มนต์รักในคำสัญญา (Yaoi) - จบ
คำสัญญาที่เธอเคยให้ไว้กับชายที่รัก แต่ในชาตินี้เธอกลับจำไม่ได้และที่สำคัญเธอเกิดมาเป็นผู้ชาย " คำสัญญาที่เจ้าเคยให้ไว้กับพี่ เจ้าจำได้ไหม พี่รอคอยเวลาที่จะพบเจอเจ้ามานานแสนนาน ไม่ว่ากี่พบกี่ชาติพี่ไม่มีวันลืม" ความรักจะเริ่มต้นใหม่อีกครั้งหรือจะต้องทำตามสัญญาที่เคยให้ไว้สิ่งไหนสำคัญกว่ากัน
Tags: นิยายรัก มนตรา มนตร์ นิยายวาย BL Yaoi
ตอน: เสียงใครกัน
"อารัตครับอาศินกลับบ้านกี่โมงครับ" นทีได้ถามอาของตนเพราะตอนนี้ใกล้สี่โมงแล้วพศินยังไม่มีวี่แววจะกลับมาบ้านเลยสักนิดเขาจึงเป็นห่วง
"คงค่ำหน่อยจ๊ะ เขาบอกอาว่าจะต้องทำธุระให้เรียบร้อยก่อนกลับเข้าบ้าน"
"ครับ" นทีหันไปสนใจข่าวในโทรทัศน์ตรงหน้าต่อ
"แล้วพ่อหนุ่มข้างเราเมื่อไหร่จะกลับสักทีมาขลุกที่บ้านตั้งแต่เช้าแล้วนะ" รัตนาเธอหมั่นไส้เด็กข้างบ้านที่ชอบมาขลุกตัวกับนที ทั้งที่เมื่อก่อนนทีไม่อยู่ที่นี่ไม่เห็นจะมา มาแต่อาศัยฝากท้องทานอาหารแทบทุกมื้อ พออิ่มก็กลับไปไม่เคยเกรงใจเจ้าของบ้านจนเคยตัวเป็นนิสัย มารดาของเธอไม่เคยห้ามมีแต่เปิดให้มาเต็มที่ นี่ถ้าไม่เห็นว่าเป็นคนรู้จักกันมานานคงโดนเตะกลับบ้านไปนานแล้ว
"หึ สงสัยจะตื่นยากครับ" นทีหันไปมองเพื่อนรักที่หลับเหมือนกับว่าที่นี่เป็นบ้านของตนและดูทีท่าจะไม่ตื่นเสียด้วยจึงปล่อยเลยตามเลย
"อาว่าควรปลุกให้ตื่นได้แล้วนะ เพราะตอนนี้มันเย็นแล้ว เดี๋ยวจะนอนทับตะวันเอา" รัตนาบอกหลานให้รีบปลุกเพื่อนไม่เช่นนั้นจะนอนทับตะวันมันจะไม่ดีโบราณเขาถือ
"ครับ เดี๋ยวผมจัดการเอง"
นทียกยิ้มกับความคิดที่แทรกเข้ามาในหัวสมอง ที่จะจัดการคนข้างกายที่หลับบนโซฟาอย่างสบายใจเกินหน้าเกินตาจนน่าหมั่นไส้ เขาได้ยกขาขึ้นถีบคนที่นอนหลับอย่างสบายใจตกลงหน้าทิ่มพื้นทันที
"อุ๊ย! /โอ๊ย! ใครถีบตูว่ะ"
รัตนาเห็นหลานตนถีบเพื่อนหน้าทิ่มไปจูบกับพื้น เธอจึงยกมือปิดปากกลั้นหัวเราะทันที ส่วนปัถวีที่ถูกถีบให้ต้องตื่นจากความฝันอันแสนหวาน ได้เอามือลูบหน้าผากที่ทิ่มกับพื้นอย่างแรงด้วยความหงุดหงิดคนที่ทำตนเอง
"ตูเอง มีปัญหาเหรอวี" นทียิ้มเยาะเย้ยพร้อมยกเท้าน้อยๆ ขึ้นชูให้ปัถวีเห็น
"ไม่คร๊าบ ไม่เลยคร๊าบ" ปัถวีพอรู้ว่าเป็นนทีเขาจึงหุบปากสงบคำ จะต่อว่าได้ยังไงเขาต้องทำคะแนนไม่ให้เพื่อนคนนี้หงุดหงิดได้
"หึหึ ดีมาก" นทีเอาเท้าของเขาลง เขากลับรู้สึกดีที่ได้ทำอะไรตามใจบ้าง
