คู่หมั้นคืนเหงาใจ
ตำนานหนุ่มหล่อเลิศล้ำแห่งค่ำคืนเหงาใจ
ความรักเหงา ๆ รานร้าวและเร้าใจ ต่างคนต่างมีกิเลสตัณหา ต้องชดใช้บุญกรรมแห่งความรัก ติดตามข้ามภพชาติศาสนา หนึ่งหญิงสองชายผูกพัน
อ่านเรื่องนี้จบ แล้วคุณจะสงสารใคร? ระหว่าง...
นักดนตรีหนุ่มรูปหล่อ พ่อรวย ราวกับในตำนาน เทพบุตรจุติลงมาเกิดอย่าง ยุติ ผู้ตกอยู่ในวังวนแห่งความเปลี่ยวเหงา ทุกค่ำคืนผ่านไปจิตใจโหยหา แค่เพียงเป็นคนที่เขาเผลอใจรัก แต่เขาไม่ได้เลือก กลายเป็นเหมือนส่วนเกิน มิใช่ส่วนสำคัญ
หรือ... อภิมหาเศรษฐีหนุ่ม ใบหน้าสวยงามเลิศล้ำอย่าง ไทธรรพ์ ผู้เป็นที่รักยิ่งดั่งชีวิตจิตใจของสาวสวย ถึงแม้เขาจะเจ้าชู้ไปบ้าง แต่ทั้งชีวิตจิตใจทุ่มเทในรักจริงจัง แต่ความหวังกลับหักพังสลาย สุดท้ายต้องอยู่เดียวดายข้างกายไร้คู่ครอง
หรือ... สาวสวยแชมป์มวยไทยหญิง เพชรน้ำหนึ่ง ถึงจะมีเพียบพร้อมทุกสิ่ง แต่ต้องเกิดมาใช้เวรใช้กรรม ที่เคยกระทำไว้ในชาติก่อน แม้จะสามารถยืนหยัดขึ้นมายิ่งใหญ่ และจิตใจเข้มแข็ง ทนทานต่อความทุกข์กายทุกข์ใจได้ แต่ลึกลงไปข้างในนั้น ไร้ซึ่งความสุขแท้จริง
ความรักเหงา ๆ รานร้าวและเร้าใจ ต่างคนต่างมีกิเลสตัณหา ต้องชดใช้บุญกรรมแห่งความรัก ติดตามข้ามภพชาติศาสนา หนึ่งหญิงสองชายผูกพัน
อ่านเรื่องนี้จบ แล้วคุณจะสงสารใคร? ระหว่าง...
นักดนตรีหนุ่มรูปหล่อ พ่อรวย ราวกับในตำนาน เทพบุตรจุติลงมาเกิดอย่าง ยุติ ผู้ตกอยู่ในวังวนแห่งความเปลี่ยวเหงา ทุกค่ำคืนผ่านไปจิตใจโหยหา แค่เพียงเป็นคนที่เขาเผลอใจรัก แต่เขาไม่ได้เลือก กลายเป็นเหมือนส่วนเกิน มิใช่ส่วนสำคัญ
หรือ... อภิมหาเศรษฐีหนุ่ม ใบหน้าสวยงามเลิศล้ำอย่าง ไทธรรพ์ ผู้เป็นที่รักยิ่งดั่งชีวิตจิตใจของสาวสวย ถึงแม้เขาจะเจ้าชู้ไปบ้าง แต่ทั้งชีวิตจิตใจทุ่มเทในรักจริงจัง แต่ความหวังกลับหักพังสลาย สุดท้ายต้องอยู่เดียวดายข้างกายไร้คู่ครอง
หรือ... สาวสวยแชมป์มวยไทยหญิง เพชรน้ำหนึ่ง ถึงจะมีเพียบพร้อมทุกสิ่ง แต่ต้องเกิดมาใช้เวรใช้กรรม ที่เคยกระทำไว้ในชาติก่อน แม้จะสามารถยืนหยัดขึ้นมายิ่งใหญ่ และจิตใจเข้มแข็ง ทนทานต่อความทุกข์กายทุกข์ใจได้ แต่ลึกลงไปข้างในนั้น ไร้ซึ่งความสุขแท้จริง
Tags: ไตรติมา, คู่หมั้นคืนเหงาใจ, ดราม่า, ซึ้ง, โรแมนติก,
ตอน: ตอน 36[1]
“พี่มีความลับบางอย่างจะพาหนึ่งไปดู”
...หลังจากนั้นไทธรรพ์พาเพชรน้ำหนึ่ง เดินลงไปที่ชั้นใต้ดินของโรงแรม
มีพนักงานรักษาความปลอดภัยนั่งเฝ้าอยู่ สังเกตดูประตูทางลงนั้นเป็นทำจากเหล็กหนา ใช้รีโมทในการเปิดปิด
เดินลงไปใต้ดินอีกชั้นจึงเจอประตูเหล็กลักษณะเดียวกัน ไทธรรพ์เปิดด้วยรีโมท
“ถ้าหากไฟฟ้าดับห้องพวกนี้จะถูกปิดตาย ไม่มีใครเข้าออกได้” ไทธรรพ์บอก
แล้วพาเธอเดินลงมายังห้องสมุดห้องเล็ก ที่จัดชั้นวางหนังสืออย่างเรียบง่ายเต็มผนังห้อง แต่พอไทธรรพ์กดรีโมท ชั้นวางหนังสือเต็มผนังได้เลื่อนเปิดออกเหลือแต่ผนังปูนสีขาวเรียบโล่ง ไทธรรพ์กดรีโมทอีกครั้ง...
