เล่ห์รัก..กับดักนายพราน (รีไรท์)

Tags: อิศนะ วรดา ไร่ส้ม เชียงราย

ตอน: ตอนที่ 7.


“เอ๊ะ นี่ฉันว่ามันไม่ใช่ทางไปไร่เทพปกรณ์หรอกนะ”

วรดาร้องบอกห้วนๆเมื่อทัศนียภาพรอบสองข้างทางเริ่มเปลี่ยนเป็นเขตภูเขาสูงชันขึ้นเรื่อยๆ มองเท่าไหร่ก็ไม่เห็นบ้านเรือนผู้คนตั้งอยู่สักหลัง

“ทางลัด คุณไม่รู้จักหรอก”

“ทำไมต้องมาทางลัด ทำไมไม่ไปทางเดิม”

“คุณไม่อยากนั่งรถเที่ยวเพลินๆก่อนที่คุณจะไปขึ้นสังเวียนแย่งผัวชาวบ้านเขารึไง”

“รู้อะไรมั้ย ตั้งแต่ฉันเกิดมา ฉันไม่เคยเกลียดใครมากเท่าคุณมาก่อนเลยจริงๆ”

อิศนะไหวไหล่ยิ้มตาวาวก่อนจะหันมาตอบโต้

“สักวัน ผมจะทำให้คุณรักผมให้ได้”

“ไม่มีวัน”

วรดาแค่นเสียงในลำคอปรายตามองชายหนุ่มอย่างรังเกียจเดียดฉันท์

“ก็ดูๆกันไป น้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อน ไม่เคยได้ยินเพลงเขาร้องหรือ คุณอยู่กับผมทุกวัน ไม่รักผม คุณจะไปรักใคร”

“เดี๋ยว เมื่อกี้คุณพูดว่าไงนะ ใครจะอยู่กับคุณ แล้วนี่คุณจะไปไหน”

วรดาหันขวับไปมองหน้าคนขับอย่างเคลือบแคลงสงสัยเริ่มไม่แน่ใจเสียแล้วว่าอิศนะตั้งใจจะพาหล่อนกลับไร่เทพปกรณ์โดยใช้ทางลัดจริงๆอย่างที่เขาบอกหล่อนไปเมื่อครู่

“คุณจะไปไหน บอกฉันมาเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นฉันจะโดดลงจากรถคุณจริงๆด้วย”

วรดาสั่งเสียงห้วนมองหน้าชายหนุ่มราวกับอยากจะฉีกทึ้งเขาให้แหลกเป็นชิ้นๆ

“ก็เอาสิ โดดเลย แต่ก่อนจะโดด ดูให้ดีๆเสียก่อนล่ะ ข้างนอกนั่นเหวทั้งนั้น ขืนคุณโดดลงไปตอนนี้ ผมรับรองได้เลยว่าไม่มีใครหาศพคุณเจอแน่” อิศนะท้าทายอย่างคนที่ถือไพ่เหนือกว่า

“จอด จอดรถเดี๋ยวนี้นะ”

วรดากรีดเสียงร้องลั่นรถหล่อนถลาเข้าหาคนขับใช้กำปั้นน้อยๆของหล่อนระดมทุบลงไปที่ไหล่กว้างจนอิศนะต้องปล่อยมือข้างหนึ่งจากพวงมาลัยมาปัดป้อง

“อย่าน่า เดี๋ยวรถคว่ำ มาตายไกลบ้านขนาดนี้มันไม่คุ้มกันหรอก”

อิศนะเตือนสติหญิงสาว วรดาทำเสียงฮึดฮัดในลำคอแต่ก็ยินยอมเลิกทุบตีอีกฝ่าย อิศนะยิ้มเย็นๆอารมณ์ยังดีพอที่จะแกล้งยั่วหญิงสาวต่อ

“คิดว่าลงจากรถผมไปแล้วคุณจะปลอดภัยงั้นหรือ จะบอกให้รู้เอาไว้นะ แถวนี้มันเป็นถิ่นของพวกพม่าหลบหนีเข้าเมือง มีหลายก๊กหลายแก๊งเสียด้วยสิ เคยได้ยินมาว่าพวกมันชอบมาดักปล้นพวกที่ขับรถผ่านไปผ่านมา ก็คงแถวๆนี้แหละ ออกข่าวหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นเป็นประจำ ข่าวเขาว่าถ้าเหยื่อเป็นผู้ชายมันยิงทิ้ง แต่ถ้าเป็นผู้หญิงมันเรียงคิวข่มขืนจนหนำใจก่อนแล้วค่อยเชือดคอโยนศพทิ้งลงเหว”

