เกมรักมายาลวง (ซี่รีี่เหมืองเถื่อน)
บาดแผลในชีวิต หยาดน้ำตา ใครลิขิต เธอ (ธารธารา) หรือ เธอ (ธาราธาร)

หญิงสาวต่างแม่สองคน ใบหน้าเหมือนกัน ถูกชะตาเล่นตลก เมื่อวันที่เธอคนหนึ่งหายไป อีกคนก็กลับมา

ความชิงชัง เป็นพิษร้าย ทำลาย แม้กระทั่งชีวิต ต่อสู้ ช่วงชิง ร้ายมาร้ายกลับ ด้วย...เกมรักมายาลวง

เขา คือความอบอุ่นในชีวิต ที่ลิขิตหัวใจเธอ ตั้งแต่แรกเจอ

ความเจ็บซ้อนซ่อนด้วยหยดน้ำตา มาพร้อมคำว่า ...เธอคือคนที่ใช่

รอยยิ้ม ความรัก ใครจะได้ครอบครอง ‘เธอ’ คนที่ใช่ ‘เขา’ หรือ ใช่ ‘เธอ’ หรือเปล่า

Tags: โรมานซ์

ตอน: ตอน 10

ตอน 10
ทนายความของตระกูลเดินเข้าไปในห้องโถงของตึกใหญ่ธรธารา โดยมีคุณหญิงทองจันทร์นั่งอยู่บนโซฟาตัวใหญ่ มีนางพุดนั่งบนเก้าอี้หลังตรงมุมห้อง เขาเดินเข้ามานั่งบนโซฟาเดียวข้างขวาของคุณหญิง ซึ่งก็สบตากับเขา ที่ก่อนหน้านี้ได้โทรมาบอกท่านว่าให้ยกเลิกความคิด ที่จะใช้ตำรวจตามหาหลานสาวที่หายไป เพราะเขาได้ข่าวมาแล้ว ท่านดีใจมากและถามว่าเจอที่ไหน ยังไง เป็นอะไรหรือเปล่า จะไปหา แต่ทนายบอกว่าให้รออยู่ที่บ้าน หลานรักจะกลับบ้านมาเอง และให้ท่านโทรเรียกทุกคนกลับมาด้วย

สาวใช้ถือถาดที่มีแก้วน้ำเปล่ากับของว่างเข้ามาวางบนโต๊ะรับแขก เสิร์ฟให้ทนาย แล้วเดินออกไป เขาก็ยกน้ำขึ้นดื่ม เรียบร้อยแล้วก็ได้ยินเสียงคุณหญิงถามออกมาทันที

“อีกเดี๋ยวคนอื่นๆก็จะทยอยเข้ามา แต่บอกฉันก่อนได้หรือยังว่าเจอยัยน้ำที่ไหน”

“รอพร้อมกันดีกว่าครับ”

“ทำไมต้องรอ ไม่รู้หรือไงว่าฉันร้อนใจจะแย่อยู่แล้ว”

“ผมทราบครับ ผมก็ไม่ต่างจากคุณหญิง แต่ทราบเท่าที่เรียนให้คุณหญิงทราบก่อนหน้านี้ ว่าผมได้รับโทรศัพท์จากคุณน้ำ เธอบอกกับผมเท่าที่ผมบอกกับคุณหญิงไปแล้วครับ ที่เหลือเธอจะมาพูดด้วยตัวเอง”

คุณหญิงได้แต่ถอนหายใจ อยากคาดคั้นให้ถึงที่สุด แต่คุณทนายอยู่กับท่านมานาน รักและซื่อสัตย์ในอาชีพตัวเองยิ่งนัก ไม่โกหกท่านแน่ ท่านคุยกับทนายได้อีกนิดหน่อย สะใภ้คนแรกก็เดินเข้ามา จรัสแขมองคุณทนายอย่างแปลกใจ แล้วเดินเข้าไปนั่งที่เก้าอี้เดียวข้างเขา วางกระเป๋าถือไว้บนตักแล้วก็ถามแม่สามีว่า

“เรียกให้กลับมาด่วน มีอะไรเหรอคะ คุณแม่ แล้วคุณทนายมาเกี่ยวอะไรด้วย”

“รอก่อน เดี๋ยวก็ได้รู้”

“หมายความว่ายังไงคะ รอ หรือว่าไม่ได้มีแค่แข ยังมีสองแม่ลูกนั่นด้วย”

“ใช่ รออีกห้านาที หล่อนคงไม่อกแตกตายหรอก”

จรัสแขทำสีหน้าหน่ายๆ แล้วยกขาขึ้นไขว่ห้าง ตั้งใจรอ แต่ผ่านไปได้เพียงรอสามนาทีก็เริ่มหงุดหงิดบ่นออกมา “เมื่อไรจะมาคะ แล้วเรื่องที่คุณแม่จะพูดเนี๋ยมันสำคัญนักหรือไง ถึงต้องเรียกสองแม่ลูกนั่นมาด้วย”

“ใช่ แต่สำคัญกับหล่อนมากที่สุดด้วย”

จรัสแขนิ่วหน้าครุ่นคิดอย่างสงสัยว่าเป็นเรื่องอะไรกันแน่ โดยไม่รู้ว่าสองแม่ลูกอริของเธอนั่นมาถึงแล้ว ทั้งคู่ขับรถมาจอดหน้าตึกในเวลาไล่เลี่ยกัน

เลอรัศมีเปิดประตูออกมายืนรออยู่ข้างรถ ฝ่ายธาราธารก็รีบเปิดประตูลงจากรถมา ก็เดินตรงมาหาคนเป็นแม่ เธอมาคนเดียว ไม่ให้ผู้จัดการสาวตามมาด้วย ให้อยู่จัดการเรื่องคอนโด อีกอย่างเธอไม่ต้องการให้รู้เรื่องใดๆของเธอมากไปกว่านี้ นางเลอรัศมีดึงตัวลูกมาแอบข้างตึก พูดเบาๆให้ได้ยินกันเพียงสองคน

“คุณย่าบอกเหตุผลของการเรียกให้มาพบด่วนหรือเปล่า”

“ไม่ค่ะ แล้วคุณของแม่ติดต่อกลับมาหรือยัง”

