มนต์รักในคำสัญญา (Yaoi) - จบ
คำสัญญาที่เธอเคยให้ไว้กับชายที่รัก แต่ในชาตินี้เธอกลับจำไม่ได้และที่สำคัญเธอเกิดมาเป็นผู้ชาย " คำสัญญาที่เจ้าเคยให้ไว้กับพี่ เจ้าจำได้ไหม พี่รอคอยเวลาที่จะพบเจอเจ้ามานานแสนนาน ไม่ว่ากี่พบกี่ชาติพี่ไม่มีวันลืม" ความรักจะเริ่มต้นใหม่อีกครั้งหรือจะต้องทำตามสัญญาที่เคยให้ไว้สิ่งไหนสำคัญกว่ากัน
Tags: นิยายรัก มนตรา มนตร์ นิยายวาย BL Yaoi

ตอน: งานวัด

ตั้งแต่นทีเห็นอาพศินกับพิมลักลอบมีอะไรกัน เขาก็มองหน้าคนที่เป็นอาไม่ติดและอยากบอกอารัตนาแทบจะขาดใจ แต่กลัวว่าเธอจะเสียใจและคิดมาก นทีแอบมานั่งที่หนองน้ำเหมือนเดิม เขานั่งใต้ต้นไม้ใหญ่โดยเอาหลังพิงกับต้นไม้และหลับตาคิดทบทวนอะไรหลายๆ อย่าง คิดไปก็ถอนหายใจไปเพราะหาทางกำจัดความอึดอัดในใจไม่ได้เสียที



"เจ้าควรปล่อยวางเสียบ้างนะ" เสียงที่คุ้นหูดังขึ้นข้างตัวทำให้นทีถึงกับสะดุ้งในการปรากฏตัวของชายแปลกหน้าและเป็นครั้งที่สองที่เขาเห็นใกล้ขนาดนี้

"คุณจะมา ก็ส่งเสียงให้กันบ้าง ไม่ใช่ทำให้ตกใจขนาดนี้ " นทีหันไปมองชายหนุ่มข้างตัวด้วยความตกใจ เขากำลังคิดว่าถ้าเป็นโรคหัวใจเขาคงหัวใจวายตายไปแล้วแน่นอน



"เจ้าไม่เป็นหรอกโรคหัวใจ คนที่เป็นควรจะเป็นพี่เสียมากกว่า" ศรยิ้มให้นทีที่กำลังทำหน้ามึนงง

"พูดเรื่องที่ไม่เข้าใจอีกแล้ว" นทีขมวดคิ้วใส่ทันที



"หึ บางเรื่องปล่อยไปบ้างก็คงจะดี" ศรยังคงพูดเรื่องเดิมอยู่

"แสดงว่าคุณรู้สินะเรื่องเมื่อวานนี้" นทีมองคนตรงหน้าด้วยสายตาที่ขุ่นมัว เขาไม่ชอบใจที่โดนห้ามไม่ให้ทำอะไร ทั้งที่คนผิดอยู่ตรงหน้า

"อย่างที่พี่บอกเมื่อวาน" ศรยังคงพูดเรื่องเดิมโดยไม่สนใจนทีเลยสักนิด นทีเห็นแบบนั้นถึงกับขมวดคิ้วและเบนหน้าหนีทันที



"ที ทำอะไรอยู่นะ" เสียงเรียกของปถวีดังขึ้นทำให้นทีหันไปมอง ส่วนศรก็หายตัวไปทันทีที่ปถวีเดินมา

"เรากำลังคุยกับคนชื่อศรอยู่นะ อ้าวหายไปไหนแล้ว" นทีงงกับสิ่งที่เห็น ไม่เข้าใจว่าชายคนนั้นหายไปไหนกัน

"ไม่เห็นมีใครเลยนะ" ปถวีชำเลืองมองตามที่นทีชี้ แล้วหันมามองหน้านทีด้วยสีหน้าที่มีคำถาม นทีไม่รู้จะตอบยังไง เขาเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมคนที่คุยกับเขาเมื่อกี้นี้หายไปไหน



