นาฬิกาทรายหวนคืน (Yaoi) - จบ
เมื่อคนรักกลับจำเขาไม่ได้จากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น แต่อุบัติเหตุนั้นไม่ใช่อุบัติเหตุธรรมดา สิ่งที่แก้ไขได้มีเวลาเพียงสามเดือนเพื่อฟื้นฟูความจำให้กลับมา ซึ่งความทรงจำที่หายไปมาควบคู่กับอาการประหลาดที่เกิดขึ้น และอาจจะไม่มีชีวิตอยู่รอดก่อนที่จะครบสามเดือนความเสี่ยงที่จะย้อนเวลากลับอดีตนั้น จะช่วยให้ความทรงจำกลับมาได้ไหม แล้วคนในอดีตตามมาปัจจุบันทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงมากเพียงใด สิ่งที่ตามจัดการพวกเขาในเงามืดอยู่นั้นเกิดขึ้นเพราะใครทำไมต้องทำเช่นนี้
เรื่องนี้เป็นภาคต่อจาก ช่องว่างเวลาแห่งรัก ความรักที่เกิดจากการข้ามผ่านกาลเวลา
แต่ฟ้ากลับเล่นตลกเหมือนเป็นบททดสอบว่ารักกันจริงหรือไม่
เรื่องนี้เป็นภาคต่อจาก ช่องว่างเวลาแห่งรัก ความรักที่เกิดจากการข้ามผ่านกาลเวลา
แต่ฟ้ากลับเล่นตลกเหมือนเป็นบททดสอบว่ารักกันจริงหรือไม่
Tags: นิยายรัก อดีต ปัจจุบัน อนาคต นาฬิกาทราย นิยายวาย BL Yaoi
ตอน: ใครเป็นแม่?
ผ่านมาหนึ่งอาทิตย์เอกยังคงอยู่ในโรงพยาบาลเพื่อฝึกเดิน เมื่อเดินได้คล่องโดยไม่มีคนช่วยแล้วเขาจะได้กลับบ้านได้ ช่วงนี้อินก็ไม่มาให้เห็นหน้า หายไปตั้งแต่วันที่มาเยี่ยมวันสุดท้าย แล้วพูดทิ้งท้ายในเรื่องที่เขาไม่เข้าใจเอาไว้ให้เป็นปริศนาทำให้เขาต้องปวดหัวเล่นอีก
"เฮ้อออ"
เอกถอนหายใจเฮือกใหญ่ทั้งที่มือกำลังเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่ถึงเขาจะงงกับภาพในมือถือมากมายที่มีแต่เขาและอินเต็มไปหมด ไหนจะมีเด็กผู้ชายที่เขาไม่เคยเห็นหน้าอีกดูแล้วชวนงงสุดๆ
"เป็นอะไรเอก"
จิ๋วที่เดินมาพร้อมนนท์แฟนเธอ เดินเปิดประตูเข้ามาได้ทักขึ้น เมื่อได้ยินเอกถอนหายใจเสียงดังในห้องที่เงียบ จึงอดไม่ได้ที่จะทักเพื่อนรักของเธอขึ้นมา
"อ้าวจิ๋ว" เอกหันกลับไปมองจึงรู้ว่าเป็นจิ๋วและนนท์แฟนเธอที่กลับมาจากธุระบางอย่าง
"เรามีเรื่องเซอร์ไพรส์ให้นายดู" จิ๋วยิ้มกว้างกับสิ่งที่เธอจะบอกเอก
"เรื่องอะไร" เอกมองหน้าจิ๋วอย่างมีคำถาม
"นี่ไง" จิ๋วหยิบแผ่นภาพบางอย่างมาให้ดู พอมองจึงรู้ว่าเป็นแผ่นอัลตร้าซาวด์การตั้งครรภ์ เอกเห็นถึงกับยกยิ้มขึ้นทันทีเขามองหน้าจิ๋วที่พยักหน้าไปมาให้เอกดู
"ดีใจด้วยนะ" เขาบอกกับเธอและมองมาที่นนท์สามีเพื่อนที่ยิ้มกรุ้มกริ่มร่วมวงกับพวกเขา
"ฮิฮิ" จิ๋วหัวเราะและหันไปมองแฟนเธอ
"แล้ว.." เอกยังไม่ทันที่จะพูดจบประโยคก็มีคนเปิดประตูพรวดเข้ามา เป็นเด็กน้อยกับอินคนที่เขาคิดอยู่ในหัวเพียงไม่นาน
"คุณแม่ครับ" เด็กน้อยอายุ 13 ปีวิ่งเข้ามาหาเอกด้วยสีหน้าที่เป็นกังวลพร้อมกับเกาะแขนของเอกแน่น
"ห๊ะ! ใครเป็นแม่เด็กนี่" เอกมองเด็กผู้ชายตัวเล็กที่ทำตากลมโตมองเขาด้วยดวงตาใสซื่อ
"ผมกรไงครับ" กรทำหน้ามึนงงกับท่าทางที่ห่างเหินของเอก
"กร? " เอกมองเด็กตรงหน้าอย่างมีคำถามและไม่เข้าใจว่าตัวเขานั้นไปแอบมีลูกกับใครกัน
"คุณเป็นแม่เขา จำไม่ได้เหรอ" นนท์แฟนจิ๋วที่ทน มองการสนทนาของครอบครัวที่แปลกประหลาดและแตกต่างจากชาวบ้านจนทนไม่ไหวจึงพูดออกมา เอกมองนนท์กลับด้วยสีหน้าที่ไม่เข้าใจกว่าเดิม จิ๋วและนนท์เห็นแบบนั้นพวกเขาจึงเบนหน้าหนีทันที
"นี่ลูกบุญธรรมของเราสองคนครับ" อินได้บอกเอกด้วยน้ำเสียงที่นิ่งพร้อมกับเดินเข้าไปใกล้กว่าเดิม
