
กอกานต์อยากจะกรีดร้อง หลังจากรู้ว่าเธอถูกหลอกทั้งจากคน และผี!
ในความวุ่นวายที่เธอต้องช่วยตามหาความจริง
อยู่ๆ เธอก็รักคนที่ไม่ควรรักขึ้นมา
เธอจะตัดใจจากตัวยุ่งอย่างดี??
Tags: ผี ฆาตกรรม ปิ่นนลิน
ตอน: ตอนที่ 12 - 100%
ตอนที่ 12 - 100%
“คุณนางล่ามโซ่คุณวัสร์ไว้ตั้งแต่เช้า … แต่ … แต่ตอนนี้คุณวัสร์หายไปแล้วค่ะ คุณวัสร์หายไปจากห้องแล้วค่ะ ยาก็ไม่กินตั้งแต่เช้าด้วย คุณวินท์ช่วยหาคุณวัสร์ด้วยนะคะ!! ”
ภาสวินท์พยายามแกะน้ำเสียงสะอื้นของคนดูแลพี่ชาย เขาฟังไม่ผิดไปเองใช่ไหม
“พี่วัสร์โดนอะไรนะ แม่น่ะเหรอล่ามพี่วัสร์ แล้วพี่วัสร์หายไปได้ยังไง คุณแม่ล่ะท่านทราบเรื่องหรือยัง”
“คือว่า … คุณวินท์กลับบ้านได้ไหมคะ ส้มจะเล่าให้ฟัง”
ภาสวินท์อยากจะกลับบ้านเดี๋ยวนี้ แต่กอกานต์ล่ะจะทำอย่างไร
“นะคะคุณวินท์ ตอนนี้คุณนางยังไม่ทราบเพราะว่าตอนหัวค่ำคุณนางเข้ามาดูคุณวัสร์ คุณวัสร์ยังนอนอยู่ในห้องดีค่ะ แต่พอส้มกลับมาจัดยาให้คุณวัสร์เมื่อครู่ คุณวัสร์ก็หายไปแล้ว แถมยาก็ทิ้งหมดเลย” เสียงสิริมาสะอึกสะอื้น ภาสวินท์เข้าใจดีว่าเพราะเห็นห่วงภาสวัสร์มาก คนไม่เคยออกจากบ้านมาสิบห้าปี อยู่ๆ มาหายตัวไปแบบนี้ เขาเองก็นึกไม่ออกเลยว่าพี่ชายจะหนีไปไหนได้
“ครับ ผมอยู่ในห้าง แล้วจะกลับไปให้เร็วที่สุด” ภาสวินท์ไม่มีทางเลือกเลย เลือกที่จะโทรหาแทนไทให้มาตามหากอกานต์ที่ตึกออฟฟิศ ส่วนตัวเขาต้องรีบกลับบ้านไปจัดการเรื่องพี่ชาย
กอกานต์รู้สึกตัวลืมตาโพลงแล้วรีบลุกจากท่านอนมาเป็นนั่ง ก่อนจะหันมองรอบข้าง เธอไม่ได้อยู่ภายในลิฟท์อย่างก่อนสลบ แต่กลายเป็นว่าอยู่ในห้องเดิมที่เธอเคยตื่นขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่ง ... ห้องพักผ่อนอดีตท่านประธานแห่งวัสวากรุ๊ปที่มีเครื่องเล่นแผนเสียงห้องนั้น
หญิงสาวไม่ลืมว่าก่อนสลบมีอะไรเกิดขึ้นกับเธอ
…ลิฟท์ค้าง และผีโผล่มา …
กอกานต์ลนลานจะรีบหนีไปให้พ้นๆ จากตึกนี้ ซ้ำคราวนี้เธอมั่นใจว่าไม่อยากจะกลับมาที่นี่ ต่อให้ภาสวินท์เอาเงินเดือนสามสี่เท่ามารั้ง เธอก็ไม่อยากเจอผีน่ากลัวอีกแล้ว!
ทว่ายังไม่ทันขยับไปไหน ประตูห้องถูกกระชากเปิดอย่างแรง พร้อมด้วยร่างของผู้ชายลากเด็กหนุ่มเดินเข้ามาอย่างรีบร้อน กอกานต์มองชายคนนั้นอย่างตกใจ ยิ่งเขาเดินเข้ามาใกล้ และแสงไฟจากด้านนอกตึกสาดเข้ามาทำให้เห็นหน้าชัดๆ เธอก็ยิ่งอ้าปากค้าง
“คุณพ่อของคุณวินท์” กอกานต์จำหน้าไม่ผิดแน่ๆ เธอเห็นชายคนนี้หน้าเหมือนในรูปถ่ายที่ภาสวินท์เอาให้เธอดูวันก่อน ถ้าจำไม่ผิด แทนไทบอกว่าคนคนนี้ชื่อ ภาสกร วัสวาธีระนนท์ อดีตท่านประธานของวัสวากรุ๊ปที่จากไปเมื่อสิบห้าปีก่อน
กอกานต์กำมือที่สั่นระริก ถามตัวเองซ้ำๆ อีกครั้ง … นี่เธอฝันอีกแล้วหรือ?
