คู่หมั้นคืนเหงาใจ
ตำนานหนุ่มหล่อเลิศล้ำแห่งค่ำคืนเหงาใจ

ความรักเหงา ๆ รานร้าวและเร้าใจ ต่างคนต่างมีกิเลสตัณหา ต้องชดใช้บุญกรรมแห่งความรัก ติดตามข้ามภพชาติศาสนา หนึ่งหญิงสองชายผูกพัน
อ่านเรื่องนี้จบ แล้วคุณจะสงสารใคร? ระหว่าง...

นักดนตรีหนุ่มรูปหล่อ พ่อรวย ราวกับในตำนาน เทพบุตรจุติลงมาเกิดอย่าง ยุติ ผู้ตกอยู่ในวังวนแห่งความเปลี่ยวเหงา ทุกค่ำคืนผ่านไปจิตใจโหยหา แค่เพียงเป็นคนที่เขาเผลอใจรัก แต่เขาไม่ได้เลือก กลายเป็นเหมือนส่วนเกิน มิใช่ส่วนสำคัญ

หรือ... อภิมหาเศรษฐีหนุ่ม ใบหน้าสวยงามเลิศล้ำอย่าง ไทธรรพ์ ผู้เป็นที่รักยิ่งดั่งชีวิตจิตใจของสาวสวย ถึงแม้เขาจะเจ้าชู้ไปบ้าง แต่ทั้งชีวิตจิตใจทุ่มเทในรักจริงจัง แต่ความหวังกลับหักพังสลาย สุดท้ายต้องอยู่เดียวดายข้างกายไร้คู่ครอง

หรือ... สาวสวยแชมป์มวยไทยหญิง เพชรน้ำหนึ่ง ถึงจะมีเพียบพร้อมทุกสิ่ง แต่ต้องเกิดมาใช้เวรใช้กรรม ที่เคยกระทำไว้ในชาติก่อน แม้จะสามารถยืนหยัดขึ้นมายิ่งใหญ่ และจิตใจเข้มแข็ง ทนทานต่อความทุกข์กายทุกข์ใจได้ แต่ลึกลงไปข้างในนั้น ไร้ซึ่งความสุขแท้จริง
Tags: ไตรติมา, คู่หมั้นคืนเหงาใจ, ดราม่า, ซึ้ง, โรแมนติก,

ตอน: ตอน 33[2]




..........ความอิจฉาริษยาผุดขึ้นมาริ้วในใจยุติ ก่อนเพชรน้ำหนึ่งจะไปเดทกับโจเซฟ

“ได้ข่าวนายจะไปเดทกับหนึ่ง ฉันอยากจะโทรมาเตือนนายด้วยความหวังดี หนึ่งนะไม่รักใครจริงหรอก ฉันรู้จักหนึ่งดีกว่าใคร หนึ่งแค่อยากทดลองเดทกับนายเล่นเท่านั้นไม่คิดจริงจัง อย่าเผลอคิดอะไรไปไกลล่ะจะเสียใจภายหลัง เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน”

“นายมีเมียเป็นของตัวเองอยู่ทั้งคนไปสนใจแต่เมียนายดีกว่า เรื่องฉันกับหนึ่งไม่เกี่ยวกับนาย”

“พวกเราเป็นชาวเอเชีย วัฒนธรรมต่างจากชาวตะวันตก คบหากันอย่างให้เกียรติ์คือไม่ใช่ไปเดทแล้วสุดท้ายจบลงบนเตียง ที่พูดนี่คงเข้าใจนะหมายความว่าสุภาพบุรุษเขาไม่รีบร้อนเมคเลิฟกับสาวง่ายหรอก หวังว่านายคงไม่คิดชั่วคิดต่ำทรามกับหนึ่ง เพราะฉันเชื่อใจหนึ่งเป็นคนหวงตัวและห่วงอนาคตยังเรียนไม่จบปริญญาโท”

“แล้วถ้าเธอเป็นฝ่ายต้องการล่ะ ฉันไม่อยากปฏิเสธ” โจเซฟแกล้งพูดยั่ว เข้าใจอีกฝ่ายว่าคงจะหวงเพชรน้ำหนึ่ง