"ฮ๊ะ! " เอกตกใจเสียงดังพร้อมกับยกมือกุมหน้าผากอย่างคนที่ปวดหัว ทั้งหมดในห้องหันไปมองเอกเป็นตาเดียว
"คุณแม่ครับ" เสียงที่แผ่วเบาของเด็กน้อยทำให้เอกหันไปมองเด็กชายที่ทำหน้าตาน่าสงสารกำลังปล่อยมือออกจากการจับกุมแขนเขาเอาไว้อย่างเชื่องช้า
"เฮ้อ...ถึงผมจะงงไปบ้างแต่ตอนนี้ผมเข้าใจแล้วครับว่าผมได้สร้างครอบครัวกับคุณจริงๆ " เอกเงยหน้าพูดกับอินและมองหน้าเด็กตัวเล็กที่มองเขาด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย
"ครับ"
อินรีบขานรับพร้อมกับรอยยิ้มที่ไม่ได้เห็นมาหลายอาทิตย์ตั้งแต่เอกเข้าโรงพยาบาล เขาได้เข้าไปใกล้เอกมากกว่าเดิม จนกรต้องหลบออกมาให้อินและเอกได้คุยกัน
"กรมาหาน้ามา" จิ๋วกวักมือเรียกกรให้มานั่งโซฟาพร้อมกับเธอและนนท์
"ครับ"
กรทำตามอย่างว่าง่ายถึงจะแอบเสียใจที่เอกจำเขาไม่ได้ก็ตาม แต่เขาก็ทำใจไว้ส่วนหนึ่งว่าแม่จะจำไม่ได้เพราะพ่อได้เล่าเรื่องแม่ให้เขาฟังว่า เกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยอาจจะจำพวกเราไม่ได้ ถึงจะได้ยินเช่นนั้นแต่มันเร็วเกินไปเลยตั้งตัวไม่ทัน
"มาดูรูปน้องดีกว่านะกร" จิ๋วเบี่ยงเบนความคิดของเด็กน้อยให้ออกห่างจากความคิดฟุ้งซ่านเพราะมันแสดงออกทางสีหน้าจนหมด เธอเอ็นดูเด็กคนนี้มากตั้งแต่เอกรับมาเลี้ยง อาจเพราะกำลังจะเป็นแม่คนด้วยจึงอ่อนไหวง่ายกับเรื่องแบบนี้
"น้องเหรอครับ" กรหรี่ตามองหาเด็กในรูปแต่ก็ไม่เห็นมีอะไรมีแต่ภาพหน้าตาแปลกประหลาดอยู่ในแผ่นสี่เหลี่ยมนี้
"ไม่ต้องหรี่ตาขนาดนั้นหรอกนะ น้องยังเป็นก้อนเล็กๆ อยู่เลย นี่ไง" เธอขำกับท่าทางของกรที่พยายามมองตามที่เธอบอก แต่คงยังไม่เห็นเป็นรูปร่างเท่าไหร่นักเพราะแค่สองเดือนเอง
"ผู้หญิงหรือผู้ชายครับ" กรหยิบแผ่นอัลตร้าซาวด์จากมือจิ๋วมาดูให้ชัดยิ่งขึ้น
"ยังบอกเพศไม่ได้จ้ะ น้องยังเล็กอยู่" จิ๋วมองเด็กน้อยข้างเธอด้วยความเอ็นดู
"ผมขอหมั้นน้องไว้ก่อนได้ไหมครับ" กรมองหน้าจิ๋วและนนท์แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นและจริงจัง เขารู้สึกว่าเด็กคนนี้น่ารัก
"ไม่ได้" นนท์ขึ้นเสียงทันทีจนทุกคนในห้องหันมามองกันหมดรวมถึงเอกและอินที่กำลังคุยกันอยู่
"ทำไมไม่ได้ครับ ผมเห็นเพื่อนผมชอบใคร ที่บ้านเขาก็ให้หมั้นไว้ก่อนทำไมผมจะขอบ้างไม่ได้" เอกได้ยินกรพูดเช่นนั้นเขาถึงกับเอามือตีหน้าผากเบาๆ ทำไมเด็กสมัยนี้ถึงได้คิดแบบนี้นะ
"พี่นนท์" จิ๋วขมวดคิ้วห้ามนนท์ไม่ให้ทะเลาะกับเด็ก
"จิ๋ว ถ้าลูกเราเป็นผู้ชายจะไม่ตกเป็นของเด็กนี่เหรอ" นนท์ไม่ชอบเรื่องผิดเพศเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เขาไม่อยากให้ลูกที่ยังไม่ได้ลืมตามาดูโลกต้องมาเป็นคู่หมั้นกับเพศเดียวกัน
"น่าพี่นนท์ ลูกเราอาจจะเป็นผู้หญิงก็ได้ เด็กเขาชอบของเขาก็ปล่อยไปเถอะ" จิ๋วเบ้ปากเล็กน้อยกับทิฐิในเรื่องไม่เป็นเรื่อง ตั้งแต่คบกันจนปัจจุบันยังไม่เลิกที่จะอคติกับเรื่องแบบนี้อีก ทั้งๆ ที่น่าจะชินได้แล้ว
"ถึงจะเป็นผู้ชายก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลยครับ ขนาดพ่อกับแม่ผมยังเป็นแฟนกันได้เลย" กรมองนนท์ด้วยดวงตาที่ใสซื่อไร้ซึ่งความคิดแอบแฝง นนท์เห็นเเล้วอดคิดหมั่นไส้ไอ้เด็กตรงหน้าไม่ได้
"ไอ้..อุ๊ป..."