“ยัง” เพราะก่อนจะแยกจากคนที่เลี้ยงดูนาง เขาแค่บอกว่าได้ข่าว แต่ยังไม่แน่ชัด สีหน้าของนางก็ไม่สู้ดี หวั่นว่าจะเป็น... “หวังว่าไม่ใช่”

ธาราธารรู้ได้ทันทีว่าใคร แต่ไม่มีเอ่ยชื่อออกมาให้บาดหัวใจเหมือนคนเป็นแม่ มีแต่ความกลัดกลุ้มใจที่พูดออกมา “ถ้าใช่อย่างที่คุณของแม่ได้ข่าวมา แล้วเราจะทำยังไงกันคะ”

“นิ่งสงบสยบความเคลื่อนไหว รอดูว่าใครจะพูดอะไร และอย่าทำตัวเป็นตุ๊กแกกินปูนร้อนท้อง หน้าซื่อตาใสไว้ให้ดีที่สุด เพราะสิ่งที่เราทำก็มาจากการเห็นด้วยของทุกคน”

หญิงสาวพยักหน้าอย่างเข้าใจ แล้วบอกว่า “แม่เข้าไปก่อนนะคะ เดี๋ยวธาราตามเข้าไป”

“ทำไมไม่เข้าไปพร้อมกัน มีอะไร”

“หนูมีเรื่องจะคุยกับพี่มี่นิดหน่อย แล้วจะตามเข้าไปค่ะ”

นางเลอรัศมีพยักหน้าแล้วเดินไป คล้อยหลังธาราธารก็หยิบโทรศัพท์ออกมา กดไปยังหมายเลยที่เธอจำได้แม่นยำ และคำตอบที่เธอได้กลับมา ก็ใช่อย่างที่คิดจริงๆ

สะใภ้คนรองของธรธาราเดินเข้ามาในห้องโถงของตระกูล สองเท้าที่ก้าวเดินชะงักไปเล็กน้อย เมื่อเห็นว่ามีใครนั่งอยู่บ้าง ทุกคนมองมาที่นางเลอรัศมี ซึ่งรีบเก็บสีหน้าให้นิ่ง ไม่มีความกังวลหรือหวั่นไหวใดๆให้ได้เห็น เดินเข้าไปนั่งบนเก้าอี้เดี่ยวข้างซ้ายของคุณหญิง ยกมือไหว้ท่านแล้วนั่งเฉย แต่จรัสแขที่มารอจนหงุดหงิดไม่อาจจะเฉยได้ ถามออกมาทันที

“ลูกเธอละ อยู่ไหน ทำไมยังมาไม่ถึงอีก”

“ถึงแล้ว กำลังตามเข้ามา”

“ชักช้า” น้ำเสียงเหยียดและมีการดูแคลนนั้น ทำให้เลอรัศมีตอบโต้ออกมา

“ลูกฉันไม่ได้ไร้ค่าเหมือนเธอ ที่วันๆไม่ทำอะไร หายใจทิ้งๆขวางๆพอว่างก็ไปจมดิ่งอยู่ใต้โคลนตม และถ้าหากมีจิตสำนึกอยู่บ้าง ก็ควรจะขอบใจลูกฉัน ที่ต้องไปทำงานแทนลูกทุกวัน”

“เสนอหน้าไปเอง ฉันไม่แช่งให้ก็บุญแล้ว”

เลอรัศมีกำมือที่วางอยู่บนตักไว้แน่น จะโต้กลับแต่เห็นลูกของนางเดินมาเสียก่อน มองเหมือนจะบอกให้นิ่งไว้ แต่หัวใจกลับดิ่งลงไปที่ตาตุ่ม ตัวเย็นวาบ เมื่อเห็นคนที่อยู่ข้างหลังลูกของนาง อาการนิ่งงันและหน้าที่ซีดลงของนาง ทำให้คนที่นั่งอยู่นิ่วหน้าด้วยความสงสัย ก่อนจะมองตามสายตา แล้วความรู้สึกหลากหลายก็เกิดขึ้นกับทุกคน

คุณหญิงทองจันทร์ จรัสแข คุณทนาย นางพุด ทุกคนลุกขึ้นยืนอย่างช้าๆ สายตามองหญิงสาวสองคนที่เป็นเหมือนภาพซ้อนของกันและกัน ธาราธารนั่นยังไม่รู้ เธอยิ้มเพราะคิดว่าทุกคนลุกขึ้นต้อนรับเธอ คงเห็นแล้วว่าเธอนั่นสำคัญกับทุกคนแค่ไหน และที่น่ายินดีมากกว่านั้นคือ การที่แม่จอมปลอมลุกขึ้นยืนให้เธอด้วย

เธอคิด โดยไม่รู้ว่าเธอไม่ได้อยู่ในสายตาของทุกคน เพราะมองผ่านเธอไปยังหญิงสาวอีกคน แม้รูปลักษณ์ที่เห็นจะไม่คุ้นตาเหมือนเคย แต่ก็จำได้แม่นว่านั่นคือ...ธารธารา ยัยน้ำของย่า ของแม่ และคุณน้ำของนางพุดกับคุณทนาย ...นางเอกดังตัวจริงกลับมาแล้ว

“ยัยน้ำ คุณน้ำ ‘นังน้ำ’”

ธาราธารหันขวับไปมองข้างหลังทันที ชาวาบไปทั้งใจก่อนจะลามไปทั้งตัว ดวงตาเปิดกว้างแข็งค้างไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เห็น แม้จะรู้มาก่อนแล้ว แต่ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะมาเร็วแบบรดต้นคอเธอแบบนี้ เธอกะพริบตา ปรับตัว ข่มใจ ยิ้มบอกความดีใจออกมา “พี่น้ำ” ว่าพลางเดินเข้าไปหา ยกมือจับแขนยินดีที่พี่สาวกลับมาเสียที

พี่น้ำยิ้มให้เพียงนิด หรุบตามองมือที่จับแขนแวบเดียว ก็มองตรงไปที่ทุกคน เดินกะเผลกเข้าไปหา คนเป็นน้องเห็นอาการดังกล่าวก็รีบประคองให้ไปนั่งบนโซฟาตัวใหญ่เคียงข้างคนเป็นย่า แล้วถอยมานั่งที่เก้าอี้เดียวข้างคนเป็นแม่ ปรายตามองหน้ากันและกันเพียงแวบ ก็ยกมือไหว้ผู้ใหญ่ทุกคน ... คนที่เพิ่งกลับมาก็ยกมือไหว้ทุกคนเช่นกัน

