ข้อเสนอสังกัดรัก
เพราะรักงานยิ่งชีพ งานที่รักของนีราจึงตอบแทนกลับมาอย่างสาสม เมื่อลูกค้าของเธอคือ สุภาพบุรุษมาดดีมีปัญญาที่สวมหนังแกะปกปิดความเป็นซาตานวายร้าย!
Tags: จิตแพทย์,CEO หนุ่ม,เซ็กซี่,โรมานซ์,น่ารักกุ๊กกิ๊ก
ตอน: Chapter 1 หมอโรคจิต & สุภาพบุรุษ(หลุด)! (3/4)
แรกเจอกันเมื่อสามเดือนก่อน คริสเป็นหนุ่มน้อยผู้เคร่งขรึม ดูโตเกินวัย และอมทุกข์จมอยู่ในโลกส่วนตัว บางครั้งเขากลับร่าเริงสดใส ช่างพูด และดูเฟรนด์ลี่เป็นที่สุด ซึ่งนีรายังไม่กล้าฟันธงในตอนนี้ เนื่องจากมันไม่ได้เกิดขึ้นอย่างแตกต่างชัดเจน เพราะมันก้ำกึ่งอยู่ระหว่างกันจนต้องใช้เวลาสังเกตมากกว่านี้
เสียงโทรศัพท์ภายในดังขึ้น นีราละสายตาและหยิบขึ้นมารับ
“คุณหมอคะ คุณเบลลาทิสเดินทางมาถึงแล้วค่ะ คุณหมอสะดวกให้เข้าพบตอนนี้เลยไหมคะ”
“โอเคจ้ะ ไอรีน ฉันพร้อมแล้ว” นีราวางสายและลุกขึ้นยืน เธอขยับจัดเสื้อผ้าให้ดูดีและเดินไปที่ประตู เมื่อเอื้อมไปเปิดก็พบกับดยุคหนุ่มน้อยผู้หล่อเหลา ซึ่งมาพร้อมบอดี้การ์ดร่างบึ้กในสูทชุดดำอีกสามคนยืนรออยู่
“เฮ้” หญิงสาวยื่นมือไปหาเพื่อจับมือเขย่ากับเขา “ยินดีที่ได้เจอคุณอีกครั้งค่ะ” ไม่วายก็ยังแอบเย้า “มายลอร์ด” เธอขยิบตาและเขาก็หัวเราะขึ้นเบาๆ “ดยุครูปงามจากแดนอังกฤษที่สาวสาวกำลังคลั่งไคล้”
คริสยิ้มรับกับคำแหย่นั้น เขาสูงกว่านีราเกือบหกเซนติเมตร รูปหน้าเรียวเป็นวีเชฟอย่างที่สาวสาวนิยมไปศัลยกรรมกัน นัยน์ตาหงส์สีอ่อน รวมถึงคิ้วที่เป็นสีน้ำตาล และเส้นผมที่เป็นสีทอง ริมฝีปากแม้บางแต่เป็นรูปกระจับสีสด รูปร่างสูงใหญ่แม้ยังดูเก้งก้างแต่ก็ไม่มาก ดยุคเริ่มออกกำลังกายจริงจังและมีกล้ามเนื้อบ้างแล้ว พอที่จะทำให้การสวมเชิ้ตทับด้วยสเวตเตอร์ และกางเกงยีนส์ตัวโคร่งไม่ทำให้เขาดูเหมือนไม้แขวนเสื้อตัวใหญ่เดินได้
ก็จัดว่าเป็นหนุ่มหน้าสวยอีกคนหนึ่งก็ว่าได้
“ผมก็คิดถึงคุณครับ นีล--” นีรายิ้มเจื่อนทันทีเพราะยังไม่ชินกับการที่คริสจูบหลังมือเธอเพื่อทักทาย ครั้นดยุคปล่อยมือและเงยหน้าขึ้นมอง ดวงตาเหมือนดาวนั้นก็พราวระยิบระยับ เหมือนตากวางน้อยแบมบี้ และเหมือนมันกำลังยิ้มไม่ต่างจากริมฝีปากที่แย้มออก แถมยังเป็นรอยยิ้มที่ชวนให้สดชื่นเป็นที่สุด “เฝ้ารอที่จะได้เจอคุณแทบทุกลมหายใจ”
แต่คำพูดนี่... เหมือนบทละครเวทีในโรเมโอกับจูเลียตไม่มีผิด!
“ขอบคุณ ฉันดีใจนะที่ได้ยิน แต่เชิญในห้องดีกว่าค่ะ ฉันว่าคุณคงยืนจนเมื่อยขาแล้ว”
หญิงสาวก้าวหลบเพื่อหลีกทางให้เบลลาทิสเดินเข้ามา บอดีการ์ดทั้งสามไม่ได้ตามเข้ามาด้วยแต่เฝ้าอยู่หน้าห้อง นีราปิดประตูลงและเดินนำคริสไปที่โซฟา เรานั่งลงกันคนละฝั่ง ครั้นระหว่างนั้นเธอก็แอบสังเกต ท่วงทีสง่างาม บุคลิกไม่มีที่ติของดยุคไม่ผิดแผกไปเลยแม้แต่น้อย จิตแพทย์สาวสงสารเด็กหนุ่มตรงหน้าเหลือเกินกับกรอบที่มองไม่เห็นซึ่งล้อมรอบตัวเขาอยู่ และกรอบนั้นก็คือตำแหน่งที่เขาต้องแบกไว้
“เป็นไงบ้างคะหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา--” เธอเปิดบทสนทนาพร้อมกับรอยยิ้ม มือสองข้างผายไปตรงหน้า “คุณดูแฮปปี้ดีนะ แล้วฉันก็เพิ่งเห็นข่าวที่คุณให้สัมภาษณ์ แบบว่า ว้าว!” ท่วงท่าตื่นเต้นนั้นไม่ได้เสแสร้ง “คริสคุณรู้ไหม ตอนนี้คุณกลายเป็นขุนนางหนุ่มอายุน้อยที่สุดที่กำลังฮอตสุดๆ”
คริสนั่งไขว่ห้าง มือสองข้างวางบนตัก เขาหัวเราะน้อยๆ เพียงแค่เห็นไรฟัน และมันก็เป็น... รอยยิ้มที่เกิดจากการประดิษฐ์ ไม่ใช่ยิ้มที่เกิดจากใจ
“คุณก็พูดเกินไป ก็ไม่รู้สิ ผมรู้สึกตัวเองมีคุณค่ามากกว่าที่คิดนะ มันมีเรื่องอะไรให้ผมทำเยอะแยะและมันสนุกไปหมดจนผมไม่มีเวลาคิดมากเหมือนเมื่อก่อน”
“ชีวิตในมหาวิทยาลัยจะทำให้คุณดีขึ้นทีละน้อยค่ะ”