นนท์กำลังจะต่อว่ากรแต่ยังไม่ทันไรเขาเกิดอาการคลื่นไส้ขึ้นมา จึงรีบวิ่งเข้าห้องน้ำในทันทีทำเอาคนให้ห้องงงกันหมดยกเว้นจิ๋วที่รีบเข้าไปดูสามีของเธอ
ย้อนกลับไปเพียงไม่กี่นาที
ทางด้านเอกและอินที่ได้พูดคุยกันสองต่อสอง โดยที่ทุกคนกำลังสนใจกรและภาพเด็กตัวน้อยในท้องของจิ๋วตัวเล็ก อินและเอกได้มองหน้ากันนิ่งๆ
"เออ.." เป็นอินที่ทนสายตาที่เอกส่งมาไม่ได้จึงอยากพูดอะไรออกมาแต่ว่าเหมือนเขาจะติดอะไรสักอย่าง
"ผมรู้แล้วครับว่าผมสำคัญกับคุณขนาดไหนและเด็กน้อยคนนั้นอีก ผมอยากรู้เรื่องของเราครับ"
เอกคิดทบทวนอะไรมากมายในหัวสมอง คิดจนปวดหัวแต่ไม่สามารถคิดอะไรออกได้เลยแม้แต่นิดเดียว คำถามที่เกิดในหัวสมองของเขานั้นมีแต่คำถามว่า ทำไมกัน ทำไมความรู้สึกเหมือนจะนึกอะไรบางอย่างออกแต่กลับนึกไม่ออกเสียที จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เอกตัดสินใจที่จะรับรู้เรื่องอดีตจากผู้ชายตรงหน้า ยิ่งเห็นเด็กที่เรียกเขาว่าแม่อีก ยิ่งทำให้เขาต้องตัดสินใจที่จะรับรู้เรื่องอดีตภายในสิบปีที่ผ่านมาให้ออกว่าเขาทำอะไรบ้างในช่วงเวลาเหล่านี้
"ขอบคุณครับ"
อินดีใจจนเก็บอาการไม่อยู่จึงหอมแก้มอันนุ่มนิ่มที่ไม่ว่าจะหอมยังไงเขาก็ไม่เคยเบื่อ เอกนิ่งไปทันทีถึงจะรู้สึกคุ้นเคยกับการหอมแบบนี้แต่พอมาคิดว่าเป็นครั้งแรก เขาเลยนั่งนิ่งก้มหน้าไม่ให้อินเห็นแก้มที่มันร้อนแผ่วๆ ด้วยความเขินอาย
"หึ" อินมองท่าทางที่น่ารักของเอกเขาจึงนึกขำในใจ
"รออีกเพียงหนึ่งอาทิตย์บ้านก็จะเสร็จแล้วครับ คุณกับผมจะได้ย้อนเวลาไปยังจุดเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง" อินจับมือของเอกขึ้นมาลูบไปและมองมือของเอกไป แล้วพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาให้เอกได้ยินเพียงคนเดียว
"คือ...ผมไม่เข้าใจว่าทำไมต้องสร้างบ้านขึ้นมาใหม่อีกครั้ง" เอกฟังอินพูดจบเขายังคงงงกับเรื่องที่อินพูดอยู่ดี
"บ้านหลังนั้นเป็นจุดเริ่มต้นของพวกเราครับผมจะเอาความทรงจำของคุณกลับมาให้ได้" อินเงยหน้ามองเอกพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นและจริงจังกับเรื่องนี้
"ครับ" เอกพยักหน้ารับเขาคิดว่าเดี๋ยวก็คงรู้เรื่องเอง
"ช่วงนี้ผมให้กรมาอยู่เป็นเพื่อนคุณก่อนนะครับ แล้วผมจะแวะมาหาบ่อยๆ" อินตัดสินใจไปรับกรมาจากโรงเรียนให้มาหาเอกเพราะช่วงนี้เขาอาจจะยุ่งเพราะต้องเร่งให้บ้านเสร็จทันตามที่กำหนด
"โดยปกติกรอยู่กับใครครับ" พออินพูดถึงกรเขาจึงสงสัยข้อนี้ขึ้นมา
