เกมรักมายาลวง (ซี่รีี่เหมืองเถื่อน)
บาดแผลในชีวิต หยาดน้ำตา ใครลิขิต เธอ (ธารธารา) หรือ เธอ (ธาราธาร)

หญิงสาวต่างแม่สองคน ใบหน้าเหมือนกัน ถูกชะตาเล่นตลก เมื่อวันที่เธอคนหนึ่งหายไป อีกคนก็กลับมา

ความชิงชัง เป็นพิษร้าย ทำลาย แม้กระทั่งชีวิต ต่อสู้ ช่วงชิง ร้ายมาร้ายกลับ ด้วย...เกมรักมายาลวง

เขา คือความอบอุ่นในชีวิต ที่ลิขิตหัวใจเธอ ตั้งแต่แรกเจอ

ความเจ็บซ้อนซ่อนด้วยหยดน้ำตา มาพร้อมคำว่า ...เธอคือคนที่ใช่

รอยยิ้ม ความรัก ใครจะได้ครอบครอง ‘เธอ’ คนที่ใช่ ‘เขา’ หรือ ใช่ ‘เธอ’ หรือเปล่า

Tags: โรมานซ์

ตอน: ตอน 9

ตอน 9
ธอร์ได้คำตอบจากเสียงชื่นชมของผู้คนในงาน ว่าผู้หญิงที่เขามองไม่วางตาด้วยความสงสัย คือนางเอกดังของวงการบันเทิง จากนั้นเขาใช้โทรศัพท์มือถือหาตัวตนของเธอในอินเตอร์เน็ต รูปถ่ายส่วนตัวมีน้อยแต่ภาพถ่ายเรื่องงานมีมากมาย หลากหลายอริยบท ขึ้นปกหนังสือทั้งไทยและต่างประเทศ รวมถึงประวัติของครอบครัวที่มีเพียงนิดเดียว และไม่มีบันทึกว่าเธอมีพี่น้อง ความสามารถ ความเก่ง โด่งดังชนิดที่เขาคิดไม่ถึง

เขาไม่รู้ว่าคนที่เธอยืนคุยอยู่นั่นเป็นใครแต่จากสายตาที่เขาเห็น ไม่ใช่มิตรที่ดีแน่นอน และเมื่อเห็นเธอเดินแยกออกมา เขาก็แสร้งเดินเหมือนไปหาใครสักคน แล้วไปชนเธอเบาๆ “ขอโทษครับ” เขาเอ่ยออกมาพร้อมกับจับแขนเรียวไว้เมื่อตัวเธอเซจะล้ม

ธาราธารที่อารมณ์ไม่ดีจากไฮโซแบมต้องขบฟันข่มความไม่พอใจไว้สุดขั้ว แต่แววตานั้นไม่อาจกักความเกรี้ยวกราดไว้ได้เลย แต่พอหันหน้ามามองคนชน ความรู้สึกเหล่านั้นหายไปเพราะหน้าตาที่หล่อราวกับเทพบุตร ที่ออกมาจากนักรบกรีกโบราณ เธอเหมือนหลงไปกับความหล่อของเขา แต่ผู้ชายที่เธอยังไม่รู้หัวนอนปลายเท้า เธอไม่ควรจะใส่ใจมากนัก ดึงสติกลับมา แต่ยังรักษามารยาทด้วยมารยา

“ไม่เป็นไรค่ะ ต้องขอโทษที่ชนคุณด้วย”

“คุณเจ็บหรือเป็นอะไรหรือเปล่า” เขาถามพลางลอบมองไปทั่วตัวเธอ

“ฉันไม่ได้เป็นอะไร และไม่ได้เจ็บด้วย”

คำตอบของเธอพ้องกับสิ่งที่เขาเห็น ชุดเซกที่เธอใส่ก็ปิดบังเนื้อตัว ทำให้เขาไม่เห็นแผลที่เกิดจากอุบัติเหตุ “คุณจะเดินไปไหนครับ ผมจะเดินไปส่ง เพื่อขอโทษที่ชนคุณ”

“อย่าเลยคะ เสียเวลาเปล่า”

บอกแล้วเธอก็ดึงแขนออกจากมือหนา ขณะที่ธอร์ก็รู้ว่าคำพูดของเธอคือการตัดรอนมิตรภาพใดๆก็แล้วแต่ที่เขาจะมีให้เธอ เขามองใบหน้างามนิ่งและพิจารณา คิดถึงตั้งแต่วันแรกที่เขาเจอเธอตอนที่ช่วยขึ้นมาจากทะเล กระทั่งถึงตอนที่ตัดผมให้เธอ ทุกรายละเอียดบนใบหน้าของเธอนั้นเขาจดจำได้แม่นยำ หรี่ตาลงเล็กน้อยแล้วก็ถอยห่างออกมาจะเดินจากไป แต่เหมือนมีบางอย่างยังคาใจ หันมาถามว่า

“เราเคยเจอกันไหมครับ”

“ไม่ค่ะ”

ธอร์เดินไปทันที นางเอกตัวปลอมถึงกับอึ้ง ที่ไม่มีท่าทีอาลัยอาวรณ์ใดๆทั้งที่ก่อนหน้านี้ท่าทางเขานั่นบอกว่าสนใจเธอ เธอตวัดสายตามองเหยียดไปแล้วเชิดหน้าขึ้นเดินไปหาคนเป็นแม่ แต่เดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็ต้องมีอาการน้ำขุ่นไว้ในน้ำใส่ไว้นอก ยิ้มดีใจให้คนที่เดินมาขวางหน้าไว้ ทั้งที่ในใจนั้นอยากจะกรีดหรือผลักให้พ้นไป เพราะคนที่มาขวางนั่นคือ ...แม่จอมปลอม

เธอต้องสวมหน้ากากดีใจ ยกมือขึ้นไหว้ นางจรัสแขก็เช่นกัน จับมือถือแขนลูกจอมปลอม ทักทายถามไถ่ราวกับห่วงใยเหลือเกิน ทั้งที่ใจจริงรังเกียจและอยากด่าทอให้เจ็บแสบ “เป็นไงบ้างจ๊ะ เหนื่อยไหม”

“ไม่ค่ะ งานบุญงานกุศล เผื่อแผ่ให้น้องนะคะ ไม่เหนื่อยเลยค่ะ”

“ดีแล้วจ๊ะ ทำไว้เยอะๆนะ เพราะเวลาหมดบุญ จะได้ไม่ลำบาก”