นีราเสริมประโยคท้ายๆ ต่อไปเพื่อเปิดบทสนทนาใหม่ และเหมือนเช่นเคยเธอยังใช้เวลาพูดคุยกับคริส ค่อยๆ ถาม ค่อยๆ ล้วงเอาสิ่งที่อยู่ในจิตใจส่วนที่ลึกสุดของเขาออกมา แต่ก็ไม่ค่อยสำเร็จมากนัก จริงอยู่สามเดือนมานี้คริสดูผ่อนคลายมากขึ้นเมื่อพูดคุยกับเธอ แต่นีรายังสัมผัสได้ว่ามีอะไรที่ไม่ดีนักซึ่งเขาปิดบังไว้ เพราะหลายครั้งที่ถูกไล่ต้อน และเขารู้ทัน แววตามักเปลี่ยนไป รอยยิ้มเปลี่ยนไป ท่าทีเปลี่ยนไป แต่ก็เป็นเพียงความเปลี่ยนแปลงแค่นิดเดียว นีราไม่ทันสังเกตในทีแรก แต่หลังๆ มานี้เธอเห็นมันบ่อยขึ้น รู้สึกถึงมันได้บ่อยขึ้น อาจมีแผลบางอย่างในใจเขาที่ยังไม่พร้อมเปิดเผยให้ใครได้รู้ในตอนนี้ เธออาจต้องใช้เวลาอีกหน่อยเพื่อให้เขายอมเปิดใจมากกว่าที่เป็นอยู่
“ผมรู้สึกชีวิตมีความสุขมากขึ้น” ช่วงหนึ่งของการสนทนา แววตาเขายามเอ่ยช่างแสนเศร้า “แต่มันยังไม่สมบูรณ์” ชายหนุ่มยื่นมือออกมาและถือวิสาสะคว้ามือนีราไปกุมไว้ เมื่อเขาช้อนตาขึ้นมองเธออีกครั้งมันเหมือนลูกแมวขี้อ้อนหลงทาง ที่กำลังต้องการให้คนผ่านมาเก็บมันกลับบ้านไปด้วย “บางครั้งมันว่างเปล่า นีลความว่างเปล่าในใจผมมันยังอยู่ และผมก็ทรมานกับมัน แต่ตั้งแต่เจอกับคุณ คุณช่วยให้มันหายไป มีคุณอยู่ผมมีค่า และตอนนี้ผมไม่ต้องการอะไรเลยถ้าแค่คุณจะรับนัดดินเนอร์กับผมสักครั้ง”
เวรละ! คุยกันเรื่องอาหารมื้อกลางวันของสามวันที่แล้วอยู่ดีๆ ทำไมเลี้ยวเข้าเรื่องนี้จนได้!
นีรายิ้มจาง ท่าทางแบบนี้เป็นสาวที่ไหนเห็นเข้าคงใจอ่อน ได้แต่อุทานว่าโถ พ่อเด็กน้อย แต่...
“ฉันเข้าใจในสิ่งที่คุณรู้สึกนะคริส แต่ด้วยจรรยาบรรณของฉัน จนกว่าคุณจะหายจากอาการเหล่านี้ จนกว่าเราจะไม่ได้เป็นคุณหมอกับคนไข้ ฉันก็ยังรับนัดคุณไม่ได้”
สีหน้าแววตาเขาผิดหวังชัดเจน ท่าทางเขาเหมือนเด็กที่อยากได้ขนมสักชิ้นจนน้ำลายยืด และถ้าผู้ใหญ่คนไหนได้เห็นก็คงอดจะหยิบยื่นขนมชิ้นนั้นให้ไม่ได้ แม้รู้ดีแก่ใจว่ามันจะทำให้เขาฟันผุก็ตาม!
“แต่ระหว่างนี้เราก็ยังเจอกันที่นี่ได้ไงคะถ้าคุณมาตามนัด นี่คริส เบลลาทิส--” นีราดึงมือออกและเป็นฝ่ายกุมมือเขาไว้พลางตีลงเบาๆ ที่หลังมือแทน “ระหว่างเรายังเจอกันน้อยไป ยังรู้จักกันน้อยไปค่ะ และที่สำคัญถ้าฉันอยากจะมีแฟนหนุ่มขึ้นมาสักคน ฉันก็จะใช้เวลาพิจารณาเขาให้นานๆ นะว่าเขาเป็นเด็กดีของฉัน หรือว่าเข้ากันกับฉันได้หรือเปล่า”
เท่านั้นคริสก็หน้าชื่น ยิ้มกว้างไม่ได้ประดิษฐ์อีก เขาดูเหมือนเด็กน้อยที่ดีใจด้วยอะไรง่ายๆ
“ผมรู้ ผมเข้าใจ ผมจะกินยาที่คุณให้ ทำตามที่คุณบอกแล้วผมก็จะหาย ตอนนั้นคุณก็จะรับนัดของผม”
“แต่เวลานั้นก็ยังมาไม่ถึง เรามาทำปัจจุบันให้ดีที่สุดกันดีกว่านะ เอาละ มาคุยกันต่อดีกว่าว่าคุณรู้สึกยังไงกับการมีคนรุมล้อมมากๆ ยังมีความรู้สึกกลัวอยู่อีกไหม”
หัวข้อสนทนาวกกลับเข้ายังเรื่องสำคัญอีกครั้ง คริสเอ่ยถึงเรื่องของตัวเองอย่างเจื้อยแจ้วไม่มีติดขัด นีราพอใจในส่วนนี้เพราะมันต่างกับความเคร่งขรึมในตอนแรกที่เขาเล่าเรื่องนี้กับเธอ คริสกำลังดีขึ้นทีละน้อย เธอดีใจที่ได้ช่วยทำให้เขาดีขึ้น จากอะไรก็ตามที่มันทำให้เขากลายเป็นคนค่อนข้างเก็บตัวและกลัวการเข้าสังคม
นัดของดยุคหนุ่มหน้าใสชวนใจอ่อนครั้งนี้จบลงตอนบ่ายสาม สองชั่วโมงกับการพูดคุย สองชั่วโมงกับการระบายคริสดูสดใสขึ้น ขากลับเขายังมากพิธีและเป็นผู้ดีอังกฤษของแท้เหมือนเดิม เมื่อจูบลาที่หลังมือของเธอ ดยุคแห่งซอเมอร์เซ็ตกลับไปพร้อมกับรอยยิ้มระบายเต็มหน้า บอดีการ์ดหน้าเหวี่ยงทั้งสองของเขาเพียงแค่ผงกศีรษะให้กับเธอและเดินคุ้มกันหน้าหลังเขาจากไป
นีรามองตามหลังพวกเขาที่เดินห่างออกไปในโถงทางเดินช้าๆ เธอผ่อนลมหายใจยิ้มได้กับผลงานวันนี้ กำลังจะปิดประตูกลับเข้าห้องก็ถูกเรียกไว้โดยพยาบาลที่เดินเร็วจนแทบกลายเป็นวิ่งตรงมาหา
“นัดจากคุณและคุณนายเบอร์ตันยกเลิกกะทันหันค่ะคุณหมอ”
นีรานิ่วหน้า คิ้วขมวด
“ดูคุณหอบมากเลย ฉันพลาดอะไรใช่ไหม โทรศัพท์?”