“ยัยน้ำ” เสียงคุณหญิงทองจันทร์สั่นเครือ ยกมือขึ้นกอดหลานรัก จับหน้าลูบตัว จนมั่นใจว่าท่านไม่ได้ฝันไป ก็ถามออกมา “หายไปไหนมา รู้ไหมว่าย่าเป็นห่วง ทุกคนก็เช่นกัน แล้วนี่เป็นอะไร ทำไมเดินกะเผลกและมีแผลด้วย”

“อุบัติเหตุนิดหน่อยค่ะ ขอโทษที่หายไปโดยไม่ทันตั้งตัว”

“ไม่เป็นไรลูก ไม่เป็นไร กลับมาก็ดีแล้ว” คุณหญิงดีใจจนไม่ได้เอะใจกับคำตอบของหลาน แล้วหันไปหาคนสนิท “พุด พุดไปบอกให้เด็กๆทำของชอบของยัยน้ำมานะ ฉันจะเลี้ยงรับขวัญ ไม่ดีกว่าฉันจะไปทำเอง”

“ไม่ต้องหรอกค่ะคุณย่า น้ำไม่หิวเลย อยากจะพักมากกว่า”

“งั้นไปพักเถอะ เรื่องอื่นค่อยพูดกันพรุ่งนี้”

“ไม่ได้ค่ะคุณแม่” นางจรัสแขเอ่ยออกมา “เรื่องอื่นนะรอได้ แต่เรื่องตัวตายตัวแทนต้องคุยกันเลย ว่าจะเอายังไงกันดี เมื่อตัวจริงกลับมาแล้ว” พูดจบก็หันไปมองสองแม่ลูก “ต้องให้ทวนซ้ำไหม ว่าเคยพูดอะไรกันไว้ และต้องทำยังไง”
ทุกคนหันมามองนางเลอรัศมี ที่เป็นคนเสนอเรื่องนี้ขึ้นมา ซึ่งกำลังน้ำท่วมปากพูดไม่ออกเพราะเสียดายความหวังที่ตั้งไว้สวยหรู ขณะที่ธาราธารก็นิ่งเงียบปล่อยทุกอย่างให้คนเป็นแม่ออกหน้า ซึ่งต้องข่มใจอย่างหนัก กล้ำกลืนทั้งความแค้น ความเกลียดไว้ในอก แล้วหันไปพูดกับนางเอกดังด้วยเสียงที่อ่อนหวาน

“น้าดีใจที่น้ำกลับมา” ว่าแล้วก็ยิ้มให้เห็นว่านางเป็นอย่างที่พูดจริงๆ “ก่อนหน้านี้น้ากับน้องก็ทุกข์ใจคอยห่วงใยตลอด สวดมนต์ขอพรอ้อนวอนพระมากมายของให้น้ำกลับมา อย่าได้เป็นอะไรไป และวันนี้ก็สำเร็จ แต่ก่อนหน้านั้นที่น้ำหายไป ทุกคนเป็นกังวล ห่วงใยไปร้อยแปด โดยเฉพาะคุณย่า ท่านกินไม่ได้นอนไม่หลับ ทุกคนจึงต้องมาช่วยกันคิดว่าจะทำยังไงกันดี” เสียงนางเริ่มจะเปลี่ยนเป็นให้เห็นใจ

“ประจวบกับน้องกลับมาพอดี น้าก็เห็นทางที่ช่วยเราทุกคน เพราะตอนนั้นไม่มีใครติดต่อน้ำได้เลย ไม่รู้ว่าน้ำจะกลับมาเมื่อไร งานของน้ำ ชื่อเสียง เงินทองที่เลี้ยงเราทุกคน ทุกอย่างมันบีบคั้น น้าจึงเป็นคนบอกกับคุณย่า เรื่องตัวตายตัวแทน ซึ่งจริงๆแล้วน้าไม่ได้ตั้งใจที่จะ...”

“พอ” จรัสแขขัดขึ้นมา “ฉันชอบเนื้อ ไม่ได้ชอบน้ำ ไม่ต้องสาธยายความรู้สึกจอมปลอมออกมา หรือเกิดเป็นอัลไซเมอร์ขึ้นมา ลืมไปแล้วว่าพูดอะไรไว้ จึงต้องรื้อฟื้นตั้งแต่ต้นจนจบ”

“ฉันไม่ลืม”

“งั้นฉันขอพูดเองว่าตั้งแต่พรุ่งนี้เป็นต้นไป เธอไม่ต้องมาวุ่นวายกับเรื่องลูกของฉันอีก และลูกเธอก็ไม่ต้องไปเป็นตัวตายตัวแทนของยัยน้ำอีกเช่นกัน” ว่าแล้วนางก็ละสายตามามองทุกคน “ตอนที่พูดเรื่องนี้และได้ตกลงกัน ทุกคนก็อยู่ด้วยกัน ยกเว้นคุณทนาย แต่คราวนี้มานั่งอยู่ด้วย ก็ช่วยทำหนังสือมาให้เซ็นรับทราบกันด้วย ป้องกันการไปสวมรอยแทนอีก เห็นด้วยไหมคะคุณแม่”

“ไม่ต้องทำถึงขนาดนั้นหรอก เอาเป็นว่ายัยน้ำกลับมาแล้ว ก็แล้วกันไป ธาราก็ไม่ได้ทำอะไรผิด ที่ทำก็ช่วยเราทุกคน น้ำไม่โกรธย่านะ ที่ให้ธารามาเป็นตัวแทนของเรา”

“ไม่ค่ะ จริงๆแล้วต้องขอบคุณน้าเลอกับธาราด้วยซ้ำไป ที่ช่วยเป็นน้ำ ให้บ้านเรายังชุ่มฉ่ำ ไม่ร้อนขึ้นมา อีกอย่างน้ำยังอยากให้ธารา เป็นตัวตายตัวแทนต่อไป”

“อะไรนะ!!!” เสียงของจรัสแขดังออกมา ขณะที่คนอื่นๆกำลังอึ้งกันอยู่ แล้วนางก็ปรี้ดออกมา “แกจะบ้าไปแล้วหรือไง หรือหัวสมองไปโดนอะไรมา ถึงได้ไร้ความคิดแบบนี้ ยื่นเนื้อให้คนอื่น เหลือแต่กระดูกให้ตัวเอง แกจะโง่บรรลัยไปถึงไหน”