เวลานี้เสื้อเชิ้ตของภาสกรเลอะเลือดไปทั้งตัวกำลังเขียนอะไรยึกยักบนโต๊ะ แล้วสอดกระดาษไว้ใต้เครื่องเล่นแผ่นเสียง
“พ่อฆ่าน้าสาย” เด็กหนุ่มมองภาสกรอย่างผิดหวัง “พ่อฆ่าคน”
“พ่อไม่ได้ฆ่าน้าสาย ไม่ได้ฆ่าสายสุดา! ” ภาสกรเถียงพลางเปิดประตูตู้ขนาดใหญ่ แล้วพยายามดันเด็กหนุ่มเข้าไปในนั้น
“ภาสวัสร์รับปากพ่อ หลบอยู่ในนี้ ได้ยินเสียงอะไรก็ห้ามออกมาเด็ดขาด รับปากพ่อนะวัสร์”
“คุณภาสวัสร์งั้นหรือ” กอกานต์ได้ยินภาสกรสั่งเด็กหนุ่มที่พยายามจะดื้อรั้น ตะโกนถามเหมือนคนเสียสติ
“ทำไมพ่อต้องฆ่าน้าสาย”
“มันไม่ใช่อย่างที่ลูกเห็น” ภาสกรชี้แจงน้ำเสียงร้อนใจ
“ผมเห็นกับตา!! พ่อกับเขาทุบน้าสายจนตาย พ่อคิดจะปิดเรื่องนอกใจกับแม่ใช่ไหม ทำไมพ่อทำแบบนี้” ภาสวัสร์วัยสิบหกปีรับไม่ได้กับการเห็นพ่อร่วมมือกับใครอีกคนฆ่าสายสุดา
“วัสร์ พ่อไม่เถียงลูกแล้ว! ฟังพ่อนะ ตอนนี้ลูกต้องซ่อนในนี้ ขอร้อง นี่อาจจะเป็นคำขอร้องสุดท้ายของพ่อ รักษาชีวิตให้รอดต่อไปเพื่อเจอแม่กับน้องนะลูก พ่อรักลูก …รักลูกที่สุด ภาสวัสร์”
“ไม่!! ” ภาสวัสร์ถูกขังไว้ในตู้ จังหวะที่ประตูห้องจะถูกเปิดอย่างแรงอีกครั้ง ภาสกรใช้หลังดันประตูตู้ไว้ กอกานต์เห็นชายหนุ่มที่มาใหม่อุ้มร่างไร้สติหญิงสาวในชุดกระโปรงลายดอกเข้ามาโยนลงตรงหน้าภาสกร
“รีบจัดการศพนังสายซะ” คนมาใหม่สั่ง
“ยังไง” ภาสกรถามกลับ กลัวอีกคนจะรู้ว่าเขาซ่อนลูกชายไว้ในตู้
“โยนมันลงไปจากตึก ทำเป็นว่ามันฆ่าตัวตายเป็นไง”
ภาสกรกลืนน้ำลายลงคอ ลังเลและไม่กล้าอำพรางศพอย่างที่เพื่อนสั่ง
“ไม่ต้องห่วงหรอกน่ะว่าห้างจะเสียชื่อ ใช้เงินเปิดข่าวหน่อยก็ได้แล้ว” อีกฝ่ายจึงให้คำแนะนำว่าทุกอย่างจัดการได้ด้วยเงิน
“มาเถอะ ก่อนใครจะมาเห็นเข้า”
ภาสกรหลังติดฝาไม่มีทางเลือกอื่น จึงลุกจากการนั่งเครียดไปช่วยอีกคนอุ้มศพสายสุดาไปยังหน้าต่าง ชั้นนี้คือชั้นเก้า โยนลงไปยังไงก็เละ ไม่มีทางรู้หรอกว่าโดนทุบหัวมาก่อน
กอกานต์ได้แต่มองเหตุการณ์ราวกับดูหนัง เธอขยับตัวและทำอะไรไม่ได้เลย คล้ายกับมีใครต้องการให้เธอเห็นเหตุการณ์เหล่านี้
เธออยากจะกรีดร้องเมื่อสายสุดาถูกปล่อยจากหน้าต่างแล้วร่วงลงไปยังพื้นด้านล่าง ซ้ำร้ายภาสกรยังพลาดท่า ถูกผลักจนร่วงตามลงไปอีกคน กอกานต์จึงร้องออกมาสุดเสียง พร้อมกับร่างกายที่ถูกเขย่าอย่างแรง!
“ลูกอม! ไม่สิ แก้ม แก้มครับ!! ”
กอกานต์ลืมตาโพลง เห็นภาสวัสร์อยู่ตรงหน้า อาการหวาดกลัวทำให้เธอลุกขึ้นคว้าชายหนุ่มมากอดไว้แน่น
“คุณเป็นอะไร ทำไมมานอนตรงนี้ ในลิฟท์เนี่ย” ภาสวัสร์ถามพลางลูบไหล่ปลอบโยนหญิงสาว เธอตัวสั่นน่าสงสารมากเลย
ลิฟท์ …กอกานต์ได้ยินก็ผละออกจากภาสวัสร์ มองไปรอบตัวเห็นว่าเป็นโถงหน้าลิฟท์ชั้นล่าง ไม่ใช่ในห้องพักผ่อนของภาสกร
… เธอฝันงั้นหรือ
“คุณวัสร์ แก้มเจอผี เจออีกแล้ว” กอกานต์เล่าออกไปก็ร้องไห้โฮ
แทนที่ภาสวัสร์อาจจะดุ หรือหัวเราะ กลับดึงเธอไปปลอบเหมือนเด็กๆ
“ครับๆ แต่ตอนนี้ไม่มีผีแล้วนะ มีแต่ผมนะ”
“แล้วแก้มยังเจอ …” กอกานต์ปากสั่น อยากจะเล่าสิ่งที่เจอออกมา กอกานต์สับสนว่าเป็นแค่ฝันหรือยังไง ความฝันช่างน่าแปลก … ฝันว่าเห็นภาสวัสร์กับพ่อของเขาที่เสียไปเนี่ย
“แก้มมม แก้มมมอยู่ตรงนี้หรือเปล่า” เสียงคิรารินดังมาแต่ไกล ทำให้ภาสวัสร์ต้องรีบหายตัวไปจากตรงนั้น
“ผมต้องไปแล้ว วันจันทร์ผมจะมาหาลูกอมที่สวนด้านหลังตอนสายๆ คุณมาหาผมนะ ผมจะฟังคุณเล่าทุกเรื่องเลย” ภาสวัสร์ลูบผมนุ่มๆ ของกอกานต์ ก่อนจะรีบร้อนจากไปอีกทาง ไม่ถึงนาทีคิรารินก็วิ่งมาถึงและคว้าเธอไปกอดแน่น พร้อมขอโทษเธอเป็นการใหญ่