“อ๋อไม่ใช่ค่ะ คือโทรศัพท์ภายในเหมือนจะมีปัญหาค่ะ ฉันโอนสายคุณนายเบอร์ตันให้คุณหมอไม่ได้เลย คือคุณนายเบอร์ตันโทร.มาบอกว่าตอนนี้อยู่โรงพยาบาลเอ็ดเวิร์ดดูแลนค่ะ เอ่อ” พยาบาลอึกอัก
“เธอต้องเข้าโรงพยาบาลด่วน เพราะมีดิลโด้อันใหญ่เบิ้มที่พอกดปุ่มแล้วจะแผ่หนามออกมาเกาะอยู่ในช่องคลอด”
สีหน้านีราแสดงชัดว่าเสียวไส้ไม่น้อยเมื่อนึกภาพตาม
“ส่วนคุณเบอร์ตันเข้ารักษาโรงพยาบาลเดียวกันเพราะเอ่อ ลูกแก้วที่หลุดเข้าไปในรูเอ่อ ตูดแล้วเอาออกไม่ได้มันเอ่อมีหลายลูก และตอนนี้กำลังรอผ่าตัดอยู่ค่ะ”
“พระเจ้า!” นีรายกมือขึ้นทาบอก “ฉันฟังไม่ผิดใช่ไหมคะไอรีน”
พยาบาลนามไอรีนพยักหน้ารับ นีรายกมือขึ้นกุมขมับ
“ไม่ผิดค่ะคุณหมอ คุณนายเบอร์ตันเพิ่งโทรศัพท์ได้ หลังผ่าตัดเอาดิลโด้ออกเมื่อเช้าตรู่วันนี้ เธอขอยกเลิกนัดวันนี้พอหายดีแล้วจะขอนัดคุณหมอใหม่นะคะ แล้วเอ่อเธอบอกว่า มันเป็นข้อแลกเปลี่ยนของเธอกับคุณเบอร์ตันเพื่อที่จะมาหาคุณหมอ แต่คุณเบอร์ตันดันไม่บอกว่าจะเอาดิลโด้พิศดารนั่นยัดเข้าเอ่อ น้องหนูของเธอ”
หลังหายตกใจแล้ว สีหน้านีราบอกชัดว่าปลงตก “ขอบใจมากค่ะไอรีน งั้นคงแปลว่าวันนี้ฉันไม่มีนัดของใครเหลือแล้วสินะคะ งั้นก็เอาเป็นว่าคุณรับคนไข้อื่นให้ฉันได้เลยนะคะ จนกว่าจะหมดเวลาทำงานของฉัน”
พยาบาลสาวยิ้มอ่อน ก่อนเดินจากไป นีรากลับเข้าห้องและปิดประตู หญิงสาวนึกถึงเซ็กส์ทอยพิสดารนั่นที่อยู่ในช่องคลอดของคนไข้อายุสี่สิบแล้วก็ได้แต่ขนลุกยะเยือก
สังหรณ์เมื่อคืนของเธอมันใช่จริงๆ ว่าความชอบในเซ็กส์วิตถารของมิสเตอร์เบอร์ตันจะต้องทำให้ภรรยาเจ็บหนัก!
การทำงานวันนี้ของนีรา นอกจากเรื่องของคุณและคุณนายเบอร์ตันกับเซ็กส์ทอยอันตรายแล้ว ก็ถือว่าปกติ จิตแพทย์สาวรับคนไข้อีกสองราย รายหนึ่งมีอาการของโรคนาซิสสัส หรือพูดง่ายๆ คือหลงรูปลักษณ์ตัวเองอย่างสุดโต่ง เธอนัดคนไข้รายนี้ให้มาคุยกันอีกในอาทิตย์หน้า หลังตะล่อมให้หล่อนลองทำตามที่เธอแนะนำ ส่วนอีกคนมีอาการเห็นภาพหลอน และเธอวินิจฉัยว่าน่าจะเกิดจากสารสื่อประสาทในสมองผิดปกติ เธอสั่งยาให้เขาและนัดเจออีกครั้งหลังยาหมดเพื่อเช็กอาการกันอีกรอบ
มันเป็นวันทำงานที่แสนชิล ทุกอย่างเริ่มต้นและจบลงอย่างชิลๆ
หลังเลิกงานนีราชวนไครีย์ออกมานั่งจิบกาแฟกับเบเกอรี่ในร้านเล็กๆ ริมถนน West Park Dr ที่อยู่ใกล้ๆ โรงพยาบาลเพื่อผ่อนคลาย สองสาวนั่งกันที่โต๊ะด้านในสุดของตัวร้าน เนื่องจากโต๊ะด้านหน้าเต็มหมดแล้ว
“ตัวฉันบวมเหมือนจะแตก แต่ฉันก็ขาดเค้กไม่ได้!”
