A castle wall *กำแพงรัก*
ถ้าความรักคือเรื่องของคนสองคน ต้องมนต์ คงไม่นับรวมอยู่ในนั้นเป็นแน่ เพราะการแอบรักคนที่ไม่มีวันเป็นไปได้อย่าง ปัถย์ มันก็เหมือนยืนบนพื้นดินแล้วแหงนคอมองคนบนหอคอย อย่างไรอย่างนั้น...แต่ก็ไม่รู้ทำไม เสียงข้างในจิตใจก็ร่ำร้องถึงเค้าอยู่ร่ำไปสิน่า..
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: บทที่ 9 : ใครมีลูกสาวมาแลกลูกเขย - - - 60% ครบ

บทที่ 9 : ใครมีลูกสาวมาแลกลูกเขย - - - 60% ครบ



ขิงใช้เวลาเพียงไม่ถึงครึ่งชั่วโมง รถมันก็มาจอดเทียบหน้าบ้าน หลังจากนั้นมันทักทายพ่อกับแม่ฉันพอเป็นพิธี ฉันและมันจึงขอตัวขึ้นไปปรึกษาปัญหาระดับชาติกันเพียงลำพัง ฉันเล่าเรื่องความหลอกหลอนของคุณปัถย์ที่เค้าไปพบฉันกลางงานดูตัว แต่ไม่ได้พูดถึงอาการหิวโหยที่เค้าออกอาการเหวี่ยงวีนใส่ฉัน ซึ่งฉันเป็นผู้ไม่มีส่วนเกี่ยวร่วมด้วยเลย ฉันเกรงว่าขิงจะไม่เข้าใจในความไม่มีเหตุผลของเค้า(นี่ฉันยังมีแก่ใจปกป้องปีศาจ...แม่พระจริงจริง)


“แปลกว่ะ...แปลกจริงจริง” อืมจริง ฉันก็ว่าแปลก




“เค้าบอกรักแกยัง” ถามมาได้...ถ้าบอกฉันคงไม่นั่งอมทุกข์แบบนี้หรอก




“เหอะ”




“แล้วเค้าจะตามแกไปทำไม...มันไม่มีเหตุผล” ถูกกกกกกกกกกกกกกก




“ฉันหลอนมากเลยแก”




“อู๊ยยย...เป็นฉันฉันก็หลอน คนอะไรหายตัวได้” ฉันพยักหน้าหงึกหงักเห็นด้วยกับมัน




“เอางี้!!!!!!!!!!!!!!!!!!! ฉันมีแผน” ตาฉันลุกวาวทันทีที่เพื่อนสาวพูดคำนี้



“แผนอะไร...............”





“แกต้องสะกดรอยตามคุณปัถย์ ในเมื่อตอนนี้คำถามของแกคือ ทำไมคุณปัถย์ถึงเลือกที่จะแต่งงานกับแก ฉันว่าเค้าต้องมีความลับถึงเลือกแกมาเป็นตัวแทนกำมะลอ”





“เค้าไม่อยากแต่งกับคุณตี้ไง” ขิงหันหน้าขวับมาทางฉันพร้อมส่งเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ





“ฟังก่อน! แกอย่าบอกนะว่าแกเชื่อคำตอบบ๊องตื้นแบบนั้น” ง่า...ก็คุณปัถย์เค้าบอกอ่ะ




เสียงโทรศัพท์กรีดร้องดังขึ้นขัด....คุณปัถย์ เค้าช่างตายยากตายเย็นเสียจริง คุณปัถย์โทรมาบอกฉันว่า พรุ่งนี้จะพาฉันไปหาพ่อกับแม่เค้าพูดคุยเรื่องงานหมั้น ฉันพูดปฏิเสธพัลวันบอกว่าขอเวลาฉันก่อน เค้าพูดแค่ว่า พรุ่งนี้ แปดโมงจะมารับ เอ๊ะหรือว่าเมื่อกี้ฉันพูดเสียงเบาไปรึเปล่าทำไมเค้าไม่ได้ยินว่าฉันขอเวลา





“คุณปัถย์เค้าว่าไงอ่ะแก”ท่าทางมันอยากรู้อยากเห็นจริง






“เค้าจะมารับไปคุยเรื่องสู่ขอวันพรุ่งนี้กับที่บ้านเค้า”