"กี่โมงแล้ว"
ปัถวีถามนทีที่กำลังมองเขาที่พยายามยันตัวลุกขึ้นยืนด้วยความยากลำบากเพราะเมื่อยตามแขนขาไปหมดคงเพราะตนนั้นนอนอัดบนโซฟาที่แคบจนเกินไป
"ใกล้สี่โมงแล้วหล่ะ" นทีได้ตอบปัถวีไปพร้อมกับมองนาฬิกาเรือนโตที่ติดกับผนังบ้านอย่างตั้งใจ
"แล้วเราจะอยู่ทานอาหารเย็นไหม" รัตนาถามขึ้นพร้อมมองปัถวีที่ทำท่าทางตลกเพื่อนั่งข้างนทีอย่างเอาใจ
"ไม่ครับ ผมคิดว่าจะกลับบ้านก่อน วันนี้พ่อกับแม่ผมกลับมาบ้านครับ ผมต้องไปเตรียมต้อนรับพวกท่าน" ปัถวีพูดเสียงเบา พอให้ได้ยินเพียงแค่รัตนากับนทีเท่านั้น เขาไม่อยากกลับแต่ต้องรีบกลับไปทำความสะอาดบ้านให้เรียบร้อยก่อนที่แม่จะบ่นว่าบ้านสกปรก
"กลับมาพร้อมกับพี่พศินเลยนะ" เธอคิดว่าเป็นวันดีจริงที่คนรอบกายอยู่กันพร้อมหน้าแบบนี้
"ครับ ผมไม่รบกวนแล้วครับ ไปก่อนนะที" ปัถวีลุกขึ้นยืนอย่างอ้อยอิ่งด้วยความขี้เกียจ ส่วนนทีอยากออกไปสูดอากาศข้างนอกอีกครั้งจึงเสนอตัวไปกับปถวี
"เดี๋ยวเราไปส่ง"
"ดีจัง ขอบใจนะ" ปัถวีรีบฉีกยิ้มขานรับทันทีอย่างน้อยคนตรงหน้ายังมีน้ำใจไปส่งเขาถึงที่
รัตนามองคนทั้งสองแล้วส่ายหัวอย่างเอือมๆ อีกคนไม่รู้ว่าอีกคนเเอบชอบอยู่ ส่วนอีกคนพยายามจะหาทางเข้าใกล้ จะสงสารปัถวีดีหรือจะเห็นใจดี อาจจะต้องทั้งสองอย่างเพราะหลานของเธอนั้นไม่มีวี่แววว่าจะชอบปัถวีเลยสักนิดเดียว น่าจะรีบบอกความในใจไปได้แล้วจะได้รู้ไปเลยว่าชอบไหม เก็บไว้แบบนี้มีหวังโดนใครคาบไป เธอก็ไม่เคยคาดหวังกับหลานชายคนนี้ว่าจะต้องมีหลานสะใภ้หรือจะไม่มีใครก็ได้เธอไม่สนใจเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว เธอรักนทีเหมือนลูกเพราะเธอไม่มีลูกกับสามีพอเห็นนทีโตมาแบบนี้เธอก็ดีใจแทนพี่ชาย ที่เด็กตัวน้อยที่เธอเห็นในวัยเด็กเติบโตมาจนขนาดนี้ เธอยืนคิดถึงความหลังอยู่สักพักก็นึกขึ้นได้ว่าต้องเข้าไปเตรียมของในครัวเสียหน่อย
เมื่อนทีมาส่งปัถวีตามที่ตนรับปากเอาไว้ เขาได้ไปส่งที่เดิมตรงรอยโหว่ของกำแพง นทีดึงกิ่งไม้แห้งออกให้ปัถวีเตรียมมุดกลับเข้าบ้านไป ปัถวีส่งยิ้มกว้างมาให้นทีแต่นทีเพียงแค่ยกยิ้มเป็นการตอบกลับ
"ขอบใจนะที่มาส่ง"
"ไปได้แล้ว เดี๋ยวทำความสะอาดไม่ทันคุณป้ากลับมาบ้านก่อนหรอก" นทีดันหัวไหล่ปัถวีเบาๆ เป็นการกระตุ้นให้คนตรงหน้ารีบกลับ
"แฮะ แฮะ รู้จนได้"