ผนังทั้งแผ่นเลื่อนออกหมดเผยให้เห็นสิ่งที่ตื่นตาตื่นใจ ทองคำแท่ง! มันถูกจัดวางเรียงรายกันเป็นชั้นหลายชั้นความสูงเลยศีรษะไปอีก ดูด้วยสายตาแล้วนับจำนวนไม่ถูกเลยว่าเท่าไรมีปริมาณมากมายราวกับโกดังเก็บทอง
ชั้นวางอีกฟากเต็มไปด้วยแบงก์ดอลลาร์เป็นปึกวางเรียงซ้อนกันเป็นชั้น คงนับกันไม่หวาดไม่ไหวอีกเป็นจำนวนเท่าไรไม่ทราบได้
“ทั้งหมดนี่เป็นทรัพย์สมบัติของอายาโกะที่ทิ้งไว้ให้พี่ เมียพี่เป็นเจ้าแม่ยากูซ่าเจ้าของบ่อนกาสิโนใหญ่ ก่อนเสียชีวิตได้ขายบ่อนให้พวกยากูซ่าด้วยกันไป แล้วได้เงินสดและทองคำแท่งพวกนี้มา ถึงมันจะเป็นเงินนอกกฎหมายแต่ทั้งหมดนี่พี่ยินดียกให้หนึ่ง เพราะที่ผ่านมาทุกอย่างพี่ทำเพื่อหนึ่ง ที่พี่ยอมจดทะเบียนแต่งงานกับอายาโกะเพราะมันจะทำให้พี่ร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐียิ่งขึ้นไป”
“ที่ทำไปทั้งหมดเพราะพี่ไทธรรพ์เห็นแก่เงินทอง เพื่อผลประโยชน์ทั้งนั้น ทั้งที่พี่ไทธรรพ์ร่ำรวยมหาศาลอยู่แล้ว หุ้นที่ป๋าให้ตั้งมากมายหลายพันล้าน ทั้งเงินฝากในธนาคาร ยังมีที่ดินราคาแพงอีกหลายแห่งในญี่ปุ่น พี่ไทธรรพ์ยังโลภมากไม่รู้จักพอ ทำไมยังต้องการอยากได้ของคนอื่น ยอมกระทั่งแต่งงานกับผู้หญิงเพื่อเงิน” เพชรน้ำหนึ่งกล่าวตำหนิ
“ถึงพี่จะทำเพื่อเงิน แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลทั้งหมด พี่จะเล่าความหลังครั้งพบคุณอายาโกะให้หนึ่งฟัง เราพบกันบ่อยตอนพี่ไปเที่ยวคาราโอเกะ ตอนนั้นเขาป่วยเป็นมะเร็งและรู้ตัวว่าจะต้องตาย เขาไม่นึกเสียใจหรือกลัวตายสักนิด เขารักพี่มากบอกกับพี่ว่าอยากใช้เวลาที่เหลืออยู่น้อยนิดนั้นกับพี่ ขอเวลาเพียงสองปีให้เขาได้สมหวังในความรัก เวลาที่ได้อยู่กับคนที่รัก แม้เพียงช่วงระยะเวลาแสนสั้นแต่มันประเมินค่าไม่ได้ มีคุณค่ามากมายยิ่งกว่าได้ทรัพย์สินเงินทอง หากมีใครสักคนกำลังจะต้องตายและเขารักเรามาก พี่ไม่อยากปล่อยทิ้งไว้ให้เขาต่อสู้กับโรคร้ายจนตายไปเพียงลำพัง พี่สงสารเขาจึงยอมจดทะเบียนสมรสและใช้ชีวิตอยู่กับเขา ทำทุกอย่างเพื่อให้เขามีความสุขในวาระสุดท้ายชีวิตเท่าที่พี่จะทำให้ได้ พี่เชื่อว่าตอนนี้อายาโกะคงไปสู่สุขคติแล้ว”
“ตอนนั้นที่พี่ไทธรรพ์ไม่ยอมจดทะเบียนสมรสกับหนึ่งเป็นเพราะพี่ไทธรรพ์...” เพชรน้ำหนึ่งเหมือนจะถาม แต่ไทธรรพ์ชิงพูดแทรกขึ้นมาก่อน
“ใช่... ตอนนั้นพี่แต่งงานและจดทะเบียนสมรสกับอายาโกะแล้วไม่อยากบอกให้หนึ่งรู้ เชื่อว่าถ้าบอกหนึ่งต้องรับไม่ได้และไม่ยอมแน่นอน ขนาดพี่ไม่ยอมบอกหนึ่งหนึ่งยังไม่ยอมมีลูกให้พี่เมื่อสองปีก่อนนั้นเลย”
“ทำไมต้องปิดบัง ไม่บอกความจริงกับหนึ่ง”
“พี่กลัวเสียหนึ่งไป ที่เคยปลุกปล้ำพยายามทำให้หนึ่งมีลูกกับพี่นั่นเพราะไม่อยากเสียหนึ่งไป แต่หนึ่งดันหนีไปหมั้นกับยุติเพื่อกีดกันพี่ออกห่าง พี่เชื่อใจหนึ่งว่าไม่มีวันยอมแต่งงานกับยุติ พี่จึงยอมปล่อยหนึ่งไว้กับเขา รอเวลากลับมาหาหนึ่ง” แล้วไทธรรพ์ใช้มือเสยไรผมที่ปรกละใบหน้าเธออย่างนุ่มนวล เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“เหงาไหม เมื่อพี่ไม่ได้อยู่เคียงข้าง”
