คู่หมั้นคืนเหงาใจ
ตำนานหนุ่มหล่อเลิศล้ำแห่งค่ำคืนเหงาใจ

ความรักเหงา ๆ รานร้าวและเร้าใจ ต่างคนต่างมีกิเลสตัณหา ต้องชดใช้บุญกรรมแห่งความรัก ติดตามข้ามภพชาติศาสนา หนึ่งหญิงสองชายผูกพัน
อ่านเรื่องนี้จบ แล้วคุณจะสงสารใคร? ระหว่าง...

นักดนตรีหนุ่มรูปหล่อ พ่อรวย ราวกับในตำนาน เทพบุตรจุติลงมาเกิดอย่าง ยุติ ผู้ตกอยู่ในวังวนแห่งความเปลี่ยวเหงา ทุกค่ำคืนผ่านไปจิตใจโหยหา แค่เพียงเป็นคนที่เขาเผลอใจรัก แต่เขาไม่ได้เลือก กลายเป็นเหมือนส่วนเกิน มิใช่ส่วนสำคัญ

หรือ... อภิมหาเศรษฐีหนุ่ม ใบหน้าสวยงามเลิศล้ำอย่าง ไทธรรพ์ ผู้เป็นที่รักยิ่งดั่งชีวิตจิตใจของสาวสวย ถึงแม้เขาจะเจ้าชู้ไปบ้าง แต่ทั้งชีวิตจิตใจทุ่มเทในรักจริงจัง แต่ความหวังกลับหักพังสลาย สุดท้ายต้องอยู่เดียวดายข้างกายไร้คู่ครอง

หรือ... สาวสวยแชมป์มวยไทยหญิง เพชรน้ำหนึ่ง ถึงจะมีเพียบพร้อมทุกสิ่ง แต่ต้องเกิดมาใช้เวรใช้กรรม ที่เคยกระทำไว้ในชาติก่อน แม้จะสามารถยืนหยัดขึ้นมายิ่งใหญ่ และจิตใจเข้มแข็ง ทนทานต่อความทุกข์กายทุกข์ใจได้ แต่ลึกลงไปข้างในนั้น ไร้ซึ่งความสุขแท้จริง
Tags: ไตรติมา, คู่หมั้นคืนเหงาใจ, ดราม่า, ซึ้ง, โรแมนติก,

ตอน: 35[2]


..........แล้วผลการตรวจดีเอ็นเอได้ออกมา โจเซฟและกลุ่มเพื่อนมารวมตัวกันอยู่ที่บ้านทาคาดะ เพื่อพบกับเพชรน้ำหนึ่ง

“ที่นี้แน่ใจได้ ผลการตรวจดีเอ็นเอออกมาแล้วในจำนวนพวกเราไม่มีใครเป็นพ่อของเอมิลสักคน พวกเราทุกคนไม่ใช่ทั้งนั้น” โจเซฟบอก

เพชรน้ำหนึ่งนั่งรวมอยู่กับยุติ

“หนึ่งไม่ติดใจอะไรแล้ว สรุปว่าหนึ่งมีลูกที่ไม่รู้ใครเป็นพ่อ ช่างมันเถอะจะอย่างไรก็ช่าง หนึ่งรักลูกของหนึ่ง เขาเป็นลูกชายของหนึ่งคนเดียว ไม่มีพ่อของลูกไม่เห็นเป็นไร ยังไงหนึ่งจะเลี้ยงดูเขาอย่างดีไม่ให้มีปมด้อย”

“แต่ยังมีผู้ชายอีกคนหนึ่งอยู่ในเหตุการณ์วันนั้นด้วย แต่ยังไม่ได้ตรวจดีเอ็นเอพร้อมกับพวกเรา คนนั้นคือยุติ” โจเซฟว่าดวงตามองจ้องหน้ายุติ