ว่าแล้วก็หันไปยิ้มกับเพื่อนพ้องที่ยืนข้างๆ แล้วแนะนำให้ลูกจอมปลอมได้รู้จัก จากนั้นทุกคนก็ขอถ่ายรูปกับนางเอกดัง คนโน้นถ่ายทีคนนี้ถ่ายที วนไปวนมา กว่าจะพอใจและจากไปเธอทั้งเหนื่อยและเมื่อย คนที่ยืนดูอยู่มีแต่ความสะใจ แต่คนที่โดนกระทำรู้ว่าเป็นการกลั่นแกล้ง และเมื่อยืนกันอยู่สองคน ภายนอกที่ทุกคนเห็นคือความน่ารักของลูกที่มีต่อแม่ โอภาปราศรัยห่วงใยกันแต่คำพูดที่ไม่ให้ใครได้ยินนั้นเป็นอีกอย่างหนึ่ง

“หนูทำเพื่อพี่น้ำอยู่นะคะ คุณน่าสนับสนุนน่าจะดีใจ มากกว่าจะพาใครต่อใครมาวุ่นวายกับหนูแบบนี้”

“ฉันรู้อยู่แก่ใจต่างหาก ว่าที่เธอทำเพื่ออะไร อย่าสักแต่ว่ามีปากแล้วพูดแต่ความดีออกมา ส่วนความชั่วปิดบังไว้”

“หนูไม่มีอะไรจะปิดบัง”

“ฉันไม่ใช่กบในกะลาที่จะไม่รู้ไม่เห็นว่าเธอมันไม่ได้ใสซื่อเหมือนหน้าตา ถ้ามีสำนึกสักนิดหรือทำเพื่อลูกฉันจริงๆ คงคงไม่ไปยุ่งย่ามในคอนโดที่เป็นพื้นที่ส่วนตัวแบบนั้น”

“หนูทำ เพื่อความสมจริงต่างหาก”

“อมพระทั้งวัดมาพูดฉันก็ไม่เชื่อ เพราะที่ฉันเห็นคือความอยากได้ของเธอต่างหาก”

“คุณนี่มโนเก่งนะคะ ระวังมันจะหลอนจนต้องไปโรงพยาบาล...” เสียงตอนท้ายไม่ได้ดังออกมา แต่นางจรัสแขก็อ่านปากออกว่า ...บ้า อยากจะตบหน้าเด็กเมื่อวานซืนที่ด่าเธอออกมานัก

“งั้นเธอก็ระวังให้ดี เพราะถ้าฉันเป็นขึ้นมาจริงๆ ฉันจะพังทุกอย่างให้ราบเป็นหน้ากลอง ที่อดทนอยู่เพื่อหน้าตาของตระกูลธรธารา ไม่ใช่เธอหรือแม่ของเธอ และก็เก็บหางเธอไว้ให้ดี อย่าเผลอให้ฉันไปเจอหรือเหยียบเข้าละ เดี๋ยวจะวิ่งพล่านจนพลาดเข้าสักวัน”

“คุณหมายความว่ายังไง”

“ถามแบบนี้ แสดงว่าต้องมีอะไรซ่อนไว้ใช่ไหม เด็กเมื่อวานซืน” พูดแล้วก็ยิ้มเหยียดที่เหมือนอีกฝ่ายตกหลุมพรางของเธอเข้าให้แล้ว แล้วเดินเชิดหน้าจากไปคุยกับคนอื่น

ธาราธารกำมือจนเล็บจิกเนื้อเจ็บไปถึงใจ ที่ไม่ทันความรอบจัดของแม่จอมปลอม ไม่มีกะจิตกะใจจะไปหาแม่ตัวจริง หยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อโทรหาผู้จัดการสาวให้พาเธอกลับ
**********
ทายาทของแอ็คส์แน็คที่ยังไม่ได้จากไปไหน ยังคงจับตามองหญิงสาวที่เขาสงสัยอยู่ว่าใช่คนเดียวกับที่เขาเพิ่งไปส่งที่คอนโดมาหรือไม่ และคิดเปรียบเทียบความเหมือนความต่างจากประสบการณ์คู่แฝดของตระกูลเขา นายเหมืองฆิตกับนายเหมืองฆิค ลูกชายของนายเหมืองเถื่อน สองคนนี้เหมือนกันมาก ถ้าไม่ใช่คนสนิทหรือเป็นคนในตระกูลจะแยกไม่ออกเลย ว่าคนไหนนายเหมืองฆิตหรือนายเหมืองฆิค อีกคู่ก็คือลูกฝาแฝดของนายเหมืองฆีนทร์กับดั่งดวงฤทัย หญิงสาวที่เปรียบเป็นดอกรักของจอมเถื่อนของเขานั่นเอง

และจากที่คิดเขาเชื่อมั่นว่าเป็นคนละคนแน่นอน แต่เมื่อยังพิสูจน์ไม่ได้ ความคลางแคลงใจก็ย่อมยังมีอยู่ จึงคิดต่อว่าจะทำไงดี คิ้วข้างหนึ่งเลิกขึ้นเหมือนกับนึกอะไรออก แต่สีหน้าบอกความไม่ชอบใจ เมื่อสุดท้ายเขาก็ปลดพันธนาการแห่งสายเลือดไม่ได้ ‘ปีกของแอ็คส์แน็คกว้างเสมอ’

มือถือถูกหยิบออกมาจากกระเป๋าด้านในของเสื้อสูท กดโทรออก สั่งไปยังคนที่สามารถสนองความต้องการเขาได้ ซึ่งก็คือหมอปลา ที่ตอนนี้คงแยกกับฉลามไปอยู่โรงพยาบาลประจำที่ทำงานอยู่แล้ว เขาถามหาความจริงที่เคยสงสัยอยู่ แล้วได้คำตอบกลับมาว่า

“เธอเป็นนางเอกดังครับ แต่เรื่องฝาแฝดนี้ผมไม่ทราบ”

“แล้วจะชดใช้ความผิดที่ปกปิดเรื่องนี้กับฉันยังไง”

“นายธอร์โกรธเหรอครับ”

“เสียงฉันใจดีหรือไง”

คำย้อนกลับไปนั้นทำให้หมอปลายิ้ม แต่ไม่หวั่น เพราะรู้ว่าเขาใจดี และพอจะรู้ใจนายหนุ่มอยู่บ้าง ก็ขอเวลาไม่เกินห้านานที ก็ชดใช้ด้วยตัวเลขสิบหลัก

ธอร์มองตัวเลขที่ปรากฏขึ้นในมือถือเขา แล้วกดโทรออกทันที รอสัญญาณไม่นาน ก็มีเสียงที่เพียงได้ยินก็ยิ้มโดยไม่รู้ตัว แล้วพูดออกไป พร้อมกับมองไปที่หญิงสาวอีกคนที่เขาสงสัย ซึ่งก็กำลังคุยโทรศัพท์อยู่เช่นกัน