“ฉันจะแอบสะกดรอย ตามไปสังเกตการณ์อยู่ไม่ห่างคอยช่วยเหลือเมื่อถึงภาวะคับขัน” ยุติแสร้งพูด ใจจริงไม่อยากตามไป

“ตามให้ทันแล้วกัน” โจเซฟพูดท้าทาย



..........เพชรน้ำหนึ่งไปเดทกับโจเซฟ เริ่มต้นด้วย ดูหนังรอบบ่ายเป็นหนังรักโรแมนติคคอมเมดี้แบบที่โจเซฟชอบดู

...ขณะดูหนังนั้นเขาใช้มือโอบพนักพิงไว้ เมื่อยามเธอเอนกายพิงเหมือนเขาได้โอบกอดเธอ

ซึ่งเธอไม่ได้ว่ากล่าวอะไรเขา ดูหนังจบแล้วจึงออกมาเดินเล่นในสวนสาธารณะ นั่งเล่นที่ม้านั่งยาวใต้ต้นไม้ใหญ่ที่ให้ร่มเงา

“หนังเรื่องนี้ผมชอบตอนพระเอกจูบกับนางเอก บรรยากาศโรแมนติคดี แล้วหนึ่งล่ะชอบตอนไหน”

“ชอบทุกตอนแหละสนุกดี” เธอตอบแบบมีมารยาท ทั้งที่ในใจอยากบอกว่า

‘ไม่ได้รู้สึกอะไรเลย’

“สวนสาธารณะวันนี้ไม่ค่อยมีคน ดูเหมือนมีแค่เรา ผมชอบนะได้อยู่กันตามลำพังสองคนกับหนึ่ง แล้วหนึ่งล่ะรู้สึกเหมือนผมหรือเปล่า”

“หนึ่งรู้สึกดี...” เธอบอกเท่านั้นและยิ้มให้อย่างเยือกเย็น มองตาเขาโดยไม่ได้รู้สึกใจสั่นหวั่นไหวเลย

แตกต่างกับใบหน้ายิ้มระรื่นของเขา ซึ่งดูออกจะตื่นเต้นเป็นปลื้มที่ได้อยู่ใกล้เธอ ...จากนั้นเขาชวนเธอไปดินเนอร์ในร้านอาหารที่สามารถมองเห็นวิวพระอาทิตย์ตอนเย็น

“ผมชอบร้านอาหารนี้บรรยากาศโรแมนติคดี เคยมีคู่รักหลายคู่มาขอแต่งงานกันที่นี่ด้วยล่ะ”

“ภาพพระอาทิตย์ตกในตอนเย็นดูหงอยเหงา แต่สวยดีนะ” คำพูดนี้อออกมาจากความรู้สึกข้างในขณะมองพระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า

“ใช่... หนึ่งเป็นผู้หญิงที่สวยมากรู้ตัวไหม” เขามองใบหน้าเนียนและยื่นมือมากุมทับมือของเธอซึ่งวางอยู่บนโต๊ะ

“หนึ่งสวยเหรอ” เธอถามพร้อมยิ้มให้ ด้วยไม่รู้จะกล่าวอะไรดี

“หนึ่งเป็นผู้หญิงในสเปคของผม ผมรักหนึ่ง หนึ่งล่ะรักผมไหม” โจเซฟสารภาพรัก ...ส่งสายตาซึ้งให้เพชรน้ำหนึ่ง

“หนึ่ง... ยังไม่รู้ใจตัวเองเลย” เธออ้ำอึ้งลังเลเหมือนเกรงใจไม่กล้าตอบคำถาม

“หนึ่งยังไม่ต้องรีบตอบผมตอนนี้หรอก ผมเข้าใจ เรื่องความรักต้องการเวลา” เขาไม่ได้เร่งรัด ดูเหมือนเขาจะเข้าใจและใจเย็นรอได้ เพราะเรื่องของความรักกับบางคน... อาจต้องการเวลาคิดใคร่ครวญ



..........ยุติจำใจทนอยู่ในสถานภาพผู้ชายที่แต่งงานแล้ว ชีวิตช่างแตกต่างตรงข้ามกับสาวสวยโสดซึ่งเป็นช่วงที่เพชรน้ำหนึ่งสนุกกับความโสด ไปเที่ยวเฮฮาปาร์ตี้กับโจเซฟและเพื่อนชายกลุ่มนั้น ซึ่งยุติเห็นว่าไม่ดีงามเลย

