นาฬิกาทรายหวนคืน (Yaoi) - จบ
เมื่อคนรักกลับจำเขาไม่ได้จากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น แต่อุบัติเหตุนั้นไม่ใช่อุบัติเหตุธรรมดา สิ่งที่แก้ไขได้มีเวลาเพียงสามเดือนเพื่อฟื้นฟูความจำให้กลับมา ซึ่งความทรงจำที่หายไปมาควบคู่กับอาการประหลาดที่เกิดขึ้น และอาจจะไม่มีชีวิตอยู่รอดก่อนที่จะครบสามเดือนความเสี่ยงที่จะย้อนเวลากลับอดีตนั้น จะช่วยให้ความทรงจำกลับมาได้ไหม แล้วคนในอดีตตามมาปัจจุบันทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงมากเพียงใด สิ่งที่ตามจัดการพวกเขาในเงามืดอยู่นั้นเกิดขึ้นเพราะใครทำไมต้องทำเช่นนี้
เรื่องนี้เป็นภาคต่อจาก ช่องว่างเวลาแห่งรัก ความรักที่เกิดจากการข้ามผ่านกาลเวลา
แต่ฟ้ากลับเล่นตลกเหมือนเป็นบททดสอบว่ารักกันจริงหรือไม่
Tags: นิยายรัก อดีต ปัจจุบัน อนาคต นาฬิกาทราย นิยายวาย BL Yaoi

ตอน: เริ่มต้นรักษา

"เอกจำได้ไหมรูปนี้ที่เราไปเที่ยวกันไง" จิ๋วนำอัลบั้มรูปเก่าๆ ในช่วงสิบปีที่ผ่านมานี้ให้เอกนั่งดูทีละรูป วันนี้เธอว่างไม่มีงานทำจะว่าง่ายๆ เธอลาออกจากงานแล้วให้นนท์แฟนเธอเลี้ยงจึงมานั่งเฝ้าเอกได้อย่างสบาย เอกเปิดดูทีละรูปอย่างเชื่องช้าหัวสมองได้ประมวลผลไปด้วย



"พอนึกอะไรได้ไหมเอก" จิ๋วนั่งมองเอกที่เปิดรูปภาพดูทีละรูป ส่วนเธอก็นั่งลุ้นว่าเพื่อนของเธอพอจะจำได้ไหม

"อืม พอนึกออกเหมือนกันนะแต่สงสัยว่าคนนี้ทำไมถึงมาอยู่กับพวกเราด้วย" เอกชี้ไปที่รูปผู้ชายที่ยืนอยู่กับเขาแทบทุกรูป เขานึกได้ว่าเคยไปเที่ยวกับจิ๋วและแฟนจิ๋ว แต่คนในรูปนี้ที่ติดมาด้วยทำไมคิดเท่าไหร่ก็คิดไม่ออก



"คุณอินไง" จิ๋วมองคนที่เอกชี้ในภาพเธอจึงตอบเอกกลับไป

"อ๋อ คนที่อยู่ในห้องเมื่อวานนี้" เอกนึกถึงหน้าคนที่ทำท่าทางอารมณ์เสียใส่เขาแล้วรีบออกจากห้องไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ



"ใช่ๆ แฟนนายไง" จิ๋วยิ้มกรุ้มกริ่มให้เอก

"ฉันยังไม่เข้าใจว่าทำไม ฉันถึงมีแฟนเป็นผู้ชายแล้วอีกอย่างนะ คนที่จิ๋วบอกว่าเป็นแฟนเราเขาชื่ออะไรนะ" เอกพยายามนึกว่าตนนั้นไปมีแฟนเป็นผู้ชายตอนไหนถึงภาพอดีตจะค่อยๆ กลับมาบ้างแล้วแต่ผู้ชายคนนี้ทำไมเขานึกเท่าไหร่ก็นึกไม่ออกเสียที

"คุณอิน"

