คู่หมั้นคืนเหงาใจ
ตำนานหนุ่มหล่อเลิศล้ำแห่งค่ำคืนเหงาใจ
ความรักเหงา ๆ รานร้าวและเร้าใจ ต่างคนต่างมีกิเลสตัณหา ต้องชดใช้บุญกรรมแห่งความรัก ติดตามข้ามภพชาติศาสนา หนึ่งหญิงสองชายผูกพัน
อ่านเรื่องนี้จบ แล้วคุณจะสงสารใคร? ระหว่าง...
นักดนตรีหนุ่มรูปหล่อ พ่อรวย ราวกับในตำนาน เทพบุตรจุติลงมาเกิดอย่าง ยุติ ผู้ตกอยู่ในวังวนแห่งความเปลี่ยวเหงา ทุกค่ำคืนผ่านไปจิตใจโหยหา แค่เพียงเป็นคนที่เขาเผลอใจรัก แต่เขาไม่ได้เลือก กลายเป็นเหมือนส่วนเกิน มิใช่ส่วนสำคัญ
หรือ... อภิมหาเศรษฐีหนุ่ม ใบหน้าสวยงามเลิศล้ำอย่าง ไทธรรพ์ ผู้เป็นที่รักยิ่งดั่งชีวิตจิตใจของสาวสวย ถึงแม้เขาจะเจ้าชู้ไปบ้าง แต่ทั้งชีวิตจิตใจทุ่มเทในรักจริงจัง แต่ความหวังกลับหักพังสลาย สุดท้ายต้องอยู่เดียวดายข้างกายไร้คู่ครอง
หรือ... สาวสวยแชมป์มวยไทยหญิง เพชรน้ำหนึ่ง ถึงจะมีเพียบพร้อมทุกสิ่ง แต่ต้องเกิดมาใช้เวรใช้กรรม ที่เคยกระทำไว้ในชาติก่อน แม้จะสามารถยืนหยัดขึ้นมายิ่งใหญ่ และจิตใจเข้มแข็ง ทนทานต่อความทุกข์กายทุกข์ใจได้ แต่ลึกลงไปข้างในนั้น ไร้ซึ่งความสุขแท้จริง
ความรักเหงา ๆ รานร้าวและเร้าใจ ต่างคนต่างมีกิเลสตัณหา ต้องชดใช้บุญกรรมแห่งความรัก ติดตามข้ามภพชาติศาสนา หนึ่งหญิงสองชายผูกพัน
อ่านเรื่องนี้จบ แล้วคุณจะสงสารใคร? ระหว่าง...
นักดนตรีหนุ่มรูปหล่อ พ่อรวย ราวกับในตำนาน เทพบุตรจุติลงมาเกิดอย่าง ยุติ ผู้ตกอยู่ในวังวนแห่งความเปลี่ยวเหงา ทุกค่ำคืนผ่านไปจิตใจโหยหา แค่เพียงเป็นคนที่เขาเผลอใจรัก แต่เขาไม่ได้เลือก กลายเป็นเหมือนส่วนเกิน มิใช่ส่วนสำคัญ
หรือ... อภิมหาเศรษฐีหนุ่ม ใบหน้าสวยงามเลิศล้ำอย่าง ไทธรรพ์ ผู้เป็นที่รักยิ่งดั่งชีวิตจิตใจของสาวสวย ถึงแม้เขาจะเจ้าชู้ไปบ้าง แต่ทั้งชีวิตจิตใจทุ่มเทในรักจริงจัง แต่ความหวังกลับหักพังสลาย สุดท้ายต้องอยู่เดียวดายข้างกายไร้คู่ครอง
หรือ... สาวสวยแชมป์มวยไทยหญิง เพชรน้ำหนึ่ง ถึงจะมีเพียบพร้อมทุกสิ่ง แต่ต้องเกิดมาใช้เวรใช้กรรม ที่เคยกระทำไว้ในชาติก่อน แม้จะสามารถยืนหยัดขึ้นมายิ่งใหญ่ และจิตใจเข้มแข็ง ทนทานต่อความทุกข์กายทุกข์ใจได้ แต่ลึกลงไปข้างในนั้น ไร้ซึ่งความสุขแท้จริง
Tags: ไตรติมา, คู่หมั้นคืนเหงาใจ, ดราม่า, ซึ้ง, โรแมนติก,
ตอน: ตอน 33[1]
..........ยุติตามมาเจอเพชรน้ำหนึ่งในสภาพที่ย่ำแย่ ผิดหูผิดตาไปเป็นคนละคนอย่างไม่เคยพบเห็นมาก่อน
เธอสวมเพียงเสื้อกล้ามและกางเกงนอนขาสั้น นั่นยิ่งเผยให้เห็นว่าร่างกายเธอผ่ายผอมมาก จนลีบแกรนเหลือแต่หนังหุ้มกระดูกเป็นโครงกระดูกที่ยังมีเพียงลมหายใจเพียงเบาแผ่ว นอนแน่นิ่งไม่ได้สติอยู่บนเตียงเหล็กสนิมเขรอะ ฟูกนอนเก่าหลุดลุ่ย ผ้าปูที่นอนเปื่อยยุ่ยสีมอซอ
สภาพที่เห็นนั้นชวนสลดใจถึงกับน้ำตาร่วง เขาทรุดตัวลงนั่งไม่ห่างร่างแทบไร้วิญญาณของเธอ
“หนึ่งตั้งใจจะตายใช่ไหม ทำไมเป็นคนใจร้ายอย่างนี้ ฆ่าพี่ให้ตายทั้งเป็นดีกว่าทำไมไม่รักษาชีวิตตัวเอง” เมื่อสำรวจดูด้วยสายตาภายในห้องคับแคบนี้ไม่มีแม้กลิ่นอาหารเลยสักอย่าง แม้แต่ขวดน้ำดื่มยังว่างเปล่า หามีน้ำสักหยดไม่!