ปัถวีรู้ว่าเก็บเรื่องบ้านสกปรกกับนทีไม่ได้อย่างแน่นอนเพราะพวกเราโตมาด้วยกัน นทีจึงรู้ว่าเขานั้นขี้เกียจมากเพียงใด ผิดกับนทีที่เป็นคนเจ้าระเบียบและสะอาดจนผู้หญิงชิดซ้ายไปเลยทีเดียว ไม่อยากคิดภาพถ้านทีมาอยู่กับตนจะเป็นยังไง คงจะสบายแน่เลยเพราะมีคนคอยทำความสะอาดบ้านให้
"คิดอะไรของนายอยู่ รีบกลับไปได้แล้ว" นทีเห็นเพื่อนเหม่อคิดอะไรอยู่ในใจจึงได้เรียกสติให้กลับมา
"แฮะ แฮะ ขอโทษครับ คิดอะไรเพลินไปนิด" ปัถวีรีบเก็บอาการอย่างไวเดี๋ยวนทีรู้ความในใจของตน
"ไปได้แล้ว" นทีกวักมือไล่ให้คนข้างหน้าหมุดตัวกลับไปเสียที
ปัถวีรีบทำตามอย่างไวเขามุดและปิดรอยโหว่อย่างเรียบร้อยพร้อมกับตะโกนเสียงดังข้ามฝั่งมาหานทีว่า "ฝันดีนะ" ทั้งที่ยังไม่มืดเลยสักนิดทำให้นทีถึงกับอายเลยทีเดียว จะไม่อายได้ยังไงถัดไปมีแต่คนงานที่มาทำสวน ถ้าพวกเขาได้ยินเข้าเขาไม่ต้องมุดดินกลับบ้านหรือไงกัน เพื่อนคนนี้ชอบทำเรื่องให้เขาต้องเขินอายได้ตลอด นทีรีบเดินหนีจากตรงนี้แล้วเดินตรงกลับเข้าบ้านทันที ระหว่างทางกลับถึงบ้านเขาต้องผ่านเส้นทางเดิมเหมือนกับเมื่อวานที่เจองูเห่าตัวใหญ่แต่ครั้งนี้อาจจะไม่มี นทีคิดเช่นนั้น
"แม่จันนน..." เสียงร้องแผ่วเบาหลงเข้ามากระทบหูของนทีทำให้นทีถึงกับขนตั้ง
"ค...ใครนะ" นทีมองไปรอบตัวว่าเสียงมาจากไหนแต่กลับไม่เห็นอะไรเลยและทุกอย่างมองดูปกติดี
"แม่จันนนน..."
เสียงเรียกเริ่มยาวขึ้นเรื่อยๆ ทั้งที่เขาไม่ใช่คนชื่อจันแต่ทำไมกลับนึกว่าเสียงนั้นกำลังเรียกตนอยู่ หรือว่าจะไม่ใช่คน พอคิดได้อย่างนั้นนทีเสียวสันหลังวาบ รีบก้าวขาหนีเข้าบ้านไปโดยไม่เหลียวหลังกลับมามองอีกเลย ถ้านทีหันหลังกลับมาสักนิดเขาจะเห็นร่างของชายหนุ่มโปร่งแสงยืนมองเขาอยู่
"หึ โทษฐานที่คุยกับชายอื่น" ร่างโปร่งแสงนั้นยกยิ้มกับความสำเร็จที่ได้แกล้งคนรักที่อยู่ในร่างผู้ชาย
"เอาอีกแล้วนะพ่อศร ทำไมถึงทำให้แม่จันกลัวแบบนั้นกัน"
หญิงสาวไว้ผมทรงดอกกระทุ่ม สวมใส่เสื้อแพรไหม ลูกไม้ตัดแบบตะวันตกคอตั้งสูง แขนยาวพองฟู เสื้อผ้าจีบเข้ารูปคาดเข็มขัด สะพายแพร สวมถุงเท้ามีลวดลายปักสี สวมรองเท้าส้นสูง ปรากฏตัวข้างร่างโปร่งแสง
ร่างโปร่งแสงร่างเริ่มเข้มขึ้นบ่งบอกว่าพลังงานได้รวมตัวกันเป็นรูปร่าง ให้หญิงสาวที่มีรูปแบบพลังงานเหมือนตนได้เห็นชัดเจนขึ้น
"ทนไม่ไหว เห็นแม่จันคุยกับชายอื่นแล้วมันน่าหงุดหงิดใจ อยากบีบคอชายคนนั้นให้สิ้นลม แม่จันจะได้ไม่ชายตามองใคร"