“เหงา... เหงาอย่างบอกไม่ถูกทีเดียวล่ะ” เพชรน้ำหนึ่งพยักหน้ารับด้วยน้ำตาคลอ
ไทธรรพ์ทรุดร่างลงคุกเข่า สองแขนรวบกอดร่างเพรียวบางไว้ ก่อนจะคลายอ้อมกอดแล้วเอ่ยขอ...
“แต่งงานกับพี่นะหนึ่ง”
ถึงนาทีนี้ที่ได้รับการขอแต่งงาน เพชรน้ำหนึ่งไม่ลังเลที่จะตอบรับ
“ตกลงค่ะ หนึ่งอยากแต่งงานกับพี่ไทธรรพ์อยู่แล้ว แต่หนึ่งคงต้องบอกพี่ยุติก่อน มีปัญหาต้องสะสางกับเขา”
“พี่เข้าใจ พี่จะรอ” ไทธรรพ์กล่าว
...หลังจากนั้นเพชรน้ำหนึ่งได้มอบหนังสือบทกวีให้กับไทธรรพ์ ซึ่งเนื้อหาในนั้นเขียนรำพึงรำพันพรรณนาความเหงาความคิดถึงระหว่างที่ไม่มีคนรักอยู่เคียงข้าง
‘คืนเดือนเหงา’ บทกวีพร้อมภาพประกอบของเพชรน้ำหนึ่งถูกตีพิมพ์ออกมาเป็นหนังสือแล้ว
..........เมื่อเพชรน้ำหนึ่งบอกยุติเรื่องไทธรรพ์ขอแต่งงาน
“การแต่งงานมีครอบครัวไม่ใช่เรื่องล้อเล่นของชีวิตลูกผู้หญิง ต้องเลือกคนดีมาเป็นหัวหน้าครอบครัว หากได้หัวหน้าครอบครัวไม่ดีมีแต่จะลำบากกันไปถึงลูกหลาน หนึ่งไม่อยากได้คนไม่ดี มีผู้หญิงมากมายในโลกนี้ที่มีชีวิตอยู่ไม่เป็นสุขกับสามีไม่ดี หนึ่งไม่อยากเป็นอย่างนั้น”
“ทั้งที่พี่ดีกับหนึ่ง ใครเขาก็เห็นว่าพี่เป็นคนดี ทำความดีเสมอ หนึ่งคิดไปเองว่าพี่เป็นคนไม่ดีหรือเปล่า”
“เปล่า... หนึ่งไม่คิดแบบนั้น พี่ยุติเป็นคนดี ดีมากด้วย”
“แต่ดีเกินไปหนึ่งถึงรักไม่ลงใช่ไหม ท้ายที่สุดแล้ว ผู้หญิงไม่เลือกผู้ชายที่ดีเป็นสามีถึงเห็นมีผู้หญิงที่เป็นทุกข์เพราะสามีอยู่เกลื่อนโลกใบนี้”
“พี่ไทธรรพ์เขาดีกับหนึ่งมาก มากกว่าใครทั้งหมดและเป็นคนดี หนึ่งเลือกเขาเพราะรักเขามาตั้งแต่ต้น เขาคือคนรักเก่าที่กลับมารักกันใหม่ได้อีก”
“นี่หนึ่งหลงคิดว่าเขาคือคนรักเก่าเมื่อชาติก่อนงั้นสิ แน่ใจหรือว่าเขาคือเนื้อคู่ของหนึ่ง”
ยุติกล่าวถ้อยที่ทำให้เพชรน้ำหนึ่งชะงักชักไม่แน่ใจ แต่เพราะความรักความหลงเธอจึงไม่ลังเลอีก
“บางทีพี่ไทธรรพ์อาจเป็นเนื้อคู่ของหนึ่ง แต่จะใช่หรือไม่หนึ่งไม่สนใจแล้ว หนึ่งเชื่อว่าเนื้อคู่กันแล้วไม่แคล้วกัน ถ้าหากหนึ่งได้แต่งงานกับพี่ไทธรรพ์หมายความว่าไม่แคล้วกัน แสดงว่าพี่ไทธรรพ์คือเนื้อคู่เมื่อชาติก่อนของหนึ่ง”
“พี่ไม่เชื่อหรอกว่าไทธรรพ์คือเนื้อคู่ของหนึ่ง เขาไม่ใช่คนรักเก่าเมื่อชาติก่อนของหนึ่ง หนึ่งระลึกชาติของตัวเองไม่ได้จะสรุปอย่างนั้นได้ยังไง ระวังเถอะถ้าแต่งงานไปแล้วจะเสียใจภายหลังหากเนื้อคู่ตัวจริงมาปรากฏ แค่ตอนนี้ลองถามใจตัวเองดูว่ารักไทธรรพ์คนเดียวแน่จริงหรือเปล่า ยังมีชายคนอื่นอยู่ในดวงใจของหนึ่งอยู่บ้างไหมที่หนึ่งหวั่นไหวเผลอใจรักเขา”
ด้วยคำพูดของเขาเท่านี้ที่ทำให้ใจไหวหวั่นของเพชรน้ำหนึ่งต้องนึกสะดุด หันมามองจ้องดวงตาคู่สวยที่ยังคงหวานซึ้งใจ...