“เธอค้างค่าเช่าห้องมาเดือนกว่าแล้ว งานการไม่มีทำ ฉันเสียดายที่ไม่ได้ให้อาหารเธอกินเลย ตอนที่มาทวงค่าเช่าเธอบอกว่าไม่ค่อยได้กินอาหารมาหลายวัน แต่จะพยายามหางานทำหาเงินมาจ่ายค่าเช่า ฉันกลับไม่เชื่อว่าเธออดอาหาร นึกว่าเธอเป็นโรคอะไรถึงได้ผอมมาก จนเมื่อวันก่อนโน้น... ฉันเพิ่งเห็นมีคนทิ้งเศษขนมปังที่เหลือกินลงในถังขยะแล้วเธอแอบหยิบมันมากิน เห็นตอนนั้นฉันสงสารเธอจนน้ำตาร่วง สองวันมานี้ฉันไม่เห็นเธอออกจากห้องไปไหนเลย เมื่อเช้าฉันมาเคาะประตูห้องนี้เงียบสนิทไม่มีเสียงตอบ ฉันกลัวว่าเธอจะเป็นอะไรไปเลยลองค้นหาเอกสารของเธอตอนที่มาขอเช่าห้องถึงได้ติดต่อไปที่บ้านคุณ เอ่อ... คุณเป็นญาติเธอเหรอ” เจ้าของห้องเล่าให้ฟังทั้งน้ำตาคลอด้วยความสงสารหญิงสาวผู้เช่าห้องที่นอนแน่นิ่งไม่รู้สึกตัวเลย
“ผมเป็นคู่หมั้นของเธอ ผมจะโทรเรียกรถพยาบาลมารับตัวเธอ”
“รีบเรียกรถพยาบาลเดี๋ยวนี้เถอะค่ะ อย่าปล่อยไว้นานเลยเราไม่รู้ว่าเธอหมดสติไปตั้งแต่เมื่อไหร่” เจ้าของห้องเช่าบอก
ยุติจึงโทรเรียกรถพยาบาล ไม่รอช้า...
“เอ่อ...แล้วเรื่องค่าเช่าที่ค้างอยู่เดือนกว่าคุณจะออกให้เธอไหม” เจ้าของห้องไม่วายทวงถามเรื่องเงินค่าเช่า
“อ๋อ... ผมจะจ่ายแทนเธอ ให้สองเดือนเลยแล้วขอย้ายออก ผมไม่ให้เธออยู่ที่นี่คนเดียวอีกแล้ว”
..........โรงพยาบาล ในห้องผู้ป่วยวีไอพี
ยุติเป็นห่วงเพชรน้ำหนึ่งมาก นั่งเฝ้ากุมมือเธอไว้และหยิบแหวนหมั้นที่เธอเคยถอดคืนเขาเพื่อเป็นการถอนหมั้น แหวนวงนี้เขาใช้มันสวมกลับเข้าไปที่นิ้วนางขางซ้าย ณ ตำแหน่งเดิมที่เคยอยู่มา
“เป็นอย่างไรบ้าง” ยุติเอ่ยถามทันทีเมื่อเห็นเพชรน้ำหนึ่งลืมตาตื่นขึ้นมา
“หนึ่งยังไม่ตายอีกเหรอ” คำถามแรกเมื่อเธอฟื้น ดูท่าทางไม่ดีใจอย่างที่คนรอดชีวิตจากการอดอาหารควรถามเลย
“หนึ่งคิดจะอดอาหารจนตายไปเลยใช่ไหม อดจนผอมลีบเหลือแต่กระดูก หนึ่งทำลงไปได้ยังไง ช่างไม่รักไม่สงสารตัวเองเลย ทรมานตัวเองไปเพื่ออะไร”
“หนึ่งหวังเพียงให้พี่ยุติได้ครองรักอย่างมีความสุข ได้ใช้ชีวิตครอบครัวที่อบอุ่นอยู่กับผู้หญิงที่เขารักพี่ยุติมากที่สุด หนึ่งเอาใจช่วยความรักของพี่ยุติขอให้มีแต่ความสุขสมหวังตลอดไป นี่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดที่หนึ่งทำให้กับพี่ยุติคือปลีกตัวจากมาอยู่ลำพัง”
“พี่ไม่ต้องการแบบนี้นะ หนึ่งพยายามทำให้พี่ต้องแต่งงานกับกลอยใจ ไม่รู้หรือไงว่าใจของพี่เริ่มเปลี่ยนไปแล้ว ใจพี่อยู่ตรงนี้... อยู่ที่หนึ่ง ถึงหนึ่งจะไม่อยากแต่งงานกับพี่ แต่พี่ยังหวังว่าสักวันหนึ่งจะเปลี่ยนใจยอมแต่งงานกับพี่อย่างจริงจัง” เขาบีบมือซ้ายของเธอไว้อย่างแรง
พอเขาคลายมือออกเพชรน้ำหนึ่งจึงได้เห็นแหวนหมั้นสวมอยู่ที่นิ้วนางข้างซ้ายของตน
“แหวนหมั้น! หนึ่งคืนให้พี่ยุติแล้วนี่ทำไม?...”
