นาฬิกาทรายหวนคืน (Yaoi) - จบ
เมื่อคนรักกลับจำเขาไม่ได้จากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น แต่อุบัติเหตุนั้นไม่ใช่อุบัติเหตุธรรมดา สิ่งที่แก้ไขได้มีเวลาเพียงสามเดือนเพื่อฟื้นฟูความจำให้กลับมา ซึ่งความทรงจำที่หายไปมาควบคู่กับอาการประหลาดที่เกิดขึ้น และอาจจะไม่มีชีวิตอยู่รอดก่อนที่จะครบสามเดือนความเสี่ยงที่จะย้อนเวลากลับอดีตนั้น จะช่วยให้ความทรงจำกลับมาได้ไหม แล้วคนในอดีตตามมาปัจจุบันทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงมากเพียงใด สิ่งที่ตามจัดการพวกเขาในเงามืดอยู่นั้นเกิดขึ้นเพราะใครทำไมต้องทำเช่นนี้
เรื่องนี้เป็นภาคต่อจาก ช่องว่างเวลาแห่งรัก ความรักที่เกิดจากการข้ามผ่านกาลเวลา
แต่ฟ้ากลับเล่นตลกเหมือนเป็นบททดสอบว่ารักกันจริงหรือไม่
Tags: นิยายรัก อดีต ปัจจุบัน อนาคต นาฬิกาทราย นิยายวาย BL Yaoi

ตอน: คิดยังไงก็จำไม่ได้

​"ไม่ครับ ผมจำได้ว่าผมไม่รู้จักคุณนะ"



เมื่ออินได้ยินคำพูดของเอกประโยคนี้ทำให้เขาเกือบล้มทั้งยืน โชคดีที่ยังพิงกับเตียงไว้อยู่บ้างไม่เช่นนั้นคงหมดแรงไปแล้ว และคำพูดที่เอกพูดออกมานั้น อินคิดว่าเอกไม่ได้ล้อเล่นเพราะสายตาที่มองสื่อออกมานั้นชัดเจนว่าไม่รู้จักเขาอย่างแน่นอนแล้วคราวนี้จะต้องทำยังไงต่อไปอีกดี

"หมอคิดว่าน่าจะเป็นภาวะเสียความทรงจำ อาจจะต้องใช้เวลาปรับตัวเสียหน่อยนะ"

หมอที่ยืนฟังการสนทนาของทุกคนในห้องอย่างตั้งใจได้พูดขึ้น เนื่องจากเขาต้องวิเคราะห์พฤติกรรมและความทรงจำของคนไข้ไปด้วยได้เห็นแบบนี้จึงเป็นอย่างที่เขาคิด เป็นภาวะหลังจากได้รับอุบัติเหตุนั้นเอง แต่จะหายไปมากน้อยขนาดไหนนั้นคงต้องดูกันอีกที



"คุณหมอค่ะ เพื่อนหนูจะกลับมาเหมือนเดิมเมื่อไหร่" จิ๋วร้อนใจเพราะเธอสังเกตจากคำพูดของเอกแล้วเหมือนจะไม่รู้จักกับอินเลยสักนิด รวมถึงนนท์ทั้งสองด้วย แต่เพื่อนเธอยังจำเธอได้บ้างแต่เหมือนจะไม่หมดทุกอย่าง เธอกำลังคิดว่าเอกจำเหตุการณ์ต่างๆ ไม่ได้และย้อนกลับไปเยอะเหมือนกัน



"หมอคงตอบไม่ได้ ต้องขึ้นอยู่กับปัจจัยอะไรหลายอย่างครับ แต่พวกคุณไม่ต้องกังวลไปสมองเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของมนุษย์ บางอย่างที่ไม่น่าจะเป็นไปได้กลับเกิดขึ้นได้ก็มี ต้องให้เวลาเขาเสียหน่อยนะ" หมอพยายามพูดให้กำลังใจคนไข้และญาติ เขารู้ว่าเป็นภาวะหนึ่งที่เกิดจากการได้รับการกระทบกระเทือนอย่างแรงทางสมอง จะฟื้นคืนมากน้อยขนาดไหนนั้นคงขึ้นอยู่กับปัจจัยรอบตัวและจากตัวคนไข้เองเหมือนกัน เวลาเท่านั้นเป็นคำตอบได้ จิ๋วได้แต่พยักหน้ารับ