วรดามองกราดออกไปนอกรถอย่างกลัวๆหญิงสาวไม่รู้จริงๆว่าสิ่งที่อิศนะกล่าวมานั้นเชื่อถือได้มากน้อยแค่ไหน แต่เมื่อมองออกไปยังนอกรถมันก็ช่างเงียบ เวิ้งว้าง มองไม่เห็นสิ่งปลูกสร้างใดๆทั้งสิ้น ไม่เห็นผู้คนหรือแม้แต่รถราที่วิ่งสวนทางกันไปมา สภาพถนนนั่นก็เถอะ กิ่งไม้ข้างทางงอกเงยกินเนื้อที่ไหล่ถนนเข้ามาจนรกเรื้อนเหมือนไม่มีรถราวิ่งสัญจรมานานเป็นแรมปี

“คุณจะพาฉันไปไหน”

วรดาหันกลับมาตวาดถามชายหนุ่มด้วยน้ำเสียงห้วนจัด

“ถามมากจัง ถึงเมื่อไหร่ก็รู้เองละน่า” อิศนะตอบยิ้มๆมองหน้าซีดๆของวรดาอย่างนึกขำ เขาเร่งความเร็วรถขึ้นอีกแม้ว่าถนนจะคดเคี้ยวแต่อิศนะก็ดูจะหักเลี้ยวหักหลบได้ทันใจราวกับเขาคุ้นชินกับเส้นทางสายนี้เป็นอย่างดี วรดาได้แต่นั่งฮึดฮัดขัดใจเมื่อทำอะไรอีกฝ่ายไม่ได้หญิงสาวก็เลือกที่จะนั่งเงียบๆหันหน้าออกไปมองนอกหน้าต่างรถไม่อยากจะเสวนากับคนขับจอมกวนอีกต่อไป

จากถนนที่วิ่งวนรอบไหล่เขาลัดเลาะเข้ามาตามแนวป่าสักสูงลิ่วทะลุออกมาที่เนินป่าหญ้าคาขนาดสูงท่วมหัว พ้นจากป่าหญ้าคาคือทางลาดลงไปสู่ป่าไผ่เขียวขจีที่กระจุกตัวเป็นแนวยาวตามลำน้ำสายหนึ่งที่คดเคี้ยวออกมาจากเทือกเขาสูงอันไกลโพ้น

อิศนะพารถมาจอดที่กระท่อมไม้ไผ่สองหลังซึ่งแฝงตัวหลบเร้นสายตาผู้คนภายนอกอยู่ในกลุ่มป่าไผ่หนาทึบ เขาดับเครื่องยนต์แล้วก้าวลงจากรถไม่ลืมคว้ากระเป๋าเดินทางของหญิงสาวที่วางอยู่บนเบาะหลังติดมือลงไปด้วย วรดากวาดตามองไปรอบๆตัวอย่างงุนงง นอกจากกระท่อมไม้ไผ่สองหลังที่แสนจะเงียบเชียบนั่นแล้ววรดายังมองเห็นเรือนแพไม้ไผ่อยู่ติดริมลำห้วยแยกออกไปเป็นสัดส่วนอยู่อีกหลังหนึ่ง

“ถึงแล้วล่ะคุณ ลงมาได้แล้ว”

วรดายังคงนั่งนิ่งไม่ยอมขยับเขยื้อนมีแต่ลูกนัยน์ตาวับๆเท่านั้นที่ตวัดมามองอิศนะอย่างขุ่นเคือง อิศนะถอนหายใจเฮือกเดินอ้อมมาเปิดประตูรถแล้วออกแรงฉุดหญิงสาวให้ลงจากรถ

“คุณบอกว่าจะพาฉันไปส่งที่ไร่เทพปกรณ์ แล้วคุณพาฉันมาที่นี่ทำไม”