นางว่าด้วยความโกรธ แต่ธารธาราไม่ถือสา และเข้าใจว่าที่แม่ของขึ้นแบบนี้ เพราะกลัวทุกอย่างที่เคยได้เคยมี จะหายไป แบบเนื้อไม่ได้กิน หนังไม่รอง มีแต่กระดูกมาแขวนคอ

“อย่าเพิ่งโกรธซิคะแม่ ยังไม่ได้ฟังเหตุผลเลย”

“ฉันไม่ฟังเหตุผลอะไรทั้งนั้น ในเมื่อฉันรู้เช่นเห็นชาติของสองแม่ลูกนี้ดีว่าหน้าเนื้อใจเสือแค่ไหน แต่ถ้าแกเจ็บไม่รู้จักจำ ยังดื้อด้าน ก็อย่ามาหาว่าฉันไม่เตือน” พูดจบก็มองสองแม่ลูกราวจะกินเลือดกินเนื้อ แล้วลุกขึ้นเดินลงส้นหนักๆออกไปจากห้อง

ธารธารามองตามไปด้วยความหนักใจ ก่อนจะยิ้มให้สองแม่ลูกว่าไม่เป็นไร แล้วคุยกับน้องต่างแม่ว่า “อย่าถือสาแม่พี่เลยนะ แล้วธาราไปเป็นตัวตายตัวแทนพี่ มีใครจับได้หรือเปล่า”

“ไม่มีค่ะ”

“แล้วทำงานเป็นไงบ้าง ชอบหรือเปล่า”

“ค่ะ ชอบมาก ต้องขอบคุณพี่มี่ค่ะช่วยธาราไว้มากเลยค่ะ”

“ดีแล้วจ๊ะ ขอบใจมาก และในเมื่อไม่มีคนสงสัยเรื่องที่เธอไปทำงานแทนพี่ แล้วเธอจะว่ายังไง เรื่องที่พี่ให้ช่วยทำงานต่อ”

ธาราธารหันไปมองคนเป็นแม่ ประหนึ่งว่าปรึกษา ทั้งที่ความจริงต่างก็รู้คำตอบกันดีอยู่แล้ว และดีใจกันอยู่มากแค่ไหน อยากจะกรีดร้องออกมาให้รู้ด้วยซ้ำไป แต่ต้องเก็บซ่อนไว้รวมถึงข้อสงสัยอีกมากมาย แต่ช่างมันไว้ก่อน ตอนนี้ขอคว้าโอกาสครั้งที่สองที่ใส่พานอยู่ตรงหน้านี้ไว้ก่อน

“ค่ะ แต่ทำไมพี่น้ำถึงไม่กลับไปเป็นตัวจริงละคะ”

“พี่เหนื่อย อยากพัก แล้วตอนนี้ก็เจ็บตัวอยู่ ก็ต้องพักงานอยู่ดี มีธารามาช่วยแบ่งเบาภาระถือว่าดีมากเลย ขอให้สนุกกับงานนะจ๊ะ แล้วก็แอชแทคใหม่ว่าธารา เก๋ดีนะ”

คำพูดนี้บอกธาราธารว่า อีกฝ่ายรู้ความเป็นไปของเธอทุกอย่าง “ถ้าพี่น้ำไม่ชอบ”

“ไม่เป็นไรจ๊ะ เพราะไม่ว่าจะใช่ชื่ออะไร สรุปแล้วก็คือพี่อยู่ดี” แล้วหันไปถามประมุขของบ้าน “คุณย่าคิดยังไงบ้างคะ”

“ตอนนี้น้ำกลับมาแล้ว ถือว่าทุกอย่างได้ตัดสินใจด้วยตัวเอง ย่าไม่มีอะไรขัดข้อง ดีใจด้วยซ้ำที่เห็นพี่น้องกลมเกลียวกัน แต่ก็ห่วงพวกนักข่าว ถ้ารู้เข้า จะแก้ปัญหากันยังไง”

“น้ำพักไม่นานหรอกค่ะ คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา อีกอย่างตอนที่น้ำไม่อยู่ แล้วน้าเลอเสนอให้ธารามาเป็นตัวตายตัวแทนแทน แสดงว่ามีวิธีจัดการเรื่องนี้อยู่แล้ว ใช่ไหมคะ”

นางเลอรัศมีรู้สึกเหมือนถูกหลอกให้ดีใจ แล้วสุดท้ายก็หักหลังให้กระอักเลือดออกมา เพราะจากคำพูดของลูกเลี้ยง นั่นตีความหมายไปเป็นอื่นไม่ได้เลย นอกจากถ้ามีอะไรเกิดขึ้น เธอกับลูกต้องรับผิดชอบทุกอย่าง ซึ่งเธอก็ต้องหวานอมขมกลืนไว้ก่อน “จ๊ะ น้ามีทางออกที่สวยงามอยู่แล้ว”

“จะทำยังไงคะ”

“ก็ให้ธาราถอยหลังออกมาแล้วน้ำก็เดินเข้าแทนแค่นั่นเอง”

“ฟังดูง่ายจัง แล้วคุณย่าเห็นด้วยไหมคะ” เธอหันมาถามคนเป็นย่า

“จ๊ะ แรกเริ่มที่คุยกันไว้ แม่เลอเขาก็บอกอย่างนี้แหละ และย่าก็เห็นด้วยอยากให้เราอยู่รอดกันก่อน จากนั้นก็จะตามหาน้ำ ซึ่งก็พร้อมจะทำกันอยู่แล้ว แต่น้ำกลับมาเสียก่อน และย่าว่าน้ำควรไปพักได้แล้ว”

“ค่ะ แต่น้ำมีคนอยากแนะนำให้คุณย่ารู้จัก”

ทุกคนมองมาพร้อมคำถามจากสายตาว่า...ใคร เธอก็บอกว่า “คนที่ทำให้น้ำเจ็บนะคะ เขามาส่งแล้วตอนนี้ก็รออยู่ข้างนอก”

“งั้นน้าขอตัวก่อนดีกว่า” นางบอกเพราะไม่มีความจำเป็นที่จะต้องอยู่ต้อนรับ อีกอย่างใจของนางตอนนี้ร้อนยิ่งกว่ากองไฟ อยากไปสงบสติอารมณ์ ไม่อยากจะทนอยู่แม้แต่สักนาทีเดียวแล้ว