"พรุ่งนี้จะให้เริ่มทำกายภาพบำบัดเพื่อฟื้นฟูกำลังกล้ามเนื้อแขนและขานะ ถ้าอย่างนั้นหมอขอตัวครับ" หลังจากที่หมอได้พูดจบทั้งหมอและพยาบาลได้เดินออกจากห้องไป ทุกคนในห้องจึงกลับมาสู่ความคิดของตนเอง โดยแต่ละคนได้คิดต่างกันออกไป ส่วนเอกนั้นได้นั่งมองทุกคนและพยายามใช้ความคิดอย่างหนักว่า ตนเองจำอะไรได้บ้างไหม



"เอาแบบนี้นะครับ" อินได้สติจึงพูดขึ้นทำลายความเงียบในตอนนี้ทั้งหมด ทำให้ทุกคนหันไปมองต้นเสียงเป็นทางเดียวกัน

"อะไรคะ คุณอิน" จิ๋วเป็นคนแรกที่พูดถามอินเนื่องจากเธอร้อนใจแทนเพื่อนของเธอ

"คุณเอกคุณจำอะไรได้บ้าง" อินไม่ได้สนใจตอบคำถามจิ๋ว ส่วนจิ๋วนั้นเข้าใจอิน เธอจึงไม่ได้ว่าอะไร แต่เธอและทุกคนกำลังมองอินที่ถามคำถามกับเอกด้วยสีหน้าที่จริงจัง



"อะไรได้บ้างเหรอ" เอกขมวดคิ้วคิดว่าตนจะเริ่มจากตรงไหนก่อนดี เพราะเหมือนความคิดและภาพความทรงจำมันตีกันยุ่งไปหมด จับจุดไม่ถูกว่าต้องเริ่มจากตรงไหน

"ผมขอถามใหม่" อินเห็นท่าทางของเอกที่มึนงงเขาคิดว่าเอกคงตอบไม่ถูกอย่างแน่นอน จึงต้องตั้งคำถามใหม่อีกครั้ง



"ภาพที่คุณจำได้ครั้งล่าสุดตอนนั้นคืออะไร และกำลังทำอะไรอยู่" อินถามด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นเขาจริงจังและต้องการจะรู้คำตอบให้ได้ เอกกลับขมวดคิ้วกันเป็นปมด้วยสีหน้าที่เครียด

"คุณอินอย่าพึ่งไปเร่งเอกมันสิคะ" จิ๋วรู้ว่าอินร้อนใจแต่เอกพึ่งฟื้นขึ้นมาจะรีบร้อนกันทำไม

"ขอโทษครับ"

อินเสียงอ่อยตอบจิ๋วพร้อมกับเดินกลับไปนั่งบนโซฟาทันที ส่วนเอกนั้นมึนหัวไปหมดคิดยังไงเขาก็ยิ่งคิดไม่ออกไม่เข้าใจว่าตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น



"นอนเถอะนะเอก พรุ่งนี้ค่อยเริ่มกันใหม่ก็ได้นะ"

จิ๋วส่งยิ้มเป็นกำลังใจให้เพื่อนของเธอ เธอก็สงสารอินอยู่เหมือนกันแต่เธอก็รักเพื่อนของเธอด้วย และไม่อยากให้เพื่อนต้องเครียดจากแรงกดดันไปมากกว่านี้ เอกพยักหน้าทำตามอย่างว่าง่ายส่วนอินนั้นกลับไม่พูดอะไรเดินออกจากห้องไปทันที เอกหันไปมองคนที่พึ่งออกจากห้องด้วยความมึนงงว่าเขาเป็นอะไร ส่วนนนท์ทั้งสองถอนหายใจเฮือกใหญ่ด้วยความอึดอัด