“ที่นี่มันก็เป็นส่วนหนึ่งของไร่เทพปกรณ์ เดินอ้อมภูเขาลูกที่คุณเห็นอยู่นั่นไปอีกสักสองสามกิโลก็จะไปโผล่ที่ถนนทางเข้าด้านหน้า ที่นี่เขาเรียกว่าท้ายไร่ จะเอาส้มพันธุ์อะไรมาปลูกมันก็ไม่ได้ผล เจ้าของไร่เขาก็เลยเอาพวกไม้สักทองมาลงทิ้งไว้ แค่ห้าหกปีเท่านั้น มันก็สูงใหญ่มืดครึ้มเป็นป่าธรรมชาติชั้นดีไปอย่างที่คุณเห็นนั่นไง ทางเข้าอาจจะไกลแล้วก็ลำบากอยู่สักหน่อย แต่ที่นี่ก็เงียบสงบดี ไม่มีใครมาวุ่นวาย”

อิศนะอธิบายขณะเดินนำหน้าหญิงสาวตรงมายังบริเวณเรือนแพติดลำห้วยใหญ่ เรือนแพไม้ไผ่ตรงหน้าถูกสร้างไว้อย่างแข็งแรงมีทั้งส่วนที่ยื่นขึ้นมาบนพื้นดินและส่วนที่ยื่นล้ำกินเนื้อที่ลงไปยังลำห้วย อิศนะเดินนำหญิงสาวขึ้นเรือนตรงไปยังส่วนที่เป็นห้องนอน เขาวางกระเป๋าเดินทางของหญิงสาวเอาไว้บนเตียงใหญ่ก่อนจะเดินสำรวจตรวจตราสิ่งของอื่นๆภายในห้องครู่หนึ่งจึงหันกลับมาทางหญิงสาว

“เดี๋ยวผมจะไปตามคนงานมาทำความสะอาด ไม่ได้เข้ามาที่นี่เกือบเดือน สงสัยคนงานของผมมันจะขี้เกียจ ดูสิ! ทั้งฝุ่น ทั้งหยากไย่ สกปรกน่าดู”

“นี่คุณ คุณต้องการอะไรกันแน่ คุณพาฉันมาที่นี่ทำไม”

“พามาทำไมงั้นหรือ ก็พามาอยู่ด้วยกันไง จะเรียกยังไงดี วิวาห์เหาะดีมั้ย”

“อะไรนะ”

ดวงตาคู่สวยของวรดาเบิกค้างมองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างตื่นตะลึง “นี่คุณบ้าไปแล้วรึไงห๊า พาฉันออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้นะ ไม่อย่างนั้นฉันจะแจ้งความ จะให้ตำรวจลากคอคุณเข้าคุกจริงๆด้วย คุณขืนใจฉันแล้วยังคิดจะเอาตัวฉันมากักขังไว้ที่นี่อย่างนั้นหรือ คุณ คุณมันเลว นี่ฉันจะหาคำไหนมาด่าคุณดีนะ”

อิศนะปรายตามองหญิงสาวแว้บหนึ่งก่อนจะยิ้มนิดๆ

“นี่คุณ ฉันขอร้องละนะ คุณก็ได้ในสิ่งที่คุณต้องการไปแล้ว คุณจะมาอะไรกับฉันอีก พาฉันกลับไปหาพี่นุเถอะนะ นะ ฉันขอร้อง” วรดาพยายามจะอ้อนวอนชายหนุ่มอีกครั้งแต่อิศนะไม่มีทีท่าว่าจะใจอ่อน

“คุณต้องอยู่ที่นี่วรดา”

อิศนะย้ำเสียงเข้ม วรดากัดฟันกรอดมองหน้าชายหนุ่มราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ

“ไม่มีทาง ถ้าคุณไม่พาฉันออกไปจากที่นี่ ฉันก็จะหนี แล้วคุณ คุณจะต้องได้ไปนอนอยู่ในคุก”

“จะหนีงั้นเหรอ เอ...ทางไหนดีล่ะ"

อิศนะทำท่าลูบคางใช้ความคิด หากประกายตาเจ้าเล่ห์กลับเต้นพราวเมื่อมองสบสายตาเกรี้ยวกราดของหญิงสาว

"ผมก็ลืมบอกคุณไปว่าในรัศมีสองสามกิโลเมตรจากตรงนี้ไม่มีบ้านเรือนเลยสักหลัง จะมีก็แต่แคมป์คนงานพม่า มีแต่พวกหนุ่มๆรุ่นๆกำลังกลัดมันทั้งนั้น ร้อยวันพันปีไม่เคยได้พบเจอผู้หญิง คุณก็ลองนึกดูแล้วกันว่าพวกมันจะเปรมปรีกันแค่ไหนถ้ามีผู้หญิงขาวๆสวยๆอย่างคุณหลงเข้าไปในแคมป์ หรือคุณชอบล่ะ มีผัวทีเดียวเจ็ดสิบแปดสิบคน”