โดยภาสกรกับสายสุดาได้แต่มองภาพเหตุการณ์ห่างๆ ภาสกรหันไปส่งสายตาเขียวใส่แม่ตัวดีข้างๆ
“ทำอะไรของคุณ เกือบจะฆ่าหนูแก้มแล้วไหม”
“ถ้าไม่ทำแบบนี้ จะส่งสาสน์ถึงยัยเด็กนั่นหรือคะ ฉันอยากจะแก้แค้นจะแย่แล้ว” สายสุดาไม่ยอมรออยู่เฉยๆ หรอก “หรือคุณไม่อยากเอาคืนไอ้พวกนั้น”
“ไม่ได้อยากเอาคืนใครหรอกสาย ผมแค่อยากให้ลูกรู้ความจริงมากกว่า” ภาสกรพูดจบก็ถอนหายใจ
ส่วนทางด้านภาสวินท์เขายืนเคว้งอยู่กลางห้องนอนของพี่ชาย สภาพห้องยังเหมือนเดิม แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือพี่ชายหายตัวไป กับโซ่เส้นใหญ่ที่ถูกทิ้งไว้บนพื้นกลางห้อง
“แม่ล่ามโซ่พี่วัสร์ แม่ทำไปทำไมครับส้ม” ภาสวินท์ถามอย่างทำใจไม่ได้ ปลายโซ่ข้างหนึ่งยึดกับเสาปลายเตียงแน่นชนิดกระชากให้ตายก็ไม่มีทางหลุด
ส่วนอีกด้านหนึ่งมีกุญแจคล้องไว้ ซึ่งเวลานี้แม่กุญแจหลุดออกจากโซ่เรียบร้อยแล้ว ภาสวินท์ดูจากภาพกล้องวงจรปิดรอบบ้าน เขาแปลกใจว่าทำไมกล้องวงจรปิืดสนามรอบบ้าถึงบันทึกอะไรไม่ได้เลย ทำให้เห็นแค่พี่ชายเดินออกจากห้องแค่นั้น ภาสวินท์ต้องไม่ลืมจัดการเรื่องกล้องวงจรปิดรอบบ้านใหม่หมด
“คุณนางระแวงว่าคุณวัสร์จะออกจากห้องนี้ไปค่ะ คุณนางห่วงคุณวัสร์มาก” สิริมาตอบเสียงสั่นๆ
“เฮ้อ! ผมต้องคุยกับแม่เรื่องนี้ ... แล้วนี่หาทั่วทั้งบ้านหรือยัง ผมควรโทรแจ้งตำรวจ” ภาสวินท์หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา แต่สิริมายื้อไว้
“ไม่ได้นะคะ ถ้าคุณนางรู้ …”
“พี่หายไป ยังไงแม่ก็ต้องรู้อยู่ดี พี่ไม่รู้จักใครจะไปไหนได้ครับ” ภาสวินท์ถอนหายใจ พยายามมีสติ “ส้มลองไปเดินที่สนามหญ้า ส่วนผมจะหารอบๆ บ้านอีกที ถ้าหาไม่เจอ ผมจะโทรแจ้งตำรวจ”
“ค่ะๆ” สิริมารีบทำตามทันที
ภาสวินท์เองก็วิ่งไปทั่วบ้าน ก่อนเขาจะชะงักเท้ากับเสียงโทรทัศน์ที่ดังในห้องดูภาพยนตร์ จะว่าไปก็ไม่มีใครใช้ห้องสำหรับดูภาพยนต์โดยเฉพาะมานานแล้ว ภาสวินท์ชอบดูภาพยนต์มากเลยลงทุนสร้างห้องนี้ไว้ หากงานที่มากมายก็ทำให้เขาไม่ได้เข้ามาดูเลย
ชายหนุ่มค่อยๆ เปิดประตูห้อง ในใจภาวนาให้เป็นอย่างที่คาดหวัง แล้วเขาก็ยิ้มอย่างโล่งใจเมื่อเห็นพี่ชายนอนหลับอยู่บนโซฟาตัวใหญ่นุ่มตรงข้ามจอขนาดใหญ่ที่ฝังติดกับผนัง มือพี่ชายยังตุ๊กตาตัวใหญ่ไว้แน่น ภาพยนต์อนิเมชั่นเล่นไปเกือบจบเรื่องแล้ว
พอเดินมามองภาสวัสร์ใกล้ๆ อาจสบายใจเมื่อเห็นพี่ชายนอนหลับสบายก็จริง หากรอยแผลตรงข้อเท้าที่เกิดจากการเสียดสีกับโซ่ก็บีบใจคนมองมาก
…ทำไมแม่ต้องทำกับพี่ชายเขาขนาดนี้ แม่ห่วงพี่ชายก็ใช่ แต่แบบนี้มันมากไปหรือเปล่า?
“ส้ม ผมเจอพี่วัสร์แล้ว” ภาสวินท์โทรศัพท์มือถือไปบอกสิริมา เขาไม่โกรธหรือโมโหสิริมา คงไม่มีใครคิดหรอกว่าภาสวัสร์จะหนีมาแอบดูหนังในห้องนี้ เขาเองยังคิดไม่ถึงเลย น่าสงสัยว่าพี่ชายหลุดออกจากโซ่ได้อย่างไรมากกว่า
หมดเรื่องพี่ชาย ภาสวินท์ก็ห่วงใครอีกคน เขาต้องรีบกลับไปที่ห้าง ทว่าแทนไทโทรศัพท์มาหาเขาก่อน
“เจอคุณแก้มแล้วใช่ไหม ถ้ายังไงฝากแทนพาคุณแก้มไปส่งบ้านเลยนะ …ใช่ …ผมเจอพี่วัสร์แล้ว ฝากด้วยนะแทน”
ขณะที่น้องชายมัวแต่สั่งการแทนไทจนไม่สังเกตว่าภาสวัสร์ที่นอนกอดตุ๊กตาปรือตาขึ้นพลางถอนหายใจ ภาสวัสร์เคยบอกแม่ไปแล้วว่าทำได้หลายอย่าง กะอีแค่สะเดาะกุญแจ เปิดอินเตอร์เน็ตหาแป๊บเดียวก็เจอวิธีแล้ว …แม่ไม่ยอมเชื่อเขาเอง!!