"อยู่กับคุณป้าคุณไงครับ และท่านพึ่งเสียไปไม่กี่เดือนผมกับคุณจึงตกลงกันว่าจะให้ลูกมาอยู่ที่นี่จะได้ดูแลง่าย คุณยังไปซื้อของมาเตรียมไว้ให้ลูกอยู่เลยนะ พอนึกอะไรออกไหมครับ" อินจำได้ว่าก่อนอุบัติเหตุจะเกิดขึ้นเอกยังกังวลเรื่องเรียนของกรว่าต้องทำยังไงและจะอยู่ยังไง แต่ยังโชคดีที่กรนั้นไปอยู่โรงเรียนประจำก่อนที่ป้าของเอกจะเข้าโรงพยาบาล จึงตัดปัญหาเรื่องที่พักอาศัยไปได้และตอนนี้กรกำลังขึ้นมัธยมศึกษาปีที่หนึ่งจึงเป็นโอกาสเหมาะที่จะย้ายกรมาเรียนโรงเรียนใกล้พวกเขา
"นั้นสิ...ทำไมผมลืมได้ยังไงว่าคุณป้าเสียไปแล้ว" เอกใจหายวูบทันทีทำไมเขาถึงลืมเรื่องที่คุณป้าป่วยด้วยโรคชราและเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลจนท่านจากไป ทำไมเขาถึงลืมเรื่องนี้ไปได้
"ไม่เป็นไรนะครับ เราจะช่วยกันแก้ปัญหาไปทีละอย่างนะครับ" อินกัดริมฝีปากล่างด้วยความกังวลใจแต่เขาคิดว่ายังไงเขากับเอกต้องผ่านพ้นเรื่องนี้ไปได้อย่างแน่นอน เอกยิ้มให้อินถึงจะงงกับตนเองว่าทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้กับตัวเองได้ แต่พอมองหน้าอินแล้วเขากลับรู้สึกอุ่นใจที่มีคนคนนี้อยู่ข้างกาย
กลับมา ณ ปัจจุบัน
ทุกคนในห้องกำลังมองนนท์ที่นอนผึ่งอยู่บนโซฟาพร้อมกับยาดมที่ยัดอยู่ในรูจมูก นนท์หน้าซีดจากการสูญเสียพลังงานไปมากกับการคลื่นไส้และอาเจียน
"พี่นนท์ไหวไหม" จิ๋วกำลังนำกระดาษในมือพัดให้นนท์อย่างเป็นห่วงเธอไม่เคยเห็นสามีเป็นแบบนี้
"แพ้ท้องแทนจิ๋วนะสิ" อินพูดขึ้นมาให้ทุกคนคลายความสงสัย เขาพอรู้อยู่ว่าอาการแบบนี้คืออะไร เพราะสังเกตจิ๋วที่มักเหม็นกลิ่นแปลกๆ ทั้งที่เขาเองอยู่ใกล้ยังไม่ได้กลิ่น รวมถึงสั่งอาหารที่ตนเองไม่เคยทานแต่อยากทานขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล
"ผมพึ่งรู้นะครับว่าผู้ชายก็แพ้ท้องแทนผู้หญิงได้" เอกสนใจเรื่องนี้ขึ้นมาทันทีที่อินพูดจบ
"หึ แต่ผมไม่ต้องแพ้ท้องแทนใคร ผมก็มีลูกชายแบบกรแถมยังมีภรรยาที่น่ารักแบบนี้" อินพูดแล้วมองหน้าเอกด้วยสายตากรุ้มกริ่มอย่าสื่อความหมาย
"เฮอะ เฮอะ" เอกเบ้ปากให้อินแล้วล้มตัวนอนหนีไปทันทีไม่อยากเห็นหน้าคนเจ้าเล่ห์เอาแต่ใจ
"หึ" อินอมยิ้มกับท่าทางของเอกโดยไม่สนใจคนรอบข้างที่มองมายังคนทั้งสอง
"จะมาหวานอะไรกันตอนนี้ ผมจะแย่แล้ว" นนท์อารมณ์เสียที่ต้องมาทนเห็นภาพผู้ชายจีบผู้ชายด้วยกันเองอีกเขาไม่อยากฟัง
"ผมช่วยคุณพ่อนะครับคุณแม่" กรได้ทีอยากเอาใจนนท์ว่าที่พ่อตาในอนาคต
"แกไม่ต้องเรียกฉันว่าพ่อเลย" นนท์ได้ยินเสียงเด็กที่จะมาแย่งลูกของเขา ความอดทนก็ขาดผึงทันที ลุกขึ้นพรวดมองหน้ากรด้วยความหงุดหงิด จนจิ๋วต้องมาห้ามแต่กรยังทำสีหน้าที่นิ่งจึงทำให้มองดูว่ากรกำลังกวนนนท์อยู่นั้นเอง