ไครีย์เอ่ยถึงหุ่นอันอวบอัดของตัวเอง เธออายุน้อยกว่านีราที่กำลังจะเฉียดสามสิบ
“นีล” คนพูดมองเพื่อนชาวเอเชียที่ตัวเล็กบาง ผิวขาวไม่ต่างกับตัวเองแต่กลับเนียนผิดกัน “ฉันอิจฉาเธอจริงๆ เธอกินเหมือนกับฉัน แต่ทำไมถึงไม่อ้วนนะ”
นีรายืดตัวนั่งตรงและเชิดหน้ารับคำชม
“นาซิสสัส โรคนี้ละที่เธอลืมรักษาตัวเองน่ะนีล” เป็นไครีย์ที่เอ่ยติดตลก และนีราก็ถอนหายใจตีเพียะเข้ามือคนที่กำลังจะยกชาขึ้นดื่ม
“โครงสร้างร่างกายคนเรามันไม่เหมือนกันนะไค”
“โอ้ให้ตาย” ไครีย์ทำหน้าเหม็นเบื่อ “เรื่องกายวิภาคฉันก็รู้ดีนะ เธอห้ามเปิดเลกเชอร์ตอนนี้เชียว”
ฟังแล้วนีราก็หัวเราะขึ้นเบาๆ แต่ไม่ทันให้ไครีย์พูดต่อก็มีชายในชุดสูททางการสีดำสนิทตั้งแต่หัวจรดเท้า หวีผมปัดเป๋เรียบแปล้เดินเข้ามาหยุด และค้อมศีรษะลงน้อยๆ ต่อหน้าพวกเธอ
“คุณหมอพีท ผมโดโลแวน ครูเซ ครับ ยินดีที่ได้เจอคุณ”
นีราส่งยิ้มให้ชายตรงหน้าก่อนลุกขึ้นยืน เธอค้อมศีรษะเล็กน้อยและเพื่อไม่เป็นการเสียมารยาท หญิงสาวจึงยื่นมือออกไปเขย่ากับเขาที่ยื่นรอ ทั้งๆ ที่แน่ใจว่าไม่รู้จักชายคนนี้มาก่อน
ชายผู้แต่งตัวดี เนี้ยบ สุภาพ สวมแว่นตาตัวโตและดูเหมือนกับ... แขกขาว
“เช่นกันค่ะ เอ่อ คุณครูเซ ไม่แน่ใจว่าเราเคยรู้จักกัน”
“แน่นอนครับ คุณหมอไม่รู้จักผม ผมมาจาก เกรแฮม พาวเวอร์ แอนด์ เคมมิทเซาส์ติ้ง” คำประกาศของชายแปลกหน้าทำให้ไครีย์กับนีราแทบจะมองหน้ากันในทันที เพราะมันเป็นชื่อกิจการอับดับต้นๆ ที่ให้คำแนะนำเรื่องการบริหารจัดการทรัพย์สิน รวมถึงการดูแลบุคลิกภาพในเวอร์จิเนีย “และถ้าหากคุณไม่ว่าอะไร วันนี้ผมอยากจะขอรบกวนเวลาคุณสักครู่ คุณเกรแฮมต้องการพบคุณหมอครับ”
นีรายิ้ม “ฉันไม่รับนัดคนไข้นอกเวลาค่ะ แต่อาจจะให้คำปรึกษาได้หากจำเป็นจริงๆ”
“ไม่ใช่การปรึกษาส่วนตัวครับ แต่เกี่ยวกับลูกค้าคนสำคัญของเรา”
“ใครคะ” คำตอบทำให้นีราถึงกับนิ่งไป
“ดยุคแห่งซอเมอร์เซ็ต คนไข้ที่คุณหมอให้คำปรึกษาและต้องให้สัมภาษณ์คู่กันเรื่องอาการและวิธีการรักษาเขาอย่างกะทันหันในวันพรุ่งนี้ครับ”
‘มันเป็นการสูญเสียครั้งสำคัญที่สุด และส่งผลกระทบต่อจิตใจของประชากรราวครึ่งแสนของซอเมอร์เซ็ต การสูญเสียดยุคแห่งซอเมอร์เซ็ต ลูเซียโน่ เบลลาทิส อย่างกะทันหันนี้ไม่มีใครที่พร้อมจะตั้งรับมัน แม้ว่าการสูญเสียนี้จะผ่านมาถึงสามเดือนแล้วก็ตามที’
มันเป็นรายงานข่าวจากช่องทีวีฝั่งประเทศอังกฤษ เสียงของนักข่าวจากจอโทรทัศน์ยังดำเนินต่อไป ภายในห้องกว้างที่ตกแต่งด้วยงานไม้และกระจก มองเห็นวิวของแมคลีนในแถบนี้ได้แทบจะสามร้อยหกสิบองศา ในห้องนี้ไม่มีเสียงอื่นใดรบกวน แม้ว่าจะมีบุรุษอยู่ถึงสองคนก็ตามที
สุภาพชนผู้แต่งตัวดีหนึ่งในนั้นนั่งอยู่บนเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานเยื้องไปทางมุมซ้ายของห้อง ใกล้กับผนังที่เต็มไปด้วยชั้นวางหนังสือ มือสองข้างวางใต้คาง แผ่นหลังเหยียดตรงราวกับเป็นแค่รูปปั้นสลักหาใช่คนมีเลือดเนื้อ ดวงตาสองคู่เขาปิดสนิท เรือนร่างสูงใหญ่กำยำใต้สูทแบบฟร็อกโค้ดเนื้อดีสีเทาไม่มีการเคลื่อนไหว ที่พอจะจับสังเกตได้ก็คงมีแค่ช่วงอกกว้างที่ขยับเพียงน้อย บ่งว่ามีหัวใจซ่อนอยู่ในนั้นและมันกำลังเต้นอยู่
ผมของเขาเป็นสีน้ำตาลทองอมดำ แต่บางส่วนที่กระทบแสงไฟดูเป็นสีอ่อนมากกว่านั้น การจัดทรงผมเผยให้เห็นหน้าผากกว้าง จมูกโด่งเป็นสันค่อนข้างคล้ำกว่าผิวส่วนอื่นบนใบหน้า ผิวขาวเผือดบนสองข้างแก้มเห็นไรหนวดเขียวครึ้ม
“โดโลแวนกำลังมาครับ”
ชื่อที่ถูกเอ่ยถึงคือคู่แฝดของชายผู้ที่ยืนตรงต่อหน้าโต๊ะทำงานของเจ้านาย สองมือเขาประสานกันด้านหน้า การแต่งกายแทบไม่ผิดเพี้ยนจากคนที่นั่งอยู่ จะต่างก็แค่เสื้อกั๊กตัวในที่สวม และเขาไว้ผมยาวมัดรวบตึงไปด้านหลัง ไม่มีไรหนวดเผยผิวสะอ้านเกลี้ยงเกลา ผิวที่ขาวยิ่งกว่าชายอีกคน และเรือนร่างสูงใหญ่นั้นบ่งถึงเชื้อชาติกำเนิด
ดิมิทรี ครูเซ เป็นลูกครึ่งอเมริกัน-อิหร่าน เขาเป็นแขกผิวขาวที่หล่อล่ำน่าหม่ำ!