พวกเพื่อนของโจเซฟต่างพยักหน้ารับเห็นพ้องต้องกัน ทุกคนหันมาจ้องยุติเป็นตาเดียว

แต่เพชรน้ำหนึ่งออกปากพูดแทนยุติ โดยเธอไม่ติดใจสงสัยอย่างคนอื่น

“พี่ยุติไม่ต้องตรวจเลยเพราะเขาเป็นคนรับรองลูกชายหนึ่ง เขารับเป็นพ่อของเอมิล จดทะเบียนรับรองบุตรเรียบร้อยแล้ว”

“อ๋อ... งั้นเหรอ ถ้าอย่างนั้นแล้วไป” โจเซฟพูด

ทุกคนดูจะไม่ติดใจสงสัย แต่ต่างคนต่างคิด ซึ่งโจเซฟและพวกเพื่อนคิดว่ายุติเป็นพ่อแท้จริงของเอมิล (ซึ่งนั่นพวกเขาคิดถูกต้องแล้ว)

แต่เพชรน้ำหนึ่งกลับไม่คิดอย่างนั้น ในสายตาเธอเห็นว่ายุติเป็นผู้มีพระคุณที่รับเป็นพ่อของลูกชายเธอด้วยความเมตตากรุณา ซึ่งนั่นทำให้เธอสำนึกบุญคุณเขาอย่างท่วมท้นล้นใจ



..........เมื่อยุติและเพชรน้ำหนึ่งเรียนจบปริญญาโท

“สอบเทอมสุดท้ายเสร็จสิ้นแล้ว เราสองคนได้จบปริญญาโทพร้อมกัน ...แล้วเราเป็นคู่หมั้นกันมาสองปีกว่าแล้วนะหนึ่ง เท่ากับเกินเวลาสองปีที่ไทธรรพ์บอกว่าจะกลับมาหาหนึ่ง”

“หนึ่งรู้พี่ไทธรรพ์คงไม่หวนกลับมาหาหนึ่งแล้ว” น้ำเสียงและสายตาเธอนั้นทอดอาลัย

“แล้วหนึ่งยังจะรอเขาอยู่อีกหรือเปล่า” ยุติเอ่ยถาม เพื่อจะอารัมภบทไปถึงเรื่องอื่นที่เขาต้องการจะพูดอย่างเช่นสารภาพในสิ่งซึ่งเขาเคยได้กระทำไว้กับเธอ แต่แล้วเขากลับไม่สามารถพูดออกมาได้

ยังไม่ทันที่เธอจะตอบอะไร

แต่แล้วจู่ ๆ ไม่คาดฝัน แม่บ้านมาบอกว่า...

“คุณหนึ่ง คุณไทธรรพ์โทรมาให้เรียนคุณหนึ่งว่าช่วยเปิดดูเมล์ที่คุณไทธรรพ์ส่งมาเมื่อวานแล้วช่วยตอบเมล์กลับไปด้วย”

“ขอบใจที่บอกจะเปิดดูเดี๋ยวนี้” เพชรน้ำหนึ่งรับคำ เธอห่างหายไม่เคยเปิดดู ไม่เคยตอบเมล์ของเขามาเป็นแรมปี

ไทธรรพ์ส่งเมล์มาให้ดูคราวนี้เป็นรูปถ่ายในงานศพภรรยาของเขา นั่นทำให้เพชรน้ำหนึ่งถึงกับอึ้ง!

“พิธีฝังศพ อายะโกะ ทาคาดะ ผู้หญิงคนนี้ใช้นามสกุลทาคาดะ แสดงว่าเป็นภรรยาจดทะเบียนสมรส โถ... ไทธรรพ์ส่งเมล์มาให้ดูทั้งทีตอนกลายเป็นพ่อหม้ายเมียตายซะแล้ว ...น่าเศร้าเสียใจด้วย ที่แท้ไทธรรพ์มีเมียแล้วตั้งแต่ตอนไหนหนอ” ยุติกล่าวลอยลม เขาเพิ่งมานั่งข้างเคียงพร้อมได้อ่านเมล์นี้ด้วยกัน

“หนึ่งไม่เคยเห็นผู้หญิงคนนั้นไม่เคยรู้จักกันมาก่อน พี่ไทธรรพ์มีภรรยาจดทะเบียนสมรสหรือนี่ ก่อนหน้านี้หนึ่งเคยสงสัยมาตลอดว่าทำไมพี่ไทธรรพ์ถึงแต่งงานและจดทะเบียนสมรสกับหนึ่งไม่ได้ ตอนนี้ถึงเพิ่งได้รู้คำตอบ”