“โอ๊ยยยยยยยย........ตายแน่แกเอ๊ยยยยยยยยย ตาย ตาย ตาย” ตายตอนนี้ได้ไหม





“แกกกกกกกกกก....ฉันไม่ไหวแล้วนะ” สุดกลั้นจริงจริง





“แกกล้าบอกพ่อกับแม่เค้าไปตรงตรงไหม...ว่าแกถูกบังคับขู่เข็ญ”





“ไม่รู้อ่ะ...ฉันไม่คิดว่าพ่อกับแม่เค้าจะเชื่อในคำพูดของฉัน แล้วถ้าเกิดเค้าแก้ตัวว่าฉันหลงรักลูกชายเค้ามากถึงกับไปป่าวประกาศโต้งโต้งว่า ลูกชายเค้าขอแต่ง แต่เค้ากลับบอกว่า เค้าไม่ได้พูดแบบนั้น เสียหมาเลยนะ” รู้สึกว่ารอยหยักของตัวเองเพิ่มขึ้น






“อืม...เป็นไปได้...งั้นแกจะยอมเป็นเบี้ยล่างแบบนี้เหรอ” ดูต่ำต้อยดีแท้





“นั่นสิ....” ฉันก็ตันเหมือนกัน





“ถ้าแกไม่อยากให้คุณปราชญ์และคุณหญิงไม่ยอมรับแกมากขึ้น แกต้องกล้าบอกความจริง”





“เอางั้นเหรอ”





“แกมีใครที่รู้จัก พอที่จะดึงคุณปัถย์ออกมาจากบ้านในเวลานั้นได้ไหม”





แผนการที่ว่าจะสะกดรอยตามคุณปัถย์มีอันต้องพับเก็บ เพราะขิงเพื่อนสาวแสนแสบของฉันมันคิดแผนนี้ได้สดสดร้อนร้อน มันบอกว่าแผนนี้นี่แหละ เด็ดขาด...ฉับไว....ไร้ไมตรี!!!!!!!!!!!!!!!!




“.....มีมี คุณเต้ คุณเต้เป็นน้องชายของคุณตี้ไง” พ่อเทพบุตรจำแลง ได้เวลาปกป้องฉันแล้ว





“ดีเลย....แล้วเค้ารู้ความจริงรึยัง เรื่องของแกกับคุณปัถย์”





“ยังอ่ะ”





“งั้นแกควรเล่า...เล่าไปเลย เราต้องหาพวก...แผนเราจะได้สำเร็จ”





ฉันทนเสียงคะยั้นคะยอและคำพูดโน้วน้าวเรื่องระหว่างฉันกับคุณปัถย์ของเพื่อนตัวดีไม่ไหว จึงตัดสินใจโทรหาคุณเต้ในเวลานั้นทันที น้ำเสียงเค้าดูแปลกใจไม่ใช่น้อยที่เห็นรู้ว่าเป็นฉัน ฉันตัดสินใจเล่าเหตุการณ์ให้คุณเต้ฟังตั้งแต่ต้นจนจบ น้ำเสียงคุณเต้ดูร้อนรนกับเรื่องที่เกิดขึ้นมาก ถึงขั้นกับว่าจะไปบอกพี่ตี้ให้รู้แล้วรู้รอดไป แต่ฉันบอกว่าอย่าทำให้เรื่องบานปลายเลย ฉันแค่อยากออกจากหมากตัวหนึ่งของคุณปัถย์ก็เท่านั้น พี่เต้ยอมที่จะช่วยเหลือฉันด้วยความเต็มใจ(ซาบซึ้งเหลือเกิน) แต่เค้าก็ไม่วายที่จะถามฉันว่า ฉันชอบคุณปัถย์รึเปล่า ฉันเลือกที่จะเปลี่ยนเรื่องคุย(นี่คือข้อเสียของฉัน) คุณเต้เลยทิ้งท้ายไว้ว่า



“พี่ก็รู้สึกแปลกเหมือนกันนะเวลาที่พี่ปัถย์ใกล้น้องแป๋ม....แต่ก็อย่างว่าแหละ พี่ปัถย์ก็มีท่าทีแบบนี้กับสาวสาวทั่วไป...คนอย่างพี่ปัถย์ไม่เคยรักใครจริงหรอก”





“คุณปัถย์ของแกนี่ตัวร้ายขั้นเทพเลย” ฉันยังคงสลดกับคำพูดของคุณเต้อยู่ เค้าทำแบบนี้กับทุกคนจริงเหรอ





“ว่าแต่คุณเต้ของแกนี่หล่อไหมอ่ะ” ฉันพยักหน้าแบบไร้อารมณ์





“แกก็เอาคุณเต้เลย ท่าทางดีกว่าคุณปัถย์หลายขุม” แกชอบแกก็เอาไปสิ





“แล้วยังไง...ทำหน้าแบบนี้จะไม่ทำใช่ม่ะ”





“เออๆ ทำก็ทำ!!!!!”