"ชั่งเถอะ...เราว่าเราจะชวนทีไปข้างนอกนะ" ปถวียิ้มอย่างคนอารมณ์ดี

"ไปไหนเหรอ" นทีหันไปถามปถวีทันที พอได้ยินว่าจะออกไปข้างนอกเขาก็หูผึ่งแล้ว

"งานวัด" ปถวีบอกด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง นทียู่ปากเล็กน้อยรู้สึกไม่ค่อยอยากไปสักเท่าไหร่

"วันนี้มีงานวัดนะ ไปเป็นเพื่อนเราหน่อยนะ เราอยากปาโป่ง" ปถวีทำท่าทางการปาลูกดอกไปด้วยให้นทีเห็น

"อืม...ก็ได้" นทียอมอย่างจำนนเขาก็รู้สึกเบื่อเหมือนกัน



นทีเดินกลับเข้าไปเอาของในบ้านและออกมาพร้อมกับปถวี โดยไม่ได้บอกใครเพราะไม่มีใครอยู่บ้าน ปถวีได้ขับรถของเขามาที่งานวัดใกล้บ้านอย่างที่เขาตั้งใจ



"จะไปไหนก่อนหล่ะ" นทีถามปถวีเมื่อลงมาถึงงาน ผู้คนพลุกพล่านเพราะว่าเริ่มมืดจึงมีทั้งซุ้มของกินและซุ้มเกมที่เตรียมไว้เป็นแถวพร้อมให้บริการมากขึ้นเรื่อยๆ

"ฮิฮิ ต้องปาโป่งอยู่แล้วเราจะเอาตุ๊กตามาให้"

"ไม่เอาอ่ะ ผู้หญิงชะมัด ให้ตุ๊กตาคิดได้ไง" นทีส่ายหน้าห้ามปถวีทันทีเขานั้นไม่ชอบตุ๊กตาตั้งแต่เด็กแล้ว อีกอย่างเขาเป็นผู้ชายนะของแบบนี้ไม่จำเป็นต้องมาให้เลย นทีมองปถวีที่วิ่งตรงไปที่ร้านโดยที่ไม่สนใจฟังเขาเลยสักนิดด้วยความเบื่อ



"เจ้าชอบหรือ ตุ๊กตาที่พ่อหนุ่มนั้นจะเอามาให้เจ้านะ" เสียงของศรดังข้างหูของนทีเพราะเขามายืนอยู่ข้างนทีตั้งนานแล้ว

"เอ๋! คุณมาได้ยังไงตกใจหมด" นทีตกใจที่ศรโผล่มาโดยไม่ให้เสียงและที่น่าสงสัยมาที่นี่ได้อย่างไร

"ตามเจ้ามาไง" ศรยกยิ้มให้อย่างกวน เขาตามนทีมาตั้งแต่นทีออกจากบ้านแล้ว เพียงแต่ไม่มีใครเห็นเท่านั้นเอง นทีมึนงงกับคำพูดของชายตรงหน้า ที่แต่งตัวไม่เหมือนชาวบ้านและที่น่าแปลกไม่มีใครสงสัยหรือมองเลยสักนิด



"เจ้าสงสัยอะไรในตัวพี่" ศรยืนมองนทีที่มองเขาด้วยสายตาที่แปลกออกไป

"คุณทำตัวเหมือนพวกผีเลย แวบไปแวบมา" นทีมองศรอย่างพิจารณาและมองคนที่เดินผ่านไปผ่านมา ที่มองมาที่เขาด้วยสายตาที่แปลก เหมือนกำลังซุบซิบอะไรบางอย่าง

"ใช่ พี่เป็นวิญญาณที่รอเจ้ามานานแล้ว เจ้าจะเชื่อพี่ไหม"

ศรสังเกตว่าคนรอบข้างมองนทีเพราะแปลกใจที่นทียืนคุยอยู่คนเดียว เขาจึงตัดสินใจพูดออกมาเพราะเขาได้ยินกระแสความคิดของคนที่เดินผ่านไปมาที่คิดไม่ดีเกี่ยวกับนที

"อ๊าก! " เมื่อสิ้นคำพูดของศร นทีวิ่งกลับไปที่รถของปถวีโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น ส่วนศรนั้นรีบตามนทีไปติดๆ นทีรีบปิดล็อกประตูรถทันที