“รักสุดลึกในหัวใจ รักที่สุดยิ่งกว่าชีวิตจิตใจของตัวพี่เองคือรักเพชรน้ำหนึ่งคนนี้คนเดียว” ยุติอ่านคำลงท้ายเมล์จากไทธรรพ์ “เชอะ... หวานเลี่ยนไม่เปลี่ยนแปลง” เขาทำริมฝีปากเหยียดอย่างเอียนเต็มทน

“ถ้าพี่ไทธรรพ์เห็นเอมิล ลูกชายของหนึ่งจะยังรักหนึ่งอยู่อีกไหม” เธอกล่าวเหมือนรำพึงรำพันกับตนเอง แล้วส่งเมล์ตอบกลับเพียงข้อความไม่กี่คำเท่านั้นว่าได้รับเมล์ของเขาแล้ว



..........ชั่วโมงต่อมา รถเฟอร์รารีสีดำลายเส้นเขียวสะท้อนแสงเป็นมันเงาวาววับคันใหม่เอี่ยม หากคนมีความรู้เรื่องรถจะทราบสนนราคาว่าคิดเป็นเงินบาทไทยนับร้อยล้านบาท รถคันดังกล่าวได้แล่นเข้ามาจอดในบ้านทาคาดะ

เพชรน้ำหนึ่งให้แปลกใจที่เห็น โดยเธอยังไม่ทันอนุญาตคนรับใช้ให้เปิดประตูต้อนรับแขกผู้มาเยือน

“คุณหนึ่งช่วยลงไปข้างล่างหน่อยเถอะค่ะ เจ้าของรถคันนั้นเขาไม่ยอมลงจากรถ”

“อ้าว... ไปพูดให้ดีเชิญเขาเข้ามาในห้องรับแขกนี่สิ”

“แต่เขาบอกว่าต้องให้คุณหนึ่งลงไปเชิญด้วยตัวเอง” สาวใช้กล่าวรายงาน

เพชรน้ำหนึ่งจึงต้องเดินไปหาแขกผู้มาเยือน โดยมียุติเดินตามหลังอย่างใกล้ชิด เธอไปหยุดยืนอยู่ข้างรถคันหรูหราราคาแพงป้ายแดงใหม่เอี่ยม

จากนั้นคนขับรถที่ยืนรออยู่ด้านข้างรถจึงเปิดประตูรถให้ชายหนุ่มร่างสูงโปร่งในชุดสูทสีดำก้าวลงจากรถ แต่ยังมองเห็นหน้าไม่ถนัดตาเพราะว่าสวมหมวดปิดบังใบหน้า

เพชรน้ำหนึ่งเฝ้าดูว่าเขาจะถอดหมวกหรือไม่

แล้วเขาค่อยเปิดหมวกออกมา จึงได้เห็นใบหน้า...

‘ชายหนุ่มรูปงามเลิศล้ำในปฐพี ใช่... ไทธรรพ์คนนี้นะสิ’

นึกถึงคำพูดยกย่องอย่างหลงตัวเองที่เขาชอบกล่าวให้เธอฟังแล้วเป็นต้องหมั่นไส้ แต่ต้องยอมรับความจริงไปพร้อมกันด้วย

“พี่กลับมาตามสัญญา กลับมาหาหนึ่งแล้ว” ไทธรรพ์กล่าวด้วยรอยยิ้มแสนหวาน

นานเหลือเกินในความรู้สึก... ไม่ได้เห็นหน้าเขา จนกระทั่งตอนนี้ ได้แต่ยืนตะลึงทำอะไรไม่ถูก ความรู้สึกหลากหลายประดังประเดทั้งตื่นเต้นดีใจทั้งโกรธเคืองเรื่องที่เขาแอบไปมีภรรยาซ่อนไว้ แล้วอีกความรู้สึกหนึ่งคือหวั่นเกรงกลัวในบางสิ่งบางอย่างคือเรื่องของตนเองและบุตรชายแบเบาะ