"หน็อย...อุ๊ป" อาการคลื่นไส้กลับมาอีกครั้งจนนนท์ต้องวิ่งเข้าห้องน้ำไปอีกรอบจิ๋วเห็นท่าไม่ดีจึงต้องเข้าไปช่วย ผลสุดท้ายนนท์ต้องนอนหมดแรง โดยกรคอยนั่งดูอยู่ข้างๆ ส่วนจิ๋วยื่นยาดมให้ดมอย่างเป็นห่วง ส่วนอินและเอกไม่ได้สนใจคนทั้งสาม ทั้งสองได้สร้างม่านบดบังสิ่งรอบตัวมีแค่สองคน โดยอินนั่งมองเอกที่กำลังเขินเขาโดยไม่หันหน้ามานั่นเอง
"เฮ้อออ"
เอกถอนหายใจเฮือกใหญ่ทั้งที่มือกำลังเล่นโทรศัพท์มือถืออยู่ถึงเขาจะงงกับภาพในมือถือมากมายที่มีแต่เขาและอินเต็มไปหมด ไหนจะมีเด็กผู้ชายที่เขาไม่เคยเห็นหน้าอีกดูแล้วชวนงงสุดๆ
"เป็นอะไรเอก"
จิ๋วที่เดินมาพร้อมนนท์แฟนเธอ เดินเปิดประตูเข้ามาได้ทักขึ้น เมื่อได้ยินเอกถอนหายใจเสียงดังในห้องที่เงียบ จึงอดไม่ได้ที่จะทักเพื่อนรักของเธอขึ้นมา
"อ้าวจิ๋ว" เอกหันกลับไปมองจึงรู้ว่าเป็นจิ๋วและนนท์แฟนเธอที่กลับมาจากธุระบางอย่าง
"เรามีเรื่องเซอร์ไพรส์ให้นายดู" จิ๋วยิ้มกว้างกับสิ่งที่เธอจะบอกเอก
"เรื่องอะไร" เอกมองหน้าจิ๋วอย่างมีคำถาม
"นี่ไง" จิ๋วหยิบแผ่นภาพบางอย่างมาให้ดู พอมองจึงรู้ว่าเป็นแผ่นอัลตร้าซาวด์การตั้งครรภ์ เอกเห็นถึงกับยกยิ้มขึ้นทันทีเขามองหน้าจิ๋วที่พยักหน้าไปมาให้เอกดู
"ดีใจด้วยนะ" เขาบอกกับเธอและมองมาที่นนท์สามีเพื่อนที่ยิ้มกรุ้มกริ่มร่วมวงกับพวกเขา
"ฮิฮิ" จิ๋วหัวเราะและหันไปมองแฟนเธอ
"แล้ว.." เอกยังไม่ทันที่จะพูดจบประโยคก็มีคนเปิดประตูพรวดเข้ามา เป็นเด็กน้อยกับอินคนที่เขาคิดอยู่ในหัวเพียงไม่นาน
"คุณแม่ครับ" เด็กน้อยอายุ 13 ปีวิ่งเข้ามาหาเอกด้วยสีหน้าที่เป็นกังวลพร้อมกับเกาะแขนของเอกแน่น
"ห๊ะ! ใครเป็นแม่เด็กนี่" เอกมองเด็กผู้ชายตัวเล็กที่ทำตากลมโตมองเขาด้วยดวงตาใสซื่อ
"ผมกรไงครับ" กรทำหน้ามึนงงกับท่าทางที่ห่างเหินของเอก
"กร? " เอกมองเด็กตรงหน้าอย่างมีคำถามและไม่เข้าใจว่าตัวเขานั้นไปแอบมีลูกกับใครกัน
"คุณเป็นแม่เขา จำไม่ได้เหรอ" นนท์แฟนจิ๋วที่ทน มองการสนทนาของครอบครัวที่แปลกประหลาดและแตกต่างจากชาวบ้านจนทนไม่ไหวจึงพูดออกมา เอกมองนนท์กลับด้วยสีหน้าที่ไม่เข้าใจกว่าเดิม จิ๋วและนนท์เห็นแบบนั้นพวกเขาจึงเบนหน้าหนีทันที
"นี่ลูกบุญธรรมของเราสองคนครับ" อินได้บอกเอกด้วยน้ำเสียงที่นิ่งพร้อมกับเดินเข้าไปใกล้กว่าเดิม
"ฮ๊ะ! " เอกตกใจเสียงดังพร้อมกับยกมือกุมหน้าผากอย่างคนที่ปวดหัว ทั้งหมดในห้องหันไปมองเอกเป็นตาเดียว
"คุณแม่ครับ" เสียงที่แผ่วเบาของเด็กน้อยทำให้เอกหันไปมองเด็กชายที่ทำหน้าตาน่าสงสารกำลังปล่อยมือออกจากการจับกุมแขนเขาเอาไว้อย่างเชื่องช้า
"เฮ้อ...ถึงผมจะงงไปบ้างแต่ตอนนี้ผมเข้าใจแล้วครับว่าผมได้สร้างครอบครัวกับคุณจริงๆ " เอกเงยหน้าพูดกับอินและมองหน้าเด็กตัวเล็กที่มองเขาด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย
"ครับ"
อินรีบขานรับพร้อมกับรอยยิ้มที่ไม่ได้เห็นมาหลายอาทิตย์ตั้งแต่เอกเข้าโรงพยาบาล เขาได้เข้าไปใกล้เอกมากกว่าเดิม จนกรต้องหลบออกมาให้อินและเอกได้คุยกัน
"กรมาหาน้ามา" จิ๋วกวักมือเรียกกรให้มานั่งโซฟาพร้อมกับเธอและนนท์
"ครับ"
กรทำตามอย่างว่าง่ายถึงจะแอบเสียใจที่เอกจำเขาไม่ได้ก็ตาม แต่เขาก็ทำใจไว้ส่วนหนึ่งว่าแม่จะจำไม่ได้เพราะพ่อได้เล่าเรื่องแม่ให้เขาฟังว่า เกิดอุบัติเหตุนิดหน่อยอาจจะจำพวกเราไม่ได้ ถึงจะได้ยินเช่นนั้นแต่มันเร็วเกินไปเลยตั้งตัวไม่ทัน
"มาดูรูปน้องดีกว่านะกร" จิ๋วเบี่ยงเบนความคิดของเด็กน้อยให้ออกห่างจากความคิดฟุ้งซ่านเพราะมันแสดงออกทางสีหน้าจนหมด เธอเอ็นดูเด็กคนนี้มากตั้งแต่เอกรับมาเลี้ยง อาจเพราะกำลังจะเป็นแม่คนด้วยจึงอ่อนไหวง่ายกับเรื่องแบบนี้
"น้องเหรอครับ" กรหรี่ตามองหาเด็กในรูปแต่ก็ไม่เห็นมีอะไรมีแต่ภาพหน้าตาแปลกประหลาดอยู่ในแผ่นสี่เหลี่ยมนี้
"ไม่ต้องหรี่ตาขนาดนั้นหรอกนะ น้องยังเป็นก้อนเล็กๆ อยู่เลย นี่ไง" เธอขำกับท่าทางของกรที่พยายามมองตามที่เธอบอก แต่คงยังไม่เห็นเป็นรูปร่างเท่าไหร่นักเพราะแค่สองเดือนเอง
"ผู้หญิงหรือผู้ชายครับ" กรหยิบแผ่นอัลตร้าซาวด์จากมือจิ๋วมาดูให้ชัดยิ่งขึ้น
"ยังบอกเพศไม่ได้จ้ะ น้องยังเล็กอยู่" จิ๋วมองเด็กน้อยข้างเธอด้วยความเอ็นดู
"ผมขอหมั้นน้องไว้ก่อนได้ไหมครับ" กรมองหน้าจิ๋วและนนท์แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นและจริงจัง เขารู้สึกว่าเด็กคนนี้น่ารัก
"ไม่ได้" นนท์ขึ้นเสียงทันทีจนทุกคนในห้องหันมามองกันหมดรวมถึงเอกและอินที่กำลังคุยกันอยู่
"ทำไมไม่ได้ครับ ผมเห็นเพื่อนผมชอบใคร ที่บ้านเขาก็ให้หมั้นไว้ก่อนทำไมผมจะขอบ้างไม่ได้" เอกได้ยินกรพูดเช่นนั้นเขาถึงกับเอามือตีหน้าผากเบาๆ ทำไมเด็กสมัยนี้ถึงได้คิดแบบนี้นะ
"พี่นนท์" จิ๋วขมวดคิ้วห้ามนนท์ไม่ให้ทะเลาะกับเด็ก
"จิ๋ว ถ้าลูกเราเป็นผู้ชายจะไม่ตกเป็นของเด็กนี่เหรอ" นนท์ไม่ชอบเรื่องผิดเพศเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เขาไม่อยากให้ลูกที่ยังไม่ได้ลืมตามาดูโลกต้องมาเป็นคู่หมั้นกับเพศเดียวกัน
"น่าพี่นนท์ ลูกเราอาจจะเป็นผู้หญิงก็ได้ เด็กเขาชอบของเขาก็ปล่อยไปเถอะ" จิ๋วเบ้ปากเล็กน้อยกับทิฐิในเรื่องไม่เป็นเรื่อง ตั้งแต่คบกันจนปัจจุบันยังไม่เลิกที่จะอคติกับเรื่องแบบนี้อีก ทั้งๆ ที่น่าจะชินได้แล้ว
"ถึงจะเป็นผู้ชายก็ไม่เห็นเป็นอะไรเลยครับ ขนาดพ่อกับแม่ผมยังเป็นแฟนกันได้เลย" กรมองนนท์ด้วยดวงตาที่ใสซื่อไร้ซึ่งความคิดแอบแฝง นนท์เห็นเเล้วอดคิดหมั่นไส้ไอ้เด็กตรงหน้าไม่ได้
"ไอ้..อุ๊ป..."