“พี่ไม่ยอมให้หนึ่งถอนหมั้น พี่สวมแหวนหมั้นกลับคืนให้หนึ่ง เรายังคงเป็นคู่หมั้นกันอยู่”
“ระหว่างกลอยใจกับหนึ่ง กลอยใจรักพี่ยุติมากกว่าหนึ่ง รักแต่เขาเพียงคนเดียวรักให้หมดทั้งหัวใจของพี่ยุติเถอะนะ”
“หนึ่งบอกอย่างนั้น แต่การกระทำของหนึ่งไม่ใช่อย่างที่พูดมาเลย ตลอดเวลาที่ได้ใกล้ชิดกันพี่ได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างดี หนึ่งเป็นห่วงเป็นใยคอยเอาใจช่วยสารพัด พี่เป็นคนที่หนึ่งปลื้มและชื่นชอบมาก พี่รู้ใจหนึ่งนะว่ากำลังจะรักพี่เหมือนกันเพราะถ้าไม่รักเขาไม่ทุ่มเทให้กันมากอย่างนี้หรอก”
“อย่าปันใจให้คนอย่างหนึ่งเลย สุดท้ายแล้วพี่ยุติจะพบแต่ความผิดหวัง หนึ่งยอมรับว่าเผลอใจรักที่ยุติในบางครั้งแต่หนึ่งไม่อยากแต่งงานกับพี่ยุติ หนึ่งไม่อยากทำให้กลอยใจเป็นทุกข์ ถ้าหากเขารู้ว่าพี่ยุติรักหนึ่งเขาคงเสียใจมาก” เพชรน้ำหนึ่งกล่าวด้วยน้ำเสียงราบเรียบ พินิจดูใบหน้าของเขาบัดนี้รกครึ้มไปด้วยหนวดเครา ขอบดวงตาช้ำหมองเศร้า ดูรู้ว่าเขาเคยร้องไห้ในตอนที่เธอไม่ได้เห็น “พี่ยุติไม่ได้ดูแลตัวเองบ้างเลย ทำไมไม่โกนหนวด ดวงตาที่เคยสวยงามของพี่ยุติมีแววเหมือนคนจะร้องไห้ หนึ่งไม่ได้อยากเห็นพี่ยุติมีสภาพแบบนี้”
“ตลอดเวลาที่หนึ่งเงียบหาย พี่กลุ้มใจจนกินไม่ได้นอนไม่หลับ ไม่มีกะใจนึกถึงตัวเอง เฝ้าติดตามถามข่าวของหนึ่งตลอด ทางตำรวจพยายามช่วยสืบค้นแต่ไม่เคยเจอเลย นี่ถ้าเจ้าของห้องไม่โทรมาบอกพี่จะได้พบเจอหนึ่งไหม แล้วถ้าเจอช้ากว่านี้หนึ่งไม่...” เสียงเขาขาดห้วงหายไป สะกดกลั้นก้อนสะอื้น น้ำตารินร่วงหยดจากดวงตาเศร้าหมองของเขา “...ตายไปแล้วหรือ”
“หนึ่งจะตายเหรอ” น้ำเสียงเย็นชากับคำว่า ‘ความตาย’ ไม่ได้ทำให้รู้สึกอาลัยอาวรณ์เท่าไหร่ หากแต่ได้เห็นน้ำตาของผู้ชายข้างกายคนนี้ต่างหากที่ทำให้ใจแป้ว ไม่รู้ทำไม ...พลอยน้ำตาไหลพรากตามเขาไปด้วย
..........เพชรน้ำหนึ่งได้ออกจากโรงพยาบาลมาพักฟื้นอยู่บ้าน ขณะนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นกับยุติ
กลอยใจได้เข้ามาพูดคุยขอความช่วยเหลือ โดยเล่าเรื่องทุกอย่างทั้งหมดไปตามความเป็นจริง...
ซึ่งนั่นเป็นความประสงค์ของเพชรน้ำหนึ่งอยู่ด้วยในเรื่องที่ว่าให้กลอยใจพยายามทำทุกอย่างเพื่อให้ได้แต่งงานกับยุติ
“คุณหนึ่งช่วยฉันด้วย ฉันเสียตัวให้พี่ยุติไปแล้วพี่ยุติสัญญาว่าจะแต่งงานด้วย แต่จนป่านนี้ยังไม่ได้แต่งงานเลย แค่อยู่กินด้วยกันอย่างผัวเมียแค่นั้น” กลอยใจพูดปนสะอื้น
ยุติเม้มปากสนิท แม้เขายังไม่ได้เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้เพชรน้ำหนึ่งฟังจากปากของเขาเอง แต่เขาไม่มีเจตนาจะปิดบังอำพราง
“กลอยใจเสียตัวครั้งแรกให้พี่ยุติเหรอ” เพชรน้ำหนึ่งถาม นั่นเป็นสิ่งเลอค่าของลูกผู้หญิงซึ่งคู่ควรต่อผู้ชายสักคนที่จะต้องยกย่องยอมรับเป็นศรีภรรยา
กลอยใจพยักหน้ายอมรับ
“ใช่ค่ะคุณหนึ่ง”
“พี่ยุติต้องรับผิดชอบด้วยแต่งงานกับกลอยใจ”
“จะแต่งได้ยังไง พี่เป็นคู่หมั้นของหนึ่งอยู่นะ”
“เราจะบอกเรื่องนี้ให้พวกพ่อแม่รู้ไม่ได้ แต่ไม่ว่ายังไงพี่ยุติต้องแต่งงานกับกลอยใจ คิดดูสิถ้ากลอยใจเกิดท้องขึ้นมาล่ะพี่ยุติจะทำยังไง เพราะฉะนั้นต้องจัดพิธีแต่งงานแบบลับเฉพาะภายในเพื่อรับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้น เอาอย่างนี้หนึ่งจะช่วยเรื่องสินสอดทองหมั้นเป็นเงินห้าแสนให้กับพ่อแม่ของกลอยใจ”