ศรรับรู้ถึงกระแสความคิดของชายที่ได้ขึ้นชื่อว่าเพื่อนสนิทแต่กลับคิดไม่ซื่อกับคนรักของตน และที่ทำให้เขายิ่งหงุดหงิดใจมากกว่านั้นคือ นทีกลับเขินอายอย่างกับรู้สึกดีไปกับชายหนุ่มคนนั้น ยิ่งคิดยิ่งไม่ชอบใจอยากให้ชายคนนั้นหายตัวไปจากโลกนี้ ถ้าได้แบบนั้นยิ่งดี
"ทำแบบนั้นไม่ได้นะ เท่ากับบั่นทอนพลังงานของเราให้ดับลง เป็นบาปกรรมติดตัว นรกจะดึงลงไป"
เธอได้ตักเตือนผู้ที่อายุน้อยกว่าด้วยความเอ็นดูถึงจะไม่มีกายหยาบเหมือนมนุษย์ทั่วไปเป็นกายละเอียดจึงต้องมีความระมัดระวังเป็นพิเศษ ถ้าทำผิดพลาดขึ้นมาบาปนั้นจะสนองอย่างเร็วเพราะทุกอย่างมีกฎไม่ว่าจะอยู่ในภพภูมิไหนก็ตาม
ชายหนุ่มร่างทิพย์ได้พยักหน้าเป็นที่เข้าใจว่าตนไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านี้ ถึงภายในจะร้อนรนมากมายเพียงใดต้องทำใจว่าเราทั้งสองอยู่กันคนละภพกัน
ทางด้านนทีที่รีบวิ่งกลับบ้านด้วยขนที่ตั้งไปทั้งตัว เขานึกหวาดกลัวขึ้นมาว่าถ้าเป็นผีร้ายจะมาทำอันตรายเขาไหม จะฆ่าเขาตายหรือเปล่า คิดในใจอย่างเดียวว่าอย่าเจออีกเลยแล้วจะส่งบุญไปให้
"ทีมาทานข้าวเย็นกัน เดี๋ยวอาศินกลับมาแล้ว" รัตนาเห็นนทีวิ่งพรวดพราดเข้ามาในบ้านจึงร้องทักขึ้น
"วันนี้ผมขอตัวนะครับ พอดียังอิ่มอยู่ไม่หิว" พอพูดจบนทีรีบขึ้นห้องไป โดยไม่ฟังเสียงอาของตนเลยสักนิด
"ที เดี๋ยว! อะไรของเค้า" รัตนาบ่นออกมาพึมพำไม่เข้าใจว่าหลานตนเป็นอะไรกันแน่ ถึงไม่หยุดฟังคนอื่นพูดให้จบเสียก่อน
เวลาผ่านไปได้หนึ่งชั่วโมงพศินได้เดินทางกลับมาบ้านโดยมีภรรยาอย่างรัตนาและพิมสาวใช้เพียงคนเดียวในบ้านต้อนรับอย่างดี
"อ้าวทียังไม่มาเหรอ" พศินแปลกใจว่าไม่เห็นหลานนอกไส้เพราะขารู้มาว่ากลับมาบ้านตั้งแต่เมื่อวานแล้ว
"ขอตัวขึ้นห้องไปนะคะ" รัตนาตอบสามีด้วยรอยยิ้มที่ดีใจว่าสามีของเธอได้กลับมาบ้านเสียที
"คงเหนื่อยสินะ" พศินไม่ซักไซ้ถามต่อเพราะเขาไม่ใช่คนเรื่องมากอะไร
"ถ้าแบบนั้นพี่มาทานข้าวเถอะรัตเตรียมไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ" พศินพยักหน้ารับแล้วโอบเอวภรรยาเดินไปทานข้าว โดยมีพิมคอยบริการอย่างเต็มที่
ทางด้านนทีที่กลับมาที่ห้องนอนเขารีบนอนคลุมโปงทันที
"พ่อจ๋าแม่จ๋าช่วยทีด้วย ไม่ต้องมาหาทีนะทีกลัวแค่อย่าได้ยินเสียงแบบนี้อีกก็พอ ฮือ ทีกลัวแล้วไปที่ชอบที่ชอบเถอะนะ ฮือ"