อินนั้นขับรถกลับมาบ้านเหมือนต้องการตั้งสติ เขารู้สึกร้อนใจไปหมดทุกอย่างเเล้วไม่เข้าใจว่าทำไมเอกถึงลืมเขาได้ มันจะเป็นไปได้ยังไงที่ลืมตั้งแต่เราทั้งสองคนไม่รู้จักกัน มันตั้งสิบปีเชียวนะ แล้วแบบนี้เขาจะต้องทำยังไง

"โธ่โว้ย! " อินเตะเก้าอี้ที่อยู่ใกล้เท้าเขามากที่สุด กระเด็นไปกระแทกกำแพงจนขาเก้าอี้ไม้หักไปข้างหนึ่ง

"ครืดดด...ครืดดด"

อินขมวดคิ้วกับโทรศัพท์มือถือที่สั่นในกระเป๋า เขาจึงหยิบขึ้นมาดูแล้วเห็นว่าเป็นเบอร์แปลกและโทรมาจากต่างประเทศเสียด้วย

"ครับ" อินรับโทรศัพท์ด้วยน้ำเสียงกึ่งอารมณ์เสียว่าเป็นใคร

"นายคงไม่รู้จักฉันหรอก แต่ฉันรู้จักนายดีเลยหล่ะ"

น้ำเสียงในโทรศัพท์นั้นไม่คุ้นเสียเลย และที่สำคัญเหมือนถูกดัดแปลงเสียงอีกทีหนึ่งเพราะน้ำเสียงมันแตกเล็กน้อย เขาจึงรู้ว่าเสียงที่ได้ยินนั้นไม่ใช่เสียงจริงของคนที่โทรมา และไม่น่าแปลกใจที่จะทำแบบนี้ได้เพราะยุคนี้เป็นยุคของเทคโนโลยีซึ่งวิทยาศาสตร์สามารถทำได้ทุกอย่าง



"นายเป็นใคร" อินถามกลับไป

"หึ เป็นยังไงบ้างกับการลิ้มรสความสูญเสียคนที่รักไป เจ็บไหมล่ะ"

อินขมวดคิ้วไม่เข้าใจว่าคนในสายหมายถึงอะไรกัน เขาเคยไปทำใครถึงขนาดแค้นเอาชีวิตคนที่เขารักขนาดนี้ เขาได้เงียบลงและคอยตั้งใจฟังอีกครั้ง



"ถึงไม่ตายแต่ก็เสียความทรงจำโดยเฉพาะนาย เขาจะจำนายไม่ได้อย่างแน่นอน" พอสิ้นเสียงอินถึงกลับเลือดขึ้นหน้าด้วยความโมโห มันหมายความว่ายังไงทำไมคนคนนี้ถึงรู้ว่าเอกจำเขาไม่ได้



"แกเป็นคนทำเรื่องนี้ทั้งหมดใช่ไหม" อินสุดจะทนกับไอ้โรคจิต ที่ตอนนี้มันกำลังเล่นสงครามประสาทกับเขาอยู่

"ปิ้งป่อง ถูกต้องแล้วครับ"

"หน็อย เเกจะเอายังไงว่ามาเลยดีกว่า" อินพยายามตั้งสติที่จะควบคุมอารมณ์ไม่ให้ระเบิดไปมากกว่านี้ ไม่เช่นนั้นอาจจะเข้าทางของมันได้



"ไม่เอายังไงหรอกนะ แค่อยากเห็นพวกแกทรมานเล่น มีใครบ้างนะ ดอกเตอร์ไอ้ตัวการ ตอนนี้พวกนายยังไม่ได้ข่าวสินะ อยากเล่นพิเรนทร์ไปเดินป่าสืบหาข้อมูลทำงานวิจัย ตอนนี้คงหายสาบสูญไปแล้วหล่ะ 5555"