คุณปัถย์ เราสองคนคงไม่ใช่เนื้อคู่ที่แท้จริงกันแน่แน่ แป๋มแค่ไม่อยากจะถลำลึกไปมากกว่านี้(นี่ก็ลึกสุดแกนโลกแล้ว) แป๋มขอโทษ



แผนการที่ฉัน ขิง และคุณเต้วางไว้นั่นคือ ในวันพรุ่งนี้คุณเต้จะโทรเข้าไปบริษัทของคุณปัถย์ โดยบอกว่ามีลูกค้าสำคัญรายใหญ่อยากจะขอคุยกับคุณปัถย์เรื่องธุรกิจ (คุณเต้บอกว่าเรื่องธุรกิจอะไรนั้นจะไปแอบเลียบๆเคียงๆถามคุณตี้ในคืนนี้อีกทีว่า ช่วงนี้คุณปัถย์มีธุรกิจอะไรที่เค้าหวังและมันพอจะดึงดูดเขาไปได้บ้าง) ส่วนฉันถ้าหากว่าฉันได้รับโทรศัพท์เลื่อนนัดของคุณปัถย์เมื่อไร ก็ให้รีบออกจากบ้าน ไปยังบ้านปิลันธบุตร แล้วหาทางบอกความจริงกับคุณปราชญ์และคุณหญิง





มันดูค่อนข้างเสี่ยงกับฉันมาก แต่ขิงบอกว่า ชีวิตคือการเสี่ยง(มากไปไหมเนี่ย) เพราะถ้าหากคุณปัถย์จับได้ก่อนที่ฉันจะสารภาพ ฉันคงโดนจับไปโยนทิ้งนอกโลกเป็นแน่ เพื่อนสาวเลยให้กำลังใจว่า เมื่อพรหมเค้าลิขิตมาไม่ให้ฉันและคุณปัถย์คู่กัน เราสองคนก็ย่อมแคล้วคลาดกันเป็นธรรมดา





หลังจากที่ขิงขอกลับบ้าน ฉันได้แต่นั่งอยู่บนเตียงของตัวเองอย่างเศร้าซึมใจหายที่จะรู้ว่าเรื่องราวที่เหมือนความฝันกำลังจะจบลง ฉันกำลังจะมาอยู่ในโลกของความเป็นจริงที่ไม่มีคุณปัถย์อีกต่อไป ถ้าเค้ารู้ว่าฉันเปิดโปงเรื่องราวของเขา เขาคงเกลียดขี้หน้าฉันชนิดที่ว่า อาจจะให้พ่อเค้าไล่ฉันออกจากตำแหน่งงานที่ทำอยู่ก็เป็นได้ ฉันได้แต่บอกกับตัวเองว่า จะพยายามเริ่มสมัครงานตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไปเผื่ออะไรเกิดขึ้นจะได้รับมือทัน จิตใจฉันตอนนี้มันห่อเหี่ยวตั้งแต่ที่ได้รู้จากคุณเต้ว่า คุณปัถย์ก็ทำแบบนี้กับผู้หญิงทุกคน





แล้วเหตุการณ์ที่ช่วยย้ำให้ประโยคของคุณเต้ดูมีน้ำหนักนั่นก็คือ จูบอันเร่าร้อนที่สระว่ายน้ำกับคุณตี้ ฉันคงเป็นหนึ่งในของเล่นของคุณปัถย์อย่างที่ขิงมันว่าจริงจริง....ฉันหยิบนิตยสารที่มีบทสัมภาษณ์ของคุณปัถย์มาเปิดอ่านอีกครั้ง วนเวียนอ่านข้อความในนั้นหลายครั้งจนน้ำตารื้น เขาช่างดูห่างไกลจากฉันเสียจริง แต่เค้าก็ยังคงเป็นคนที่สะกดสายตาฉันได้อยู่เพียงคนเดียว เราช่างเหมือนโลกตอนกลางวัน กับ โลกตอนกลางคืนเสียจริง