ทั้งคืนนทีจะพูดซ้ำแล้วซ้ำอีกกับคำพูดเดิมๆ จนเผลอหลับไปในที่สุด ส่วนทางด้านตัวการอย่างศรกลับรู้สึกผิดขึ้นมาทันทีที่ไปหลอกให้กลัวเช่นนั้น เขาไม่คิดว่านทีจะกลัวได้ขนาดนี้
"คงค่ำหน่อยจ๊ะ เขาบอกอาว่าจะต้องทำธุระให้เรียบร้อยก่อนกลับเข้าบ้าน"
"ครับ" นทีหันไปสนใจข่าวในโทรทัศน์ตรงหน้าต่อ
"แล้วพ่อหนุ่มข้างเราเมื่อไหร่จะกลับสักทีมาขลุกที่บ้านตั้งแต่เช้าแล้วนะ" รัตนาเธอหมั่นไส้เด็กข้างบ้านที่ชอบมาขลุกตัวกับนที ทั้งที่เมื่อก่อนนทีไม่อยู่ที่นี่ไม่เห็นจะมา มาแต่อาศัยฝากท้องทานอาหารแทบทุกมื้อ พออิ่มก็กลับไปไม่เคยเกรงใจเจ้าของบ้านจนเคยตัวเป็นนิสัย มารดาของเธอไม่เคยห้ามมีแต่เปิดให้มาเต็มที่ นี่ถ้าไม่เห็นว่าเป็นคนรู้จักกันมานานคงโดนเตะกลับบ้านไปนานแล้ว
"หึ สงสัยจะตื่นยากครับ" นทีหันไปมองเพื่อนรักที่หลับเหมือนกับว่าที่นี่เป็นบ้านของตนและดูทีท่าจะไม่ตื่นเสียด้วยจึงปล่อยเลยตามเลย
"อาว่าควรปลุกให้ตื่นได้แล้วนะ เพราะตอนนี้มันเย็นแล้ว เดี๋ยวจะนอนทับตะวันเอา" รัตนาบอกหลานให้รีบปลุกเพื่อนไม่เช่นนั้นจะนอนทับตะวันมันจะไม่ดีโบราณเขาถือ
"ครับ เดี๋ยวผมจัดการเอง"
นทียกยิ้มกับความคิดที่แทรกเข้ามาในหัวสมอง ที่จะจัดการคนข้างกายที่หลับบนโซฟาอย่างสบายใจเกินหน้าเกินตาจนน่าหมั่นไส้ เขาได้ยกขาขึ้นถีบคนที่นอนหลับอย่างสบายใจตกลงหน้าทิ่มพื้นทันที
"อุ๊ย! /โอ๊ย! ใครถีบตูว่ะ"
รัตนาเห็นหลานตนถีบเพื่อนหน้าทิ่มไปจูบกับพื้น เธอจึงยกมือปิดปากกลั้นหัวเราะทันที ส่วนปัถวีที่ถูกถีบให้ต้องตื่นจากความฝันอันแสนหวาน ได้เอามือลูบหน้าผากที่ทิ่มกับพื้นอย่างแรงด้วยความหงุดหงิดคนที่ทำตนเอง
"ตูเอง มีปัญหาเหรอวี" นทียิ้มเยาะเย้ยพร้อมยกเท้าน้อยๆ ขึ้นชูให้ปัถวีเห็น
"ไม่คร๊าบ ไม่เลยคร๊าบ" ปัถวีพอรู้ว่าเป็นนทีเขาจึงหุบปากสงบคำ จะต่อว่าได้ยังไงเขาต้องทำคะแนนไม่ให้เพื่อนคนนี้หงุดหงิดได้
"หึหึ ดีมาก" นทีเอาเท้าของเขาลง เขากลับรู้สึกดีที่ได้ทำอะไรตามใจบ้าง
"กี่โมงแล้ว"
ปัถวีถามนทีที่กำลังมองเขาที่พยายามยันตัวลุกขึ้นยืนด้วยความยากลำบากเพราะเมื่อยตามแขนขาไปหมดคงเพราะตนนั้นนอนอัดบนโซฟาที่แคบจนเกินไป
"ใกล้สี่โมงแล้วหล่ะ" นทีได้ตอบปัถวีไปพร้อมกับมองนาฬิกาเรือนโตที่ติดกับผนังบ้านอย่างตั้งใจ
"แล้วเราจะอยู่ทานอาหารเย็นไหม" รัตนาถามขึ้นพร้อมมองปัถวีที่ทำท่าทางตลกเพื่อนั่งข้างนทีอย่างเอาใจ