จิ๋วเน้นชื่อของอินให้มันเข้าไปในหัวสมองอันน้อยนิดของเอกแต่ดูท่าทางเอกจะไม่รู้สึกว่าอินเป็นแฟนเขาเลยสักนิด จิ๋วยืนมองเพื่อนรักของเธออย่างเอือมๆ



"เออๆ ถ้าฉันมีแฟนเป็นผู้ชายทั้งทีทำไมไม่เป็นเด็กหนุ่มหน้าตาน่ารักหรือน่าทะนุถนอมมากกว่านี้ แต่คนนี้ ชอบทำหน้ากวน หน้าก็นิ่งพูดจายังไม่เข้าหูอีก" เอกเห็นสีหน้าเพื่อนของเขาที่ทำหน้าเหมือนคนไม่สบอารมณ์จึงพูดออกมาด้วยความหมั่นไส้บุคคลที่เขาไม่รู้จัก



"เฮอะ นายเองไม่สมควรมีแฟนเป็นหนุ่มน้อยน่ารักหรอกนะ ดูสารรูปตัวเองเสียก่อนไหม" จิ๋วเบ้ปากกับคำพูดของเอกคิดได้ไงว่าจะมีแฟนเป็นหนุ่มน้อยชั่งกล้าพูด



"ทำไม อย่างฉันต้องเป็นผู้หญิงน่ารักเรียบร้อยแต่ถ้าเป็นผู้ชายก็ต้องน่าทะนุถนอมอย่างเด็กน้อยอะไรประมาณนี้"

เอกคิดและทำหน้าเหมือนคนกำลังมีความรักอย่างเด็กวัยรุ่น จิ๋วเห็นท่าทางของเอกแล้วอยากกระชากเสื้อเพื่อนเธอมาเขย่าแล้วเอาความคิดบ้าๆ ออกจากหัว แต่คงได้แค่คิดคงจะทำอะไรไม่ได้จึงพูดหยอกให้เจ็บใจเล่นเสียหน่อย


                  "เฮอะ นายยังไม่รู้อะไร นายกับเขาคบกันตั้งสิบปีเชียวนะ ไม่ใช่แฟนธรรมดาแล้วด้วยเป็นผ.."

"หยุดเลย ฉันรู้ว่าจะพูดอะไร ฉันไม่เชื่อหรอก แล้วอีกอย่างนะไอ้ผู้ชายกับผู้ชายนี่ เขาทำกันยังไงสงสัยมานานหล่ะ"

เอกรีบห้ามก่อนที่คำพูดนั้นจะออกมาจากปากจิ๋วตอนนี้ยังทำใจรับไม่ได้ แต่สิ่งที่เขาสงสัยที่สุดคือ เวลาผู้ชายเขาคบกันเขาคบกันยังไงจึงถามจิ๋วออกไปอย่างคนที่ไม่เคยมีแฟนมาก่อน



"ถามคุณอินดูสิ เดี๋ยวเขาทำให้นายดูเอง ฮ่า ฮ่า" จิ๋วกลับย้อนแบบนั้นพร้อมกับทำหน้าตากรุ้มกริ่ม เอกได้ฟังคำตอบจากจิ๋วถึงกลับไปไม่ถูกเลยทีเดียว



"ก๊อก ก๊อก" มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นทำให้เบนความสนใจของเอกและจิ๋วไปทันที

"ทำกายภาพครับ" นักกายภาพหนุ่มเดินเข้ามาในห้องตามที่หมอได้นัดเอาไว้ให้เริ่มทำกายภาพคนไข้ห้องนี้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนกว่าจะเดินได้

"ค่ะ/ครับ" จิ๋วกับเอกขานรับ ส่วนจิ๋วได้หลีกทางให้นักกายภาพบำบัดคนนั้นเข้าไปรักษาเพื่อนของเธอได้ง่ายขึ้น



นักกายภาพหนุ่มได้ทำการฝึกออกกำลังกายแขนขาของเอกบนเตียงเพื่อเตรียมพร้อมในการฝึกเดินขั้นต่อไป จนเวลาผ่านไปครึ่งชั่วโมงนักกายภาพจึงเดินออกจากห้องไปโดยปล่อยให้เอกกับจิ๋วอยู่ในห้องเหมือนเดิม