เกือบตีสองแล้ว.....คืนนี้เป็นคืนที่ฉันนอนไม่หลับเลย ฉันคอยแต่พลิกตัวไปมากระสับกระส่าย พลันสายตาก็เหลือบไปเห็นแสงไฟหน้าจอโทรศัพท์มือถือของตัวเองกระพริบสามครั้ง....มีข้อความนี่น่า



“ฝันดีนะ...อนาคตภรรยา”



คุณปัถย์เรียกฉันว่าภรรยาด้วย...แต่ประโยคแบบนี้เค้าจะแค่ส่งมาเล่นเล่นรึเปล่าฉันก็ไม่อาจคาดเดาได้ แต่ถึงกระนั้นฉันก็กดเปิดอ่านข้อความนี้ทั้งคืนจนเช้าเลยล่ะ...



ฉันลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวรอถึงเวลารับโทรศัพท์จากคุณปัถย์...ฉันได้แต่สูดลมหายใจเข้าลึกลึกแล้วบอกกับตัวเองว่า อีกไม่นาน เรื่องก็จะจบ ทุกอย่างจะผ่านไป และต้องมนต์ก็จะกลับไปใช้ชีวิตแบบคนบนดินเหมือนเดิม



ขิงโทรศัพท์มาหาฉันในเวลาเกือบเจ็ดโมง มันคงเดาได้ว่าฉันคงเศร้ากับการตัดใจครั้งนี้ แต่มันก็ให้กำลังใจฉันว่า ฉันคงเจอคนที่ใช่ในเร็ววันและอาจจะดีกว่าคุณปัถย์ก็เป็นได้ แล้วมันยังบอกอีกว่า ดีแล้วที่ฉันตัดสินใจแบบนี้ เพราะถ้าหากว่าฉันยอมแต่งงานฉันอาจจะเป็นหม้ายในสักวันนึง เพราะคุณปัถย์เค้าแค่ใช้ฉันเพื่ออะไรบ้างอย่าง.....หาได้รักฉันอย่างที่ฉันรักเขาไม่ มันปลอบประโลมฉันจนฉันปล่อยโฮออกมา(ดีนะที่นั่งในห้องนอนตัวเอง) ฉันพยายามสูดลมหายใจเข้าลึกลึก และบอกกับตัวเองว่า......ฉันต้องทำเพื่อตัวเองสักที!!!!!!!!!!



คุณปัถย์โทรมาหาฉันหลังจากที่ฉันวางสายขิงไปได้ไม่ถึงสิบห้านาที เค้าบอกว่าเค้ามีธุระต้องเข้าบริษัทก่อนจะขอเข้ามารับฉันประมาณสิบโมง พร้อมทั้งกำชับว่าห้ามมาบ้านปิลันธบุตรก่อนเป็นอันขาด เค้าต้องการเป็นคนพาฉันเข้าบ้านเอง




ฉันใช้เวลาชั่วโมงครึ่งในการเดินทางมายังบ้านปิลันธบุตร วันนี้อากาศอึมครึมและรถก็ติดเหลือเกิน ทำไมทุกอย่างมันจึงได้มืดหม่นเช่นนี้....

คุณปราชญ์และคุณหญิงยังคงรับประทานอาหารเช้าในห้องอยู่ ฉันจึงถือโอกาสเข้าไปนั่งรอที่โต๊ะ พลันก็คิดว่า ฉันคงไม่มีโอกาสกลับเข้ามาทำงานอีกหลังจากเหตุการณ์วันนี้จบลง....ฉันผูกพักกับที่นี่จริงจริง เพราะที่นี่มีงานที่ฉันรัก...และมีคนที่ฉันรัก อยู่ในที่ที่เดียวกัน ฉันวานแม่บ้านว่าให้ไปเรียนท่านทั้งสองว่าฉันขอพบหากว่าท่านรับประทานอาหารเช้าเสร็จเรียบร้อยแล้ว.....