“ธาราด้วยค่ะ พรุ่งนี้มีงานอีก” ว่าแล้วสองแม่ลูกก็จะลุกขึ้น แต่ต้องนั่งอยู่ที่เดิม เมื่อธารธาราบอกว่า

“รออีกนิดเถอะ เสียเวลาไม่นานหรอก”

สองแม่ลูกจำต้องนั่งอยู่ต่อ นางเลอรัศมีต้องนับตัวเลขข่มใจกันเลยทีเดียว เพื่อไม่ให้ความร้อนรุ่มหลุดออกมาทางสีหน้า ขณะที่ธาราธารก็ไม่ต่างกัน และบางครั้งก็แอบมองพี่สาวต่างแม่ ว่าทุกอย่างที่พูดออกมามีอะไรแอบแฝงอยู่หรือเปล่า จากนั้นคุณหญิงก็สั่งให้คนสนิท คือนางพุดไปเชิญแขกเข้ามา
**********
ณ คอนโดหรู ที่หน้าห้องพักของนางเอกดัง ผู้จัดการสาวยืนหน้ามัน ปาดเหงื่อที่ซึมอยู่ตามไรผม เพราะจนแล้วจนรอดเธอก็เปิดประตูห้องไม่ได้ โทรไปถามนางถนอมก็บอกว่าไม่ได้ทำอะไร เธอลองขู่และเกรี้ยวกราดใส่ คำตอบก็ยังเหมือนเดิม จึง เรียกเจ้าหน้าที่คอนโดมาเช็กว่าระบบจะเสียหรือเปล่า ทุกอย่างก็ปรกติ

“แล้วมันยังผิดพลาดตรงไหน ทำไมถึงเปิดไม่ได้”

มีลักขณาบ่นด้วยความโมโห พลางคิดทบทวนทุกอย่างที่ได้ทำลงไป และเหมือนมีบางอย่างวาบเข้ามา ตาโตกับชื่อคนที่เด้งขึ้นมาในหัวและแน่ใจว่าต้องใช่แน่ๆ ... นางจรัสแขแม่ของนางเอกดังนั่นเอง เพราะก่อนหน้านี้นางก็มาต่อว่าเธอ ที่พาตัวตายตัวแทนลูกนาง มาพักที่นี่ และได้สั่งห้ามไม่ให้พามาอีก คงกลัวว่าเธอจะไม่ทำตาม จึงได้เปลี่ยนรหัสให้เข้าห้องไม่ได้

“ร้ายจริงๆ แล้วจะทำยังไง”

เธอคิดหาหนทางเพื่อที่จะให้ได้รหัสมาเปิดห้อง เพราะนางเอกตัวปลอมให้ค่าจ้างเป็นเปอร์เซ็นการออกงานแต่ละครั้งนั่นมากโข และเมื่อคิดได้เธอก็โทรไปหาทันที รอจนอีกฝ่ายรับสายก็พูดเสียงอ่อนเสียงหวานออกไป

“คุณแขขา มี่นะคะ มีเรื่องรบกวนนี้ดหนึ่งคะ”

“อย่ามาแหลกับฉัน” เสียงขุ่นเขียวตอกกลับมาเพราะกำลังอารมณ์ไม่ดี “มีอะไร”

มีลักขณาเบ้ปากมองบน เมื่อเสียงตอบมานั้นกระด้างระคายหูเธอที่สุด แต่เธอก็ต้องอ่อนข้อให้ต่อไป “คือ อย่างนี้ค่ะคุณแข คือมี่ลืมโปรไฟล์แนะนำตัวของน้องน้ำไว้ที่คอนโดนะคะ พรุ่งนี้จะเอาไปเสนอลูกค้า แต่ว่าเปิดประตูห้องเข้าไปไม่ได้ ไม่ทราบว่าคุณแม่เปลี่ยนรหัสหรือเปล่าคะ”

“ฉันไม่ได้เปลี่ยน” ตอบไปแล้วนางจรัสแขก็แปลกใจ ว่าทำไมอีกฝ่ายถามแบบนี้ แล้วเหยียดยิ้มออกมาเมื่อรู้สาเหตุแต่อีกฝ่ายคงยังไม่รู้ จึงคิดจะเล่นงานให้รู้สึก “ไม่ต้องเอาสะตอมาหว่านใส่หน้าฉัน ว่าลืมโน้นลืมนี่ บอกฉันมาดีกว่าว่าที่เธออยากเข้าไป เพราะคำสั่งยัยธาราใช่ไหม”

“ไม่ใช่ค่ะ มี่ลืมของจริงๆ” มีลักขณาจำต้องปากแข็งทั้งทีสะดุ้งวาบที่ถูกรู้ทัน

“ถ้าเธอยืนยันอย่างนี้ ฉันก็ไม่มีอะไรจะบอก” นางจรัสแขอ่อนให้ไม่ไล่บี้ให้ระแวง แต่หยั่งเชิงกลับไปว่า “แต่ถ้าเธอมีอะไรมาแลก บางทีฉันอาจเปลี่ยนใจ”

มีลักขณาลำบากใจในข้อต่อรอง ดีดตาชั่งว่าจะยอมรับไปตรงๆ หรือจะแถไม่รู้เรื่องต่อไป ในที่สุดก็พูดแบบบัวไม่ช้ำน้ำไม่ให้ขุ่นและไม่ให้ตัวเองเสียหายว่า “มี่ขอโทษนะคะคุณแข จริงๆแล้วที่มี่บอกไปและคุณแขพูดมานั่นถูกแล้ว มี่ลืมเอกสารและน้องธาราก็อยากเข้าไปพัก แต่ที่มี่ต้องพูดแบบนี้ ก็กลัวคุณแขจะไม่พอใจ ที่มี่ขัดคำสั่ง ทั้งที่ไม่อยากขัดสักนิด มีแต่จะรับใช้ให้พอใจ แต่ที่จำเป็นต้องทำคือมี่กำลังถูกนักข่าวตาม จึงไม่อยากให้ความลับที่เรามี ต้องรั่วไหลออกไป”

“แน่ใจนะว่าเป็นความจริง”

“แน่ใจค่ะ คุณแขเมตตามี่มาก น้องน้ำก็ดีกับมี่เสมือนญาติคนหนึ่ง มี่รักเอ็นดูน้องน้ำและภักดีคุณแขเท่านั้นค่ะ” ”

“ไม่ต้องขนสะตอไปถมแม่น้ำเจ้าพระยา เพราะไม่มีวันถมเต็ม ถ้าเธอไม่พูดความจริงออกมา ก็แค่นี้”

“เดี๋ยว เดี๋ยว คะคุณแข” มีลักขณารีบยื้อไว้เมื่ออีกฝ่ายจะวางสาย แล้วยอมสารภาพทุกอย่าง แต่สิ่งที่ได้กลับมานั่นคือ ...