“โอ้โฮ... ขอบคุณมากค่ะคุณหนึ่ง” กลอยใจระงับความดีใจไม่อยู่ถึงกับกระโดดเกาะแขนเพชรน้ำหนึ่ง
แถวละแวกบ้านของกลอยใจถ้าใครได้แต่งงานส่วนมากฝ่ายเจ้าสาวจะได้รับเงินสินสอดทองหมั้นอย่างหรูแค่หนึ่งแสน ที่ยากจนหน่อยจะห้าหมื่นหรือสามหมื่นเท่านั้น นี่จึงนับว่าราคาสินสอดของตนนั้นสูงกว่าเจ้าสาวทุกคนในละแวกบ้านใกล้เคียง
ยุติเพียงอยู่นิ่งยอมรับฟัง แม้กลอยใจยังไม่ตั้งครรภ์ในเวลานี้ แต่อนาคตคงต้องเกิดเรื่องนั้นขึ้นแน่ เขาจะได้กลายเป็นพ่อคนนี่จึงเป็นความรับผิดชอบที่เขาจำเป็นต้องเข้าพิธีแต่งงาน ยิ่งเพชรน้ำหนึ่งสนับสนุนเต็มที่เช่นนี้ย่อมไม่มีทางหลีกเลี่ยง
“ตกลงพี่จะแต่งงานกับกลอยใจ แต่คงจดทะเบียนสมรสด้วยไม่ได้เพราะพ่อแม่พี่จะต้องรู้เรื่อง คงได้โดนตัดออกจากกองมรดกแน่ กลอยใจเข้าใจพี่นะยอมรับได้ไหมเรื่องไม่จดทะเบียนสมรส” ยุติเอ่ยถาม พลางกุมมือกลอยใจในเชิงขอความเห็นใจ เจตนาให้เธอยอมรับในความจำเป็นของเขา
“ฉันเข้าใจไม่มีปัญหาหรอกค่ะ แค่พี่ยุติยอมแต่งงานกับฉันเป็นการให้เกียรติ์พ่อแม่ฉันนับว่าดีมากแล้ว” กลอยใจยอมรับสภาพได้ เจียมตัวเองดีว่าเกิดมาน้อยวาสนาไม่ได้เกิดมาเป็นลูกผู้ดีมีเงิน
“เรายังเป็นคู่หมั้นกันอยู่นะหนึ่ง หลังเรียนจบแล้วพ่อแม่ของพวกเราคงให้เราสองคนแต่งงานกัน อย่างนี้เท่ากับพี่จะต้องแต่งงานซ้อนมีภรรยาสองคนนะสิ” ยุติพูดไปยิ้มไป กระหยิ่มยิ้มย่องเมื่อนึกขึ้นมาได้ถึงความได้เปรียบของเขา
เพชรน้ำหนึ่งทำหน้ายิ้มเย็นยะเยือกให้ แต่ในใจนึก...
‘มันจะไม่มีวันนั้น อย่าฝันเฟื่องไปเลยพี่ยุติ’
“เอาไว้เรียนจบปริญญาโทเมื่อไหร่ค่อยว่ากัน” เพชรน้ำหนึ่งบอกกับยุติ
..........เพชรน้ำหนึ่งอยากจะทำสิ่งที่ดีให้ยุติ นั่นคือการให้ของขวัญแต่งงานที่ประณีตพิถีพิถันและทรงคุณค่า
เธอโทรเข้ามือถือของโจเซฟเพื่อขอความคุ้มครอง
“โจเซฟไปเป็นเพื่อนหนึ่งได้ไหม อยากมีคนคุ้มครอง กลัวมันจะไม่ปลอดภัย”
“อะไรกันจะไปไหน มันเป็นที่ที่อันตรายเหรอ” โจเซฟถามอย่างเป็นกังวล สำหรับตัวเขาเองไม่เกรงกลัวอันตรายเท่าไร แต่ไม่อยากให้ผู้หญิงที่เขาชอบต้องไปในที่เสี่ยงภัย
“เปล่า... ที่นั้นไม่มีอันตรายหรอก ถ้าไม่มีโจรมาดักปล้น”
“ที่ไหนล่ะ”
“ร้านขายทองคำแท้”
“หนึ่งจะซื้อทองไปทำไมเหรอ” โจเซฟถามเสียงสูงอย่างสงสัยมาก
“จะซื้อเป็นของขวัญวันแต่งงานให้คู่รักที่เป็นเพื่อนของพวกเรา ยุติกับกลอยใจไงล่ะ”
ฟังคำบอกกล่าวจากเพชรน้ำหนึ่งแล้วโจเซฟยินดีรับอาสาเป็นบอดี้การ์ดคอยคุ้มครอง
..........โจเซฟเดินทางมาถึงสถานที่นัดเจอตรงตามเวลานัด เพชรน้ำหนึ่งเลือกเข้าร้านทองที่หรูและอยู่ภายในห้างสรรพสินค้าใหญ่
“สร้อยคอทองคำเส้นใหญ่พร้อมจี้ทองคำฝังเพชรรูปสิงโตราศีเกิดของพี่ยุติ เหมาะกับผู้ชายไหม” เธอเลือกดูได้อันที่สวยงามเหมาะสมแล้วจึงถามความเห็นของโจเซฟให้มั่นใจอีกที ซึ่งเขาพยักหน้ารับ
...และแล้วของสิ่งนั้นจึงถูกห่อใส่กล่อง เตรียมมอบให้ในวันแต่งงานของยุติกับกลอยใจ
“หนึ่งไม่เสียดายหรือปล่อยให้คู่หมั้นของตัวเองไปแต่งงานกับหญิงอื่น”
“ไม่ใช่ผู้หญิงอื่น กลอยใจเป็นคู่รักของพี่ยุติ หนึ่งกับพี่ยุติไม่ใช่คู่รักกัน ต้องแสดงความยินดีสิไม่ใช่เสียดาย หรือว่าเสียใจ”
“อย่างนั้นเท่ากับหนึ่งเป็นอิสระจากยุติ ไม่ใช่คู่หมั้นกันแล้ว”