“ความจริงหนึ่งรักพี่ยุติเหมือนกัน เป็นความรักที่เกิดขึ้นภายหลังจากการได้ใกล้ชิดสนิทสนมจนได้รู้ใจกัน แต่หนึ่งไม่เคยเลือกพี่ยุติไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตาม”
“ผู้หญิงไม่มีสิทธิ์เลือกผู้ชาย ผู้ชายไม่มีดีไม่มีชั่ว มีแต่แข็งแกร่งหรืออ่อนแอ ธรรมชาติคัดสรรให้คนที่แกร่งกว่าเท่านั้นอยู่รอดเพื่อดำรงเผ่าพันธุ์มนุษย์ต่อไป แล้วหนึ่งจะได้รู้ซึ้งถึงคำพูดของพี่”
..........ยุติพยายามพูดเพื่อหวังให้เพชรน้ำหนึ่งระลึกถึง... วันเวลาที่ได้มีความสุขร่วมกันมา
“หนึ่งไม่เคยนึกถึงวันเวลาของเราบ้างหรือที่ผ่านมาหนึ่งไม่เคยมีความสุขเลยเหรอเมื่อมีพี่อยู่กับหนึ่ง หรือว่าหนึ่งไม่เคยสนใจจะมองพี่เลยตั้งแต่วันแรกเจอทั้งที่พี่เจอหนึ่งก่อนเขา พี่ไม่เคยอยู่ในสายตาหนึ่งไม่มีความหมายสำหรับหนึ่งทั้งที่พี่ก็รักหนึ่ง วันนี้หนึ่งจึงจะทิ้งพี่กลับไปหาเขา”
“หนึ่งไม่ได้ทิ้งพี่ยุติ พี่ยุติมีความหมายสำหรับหนึ่งมาก หนึ่งรักนับถือเหมือนพี่ชายแท้จริงเป็นพี่ที่ช่างประเสริฐและแสนดีกับหนึ่งเสมอ ทั้งชาตินี้หนึ่งไม่มีวันลืมสิ่งดีสารพัดที่พี่ยุติทำให้กับหนึ่ง แต่สิ่งที่ถูกต้องที่สุดคือหนึ่งควรกลับไปหาพี่ไทธรรพ์เมื่อเขากลับมาหาหนึ่ง เรายังรักกันอยู่ เวลาได้พิสูจน์แล้วว่าไม่มีสิ่งใดทำลายความรักระหว่างเราได้ ที่สำคัญพี่ไทธรรพ์ไม่รังเกียจลูกของหนึ่งที่เกิดกับใครที่ไหนไม่รู้ นับเป็นบุญของหนึ่งกับลูกนะ”
“หนึ่งคิดอย่างนั้นไม่ถูกต้องหรอก พี่เป็นพ่อของลูกหนึ่งและเราสองคนได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน เราเป็นคู่หมั้นกันแล้วต้องแต่งงานกันสิ นั่นแหละความถูกต้อง”
“หนึ่งขอบคุณมาก พี่ยุติเป็นผู้มีพระคุณกับหนึ่งทุกอย่างรับเป็นพ่อให้ลูกของหนึ่ง ถึงเราสองคนจะได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน แต่เราสองคนไม่ใช่ผัวเมีย ไม่เหมือนหนึ่งกับพี่ไทธรรพ์”
“เราสองคนไม่ใช่ผัวเมียกัน หนึ่งคิดอย่างนั้นหรือ ถ้าหนึ่งรู้อะไรเป็นอะไรหนึ่งจะไม่มีวันพูดอย่างนี้แน่”
ยุติพูดแปลกไปในความรู้สึกของเพชรน้ำหนึ่ง เธอจึงจ้องมองหน้าเขา
“หมายความว่ายังไงพี่ยุติ” เธอถามและเป็นครั้งแรกที่ยุติเงียบ... ไม่เล่าอะไรให้ฟัง
..........เพชรน้ำหนึ่งและยุติมีเรื่องถกเถียงกันไม่เว้นแต่ละวัน นับแต่ไทธรรพ์กลับคืนมาหาเธอจนกระทั่งขอแต่งงาน
“หนึ่งคืนดีกับเขา? ให้อภัยเขาได้? ทั้งที่เขาทรยศนอกใจแอบซุกเมียไว้ ทอดทิ้งหนึ่งไปตั้งนานแล้วอย่างนั้นเหรอ” ยุติกระแทกเสียงเยาะหยัน