"อย่ามาหลอกผมเลยนะขอร้อง"

นทีก้มหน้าพนมมือร้องขอกับสิ่งที่ตนคิดกลัวว่าเป็นผี โดยที่ไม่ได้สังเกตเลยสักนิดว่าศรนั้นมานั่งตรงด้านคนขับและมองนทีด้วยหน้าตาที่เมื่อย เขาไม่เข้าใจว่านทีจะกลัวอะไรมากมายกับคนรักเก่าในชาติภพก่อน ทำเป็นจำไม่ได้ว่าก่อนหน้านี้ทั้งคุยและอยู่ใกล้กันตั้งหลายครั้งแล้ว



"แม่จันเจ้าจะกลัวพี่อะไรมากมายขนาดนั้น นึกให้ดีว่าพี่น่ากลัวจนถึงขั้นเอาชีวิตเจ้าเชียวหรือ" ศรขมวดคิ้วกับคนข้างกายที่ทำเป็นลืมว่าก่อนหน้านี้เราทั้งสองสนิทกันเพียงใด นทีได้ยินคำที่ศรพูดออกมาทั้งหมดเขาจึงได้สติ

"ก็จริงนะ" นทีค่อยๆ เงยหน้ามองคนข้างกายตนอย่างเชื่องช้าเหมือนกำลังปรับความรู้สึกที่มีต่อคนข้างตัว

"ดีแล้ว ถ้าอย่างนั้นแม่จันกลับมาคุยกับพี่เหมือนเดิมเถอะนะ"

ถึงเขาจะไม่เข้าใจว่าวิญญาณข้างกายตนนั้น ทำไมถึงตามติดเขามากมายขนาดนี้แต่คงต้องยอมไปก่อน ศรยิ้มให้อย่างสบายใจเขาจะได้ไม่ต้องมาคอยกังวลว่าคนรักนั้นต้องหนีเขาทุกครั้งที่เจอหน้ากัน ทำอย่างกับว่ากำลังจ้องเอาชีวิตอย่างนั้น



"ผมขอถามคุณหน่อยนะครับ" นทีเว้นจังหวะการพูดเหมือนกำลังเตรียมใจว่าตนกำลังคุยกับวิญญาณอยู่

"ว่ามาสิ" ศรตั้งใจฟังที่นทีจะพูดอย่างตั้งใจ



"คือ...ทำไมคุณถึงเรียกผมว่าแม่จัน" นทีสงสัยเกี่ยวกับชื่อนี่มานานแล้วและได้โอกาสถามเสียที



"เจ้าคงจำพี่ไม่ได้ว่าเจ้ากับพี่เคยเป็นผัวเมียกันมาก่อน" ศรมองหน้านทีอย่างมีความหมาย

"ห๊ะ! " นทีช็อกเป็นรอบสองของวัน ตัวเขานี่นะเคยเป็นเมียวิญญาณตนนี้มาก่อน ฟังแล้วอยากเป็นลม



"จะตกใจกระไร ชาติที่เราทั้งสองได้ครองคู่กัน เจ้าชื่อจันแล้วได้แต่งงานกับพี่ แต่ด้วยเหตุผลอะไรหลายอย่างทำให้ต้องแยกจากกัน เจ้าลืมสัญญาที่ให้ไว้กับพี่ ลืมแม้แต่ใบหน้าและความผูกพันระหว่างเราทั้งสอง" ศรเล่าอดีตด้วยความรู้สึกเจ็บปวดจนนทีรู้สึกได้ นทียังคงขมวดคิ้วทำสีหน้าบ่งบอกว่างงสุดฤทธิ์ แต่คงไม่มีอะไรที่มันจะแปลกประหลาดเท่าการคุยกับสิ่งที่ไม่มีตัวตนตรงหน้าแบบนี้หรอก



"เรื่องอดีตถ้าเจ้านึกไม่ออกไม่เป็นไร ประเดี๋ยวก็นึกขึ้นได้เอง" ศรมองคนข้างกายและส่งยิ้มไปให้ ยังไงต้องมีสักครั้งที่คนรักจะนึกทุกอย่างออกได้ นทีขมวดคิ้วมองหน้าวิญญาณตรงหน้าด้วยสีหน้าที่นิ่งเหมือนกำลังมึนกับคำพูดของวิญญาณตนนี้