“ยังไม่ได้ถอนหมั้นยังเป็นคู่หมั้นกันอยู่ ไม่ให้ผู้ใหญ่รับรู้เรื่องการแต่งงานครั้งนี้ เป็นความลับที่รู้กันเฉพาะเพื่อนสนิทเท่านั้น เหตุผลที่ไม่อยากให้พวกพ่อแม่รู้เพราะพี่ยุติกลัวโดนตัดออกจากกองมรดก ส่วนหนึ่งกลัวโดนเรียกตัวกลับญี่ปุ่น” เพชรน้ำหนึ่งบอกโจเซฟ
“ทำแบบนี้เหมือนหลอกลวงพ่อแม่เลยนะ”
“ไม่ได้หลอกลวง แค่ปิดบังไว้จนกว่าจะเรียนจบ แล้วค่อยกลับไปสารภาพบาป”
..........ช่วงเช้าได้จัดให้มีพิธีแต่งงานระหว่างยุติกับกลอยใจอย่างเงียบและเรียบง่ายในโบสถ์คริสต์ แขกที่ได้รับเชิญล้วนเป็นเพื่อนสนิทไม่กี่คน
ช่วงเย็นมีงานเลี้ยงฉลองแต่งงานเป็นปาร์ตี้ขนาดเล็กกินเลี้ยงกันในหมู่เพื่อนสนิท
“ฉันดีใจด้วยที่นายได้แต่งงานกับคนรัก หนึ่งบอกฉันว่านายกับแฟนรักกันมานานแล้ว แต่ที่ต้องมาหมั้นกับหนึ่งเป็นเพราะจำใจเพื่อผลประโยชน์ การแต่งงานครั้งนี้นายคิดถูกแล้ว ชีวิตเป็นของเรา เรารักก็แต่ง ไม่รักก็ไม่ต้องแต่ง นี่ของขวัญวันแต่งงานให้นายนะ” โจเซฟยื่นกล่องของขวัญกล่องเล็กให้ เขามาร่วมแสดงความยินดีในงานด้วย
“ขอบใจที่มาในงานเลี้ยงวันนี้” ยุติกล่าวขอบคุณ
“งานนี้นายจะได้ของขวัญล้ำค่าจากหนึ่ง ซึ่งฉันได้เป็นคนไปช่วยดูแลคุ้มครองอย่างใกล้ชิดด้วย” โจเซฟบอกท่าทางภาคภูมิใจเหมือนได้เป็นคนพิเศษของสาวที่เขาเอ่ยถึง
“ของขวัญล้ำค่า? คืออะไร แล้วทำไมนายต้องไปช่วยดูแลคุ้มครองด้วย”
“เดี๋ยวนายจะได้รู้เองว่าคืออะไรเมื่อหนึ่งนำสิ่งนั้นมาให้นาย แล้วหนึ่งยังบอกว่าการแต่งงานของนายเป็นความลับกับผู้ใหญ่ หนึ่งไม่เคยมีอะไรปิดบังเลยบอกฉันหมดทุกอย่าง ฉันรู้สึกว่าฉันเป็นคนสนิทพิเศษของหนึ่ง หนึ่งต้องชอบฉันแน่นอน”
ยุติได้ฟังแล้วให้ขัดเคืองระคายหูเป็นที่สุด ความหวงห่วงในตัวคู่หมั้นสาวทำให้เขาชักสีหน้าบึ้งตึง เห็นว่าโจเซฟเป็นผู้ชายขี้อวดแถมหลงคิดเหมาเข้าข้างตัวเอง
“หนึ่งบอกจากปากเองเหรอว่าชอบนาย”
“ถึงหนึ่งยังไม่บอกตอนนี้ แต่อนาคตคงจะบอกชอบฉันแน่”
“ถ้าหนึ่งยังไม่ได้บอกชอบนายแสดงว่านายคิดไปเองข้างเดียวมากกว่า หนึ่งเคยบอกชอบฉันแล้ว ชอบมากด้วย” ยุติบอกความจริงโอ้อวดบ้างให้อีกฝ่ายพอรู้ว่าเขามีโอกาสเหนือกว่า
“แค่ชอบยังไม่ได้แปลว่ารักสักหน่อย ถ้าหนึ่งรักนายจริงทำไมถึงยอมให้นายได้แต่งงานกับคนรักของนาย แสดงว่าหนึ่งไม่ได้รักนายเลยสักนิด” โจเซฟพูดทับถม
“ฉันรู้ตัวดีว่าหนึ่งมีใจให้ฉัน ...รักฉัน นายอย่าพูดมั่วเดาเอาเอง” ยุติมั่นใจในตัวเองไม่เป็นรองใครจึงเถียงกลับไป
“ฉันขี้เกียจเถียงกับนายแล้ว ขออวยพรให้มีความสุขอยู่กับเมียแต่งละกัน เดี๋ยวฉันขอตัวไปทักทายหนึ่งก่อนนะ” โจเซฟขอปลีกตัวแล้วเดินจากไป
ยุติมองตาม... ในสายตาเห็นว่าโจเซฟนั้นน่าหมั่นไส้ที่สุด เพราะเกิดความริษยาหนุ่มโสดที่ดูได้เปรียบทางความรักมากกว่าตัวเขาในสถานการณ์นี้
“นี่ของขวัญให้พี่ยุติกับกลอยใจ ขออวยพรให้มีความสุขทั้งสองคนเลย” เพชรน้ำหนึ่งยื่นของขวัญกล่องใบน้อยให้ยุติรับไป
“ข้างในเป็นอะไรเหรออยากรู้จัง ขอเปิดดูเลยได้ไหม” ยุติอยากรู้จริงจัง เมื่อเห็นเธออมยิ้ม พยักหน้าเชิงอนุญาต เขาจึงแกะกล่องเปิดดูทันที
“สร้อยคอทองคำมีจี้เพชรรูปสิงโต นี่มันราศีเกิดของพี่นี่ ขอบคุณมากนะหนึ่งพี่ชอบมากเลย” เขาหยิบสร้อยคอทองคำน้ำหนักห้าบาทนั้นชูขึ้นมาดู สีหน้าพึงพอใจแล้วยื่นให้เพชรน้ำหนึ่งพร้อมเอ่ยถ้อยคำวานขอ...