“เขารักหนึ่งจริง ต่อให้ทิ้งไปไหนยังหวนกลับมาซบอกหนึ่ง คราวนี้จริงจังหวังแต่งงานจะไม่จากไปไหน”
“เชื่อเขาเลย พอเขากลับมารีบอ้าแขนรับ ไม่เกี่ยงงอนให้ดูมีศักดิ์ศรีลูกผู้หญิง นี่นะเหรอผู้หญิงที่เป็นหนึ่ง ไม่เป็นสองรองใคร พี่อยากถามความจริงว่าเคยนับไหมว่าตัวเองเป็นคนรักคนที่เท่าไหร่ของไทธรรพ์ ...เฮอะ”
“ไม่ต้องนับจะนับทำไม ในที่สุดสุดท้ายแล้วหนึ่งได้เป็นคนสุดท้ายและเป็นคนเดียวที่พี่ไทธรรพ์รักอยู่ดี”
“คนสุดท้ายคือคนที่รับเละ ไม่รู้ติดโรคอะไรมารึเปล่า มั่วผู้หญิงไม่ใช่เล่นนะพี่ชายสุดที่รักของหนึ่งคนนี้”
“อย่าพูดจาว่าร้ายพี่ไทธรรพ์ให้ฟังดูเลวทรามเลย มันจะย้อนกลับเข้าตัวคนที่ว่าเขา พี่ยุติแน่ใจรึว่าตัวเองไม่เคยมั่วผู้หญิง”
“แล้วมันมีดีวิเศษอะไรมิทราบ หนึ่งถึงหลงงมโข่งเป็นหญิงโง่หลงรักเข้าไปได้” ยุติว่าอย่างแรง
แต่เพชรน้ำหนึ่งไม่ถือโกรธ ส่ายหน้าและอธิบายอย่างง่ายดาย
“อันอ้อยตาลหวานลิ้นแล้วสิ้นซาก แต่ลมปากหวานหูไม่รู้หาย... บทกลอนที่ท่านสุนทรภู่ว่าไว้ พี่ยุติเคยได้ยินมาไม่ใช่หรือ พี่ไทธรรพ์มีอารมณ์ละเมียดละไมเป็นคนเจ้าคารมคมคาย กวีเป็นเช่นไรพี่ไทธรรพ์ก็เป็นเช่นนั้น เราทั้งสองคนเข้ากันได้ดีที่สุด จะหาใครเทียบเท่าพี่ไทธรรพ์ได้ไม่มีอีกแล้ว ที่สำคัญพี่ไทธรรพ์รักหนึ่งมาก มาก มาก... รักไม่มีที่สิ้นสุดและหนึ่งก็รักพี่ไทธรรพ์มากเหมือนกัน เลือกพี่ไทธรรพ์มาตั้งแต่ต้น พี่ยุติคือคนที่มาทีหลังเพราะก่อนหน้านั้นเราสองคนไม่เคยรักกันมาก่อน”
“แล้วที่เรารู้จักกันมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก เราไม่ได้เป็นคนคุ้นเคยกันหรอกเหรอ”
“ตอนเด็กหนึ่งไม่ได้แก่แดดแก่ลมนะจะได้ริรักตั้งแต่ยังเด็กยังเล็ก โดยเฉพาะพี่ยุติทำให้หนึ่งแค้นจำฝังใจเรื่องแฟนของพี่มาด่าว่าหนึ่งให้เสียใจไม่เคยลืม เขากับพวกเพื่อนรังรุมรังแกหนึ่งแต่พี่ยุติไม่เคยปกป้องช่วยเหลือหนึ่งตอนเป็นเด็กนั่นเลย พอหนึ่งโตเป็นวัยรุ่น ได้เจอพี่ไทธรรพ์แล้วแอบชอบ กลายเป็นความรักครั้งแรกเพราะเราเข้ากันได้ดี ตอนนั้นหนึ่งชอบหลบหน้าพี่ยุติ พี่ยุติย่อมรู้ดีอยู่แก่ใจ ส่วนพี่ยุติเองมีแฟนสาวรุมรักไม่เคยว่างเว้น ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาพี่ยุติแฟนเยอะไม่เคยขาด ถ้าวันนี้ไม่มีหนึ่งสักคนจะเป็นไรไป”
ยุติเถียงไม่ออก ความผิดสมัยเด็กของเขาเขาเห็นเป็นเรื่องเล็กน้อยน่าจะให้อภัยกันได้ แต่สำหรับเพชรน้ำหนึ่งกลับเห็นเป็นเรื่องใหญ่หลวงจดจำฝังใจจากสมัยเด็กจนถึงวัยรุ่น ทั้งที่เขาพยายามทำดีด้วยช่วยชีวิตเธอ แต่นั่นเป็นบุญคุณที่เธอจดจำโดยแยกส่วนกับความแค้นทำให้ไม่สามารถลบล้างลงได้ เขาเลยต้องหาเรื่องอื่นมาต่อว่าเธอ