วรดาพูดอะไรไม่ออก มองกราดไปรอบๆตัวอีกครั้ง มีแต่ป่าไผ่เขียวครึ้มกับกลุ่มป่าหญ้าคาสูงลิ่วท่วมหัว จะมองไปทางไหนก็มีแต่ป่าทั้งนั้น ข้ามลำห้วยตรงหน้าไปก็เต็มไปด้วยแนวป่าสักทองมืดครึ้มมีเถาไม้สารพัดชนิดขึ้นรกเรื้อนจนแทบมองไม่เห็นผืนดิน อิศนะยกมือขึ้นกอดอกก่อนจะอธิบายต่อ

“อย่าริหนีไปทางป่าสักเชียวนะ เตือนเอาไว้ก่อน เห่าดงมันชุม บ่อยไป๊ ที่พวกคนงานพม่ามันแอบเข้าไปหาของป่าในนั้น เห็นถูกงูเห่ากัดตายอยู่ทุกปี ผมหวังว่าปีนี้คุณคงไม่ใช่ผู้โชคดีคนนั้นหรอกนะ”

วรดาอ้าปากค้างได้แต่มองชายหนุ่มตาเบิกโตใบหน้างามส่ายช้าๆอย่างไม่เชื่อว่าผู้ชายคนที่ยืนอยู่ตรงหน้า ท่าทางเขาก็ดูไม่ใช่คนบ้าแต่เขาก็บ้าจนวรดาคิดไม่ถึง

“คุณมันบ้า บ้า ได้ยินมั้ย”

“เอ้า! บ้าก็บ้า คุณรออยู่ที่นี่แหละ ผมไปตามคนของผมก่อน เดี๋ยวมา”

อิศนะเอ่ยทิ้งท้ายแค่นั้นก่อนจะสาวเท้าลงบันไดเดินหายเข้าไปตามแนวป่าไผ่มืดครึ้มนั่น

+++++++++++++++++++++++++++++++++

วรดาเดินออกมาจากห้องนอนใหญ่ด้วยสีหน้าครุ่นคิดเมื่อสักครู่นี้เองหญิงสาวเพิ่งจะรื้อเอาโทรศัพท์มือถือออกมาจากกระเป๋าตั้งใจจะโทรหาใครก็ตามที่สามารถช่วยเหลือหล่อนให้หลุดพ้นไปจากที่นี่ได้แต่มันก็เปล่าประโยชน์เพราะที่แห่งนี้คือจุดอับสัญญาณโทรศัพท์ทุกเครือข่าย เป็นอันว่าหล่อนคงไม่สามารถจะติดต่อกับโลกภายนอกได้แน่แล้ว

จะทำอย่างไรต่อไปดี…หนี...ก็ไม่รู้ว่าจะหนีไปทางไหน ข้ามลำห้วยนี้ไปก็ต้องผ่านแนวป่าสักทอง อิศนะเพิ่งบอกอยู่หยกๆว่างูเห่าชุม จะชุมจริงหรือไม่จริงวรดาก็ไม่คิดที่จะเสี่ยง ในป่าที่ไหนมันก็มีงู และขึ้นชื่อว่างู จะมีพิษหรือไม่มีพิษ วรดาก็กลัวทั้งนั้น

หรือจะหนีไปทางเนินเขาทางด้านโน้น เดินอ้อมไปอีกด้านของภูเขาก็ไปโผล่ด้านหน้าของไร่เทพปกรณ์แล้วไม่ใช่หรือ แต่มันก็ต้องผ่านแคมป์คนงานพม่า ถ้าวรดาเสี่ยงหนีออกไปทางนั้น แล้วเกิดไปพบคนงานพม่ากลัดมันนั่นเข้าจริงๆ คนพวกนั้นจะโหดร้ายป่าเถื่อนอย่างที่อิศนะพูดหรือเปล่า