“หนึ่งขยันไปหาผู้ชายนอกบ้านใครต่อใครนักหนา ในบ้านนี่มีอยู่แล้วทั้งคน ไอ้เด็กหนุ่มไก่อ่อนพวกนั้นมีดีตรงไหน ไม่ประสีประสาเรื่องรักใคร่ทำให้หนึ่งมีความสุขสุดยอดไม่ได้หรอก สู้ผู้ใหญ่ที่มีประสบกามแล้วอย่างพี่ไม่ได้”

“พวกนั้นเป็นแค่เพื่อน พี่ยุติคิดอะไรน่าเกลียด” เธอว่า พร้อมกับคว้าเสื้อคลุมมาเพื่อจะสวมทับ แต่ยังไม่ทันได้สวมใส่

“อ้าว... หนึ่งไม่ได้คิดอย่างที่พี่ว่าหรอกเหรอ เห็นแต่งตัวยั่วผู้ชายซะขนาดนั้น ชุดสายเดี่ยวกระโปรงสั้น” ยุติเดินเข้ามาจนประชิดตัว ใช้มือจับที่ก้นของเพชรน้ำหนึ่ง “นุ่งกางเกงในแล้วหรือยัง”

“ลามกนักนะพี่ยุติ” เธอว่าและผลักอกเขา

จากแรงผลักทำให้ยุติผงะออกห่างตัวเธอเล็กน้อย

“หนึ่งจะไปเปลี่ยนชุดที่เรียบร้อย พี่ยุติจะได้ไม่มีปัญหา” ว่าอย่างนั้นและเหวี่ยงเสื้อคลุมทิ้งบนโซฟา และผลุนผันเข้าไปเปลี่ยนชุด... “พอใจหรือยัง เสื้อยืดกางเกงยีน ทีนี้หนึ่งออกจากบ้านได้แล้วใช่ไหม” เธอถาม

ในขณะที่เขาไม่ตอบ เพียงทำหน้ากวนอารมณ์โกรธของเพชรน้ำหนึ่ง แถมเลิกคิ้วยักไหล่



..........ยุติไม่ค่อยมีความสุขใจในชีวิตคู่ คืนนี้เขาไม่กลับบ้าน

‘บางทีด้วยอารมณ์ชั่ววูบ นึกอยากทำประชดชีวิต ประชดคนที่รักกัน ทั้งที่รัก... ยังอุตส่าห์ผลักไสกันได้มันน่าน้อยใจ’

สองสาวเฝ้ารอ... คนหนึ่งคือภรรยา อีกคนอยู่เป็นเพื่อน ตลอดคืนผ่านไปอย่างว่างเปล่ารอเก้อทั้งคืน จนรุ่งเช้าเกือบเจ็ดโมงจึงได้เจอหน้า

“หลังเลิกจากเล่นดนตรีแล้วพี่ยุติไปไหน” เพชรน้ำหนึ่งถามน้ำเสียงราบเรียบ

“พี่ยุติทำไมเมื่อคืนไม่กลับบ้าน” กลอยใจถาม สีหน้าเคร่งเครียด ไม่พอใจในตัวสามี

“หนึ่งกับกลอยใจรอพี่ยุติไม่ได้หลับไม่ได้นอนกันทั้งคืน พี่ยุติไปนอนที่ไหนมา” น้ำเสียงที่ถามนั้นเต็มไปด้วยความห่วงใย หาใช่ขู่เข็ญจับผิดไม่

“ขอโทษที่ไม่ได้โทรมาบอก คราวหน้าไม่จำเป็นต้องรอพี่ พี่ไม่ใช่คนสำคัญอะไร ไม่ต้องสนใจพี่หรอก”

“พี่ยุติพูดออกมาได้ยังไงว่าไม่ต้องสนใจพี่ เราเป็นผัวเมียกันจะให้ไม่สนใจกันได้ยังไง หรือว่าพี่ยุติไม่สนใจฉันแล้วบ้านช่องไม่ยอมกลับ คราวหน้าจะไม่กลับมานอนบ้านอีกใช่ไหม พี่ยุติไปไหนกับใครบอกมา” กลอยใจต่อว่าอย่างคนกำลังโมโห