“พี่อยากใส่มันเดี๋ยวนี้ หนึ่งช่วยสวมให้พี่หน่อยสิ”
เพชรน้ำหนึ่งจึงรับสร้อยคอนั้นมา พินิจดูความยาวของสายสร้อยแล้วคงพอดีสวมผ่านศีรษะได้โดยไม่ต้องง้างตะขอของสร้อย
“พี่ยุติตัวสูงนะก้มลงหน่อยสิ หนึ่งจะได้สวมให้พี่ยุติได้พอดี ไม่อย่างนั้นหนึ่งเอื้อมไม่ถึง” เธอบอก
เขาจึงก้มศีรษะลงให้เธอสวมสร้อยให้ เรียบร้อยแล้วจึงกล่าวขอบคุณและมองสบตาสาวสวย...
“ขอบใจนะหนึ่ง”
ไม่รู้ทำไมเพชรน้ำหนึ่งถึงรู้สึกประหลาดวูบขึ้นมาในใจโดยไม่เข้าใจตัวเอง ...เสียดายชายหนุ่มหล่อที่อยู่ต่อหน้าวันนี้เขาได้แต่งงานเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
..........งานเลี้ยงเลิกแล้ว ดึกดื่นค่อนคืนใกล้สว่าง แต่เจ้าบ่าวไม่อาจข่มตาหลับ สิ่งที่หวังไม่ได้เป็นไปดั่งใจปรารถนา
ใช่จะมีแต่ยุติที่นอนไม่หลับ เพชรน้ำหนึ่งตื่นขึ้นมาแล้วหลับตาไม่ลงจึงออกมานั่งในห้องนั่งเล่นได้เจอยุตินั่งอยู่ก่อนแล้ว
“บางทีสิ่งที่เป็นไปไม่ใช่สิ่งที่ใจอยากให้เป็น” ยุติพูดกับเพชรน้ำหนึ่ง คร่ำครวญกับสภาพที่เขาต้องเจอ “พี่พลาดเพราะเล่ห์กลกลอยใจใช้ยาปลุกกับพี่ ส่วนหนึ่งก็ทำตามความเอาแต่ใจของตัวเอง ทำให้พี่ต้องตกอยู่ในสภาพจนมุมจำใจต้องตัดสินใจแต่งงานทั้งที่ไม่อยากแต่ง พี่รู้สึกตัวแล้ว... ความรู้สึกที่พี่มีต่อกลอยใจมันคือความสงสารเห็นใจ ไม่ใช่ความรักใคร่เสน่หา”
“พี่ยุติไม่ได้รักกลอยใจหรือ แต่เขากลายเป็นเมียพี่ยุติแล้วยังไงต้องดูแลเขาให้ดี”
“ไม่ต้องห่วงหรอกพี่ต้องดูแลเขาแน่ แต่หนึ่งต้องรับผิดชอบชีวิตพี่ที่ถูกทำให้เป็นแบบนี้ ชีวิตที่ดีที่ถูกที่ควรสำหรับพี่ต้องไม่ใช่แบบที่โดนหนึ่งยัดเยียดให้เป็น”
เพชรน้ำหนึ่งขมวดคิ้วกับข้อกล่าวหาของเขา แถมเรียกร้องต้องการอะไรอย่างอื่นอีก
“พี่ยุติอย่าเรียกว่าหนึ่งยัดเยียดให้สิ ยังไงพี่ยุติต้องมีชีวิตครอบครัวของตัวเอง ส่วนหนึ่งก็ต้องมีชีวิตครอบครัวของหนึ่งในวันหน้า ตอนนี้หนึ่งอยากเป็นอิสระ ได้มีโอกาสเลือกคู่ครองของตัวเอง หนึ่งกลัวถูกพ่อแม่บังคับให้แต่งงานกับพี่ยุติ”
“คงมีความสุขมากนักสินะได้เป็นโสดมีอิสรเสรี อยากโบยบินไปหาใครต่อใครได้ตามใจต้องการ ที่แท้หนึ่งไม่ต่างจากผู้หญิงเจ้าชู้ ดูภายนอกเงียบนิ่งแต่แท้ที่จริงเลือดเย็น ผลักภาระให้พี่ต้องจมอยู่กับคำว่าต้องรับผิดชอบ”
“หนึ่งช่วยพี่ยุติให้ทำในสิ่งควรทำและทำให้ถูกต้อง คนรักกันต้องแต่งงานกันไม่ใช่เหรอ เพิ่งจะมาบอกว่า ไม่ได้รักเขาแค่สงสารเห็นใจ แต่ก่อนเคยบอกว่ารักเขานี่นา ถึงอย่างไรคนเคยรักทำไมจะกลับมารักกันอีกไม่ได้ หนึ่งเชื่อว่าได้อยู่กินกันไปจะกลับมารักกันใหม่ได้เอง หนึ่งถึงสนับสนุนให้พี่ยุติแต่งงานกับกลอยใจ”
“ผู้ชายไม่ใช่ของเล่นที่หนึ่งคิดจะบงการหรือปั่นหัวให้ทำอะไรตามใจหนึ่งต้องการได้ สักวันหนึ่งหนึ่งจะต้องได้รับผลกรรมที่ทำไว้กับพี่” ยุติพูดน้ำเสียงจริงจัง
สีหน้าขึงขังนั่นทำให้ความรู้สึกของเธอชาวูบไปทั่วทั้งร่าง เป็นเพราะรู้สึกผิดขึ้นมา
“บาปกรรมด้วยหรือในเมื่อหนึ่งทำเพื่อให้ทั้งสองคนสมหวังในความรัก”
“ใช่... พี่เคยรักเขา แต่นั่นมันเมื่อก่อนที่จะเจอหนึ่ง จิตใจของพี่เปลี่ยนไปหลังจากมีหนึ่งเข้ามาอยู่ในชีวิตพี่”
“อย่าพูดเลยไม่มีประโยชน์ ...หยุดเถอะ” เธอร้องห้าม ไม่อยากได้ยินคำสารภาพรัก
“รู้ใช่ไหมพี่คิดยังไงกับหนึ่ง รักพี่บ้างสักนิดไหม” เขาถามตามตรง
แต่เธอเงียบไม่ตอบ ได้แต่ก้มหน้า...