“ทำอะไรอยู่”

หญิงสาวที่รับสายงุนงง ตั้งแต่เห็นเบอร์ที่โทรเข้ามา ยิ่งได้ยินเสียงที่เหมือนจะคุ้นเคย ก็ยิ่งงง แต่เพียงเดี๋ยวเดียวความคุ้นเคยและการจากลาที่ไม่นาน ก็คิดออกว่าเป็นของใคร ความยินดีวาบเข้ามาในหัวใจ แต่ถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่ไม่ค่อยพอใจ “คุณเอาเบอร์ฉันมาจากไหน”

“ลืมไปแล้วเหรอว่าฉันเป็นเทวดา บอกมาว่าเธออยู่ไหน”

“เรื่องของฉัน”

“ถ้าไม่อยากให้ฉันบุกไปถึงคอนโด ก็บอกมา” เสียงขู่นั่นทำให้เธอชั่งน้ำหน้าเขาขึ้นมาอีก ไม่อยากจะบอกแต่ก็ไม่อยากให้สิ่งที่เธอคิดจะทำพังลงไป จึงตอบไปว่า

“ชนแก้ว”

นทีที่นั่งอยู่ข้างๆนางเอกดัง ยิ้มขำกับคำตอบ และไม่รู้ว่าอีกฝ่ายที่ได้ยินจะคิดยังไงกับคำๆนี้ แต่ถ้าเขาสื่อถึงความคิดของกันและกันได้ ก็ได้รู้ว่า ธอร์กำลังคิดถึงเรื่องราวความรักของแม่กับพ่อเขา ซึ่งพ่อแม็คเคยเล่าตอนที่พบกับแม่นั่น ท่านกำลังเมาอยู่เหมือนกัน “เมรีเหรอ”

“ก็แล้วแต่คุณจะคิด”

เขานิ่งไปนิด ก่อนจะถามกลับมาอีก “แผลเป็นยังไงบ้าง” เสียงเขามีความห่วงใยเจือปนมา ความอบอุ่นเกิดขึ้นในหัวใจคนฟัง แต่คำตอบช่างตรงข้ามกันเหลือเกิน

“เหมือนเดิม”

“งั้นพักผ่อนได้แล้ว และเลิกชนแก้วเมื่อไร โทรหาฉันด้วย”

“ฉันไม่...”

“ถ้าไม่โทร เธอได้เจอหน้าฉันแน่”

คำพูดของธารธาราที่จะโต้กลับไป ต้องกลืนลงคอ เมื่อคนสั่งตัดสัญญาณไปแล้ว อารมณ์ทั้งชั่งน้ำหน้าและหมั่นไส้ จนสบถออกมาเบาๆ “คนบ้า” ว่าแล้วสีหน้าก็เคืองออกมา แล้วต้องเปลี่ยนเป็นงงเพราะเพื่อนที่นั่งอยู่ข้างๆ เปรยออกมา

“ฉันหมดหวังแล้วซินะ”

เธอนิ่งคิดเพียงนิดก็รู้ว่าเพื่อนหมายถึงอะไร มองค้อนแล้วบอกว่า “ฉันยังไม่ได้คิดอะไรเสียหน่อย”

“แต่ฉันเคยเห็นผู้หญิงที่ว่าผู้ชายแบบนี้ มีใจให้ทุกคน”

“ยกเว้นฉัน”

“แต่เธอก็ไม่เคยพูดแบบนี้กับใคร แม้กระทั่งฉัน ที่ชอบเธอ”

น้ำเสียงที่จริงจังกับแววอาวรณ์ในดวงตาที่เห็นชัดเจน ทำให้เธอต้องถอนหายใจออกมา แล้วบอกว่า “เราพูดเรื่องนี้กันเข้าใจแล้วนะ แต่ถ้าแกไม่ยอมจบ ฉันจะจบเอง”

“แกใจร้ายมากนะ แม้แต่ความรู้สึกเล็กๆน้อย ก็จะไม่ให้มีเหลือเลย”

“ฉันไม่อยากทำร้ายแกต่างหาก ถ้าไม่ยอมชัดเจน ไม่ย้ำชัด แกก็ยังมีความหวังและคิดว่าสักวันฉันจะใจอ่อน ซึ่งไม่มีทางอยู่แล้ว ฉันรู้ใจตัวเองดีว่าเป็นเพื่อนกับแกได้เท่านั้น และความรักจากเพื่อน ไม่มีการเทหรือเงิบเด็ดขาด”

“ไอ้บ้า”

ธารธาราหัวเราะออกมาเบาๆ เมื่อถูกด่า เพราะนั่นแสดงว่านทีล้อเธอเล่น ยกแก้วขึ้นชนกับเขา โดยไม่รู้ว่าใจจริงของเขานั้นยังรู้สึกชอบเธอไม่เสื่อมคลาย แต่ต้องเก็บไว้ให้ลึกสุดใจและสุขใจที่ได้เห็นเธอยิ้มหัวเราะออกมา ซึ่งเขาก็มีความสุขไปด้วย ยกแก้วขึ้นชนกับเธอ พอวางแก้วลง คำถามคลายความสงสัยก็ดังออกมา

“คนบ้าคือใคร”

“คนที่ทำให้ฉันรอดมาจากการฆาตกรรม แล้วเลิกถาม เพราะฉันมีเรื่องต้องทำอีก แล้วเดี๋ยวไปส่งฉันด้วย”

“จะทำอะไรอีก

“จับแพะชนแกะ”

นทียิ้มแล้วรอฟังว่าการจับแพะชนแกะนั่นคืออะไร
**********
ธอร์เดินออกมาจากห้องบอลรูม เมื่อคนที่เขาจับตามองอยู่กลับไปแล้ว แต่ความสงสัยเขายังไม่หมดไป เมื่อตลอดเวลาที่เขาคุยโทรศัพท์กับอีกคน ก็เห็นเธอคุยโทรศัพท์อยู่เช่นกันและวางพร้อมกัน เขาถอนหายใจออกมาเมื่อไม่อาจฟันธงลงไปร้อยเปอร์เซ็นต์ ส่วนเรื่องที่มาดามมอบหมายมาให้บริจาคเงินให้เด็กๆ เขาก็ทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงไม่มีความจำเป็นต้องอยู่ต่อ แต่เขาไม่แน่ใจว่าเรื่องที่เขาสงสัยอยู่ คือสิ่งที่มาดามรู้ แล้วให้เขามาดูให้รู้ให้เห็นกับตาหรือเปล่า

สองเท้าก้าวผ่านประตูออกเพียงไม่กี่ก้าว ก็ต้องหรี่ตาเมื่อมีแสงเฟรชสว่างวาบเข้าหน้า หน้าคมเคร่งขรึมบอกความไม่พอใจ เมื่อถูกถ่ายซึ่งหน้าในระยะประชิดขนาดนี้ แล้วเดินหลีกไปอีกทางเป็นการบอกให้รู้ว่าเขาไม่สะดวกที่ถ่ายรูปเขา แต่...