อินได้ยินแบบนั้นถึงกลับตาโต จำได้ว่าเมื่ออาทิตย์ก่อน เอกเคยบอกกับเขาว่าดอกเตอร์จะไปเดินป่าหาสมุนไพรอะไรสักอย่าง มาทำงานวิจัย จึงขึ้นไปแทบภาคเหนือเพื่อหาสิ่งของที่ว่า เหมือนตอนนี้ดอกเตอร์จะหันหน้าไปทำงานวิจัยเกี่ยวกับการรักษาโรคแปลก แทนงานวิจัยเรื่องสิ่งลึกลับและเรื่องที่ไม่มีอยู่บนโลกนี้ อินพยายามเงียบและตั้งใจฟังสิ่งที่คนในสายต้องการบอกอีกครั้ง



"หึหึ ตอนนี้แกก็ได้ลิ้มรสความเจ็บปวดแล้ว ต่อไปจะเป็นใครอีกดีนะ นินน้องชายแกก็ตายไปแล้วนี่ สมน้ำหน้าตายเพราะไม่รู้ตัวเองว่าเป็นโรค แกก็แย่เนอะ เป็นพี่ประสาอะไรขนาดจบหมอมา ยังไม่รู้เลยว่าน้องชายสุดน่ารักเป็นโรคหัวใจ หึหึ"

"ว่าไงนะ หรือว่า..." อินได้ยินแบบนั้นถึงกับช็อกเขาไม่เคยคิดว่านินจะเป็นโรคหัวใจและตายอย่างเฉียบพลันขนาดนี้ ถ้าไม่มีใครทำอะไร เขากลับเครียดหนักกว่าเดิมเขาอยากฆ่าคนในสายให้ตายคามือ



"เข้าเรื่องดีกว่า แฟนแกโดนยาพิษสูตรพิเศษของฉันเข้าไป จะมีเวลาแค่สามเดือนที่จะฟื้นความจำ ถ้าภายในสามเดือนนี้ไม่สามารถฟื้นได้ก็หมดโอกาส เขาก็จะไม่รู้จักหมออินที่น่ารักและแสนดีของเขา ฮ่า ฮ่า สะใจชะมัด ฉันไม่ฆ่าพวกแกให้ตายหรอก ต้องทรมานจากความรักนั่นแหละถึงจะเจ็บสุด เหมือนตายทั้งเป็นเลยว่าไหม" น้ำเสียงของคนพูดบ่งบอกว่าสะใจในสิ่งที่ทำและเหมือนกำลังสนุกที่ได้ทำสิ่งเหล่านี้ อินรู้สึกเจ็บใจที่ทำไมตลอดเวลาเขามัวทำอะไรอยู่ ถึงทำให้คนพวกนี้มาพรากคนที่เขารักหายไปทีละคน



"นายจะบอกได้ไหมว่ามีเหตุผลอะไรถึงต้องทำแบบนี้" อินพยายามกดอารมณ์ทั้งหมดเอาไว้เพราะคนที่อยู่ในสายถือได้ว่าเป็นพวกโรคจิตอย่างหนึ่ง คงต้องตามมันไปก่อนไม่เช่นนั้นข้อมูลที่จะได้มาจะไม่มีให้สืบหาได้เลย



"หึ จะล้วงข้อมูลหรือไงกัน แต่จะบอกให้เอาบุญ ฉันก็ไม่ได้มีความแค้นกับแกและแฟนแกหรอกนะ เพียงแต่ว่าแกมีเอี่ยวที่ทำให้ฉันต้องตกนรกเหมือนตายทั้งเป็นแบบนี้ เพราะฉะนั้นพวกแกต้องตายทั้งเป็นเหมือนฉัน"

"ยานั้นทำออกมาดีใช่ไหมล่ะ ขนาดหมอตรวจยังไม่รู้เลยว่ามียาพิษแทรกซึมทำลายความทรงจำอยู่ แต่เฉพาะแกเท่านั้นแหละที่จำไม่ได้ จะบอกอะไรอย่างนะ ไม่ใช่แกหรอกที่เจ็บปวดเพราะนึกไม่ออก แต่แฟนแกก็ทรมานเหมือนกันที่อยากนึกให้ออกแต่ทำไม่ได้"

น้ำเสียงของคนในสายเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาจนอินจับไม่ได้ว่าเขารู้สึกอย่างไร เหมือนกำลังสะใจปนเสียใจที่ต้องคิดเรื่องของตัวเอง อินกลับขมวดคิ้วเขายิ่งไม่เข้าใจว่าตนไปทำอะไรให้ ถึงต้องทำลายความรักและชีวิตคนรอบข้างเขาแบบนี้



"ฉันยอมรับว่านายเก่งที่ทำแบบนี้ได้ แต่ไม่คิดหรือว่าฉันก็มีวิธีแก้ของฉันเหมือนกัน" จริงแล้วไม่มีหรอก เขายังคิดไม่ออกเลยว่าจะช่วยเอกยังไง



"หึ ทำเป็นปากเก่ง นายคิดเหรอว่านายจะย้อนอดีตกลับไปแก้ปัญหาได้ ยังไงฉันก็จะใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ทำร้ายพวกนายอีกครั้ง" คนในสายพูดอย่างภูมิใจ ว่าตนต้องทำลายทุกคนได้ ทำให้อินรู้ว่าคนคนนี้ รู้ทุกอย่างเกี่ยวกับพวกเขา แม้กระทั่งเรื่องการข้ามเวลาด้วย อินไม่ได้พูดอะไรออกไปอีก ได้แต่กัดฟันด้วยความหงุดหงิดใจที่ไม่สามารถทำอะไรได้

"ตู๊ดดด...ตู๊ดดด" สายถูกตัดออกไปอย่างง่ายดาย



"บ้าชะมัด" อินมองดูเบอร์ที่ปลายสายอีกครั้ง ตอนนี้เขาต้องไปหาเพื่อนของนินที่เป็นตำรวจเสียแล้วสิ โชคดีที่นินเคยแนะนำคนที่จะพอช่วยเหลือในเหตุการณ์ฉุกเฉินแบบนี้ก่อนที่เขาจะเสียไป นินเคยบอกกับเขาว่า การทำงานด้านธุรกิจจะต้องมีเพื่อนฝูงที่พอพึ่งพาได้หลายๆ ด้าน ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถเอาตัวรอดได้

พอคิดได้เช่นนั้นอินจึงขับรถไปหาเพื่อนของนินที่เป็นตำรวจใหญ่ในที่นี้ ให้ช่วยอีกแรงก่อนที่เขาจะขับรถไปหาเอกอีกครั้ง





@@@@@@@@@

ยุคที่อินและเอกอยู่นั้นเป็นปี พ.ศ. 2570 ซึ่งเป็นยุคที่มีวิวัฒนาการด้านเทคโนโลยีสูง ทุกอย่างจึงพึ่งพาเทคโนโลยีเป็นส่วนใหญ่รวมถึงพวกฆาตกรโรคจิตด้วย ที่จะตามติดแทรกซึมมากับฝูงชนและตามทันยุคสมัยเช่นกัน จึงเป็นที่มาว่าทำไมพวกจิตไม่ปกติและมีมันสมองที่ชาญฉลาดถึงคิดแผนการได้แยบยลนัก สามารถวางแผนในการฆ่านินอย่างไม่รู้ตัว และทำร้ายดอกเตอร์จนหายสาบสูญ รวมถึงขับรถชนเอกพร้อมกับฉีดยาพิษเข้าไปได้โดยที่ไม่มีใครจับได้

ทั้งนี้ทั้งนั้นทุกอย่างเป็นเรื่องในนิยายที่จินตนาการขึ้นมาประกอบเนื้อหาให้สนุกขึ้นไม่สามารถอ้างอิงอะไรได้เลยค่ะ ^^




HM06
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 11 ต.ค. 2560, 14:02:51 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 11 ต.ค. 2560, 14:02:51 น.

จำนวนการเข้าชม : 584





<< ผมมีแฟนเป็นผู้ชายเหรอ?    เริ่มต้นรักษา >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account