“ถ้าไม่รักก็บอกออกมาจากปากให้พี่ได้ยินกับหู ให้พี่แน่ใจว่าหนึ่งไม่รักพี่ แต่นี่หนึ่งเงียบเฉยให้พี่คิดเอาเอง เข้าข้างตัวเองว่าหนึ่งรักพี่เหมือนกัน แต่เพราะอะไร หนึ่งถึงทำกับพี่อย่างนี้”
“รักคนที่เขารักเรา รักคนที่ควรรัก ไม่ใช่รักคนผิด ทั้งชีวิตจะไม่มีความสุข ขอให้พี่ยุติรักกลอยใจ อยู่กับเขาเถอะนะเขาจะทำให้พี่ยุติอยู่เย็นเป็นสุขได้แน่นอน เพราะเขารักพี่ยุติมาก”
“อย่ามาสั่งใจพี่ให้รักใครหรือไม่รักใคร เพราะพี่เป็นคนมีหัวจิตหัวใจ ไม่ใช่ใจร้ายใจดำอย่างหนึ่ง ทั้งที่รักยังผลักไส แล้วหนึ่งจะเสียใจไม่มีวันอยู่เป็นสุขได้”
“หนึ่งเลือกทำให้มันถูกต้อง เพื่อหวังความสงบสุขแท้จริง”
“แล้วสิ่งที่หนึ่งทำอยู่นี่มันถูกต้องแน่แล้วหรือ” ยุติถามยอกย้อน
เพชรน้ำหนึ่งนิ่งเงียบอีกครั้ง รู้สึกได้ถึงความไม่พอใจในสภาพชีวิตของยุติที่เขาต้องจำยอมให้เป็นไป แล้วพาลมาหาเรื่องให้เธอต้องร่วมรับผิดชอบชีวิตเขาอีกด้วย
..........เปิดภาคเรียนระดับปริญญาโท ยุติและเพชรน้ำหนึ่งเข้าเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน ยุติเรียนสาขาเศรษฐศาสตร์
เพชรน้ำหนึ่งเรียนสาขาบริหารธุรกิจและเธอยังมีความใฝ่ฝันอีกอย่างคือการได้มีหนังสือบทกวีของตัวเองสักเล่ม ซึ่งเป็นบทกวีที่พรรณนาถึงความสุข ความรักที่หวานชื่นและขมขื่น พลัดพราก ทำให้ใจเปลี่ยวเหงาเฝ้าคิดถึง แอบรอคอยแม้ความหวังลางเลือน ‘คืนเดือนเหงา’
“หนึ่งแต่งบทกลอนจบแล้ว รูปภาพที่ไปเสาะหารวบรวมถ่ายมาได้ เลือกมาประกอบได้ลงตัวครบทุกบทกลอนแล้ว ต่อไปจะส่งงานไปสำนักพิมพ์ล่ะ” เพชรน้ำหนึ่งนำมาอวดยุติ เปิดให้เขาดูจากโน้ตบุ๊ก
“พี่ยินดีด้วย ขอให้ความฝันของหนึ่งเป็นจริงซะที”
“ส่งผลงานไปแล้ว กว่าจะรู้ผลว่าผ่านการพิจารณาจากสำนักพิมพ์หรือไม่ คงใช้เวลาอีกหลายเดือน”
“แล้วหนึ่งมีความฝันจะทำอะไรต่อล่ะ”
“สุดยอดแห่งความฝัน... หนึ่งเชื่อว่าหนึ่งมีเนื้อคู่แท้จริงเป็นคนรักเก่าเมื่อชาติก่อน หนึ่งจะตามหาเขาให้เจอ”
“อ้าว...แล้วพี่ล่ะ พี่ยังเป็นคู่หมั้นของหนึ่งอยู่นะ”
“พี่ยุติแต่งงานกับกลอยใจแล้ว เราแต่งงานกันไม่ได้”
“แล้วไทธรรพ์ล่ะ? หนึ่งลืมแล้วหรือ ไหนว่าจะรอให้ถึงสองปีก่อนถ้าเขาไม่มาค่อยแต่งงาน”
“ยังไม่ลืมหรอกหนึ่งจะยังไม่แต่งงานภายในสองปีนี้ แต่หนึ่งไม่ค่อยมีความหวังเรื่องพี่ไทธรรพ์จะกลับมา”
“แล้วโจเซฟล่ะหนึ่งคิดยังไงกับเขา เห็นเขามาหาหนึ่งบ่อยมาก”
“หนึ่งกำลังสงสัย... เขาใช่คนรักเก่าเมื่อชาติก่อนไหม อาจจะต้องการเวลาพิสูจน์ หนึ่งอยากเริ่มต้นกับคนรักเก่าเมื่อชาติก่อน เขาเป็นคนเดียวเท่านั้นที่หนึ่งจะรัก ...เมื่อไหร่จะเจอเขา ตอนนี้เขาเป็นใคร อยู่ที่ไหนหนอ” เธอทำท่าเพ้อฝัน
“หมั่นไส้! พี่อิจฉาผู้ชายทุกคนที่หนึ่งรัก ถ้าหนึ่งเจอกับคนรักเก่าเมื่อชาติก่อน พี่จะแกล้งบอกเขาว่าหนึ่งเป็นผู้หญิงเจ้าชู้หลายใจรักผู้ชายหลายคน รักพี่ด้วย รักไทธรรพ์ รักโจเซฟและคนอื่นอีกมากมาย... คนหลายใจ” ยุติส่งเสียงล้งเล้งดังลั่น ท่าทางกระฟัดกระเฟียด