“เป็นไงไทธรรพ์ ไม่ได้เจอกันนานยังทำเก๊กอย่างกับพระเอกหนังรักโรแมนติคได้อยู่อีกนะ” ยุติกล่าวทักทายแบบหยอกเย้า

“แกก็เหมือนกันยุติ ยังหล่อไม่สร่างทั้งที่อายุอานามปาเข้าไปปูนนี้แล้ว”

“ปัดโธ่พูดซะ... ฟังดูฉันแก่มากทั้งที่อายุแค่ยี่สิบเจ็ดเท่านั้น ความจริงเราอายุเท่ากันแถมฉันยังอ่อนเดือนกว่าแกด้วยซ้ำ”

“เชิญเข้าไปข้างในห้องรับแขกเถอะพี่ไทธรรพ์”

เพชรน้ำหนึ่งไม่อยากให้ยืนคุยกัน เพราะมีเรื่องต้องพูดคุยกันยาวนานแน่นอน

ไทธรรพ์ดูออกว่าเพชรน้ำหนึ่งพูดตามมารยาท และอาจไม่บางอย่างไม่พอใจในตัวของเขา

“ทำไมต้อนรับพี่เย็นชาอะไรปานนั้น คงลืมพี่แล้วถึงไม่ดีใจที่ได้เจอพี่” ไทธรรพ์ทำเสียงพูดแบบน้อยใจ ขณะเดินเคียงข้าง

“แง๊... แง๊...” เด็กทารกน้อยร้องไห้ดั่งลั่น เสียงนั้นมาจากห้องเด็กอ่อน สายตาของไทธรรพ์เหลือบเห็น... พี่เลี้ยงเด็กอุ้มพาดบ่า พยายามปลอบโยน

“เด็กที่กำลังร้องไห้โยเยนั่นชื่อ... เอมิล เป็นลูกชายของหนึ่ง” ยุติกล่าวแนะนำเน้นหนักอย่างชัดเจนทุกถ้อยคำ

ทำให้เพชรน้ำหนึ่งชะงักหยุดเดิน

เช่นเดียวกันกับไทธรรพ์ซึ่งทั้งงุนงงและตกใจ!

“ลูกของหนึ่ง?” ในสมองของไทธรรพ์มีแต่คำถามที่ไม่กล้าถามเพราะยังไม่ได้เตรียมใจรับฟังคำตอบ

‘ลูกหนึ่งกับใคร... ยุติหรือเปล่า’

“ตกใจล่ะสิไทธรรพ์ กลับมาหาหนึ่งคราวนี้สุดที่รักของแกดันมีลูกซะแล้ว”

ใช่... อย่างที่ยุติพูด หัวใจของไทธรรพ์หล่นวูบ ...แล้วหายวับ ราวกับหัวใจหลุดออกไปล่องลอยอยู่นอกร่าง

เพชรน้ำหนึ่งรู้ใจว่าไทธรรพ์จะรู้สึกเช่นไร จึงรีบชิงพูดทันทีไม่ปล่อยให้ใครจิตตกอยู่นาน

“ลูกไม่มีพ่อ เขาเป็นลูกของหนึ่งเพียงคนเดียว”

“มันเกิดอะไรขึ้นกับหนึ่ง” เป็นคำถามที่ไทธรรพ์ยังไม่ได้รับคำตอบในทันใด



..........ไทธรรพ์คนพาเพชรน้ำหนึ่งมาเที่ยวยังโรงแรมหรูหราระดับห้าดาวริมชายหาด ซึ่งเขาเป็นเจ้าของกิจการแต่เพียงผู้เดียว

ทั้งสองพากันมาเดินเล่น หยุดยืนอยู่ริมชายหาด

แล้วเพชรน้ำหนึ่งจึงเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นจากปากของเธอเอง...