"ไม่คิดว่าแค่ยกแขนกับขาและทำท่าทางตามที่นักกายภาพบอกจะเหนื่อยแบบนี้ นี่ขนาดทำไปพักไปยังรู้สึกเหนื่อยเลย" เอกยกแขนโชว์กล้ามน้อยๆ ที่เหมือนจะยังไม่ค่อยมีแรงขึ้นมาดู



"แหม ก็นายพึ่งฟื้น หมอก็บอกแล้วว่าต้องใช้เวลาจะใจร้อนอะไร" จิ๋วรินน้ำเตรียมไว้ให้เพื่อนของเธอเพื่ออยากดื่มน้ำจะได้ยกให้ดื่ม



"ก็ฉันอยากเดินไปไหนมาไหนเองได้เหมือนเดิม อยากกลับบ้านที่ฉันไปเช่าอยู่และที่สำคัญอยากกลับไปทำงานด้วย" เอกหันไปตอบจิ๋วเขาไม่อยากเป็นคนป่วยที่ต้องนอนโรงพยาบาลแบบนี้



"จะไปทำงานอะไร ในเมื่อนายเองเป็นเลขาส่วนตัวของคุณอินเขา และอีกอย่างบ้านเช่าที่นายบอกนะ มันโดนระเบิดไปตั้งแต่เมื่อ10 ปีก่อนแล้ว" จิ๋วขมวดคิ้วเครียดกับสิ่งที่เอกพูด เธอไม่คิดว่าเพื่อนของเธอจะจำไม่ได้มากมายขนาดนี้



"อ้าว! จริงดิ ฉันจำได้ว่าตนเองไปขอที่พักและเมื่อวานก่อนยังไปหาป้าอะไรนะ...ไปหาป้าดาอยู่เลยและฉันยังไปนอนที่บ้านนั้นด้วย ก่อนจะมานอนที่โรงพยาบาลนี้" เอกพยายามนึกถึงวันก่อน ก่อนที่ตนจะมานอนโรงพยาบาลว่าทำอะไรไปบ้าง

"โอ๊ยปวดหมอง นายนะอายุ 35 แล้วนะและอีกอย่างบ้านที่นายเคยไปอยู่นะมันเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ตอนมาทำงานใหม่ๆ ไง พอนึกอะไรได้มั้ง" จิ๋วอยากเอาหัวชนกำแพงให้จำอะไรไม่ได้อย่างเอกมั้ง เธอไม่เข้าใจว่าทำไมเอกถึงจำว่าตัวเขาพึ่งจบและพึ่งได้งานทำใหม่ๆ นั้นมันเมื่อ 10 ปีก่อนเลยนะ



"ไม่เลย ทุกอย่างมันรางไปหมด ที่จำได้มีแค่เรื่องของเธอและแฟนเธอที่ชื่อนนท์เท่านั้นแหละ" เอกขมวดคิ้วเขาจำได้แค่ว่าตนกับจิ๋วและนนท์เคยไปเที่ยวด้วยกันและไปหากันบ่อยๆ มีดอกเตอร์โผ่มาบ้างในบางครั้งส่วนเรื่องอื่นจำไม่ได้เลยสักนิด



"แสดงว่านายจำเรื่องที่เกี่ยวกับคุณอินไม่ได้เลยสินะ" จิ๋วเริ่มคิดว่าเอกจำทุกคนได้ยกเว้นเรื่องที่มีอินอยู่ด้วย

"แล้วนี่แหละจำได้ไหม คนนี้" เธอจึงเปิดรูปภาพที่มีนินให้เอกดูเพื่อว่าเอกจะจำนินได้

"คนแก่คนนี้เหรอ ฉันจำไม่ได้หรอก เขาเป็นใครเหรอ" เอกขมวดคิ้วว่าเขารู้จักชายชราในรูปด้วยหรือไงทำไมถึงนึกไม่ออก