นับว่าโชคดีจริงๆ ที่ภาสวัสร์ได้ยินแม่คุยกับน้องชายว่ามีจัดอะไรกันในห้างกลางดึกก็เลยอยากไปดูหญิงสาวเสียหน่อย เขาไม่แต่งตัวอะไรมากนัก หยิบเพียงเสื้อแขนยาวสวมคลุมชุดนอน
แต่เขากลับไปเจอกอกานต์นอนหมดสติในลิฟท์ … โอ้ย ตาย! ตอนที่เจอนี่ภาสวัสร์ถึงกับอยากตีก้นกอกานต์เสียจริง เป็นลมที่ไหนไม่เป็น ดันมาเป็นในลิฟท์ ไม่โดนลิฟท์หนีบหรือขาดอากาศหายใจตายก็บุญมากแล้ว
ภาสวัสร์จึงเขย่าตัวหญิงสาว เมื่อเธอตื่นมากอดเขาด้วยอาการหวาดกลัวตัวสั่น ความหมั่นเขี้ยวอยากตีเลยกลายเป็นอยากปลอบแทน … นี่ไม่รู้ว่าป่านนี้กอกานต์จะหายกลัวแล้วหรือยัง
ณ สนามบินสุวรรณภูมิ เดชายิ้มทักทายเพื่อนที่เพิ่งกลับมาถึงประเทศไทย
“ไง สิน ไม่ได้กลับมาตั้งหลายปี ดูแกตัวใหญ่ขึ้นว่ะ” เดชาตบไหล่สินธร เมื่อก่อนสินธรค่อนข้างผอมกว่าเขากับภาสกร
“แก่ขึ้นอะไรขึ้น จะไม่ให้ตัวใหญ่ได้ไง” สินธรหัวเราะขำคำถามเพื่อนเก่า ก่อนรอยยิ้มจะเลือนหาย กระซิบถามเดชาขอคำตอบอีกครั้ง
“แกแน่ใจหรือที่จะยกนิกกี้ให้เอริค ลูกชายฉันน่ะ แล้วลูกของไอ้ศรล่ะ” หลายวันก่อนเดชาถามเรื่องเอริคว่ามีคนรักแล้วหรือยัง สินธรแน่ใจว่าลูกชายยังโสด หากก็เห็นควงสาวเปลี่ยนหน้าไปเรื่อย
“คืองี้นะ ฉันมองๆ ดูแล้ว ชักไม่แน่ใจว่าวินท์ชอบนิกกี้จริงหรือเปล่า ก็เลยอยากให้นิกกี้มองคนอื่นบ้าง แล้วลูกชายแกก็อายุใกล้ๆ นิกกี้ อาจจะเข้ากันได้ดีกว่าวินท์” เดชาให้เหตุผล
“พูดถึงวินท์แล้วก็คิดถึงศรมันนะ เราไปหามันหน่อยดีไหม” สินธรชักชวนเมื่อนึกถึงเพื่อนเก่าที่จากไป
“ไม่มีปัญหาหรอก ว่าแต่แกนี่ไม่โกรธไอ้ศรมันเลยหรือ มันแอบกินสายสุดาที่แกหมายตา จนแกเฮิร์ทจัดต้องหนีไปอยู่ฮ่องกงเป็นสิบปี” เดชาถามอย่างสงสัย
“ศรมันตายไปแล้ว จะไปแค้นใจก็เสียสุขภาพจิตไปเปล่าๆ อีกอย่างฉันก็ได้ทำในสิ่งที่ควรทำไปแล้ว” สินธรตอบอย่างเป็นปริศนา เดชาขมวดคิ้วพยายามนึกให้ออกว่าสิ่งนั้นที่สินธรทำคืออะไร
นัยน์ตาสินธรวาววับพร้อมยิ้มมุมปาก พูดในสิ่งที่คิดมานาน กระทั่งเดชายื่นโอกาสมาให้
“ตกลงว่าฉันจะให้เอริกมาเจอหนูนิกกี้ … นี่เดช ยังไงฉันคิดว่าวัสวากรุ๊ปมันควรเป็นของลูกๆ เราสองคน นายเองจะเสียเงินมากมายไปเฉยๆ ทำไม ถ้านิกกี้ไม่ได้แต่งกับวินท์ เงินทองก็ไหลออกไปน่ะสิ สู้เรามาร่วมมือไล่สองแม่ลูกนั่นกันดีกว่าไหม
จบตอนที่ 12
พี่วินท์ควรจะดีใจที่มีคนจะมาแย่งนิกกี้ แต่ๆๆๆ มีแผนร้ายด้วยนี่สิ ... พี่วินท์ๆๆๆ
ส่วนพี่วัสร์ยอมสะเดาะโซ่ มาช่วย แถมได้กอดยัยลูกอมด้วย คงนอนฝันดีแน่นอนเลย 5555
คุณ kaelek - ผีคุณสายใจร้ายยยย มาดีๆ ก็ไม่ได้เนาะะะ
คุณ แว่นใส - แล้วแก้มจะช่วยคุณพ่อเปิดเผยความจริงได้ไหม ^^
พบกันใหม่ตอนหน้าค่ะ ^^
“คุณนางล่ามโซ่คุณวัสร์ไว้ตั้งแต่เช้า … แต่ … แต่ตอนนี้คุณวัสร์หายไปแล้วค่ะ คุณวัสร์หายไปจากห้องแล้วค่ะ ยาก็ไม่กินตั้งแต่เช้าด้วย คุณวินท์ช่วยหาคุณวัสร์ด้วยนะคะ!! ”
ภาสวินท์พยายามแกะน้ำเสียงสะอื้นของคนดูแลพี่ชาย เขาฟังไม่ผิดไปเองใช่ไหม