“ทำไมอาบน้ำแต่งตัวมาเรียบร้อยแล้ว เสื้อนี่มีกลิ่นน้ำหอมผู้หญิงติดมาด้วย สภาพแบบนี้เหมือนไปเที่ยว...” เพชรน้ำหนึ่งจับพิรุธ เมื่อเดินเข้ามาใกล้ตัวเขา ถึงได้กลิ่นน้ำหอมแบบที่ผู้หญิงใช้ “น่าสงสัยพี่ยุติอาจจะไปเจอผู้หญิงมา”

“พี่ไปกับผู้หญิง” ยุติพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำ และคำพูดนั้นถึงกับทำให้กลอยใจน้ำตาร่วงพรู และเขายังพูดขยายความต่ออีก “ไปนอนด้วยกันบนเตียงนุ่ม แล้วทำอะไรต่อมิอะไรกันอย่างที่อยากจะทำ”

“เพี้ยะ!” เสียงที่เกิดจากฝ่ามือของเพชรน้ำหนึ่ง ตบโดนใบหน้ายุติ “ทำไมพี่ยุติถึงทำอะไรชั่วร้ายอย่างนี้ ทำไมทำตัวเป็นสามีที่ดีไม่ได้” เธอตัดพ้อต่อว่า มือที่ตบหน้าเขาเมื่อครู่ลดลง เปลี่ยนเป็นจับแขนทั้งสองข้างของเขา ใบหน้าเหมือนจะร้องไห้ดูผิดหวังเสียใจจนยืนแทบไม่อยู่ แล้วเธอได้แต่ก้มหน้า

“อยากให้พี่เป็นสามีที่ดีเหรอ ผู้ชายเหลือเดนอย่างพี่นี่นะเหรอจะสามารถเป็นได้ พี่เป็นได้อย่างมากแค่... คนไม่มีความหมาย คนที่เขาไม่เอาไว้เป็นสามีต่างหาก”

“แต่ถึงยังไงพี่ยุติแต่งงานไปแล้วทำไมเอาแต่ใจ มีอะไรค่อยปรับตัวเขาหากันสิ มันอดอยากมากนักหรือไง หรือพี่ยุติไม่รู้จักอิ่มไม่รู้จักพอเรื่องตัณหาราคะ”

“พี่ไม่ใช่คนแบบนั้น ถ้าได้คนที่พอใจคงเพียงพอต่อความต้องการ แต่หนึ่งไม่เคยรับรู้ว่าพี่จะรู้สึกยังไง หนึ่งสนใจแต่คนอื่นไม่เคยสนใจพี่เลย ที่พี่ทำไปเพราะประชดหนึ่งนั่นแหละ” ประโยคหลังเขาว่าเธอ

เธอจึงเงยหน้าขึ้นมอง เมื่อนั้นเขาจึงได้เห็นเธอมีน้ำตาอาบนองใบหน้าหม่นหมอง สายตาที่ดูเจ็บปวดผิดหวัง มองตาเขา... แล้วน้ำตาร่วงอีกไม่หยุด

“หนึ่งร้องไห้... เสียใจหรือที่พี่ทำอย่างนี้ บอกสิว่าหนึ่งรักพี่บ้างไหม”

“มันเป็นไปไม่ได้ ...สายไปแล้ว พี่ยุติอย่าพูดอีกเลย กลอยใจเป็นเมียพี่ยุตินะคิดถึงจิตใจเขาบ้าง”

“นี่พี่ยุติรักคุณหนึ่งหรือนี่ ฉันเพิ่งรู้...” กลอยใจมองหน้าสามี แววตาบ่งบอกถึงความผิดหวังและเสียใจ “พี่ยุติยังเห็นฉันเป็นเมียอยู่หรือเปล่า ถ้าพี่ยุติรักแต่คุณหนึ่งเชิญอยู่กันไปสองคนเถอะ ฉันไม่ขออยู่ขัดขวางความรักของใคร ฉันจะกลับเมืองไทย” กลอยใจพูดเสียงดัง หันหลังผลุนผันเดินกลับเข้าห้องของตน

เพชรน้ำหนึ่งรีบผละจากยุติ ตามกลอยใจไป

“อย่าไปนะกลอยใจ เธอต้องอยู่กับพี่ยุติ เธอแต่งงานกับพี่ยุติแล้ว เธอเพียงคนเดียวที่เป็นเมียพี่ยุติ ใจเย็นสิกลอยใจ อย่าไปเลย” เพชรน้ำหนึ่งตะโกนขอร้อง