“คุณแป๋มค่ะ คุณท่านทั้งสองให้มาเรียนว่า ท่านเรียบร้อยแล้วค่ะ”



ฉันนั่งเผชิญหน้ากับคุณท่านทั้งสองด้วยสีหน้าไม่สดชื่นเท่าที่ควร คุณหญิงเอ่ยทักว่า ฉันนอนไม่พอรึเปล่า เพราะหน้าตาดูซีดเซียวจริงจริง คุณปราชญ์เลยสมทบว่า ถ้าหากว่าไม่ไหวก็หยุดงานไปเถอะ พรุ่งนี้ค่อยมาทำก็ได้ ฉันได้แต่บอกว่า ฉันไม่เป็นอะไร และขอเข้าประเด็นเรื่องวันนี้ทันที



“คุณปราชญ์และคุณป้าค่ะ...แป๋มมีเรื่องจะเรียนให้ท่านทราบค่ะ”



“เรื่องอะไรจ๊ะ”



“คือว่า.....วันนี้คุณปัถย์จะพาแป๋มมาพูดคุยกับท่านว่าจะขอหมั้นกับแป๋ม แทนหมั้นกับคุณตี้ค่ะ”



สีหน้าท่านทั้งสองมองหน้ากันไปมาอย่างตกตะลึงในคำพูดของฉัน ฉันตัดสินใจเล่าเรื่องราวที่มาที่ไปที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด ว่ามันเป็นเพียงแผนการณ์ของคุณปัถย์ที่ต้องการจะปฏิเสธงานแต่งระหว่างเขากับคุณตี้เท่านั้น ท่านทั้งสองก็เป็นผู้ใหญ่ที่ดีมาก ท่านรับฟังและไม่ได้พูดขัดฉันแต่อย่างใด ฉันได้แต่พนมมือกราบขอโทษที่ฉันมีส่วนร่วมในเหตุการณ์ครั้งนี้ น้ำตาของฉันพาลไหลไม่รู้ตัว









“แป๋มต้องแต่งงานกับผมเท่านั้นครับ เพราะเราสองคนมีอะไรกันแล้ว!!!!!!!!! ”






เสียงคุณปัถย์นี่น่า....ทำไมคุณปัถย์มาอยู่ที่บ้านหลังนี้ด้ายยยยยยยยยยยยยยยย








- - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -

มาให้ครบร้อยแล้วค่าาาาาา....ไรเตอร์สู้เพื่อคนอ่านที่น่ารัก....งานนี้แป๋มน้อยไม่รอดอย่างที่ตัวหล่อนคิดฝันไว้หรอกค่ะ เพราะอย่าลืมว่า คุณปัถย์แกประกาศกร้าวแล้วว่า อะไรที่เค้าอยากได้เค้าก็จะต้องได้....ว่ะฮ่ะฮ่าาาาา

ต้องติดตามลุ้นตอนต่อไปว่าจะเป็นยังไง
รักคนอ่านมากมากเลยยยยยย ทุกคนติดตามให้กำลังใจอย่างอุ่นหนาฝาคั่งจริงจริง....ซึ้งงงงงงงงง





คุณิณพัณณ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 14 ส.ค. 2554, 22:29:02 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 15 ส.ค. 2554, 11:17:23 น.

จำนวนการเข้าชม : 2362





<< บทที่ 9 : ใครมีลูกสาวมาแลกลูกเขย - - - 40%   บทที่ 10 : สงครามยังไม่จบ..อย่าเพิ่งนับศพทหาร - - -(40%) >>
linky 14 ส.ค. 2554, 23:03:53 น.
สนุกทุกตอน ชอบจริงๆๆๆๆ


xeve 14 ส.ค. 2554, 23:37:23 น.
เสียงหัวเราะไรเตอร์เนี่ยเหมือนตัวร้ายหนังจีนยังไงยังงั้น


เคสิยาห์ 14 ส.ค. 2554, 23:53:01 น.
ขำดีค่ะ เคยเขียนเรื่องอื่นแล้วเปลี่ยนนามปากการึเปล่าคะเนี่ย แนวแบบนี้คุ้นๆ ไงไม่รู้ แต่จำนามปากกานักเขียนคนนั้นไม่ได้แล้ว


ptyks 15 ส.ค. 2554, 03:29:16 น.
รอคอยและหมั่นเช็คเว็บ เพื่อเข้ามาอ่านเรื่องนี้เลยค่ะ


คุณิณพัณณ์ 15 ส.ค. 2554, 07:30:54 น.
ตอบคุณ เคสิยาห์ ไม่เคยเขียนเลยค่ะ เร่่ืองนี้ลองเขียนเป็นเร่ืองแรกค่ะ


รอให้เป็นเล่ม 15 ส.ค. 2554, 08:10:23 น.
ยัยแป๋ม เสร็จแน่


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account