“พี่วัสร์โดนอะไรนะ แม่น่ะเหรอล่ามพี่วัสร์ แล้วพี่วัสร์หายไปได้ยังไง คุณแม่ล่ะท่านทราบเรื่องหรือยัง”
“คือว่า … คุณวินท์กลับบ้านได้ไหมคะ ส้มจะเล่าให้ฟัง”
ภาสวินท์อยากจะกลับบ้านเดี๋ยวนี้ แต่กอกานต์ล่ะจะทำอย่างไร
“นะคะคุณวินท์ ตอนนี้คุณนางยังไม่ทราบเพราะว่าตอนหัวค่ำคุณนางเข้ามาดูคุณวัสร์ คุณวัสร์ยังนอนอยู่ในห้องดีค่ะ แต่พอส้มกลับมาจัดยาให้คุณวัสร์เมื่อครู่ คุณวัสร์ก็หายไปแล้ว แถมยาก็ทิ้งหมดเลย” เสียงสิริมาสะอึกสะอื้น ภาสวินท์เข้าใจดีว่าเพราะเห็นห่วงภาสวัสร์มาก คนไม่เคยออกจากบ้านมาสิบห้าปี อยู่ๆ มาหายตัวไปแบบนี้ เขาเองก็นึกไม่ออกเลยว่าพี่ชายจะหนีไปไหนได้
“ครับ ผมอยู่ในห้าง แล้วจะกลับไปให้เร็วที่สุด” ภาสวินท์ไม่มีทางเลือกเลย เลือกที่จะโทรหาแทนไทให้มาตามหากอกานต์ที่ตึกออฟฟิศ ส่วนตัวเขาต้องรีบกลับบ้านไปจัดการเรื่องพี่ชาย
กอกานต์รู้สึกตัวลืมตาโพลงแล้วรีบลุกจากท่านอนมาเป็นนั่ง ก่อนจะหันมองรอบข้าง เธอไม่ได้อยู่ภายในลิฟท์อย่างก่อนสลบ แต่กลายเป็นว่าอยู่ในห้องเดิมที่เธอเคยตื่นขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่ง ... ห้องพักผ่อนอดีตท่านประธานแห่งวัสวากรุ๊ปที่มีเครื่องเล่นแผนเสียงห้องนั้น
หญิงสาวไม่ลืมว่าก่อนสลบมีอะไรเกิดขึ้นกับเธอ
…ลิฟท์ค้าง และผีโผล่มา …
กอกานต์ลนลานจะรีบหนีไปให้พ้นๆ จากตึกนี้ ซ้ำคราวนี้เธอมั่นใจว่าไม่อยากจะกลับมาที่นี่ ต่อให้ภาสวินท์เอาเงินเดือนสามสี่เท่ามารั้ง เธอก็ไม่อยากเจอผีน่ากลัวอีกแล้ว!
ทว่ายังไม่ทันขยับไปไหน ประตูห้องถูกกระชากเปิดอย่างแรง พร้อมด้วยร่างของผู้ชายลากเด็กหนุ่มเดินเข้ามาอย่างรีบร้อน กอกานต์มองชายคนนั้นอย่างตกใจ ยิ่งเขาเดินเข้ามาใกล้ และแสงไฟจากด้านนอกตึกสาดเข้ามาทำให้เห็นหน้าชัดๆ เธอก็ยิ่งอ้าปากค้าง
“คุณพ่อของคุณวินท์” กอกานต์จำหน้าไม่ผิดแน่ๆ เธอเห็นชายคนนี้หน้าเหมือนในรูปถ่ายที่ภาสวินท์เอาให้เธอดูวันก่อน ถ้าจำไม่ผิด แทนไทบอกว่าคนคนนี้ชื่อ ภาสกร วัสวาธีระนนท์ อดีตท่านประธานของวัสวากรุ๊ปที่จากไปเมื่อสิบห้าปีก่อน
กอกานต์กำมือที่สั่นระริก ถามตัวเองซ้ำๆ อีกครั้ง … นี่เธอฝันอีกแล้วหรือ?
เวลานี้เสื้อเชิ้ตของภาสกรเลอะเลือดไปทั้งตัวกำลังเขียนอะไรยึกยักบนโต๊ะ แล้วสอดกระดาษไว้ใต้เครื่องเล่นแผ่นเสียง
“พ่อฆ่าน้าสาย” เด็กหนุ่มมองภาสกรอย่างผิดหวัง “พ่อฆ่าคน”
“พ่อไม่ได้ฆ่าน้าสาย ไม่ได้ฆ่าสายสุดา! ” ภาสกรเถียงพลางเปิดประตูตู้ขนาดใหญ่ แล้วพยายามดันเด็กหนุ่มเข้าไปในนั้น
“ภาสวัสร์รับปากพ่อ หลบอยู่ในนี้ ได้ยินเสียงอะไรก็ห้ามออกมาเด็ดขาด รับปากพ่อนะวัสร์”
“คุณภาสวัสร์งั้นหรือ” กอกานต์ได้ยินภาสกรสั่งเด็กหนุ่มที่พยายามจะดื้อรั้น ตะโกนถามเหมือนคนเสียสติ
“ทำไมพ่อต้องฆ่าน้าสาย”
“มันไม่ใช่อย่างที่ลูกเห็น” ภาสกรชี้แจงน้ำเสียงร้อนใจ
“ผมเห็นกับตา!! พ่อกับเขาทุบน้าสายจนตาย พ่อคิดจะปิดเรื่องนอกใจกับแม่ใช่ไหม ทำไมพ่อทำแบบนี้” ภาสวัสร์วัยสิบหกปีรับไม่ได้กับการเห็นพ่อร่วมมือกับใครอีกคนฆ่าสายสุดา