“ท้องทะเลสงบหรือครับ ถึงได้ขึ้นมาเดินเล่นที่นี่”

ใบหน้าคมหันขวับมาทันที สายตาจับจ้องมองคนถาม หน้าตาดูเป็นอีแร้งแก่ที่รอบจัดไม่น้อย ถ้อยคำที่พูดออกมาเพื่อหยุดเขา นั่นบอกได้ว่ารู้เรื่องของเขาไม่น้อย ดวงตาหรี่มองบัตรที่ห้อยคอ สำนักข่าวนั่นเห็นไม่ชัดเพราะมีบัตรสื่อมวลชนทับอยู่ อีกฝ่ายก็หรี่ตามองตาม ไม่มีความหวาดหวั่น และบอกอีกว่า

“ทายาทแอ็คส์แน็คที่ไม่ค่อยออกสื่อขึ้นจากวารีมาทั้งที ให้เกียรติถ่ายรูปกับสัมภาษณ์หน่อย ได้ไหมครับ”

“รู้จักฉันเหรอ”

“ก็เป็นธรรมดาของนักข่าว”

“แต่ฉันไม่ชอบเป็นข่าว” เขาปฏิเสธแล้วจะผละไป แต่ดูเหมือนอีแร้งแก่จะดื้อด้าน ขยับตัวขวางไว้

“แค่คำถามไม่กี่ประโยค คุณไม่น่าจะปฏิเสธนะครับ หรือถ้าไม่อยากพูด จะพูดในเรื่องของธุรกิจของตระกูลก็ได้ แล้วเดี๋ยวนี้มาดามโรสไม่ออกงานแล้ว ไม่ทราบว่าท่านสบายดีหรือเปล่าครับ”

“อยู่ให้ห่างฉันไว้จะดีกว่า”

“ถนัดกับคำขู่หรือครับ”

ธอร์สบตาที่มีความท้าทายอยู่ในที แล้วเดินเข้าไปชิดตัว “ถ้ารู้ว่าฉันเป็นใคร ก็น่าจะรู้ว่าสายเลือดฉันเป็นยังไง และคนที่รู้จริงจะนิ่งเงียบ ส่วนคนที่รู้มากแล้วโอ้อวด ประสบการณ์ไม่บอกให้รู้หรือว่า สุดท้ายแล้วจะเป็นยังไง และถ้าอยากพลิกชะตาชีวิตก็ลองดู”

อีแร้งแก่ไม่สะทกสะท้านกับคำพูดนี้ แต่ไม่รั้งเขาไว้อีก เปิดทางให้เขาเดินจากไป จากนั้นก็ยกกล้องถ่ายรูป ที่มีรูปของทายาทของแอ็คส์แน็คขึ้นมาดู แววตาสมใจที่สามารถถ่ายรูปเขาไว้ได้ แล้วลงรูปในโซเชียล เพื่อเรียกความฮือฮาเพราะน้อยคนจะได้เห็นเมธิส แอ็คส์แน็ค กัปตันเรือที่แสนหล่อและคนเก่งคนนี้
*******
นางเอกตัวปลอมนั่งหน้าตึงอยู่บนรถตู้ ความโกรธยังอัดแน่นอยู่ในใจ ทั้งไฮโซสาวและแม่จอมปลอมที่สร้างความเจ็บใจให้กับเธอ ความคิดที่จะเอาคืนทั้งสองคนนั่นมีอยู่แล้ว แต่เธอต้องรอเวลาเท่านั้น เก็บความร้ายไว้ในแววตาพลางหยันไปถึงทั้งสองคน

ขณะที่ผู้จัดการสาวที่นั่งอยู่ข้าง ก็ต้องเก็บความไม่พอใจหญิงสาวไว้เหมือนกัน ที่กลับอย่างกะทันหัน ทั้งๆที่นักข่าวมารอสัมภาษณ์กันมากมาย ถึงประเด็นร้อนที่เธอมาเป็นฟินาเล่แทนไฮโซสาว และตอนนี้ก็เริ่มมีข่าวในโซเชียลถึงกรณีที่เธอชิงหนีหนักข่าวออกมาแล้ว การกระทำของหญิงสาวในวันนี้ทำให้เธออดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบกับนางเอกตัวจริงอีกแล้ว รายนั้นต่อให้วีนเหวี่ยงหรือมีเรื่องไม่สบายใจอยู่ แต่รับผิดชอบกับงานได้ดีเยี่ยม

มีลักขณาคันปากอยากจะถามเหลือเกิน ว่าทำไมถึงรีบกลับ ตอนที่โทรหาเธอให้พากลับ ถามหาเหตุผลก็ไม่ยอมบอก มีแต่สั่งให้ไปบอกท่านผู้หญิง ว่ามีงานด่วนเข้ามาต้องรีบไป ไม่อาจอยู่ร่วมงานเลี้ยงได้ หรือเพราะไฮโซแบม ซึ่งเธอเห็นว่าทั้งคู่ยืนคุยกันอยู่ และยังมีแม่ของนางเอกตัวจริงอีก ตอนนั้นเธอไม่สามารถเข้าไปดูแลได้ เพราะติดคุยกับผู้ใหญ่ที่เคารพ และเธอก็อดไม่ได้ต้องถามออกมา

“ทำไมคุณน้องรีบกลับและไม่ให้สัมภาษณ์นักข่าวคะ ไม่พอใจไฮโซแบมกับคุณจรัสแขหรือเปล่า ถ้าใช่พี่ว่าอย่าไปใส่ใจเลย แต่คุณน้องไม่ควรจะหลบนักข่าวออกมาแบบนี้มันจะทำให้...”