เสียงฝีเท้าที่กำลังย่ำโครมๆขึ้นมาบนเรือนทำให้วรดาหยุดความคิดทันที หล่อนเห็นอิศนะเดินนำคนงานของเขาขึ้นเรือนมาหยุดยืนอยู่ตรงหน้า คนงานที่ว่าเป็นชายรูปร่างสูงใหญ่ ผิวของมันดำเกรียม หน้าตาดุดันทะมึงถึง อีกคนเป็นเด็กสาววัยรุ่นรูปร่างผอมกะหร่อง ผมเผ้าถูกรวบเก็บไว้อย่างกระเซอะกระเซิง มองแค่เพียงแวบเดียววรดาก็เดาได้ว่าคนงานสองคนนี้จะต้องไม่ใช่คนไทยแต่น่าจะเป็นชาวเขาชนเผ่าอะไรสักอย่าง

“รีบไปปัดกวาดเช็ดถูบนเรือน ที่หลับที่นอนเอาออกมาซักตากให้เรียบร้อย คืนนี้ฉันจะนอนนี่ อ้อ บอกสุนาให้เตรียมอาหารเย็นไว้ด้วยนะ จัดสำรับให้ด้วยสองที่ สำหรับฉัน แล้วก็ผู้หญิงของฉัน” ท้ายประโยคอิศนะปรายตามาทางหญิงสาว วรดาตาลุกวาวขึ้นมาทันทีทันใด เมื่อกี้เขาพูดว่ายังไงนะ ผู้หญิงของเขาอย่างนั้นหรือ บ้าที่สุด เขามีสิทธิ์อะไรมาใช้คำๆนั้นกับหล่อน

“นี่คุณ อย่ามาใช้คำๆนั้นกับฉันนะ ฉันไม่ใช่ผู้หญิงของคุณ”

“เอ...ไม่ให้ใช้คำนี้แล้วจะให้ผมใช้คำไหน”

อิศนะยิ้มเครียดๆก่อนจะหันไปสั่งงานต่อ

“นี่นายหญิงคนใหม่ ดูแลให้ดี อย่าให้คลาดสายตา เดี๋ยวตอนเย็น ฉันจะลงไปหาที่บ้านฟุก๋วย มีอะไรค่อยคุยกัน”

อิศนะตัดบทด้วยการไล่สองคนงานท่าทางประหลาดๆนั่นไปทำความสะอาดก่อนจะหันมาทางหญิงสาว

“ส่วนคุณ มาทางนี้”

อิศนะออกแรงหิ้วร่างของวรดาให้เดินตามเขามาจนถึงริมฝั่งห้วยซึ่งมีต้นไม้น้อยใหญ่ขึ้นบดบังแสงแดดยามบ่ายจัดให้ร่มรื่นขึ้น อิศนะปล่อยหญิงสาวให้เป็นอิสระ ส่วนเขาเดินไปทรุดตัวลงนั่งบนรากต้นไม้ใหญ่ที่ปูดโปนออกมาเป็นที่นั่งเล่นชมทัศนีย์ภาพของริมห้วยได้เป็นอย่างดี

“คุณว่าที่นี่เป็นไงบ้าง สวยใช่มั้ยล่ะ สวยกว่ารีสอร์ทบางที่อีก มันคงไม่ลำบากสักเท่าไหร่หรอกมั้งถ้าหากผมจะให้คุณอยู่ที่นี่ไปก่อนสักพัก ไว้ให้ผมจัดการอะไรๆให้เรียบร้อยแล้ว ผมสัญญาว่าจะปล่อยคุณให้ออกไปลั้ลลาใช้ชีวิตข้างนอกได้ตามแต่ใจ” อิศนะอธิบายเรื่อยๆตายังมองกวาดไปตามทิวทัศน์โดยรอบ

“คุณไม่มีสิทธ์มาทำแบบนี้กับฉัน”

วรดาหันมาพูดใส่หน้าเขา

“ผมรู้...แต่ผมจำเป็น”

“จำเป็นอะไร คุณขืนใจฉัน นั่นมันจำเป็นตรงไหนไม่ทราบ”

อิศนะถอนหายใจเฮือกจนด้วยคำตอบ รู้ว่าข้อนี้ตนเองมีผิดอยู่เต็มประตู

“ก็บอกแล้วไงว่าผมจะรับผิดชอบ”

“ไม่ต้องมารับผิดชอบ ฉันไม่ได้ต้องการความรับผิดชอบจากคุณ”

“นี่เราจะพูดกันดีๆไม่ได้เลยใช่มั้ย”

“พาฉันไปหาพี่นุสิ แล้วฉันจะพูดดีๆกับคุณ”