ไทธรรพ์รับฟังแล้วแสดงออกว่าเข้าใจอย่างง่ายดาย ไม่มีความรู้สึกรังเกียจแม้แต่น้อย

“ทำไมพี่ไทธรรพ์ไม่โกรธหนึ่งที่ทำตัวเหลวไหล เชื่อใจคนง่าย จนไปโดนเขาหลอกมอมยา”

“พี่เข้าใจและยอมรับลูกของหนึ่งได้ เขาเกิดมาอย่างผู้บริสุทธิ์ พี่เอ็นดูลูกของหนึ่งนะเพราะพี่ยังรักหนึ่งเหมือนเดิมไม่เสื่อมคลาย”

ทุกถ้อยคำที่เขาเอ่ยทำให้เธอน้ำตาคลอด้วยความซึ้งใจ

“พี่ไทธรรพ์ไม่รังเกียจลูกของหนึ่งหรือ”

“จะรังเกียจทำไม ลูกของหนึ่งนั่นเหมือนลูกของพี่ พี่ยังนึกเสียดายที่ไม่ได้เป็นพ่อแท้จริงของเขา พี่นึกโกรธเกลียดตัวเองมากกว่าที่ไม่ได้อยู่เคียงข้าง ไม่สามารถปกป้องคุ้มครองหนึ่งได้พี่เสียใจจริงนะ” ไทธรรพ์กล่าวน้ำเสียงอ่อนโยน

“วันนี้พี่มีพร้อมแล้วทุกอย่างและยังรักหนึ่งไม่เปลี่ยน พี่กลับมาหาหนึ่งเพราะอยากแต่งงานกับหนึ่ง แล้วหนึ่งล่ะยังรักพี่อยู่ไหม” ถามพร้อมส่งรอยยิ้มให้ไม่จางคลาย

“พี่ไทธรรพ์...” เพชรน้ำหนึ่งพูดต่อไปไม่ได้ ต้องหยุดพูดเพื่อกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหล ข้างในใจเปี่ยมล้นไปด้วยความรัก “ตลอดมาหนึ่งเฝ้าหวังเฝ้ารอ ไม่เคยทำใจลืมพี่ไทธรรพ์ได้เลย พี่ไทธรรพ์ยังมาถามอีกว่าหนึ่งยังรักพี่ไทธรรพ์อยู่ไหม ถ้าไม่รักแล้วหนึ่งจะหอบลูกมาถึงที่นี่กับพี่ไทธรรพ์ทำไม”

“หนึ่ง... หนึ่งสุดที่รักของพี่” อ้อมแขนของเขาเข้ารวบร่างของเธอกอดรัดไว้อย่างแนบแน่น ก่อนจะผละออกและบอกรักย้ำอีก “พี่รักหนึ่งที่สุด ทั้งชีวิตที่ผ่านมามีแต่หนึ่งคนเดียวเป็นที่สุดของหัวใจ”

“หนึ่งก็เหมือนกัน ทั้งชีวิตจิตใจหนึ่งยังเป็นของพี่ไทธรรพ์อยู่ไม่เคยเปลี่ยนเลย”

ต่างบอกรักกัน โอบกอดกันและกันไว้แน่น

...แต่คนที่แอบมองอยู่ห่างไกลเห็นแล้วต้องปวดใจ ไม่อยากเข้าไปขัดจังหวะระหว่างคู่รัก ยุติอุ้มลูกชายไว้แนบกับอ้อมอกตนแล้วเดินหนีภาพบาดตาไปที่อื่น




ไตรติมา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 18 ม.ค. 2561, 11:35:02 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 18 ม.ค. 2561, 11:35:02 น.

จำนวนการเข้าชม : 850





<< ตอน 35[1]   ตอน 36[1] >>
coonX3 19 ม.ค. 2561, 21:44:16 น.
สมน้ำหน้านายยุต ผุ้ชายคนนี้เห็นแก่ตัว ไม่ได้รักใครจริงหรอก นายไทธรรพ์ก็แย่อะ หนึ่งคิดดีๆน้า


ไตรติมา 20 ม.ค. 2561, 15:12:05 น.
ตอนใหม่มาอัพละค่ะ ไทธรรพ์เอาความรวยเข้าล่อ เป็นไงล่ะเนี่ย ^_^


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account