"คุณนินด้วยเหรอ แสดงว่าทุกเรื่องที่เกี่ยวกับคุณอินนายคงลืมหมดเลยสินะ"

จิ๋วคิดหนักไม่ใช่แค่อินอย่างเดียวแต่เป็นนินด้วย แสดงว่าทุกอย่างที่มีอินมาเอี่ยวจะลืมหมด เอกได้ยินที่จิ๋วพูดเขาจึงขมวดคิ้วงงกับคำพูดของจิ๋ว จนมีเสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกรอบทำให้เอกและจิ๋วหันไปมองบุคคลที่พึ่งเข้ามาใหม่



"ก๊อก ก๊อก" อินเคาะประตูเป็นพิธีเสร็จแล้วเดินเข้ามาพร้อมกับนนท์ที่รับอาสาขับรถให้

เมื่อวานเขาแวะมาเยี่ยมเอกหลังจากที่ไปหาเพื่อนของนินที่เป็นตำรวจ แล้วเห็นว่าเอกหลับอยู่จึงกลับมาที่บ้านเพื่อเตรียมของที่จะฟื้นความจำของเอกให้กลับคืนมา

เวลาเพียงสามเดือนมันน้อยเกินไป ดังนั้นทุกวินาทีที่อยู่ด้วยกันในตอนนี้ มันมีค่าสำหรับเขาถ้าเอกยังจำเขาและจำเรื่องราวระหว่างเราไม่ได้ภายในสามเดือนนี้ทุกอย่างต้องจบอย่างแน่นอนเขาคงไม่ได้คนรักกลับคืนมา



"ผมเอาของมาให้คุณดู เพื่อจะจำอะไรได้บ้าง" อินยกของที่ว่ามาวางบนโต๊ะหัวเตียงให้เอกเห็น เขาตั้งใจขุดเอาสมุดบันทึกทั้งหมดในช่วง 10 ปีมานี้ เป็นสมุดบันทึกที่เราสองคนเขียนขึ้นมา เขาต้องการให้เอกได้เห็นโดยมีความหวังว่าเอกจะต้องจำได้บ้าง

"อะไรครับ"

เอกเห็นสมุดจดบันทึกเล่มหนาถึง 10 เล่มเขาเห็นว่ามันดูน่าสนใจจึงจับมาเปิดดู ส่วนอินยืนลุ้นดูปฏิกิริยาของเอกว่าเป็นอย่างไร เอกเปิดแต่ละหน้า ในช่วงแรกๆ ค่อยๆ เปิดแต่พอเปิดไปหลายหน้าเข้า เขาได้เปิดแบบลวกๆ และปิดสมุดทันทีพร้อมกับหันมามองหน้าอิน

"คุณเขียนนิยายรักหรือไงครับ เอามาให้ผมอ่านทำไม"

เอกถามอินด้วยน้ำเสียงที่นิ่ง เขาไม่เข้าใจว่าจะเอามาให้ดูทำไม มีแต่คำพูดหวานชวนเลี่ยนขนาดนี้ อินได้ฟังถึงกับหน้าถอดสีเลยทีเดียวเเค่จำไม่ได้ก็ทำให้เขาทรมานแล้ว แต่นี่บอกว่าสิ่งที่มีอยู่ในสมุดเป็นแค่นิยายรักธรรมดาทั้งที่พวกเราเขียนร่วมกัน แถมไม่มีทีท่าจะสนใจสักนิดทำไมมันผิดจากบุคลิกที่เจอกันทุกวันขนาดนี้



"ผมขอโทษนะครับ ผมแค่คิดว่ามันดูเลี่ยนๆ ยังไงไม่รู้ ไอ้เนื้อหาในสมุดพวกนี้ ดูสิ ผมขนลุกเลย" ไม่พูดเปล่ายื่นแขนให้อินดูขนที่ลุกไปด้วย อินมองขนที่ลุกชันของเอกด้วยหัวใจที่ห่อเหี่ยว