“หนึ่งหลอกพี่? บอกเสมอว่าต้องการเวลาเพื่อทำใจให้ลืมเขาตลอดเวลาที่เขาทอดทิ้งไป แต่ใจจริงหนึ่งไม่เคยเลยที่จะคิดตัดใจ รักแต่เขาหลงแต่เขาแล้วมาปันใจรักพี่ทำไม มารักกันเพื่อคั่นเวลาแก้เหงาเท่านั้นใช่ไหม หนึ่งทำกับพี่เจ็บปวดมาก หนึ่งต้องรับผิดชอบชดใช้ด้วยชีวิต”เป็นคำเรียกร้องจากปากของยุติ
พูดถึงเรื่องจิตใจที่อ่อนไหวของตนเองแล้วนั่นเป็นจุดอ่อนอย่างมากทีเดียว เพชรน้ำหนึ่งยอมรับกับใจตัวเองว่าได้เผลอไปรักเขาเข้าอย่างสุดจะห้ามใจ
“หนึ่งขอโทษ... ขอโทษที่ห้ามใจตัวเองไม่ได้ ความจริงหนึ่งไม่ควรรักพี่ยุติ พยายามห้ามใจตัวเองว่าสักวันหนึ่งต้องเสียใจเพราะพี่ยุติ แต่หนึ่งกลับเผลอใจรักพี่ยุติเข้าอย่างจัง พี่ยุติยกโทษให้หนึ่งเถอะ ยังไงหนึ่งก็รักพี่ไทธรรพ์มากกว่าพี่ยุติและเลือกพี่ไทธรรพ์เพียงคนเดียว หนึ่งจะแต่งงานกับพี่ไทธรรพ์ ถ้า...” ในใจของเพชรน้ำหนึ่งลังเลมากด้วยความอาลัยอาวรณ์เพราะคนนี้เป็นอีกคนที่รักกัน
“ถ้า... อะไรพูดมาสิ ทำท่าทางแบบนี้พี่คาใจ”
“ถ้าคราวนี้มันเกิดอะไรที่ทำให้หนึ่งไม่ได้แต่งงานกับพี่ไทธรรพ์อีก หนึ่งจะเลือกพี่ยุติเพราะหนึ่งรักพี่ยุติมากรองจากพี่ไทธรรพ์”
คำตอบของเพชรน้ำหนึ่งแทนที่จะทำให้ยุติอารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง กลับยิ่งโกรธจนเดือดพลุ่งพล่าน
“พี่ไม่ยอมเป็นรองใคร ลูกผู้ชายมันยอมกันไม่ได้ พี่เป็นคู่หมั้น หมั้นแล้วต้องแต่งงานกับพี่ เรื่องจะปล่อยให้หนึ่งไปแต่งงานกับคนอื่นพี่ไม่ยอม”
“โถ โถ... ไม่ยอมรึอย่างนี้ก็ต้อง...” ไทธรรพ์เว้นวรรคพูดให้ฟังยียวนกวนโมโหยุติ “จำยอมล่ะนะ คารมเป็นต่อรูปหล่อเป็นรอง ทุกยุคทุกสมัยเป็นอย่างนี้และยิ่งสมัยนี้ถ้ามีทั้งคารมทั้งรูปงามเลิศล้ำแถมด้วยร่ำรวยมหาศาล สมบูรณ์แบบเยี่ยงไทธรรพ์คนนี้มีเหรอแค่รูปหล่ออย่างเดียวจะมาสู้ได้ ยังไงคงต้องเป็นพระรอง แค่ตัวสำรอง ผู้ช่วยพระเอก ฮะ ฮะ ฮะ...” ไทธรรพ์ปิดท้ายด้วยเสียงหัวเราะเยาะที่แสนจะเสียดแทงใจยุติ เมื่อจู่ ๆ เขาโผล่เข้ามาและร่วมวงสนทนาอย่างไม่ได้รับเชิญ
“ฉันไม่ใช่แค่หล่ออย่างเดียว ฉันทั้งรูปหล่อพ่อรวยด้วย ไม่ใช่กระจอกงอกง่อย มีเชื้อสายเป็นตระกูลผู้ดีเก่า ไม่ใช่พวกต่ำต้อยที่ได้ดีเพราะอาศัยแต่งงานกับคนรวย” ยุติว่าอย่างผู้รู้ภูมิหลังของไทธรรพ์มาก่อน