“จะเป็นอะไรก็ช่าง” ธาราธารตัดบทขึ้นมา “แต่พี่มี่ช่วยเช็กทุกงานที่ไฮโซนั่นไป งานไหนมีมันต้องไม่มีธารา และแย่งทุกงานที่มันทำ มาให้ธาราด้วย”

“อุ้ย ไม่ดีมั่งค่ะคุณน้อง” มีลักขณะตกใจกับคำสั่ง “การเกาเหลากันในวงการไม่ดีหรอกค่ะ อย่าลืมว่าเรามีความลับที่ไม่อาจให้ใครรู้ได้ การไปทำให้เกิดเรื่องใดเรื่องหนึ่งขึ้นมา จะนำพาไปสู่การขุดคุ้ย แล้วจะลำบากนะคะ”

หญิงสาวนิ่งคิด แล้วพยักหน้ายอมรับ เพื่อให้ผู้จัดการสาวเห็นว่าเธอยังว่านอนสอนง่าย แต่ใจจริงใช่ว่าจะยอมถอยแค่นี้ เมื่อสิ่งที่ถามไปนั่นแค่อยากรู้ว่ายัยผู้จัดการจะว่ายังไงเท่านั้นเอง วิธีที่จะเธอจะทำจริงๆนั้น ไม่มีใครคิดถึงแน่นอน

มีลักขณาพอใจที่เห็นว่าหญิงสาวรับฟัง “ส่วนเรื่องที่ชิงหนีนักข่าว อย่าทำอีกนะคะ เพราะอาชีพเราต้องพึ่งเขา จะดังหรือดับพวกเขามีส่วนสำคัญ เราอุส่าสร้างโปรไฟล์ใหม่ๆขึ้นมาจนสำเร็จไปขั้นหนึ่งแล้ว อย่าให้พังเพราะเรื่องส่วนตัว อีกเดี๋ยวคงมีนักข่าวโทรเข้ามาถามไถ่ พี่ก็ต้องหาคำพูดสวยดีๆที่เป็นเหมือนผักชีมาโรยกลบกลิ่นเรื่องนี้”

น้ำเสียงที่ไม่ค่อยพอใจของผู้จัดการสาว ทำให้นางเอกตัวปลอมต้องกดอารมณ์ข่มคำพูดแรงๆที่จะต่อว่าออกไปไว้ เพราะเธอยังเป็นเหมือนเด็กที่เพิ่งตั้งไข่ เดินสะเปะสะปะอยู่เข้ามาในโลกมายา รอเวลาให้เธอเดินได้มั่นคงเมื่อไร จะเหยียบหัวไม่ให้เงยขึ้นมาได้อีกเลย

“ขอบคุณค่ะ และขอโทษนะคะที่ทำให้พี่มี่ลำบาก”

“ไม่เป็นจ๊ะ แต่ออกงานคราวหน้า คุณน้องเตรียมตัวตอบคำถามให้เหมือนที่พี่จะให้สัมภาษณ์พวกนักข่าว หรือสื่อบางฉบับไปก่อนแล้วกัน”

“พี่มี่จะตอบว่าไงคะ”

“ก็ตอบให้เขาเห็นใจ เข้าใจ ที่สำคัญต้องเรียกความสงสารด้วยญาติผู้ใหญ่ที่ป่วยไข้ หรือไม่สบายกะทันหัน ต้องรีบไปดูใจ เฮ้ยไปเยี่ยมค่ะ และไม่มีใครเหมาะเท่ากับ...คนแก่”

ธาราธารรู้ได้ทันทีว่าหมายถึงใคร “คุณย่า” ว่าแล้วสีหน้าก็แสดงความไม่สบายใจออกมา ให้ผู้จัดการสาวเห็นว่าเธอเคารพรักท่านแค่ไหน แต่ใจจริงนั้นไม่มีความรู้สึกอย่างนั้นเลย เพราะที่ผ่านมาเธอไม่เคยได้รับความรักเลย ได้แต่ความเอื้ออาทรเล็กๆน้อยๆเท่านั้น แต่ยังแสร้งถามผู้จัดการสาวออกมาว่าด้วยเสียงที่กังวล “จะดีเหรอคะ

“ก็ไม่ค่อยดีเท่าไร” มีลักขณาเองก็หน้าเสียมีความรู้สึกไม่ต่างจากนางเอกตัวปลอม แต่เธอก็ต้องทำเพื่อตัวเอง งานเงินจำนวนมากนั้นทำให้เธอต้องหน้าไหว้หลังหลอกกลับกลอกออกไป พูดแบบให้เห็นใจเธอว่า “ความจริงพี่ก็ไม่อยากทำแบบนี้เท่าไร แต่เราต้องพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส เราก็ต้องยอมจ๊ะ คุณน้องเห็นใจพี่เถอะนะคะ ที่พี่ทำก็เพื่อเรา พี่รับรองว่าคุณน้องจะได้รับคะแนนของความกตัญญูอีกท่วมท้น แล้วงานกับเงินจะเข้ามาหาเราอีกมากมาย”

สีหน้านางเอกปลอมยังไม่ดีเท่าไร แต่จำพยักหน้ายินยอม ผู้จัดการสาวก็ยิ้มขอบใจ ขณะในใจลิงโลด “แล้ววันนี้คุณน้องจะพักที่ไหนอีกคะ”

“ที่เดิม”

ผู้จัดการสาวนิ่งไปนิดก็คิดออกทันที “คอนโดคุณน้ำอีกเหรอ จะดีเหรอคะ”

“ทำไมคะ” เสียงถามกลับอย่างรวดเร็ว ทำให้มีลักขณาติดอ่าง

“ก็ เอ่อ” สีหน้าเธอบอกว่าไม่อยากพูดเท่าไร แต่เมื่อถูกนางเอกปลอมถามย้ำและอ้อนด้วยสายตา ก็ค่อยๆอ้อมแอ้มออกมา “คุณจรัสแขห้ามพี่ ไม่ให้พาคุณน้องไปที่นั้นอีก”

ธาราธารกำมือเข้าหากันแน่น ที่อีกฝ่ายเปิดศึกกับเธอทุกด้าน แล้วขบฟันข่มความรู้สึกเกลียดไว้ บอกกับผู้จัดการสาวด้วยว่า “แม่พี่น้ำเขาแค่เป็นห่วง ไม่มีอะไรหรอกค่ะ ไปเถอะ ถ้ามีอะไรธารจะรับผิดชอบเอง”

“ถ้าคุณน้องออกหน้า พี่ก็ว่าตามกันค่ะ” พูดจบก็สั่งคนขับรถ แล้วหยิบมือถือมาโทรไปที่ตระกูลธรธารา ขอให้คุณหญิงทองจันทร์ ทำตามแผนของเธอ เพื่อหน้าตาของตระกูล จากนั้นก็โทรไปหานักข่าวหาสื่อที่มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อการให้ช่วยออกข่าว ว่านางเอกดังไม่ได้ชิงหนี แต่ที่บ้านคุณย่าไม่สบาย แค่นั้นความเข้าใจก็ท่วมท้นสังคมโซเชียล
*********