"ไม่ครับ ผมคิดว่าจะกลับบ้านก่อน วันนี้พ่อกับแม่ผมกลับมาบ้านครับ ผมต้องไปเตรียมต้อนรับพวกท่าน" ปัถวีพูดเสียงเบา พอให้ได้ยินเพียงแค่รัตนากับนทีเท่านั้น เขาไม่อยากกลับแต่ต้องรีบกลับไปทำความสะอาดบ้านให้เรียบร้อยก่อนที่แม่จะบ่นว่าบ้านสกปรก
"กลับมาพร้อมกับพี่พศินเลยนะ" เธอคิดว่าเป็นวันดีจริงที่คนรอบกายอยู่กันพร้อมหน้าแบบนี้
"ครับ ผมไม่รบกวนแล้วครับ ไปก่อนนะที" ปัถวีลุกขึ้นยืนอย่างอ้อยอิ่งด้วยความขี้เกียจ ส่วนนทีอยากออกไปสูดอากาศข้างนอกอีกครั้งจึงเสนอตัวไปกับปถวี
"เดี๋ยวเราไปส่ง"
"ดีจัง ขอบใจนะ" ปัถวีรีบฉีกยิ้มขานรับทันทีอย่างน้อยคนตรงหน้ายังมีน้ำใจไปส่งเขาถึงที่
รัตนามองคนทั้งสองแล้วส่ายหัวอย่างเอือมๆ อีกคนไม่รู้ว่าอีกคนเเอบชอบอยู่ ส่วนอีกคนพยายามจะหาทางเข้าใกล้ จะสงสารปัถวีดีหรือจะเห็นใจดี อาจจะต้องทั้งสองอย่างเพราะหลานของเธอนั้นไม่มีวี่แววว่าจะชอบปัถวีเลยสักนิดเดียว น่าจะรีบบอกความในใจไปได้แล้วจะได้รู้ไปเลยว่าชอบไหม เก็บไว้แบบนี้มีหวังโดนใครคาบไป เธอก็ไม่เคยคาดหวังกับหลานชายคนนี้ว่าจะต้องมีหลานสะใภ้หรือจะไม่มีใครก็ได้เธอไม่สนใจเรื่องแบบนี้อยู่แล้ว เธอรักนทีเหมือนลูกเพราะเธอไม่มีลูกกับสามีพอเห็นนทีโตมาแบบนี้เธอก็ดีใจแทนพี่ชาย ที่เด็กตัวน้อยที่เธอเห็นในวัยเด็กเติบโตมาจนขนาดนี้ เธอยืนคิดถึงความหลังอยู่สักพักก็นึกขึ้นได้ว่าต้องเข้าไปเตรียมของในครัวเสียหน่อย
เมื่อนทีมาส่งปัถวีตามที่ตนรับปากเอาไว้ เขาได้ไปส่งที่เดิมตรงรอยโหว่ของกำแพง นทีดึงกิ่งไม้แห้งออกให้ปัถวีเตรียมมุดกลับเข้าบ้านไป ปัถวีส่งยิ้มกว้างมาให้นทีแต่นทีเพียงแค่ยกยิ้มเป็นการตอบกลับ
"ขอบใจนะที่มาส่ง"
"ไปได้แล้ว เดี๋ยวทำความสะอาดไม่ทันคุณป้ากลับมาบ้านก่อนหรอก" นทีดันหัวไหล่ปัถวีเบาๆ เป็นการกระตุ้นให้คนตรงหน้ารีบกลับ
"แฮะ แฮะ รู้จนได้"
ปัถวีรู้ว่าเก็บเรื่องบ้านสกปรกกับนทีไม่ได้อย่างแน่นอนเพราะพวกเราโตมาด้วยกัน นทีจึงรู้ว่าเขานั้นขี้เกียจมากเพียงใด ผิดกับนทีที่เป็นคนเจ้าระเบียบและสะอาดจนผู้หญิงชิดซ้ายไปเลยทีเดียว ไม่อยากคิดภาพถ้านทีมาอยู่กับตนจะเป็นยังไง คงจะสบายแน่เลยเพราะมีคนคอยทำความสะอาดบ้านให้
"คิดอะไรของนายอยู่ รีบกลับไปได้แล้ว" นทีเห็นเพื่อนเหม่อคิดอะไรอยู่ในใจจึงได้เรียกสติให้กลับมา