“ไม่ใช่ซะหน่อย” เธอโต้เถียง ชักสีหน้าหงิกให้เห็น แทนที่จะได้มีอารมณ์สุนทรียะกับความใฝ่ฝันกลับต้องมาเสียอารมณ์เพราะโดนยุติว่าเสียหาย
..........โจเซฟเป็นผู้ชายอีกคนหนึ่งที่เป็นสุภาพบุรุษ เขาดีกับเพชรน้ำหนึ่งเสมอ แม้แต่ตอนที่เธอหายออกจากบ้านยังคอยมาถามข่าวแทบทุกวันและช่วยลงโฆษณาตามหาตัวเธอในอินเตอร์เน็ต จนเมื่อพบเธอกลับมาแล้ว แม้เธอมีสภาพผ่ายผอมน่าตกใจ เขามิได้รังเกียจ ช่วยหายาและอาหารเสริมมาให้กิน จนสภาพร่างกายกลับฟื้นคืน เธอจึงดูดีขึ้นมา
“เฮ้! นั่นหนึ่งเหรอทำไมเปลี่ยนไปเยอะ” ยุติร้องทักเมื่อเห็นเพชรน้ำหนึ่งในรูปลักษณ์แบบใหม่
เส้นผมสีดำขลับกับหน้าม้าทรงผมเรียบตรงยาวสลวยคลุมไหล่ เสื้อผ้าโทนสีเข้มถึงมืดดำ เสื้อคอปาดแขนยาวคลุมศอกพับปลายแขนสีขาว กระโปรงทรงสอบยาวปิดเข่าแต่ผ่าข้างลึกโชว์ขาอ่อนนวลเนียน ดูแปลกตาไปอีกแบบ
“หนึ่งเปลี่ยนรูปลักษณ์ของตัวเองแล้ว” เธอกล่าวพลางหมุนตัวให้ชายหนุ่มได้มองชื่นชมตลอดทั่วเรือนร่าง
“เพชรน้ำหนึ่งนิวลุกส์ดูยังไงก็สวย แต่สวยแบบสาวเอเชียตาคมผมสวยผิวเนียน” เขากล่าวชม ก่อนจะถาม “แล้วอะไรดลใจถึงเปลี่ยนสไตล์ตัวเองล่ะ”
“จะลองนัดเดทกับโจเซฟ อยากค้นหาดูใจว่าเขาใช่คนรักเก่าเมื่อชาติก่อนของหนึ่งไหม”
.
ไตรติมา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 3 ม.ค. 2561, 19:56:50 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 3 ม.ค. 2561, 19:56:50 น.
จำนวนการเข้าชม : 1007
<< ตอน 32[2] | ตอน 33[2] >> |
ไตรติมา 3 ม.ค. 2561, 20:03:14 น.
โปรโมชั่นลดราคาอีบุ๊กรับปีใหม่ ลดกว่า 50% รีบโหลดก่อนหมดโปร
https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&book_id=50709
โหลดฟรีอีบุ๊ก >> https://www.mebmarket.com/ebook-51222-คู่หมั้นคืนเหงาใจ-ฉบับพิเศษ
ติดตามอัพเดท-กดไลค์เพจ >> https://www.facebook.com/oranamarinlove
หาอ่านเพิ่มได้ >> https://writer.dek-d.com/aunnan/writer/view.php?id=1354376
http://www.tunwalai.com/story/126612
http://www.niyayrak.com/novels/khuuhmankhuuenehngaaaicch
https://www.readawrite.com/a/f17b63d878e1e227361ddce49b95fecd
โปรโมชั่นลดราคาอีบุ๊กรับปีใหม่ ลดกว่า 50% รีบโหลดก่อนหมดโปร
https://www.mebmarket.com/index.php?action=BookDetails&book_id=50709
โหลดฟรีอีบุ๊ก >> https://www.mebmarket.com/ebook-51222-คู่หมั้นคืนเหงาใจ-ฉบับพิเศษ
ติดตามอัพเดท-กดไลค์เพจ >> https://www.facebook.com/oranamarinlove
หาอ่านเพิ่มได้ >> https://writer.dek-d.com/aunnan/writer/view.php?id=1354376
http://www.tunwalai.com/story/126612
http://www.niyayrak.com/novels/khuuhmankhuuenehngaaaicch
https://www.readawrite.com/a/f17b63d878e1e227361ddce49b95fecd