“อืม... จริงสิฉันลืมไปว่าแกเป็นลูกคนรวย แต่ทุกวันนี้ยังรับมรดกได้ไม่มาก โรงเรียนเอกชนที่พ่อแกเป็นเจ้าของ ประเมินแล้วประมาณสักกี่ร้อยล้านนะ เอ... รวมกับทรัพย์สินที่ดิน เงินสด ทองคำ หุ้นของแม่แกด้วย คงอีกหลายร้อยล้านที่แน่นอนมีไม่ถึงพันล้าน แต่เรียกว่าเศรษฐีล่ะนะ ส่วนฉันรับมรดกมาจิ๊บจ๊อยแค่ไม่กี่พันล้านเท่านั้นเอง อ้อ... แถมมรดกจากเมียเก่าอีกด้วย แค่นี้ก็นับกันไม่หวาดไม่ไหวแล้ว เพชรน้ำหนึ่งอยากจะแต่งงานกับใครไม่ต้องเดาเลย ความใฝ่ฝันของเพชรน้ำหนึ่งคืออะไร แกรู้ไม่ใช่เหรอ เพชรน้ำหนึ่งอยากก้าวขึ้นมายิ่งใหญ่ ตระกูลทาคาดะของเรามีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ติดอันดับแนะนำลำดับต้นของนักเล่นหุ้นเลยนะ ที่นี่คืออาณาจักรที่มีทั้งคอนโดหรู โรงแรมรีสอร์ท คฤหาสน์ที่เราปลูกสร้างซื้อขายราคาเป็นร้อยล้านพันล้าน เพชรน้ำหนึ่งแต่งงานกับฉันฉันจะยกให้ปกครองอาณาจักรแห่งนี้ ลูกของเพชรน้ำหนึ่งจะเป็นเสมือนเจ้าชายองค์น้อยนั่งนอนอยู่บนกองเงินกองทองสมบูรณ์พูนสุข จริงไหมจ๊ะเพชรน้ำหนึ่งว่าที่ศรีภรรยาของพี่” ไทธรรพ์พูดเล่นกับเพชรน้ำหนึ่ง
ยุตินั้นให้รู้สึกหมั่นไส้มากจึงด่าว่าออกไป
“โถ่เอ๊ยไอ้ลิเกหลงโรงจะไปเล่นที่ไหนก็ไปไป๊ ไปที่ชอบได้ยิ่งดี”
“อ้าว... ไม่เล่นด้วย” ไทธรรพ์บ่น แต่ยังอารมณ์ดีเกินปกติจนไม่เข้ากาลเทศะ แล้ววกมาถามคำถามเจ็บปวดกับยุติ
“แล้วอย่างแกล่ะมีธุรกิจพันล้านรึยัง ทุกวันนี้เป็นนักดนตรีหนุ่มหล่อทรมานใจสาว ได้ทิปคืนละซักกี่ดอลลาร์ ฮะ ฮะ ฮะ...”
“นี่ไอ้... โคตรมหาเศรษฐี” ยุติมิรู้จะสรรหาคำใดมาด่าว่าอีกฝ่าย ในใจนั้นเจ็บ... เจ็บยิ่งกว่าโดนตบหน้าหลายเท่า มันเป็นตลกโหดร้ายทำให้ขำไม่ออก
“พี่ไทธรรพ์หัวเราะเยาะพี่ยุติเกินไปแล้ว พี่ไทธรรพ์มีความสุข แต่พี่ยุติเขามีความทุกข์ ช่วยเกรงใจเขาด้วย”
“พี่พูดล้อเล่น แหม... คนคุ้นเคยกันคิดอะไรมาก แต่สิ่งที่พี่พูดเป็นความจริงนะรับไม่ได้รึ ทำไมหนึ่งต้องเกรงใจยุติด้วย ไม่เห็นมีอะไรให้น่าเกรงใจ แถมปกป้องคุ้มครองหนึ่งไม่ได้ หนึ่งถึงต้องไปท้องกับผู้ชายอื่น พี่ยังไม่เอาเรื่องยุติที่ดูแลหนึ่งได้ไม่ดีเลย”
“แต่พี่ยุติมีบุญคุณกับหนึ่งมาก ตลอดเวลาที่หนึ่งยากลำบากเขาดูแลหนึ่งอย่างดี ไม่เคยทิ้งให้ต้องอยู่ลำพังและในใบเกิดลูกของหนึ่งมีชื่อพี่ยุติรับเป็นพ่อ”
“อ๋อ... ยุติถือเป็นคนมีน้ำใจล่ะนะ สมควรยกย่องให้เป็นพี่ชายที่แสนดีของหนึ่ง แต่ต่อไปพอเราแต่งงานกัน พี่จะได้เป็นพ่อของลูกหนึ่ง รับรองจะรักให้เหมือนเป็นลูกของตัวเอง ถึงเวลานั้นยุติเป็นอันหมดหน้าที่คุณพ่อจำเป็น” ไทธรรพ์กล่าวโดยใจไม่นึกชื่นชมยกย่องยุติ มิวายใช้สายตาแลมองแบบดูหมิ่นดูแคลน
ถ้อยคำท้ายประโยคนั้นมันสะท้อนใจยุติเข้าอย่างเจ็บปวด ใจหายกับคำว่า...