จิ๋วเห็นคนทั้งสองถึงกับเอาหัวชนกำแพงด้วยความรู้สึกเบื่อเพื่อนรักของตน ส่วนนนท์ลูกน้องของอินเอามือกุมขมับทั้งสองข้างด้วยความปวดหัวแทนนายของตน



"ครืด ครืด" โทรศัพท์ในกระเป๋าของจิ๋วสั่น

"ค่ะ" เธอรับเมื่อเห็นเป็นเบอร์ของแฟนหนุ่ม

"อะไรนะคะ" เธอกลับตกใจกับสิ่งที่ได้ยินจนเผลอตะโกนเสียงดังจนทุกคนในห้องหันมามองเธอกันหมด

"ขอบคุณค่ะ" เมื่อเธอวางสายจากแฟนเธอแล้วหันมามองหน้าเอก

"เอก ไอ้ด็อกหายไป ตอนนี้ตำรวจกำลังตามหาเขาอยู่" จิ๋วบอกเอกด้วยสีหน้าเป็นกังวล ส่วนอินเมื่อได้ยินเขาจึงคิดว่าไอ้โรคจิตมันพูดจริง



"ด็อกไปไหนถึงต้องหายไป" เอกถึงกลับตาโตและตกใจที่เพื่อนหาย

"ขึ้นเหนือเข้าป่าไปตามหาของทำงานวิจัยยังไงหล่ะ พอนึกอะไรออกไหม" จิ๋วพูดเตือนความจำของเอกอีกที เอกพยายามนึกความทรงจำเกี่ยวกับดอกเตอร์ก็จำได้มากขึ้นเรื่อยๆ

"ที่บอกว่าจะไปหาสมุนไพรทำงานวิจัยโรคประหลาดนะเหรอ" เอกนึกเรื่องที่ดอกเตอร์เคยบอกเอาไว้ก่อนจะไปได้



"ว่าไงนะ ทำไมถึงนึกเรื่องคนอื่นออก ทำไมเรื่องของเราถึงนึกไม่ออกครับ"

อินได้ยินว่าเอกจำเรื่องของดอกเตอร์ได้ซึ่งมันพึ่งเกิดไม่กี่อาทิตย์เอง เมื่อนึกว่าเอกจำเรื่องระหว่างเราไม่ได้อารมณ์เลยขึ้น เขาเข้าไปจับหัวไหล่เอกทั้งสองข้างพร้อมกับเขย่าให้ตอบออกมาว่าทำไมเขาถึงจำไม่ได้ ทั้งๆ ที่อินน่าจะรู้อยู่แล้วว่าเอกโดนยาของไอ้โรคจิตนั้นแต่มันก็อดไม่ได้ที่จะคาดคั้นจากคนตรงหน้า



"โอ๊ย ผมเจ็บนะ คุณเป็นบ้าอะไร" เอกพยายามยกมือที่หนักเนื่องจากแรงยังมาไม่เต็ม แล้วพยายามแกะแขนอินออกแต่แรงไม่พอที่จะทำได้และอินเล่นบีบหัวไหล่ของเขาเจ็บไปหมด เขายิ่งไม่เข้าใจว่าชายคนนี้ทำไมถึงอารมณ์เสียมากมายนัก



"คุณอินครับ พอเถอะครับคุณเอกเจ็บหมดแล้ว" นนท์เข้ามาห้ามเอาไว้ อินจึงปล่อยตัวเอกออกและยืนมองเอกด้วยสีหน้าที่นิ่ง

"ผมขอโทษนะครับ ผมไม่รู้ว่าเราสองคนเป็นอะไรกัน แล้วผมสำคัญกับคุณแค่ไหน แต่ผมพยายามจะนึกเรื่องของคุณแล้ว แต่นึกยังไงผมก็นึกไม่ออกครับ" เอกอธิบายไปลูบหัวไหล่ด้วยความเจ็บ เขาไม่คิดเลยว่าคนตรงหน้าแรงจะมากขนาดนี้