“พร้อมคุณหมอพีท”
ผู้รับฟังพยักหน้าเพียงน้อย ก่อนลืมตาขึ้น ดวงตาคู่คมนั้นเป็นสีอ่อน เปลือกตาสองชั้นมองเห็นชัด แต่เขาไม่ได้มองคู่สนทนาเพราะสิ่งที่ดึงความสนใจเขาไว้คือจอโทรทัศน์ในตอนนี้
‘ดัชเชสแห่งซอเมอร์เซ็ตเปิดเผยเพียงน้อยนิดเท่านั้นว่า ดยุคแห่งซอเมอร์เซ็ตที่ยี่สิบ เสียใจมากกับการสูญเสียครั้งนี้และไม่พร้อมกับการให้สัมภาษณ์ใดๆ จนกว่าจะเข้ารับตำแหน่งดยุคอย่างเป็นทางการ’
เสียงโทรศัพท์ภายในดังขึ้น นีราละสายตาและหยิบขึ้นมารับ
“คุณหมอคะ คุณเบลลาทิสเดินทางมาถึงแล้วค่ะ คุณหมอสะดวกให้เข้าพบตอนนี้เลยไหมคะ”
“โอเคจ้ะ ไอรีน ฉันพร้อมแล้ว” นีราวางสายและลุกขึ้นยืน เธอขยับจัดเสื้อผ้าให้ดูดีและเดินไปที่ประตู เมื่อเอื้อมไปเปิดก็พบกับดยุคหนุ่มน้อยผู้หล่อเหลา ซึ่งมาพร้อมบอดี้การ์ดร่างบึ้กในสูทชุดดำอีกสามคนยืนรออยู่
“เฮ้” หญิงสาวยื่นมือไปหาเพื่อจับมือเขย่ากับเขา “ยินดีที่ได้เจอคุณอีกครั้งค่ะ” ไม่วายก็ยังแอบเย้า “มายลอร์ด” เธอขยิบตาและเขาก็หัวเราะขึ้นเบาๆ “ดยุครูปงามจากแดนอังกฤษที่สาวสาวกำลังคลั่งไคล้”
คริสยิ้มรับกับคำแหย่นั้น เขาสูงกว่านีราเกือบหกเซนติเมตร รูปหน้าเรียวเป็นวีเชฟอย่างที่สาวสาวนิยมไปศัลยกรรมกัน นัยน์ตาหงส์สีอ่อน รวมถึงคิ้วที่เป็นสีน้ำตาล และเส้นผมที่เป็นสีทอง ริมฝีปากแม้บางแต่เป็นรูปกระจับสีสด รูปร่างสูงใหญ่แม้ยังดูเก้งก้างแต่ก็ไม่มาก ดยุคเริ่มออกกำลังกายจริงจังและมีกล้ามเนื้อบ้างแล้ว พอที่จะทำให้การสวมเชิ้ตทับด้วยสเวตเตอร์ และกางเกงยีนส์ตัวโคร่งไม่ทำให้เขาดูเหมือนไม้แขวนเสื้อตัวใหญ่เดินได้
ก็จัดว่าเป็นหนุ่มหน้าสวยอีกคนหนึ่งก็ว่าได้
“ผมก็คิดถึงคุณครับ นีล--” นีรายิ้มเจื่อนทันทีเพราะยังไม่ชินกับการที่คริสจูบหลังมือเธอเพื่อทักทาย ครั้นดยุคปล่อยมือและเงยหน้าขึ้นมอง ดวงตาเหมือนดาวนั้นก็พราวระยิบระยับ เหมือนตากวางน้อยแบมบี้ และเหมือนมันกำลังยิ้มไม่ต่างจากริมฝีปากที่แย้มออก แถมยังเป็นรอยยิ้มที่ชวนให้สดชื่นเป็นที่สุด “เฝ้ารอที่จะได้เจอคุณแทบทุกลมหายใจ”
แต่คำพูดนี่... เหมือนบทละครเวทีในโรเมโอกับจูเลียตไม่มีผิด!
“ขอบคุณ ฉันดีใจนะที่ได้ยิน แต่เชิญในห้องดีกว่าค่ะ ฉันว่าคุณคงยืนจนเมื่อยขาแล้ว”
หญิงสาวก้าวหลบเพื่อหลีกทางให้เบลลาทิสเดินเข้ามา บอดีการ์ดทั้งสามไม่ได้ตามเข้ามาด้วยแต่เฝ้าอยู่หน้าห้อง นีราปิดประตูลงและเดินนำคริสไปที่โซฟา เรานั่งลงกันคนละฝั่ง ครั้นระหว่างนั้นเธอก็แอบสังเกต ท่วงทีสง่างาม บุคลิกไม่มีที่ติของดยุคไม่ผิดแผกไปเลยแม้แต่น้อย จิตแพทย์สาวสงสารเด็กหนุ่มตรงหน้าเหลือเกินกับกรอบที่มองไม่เห็นซึ่งล้อมรอบตัวเขาอยู่ และกรอบนั้นก็คือตำแหน่งที่เขาต้องแบกไว้
“เป็นไงบ้างคะหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา--” เธอเปิดบทสนทนาพร้อมกับรอยยิ้ม มือสองข้างผายไปตรงหน้า “คุณดูแฮปปี้ดีนะ แล้วฉันก็เพิ่งเห็นข่าวที่คุณให้สัมภาษณ์ แบบว่า ว้าว!” ท่วงท่าตื่นเต้นนั้นไม่ได้เสแสร้ง “คริสคุณรู้ไหม ตอนนี้คุณกลายเป็นขุนนางหนุ่มอายุน้อยที่สุดที่กำลังฮอตสุดๆ”
คริสนั่งไขว่ห้าง มือสองข้างวางบนตัก เขาหัวเราะน้อยๆ เพียงแค่เห็นไรฟัน และมันก็เป็น... รอยยิ้มที่เกิดจากการประดิษฐ์ ไม่ใช่ยิ้มที่เกิดจากใจ
“คุณก็พูดเกินไป ก็ไม่รู้สิ ผมรู้สึกตัวเองมีคุณค่ามากกว่าที่คิดนะ มันมีเรื่องอะไรให้ผมทำเยอะแยะและมันสนุกไปหมดจนผมไม่มีเวลาคิดมากเหมือนเมื่อก่อน”
“ชีวิตในมหาวิทยาลัยจะทำให้คุณดีขึ้นทีละน้อยค่ะ”