ธาราธารไม่ได้สนใจผู้จัดการสาวอีก เธอหลับตาลงเพื่อพักความคิด ร่างกาย เก็บแรงไว้ต่อสู้กับเรื่องที่จะต้องเผชิญอีก แต่เพียงเดี๋ยวเดียวก็ต้องลืมตาขึ้นมา เมื่อสัญญาณมือถือดังขึ้น เธอถอนหายใจออกมา เมื่อรู้ว่าใครโทรมา ไม่อยากคุย แต่ต้องเปิดกระเป๋าหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา หน้าจอนั้นบอกชื่อคนที่เธอคิดไว้ จำต้องกดรับสายแล้วพูดออกไป

“ค่ะแม่”

“หนูอยู่ไหน ทำไมไม่มาหาคุณ” เสียงของนางเลอรัศมีถามกลับมา โดยไม่ต้องเกริ่นอะไร เพราะร้อนใจที่รอแล้วลูกไม่มาหา

“กำลังกลับคอนโด”

“อะไรนะ!” เสียงออกจะตกใจ ก่อนจะตามมาด้วยความไม่พอใจ “หนูก็รู้ว่านางจรัสแขจ้องจะเล่นงานอยู่ ในงานแม่ก็เห็น แล้วจะไปทำไมอีก หรืออยากให้มันฉีกหน้าเอา”

“เขาไม่กล้าหรอกค่ะ ตราบใดที่ยังมีผลประโยชน์ให้กันอยู่ และยังไม่ถึงวันที่เขากำหนด เขาก็เหมือนบางอย่างที่ดีแต่เห่าแต่ไม่กัด”

“งั้นก็ระวังแล้วกัน แล้วเรื่องของเราละ คุยกันรู้เรื่องแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าเสร็จงานแล้วหนูต้องมาหาแม่”

“ไว้วันหลังนะคะ วันนี้หนูเหนื่อย เจอแต่อีกามาจิกกัด”

“ไม่ได้ แม่กับคุณรออยู่”

“แม่บอกเขาไป ว่าหนูเหนื่อย เขาจะเข้าใจเอง”

“แต่แม่ไม่เข้าใจ แค่มาเจอคุณ มาเพื่อขอบคุณ ไม่ได้หนักหนาอะไรเลย ทำไมทำไม่ได้ ก็รู้อยู่แก่ใจว่าคุณทำอะไรให้เราบ้าง แล้ว ...”

“แม่คะ” เสียงเธอขัดขึ้นเมื่อไม่อยากฟังคำพูดใดๆอีก “แม่บอกคุณอย่างที่หนูบอกไป ก็จบแล้วค่ะ แค่นี้นะคะ” เธอตัดสัญญาณทันทีแล้วถอนหายใจออกมา พร้อมๆกับรถตู้ขับมาถึงหน้าคอนโดพอดี
********
ขณะที่คนเป็นแม่ต้องกำโทรศัพท์ข่มความโกรธที่มีมากมายให้ค่อยๆลดน้อยลง แล้วหันไปมองคุณ หรือนายประชา ผู้ชายที่เลี้ยงดูเธอให้อยู่ดีมีความสุขอยู่ทุกวันนี้ เขาเปิดห้องบนโรงแรมที่จัดงานการกุศลให้เธอมารออยู่ ก่อนจะตามมา เพื่อพบกับลูกสาวของเธอ แต่ลูกของเธอกลับไม่มา เธอจึงรู้สึกผิดต่อเขามาก เดินเข้าไปนั่งบนโซฟาที่เขาอยู่ สีหน้าของเธอบอกเขาได้ดี แต่ไม่ดีเท่ากับได้พูดออกไป

“ธาราฝากขอโทษมาคะ ที่ไม่ได้มา แกเหนื่อย วันนี้ทั้งถ่ายแบบ เดินแบบ แล้วแฟนคลับมาขอถ่ายรูปอีกมากมาย ก็เลยขอเป็นวันหลัง”

“ไม่เป็นไร ผมเข้าใจ เป็นคนของประชาชนก็แบบนี้ เธอก็อย่าไปดุลูกนักเลย เพิ่งมาเป็นตัวแทนตัวแทน ยังมีเรื่องที่ต้องเจออีกมากมาย ให้กำลังใจลูกดีกว่า”

เลอรัศมีสีหน้าดีขึ้นทันที ที่เขาเข้าใจ ขอบคุณเขามากมาย และสัญญาว่าจะไม่ให้ลูกผิดคำอีก โดยไม่เอะใจว่าทำไมเขาเข้าใจได้ง่ายเหลือเกิน “แล้วนี่คุณจะกลับเลยหรือเปล่าคะ หรือว่า...” เธอยังพูดไม่ทันจบ เสียงสัญญาณโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น จึงลุกขึ้นไปคุยสายที่ระเบียง ส่วนตัวเธอก็มีโทรศัพท์เข้ามาเหมือนกัน

ชื่อที่ปรากฏขึ้นที่หน้าจอนั้นทำให้เธอดีใจ รีบกดรับสายแล้วถามออกไปทันที “ธารา ลูกเปลี่ยนใจใช่ไหม”

“ไม่ใช่ค่ะ แต่หนูกำลังมีปัญหา”

“ปัญหาอะไร”

ธาราธารมองผู้จัดการสาวที่กำลังกดรหัสเพื่อเปิดประตูห้องสุดหรูอยู่หลายครั้ง แต่ก็เปิดไม่ได้สักที ก่อนหน้าเธอก็ลองกดเลขแล้วก็เหมือนกัน โทรหาแม่บ้านรหัสก็เหมือนเดิม แต่ก็เปิดห้องไม่ได้ สีหน้าเธอนั้นมีแต่ความงุนงงสงสัยว่า...ทำไม ทั้งๆที่เมื่อวานเปิดให้เธอได้เข้าไปครอบครองห้องทั้งคืน

“หนูเข้าห้องไม่ได้”

“หมายความว่ายังไง” นางถามแล้วแทบจะไม่ได้ฟังคำอธิบาย เพราะนายประชาเดินเข้ามาในห้องแล้วบอกเธอว่า
“ผมมีธุระต้องรีบไปจัดการ แต่ที่สำคัญ เรื่องที่คุณให้ช่วย มีความคืบหน้าแล้ว”

นางเลอรัศมีตัวเย็นวาบขึ้นมาทันที ขณะที่ธาราธารก็ได้ยินเสียงพูดเมื่อกี้ ถามออกมาด้วยน้ำเสียงหวั่นใจไม่ต่างกัน “แม่คะ เมื่อกี้หนูได้ยิน มีความคืบหน้า หมายความว่ายังไง หรือว่า...”