"ที ก๊อก ก๊อก" ปถวีเคาะกระจกรถให้นทีมองเห็นเขา เขาเห็นนทีอยู่ข้างในแต่ไม่เห็นว่านทีทำอะไรอยู่

"อืม มีอะไรเหรอ" นทีหันไปมองศรอีกครั้งก่อนที่จะเปิดประตูคุยกับคนข้างนอกที่ทำท่าทางเหมือนตื่นตกใจ



"นายมาอยู่ที่นี่ทำไมไม่บอกทำเราตกใจหมด นึกว่าโดนอุ้มไปแล้วซะอีก" ปถวีพูดด้วยความหอบเหนื่อยจะไม่ให้เขาเหนื่อยได้ยังไงในเมื่อเขานั้นวิ่งตามหานทีแทบจะยกร้านแถวนั้นตามหาแล้ว

"พอดีมันเมื่อยนะ เลยเดินมานั่งรอ แล้วได้อะไรไหม" นทีจำใจต้องโกหกไป ใครจะบอกว่าหนีสิ่งไม่มีตัวตน บอกไปคงโดนหามเข้าโรงพยาบาลบ้าอย่างแน่นอน

"ไม่ได้ตุ๊กตาหมีตัวโต แต่ได้แค่ตุ๊กตาผีมาแทน" ปถวีชวดลูกโป่งไปหลายใบ ปาแทบไม่โดน หมดเงินไปหลายบาทผลสุดท้ายได้ตุ๊กตาหน้าตาน่าเกลียดเป็นรางวัลปลอบใจแทน



"อืม" นทีมองตุ๊กตาที่หน้าตาน่าเกลียดเส้นผมยุ่งตัวกลมหัวเล็กมีแต่ลูกตากลอกไปมาเท่านั้น มองแล้วชวนไม่อยากได้

"เดี๋ยวเราเอาไปทิ้งดีกว่า เราว่ามันไม่เหมาะกับทีเท่าไหร่" ปถวีกำลังจะเดินไปทิ้งขยะใต้ต้นไม้ใหญ่แต่ถูกนทีดึงแขนเสื้อเอาไว้ก่อน

"ไม่เป็นไร เอามาเถอะเราจะเก็บไว้เอง ขอบใจนะ"

นทีหยิบตุ๊กตาตัวนั้นจากมือของปถวีมาวางไว้บนตักเขา เขาไม่อยากทำให้เพื่อนต้องเสียใจ ปถวียิ้มอย่างดีใจที่นทีรับของเขาไม่เสียแรงที่หมดไปหลายร้อยบาท



"เรากลับกันเถอะ ไม่อยากเดินต่อแล้วหล่ะ"

นทีเห็นว่ามันมืดแล้ว อีกอย่างไม่อยากอยู่นานนักเพราะไม่มีอะไรทำ แต่สายตาของนทีกลับเหลือบไปมองเห็นอาพศินกับพิมแอบออกมาเที่ยว



เขามองคนทั้งสองไม่วางตาแต่ไม่สามารถทำอะไรได้ คืนนี้อารัตนาไม่อยู่บ้านเธอออกไปค้างบ้านเพื่อน นทีกัดฟันระงับอารมณ์โกรธในใจ ไม่ให้วิ่งตรงไปกระชากหน้ากากคนหลอกลวงแล้วประจานให้อับอายต่อหน้าชาวบ้าน ให้มันไม่มีที่ยืนอยู่ตรงนี้ได้ จนอารมณ์โกรธของนทีไม่สามารถระงับได้ทำให้กัดฟันออกมาเสียงดัง

ปถวีได้ยินเสียงแปลกๆ จึงหันไปมองตามเสียงกัดฟันที่ดังขึ้นในรถที่เงียบ ส่วนศรนั้นย้ายตัวไปนั่งข้างหลังเขารับรู้ถึงกระแสความคิดของนทีทั้งหมดจึงได้แต่มองเพราะไม่สามารถทำอะไรได้เช่นกัน