นีราเสริมประโยคท้ายๆ ต่อไปเพื่อเปิดบทสนทนาใหม่ และเหมือนเช่นเคยเธอยังใช้เวลาพูดคุยกับคริส ค่อยๆ ถาม ค่อยๆ ล้วงเอาสิ่งที่อยู่ในจิตใจส่วนที่ลึกสุดของเขาออกมา แต่ก็ไม่ค่อยสำเร็จมากนัก จริงอยู่สามเดือนมานี้คริสดูผ่อนคลายมากขึ้นเมื่อพูดคุยกับเธอ แต่นีรายังสัมผัสได้ว่ามีอะไรที่ไม่ดีนักซึ่งเขาปิดบังไว้ เพราะหลายครั้งที่ถูกไล่ต้อน และเขารู้ทัน แววตามักเปลี่ยนไป รอยยิ้มเปลี่ยนไป ท่าทีเปลี่ยนไป แต่ก็เป็นเพียงความเปลี่ยนแปลงแค่นิดเดียว นีราไม่ทันสังเกตในทีแรก แต่หลังๆ มานี้เธอเห็นมันบ่อยขึ้น รู้สึกถึงมันได้บ่อยขึ้น อาจมีแผลบางอย่างในใจเขาที่ยังไม่พร้อมเปิดเผยให้ใครได้รู้ในตอนนี้ เธออาจต้องใช้เวลาอีกหน่อยเพื่อให้เขายอมเปิดใจมากกว่าที่เป็นอยู่
“ผมรู้สึกชีวิตมีความสุขมากขึ้น” ช่วงหนึ่งของการสนทนา แววตาเขายามเอ่ยช่างแสนเศร้า “แต่มันยังไม่สมบูรณ์” ชายหนุ่มยื่นมือออกมาและถือวิสาสะคว้ามือนีราไปกุมไว้ เมื่อเขาช้อนตาขึ้นมองเธออีกครั้งมันเหมือนลูกแมวขี้อ้อนหลงทาง ที่กำลังต้องการให้คนผ่านมาเก็บมันกลับบ้านไปด้วย “บางครั้งมันว่างเปล่า นีลความว่างเปล่าในใจผมมันยังอยู่ และผมก็ทรมานกับมัน แต่ตั้งแต่เจอกับคุณ คุณช่วยให้มันหายไป มีคุณอยู่ผมมีค่า และตอนนี้ผมไม่ต้องการอะไรเลยถ้าแค่คุณจะรับนัดดินเนอร์กับผมสักครั้ง”
เวรละ! คุยกันเรื่องอาหารมื้อกลางวันของสามวันที่แล้วอยู่ดีๆ ทำไมเลี้ยวเข้าเรื่องนี้จนได้!
นีรายิ้มจาง ท่าทางแบบนี้เป็นสาวที่ไหนเห็นเข้าคงใจอ่อน ได้แต่อุทานว่าโถ พ่อเด็กน้อย แต่...
“ฉันเข้าใจในสิ่งที่คุณรู้สึกนะคริส แต่ด้วยจรรยาบรรณของฉัน จนกว่าคุณจะหายจากอาการเหล่านี้ จนกว่าเราจะไม่ได้เป็นคุณหมอกับคนไข้ ฉันก็ยังรับนัดคุณไม่ได้”
สีหน้าแววตาเขาผิดหวังชัดเจน ท่าทางเขาเหมือนเด็กที่อยากได้ขนมสักชิ้นจนน้ำลายยืด และถ้าผู้ใหญ่คนไหนได้เห็นก็คงอดจะหยิบยื่นขนมชิ้นนั้นให้ไม่ได้ แม้รู้ดีแก่ใจว่ามันจะทำให้เขาฟันผุก็ตาม!
“แต่ระหว่างนี้เราก็ยังเจอกันที่นี่ได้ไงคะถ้าคุณมาตามนัด นี่คริส เบลลาทิส--” นีราดึงมือออกและเป็นฝ่ายกุมมือเขาไว้พลางตีลงเบาๆ ที่หลังมือแทน “ระหว่างเรายังเจอกันน้อยไป ยังรู้จักกันน้อยไปค่ะ และที่สำคัญถ้าฉันอยากจะมีแฟนหนุ่มขึ้นมาสักคน ฉันก็จะใช้เวลาพิจารณาเขาให้นานๆ นะว่าเขาเป็นเด็กดีของฉัน หรือว่าเข้ากันกับฉันได้หรือเปล่า”
เท่านั้นคริสก็หน้าชื่น ยิ้มกว้างไม่ได้ประดิษฐ์อีก เขาดูเหมือนเด็กน้อยที่ดีใจด้วยอะไรง่ายๆ
“ผมรู้ ผมเข้าใจ ผมจะกินยาที่คุณให้ ทำตามที่คุณบอกแล้วผมก็จะหาย ตอนนั้นคุณก็จะรับนัดของผม”
“แต่เวลานั้นก็ยังมาไม่ถึง เรามาทำปัจจุบันให้ดีที่สุดกันดีกว่านะ เอาละ มาคุยกันต่อดีกว่าว่าคุณรู้สึกยังไงกับการมีคนรุมล้อมมากๆ ยังมีความรู้สึกกลัวอยู่อีกไหม”
หัวข้อสนทนาวกกลับเข้ายังเรื่องสำคัญอีกครั้ง คริสเอ่ยถึงเรื่องของตัวเองอย่างเจื้อยแจ้วไม่มีติดขัด นีราพอใจในส่วนนี้เพราะมันต่างกับความเคร่งขรึมในตอนแรกที่เขาเล่าเรื่องนี้กับเธอ คริสกำลังดีขึ้นทีละน้อย เธอดีใจที่ได้ช่วยทำให้เขาดีขึ้น จากอะไรก็ตามที่มันทำให้เขากลายเป็นคนค่อนข้างเก็บตัวและกลัวการเข้าสังคม
นัดของดยุคหนุ่มหน้าใสชวนใจอ่อนครั้งนี้จบลงตอนบ่ายสาม สองชั่วโมงกับการพูดคุย สองชั่วโมงกับการระบายคริสดูสดใสขึ้น ขากลับเขายังมากพิธีและเป็นผู้ดีอังกฤษของแท้เหมือนเดิม เมื่อจูบลาที่หลังมือของเธอ ดยุคแห่งซอเมอร์เซ็ตกลับไปพร้อมกับรอยยิ้มระบายเต็มหน้า บอดีการ์ดหน้าเหวี่ยงทั้งสองของเขาเพียงแค่ผงกศีรษะให้กับเธอและเดินคุ้มกันหน้าหลังเขาจากไป
นีรามองตามหลังพวกเขาที่เดินห่างออกไปในโถงทางเดินช้าๆ เธอผ่อนลมหายใจยิ้มได้กับผลงานวันนี้ กำลังจะปิดประตูกลับเข้าห้องก็ถูกเรียกไว้โดยพยาบาลที่เดินเร็วจนแทบกลายเป็นวิ่งตรงมาหา
“นัดจากคุณและคุณนายเบอร์ตันยกเลิกกะทันหันค่ะคุณหมอ”
นีรานิ่วหน้า คิ้วขมวด
“ดูคุณหอบมากเลย ฉันพลาดอะไรใช่ไหม โทรศัพท์?”