“คำก็พี่นุ สองคำก็พี่นุ ถามจริงๆเถอะ ไอ้หน้าขรึมนั่นมันมีอะไรดีนักหนา ขนาดว่ามันแต่งงานไปกับคนอื่นแล้วคุณก็ยังร่ำร้องอยากจะกลับไปหามันอีก จะว่าเรื่องบนเตียงมันเก่งกว่าผมก็คงจะไม่ใช่ คุณยังไม่เคยนอนกับมันมาก่อนเลยไม่ใช่หรือ”

“คุณจะมารู้ดีไปกว่าตัวฉันได้ยังไง”

“ผมรู้แล้วกันว่าคุณไม่เคยมีอะไรกับนายภานุ ที่จริง คุณไม่เคยมีอะไรกับใครก่อนหน้าผมด้วยซ้ำ”

วรดาเชิดหน้าก่อนจะมองอิศนะด้วยแววตาเหยียดๆ

“ถ้าคิดแบบนั้นแล้วมันทำให้คุณสบายใจก็เชิญคิดต่อไปเถอะ ฉันกับพี่นุเราคบกันมาตั้งห้าหกปี มีอะไรกันไปไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว อย่าคิดว่าคุณจะเป็นผู้ชายคนแรกของฉันหน่อยเลย”

อิศนะทำหน้ายิ้มๆเหมือนกำลังขบขันอะไรสักอย่าง

“คุณว่าผมไม่ใช่ผู้ชายคนแรกของคุณอย่างนั้นหรือ โอเค ไม่ใช่ก็ไม่ใช่ แต่ผมถามอะไรคุณหน่อยสิ ถ้านายภานุเป็นผู้ชายคนแรกของคุณ ไอ้ห้าหกปีนี่ สอนกันมาได้แค่นี้เองหรือ ผมไม่รู้หรอกนะ ว่านายภานุมันสอนคุณมายังไง แต่ขอบอกตามตรง ว่าสอนได้ห่วยมาก มากถึงมากที่สุด แม้แต่จูบ คุณยังทำไม่เป็นเลย”

“คุณ!”

วรดาโกรธจนหน้าสวยๆนั้นแดงก่ำ หล่อนกำมือแน่นดวงตาคู่สวยจ้องเขม็งที่หน้าอิศนะ

“ไอ้เรื่องบนเตียงนี่ ถ้าคุณคิดจะเอาให้เก่ง มันก็ต้องเลือกครูสักหน่อยนะ แต่ไม่ต้องกังวลไปหรอก เดี๋ยวผมจะสอนคุณใหม่ สอนให้หมดทุกอย่าง ทุกท่า เอาตั้งแต่ขั้นพื้นฐาน ไปจนถึงหลักสูตรชั้นสูงเลยทีเดียว นี่ไม่ได้คิดจะคุยหรอกนะ แต่ผมนี่ผ่านมาหมดแล้วทั้งร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ รับรอง เพื่อคุณ งานนี้ผมทุ่มสุดตัว”

“ทุเรศ! ไปสอนอีด่างข้างทางโน้นเถอะไป๊”

วรดาตวาดแว้ดก่อนจะสะบัดหน้าพรืดเดินหนีชายหนุ่มไปอย่างเร่งด่วนเพราะไม่เช่นนั้น หล่อนคงจะโจนเข้าไปทำร้ายคนร่างใหญ่ให้ได้เลือดเป็นแน่

“อ้าวคุณ ไปไหนล่ะ”

อิศนะตะโกนมาตามหลัง

“มาเรียนบทแรกกันก่อนดีมั้ย เดี๋ยวผมจะสอนว่าจูบกันนี่เขาต้องทำยังไงบ้าง”

ครั้นเห็นหญิงสาวเดินจ้ำอ้าวหนีขึ้นเรือนไปแล้วอิศนะก็ปล่อยเสียงหัวเราะออกมาเบาๆ

++++++++++++++++++++++++

ขอบคุณที่แวะเวียนมาอ่านค่ะ

โอชิน.



โอชิน
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 1 ต.ค. 2560, 09:56:13 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 1 ต.ค. 2560, 09:56:13 น.

จำนวนการเข้าชม : 1067





<< ตอนที่ 6.   ตอนที่ 8. >>
phakarat 3 ต.ค. 2560, 11:04:22 น.
รอติดตามนะคะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account