นนท์กำลังจะต่อว่ากรแต่ยังไม่ทันไรเขาเกิดอาการคลื่นไส้ขึ้นมา จึงรีบวิ่งเข้าห้องน้ำในทันทีทำเอาคนให้ห้องงงกันหมดยกเว้นจิ๋วที่รีบเข้าไปดูสามีของเธอ
ย้อนกลับไปเพียงไม่กี่นาที
ทางด้านเอกและอินที่ได้พูดคุยกันสองต่อสอง โดยที่ทุกคนกำลังสนใจกรและภาพเด็กตัวน้อยในท้องของจิ๋วตัวเล็ก อินและเอกได้มองหน้ากันนิ่งๆ
"เออ.." เป็นอินที่ทนสายตาที่เอกส่งมาไม่ได้จึงอยากพูดอะไรออกมาแต่ว่าเหมือนเขาจะติดอะไรสักอย่าง
"ผมรู้แล้วครับว่าผมสำคัญกับคุณขนาดไหนและเด็กน้อยคนนั้นอีก ผมอยากรู้เรื่องของเราครับ"
เอกคิดทบทวนอะไรมากมายในหัวสมอง คิดจนปวดหัวแต่ไม่สามารถคิดอะไรออกได้เลยแม้แต่นิดเดียว คำถามที่เกิดในหัวสมองของเขานั้นมีแต่คำถามว่า ทำไมกัน ทำไมความรู้สึกเหมือนจะนึกอะไรบางอย่างออกแต่กลับนึกไม่ออกเสียที จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้เอกตัดสินใจที่จะรับรู้เรื่องอดีตจากผู้ชายตรงหน้า ยิ่งเห็นเด็กที่เรียกเขาว่าแม่อีก ยิ่งทำให้เขาต้องตัดสินใจที่จะรับรู้เรื่องอดีตภายในสิบปีที่ผ่านมาให้ออกว่าเขาทำอะไรบ้างในช่วงเวลาเหล่านี้
"ขอบคุณครับ"
อินดีใจจนเก็บอาการไม่อยู่จึงหอมแก้มอันนุ่มนิ่มที่ไม่ว่าจะหอมยังไงเขาก็ไม่เคยเบื่อ เอกนิ่งไปทันทีถึงจะรู้สึกคุ้นเคยกับการหอมแบบนี้แต่พอมาคิดว่าเป็นครั้งแรก เขาเลยนั่งนิ่งก้มหน้าไม่ให้อินเห็นแก้มที่มันร้อนแผ่วๆ ด้วยความเขินอาย
"หึ" อินมองท่าทางที่น่ารักของเอกเขาจึงนึกขำในใจ
"รออีกเพียงหนึ่งอาทิตย์บ้านก็จะเสร็จแล้วครับ คุณกับผมจะได้ย้อนเวลาไปยังจุดเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง" อินจับมือของเอกขึ้นมาลูบไปและมองมือของเอกไป แล้วพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาให้เอกได้ยินเพียงคนเดียว
"คือ...ผมไม่เข้าใจว่าทำไมต้องสร้างบ้านขึ้นมาใหม่อีกครั้ง" เอกฟังอินพูดจบเขายังคงงงกับเรื่องที่อินพูดอยู่ดี
"บ้านหลังนั้นเป็นจุดเริ่มต้นของพวกเราครับผมจะเอาความทรงจำของคุณกลับมาให้ได้" อินเงยหน้ามองเอกพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่นและจริงจังกับเรื่องนี้
"ครับ" เอกพยักหน้ารับเขาคิดว่าเดี๋ยวก็คงรู้เรื่องเอง
"ช่วงนี้ผมให้กรมาอยู่เป็นเพื่อนคุณก่อนนะครับ แล้วผมจะแวะมาหาบ่อยๆ" อินตัดสินใจไปรับกรมาจากโรงเรียนให้มาหาเอกเพราะช่วงนี้เขาอาจจะยุ่งเพราะต้องเร่งให้บ้านเสร็จทันตามที่กำหนด
"โดยปกติกรอยู่กับใครครับ" พออินพูดถึงกรเขาจึงสงสัยข้อนี้ขึ้นมา
"อยู่กับคุณป้าคุณไงครับ และท่านพึ่งเสียไปไม่กี่เดือนผมกับคุณจึงตกลงกันว่าจะให้ลูกมาอยู่ที่นี่จะได้ดูแลง่าย คุณยังไปซื้อของมาเตรียมไว้ให้ลูกอยู่เลยนะ พอนึกอะไรออกไหมครับ" อินจำได้ว่าก่อนอุบัติเหตุจะเกิดขึ้นเอกยังกังวลเรื่องเรียนของกรว่าต้องทำยังไงและจะอยู่ยังไง แต่ยังโชคดีที่กรนั้นไปอยู่โรงเรียนประจำก่อนที่ป้าของเอกจะเข้าโรงพยาบาล จึงตัดปัญหาเรื่องที่พักอาศัยไปได้และตอนนี้กรกำลังขึ้นมัธยมศึกษาปีที่หนึ่งจึงเป็นโอกาสเหมาะที่จะย้ายกรมาเรียนโรงเรียนใกล้พวกเขา