“วัสร์ พ่อไม่เถียงลูกแล้ว! ฟังพ่อนะ ตอนนี้ลูกต้องซ่อนในนี้ ขอร้อง นี่อาจจะเป็นคำขอร้องสุดท้ายของพ่อ รักษาชีวิตให้รอดต่อไปเพื่อเจอแม่กับน้องนะลูก พ่อรักลูก …รักลูกที่สุด ภาสวัสร์”
“ไม่!! ” ภาสวัสร์ถูกขังไว้ในตู้ จังหวะที่ประตูห้องจะถูกเปิดอย่างแรงอีกครั้ง ภาสกรใช้หลังดันประตูตู้ไว้ กอกานต์เห็นชายหนุ่มที่มาใหม่อุ้มร่างไร้สติหญิงสาวในชุดกระโปรงลายดอกเข้ามาโยนลงตรงหน้าภาสกร
“รีบจัดการศพนังสายซะ” คนมาใหม่สั่ง
“ยังไง” ภาสกรถามกลับ กลัวอีกคนจะรู้ว่าเขาซ่อนลูกชายไว้ในตู้
“โยนมันลงไปจากตึก ทำเป็นว่ามันฆ่าตัวตายเป็นไง”
ภาสกรกลืนน้ำลายลงคอ ลังเลและไม่กล้าอำพรางศพอย่างที่เพื่อนสั่ง
“ไม่ต้องห่วงหรอกน่ะว่าห้างจะเสียชื่อ ใช้เงินเปิดข่าวหน่อยก็ได้แล้ว” อีกฝ่ายจึงให้คำแนะนำว่าทุกอย่างจัดการได้ด้วยเงิน
“มาเถอะ ก่อนใครจะมาเห็นเข้า”
ภาสกรหลังติดฝาไม่มีทางเลือกอื่น จึงลุกจากการนั่งเครียดไปช่วยอีกคนอุ้มศพสายสุดาไปยังหน้าต่าง ชั้นนี้คือชั้นเก้า โยนลงไปยังไงก็เละ ไม่มีทางรู้หรอกว่าโดนทุบหัวมาก่อน
กอกานต์ได้แต่มองเหตุการณ์ราวกับดูหนัง เธอขยับตัวและทำอะไรไม่ได้เลย คล้ายกับมีใครต้องการให้เธอเห็นเหตุการณ์เหล่านี้
เธออยากจะกรีดร้องเมื่อสายสุดาถูกปล่อยจากหน้าต่างแล้วร่วงลงไปยังพื้นด้านล่าง ซ้ำร้ายภาสกรยังพลาดท่า ถูกผลักจนร่วงตามลงไปอีกคน กอกานต์จึงร้องออกมาสุดเสียง พร้อมกับร่างกายที่ถูกเขย่าอย่างแรง!
“ลูกอม! ไม่สิ แก้ม แก้มครับ!! ”
กอกานต์ลืมตาโพลง เห็นภาสวัสร์อยู่ตรงหน้า อาการหวาดกลัวทำให้เธอลุกขึ้นคว้าชายหนุ่มมากอดไว้แน่น
“คุณเป็นอะไร ทำไมมานอนตรงนี้ ในลิฟท์เนี่ย” ภาสวัสร์ถามพลางลูบไหล่ปลอบโยนหญิงสาว เธอตัวสั่นน่าสงสารมากเลย
ลิฟท์ …กอกานต์ได้ยินก็ผละออกจากภาสวัสร์ มองไปรอบตัวเห็นว่าเป็นโถงหน้าลิฟท์ชั้นล่าง ไม่ใช่ในห้องพักผ่อนของภาสกร
… เธอฝันงั้นหรือ
“คุณวัสร์ แก้มเจอผี เจออีกแล้ว” กอกานต์เล่าออกไปก็ร้องไห้โฮ
แทนที่ภาสวัสร์อาจจะดุ หรือหัวเราะ กลับดึงเธอไปปลอบเหมือนเด็กๆ
“ครับๆ แต่ตอนนี้ไม่มีผีแล้วนะ มีแต่ผมนะ”
“แล้วแก้มยังเจอ …” กอกานต์ปากสั่น อยากจะเล่าสิ่งที่เจอออกมา กอกานต์สับสนว่าเป็นแค่ฝันหรือยังไง ความฝันช่างน่าแปลก … ฝันว่าเห็นภาสวัสร์กับพ่อของเขาที่เสียไปเนี่ย
“แก้มมม แก้มมมอยู่ตรงนี้หรือเปล่า” เสียงคิรารินดังมาแต่ไกล ทำให้ภาสวัสร์ต้องรีบหายตัวไปจากตรงนั้น
“ผมต้องไปแล้ว วันจันทร์ผมจะมาหาลูกอมที่สวนด้านหลังตอนสายๆ คุณมาหาผมนะ ผมจะฟังคุณเล่าทุกเรื่องเลย” ภาสวัสร์ลูบผมนุ่มๆ ของกอกานต์ ก่อนจะรีบร้อนจากไปอีกทาง ไม่ถึงนาทีคิรารินก็วิ่งมาถึงและคว้าเธอไปกอดแน่น พร้อมขอโทษเธอเป็นการใหญ่
โดยภาสกรกับสายสุดาได้แต่มองภาพเหตุการณ์ห่างๆ ภาสกรหันไปส่งสายตาเขียวใส่แม่ตัวดีข้างๆ
“ทำอะไรของคุณ เกือบจะฆ่าหนูแก้มแล้วไหม”
“ถ้าไม่ทำแบบนี้ จะส่งสาสน์ถึงยัยเด็กนั่นหรือคะ ฉันอยากจะแก้แค้นจะแย่แล้ว” สายสุดาไม่ยอมรออยู่เฉยๆ หรอก “หรือคุณไม่อยากเอาคืนไอ้พวกนั้น”