“กลอยใจอย่าไปนะ อยู่กับพี่เถอะ พี่ขอโทษ ต่อไปพี่จะไม่ทำอย่างนี้อีก” ยุติเข้ามาหากลอยใจในห้อง เข้าไปกอดเธอไว้

ด้วยความรักในสามี ผู้หญิงที่เป็นภรรยาเมื่อสามีมาตามง้อเธอจึงเริ่มสงบลง

เพชรน้ำหนึ่งรีบฉากหลบออกมา ปล่อยให้สามีภรรยาได้มีเวลา ปรับความเข้าใจกัน



..........ทั้งโจเซฟและเพชรน้ำหนึ่งได้ไปเที่ยวด้วยกันอีกหลายครั้ง แต่ส่วนใหญ่โจเซฟจะมาทานอาหารเย็นบ้านทาคาดะมากกว่า เพราะเพชรน้ำหนึ่งทำอาหารอร่อยเป็นที่ถูกใจโจเซฟมาก

ส่วนยุติมีเรื่องที่ทำให้อัดอั้นตันใจไม่รู้จะหาทางออกอย่างไรคือข่าวดีและข่าวร้ายของกลอยใจผู้เป็นภรรยา

“ฉันมีข่าวดีจะบอกทุกคน” กลอยใจกล่าวเกริ่น

ทำให้ทั้งยุติและเพชรน้ำหนึ่งสนใจทันที หันมองหน้าเธอพร้อมกัน

“ฉันกำลังจะมีน้อง คุณหมอบอกว่าฉันท้องได้เดือนกว่าแล้ว ฉันดีใจที่สุดเพราะฉันอยากมีลูกมาก”

“หา! จริงเหรอ? ดีใจด้วยนะ” เพชรน้ำหนึ่งแสดงความยินดีด้วยใจจริง

ยุติเองเมื่อรู้ตัวว่าจะได้เป็นพ่อคนยิ่งตื่นเต้นดีใจไม่แพ้กัน

“นี่พี่จะได้มีลูกแล้วเหรอ ดีใจจังเลย”

“แต่คุณหมอบอกว่าต้องดูแลตัวเองอย่างระมัดระวังมาก เพราะอาจเกิดภาวะครรภ์เป็นพิษแทรกซ้อน”

“อ้าว... ทำไมเป็นอย่างนั้น” ยุติออกจะตกใจเล็กน้อย

“ฉันเป็นโรคไทรอยด์เป็นพิษ คุณหมอเคยแนะนำอย่าเพิ่งมีลูก ต้องรักษาไทรอยด์ให้หายก่อน แต่ว่าการรักษาต้องใช้เวลายาวนานถึงสองปี ฉันไม่อยากรอนานขนาดนั้นเลยปล่อยให้มีลูก ต่อจากนี้ไปฉันต้องหมั่นไปพบคุณหมอบ่อยหน่อยและปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของคุณหมออย่างเคร่งครัด”



..........หลังจากนั้นเมื่อได้อยู่กันตามลำพังในห้องนอนประสาผัวเมีย ยุติโอบกอดกลอยใจ ยังคงแสดงอาการดีใจที่รู้ว่ากำลังจะมีลูก

“ฉันมีเรื่องลำบากใจ แต่มันจำเป็นจะต้องบอกพี่ยุติคือ คุณหมอบอก... ฉันอาจจะมีอาการความดันโลหิตสูง เส้นเลือดในสมองแตกหรือว่าอาจจะช็อกได้ ให้งดกิจกรรมทุกอย่างที่ทำให้หัวใจเต้นเร็ว ห้ามออกกำลังกายหักโหม ห้ามเรื่องนั้น... เรื่องนอนกับสามี” กลอยใจพูดออกไปแล้วอย่างถนอมน้ำใจของผู้เป็นสามีด้วยรักและเข้าใจความรู้สึกของเขา แล้วได้เห็นรอยยิ้มเมื่อครู่จางหายไป

“อ๋อ... พี่พอจะเข้าใจ พี่งดได้คงไม่เป็นอะไรหรอก พี่เป็นผู้ชายเรื่องแค่นี้เล็กน้อย”