“ข่าว...พี่น้ำ กลับมาแล้ว”
********
รถบิ๊กไบค์คันใหญ่วิ่งไปบนถนนของเมืองหลวงที่คร่าคร่ำด้วยรถยนต์ รถมอเตอร์ไซด์ ความเร็วปรกติ จุดหมายนั้นคือคฤหาสน์ที่อบอุ่น สายตาคนขับมองตรงไปข้างหน้า แต่บางครั้งก็มองพวงมาลัยสีขาวที่ห้อยอยู่ที่แฮนด์รถ และบางคราก็รอว่าจะมีสัญญาณโทรศัพท์ดังขึ้นมาหรือไม่ ...

ไม่มี

แววตาเขามีรอยขำนิดๆ เพราะถ้าเธอโทรมาคงเป็นเรื่องที่แปลกพอสมควร ในเมื่อเธอไม่เคยกลัวคำขู่เขาและชั่งน้ำหน้าเขาพอสมควร อีกอย่างถ้าเธอเป็นคนๆเดียวกับคนที่เขาเจอในงานการกุศล เธอก็ต้องรู้ว่าเขากำลังสงสัย ไม่มีทางที่จะโทรมา แม้จะไม่มีพิรุธใดๆให้เขาจับได้ เพราะเธอเป็นนักแสดง การสวมบทบาทหลอกคนให้เชื่อนั้นทำได้ง่าย และเธอคงไม่เสี่ยงให้เขาสงสัยไปมากกว่านี้

เขาอยากจะทำอย่างที่พูด อยากไปดูไอ้ที่ ‘ชนแก้ว’ ของเธอ แต่แค่เริ่มสนใจแต่จะใช่คนที่ใจต้องการหรือเปล่า เขายังไม่สามารถตอบได้เต็มร้อย ก็ควรปล่อยไปตามดวงก่อน ...เขาบังคับเจ้าสองล้อให้เลี้ยวเข้าไปในซอยทางลัด ที่มีรถยนต์ค่อนข้างน้อย รถมอเตอร์ไซด์ก็มีบ้างประปราย แสงไฟส่องนำทางให้เขาขับผ่านไปเรื่อย ก่อนจะเบรกแทบไม่ทัน เมื่อมีรถยนต์วิ่งแซงขึ้นมา แล้วปาดหน้ารถเขา

ธอร์จ้องรถยนต์ที่จอดตรงหน้า ประตูสองข้างเปิดออกพร้อมกัน ทั้งคนขับคนนั่งลงจากรถเดินตรงมาหาเขา สีหน้าตึงบอกความโกรธ และคำพูดก็กรรโชกเขาออกมา

“ขับรถยังไง ปาดพี่มาสองครั้งแล้วไอ้น้อง”

‘ไม่มีความจริงในคำกล่าวหา’

เขาบอกกับตัวเอง เพราะขับมาอย่างระวังและไม่เคยให้ใครมาด่าว่าขับรถราคาแพงแต่สมองหมา และรู้ด้วยสัญชาตญาณว่ากำลังถูกหาเรื่องอยู่ สายตาตวัดไปมองว่ามีใครอยู่ในรถอีกหรือไม่ เมื่อไม่มีก็ตวัดกลับมาจ้องหน้าคนที่กำลังหาเรื่องเขา

“ต้องการอะไร” ไม่มีการอ้อมค้อม เมื่อเจอคนหาเรื่อง เจรจาไปก็เปลืองน้ำลายเปล่าๆ ระวังตัวไว้ดีที่สุด และเขาก็ไม่ใช่ลูกแกะแต่เป็นลูกเสือที่มีลายพร้อมที่จะสู้ทุกสถานการณ์

“น้องนั่นแหละต้องการอะไร ทำกับพี่แบบนี้ ก้มกราบรถพี่แล้วจบกันไปไหม”

“ไปหาตำรวจดีกว่า”

“ฮะๆๆๆ” ทั้งสองคนหัวเราะออกมา แล้วหนึ่งในสองก็พูดหยามหยันว่า “ขี้ขึ้นสมองแล้วเหรอน้องถึงกับร้องหาตำรวจ”

“ถ้าไม่ขี้ขลาดก็ตามมา” ว่าแล้วธอร์ก็จะขับรถนำไป แต่...

“เฮ้ย” หนึ่งในสองกระโดดขวางทันที “ตกลงอย่างที่พี่ว่าดีกว่าไอ้น้อง รีบๆมาทำจะได้จบๆไป” มันว่าแล้วจับแขนดึงให้เขาออกมาจากรถ ซึ่งก็ยอมก้าวออกมาแต่โดยดีเพราะไม่อยากให้รถเสียหาย แล้วดึงแขนกลับมันก็ปล่อยหมัดใส่ทันที เขาเบี่ยงตัวหลบ แล้วถีบมันกระเด็น อีกคนก็ปรี่เข้ามาหา มันสองคนประสานกันซัดเขาให้หมอบ แต่เพลี่ยงพล้ำถูกเขาซัดจบหมอบเสียเอง

“มึง”

หนึ่งในสองคำรามออกมา แล้วดึงมีดมากวัดไกวใส่เขา สายตามันบอกเขาถ้าพลาดถึงชีวิตแน่นอน เขาก็ไม่คิดจะเลี้ยงมันเหมือนกัน สั่งสอนจนเลือดกลบหน้า อีกคนก็ถูกมีดนั้นคืนสนองปักเข้าที่ท้อง ก็ถอยร่นไปขึ้นรถ รีบขับออกไป ธอร์ยืนมองจนไฟท้ายหายไป ก็กลับมาขึ้นรถ ขับออกไปพร้อมคิดว่ามันหาเรื่องเขาถึงขั้นจะเอาชีวิตเพราะอะไร หรือเพราะ...ความลับในท้องทะเล

มันมาเร็วกว่าที่เขาคิด และคงรู้ว่าถูกแหกตา ถึงได้วกกลับมา แต่มันรู้ตัวได้เร็วขนาดนี้ได้ยังไง
********
รถยนต์คันใหญ่ถูกขับเคลื่อนมาจอดหน้าประตูรั้วเหล็กสีเงิน คนขับกับหญิงสาวที่นั่งคู่กันมา มองเข้าไปในบ้าน แต่ไม่เห็นอะไรมากมาย นอกจากดวงไฟที่ส่องสว่างตามแนวรั้ว ทางเดิน และต้นไม้ที่เป็นเงาตะคุ่มในความมืด หญิงสาวเปิดประตูลงมาจากยืนอยู่ข้างรถ เงยหน้ามองขึ้นไปบนฟ้า ดวงดาวยังคงส่องสว่าง เหมือนตัวเธอไม่ได้จากไปไหน เพราะมีคนอื่นมาเป็นตัวตายตัวแทนแล้วนั่นเอง แต่เธอไม่รู้ว่าบ้านหลังนี้จะปลอดภัยสำหรับเธออีกหรือไม่ เพราะเธอไม่เคยมีเรื่องอะไรกับใคร นอกจากคนในบ้านหลังนี้