“ไม่ได้อยากเอาคืนใครหรอกสาย ผมแค่อยากให้ลูกรู้ความจริงมากกว่า” ภาสกรพูดจบก็ถอนหายใจ
ส่วนทางด้านภาสวินท์เขายืนเคว้งอยู่กลางห้องนอนของพี่ชาย สภาพห้องยังเหมือนเดิม แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือพี่ชายหายตัวไป กับโซ่เส้นใหญ่ที่ถูกทิ้งไว้บนพื้นกลางห้อง
“แม่ล่ามโซ่พี่วัสร์ แม่ทำไปทำไมครับส้ม” ภาสวินท์ถามอย่างทำใจไม่ได้ ปลายโซ่ข้างหนึ่งยึดกับเสาปลายเตียงแน่นชนิดกระชากให้ตายก็ไม่มีทางหลุด
ส่วนอีกด้านหนึ่งมีกุญแจคล้องไว้ ซึ่งเวลานี้แม่กุญแจหลุดออกจากโซ่เรียบร้อยแล้ว ภาสวินท์ดูจากภาพกล้องวงจรปิดรอบบ้าน เขาแปลกใจว่าทำไมกล้องวงจรปิืดสนามรอบบ้าถึงบันทึกอะไรไม่ได้เลย ทำให้เห็นแค่พี่ชายเดินออกจากห้องแค่นั้น ภาสวินท์ต้องไม่ลืมจัดการเรื่องกล้องวงจรปิดรอบบ้านใหม่หมด
“คุณนางระแวงว่าคุณวัสร์จะออกจากห้องนี้ไปค่ะ คุณนางห่วงคุณวัสร์มาก” สิริมาตอบเสียงสั่นๆ
“เฮ้อ! ผมต้องคุยกับแม่เรื่องนี้ ... แล้วนี่หาทั่วทั้งบ้านหรือยัง ผมควรโทรแจ้งตำรวจ” ภาสวินท์หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา แต่สิริมายื้อไว้
“ไม่ได้นะคะ ถ้าคุณนางรู้ …”
“พี่หายไป ยังไงแม่ก็ต้องรู้อยู่ดี พี่ไม่รู้จักใครจะไปไหนได้ครับ” ภาสวินท์ถอนหายใจ พยายามมีสติ “ส้มลองไปเดินที่สนามหญ้า ส่วนผมจะหารอบๆ บ้านอีกที ถ้าหาไม่เจอ ผมจะโทรแจ้งตำรวจ”
“ค่ะๆ” สิริมารีบทำตามทันที
ภาสวินท์เองก็วิ่งไปทั่วบ้าน ก่อนเขาจะชะงักเท้ากับเสียงโทรทัศน์ที่ดังในห้องดูภาพยนตร์ จะว่าไปก็ไม่มีใครใช้ห้องสำหรับดูภาพยนต์โดยเฉพาะมานานแล้ว ภาสวินท์ชอบดูภาพยนต์มากเลยลงทุนสร้างห้องนี้ไว้ หากงานที่มากมายก็ทำให้เขาไม่ได้เข้ามาดูเลย
ชายหนุ่มค่อยๆ เปิดประตูห้อง ในใจภาวนาให้เป็นอย่างที่คาดหวัง แล้วเขาก็ยิ้มอย่างโล่งใจเมื่อเห็นพี่ชายนอนหลับอยู่บนโซฟาตัวใหญ่นุ่มตรงข้ามจอขนาดใหญ่ที่ฝังติดกับผนัง มือพี่ชายยังตุ๊กตาตัวใหญ่ไว้แน่น ภาพยนต์อนิเมชั่นเล่นไปเกือบจบเรื่องแล้ว
พอเดินมามองภาสวัสร์ใกล้ๆ อาจสบายใจเมื่อเห็นพี่ชายนอนหลับสบายก็จริง หากรอยแผลตรงข้อเท้าที่เกิดจากการเสียดสีกับโซ่ก็บีบใจคนมองมาก
…ทำไมแม่ต้องทำกับพี่ชายเขาขนาดนี้ แม่ห่วงพี่ชายก็ใช่ แต่แบบนี้มันมากไปหรือเปล่า?
“ส้ม ผมเจอพี่วัสร์แล้ว” ภาสวินท์โทรศัพท์มือถือไปบอกสิริมา เขาไม่โกรธหรือโมโหสิริมา คงไม่มีใครคิดหรอกว่าภาสวัสร์จะหนีมาแอบดูหนังในห้องนี้ เขาเองยังคิดไม่ถึงเลย น่าสงสัยว่าพี่ชายหลุดออกจากโซ่ได้อย่างไรมากกว่า
หมดเรื่องพี่ชาย ภาสวินท์ก็ห่วงใครอีกคน เขาต้องรีบกลับไปที่ห้าง ทว่าแทนไทโทรศัพท์มาหาเขาก่อน
“เจอคุณแก้มแล้วใช่ไหม ถ้ายังไงฝากแทนพาคุณแก้มไปส่งบ้านเลยนะ …ใช่ …ผมเจอพี่วัสร์แล้ว ฝากด้วยนะแทน”
ขณะที่น้องชายมัวแต่สั่งการแทนไทจนไม่สังเกตว่าภาสวัสร์ที่นอนกอดตุ๊กตาปรือตาขึ้นพลางถอนหายใจ ภาสวัสร์เคยบอกแม่ไปแล้วว่าทำได้หลายอย่าง กะอีแค่สะเดาะกุญแจ เปิดอินเตอร์เน็ตหาแป๊บเดียวก็เจอวิธีแล้ว …แม่ไม่ยอมเชื่อเขาเอง!!