“งั้นเธอก็ฟังให้ดี ว่าไม่ว่าจากนี้ไปเธอจะลืมอะไรไว้ในห้องของยัยน้ำ เธอก็ไม่มีทางได้เข้าไปในห้องนั้นอีกเด็ดขาด”

“ทำไมคะคุณแข” เสียงของมีลักขณามีความหวั่นๆ แล้วก็หน้าซีดตาค้างเมื่อได้รับคำตอบกลับมาว่า ...

“เพราะเจ้าของห้องกลับมาแล้วไง”

“หมายความว่า...”

“ใช่ ยัยน้ำ ลูกสาวฉัน นางเอกดังของเธอกลับมาแล้ว แกเตรียมถูกเฉดหัวได้เลย”

มีลักขณารู้สึกเหมือนเรี่ยวแรงหายไปจากตัว โทรศัพท์แทบจะร่วงจากมือ และคิดไม่ออกบอกไม่ถูก ว่าจะทำยังไงต่อไป เธอร้อนไปทั้งใจ ก่อนจะบอกตัวเองให้ตั้งสติ แล้วบอกตัวเองว่ายังไม่ได้ทำอะไรผิด ทุกอย่างยังเป็นเหมือนเดิม ที่เพิ่มเติมเข้ามา เธอก็ยังไม่ได้อะไรจากอีกฝ่ายเป็นชิ้นเป็นอันเลย
*********
ชายหนุ่มร่างสูงใส่กางเกงสแล็คสีดำกับเสื้อเชิ้ตสีขาว พับแขนขึ้นมาถึงข้อศอก เดินตามหลังนางพุดเข้ามาในห้องโถงของตระกูลธรธารา สายตาเขามองทุกคน สะดุดตากับผู้หญิงสองคน ที่เขาพบต่างสถานที่ แต่ใบหน้าเหมือนกัน คนหนึ่งนั่นเรียกเขามาที่นี่ ซึ่งเขารู้จักแต่ยังไม่รู้ลึก ส่วนอีกคนเขาก็รู้จักแต่แค่เพียงผิวเผินที่งานการกุศล คิดไม่ถึงว่าการเลี้ยวรถกลับมาทั้งๆที่ใกล้จะถึงคฤหาสน์แอ็คส์แน็ค จะทำให้ความสงสัยถูกคลี่คลายไปทันที

ทุกคนที่นั่งอยู่ในห้องโถงก็มองเขาเช่นกัน คุณหญิงทองจันทร์เชิญให้เขานั่งบนเก้าอี้ข้างคุณทนาย จากนั้นธารธาราก็แนะนำเขาว่าชื่อธอร์ให้รู้จักทุกคน ซึ่งธอร์ยกมือไหว้ประมุขของบ้าน คุณทนาย และนางเลอรัศมี ส่วนผู้หญิงที่เขารู้จักที่งานการกุศลนั่น เธอนิ่งเฉยเหมือนไม่รู้จักเขา ทั้งๆที่ได้พูดคุยกันก่อนหน้านี้

“ผมต้องขอโทษกับเรื่องทั้งหมดด้วยครับ เพราะความประมาทของผมเองที่ทำให้ธารธาราเจ็บตัว ผมยินดีจะรับผิดชอบทุกอย่าง” เมื่อมีผู้ใหญ่นั่งอยู่ด้วย ธอร์ก็พูดอย่างสุภาพ อีกอย่างเรื่องที่เธอเจ็บตัวก็เพราะเขาจริงๆ

“เรื่องนั่นตกลงกันเอาเองเถอะ ยัยน้ำกลับมาโดยไม่เป็นอะไร ฉันก็พอใจแล้ว” คุณหญิงไม่ได้ติดใจอะไร เพราะแค่หลานรักกลับมาเท่านั้นก็เพียงพอ แต่มีคนติดใจ คือคนที่ไม่อยากให้กลับมานั่นเอง

นางเลอรัศมีกำลังสงสัยการเจอกันของสองคน เพราะลูกเลี้ยงนั่นหายออกไปจากบ้าน กลับมาพร้อมผู้ชายที่บอกแค่ว่าทำให้ตัวเองเจ็บตัว มันไม่มีอะไรให้น่าเชื่อเลยสักนิด “คุณเจอยัยน้ำที่ไหนคะ แล้วเกิดเป็นอุบัติเหตุได้ยังไง”

“ถนนสาทรครับ เธอกำลังข้ามถนน ผมขับรถไปเฉี่ยวโดน พาเธอไปหาหมอแล้วมาส่ง”

“แล้วคุณไม่รู้หรือว่ายัยน้ำเป็นใคร”

“แล้วเธอเป็นใครครับ” ธอร์ถามกลับ ไม่มีพิรุธใดๆให้เห็นว่าเขาเสแสร้งแต่ไม่รู้จริงๆ

นางเลอรัศมีไม่เชื่อ เพราะใครๆก็รู้จักลูกเลี้ยงเธอ เมื่อโด่งดังไปทั้งประเทศ แต่นางจะไม่พูด เพื่อให้ผิดสังเกตว่าจับผิดเกินไป บอกแค่ว่า “งั้นก็ถามกันเองแล้วกัน หมดเรื่องแล้วใช่ไหม น้าขอตัว” พูดจบนางก็หันไปไหว้แม่สามี แล้วลุกขึ้น ธาราธารที่เตรียมจะกลับพร้อมคนเป็นแม่อยู่แล้ว ก็ยกมือขึ้นไหว้คนเป็นย่า แล้วสองแม่ลูกก็พากันเดินออกไปจากห้อง

ท่าทางแปลกๆของสองแม่ลูก ที่ดูไม่มีความห่วงใย เฉยชากับคนในครอบครัว นั่นดูแปลกในสายตาของธอร์ เขาเก็บความสงสัยนี้ไว้ แล้วฟังเสียงประมุขของบ้านที่บอกเขาว่า