"นั้นสิ...ทำไมผมลืมได้ยังไงว่าคุณป้าเสียไปแล้ว" เอกใจหายวูบทันทีทำไมเขาถึงลืมเรื่องที่คุณป้าป่วยด้วยโรคชราและเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลจนท่านจากไป ทำไมเขาถึงลืมเรื่องนี้ไปได้
"ไม่เป็นไรนะครับ เราจะช่วยกันแก้ปัญหาไปทีละอย่างนะครับ" อินกัดริมฝีปากล่างด้วยความกังวลใจแต่เขาคิดว่ายังไงเขากับเอกต้องผ่านพ้นเรื่องนี้ไปได้อย่างแน่นอน เอกยิ้มให้อินถึงจะงงกับตนเองว่าทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้กับตัวเองได้ แต่พอมองหน้าอินแล้วเขากลับรู้สึกอุ่นใจที่มีคนคนนี้อยู่ข้างกาย
กลับมา ณ ปัจจุบัน
ทุกคนในห้องกำลังมองนนท์ที่นอนผึ่งอยู่บนโซฟาพร้อมกับยาดมที่ยัดอยู่ในรูจมูก นนท์หน้าซีดจากการสูญเสียพลังงานไปมากกับการคลื่นไส้และอาเจียน
"พี่นนท์ไหวไหม" จิ๋วกำลังนำกระดาษในมือพัดให้นนท์อย่างเป็นห่วงเธอไม่เคยเห็นสามีเป็นแบบนี้
"แพ้ท้องแทนจิ๋วนะสิ" อินพูดขึ้นมาให้ทุกคนคลายความสงสัย เขาพอรู้อยู่ว่าอาการแบบนี้คืออะไร เพราะสังเกตจิ๋วที่มักเหม็นกลิ่นแปลกๆ ทั้งที่เขาเองอยู่ใกล้ยังไม่ได้กลิ่น รวมถึงสั่งอาหารที่ตนเองไม่เคยทานแต่อยากทานขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผล
"ผมพึ่งรู้นะครับว่าผู้ชายก็แพ้ท้องแทนผู้หญิงได้" เอกสนใจเรื่องนี้ขึ้นมาทันทีที่อินพูดจบ
"หึ แต่ผมไม่ต้องแพ้ท้องแทนใคร ผมก็มีลูกชายแบบกรแถมยังมีภรรยาที่น่ารักแบบนี้" อินพูดแล้วมองหน้าเอกด้วยสายตากรุ้มกริ่มอย่าสื่อความหมาย
"เฮอะ เฮอะ" เอกเบ้ปากให้อินแล้วล้มตัวนอนหนีไปทันทีไม่อยากเห็นหน้าคนเจ้าเล่ห์เอาแต่ใจ
"หึ" อินอมยิ้มกับท่าทางของเอกโดยไม่สนใจคนรอบข้างที่มองมายังคนทั้งสอง
"จะมาหวานอะไรกันตอนนี้ ผมจะแย่แล้ว" นนท์อารมณ์เสียที่ต้องมาทนเห็นภาพผู้ชายจีบผู้ชายด้วยกันเองอีกเขาไม่อยากฟัง
"ผมช่วยคุณพ่อนะครับคุณแม่" กรได้ทีอยากเอาใจนนท์ว่าที่พ่อตาในอนาคต
"แกไม่ต้องเรียกฉันว่าพ่อเลย" นนท์ได้ยินเสียงเด็กที่จะมาแย่งลูกของเขา ความอดทนก็ขาดผึงทันที ลุกขึ้นพรวดมองหน้ากรด้วยความหงุดหงิด จนจิ๋วต้องมาห้ามแต่กรยังทำสีหน้าที่นิ่งจึงทำให้มองดูว่ากรกำลังกวนนนท์อยู่นั้นเอง
"หน็อย...อุ๊ป" อาการคลื่นไส้กลับมาอีกครั้งจนนนท์ต้องวิ่งเข้าห้องน้ำไปอีกรอบจิ๋วเห็นท่าไม่ดีจึงต้องเข้าไปช่วย ผลสุดท้ายนนท์ต้องนอนหมดแรง โดยกรคอยนั่งดูอยู่ข้างๆ ส่วนจิ๋วยื่นยาดมให้ดมอย่างเป็นห่วง ส่วนอินและเอกไม่ได้สนใจคนทั้งสาม ทั้งสองได้สร้างม่านบดบังสิ่งรอบตัวมีแค่สองคน โดยอินนั่งมองเอกที่กำลังเขินเขาโดยไม่หันหน้ามานั่นเอง

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 14 ต.ค. 2560, 19:06:14 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 14 ต.ค. 2560, 19:06:14 น.
จำนวนการเข้าชม : 711
<< นาฬิกาทราย | จะได้ผลไหม >> |