นับว่าโชคดีจริงๆ ที่ภาสวัสร์ได้ยินแม่คุยกับน้องชายว่ามีจัดอะไรกันในห้างกลางดึกก็เลยอยากไปดูหญิงสาวเสียหน่อย เขาไม่แต่งตัวอะไรมากนัก หยิบเพียงเสื้อแขนยาวสวมคลุมชุดนอน
แต่เขากลับไปเจอกอกานต์นอนหมดสติในลิฟท์ … โอ้ย ตาย! ตอนที่เจอนี่ภาสวัสร์ถึงกับอยากตีก้นกอกานต์เสียจริง เป็นลมที่ไหนไม่เป็น ดันมาเป็นในลิฟท์ ไม่โดนลิฟท์หนีบหรือขาดอากาศหายใจตายก็บุญมากแล้ว
ภาสวัสร์จึงเขย่าตัวหญิงสาว เมื่อเธอตื่นมากอดเขาด้วยอาการหวาดกลัวตัวสั่น ความหมั่นเขี้ยวอยากตีเลยกลายเป็นอยากปลอบแทน … นี่ไม่รู้ว่าป่านนี้กอกานต์จะหายกลัวแล้วหรือยัง
ณ สนามบินสุวรรณภูมิ เดชายิ้มทักทายเพื่อนที่เพิ่งกลับมาถึงประเทศไทย
“ไง สิน ไม่ได้กลับมาตั้งหลายปี ดูแกตัวใหญ่ขึ้นว่ะ” เดชาตบไหล่สินธร เมื่อก่อนสินธรค่อนข้างผอมกว่าเขากับภาสกร
“แก่ขึ้นอะไรขึ้น จะไม่ให้ตัวใหญ่ได้ไง” สินธรหัวเราะขำคำถามเพื่อนเก่า ก่อนรอยยิ้มจะเลือนหาย กระซิบถามเดชาขอคำตอบอีกครั้ง
“แกแน่ใจหรือที่จะยกนิกกี้ให้เอริค ลูกชายฉันน่ะ แล้วลูกของไอ้ศรล่ะ” หลายวันก่อนเดชาถามเรื่องเอริคว่ามีคนรักแล้วหรือยัง สินธรแน่ใจว่าลูกชายยังโสด หากก็เห็นควงสาวเปลี่ยนหน้าไปเรื่อย
“คืองี้นะ ฉันมองๆ ดูแล้ว ชักไม่แน่ใจว่าวินท์ชอบนิกกี้จริงหรือเปล่า ก็เลยอยากให้นิกกี้มองคนอื่นบ้าง แล้วลูกชายแกก็อายุใกล้ๆ นิกกี้ อาจจะเข้ากันได้ดีกว่าวินท์” เดชาให้เหตุผล
“พูดถึงวินท์แล้วก็คิดถึงศรมันนะ เราไปหามันหน่อยดีไหม” สินธรชักชวนเมื่อนึกถึงเพื่อนเก่าที่จากไป
“ไม่มีปัญหาหรอก ว่าแต่แกนี่ไม่โกรธไอ้ศรมันเลยหรือ มันแอบกินสายสุดาที่แกหมายตา จนแกเฮิร์ทจัดต้องหนีไปอยู่ฮ่องกงเป็นสิบปี” เดชาถามอย่างสงสัย
“ศรมันตายไปแล้ว จะไปแค้นใจก็เสียสุขภาพจิตไปเปล่าๆ อีกอย่างฉันก็ได้ทำในสิ่งที่ควรทำไปแล้ว” สินธรตอบอย่างเป็นปริศนา เดชาขมวดคิ้วพยายามนึกให้ออกว่าสิ่งนั้นที่สินธรทำคืออะไร
นัยน์ตาสินธรวาววับพร้อมยิ้มมุมปาก พูดในสิ่งที่คิดมานาน กระทั่งเดชายื่นโอกาสมาให้
“ตกลงว่าฉันจะให้เอริกมาเจอหนูนิกกี้ … นี่เดช ยังไงฉันคิดว่าวัสวากรุ๊ปมันควรเป็นของลูกๆ เราสองคน นายเองจะเสียเงินมากมายไปเฉยๆ ทำไม ถ้านิกกี้ไม่ได้แต่งกับวินท์ เงินทองก็ไหลออกไปน่ะสิ สู้เรามาร่วมมือไล่สองแม่ลูกนั่นกันดีกว่าไหม
จบตอนที่ 12
พี่วินท์ควรจะดีใจที่มีคนจะมาแย่งนิกกี้ แต่ๆๆๆ มีแผนร้ายด้วยนี่สิ ... พี่วินท์ๆๆๆ
ส่วนพี่วัสร์ยอมสะเดาะโซ่ มาช่วย แถมได้กอดยัยลูกอมด้วย คงนอนฝันดีแน่นอนเลย 5555
คุณ kaelek - ผีคุณสายใจร้ายยยย มาดีๆ ก็ไม่ได้เนาะะะ
คุณ แว่นใส - แล้วแก้มจะช่วยคุณพ่อเปิดเผยความจริงได้ไหม ^^
พบกันใหม่ตอนหน้าค่ะ ^^
ปิ่นนลิน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 14 ส.ค. 2560, 01:41:30 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 14 ส.ค. 2560, 01:41:30 น.
จำนวนการเข้าชม : 952
<< ตอนที่ 12 - 75% | ตอนที่ 13 >> |
kaelek 14 ส.ค. 2560, 08:19:04 น.
คนร้ายตัวจริงโผล่มาแล้ววววว..ดีเลยที่มีคนมาแยกยัยนิกกี้ไป ว่าแต่นางจะยอมไปเหรอ??.. จะมาแย่งบริษัท ถามพี่วัสร์ก่อนมั้ย สะเดาะโซ่ยังทำได้เลย จะมาไล่ไม่ง่ายนะคร้าบบบ 555
คนร้ายตัวจริงโผล่มาแล้ววววว..ดีเลยที่มีคนมาแยกยัยนิกกี้ไป ว่าแต่นางจะยอมไปเหรอ??.. จะมาแย่งบริษัท ถามพี่วัสร์ก่อนมั้ย สะเดาะโซ่ยังทำได้เลย จะมาไล่ไม่ง่ายนะคร้าบบบ 555
แว่นใส 14 ส.ค. 2560, 09:14:39 น.
นายสินธรเนี่ยคนร้ายตัวจริง เลวสุด
นายสินธรเนี่ยคนร้ายตัวจริง เลวสุด
พอใจ 14 ส.ค. 2560, 23:46:20 น.
สวัสดีค่าาา เพิ่งเข้ามาตามอ่านตั้งแต่ตอนแรก จนถึงตอนปัจจุบัน
สงสารทั้งคุณวิน คุณวัส แก้ม
เพื่อนรุ่นพ่อนี่โหดๆทั้งนั้น
สวัสดีค่าาา เพิ่งเข้ามาตามอ่านตั้งแต่ตอนแรก จนถึงตอนปัจจุบัน
สงสารทั้งคุณวิน คุณวัส แก้ม
เพื่อนรุ่นพ่อนี่โหดๆทั้งนั้น