“ฉันก็ขอไปพักเหมือนกัน คุณทนายก็กลับเถอะ ขอบใจมาก” ว่าแล้วท่านก็พยักหน้าให้นางพุด ซึ่งก็เข้ามาช่วยพยุงท่าน พาเดินออกไปจากห้อง โดยมีคุณทนายเดินตามหลังไปติดๆ ภายในห้องโถงจึงเหลือแค่ ธารธารากับธอร์

เธอสบตากับเขา แล้วลุกขึ้นเดินกะเผลกนำเขาออกมาจากห้อง โดยมีเขาเดินตามมาเคียงข้าง ธอร์เดินไปกับเธออย่างช้าๆ พร้อมกับคิดถึงตอนที่เธอโทรไปหา บอกว่าออกจากคอนโดมาที่บ้าน ขอให้เขามาหา เหตุผลนั่นเขาไม่ได้ถาม แต่ความรู้สึกห่วงใยนั้นทำให้เขาเลี้ยวรถมาที่นี่ ทั้งที่ใกล้จะถึงคฤหาสน์แอ็คส์แน็ค แต่จากเมื่อกี้ที่เขาได้เข้าไปนั่งอยู่กับทุกคนในครอบครัวเธอ ทำให้เขารู้ได้อีกอย่าง ว่าเธอให้มาเพราะการฆาตกรรม

ทั้งคู่เดินมายืนข้างรถมอเตอร์ไซด์บิ๊กไบค์ เธอหันมามองหน้าเขา แล้วบอกว่า “ขอบคุณที่มา”

“คิดจะบอกฉันหรือเปล่า”

ธารธารารู้ได้ทันทีว่าเขาหมายถึงการเป็นนางเอกดังของเธอ ยิ้มหยันให้ตัวเองเล็กน้อยแล้วบอกว่าเขาว่า “ฉันไม่เห็นว่ามันจะสำคัญ เพราะไม่ว่าฉันจะเป็นใคร มันก็คือเปลือกที่ห่อหุ้มเอาไว้ ไม่ใช่ตัวตนที่แท้จริง และฉันก็ไม่ต้องการคนที่มองฉันเพราะเปลือกมากกว่าจะมองตัวตนที่แท้จริงของฉัน”

“แล้วเหตุผลที่ให้ฉันมาคืออะไร”

“ไม้กันหมา”

ธอร์ยิ้มที่มุมปากเพราะคำตอบของเธอ ทำให้เขาคิดไปถึงนางฟ้ามิลลี่พี่สาวเขา ที่เคยใช้มุขนี้กับลูกพี่ลูกน้อง เสือร้ายนายโมกข์ในทัณฑ์รักพยัคฆ์ร้าย กันผู้ชายรุมจีบมาแล้ว รวมทั้งนายมาเฟียดีแลนด์สามีสุดหล่อก่อนจะลงเอยกันแล้วนั่นด้วย “แล้วค่าตอบแทน”

“ไม่มี”

“ไหนบอกว่าไม่อยากเป็นหนี้บุญคุณฉันไง”

“แต่คุณบอกว่าจะรับผิดชอบฉันไม่ใช่เหรอ แต่ถ้าเห็นว่าฉันเอาเปรียบคุณเกินไป ก็เรียกร้องมาได้เลย คราวนี้ฉันมีพร้อมจะให้”

“ทุกอย่างหรือเปล่า”

“ตามผลงานที่ได้กระทำ มากน้อยก็ว่ากันไป แต่ไม่ใช่ได้คืบจะเอาศอก และคุณก็ยังไม่ได้ทำอะไร แค่มานั่งเป็นไม้กันหมา ยังไม่ได้ตีหมาสักตัว”

“ฉันบอกว่าพร้อมจะรับผิดชอบ นั่นแสดงว่าจากนี้ไป ฉันจะปกป้องเธอและค่าตอบแทนฉันไม่เอาเงินทอง ต้องการแค่ตัว ยอมหรือเปล่า”

ความอบอุ่นควรจะเกิดขึ้นในใจ แต่กลายเป็นรอยหยันเมื่อเขาก็เหมือนผู้ชายทั่วไป ที่ต้องการแค่ตัวเธอเท่านั้น ระวังหัวใจไว้อย่าเผลอไปให้เขา เดี๋ยวจะเจ็บเปล่าๆ เธอบอกตัวเอง แต่ก็อดถามออกมาไม่ได้ “คุณพูดแบบนี้กับผู้หญิงทุกคนที่ได้ใกล้ชิดเหรอ”

“เฉพาะคนที่ฉันสนใจ”

“แล้วที่สนใจเพราะอะไร”

“หัวใจฉันบอกว่าใช่”

ธารธาราอึ้งไม่คิดว่าเขาจะตอบแบบนี้ เธอควรจะดีใจที่คนที่สนใจรู้สึกไปในทิศทางเดียวกัน แต่มันเร็วเกินไปที่เธอจะปล่อยใจให้เขาไป แม้จะไว้ใจเขาให้ช่วยเรื่องการสืบหาฆาตกรรมก็ตาม ซึ่งเธอก็ยังไม่ได้บอก ยังไม่รู้ว่าเขาจะช่วยหรือเปล่า ธอร์ปล่อยให้ความเงียบเกิดขึ้น ไม่รุก เพราะเขาก็คิดไม่ถึงว่าความรู้สึกจะเกิดขึ้นได้เร็วขนาดนี้
**********
รถบิ๊กไบค์ที่วิ่งออกไปจากธรธารา ตกอยู่ในสายตาของนางเลอรัศมีกับธาราธาร สองแม่ลูกยืนมองมาจากห้องโถงของตึก ตั้งแต่เดินกลับมาถึง คนเป็นแม่นั่งร้อนใจจนไม่มีแก่ใจจะทำอะไร นอกจากจับตามองลูกเลี้ยงกับผู้ชายที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุจนมาส่งกันถึงบ้าน มันช่างบังเอิญเหลือเกินที่หายไปหลายวัน แล้วกลับมาด้วยเหตุผลง่ายๆแบบนี้ ซึ่งเธอไม่เชื่อไม่ลง

ขณะที่คนเป็นลูกนิ่งเฉย แต่ทุกเหตุการณ์นั่นเธอจดจำไว้หมด แค่ไม่แสดงความรู้สึกใดๆออกมาเท่านั้นเอง “หนูว่าแม่ไปนอนดีกว่า อย่าไปสนใจเรื่องพี่น้ำนักเลย”