"แฮะ แฮะ ขอโทษครับ คิดอะไรเพลินไปนิด" ปัถวีรีบเก็บอาการอย่างไวเดี๋ยวนทีรู้ความในใจของตน
"ไปได้แล้ว" นทีกวักมือไล่ให้คนข้างหน้าหมุดตัวกลับไปเสียที
ปัถวีรีบทำตามอย่างไวเขามุดและปิดรอยโหว่อย่างเรียบร้อยพร้อมกับตะโกนเสียงดังข้ามฝั่งมาหานทีว่า "ฝันดีนะ" ทั้งที่ยังไม่มืดเลยสักนิดทำให้นทีถึงกับอายเลยทีเดียว จะไม่อายได้ยังไงถัดไปมีแต่คนงานที่มาทำสวน ถ้าพวกเขาได้ยินเข้าเขาไม่ต้องมุดดินกลับบ้านหรือไงกัน เพื่อนคนนี้ชอบทำเรื่องให้เขาต้องเขินอายได้ตลอด นทีรีบเดินหนีจากตรงนี้แล้วเดินตรงกลับเข้าบ้านทันที ระหว่างทางกลับถึงบ้านเขาต้องผ่านเส้นทางเดิมเหมือนกับเมื่อวานที่เจองูเห่าตัวใหญ่แต่ครั้งนี้อาจจะไม่มี นทีคิดเช่นนั้น
"แม่จันนน..." เสียงร้องแผ่วเบาหลงเข้ามากระทบหูของนทีทำให้นทีถึงกับขนตั้ง
"ค...ใครนะ" นทีมองไปรอบตัวว่าเสียงมาจากไหนแต่กลับไม่เห็นอะไรเลยและทุกอย่างมองดูปกติดี
"แม่จันนนน..."
เสียงเรียกเริ่มยาวขึ้นเรื่อยๆ ทั้งที่เขาไม่ใช่คนชื่อจันแต่ทำไมกลับนึกว่าเสียงนั้นกำลังเรียกตนอยู่ หรือว่าจะไม่ใช่คน พอคิดได้อย่างนั้นนทีเสียวสันหลังวาบ รีบก้าวขาหนีเข้าบ้านไปโดยไม่เหลียวหลังกลับมามองอีกเลย ถ้านทีหันหลังกลับมาสักนิดเขาจะเห็นร่างของชายหนุ่มโปร่งแสงยืนมองเขาอยู่
"หึ โทษฐานที่คุยกับชายอื่น" ร่างโปร่งแสงนั้นยกยิ้มกับความสำเร็จที่ได้แกล้งคนรักที่อยู่ในร่างผู้ชาย
"เอาอีกแล้วนะพ่อศร ทำไมถึงทำให้แม่จันกลัวแบบนั้นกัน"
หญิงสาวไว้ผมทรงดอกกระทุ่ม สวมใส่เสื้อแพรไหม ลูกไม้ตัดแบบตะวันตกคอตั้งสูง แขนยาวพองฟู เสื้อผ้าจีบเข้ารูปคาดเข็มขัด สะพายแพร สวมถุงเท้ามีลวดลายปักสี สวมรองเท้าส้นสูง ปรากฏตัวข้างร่างโปร่งแสง
ร่างโปร่งแสงร่างเริ่มเข้มขึ้นบ่งบอกว่าพลังงานได้รวมตัวกันเป็นรูปร่าง ให้หญิงสาวที่มีรูปแบบพลังงานเหมือนตนได้เห็นชัดเจนขึ้น
"ทนไม่ไหว เห็นแม่จันคุยกับชายอื่นแล้วมันน่าหงุดหงิดใจ อยากบีบคอชายคนนั้นให้สิ้นลม แม่จันจะได้ไม่ชายตามองใคร"
ศรรับรู้ถึงกระแสความคิดของชายที่ได้ขึ้นชื่อว่าเพื่อนสนิทแต่กลับคิดไม่ซื่อกับคนรักของตน และที่ทำให้เขายิ่งหงุดหงิดใจมากกว่านั้นคือ นทีกลับเขินอายอย่างกับรู้สึกดีไปกับชายหนุ่มคนนั้น ยิ่งคิดยิ่งไม่ชอบใจอยากให้ชายคนนั้นหายตัวไปจากโลกนี้ ถ้าได้แบบนั้นยิ่งดี
"ทำแบบนั้นไม่ได้นะ เท่ากับบั่นทอนพลังงานของเราให้ดับลง เป็นบาปกรรมติดตัว นรกจะดึงลงไป"