"ที เป็นอะไร" ปถวีรีบเขย่าตัวนทีด้วยความเป็นห่วง

"หึ ไม่มีอะไร กลับกันเถอะ" นทีพอได้สติจึงรีบปรับอารมณ์ให้คงที่แล้วหันไปพูดกับปถวีด้วยท่าทางปกติ

"อืมๆ " ปถวีเห็นว่านทีกลับมาเหมือนเดิม เขาจึงหันหน้ากลับมาตั้งใจขับรถออกจากที่นี่ตามที่นทีต้องการ



เมื่อปถวีได้มาส่งนทีด้วยความปลอดภัย ทั้งสองจึงแยกย้ายกลับเข้าบ้านของตน นทีเมื่อทำความสะอาดร่างกายและจิตใจด้วยสายน้ำเป็นที่เรียบร้อยจึงหันหลังกลับไปเพื่อที่จะหยิบผ้าขนหนู

"เฮ้ย! ทำอะไรของคุณ"

นทีต้องตกใจอีกครั้งเมื่อศรใช้พลังทำให้ผ้าขนหนูลอยมาอยู่ตรงหน้าของเขาทำให้เขานั้นตกใจยิ่งกว่าเห็นผีเสียอีก



"จะช่วยหยิบผ้าขนหนูให้" ศรพูดแล้วยังคงยืนพิงกำแพงมองนทีด้วยสีหน้าที่นิ่ง แต่สายตาที่มองมาทำให้นทีขนลุกซู่เลยทีเดียว

"ทำไมคุณถึงเข้ามาได้หล่ะ" นทีรับคว้าผ้าขนหนูมาพันไม่ให้เห็นของสงวนของตน ถึงจะเป็นวิญญาณผู้ชายเขาก็เขินเหมือนกัน



"เจ้าให้พี่เข้ามาเอง พี่จึงเข้ามาได้ เทวดารักษาบ้านเห็นพี่ตามเจ้ามาท่านก็ไม่ว่าอะไร" ศรอธิบายให้นทีฟังโดยปกติเขานั้นถูกสั่งห้ามไม่ให้เข้ามาในบ้านเพราะเป็นเขตที่มนุษย์อยู่อาศัย ตั้งแต่นทีกลับมาเขาก็สามารถไปไหนมาไหนได้จะเข้าออกบ้านก็ได้เพราะนทีอนุญาตโดยที่เขาไม่รู้ตัว



"จำไม่ได้นะว่าเคย แต่ชั่งเถอะ" นทีกำลังจะเดินออกจากห้องน้ำแต่สายตาเหลือบมองวิญญาณที่ถือวิสาสะเข้ามาโดยไม่ขออนุญาตกำลังยืนมองเขาอย่างไม่วางตา

"มองผมทำไม" นทีเหลืออด เขาจะไม่หงุดหงิดถ้าสายตาที่มองไม่ใช่สายตาเหมือนผู้ชายแทะโลมผู้หญิง

"ถึงเจ้าจะเกิดในร่างผู้ชายแต่ว่าในร่างนี้ก็ยั่วยวนเหมือนกัน" ศรพูดออกมาโดยที่ไม่รู้สึกอายอะไรสักนิด นทีรีบเอามือปิดช่วงบนและหันหลังหนีทันที



"จะบ้าหรือไง...พูดออกมาได้ และอีกอย่างอย่ามามองว่าผมเคยตกเป็นของคุณจะได้ไหม ได้ยินแล้วมันน่ากลัว" นทีพูดออกมาอย่างเสียงดังด้วยความเขินอาย เขารีบหนีในท่าหันหลังออกจากห้องไปโดยไม่มองหน้าศรอีกเลย

"หึหึ"





@@@@@@@@

ฮ่า ฮ่า เขินแทนค่ะ แต่น้องทีจะรู้สึกช้าไปไหม ที่พึ่งรู้ว่าพี่ศรไม่ใช่คน รู้สึกกลุ้มใจแทนจะไปรอดไหมนะงานนี้



HM06
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 14 ต.ค. 2560, 20:58:58 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 14 ต.ค. 2560, 20:58:58 น.

จำนวนการเข้าชม : 588





<< ชู้รัก   พินัยกรรม >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account