นทีเปิดประตูลงมายืนข้างหญิงสาว แล้วก็ถามออกมา “จะเข้าไปเลยหรือเปล่า”

“ยัง รอก่อน”

“รออะไรอีก”

“คำตอบจากคนวงใน”

ว่าแล้วก็คิดถึงก่อนหน้านี้ที่เธอโทรไปหาทนายความประจำตระกูล สอบถามถึงเรื่องราวระหว่างที่เธอหายตัวไป ว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง คำตอบที่ได้มาพ้องกับภาพที่เธอเห็นมาจากอินเตอร์เน็ต ไม่มีใครรู้ว่าเธอหายไปไหนหรือเกิดอะไรขึ้นกับเธอ ต่างคิดว่าเธอหลบไปพักแค่นั้น และรู้ว่าทุกคนที่บ้านเห็นพ้องต้องกัน กับการให้มีตัวตายตัวแทนขึ้นมาเพื่อรอการกลับมาของเธอ ...และถ้าเธอไม่กลับมา หรือตายไปจริงๆ คนที่มาเป็นตัวตายตัวแทนก็จะได้ตัวจริง ช่างน่าคิดจริงๆ

เธอไม่ได้บอกทนายความว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเอง พูดตามน้ำที่ทุกคนเข้าใจว่าเธอไปไหนมา และได้รู้ว่าตอนนี้คนเป็นย่ากับผู้เป็นแม่กำลังจะทำอะไรอยู่ จากนั้นก็ถามอะไรอีกหลายอย่าง และขอให้เขาเก็บเรื่องที่เธอกลับมาแล้วเป็นความลับไว้ก่อน ให้บอกแค่คุณย่าและให้ช่วยจับแพะมาชนแกะให้ด้วย

“อยากชนแก้ว ย้อมใจก่อนจะไปเผชิญกับทุกคนไหม”

“ไม่จำเป็น เพราะคนอย่างฉันต่อให้แกเอาเหล้ามาทั้งร้าน ก็ไม่อาจทำให้ฉันเมาได้”

“ก็แน่ซิ เมื่อไอ้เหล้าทั้งร้านที่แกว่า มันคือน้ำเปล่า และที่แกนั่งชนกับฉันก่อนมาที่นี่ก็น้ำเปล่าทั้งนั้น”

“รู้ก็ดีแล้ว แกรีบกลับไปคอฟฟีบายที ก่อนที่ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์จะตั้งด่าน แล้วแกจะโดนอันเชิญไปบรรทมอยู่ในคุกหรือไปบำเพ็ญประโยชน์เถอะ เดี๋ยวแกจะหนาวเสียเปล่า”

“เป็นห่วงหรือว่าหมดประโยชน์แล้วถีบหัวส่ง กันแน่วะ”

ธารธารายิ้มขำ เพราะรู้ว่าเพื่อนพูดเล่น ก็บอกว่า “แกเป็นเพื่อนรัก เพื่อนที่ดีที่จริงใจที่สุดเท่าที่ฉันมี ห่วงใยด้วยใจ ไม่ใช่มายาอย่างที่ฉันเคยเจอมาหลายครั้ง อีกอย่างเรื่องที่เกิดขึ้นกับฉัน ฉันยังไม่รู้ว่าใครเป็นคนทำ หรืออยู่เบื้องหลัง จึงไม่อยากให้แกติดร่างแหไปด้วย อยู่คอยช่วยฉันอยู่ข้างหลังดีกว่า”

“ยินดีเสมอและขอบใจที่ห่วงใยกัน”

ทั้งสองคนยิ้มให้กัน แล้วคนที่ธารธารารอ ก็โทรติดต่อเข้ามา เธอรับสัญญาณฟังคำพูดไม่กี่คำ ก็วางสาย แล้วพยักหน้าให้เพื่อน พากันเดินขึ้นรถ นทีขับรถเคลื่อนไปจอดให้ห่างจากประตูทางเข้า แต่สามารถมองเห็นรถที่จะวิ่งเข้ามา ไม่เกินชั่วโมง ทนายความก็ขับมาเป็นคนแรก และอีกไม่ช้าทั้งแพะทั้งแกะก็จะตามมา เธอก็ไล่ให้เพื่อนหนุ่มกลับทันที

“แกแน่ใจนะว่าเอาตัวรอดได้ ไม่มีใครทำอะไร” นทีถาม เมื่อไม่อาจคลายความห่วงใยได้ สายตาที่มองหญิงสาวก็บอกชัดเจน

“นี่มันบ้านฉันนะ คุณย่ากับแม่ฉันก็อยู่ ไม่มีใครทำอะไรฉันหรอก”

“แต่แกก็สงสัยไม่ใช่เหรอว่า คนที่ทำร้ายแกอาจจะอยู่ในบ้านนี้ ฉันเข้าไปกับแกด้วยดีกว่า ทุกคนจะได้เห็นว่า แกไม่ได้หัวเดียวกระเทียมลีบ ยังมีเพื่อนที่พร้อมจะปกป้องอยู่ อีกอย่างตัวแกก็ยังไม่สมบูรณ์ บาดเจ็บแบบนี้ถ้าใครคิดจะทำอะไร ก็ง่ายนิดเดียว”

“ทุกคนไม่รู้ว่าฉันไปเจออะไรมา แกอย่าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่เลย อย่าทำให้มีใครสงสัย กลับไปเถอะ ฉันสัญญาว่าคุยกับทุกคนเสร็จแล้ว จะโทรหาแก”

นทีไม่อยากจะกลับเลย แต่เมื่อเพื่อนมีเหตุผลที่ดีกว่า ก็ไม่อาจขัดได้ เขาจำต้องพยักหน้า ธารธาราลงจากรถ โบกมือให้เพื่อน ยืนมองรถวิ่งไปจนหลับตา ก็เก็บมือถือใส่กระเป๋า แล้วได้เห็นบางอย่าง เธอคิดถึงคำพูดของนที แล้วทำตามคำพูดของเขา ก่อนจะเดินเข้าไปในธรธารา
**********



pream
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 4 ต.ค. 2560, 16:45:41 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 ต.ค. 2560, 16:45:41 น.

จำนวนการเข้าชม : 1241





<< ตอน 8   ตอน 10 >>
แว่นใส 4 ต.ค. 2560, 20:46:11 น.
จะบอกว่าอยู่ไหนนะ


Kim 5 ต.ค. 2560, 01:27:27 น.
เมื่อไหร่จะได้เจอกันอีก กัปตันคิดถึงเขาก็หาเรื่องเจอสิ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account