“อ๋อไม่ใช่ค่ะ คือโทรศัพท์ภายในเหมือนจะมีปัญหาค่ะ ฉันโอนสายคุณนายเบอร์ตันให้คุณหมอไม่ได้เลย คือคุณนายเบอร์ตันโทร.มาบอกว่าตอนนี้อยู่โรงพยาบาลเอ็ดเวิร์ดดูแลนค่ะ เอ่อ” พยาบาลอึกอัก
“เธอต้องเข้าโรงพยาบาลด่วน เพราะมีดิลโด้อันใหญ่เบิ้มที่พอกดปุ่มแล้วจะแผ่หนามออกมาเกาะอยู่ในช่องคลอด”
สีหน้านีราแสดงชัดว่าเสียวไส้ไม่น้อยเมื่อนึกภาพตาม
“ส่วนคุณเบอร์ตันเข้ารักษาโรงพยาบาลเดียวกันเพราะเอ่อ ลูกแก้วที่หลุดเข้าไปในรูเอ่อ ตูดแล้วเอาออกไม่ได้มันเอ่อมีหลายลูก และตอนนี้กำลังรอผ่าตัดอยู่ค่ะ”
“พระเจ้า!” นีรายกมือขึ้นทาบอก “ฉันฟังไม่ผิดใช่ไหมคะไอรีน”
พยาบาลนามไอรีนพยักหน้ารับ นีรายกมือขึ้นกุมขมับ
“ไม่ผิดค่ะคุณหมอ คุณนายเบอร์ตันเพิ่งโทรศัพท์ได้ หลังผ่าตัดเอาดิลโด้ออกเมื่อเช้าตรู่วันนี้ เธอขอยกเลิกนัดวันนี้พอหายดีแล้วจะขอนัดคุณหมอใหม่นะคะ แล้วเอ่อเธอบอกว่า มันเป็นข้อแลกเปลี่ยนของเธอกับคุณเบอร์ตันเพื่อที่จะมาหาคุณหมอ แต่คุณเบอร์ตันดันไม่บอกว่าจะเอาดิลโด้พิศดารนั่นยัดเข้าเอ่อ น้องหนูของเธอ”
หลังหายตกใจแล้ว สีหน้านีราบอกชัดว่าปลงตก “ขอบใจมากค่ะไอรีน งั้นคงแปลว่าวันนี้ฉันไม่มีนัดของใครเหลือแล้วสินะคะ งั้นก็เอาเป็นว่าคุณรับคนไข้อื่นให้ฉันได้เลยนะคะ จนกว่าจะหมดเวลาทำงานของฉัน”
พยาบาลสาวยิ้มอ่อน ก่อนเดินจากไป นีรากลับเข้าห้องและปิดประตู หญิงสาวนึกถึงเซ็กส์ทอยพิสดารนั่นที่อยู่ในช่องคลอดของคนไข้อายุสี่สิบแล้วก็ได้แต่ขนลุกยะเยือก
สังหรณ์เมื่อคืนของเธอมันใช่จริงๆ ว่าความชอบในเซ็กส์วิตถารของมิสเตอร์เบอร์ตันจะต้องทำให้ภรรยาเจ็บหนัก!
การทำงานวันนี้ของนีรา นอกจากเรื่องของคุณและคุณนายเบอร์ตันกับเซ็กส์ทอยอันตรายแล้ว ก็ถือว่าปกติ จิตแพทย์สาวรับคนไข้อีกสองราย รายหนึ่งมีอาการของโรคนาซิสสัส หรือพูดง่ายๆ คือหลงรูปลักษณ์ตัวเองอย่างสุดโต่ง เธอนัดคนไข้รายนี้ให้มาคุยกันอีกในอาทิตย์หน้า หลังตะล่อมให้หล่อนลองทำตามที่เธอแนะนำ ส่วนอีกคนมีอาการเห็นภาพหลอน และเธอวินิจฉัยว่าน่าจะเกิดจากสารสื่อประสาทในสมองผิดปกติ เธอสั่งยาให้เขาและนัดเจออีกครั้งหลังยาหมดเพื่อเช็กอาการกันอีกรอบ
มันเป็นวันทำงานที่แสนชิล ทุกอย่างเริ่มต้นและจบลงอย่างชิลๆ
หลังเลิกงานนีราชวนไครีย์ออกมานั่งจิบกาแฟกับเบเกอรี่ในร้านเล็กๆ ริมถนน West Park Dr ที่อยู่ใกล้ๆ โรงพยาบาลเพื่อผ่อนคลาย สองสาวนั่งกันที่โต๊ะด้านในสุดของตัวร้าน เนื่องจากโต๊ะด้านหน้าเต็มหมดแล้ว
“ตัวฉันบวมเหมือนจะแตก แต่ฉันก็ขาดเค้กไม่ได้!”