เธอได้ตักเตือนผู้ที่อายุน้อยกว่าด้วยความเอ็นดูถึงจะไม่มีกายหยาบเหมือนมนุษย์ทั่วไปเป็นกายละเอียดจึงต้องมีความระมัดระวังเป็นพิเศษ ถ้าทำผิดพลาดขึ้นมาบาปนั้นจะสนองอย่างเร็วเพราะทุกอย่างมีกฎไม่ว่าจะอยู่ในภพภูมิไหนก็ตาม
ชายหนุ่มร่างทิพย์ได้พยักหน้าเป็นที่เข้าใจว่าตนไม่สามารถทำอะไรได้มากกว่านี้ ถึงภายในจะร้อนรนมากมายเพียงใดต้องทำใจว่าเราทั้งสองอยู่กันคนละภพกัน
ทางด้านนทีที่รีบวิ่งกลับบ้านด้วยขนที่ตั้งไปทั้งตัว เขานึกหวาดกลัวขึ้นมาว่าถ้าเป็นผีร้ายจะมาทำอันตรายเขาไหม จะฆ่าเขาตายหรือเปล่า คิดในใจอย่างเดียวว่าอย่าเจออีกเลยแล้วจะส่งบุญไปให้
"ทีมาทานข้าวเย็นกัน เดี๋ยวอาศินกลับมาแล้ว" รัตนาเห็นนทีวิ่งพรวดพราดเข้ามาในบ้านจึงร้องทักขึ้น
"วันนี้ผมขอตัวนะครับ พอดียังอิ่มอยู่ไม่หิว" พอพูดจบนทีรีบขึ้นห้องไป โดยไม่ฟังเสียงอาของตนเลยสักนิด
"ที เดี๋ยว! อะไรของเค้า" รัตนาบ่นออกมาพึมพำไม่เข้าใจว่าหลานตนเป็นอะไรกันแน่ ถึงไม่หยุดฟังคนอื่นพูดให้จบเสียก่อน
เวลาผ่านไปได้หนึ่งชั่วโมงพศินได้เดินทางกลับมาบ้านโดยมีภรรยาอย่างรัตนาและพิมสาวใช้เพียงคนเดียวในบ้านต้อนรับอย่างดี
"อ้าวทียังไม่มาเหรอ" พศินแปลกใจว่าไม่เห็นหลานนอกไส้เพราะขารู้มาว่ากลับมาบ้านตั้งแต่เมื่อวานแล้ว
"ขอตัวขึ้นห้องไปนะคะ" รัตนาตอบสามีด้วยรอยยิ้มที่ดีใจว่าสามีของเธอได้กลับมาบ้านเสียที
"คงเหนื่อยสินะ" พศินไม่ซักไซ้ถามต่อเพราะเขาไม่ใช่คนเรื่องมากอะไร
"ถ้าแบบนั้นพี่มาทานข้าวเถอะรัตเตรียมไว้เรียบร้อยแล้วค่ะ" พศินพยักหน้ารับแล้วโอบเอวภรรยาเดินไปทานข้าว โดยมีพิมคอยบริการอย่างเต็มที่
ทางด้านนทีที่กลับมาที่ห้องนอนเขารีบนอนคลุมโปงทันที
"พ่อจ๋าแม่จ๋าช่วยทีด้วย ไม่ต้องมาหาทีนะทีกลัวแค่อย่าได้ยินเสียงแบบนี้อีกก็พอ ฮือ ทีกลัวแล้วไปที่ชอบที่ชอบเถอะนะ ฮือ"
ทั้งคืนนทีจะพูดซ้ำแล้วซ้ำอีกกับคำพูดเดิมๆ จนเผลอหลับไปในที่สุด ส่วนทางด้านตัวการอย่างศรกลับรู้สึกผิดขึ้นมาทันทีที่ไปหลอกให้กลัวเช่นนั้น เขาไม่คิดว่านทีจะกลัวได้ขนาดนี้

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 11 ต.ค. 2560, 13:45:30 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 11 ต.ค. 2560, 13:45:30 น.
จำนวนการเข้าชม : 681
<< ดอกไม้ปริศนา | พศินกับคืนที่แปลก >> |