“ไม่สนได้ไง จู่ๆมันก็กลับมา ไม่บอกที่มาที่ไปว่าหายไปไหน มานั่งทำหน้าซื่อตาใส เหมือนไม่ได้ทำอะไรผิด ทั้งที่น่าสงสัยที่สุด”

“น่าสงสัยอะไรคะ”

“ก็ที่มันกลับมาพร้อมไอ้ผู้ชายคนนั้นไง แม่ไม่เชื่อเด็ดขาด ว่าเจอกันเพราะอุบัติเหตุ มันจะต้องมีอะไรมากกว่านี้ หรือไม่มันก็อาจจะไปด้วยกัน แล้วสร้างเรื่องขึ้นมากลบเกลื่อนความจริง อีกอย่างสภาพที่กลับมานั่นเหมือนผู้หญิงที่ไปถูกผู้ชายรุมโทรมมากกว่าจะกลับมาจากการไปเที่ยวพักผ่อนมา”

“แม่คิดมากไปหรือเปล่าคะ”

“คิดน้อยไปนะซิไม่ว่า ลูกไม่เห็นเหรอ มันตัดผมสั้นรูปทรงก็ไม่มี หน้าไร้สีสันจืดชืดยังกับปลาสำลักน้ำ เปลี่ยนตัวเองเหมือนไม่ให้ใครจำได้ และท่าทางเมื่อกี้ที่เห็นยืนคุยกัน มันมากกว่าคนที่เพิ่งเจอกัน ที่สำคัญเขาไม่รู้ว่ามันเป็นใครได้ยังไง ทั้งๆที่โด่งดังคนรู้จักกันทั่วประเทศ”

ธาราธารคิดตามคำของแม่ แล้วนึกย้อนไปตอนที่เธอเจอกับเขาในงานการกุศล ซึ่งเป็นการเจอกันครั้งแรก เมื่อกี้นั่นเธอก็จำเขาได้แต่ทำเป็นจำไม่ได้ เพราะคิดว่าเขาธรรมดาไม่มีราคาให้น่าสนใจ แต่ถึงจะทำว่าจำได้เธอก็คงไม่ทำท่าทางสนิทเหมือนที่คนเป็นแม่ตั้งข้อสังเกตพี่สาวต่างแม่ แต่ที่พูดออกไปยังเป็นการมองในแง่ดี

“พี่น้ำไปเที่ยวมา คงไม่อยากให้ใครจำได้ จึงปิดบังตัวเอง ไม่งั้นจะไม่มีความเป็นส่วนตัว และคงไม่ได้บอกเขาว่าเป็นใคร”

นางเลอรัศมีนิ่งคิดไปนิด ก็บอกว่า “อันนี้แม่เข้าใจว่าคนโด่งดังมักจะเป็นอย่างนี้ แต่ที่บอกไม่ไปทำงาน ยังให้ลูกไปทำงานนี่ซิ น่าสงสัยหนักมาก มาบอกว่าเหนื่อย ว่าเจ็บ มันขัดแย้งกันอยู่ เพราะยัยน้ำรักงาน รับผิดชอบดีที่หนึ่ง แผลแค่นั้นก็เล็กน้อย ถ้าเทียบกับการอาการป่วยอื่นๆที่เคยเป็นมา มันต้องมีอะไรที่ไม่ชอบมาพากลซ่อนอยู่แน่ๆ”

“แม่อย่าใส่ใจให้เครียดไปเลยค่ะ ไปนอนเถอะ หนูก็ง่วงแล้วด้วย พรุ่งนี้ก็มีงานอีก”

“ถ้าหนูง่วงก็ไปนอนเลย แต่แม่นอนไม่หลับหรอก หรือถ้าหลับก็คงผวา เพราะมันกลับมาทำลายความหวังทุกอย่างไป แม่จะไม่ยอมให้เป็นอยู่แบบนี้เด็ดขาด มันฉลาดทำเป็นใจดี ไม่โกรธที่ลูกไปเป็นตัวตายตัวแทน ทั้งที่ในใจคงเกลียดเราสองแม่ลูกอย่างหนัก และยังให้ลูกทำแทนต่อไป แต่สุดท้ายคนที่จะได้หน้าได้กระแสได้ทุกอย่างไปก็คือมันเช่นเดิม เพราะลูกทำทุกอย่างในนามตัวมันทั้งนั้น และยังให้เรารับผิดชอบถ้าเกิดความผิดพลาดขึ้นอีก แม่ละแค้นสุดแค้นจริง และจะไม่รอวันที่มันจะเฉดหัวเราสองแม่ลูกออกไปเด็ดขาด”

“เฉดหัว” ธาราธารงงกับคำพูดนี้ “แม่หมายความว่าไงคะ”

“หนูไม่ได้ยินที่มันพูดกับสิ่งที่แม่พูดเหรอว่า ถ้าทุกอย่างผิดพลาด แล้วแม่มีวิธีรับผิดชอบยังไง สิ่งที่แม่คิดก็คือ มันต้องเล่นงานเราสองแม่ลูก ซึ่งแม่จะไม่มีวันรอให้ถึงวันนั้นเด็ดขาด แม่จะต้องหาวิธีขณะที่ลูกกำลังเป็นตัวตายตัวแทนมันอยู่ จัดการกับมันให้ได้” ว่าแล้วนางก็ข่มทุกอย่างไว้ แล้วแยกตัวขึ้นห้องนอน

ธาราธารยังนั่งอยู่ที่เดิม แต่สีหน้าเธอไม่ได้อ่อนโยนอีกแล้ว มันกระด้างขึ้นมา สองมือกำเข้าหากันแน่น สายตาก็กร้าวจนน่ากลัว
***********
ขอบคุณที่ติดตามผลงานค่ะ



pream
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 6 ต.ค. 2560, 07:46:40 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 6 ต.ค. 2560, 07:46:40 น.

จำนวนการเข้าชม : 1301





<< ตอน 9   ตอน 11 >>
Kim 6 ต.ค. 2560, 08:47:24 น.
อย่าบอกนะว่ายัยธาราอยู่เบื้องหลังและมีแบ็คอัพดี


แว่นใส 6 ต.ค. 2560, 12:18:12 น.
น่ากลัวเนอะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account