“ฉันรู้พี่ยุติอาจจะอึดอัด ฉันมาคิดดูแล้วฉันเข้าใจและเห็นใจพี่ยุติ ระหว่างที่ฉันกำลังท้องอย่างนี้ฉันยอม... ปล่อยให้พี่ยุติไปหาผู้หญิงอื่นแก้เหงาได้ แต่ขอร้องอย่างเดียวอย่าทิ้งฉันกับลูกนะพี่ยุติ พี่ยุติรับปากฉันได้ไหม”

“ไม่ล่ะ พี่หมายถึงพี่จะไม่มีผู้หญิงอื่น เรื่องเซ็กส์เป็นเรื่องเล็กน้อยไม่มีเห็นเป็นไร พี่มีเพชรน้ำหนึ่งเป็นคู่หมั้น มีกลอยใจเป็นภรรยาและว่าที่คุณแม่ของลูก พี่สมควรจะทำตัวเป็นคนดีมีความรับผิดชอบ ไม่ใช่เห็นแก่ตัว เอาแต่ไปหาความสุขใส่ตัว พี่รู้... ทั้งเพชรน้ำหนึ่งและกลอยใจไม่อยากเห็นพี่ไปทำตัวมั่วซั่ว อย่าเป็นห่วงเลย เรื่องนั้นสบายใจได้ ถ้าอย่างนั้นพี่ว่าจะขอแยกไปนอนห้องอื่นดีกว่าเดี๋ยวอดใจไม่ไหวเกิดอยากปล้ำกลอยใจขึ้นมา” เขาพูดเล่น พร้อมยิ้มให้เป็นตลกทิ้งท้าย



..........ในห้องนั่งเล่น ยุติมานอนเล่น นอนรอเพชรน้ำหนึ่งบนโซฟา

“พี่ยุติบอกมีเรื่องจะถามหนึ่ง เรื่องอะไรเหรอ” เธอลงนั่งบนเก้าอี้ตัวข้างเคียง

“มีห้องว่างแบบที่ดีอีกสักห้องไหม พี่ขอใช้เป็นห้องนอนส่วนตัว เอาแบบเก็บเสียงสามารถนอนหลับอย่างเงียบสงบได้โดยไม่มีเสียงรบกวน”

“เรื่องห้องแบบที่พี่ยุติต้องการยังพอมีอยู่ แล้วหนึ่งจะสั่งคนให้ไปเปิดห้องทำความสะอาดไว้ให้พี่ยุติ เอ... แต่ทำไมจะแยกห้องนอนกับกลอยใจ มีเรื่องงอนกันหรือไง”

“เปล่าเลย เรายังดีกันอยู่ กลอยใจเพิ่งบอกว่าเขาไปปรึกษาหมอ...” เขาเล่าเรื่องที่แพทย์แนะนำกลอยใจนั้น...

เธอรับฟังอย่างเข้าใจ แต่คิดคนละอย่างต่างจากเมียของเขา

“อืม... กลอยใจช่างใจกว้างนะจะยอมให้พี่ยุติไปหาเศษหาเลยนอกบ้านได้ แต่หนึ่งไม่ใจกว้างอย่างนั้น คนที่กำลังจะเป็นพ่อคน อนาคตจะต้องอบรมสั่งสอนลูกให้เป็นเด็กดี มันน่าละอายใจต่อลูกถ้าคนเป็นพ่อทำตัวมั่ว มัวเมามักมากในกาม ถ้าเป็นตัวหนึ่งเองจะไม่ทำดีกับพี่ยุติอย่างที่กลอยใจทำหรอก”

“พี่ยังเป็นคนดีมีความรับผิดชอบอยู่ ไม่คิดเรื่องจะไปมั่วกับผู้หญิงอื่น จะต้องไปยุ่งกับผู้หญิงอื่นทำไมในเมื่อมีของดีอยู่ในมือ ทั้งเมียและคู่หมั้นต่างคนก็สวยงามและแสนดีด้วยกันทั้งคู่ มีแต่ต้องทำตนเป็นคนดีให้เธอเห็นใจ เธอจะได้ยอมเป็นเมียกันทั้งสองคนไม่ไปไหน”