ไครีย์เอ่ยถึงหุ่นอันอวบอัดของตัวเอง เธออายุน้อยกว่านีราที่กำลังจะเฉียดสามสิบ
“นีล” คนพูดมองเพื่อนชาวเอเชียที่ตัวเล็กบาง ผิวขาวไม่ต่างกับตัวเองแต่กลับเนียนผิดกัน “ฉันอิจฉาเธอจริงๆ เธอกินเหมือนกับฉัน แต่ทำไมถึงไม่อ้วนนะ”
นีรายืดตัวนั่งตรงและเชิดหน้ารับคำชม
“นาซิสสัส โรคนี้ละที่เธอลืมรักษาตัวเองน่ะนีล” เป็นไครีย์ที่เอ่ยติดตลก และนีราก็ถอนหายใจตีเพียะเข้ามือคนที่กำลังจะยกชาขึ้นดื่ม
“โครงสร้างร่างกายคนเรามันไม่เหมือนกันนะไค”
“โอ้ให้ตาย” ไครีย์ทำหน้าเหม็นเบื่อ “เรื่องกายวิภาคฉันก็รู้ดีนะ เธอห้ามเปิดเลกเชอร์ตอนนี้เชียว”
ฟังแล้วนีราก็หัวเราะขึ้นเบาๆ แต่ไม่ทันให้ไครีย์พูดต่อก็มีชายในชุดสูททางการสีดำสนิทตั้งแต่หัวจรดเท้า หวีผมปัดเป๋เรียบแปล้เดินเข้ามาหยุด และค้อมศีรษะลงน้อยๆ ต่อหน้าพวกเธอ
“คุณหมอพีท ผมโดโลแวน ครูเซ ครับ ยินดีที่ได้เจอคุณ”
นีราส่งยิ้มให้ชายตรงหน้าก่อนลุกขึ้นยืน เธอค้อมศีรษะเล็กน้อยและเพื่อไม่เป็นการเสียมารยาท หญิงสาวจึงยื่นมือออกไปเขย่ากับเขาที่ยื่นรอ ทั้งๆ ที่แน่ใจว่าไม่รู้จักชายคนนี้มาก่อน
ชายผู้แต่งตัวดี เนี้ยบ สุภาพ สวมแว่นตาตัวโตและดูเหมือนกับ... แขกขาว
“เช่นกันค่ะ เอ่อ คุณครูเซ ไม่แน่ใจว่าเราเคยรู้จักกัน”
“แน่นอนครับ คุณหมอไม่รู้จักผม ผมมาจาก เกรแฮม พาวเวอร์ แอนด์ เคมมิทเซาส์ติ้ง” คำประกาศของชายแปลกหน้าทำให้ไครีย์กับนีราแทบจะมองหน้ากันในทันที เพราะมันเป็นชื่อกิจการอับดับต้นๆ ที่ให้คำแนะนำเรื่องการบริหารจัดการทรัพย์สิน รวมถึงการดูแลบุคลิกภาพในเวอร์จิเนีย “และถ้าหากคุณไม่ว่าอะไร วันนี้ผมอยากจะขอรบกวนเวลาคุณสักครู่ คุณเกรแฮมต้องการพบคุณหมอครับ”
นีรายิ้ม “ฉันไม่รับนัดคนไข้นอกเวลาค่ะ แต่อาจจะให้คำปรึกษาได้หากจำเป็นจริงๆ”
“ไม่ใช่การปรึกษาส่วนตัวครับ แต่เกี่ยวกับลูกค้าคนสำคัญของเรา”
“ใครคะ” คำตอบทำให้นีราถึงกับนิ่งไป
“ดยุคแห่งซอเมอร์เซ็ต คนไข้ที่คุณหมอให้คำปรึกษาและต้องให้สัมภาษณ์คู่กันเรื่องอาการและวิธีการรักษาเขาอย่างกะทันหันในวันพรุ่งนี้ครับ”
‘มันเป็นการสูญเสียครั้งสำคัญที่สุด และส่งผลกระทบต่อจิตใจของประชากรราวครึ่งแสนของซอเมอร์เซ็ต การสูญเสียดยุคแห่งซอเมอร์เซ็ต ลูเซียโน่ เบลลาทิส อย่างกะทันหันนี้ไม่มีใครที่พร้อมจะตั้งรับมัน แม้ว่าการสูญเสียนี้จะผ่านมาถึงสามเดือนแล้วก็ตามที’
มันเป็นรายงานข่าวจากช่องทีวีฝั่งประเทศอังกฤษ เสียงของนักข่าวจากจอโทรทัศน์ยังดำเนินต่อไป ภายในห้องกว้างที่ตกแต่งด้วยงานไม้และกระจก มองเห็นวิวของแมคลีนในแถบนี้ได้แทบจะสามร้อยหกสิบองศา ในห้องนี้ไม่มีเสียงอื่นใดรบกวน แม้ว่าจะมีบุรุษอยู่ถึงสองคนก็ตามที
สุภาพชนผู้แต่งตัวดีหนึ่งในนั้นนั่งอยู่บนเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงานเยื้องไปทางมุมซ้ายของห้อง ใกล้กับผนังที่เต็มไปด้วยชั้นวางหนังสือ มือสองข้างวางใต้คาง แผ่นหลังเหยียดตรงราวกับเป็นแค่รูปปั้นสลักหาใช่คนมีเลือดเนื้อ ดวงตาสองคู่เขาปิดสนิท เรือนร่างสูงใหญ่กำยำใต้สูทแบบฟร็อกโค้ดเนื้อดีสีเทาไม่มีการเคลื่อนไหว ที่พอจะจับสังเกตได้ก็คงมีแค่ช่วงอกกว้างที่ขยับเพียงน้อย บ่งว่ามีหัวใจซ่อนอยู่ในนั้นและมันกำลังเต้นอยู่
ผมของเขาเป็นสีน้ำตาลทองอมดำ แต่บางส่วนที่กระทบแสงไฟดูเป็นสีอ่อนมากกว่านั้น การจัดทรงผมเผยให้เห็นหน้าผากกว้าง จมูกโด่งเป็นสันค่อนข้างคล้ำกว่าผิวส่วนอื่นบนใบหน้า ผิวขาวเผือดบนสองข้างแก้มเห็นไรหนวดเขียวครึ้ม
“โดโลแวนกำลังมาครับ”
ชื่อที่ถูกเอ่ยถึงคือคู่แฝดของชายผู้ที่ยืนตรงต่อหน้าโต๊ะทำงานของเจ้านาย สองมือเขาประสานกันด้านหน้า การแต่งกายแทบไม่ผิดเพี้ยนจากคนที่นั่งอยู่ จะต่างก็แค่เสื้อกั๊กตัวในที่สวม และเขาไว้ผมยาวมัดรวบตึงไปด้านหลัง ไม่มีไรหนวดเผยผิวสะอ้านเกลี้ยงเกลา ผิวที่ขาวยิ่งกว่าชายอีกคน และเรือนร่างสูงใหญ่นั้นบ่งถึงเชื้อชาติกำเนิด
ดิมิทรี ครูเซ เป็นลูกครึ่งอเมริกัน-อิหร่าน เขาเป็นแขกผิวขาวที่หล่อล่ำน่าหม่ำ!
“พร้อมคุณหมอพีท”
ผู้รับฟังพยักหน้าเพียงน้อย ก่อนลืมตาขึ้น ดวงตาคู่คมนั้นเป็นสีอ่อน เปลือกตาสองชั้นมองเห็นชัด แต่เขาไม่ได้มองคู่สนทนาเพราะสิ่งที่ดึงความสนใจเขาไว้คือจอโทรทัศน์ในตอนนี้
‘ดัชเชสแห่งซอเมอร์เซ็ตเปิดเผยเพียงน้อยนิดเท่านั้นว่า ดยุคแห่งซอเมอร์เซ็ตที่ยี่สิบ เสียใจมากกับการสูญเสียครั้งนี้และไม่พร้อมกับการให้สัมภาษณ์ใดๆ จนกว่าจะเข้ารับตำแหน่งดยุคอย่างเป็นทางการ’
ดังปัณณ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 17 ต.ค. 2560, 22:32:21 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 17 ต.ค. 2560, 22:32:21 น.
จำนวนการเข้าชม : 1147
<< Chapter 1 หมอโรคจิต & สุภาพบุรุษ(หลุด)! | Chapter 1 หมอโรคจิต & สุภาพบุรุษ (หลุด) (4/4 ) >> |