"เจ็บมากไหม ผมขอดูหน่อยนะ"

อินเข้าไปจับมือเอกที่ลูบหัวไหล่ด้วยความเจ็บปวดออก ก่อนที่จะสำรวจดูภายในเสื้อว่ามีรอยช้ำไหมเขารู้สึกว่าทำแรงเกินไป ตอนนี้เขาต้องตั้งสติและใจเย็นเข้าไว้

"อ..เออผมไม่เป็นอะไรครับ"

เอกรีบเบี่ยงตัวหนีมือของอินที่พยายามจะแกะเสื้อผู้ป่วยออก เขารู้สึกว่ามันคุ้นเหมือนเคยเกิดแบบนี้มาก่อน เหมือนคนตรงหน้าเคยดูแลเขาแบบนี้ แต่เหมือนหัวใจมันไม่รักดีทำให้เขารู้สึกเขินจึงต้องเลี่ยงไม่ให้อินจับตัวได้ ไม่เช่นนั้นตัวเขาต้องระเบิดเพราะหัวใจที่เต้นแรงเกินไปแน่นอน อินเห็นท่าทางหลบเลี่ยงของเอกเขาจึงหลีกออกมาอย่างว่าง่าย



"คุณอินจิ๋วขอเวลานอกหน่อยค่ะ" จิ๋วตรงเขาไปหาอิน เธอต้องบอกเรื่องเมื่อเช้าที่เกิดขึ้นกับเอกให้เขาฟัง

"ครับ" อินมองหน้าเอกก่อนที่จะเดินตามจิ๋วออกไปข้างนอก ส่วนเอกมองด้วยความสงสัยว่าทำไมต้องออกไปคุยข้างนอกด้วย เขาไม่เข้าใจ

"คุณเอกไม่ต้องเครียดนะครับ เดี๋ยวคุณก็จำได้" นนท์ส่งยิ้มให้กำลังใจเต็มที่

"ครับ" เอกหันไปยิ้มตอบให้นนท์ ถึงเขาจะจำไม่ได้ว่านนท์คือใครแต่ลึกๆ แล้วเขารู้สึกว่านนท์เป็นคนที่พึ่งพาได้



ทางด้านจิ๋วและอิน

"มีอะไรครับ" พอตัวพ้นประตูออกมาเขาได้รีบถามจิ๋วทันที

"คืออย่างนี้นะคุณอิน เมื่อเช้าหลังจากทำกายภาพเสร็จเอกบอกว่าอยากกลับบ้านและไปทำงานค่ะ" จิ๋วเริ่มเล่า เธอต้องออกมาข้างนอกเพราะไม่อยากให้เพื่อนของเธอต้องเครียดที่ตนนึกอะไรไม่ออก

"บ้าน? " อินขมวดคิ้วใช้ความคิด

"ค่ะ บ้านเช่านะคะ" จิ๋วบอกเน้นอีกครั้ง

"บ้านเช่าเหรอ" อินกำลังคิดว่าเอกคงยังไม่ลืมบ้านเช่าที่โดนเผาไป

"ใช่ค่ะ แล้วเหมือนเขาจะจำป้าดาได้และยังบอกอีกนะว่าพึ่งย้ายเข้าไปในบ้านเป็นครั้งแรก" จิ๋วเล่าเพิ่มขึ้นอีกเธอคิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์อะไรบ้างไม่มากก็น้อย

"ขอบคุณครับ เป็นข้อมูลที่ดีสำหรับผมเลย" อินยกยิ้มขึ้นมา เขาคิดว่าใช่แล้วเอกยังพอจำได้บางอย่าง อย่างน้อยเขาก็พอมีหนทางที่จะฟื้นฟูความจำของเอกอีกครั้ง




HM06
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 11 ต.ค. 2560, 14:04:00 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 11 ต.ค. 2560, 14:04:00 น.

จำนวนการเข้าชม : 643





<< คิดยังไงก็จำไม่ได้   ความหวังยังไม่หมดไป >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account