“โป๊ะ!” เสียงปรบมืออย่างดังของเพชรน้ำหนึ่ง

ทำให้ได้เห็นทีท่าสะดุ้งตกใจ ไม่รู้ว่าเขาแสร้งทำ หรือตกใจจริง แต่นั่นทำให้เธอหัวเราะออกมาได้

“โอ๊ย! คนกำลังนอนเล่นเพลินดีอยู่ตกใจหมด ทำอะไรนี่”

“หึ หึ... ทำให้ตกใจไง จะได้ตื่นจากความฝันลม ๆ แล้ง ๆ เรื่องพี่ยุติอยากมีเมียสองคนนั่นเลิกฝันหวานไปได้ ขนาดสุดยอดปรมาจารย์ชั้นครูอย่างพี่ไทธรรพ์ยังไม่สามารถทำได้ ผู้หญิงต้องการเป็นหนึ่งเดียว ไม่มีใครยอมเป็นสองรองใคร สุดท้ายผู้ชายต้องเลือกไว้เพียงหนึ่งเดียวและนั่น... หนึ่งได้ตัดสินใจเลือกไว้ให้พี่ยุติแล้ว กลอยใจคือ เมียเพียงหนึ่งเดียวของพี่ยุติเท่านั้น”

“พูดอย่างกับว่าหนึ่งสามารถบงการชีวิตพี่ได้ ดังใจสั่งอย่างนั้นมั่นใจหรือ” ยุติพูด ทั้งที่ยังนอนหงายบนโซฟา หางตาชำเลืองมองมาชั่วครู่ นิ่งเงียบงันกันไปอีกพักหนึ่ง ก่อนเขาจะใช้แขนหนุนศีรษะ พลิกตัวนอนตะแคงแล้วหันหน้ามา จ้องมองตรง ๆ “แล้วจะรู้... บางทีเราบงการชีวิตคนอื่นไม่ได้หรอก แม้แต่ชีวิตของตัวเอง ก็อาจจะไม่มีทางเลือก ใครจะไปรู้” เขาพูด ขณะที่เธอเหม่อมองตาเขา ให้รู้สึกงงงัน นึกไม่ทันจะพูดอะไรต่อไป

...หลังจากนั้น ยามได้อยู่คนเดียว เพชรน้ำหนึ่งแปลกใจตัวเองที่จดจำคำพูดของเขา ภาพอิริยาบถของเขา เพียงแค่สายตาคู่นั้นจ้องตรงมายังเธอ

‘สายตาเขาที่มองมา มันช่างรบกวนจิตใจ’

ยามนึกถึง... รู้สึกหัวใจสั่นและเต้นเร็วขึ้นมาทันที ความรู้สึกนี่มันห้ามกันลำบาก ไม่อยากจะรู้สึกกลับยิ่งนึกเห็นแต่ใบหน้าและสายตาคมที่คอยแต่ชายตาแลลอบชำเลืองมอง ยิ่งเมื่อยามเขาจ้องทำให้ต้องนิ่งและนึกอะไรไม่ออก

‘ราวกับว่าได้ต้องมนต์เสน่หาจากเขาจนละเมอหลงทางใจ หาหนทางออกไม่เจอ’

“ไม่น่ารีบทำให้พี่ยุติมีเมียเลย เฮ้อ... เสียดายวันละหลายหน” เพชรน้ำหนึ่งถอนหายใจ บ่นเสียดายอยู่คนเดียว



..........การได้ใกล้ชิดสนิทสนมโจเซฟเท่าที่ผ่านมา เมื่อได้ใช้เวลาคิดทบทวนดู... ความรู้สึกของเพชรน้ำหนึ่งบอกตัวเองได้ว่าเขา ‘ไม่ใช่’

โดยเฉพาะคงไม่ใช่คนรักเก่าเมื่อชาติก่อน สัมผัสทางใจบอกตัวเองได้ว่าโจเซฟไม่มีความรู้สึกเหงาเศร้าของชายหนุ่มฝรั่งที่เพชรน้ำหนึ่งเคยฝันเห็น ไม่มีความรู้สึกโหยหาอย่างรุนแรงเหมือนชายหนุ่มฝรั่งคนนั้น

คำถามในใจประดังเข้ามาในห้วงคิดคำนึง

‘คนรักเก่าเมื่อชาติก่อนตอนนี้เขาเป็นใคร อยู่ที่ไหนทำไมป่านนี้ถึงยังไม่ได้พบเจอกัน คิดถึง... อยากเจอเขาเหลือเกิน’

เธอได้แต่ยืนซึมเหม่อ ปล่อยสายตามองไปไกลนอกหน้าต่างนั่น

“ไปถึงขั้นไหนกันแล้วล่ะ ขั้นเอ... บี... หรือว่าซี... แค่จับมือ จูบกัน หรือว่าใจง่ายไปนอนเมคเลิฟกับเขาแล้ว” ยุติทำเสียงเล็กเสียงน้อย พอให้รู้ว่าพูดกระแนกระแหน

ซึ่งนั่นยั่วโมโหทำให้เพชรน้ำหนึ่งโกรธขึ้นมาได้ในทันที

“พี่ยุตินี่ช่วยพูดจาแบบที่มันให้เกียรติ์กันมากกว่านี้หน่อยได้ไหม มันเป็นเรื่องส่วนตัวของหนึ่ง”

“แต่พี่เป็นคู่หมั้นมีสิทธิ์หึงหวง มีสิทธิ์ทวงถาม”

“หนึ่งไม่มีอะไรกับเขาทั้งนั้น แค่จับมือ ไม่ได้ถึงขั้นกอดจูบ ไม่ได้มีอะไรกับเขาเพราะหนึ่งรู้สึกว่าเขาไม่ใช่คนที่หนึ่งค้นหา ...เขาไม่ใช่คนรักเก่าเมื่อชาติก่อน” เธอพูดด้วยเสียงเน้นย้ำในประโยคท้าย

“รู้ได้ไง? เขาอาจใช่ก็ได้” ยุติแกล้งพูดกวนโมโห

“ถ้าใช่... หนึ่งต้องรู้สึกถึงความรักที่หนึ่งเคยมีต่อเขาเมื่อชาติก่อน หนึ่งเคยฝันเห็นเขา ความรู้สึกของเขาเหงาเศร้าขนาดไหนหนึ่งรับรู้และสัมผัสได้ แต่กับโจเซฟ หนึ่งรู้สึกเฉยมาก ไม่เคยรู้สึกหวั่นไหวเลยสักนิด เทียบไม่ติดกับเวลาอยู่ต่อหน้าพี่ยุติเสียอีก หนึ่งยังใจเต้นมากกว่าอะ... อ้าว!” เธอพลั้งปากเผลอพูดอย่างไม่ได้ตั้งใจจะพูดให้หมดเปลือก

‘พูดแบบนี้... เหมือนสารภาพรักเขาเลยสิเรา โอ๊ย! จะเอาหน้าไปไว้ไหนเนี่ย’

“อ้าวเหรอ... นี่แสดงว่าแอบรักพี่เข้าแล้วล่ะซี่” เขาแย้มยิ้มดวงตาเป็นประกายวิบวับ หน้าตาแจ่มใสและบานชื่นขึ้นมาฉับพลันทันตาเห็น ค่อยก้าวเท้าเข้ามาใกล้ ใกล้เข้ามาอย่างช้านุ่มนวล สายตาเจ้าชู้คู่นั้นจับจ้องมองเหมือนจะขืนใจด้วยสายตา ...ถ้าเป็นไปได้

“เปล่า เปล่า... ไม่ใช่... พี่ยุติอย่ายุ่งกับหนึ่งนะ พี่ยุติมีเมียแล้ว” ปากรีบปฏิเสธเป็นพัลวัน แค่เห็นเขาจ้องเท่านั้นเล่นเอาใจสั่นไหว มือไม้อ่อนเปลี้ยทำอะไรไม่เป็นไปเลยทั้งที่เขายังไม่ทันเข้ามาถึงเนื้อถึงตัวตัวซ้ำ แล้วเธอถึงกับรีบโกยอ้าว... ฉากหนีเขาไปอย่างไวมาก




ไตรติมา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 7 ม.ค. 2561, 21:43:11 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 7 ม.ค. 2561, 21:43:11 น.

จำนวนการเข้าชม : 1038





<< ตอน 33[1]   ตอน 34[1] >>


coonX3 8 ม.ค. 2561, 00:16:10 น.
หนึ่งนึกไว้ว่านายยุติมีเมียแล้ว อย่าทำผิดน้า


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account