‘หมดหน้าที่ หมดประโยชน์อย่างนั้นเหรอ’
รู้สึกอยากจะร้องไห้ขึ้นมาทันที แต่ต่อหน้าใครในเวลานี้คงทำได้เพียงเบือนหน้าหนี หันมองไปทางอื่น
.
__...__...__...__...__...__...__...__...__...__...__...__...__...__...__...__...__...__...__
.
มีคำพูดของยุติที่พูดกับเพชรน้ำหนึ่งเป็นความจริงเหมือนสัจจธรรมชีวิตอย่างหนึ่ง ที่ว่า...
"ธรรมชาติคัดสรรให้คนที่แกร่งกว่าอยู่รอดเพื่อดำรงเผ่าพันธุ์มนุษย์ต่อไป"
เราจึงได้เห็นผู้ชายชอบแข่งขันกันเรื่อง... ใครใหญ่กว่า ใครรวยกว่า ใครแข็งแกร่งกว่า
ทุกยุคทุกสมัยเป็นอย่างนี้มาโดยตลอด
...หลังจากนั้นไทธรรพ์พาเพชรน้ำหนึ่ง เดินลงไปที่ชั้นใต้ดินของโรงแรม
มีพนักงานรักษาความปลอดภัยนั่งเฝ้าอยู่ สังเกตดูประตูทางลงนั้นเป็นทำจากเหล็กหนา ใช้รีโมทในการเปิดปิด
เดินลงไปใต้ดินอีกชั้นจึงเจอประตูเหล็กลักษณะเดียวกัน ไทธรรพ์เปิดด้วยรีโมท
“ถ้าหากไฟฟ้าดับห้องพวกนี้จะถูกปิดตาย ไม่มีใครเข้าออกได้” ไทธรรพ์บอก
แล้วพาเธอเดินลงมายังห้องสมุดห้องเล็ก ที่จัดชั้นวางหนังสืออย่างเรียบง่ายเต็มผนังห้อง แต่พอไทธรรพ์กดรีโมท ชั้นวางหนังสือเต็มผนังได้เลื่อนเปิดออกเหลือแต่ผนังปูนสีขาวเรียบโล่ง ไทธรรพ์กดรีโมทอีกครั้ง...
ผนังทั้งแผ่นเลื่อนออกหมดเผยให้เห็นสิ่งที่ตื่นตาตื่นใจ ทองคำแท่ง! มันถูกจัดวางเรียงรายกันเป็นชั้นหลายชั้นความสูงเลยศีรษะไปอีก ดูด้วยสายตาแล้วนับจำนวนไม่ถูกเลยว่าเท่าไรมีปริมาณมากมายราวกับโกดังเก็บทอง
ชั้นวางอีกฟากเต็มไปด้วยแบงก์ดอลลาร์เป็นปึกวางเรียงซ้อนกันเป็นชั้น คงนับกันไม่หวาดไม่ไหวอีกเป็นจำนวนเท่าไรไม่ทราบได้
“ทั้งหมดนี่เป็นทรัพย์สมบัติของอายาโกะที่ทิ้งไว้ให้พี่ เมียพี่เป็นเจ้าแม่ยากูซ่าเจ้าของบ่อนกาสิโนใหญ่ ก่อนเสียชีวิตได้ขายบ่อนให้พวกยากูซ่าด้วยกันไป แล้วได้เงินสดและทองคำแท่งพวกนี้มา ถึงมันจะเป็นเงินนอกกฎหมายแต่ทั้งหมดนี่พี่ยินดียกให้หนึ่ง เพราะที่ผ่านมาทุกอย่างพี่ทำเพื่อหนึ่ง ที่พี่ยอมจดทะเบียนแต่งงานกับอายาโกะเพราะมันจะทำให้พี่ร่ำรวยเป็นมหาเศรษฐียิ่งขึ้นไป”
“ที่ทำไปทั้งหมดเพราะพี่ไทธรรพ์เห็นแก่เงินทอง เพื่อผลประโยชน์ทั้งนั้น ทั้งที่พี่ไทธรรพ์ร่ำรวยมหาศาลอยู่แล้ว หุ้นที่ป๋าให้ตั้งมากมายหลายพันล้าน ทั้งเงินฝากในธนาคาร ยังมีที่ดินราคาแพงอีกหลายแห่งในญี่ปุ่น พี่ไทธรรพ์ยังโลภมากไม่รู้จักพอ ทำไมยังต้องการอยากได้ของคนอื่น ยอมกระทั่งแต่งงานกับผู้หญิงเพื่อเงิน” เพชรน้ำหนึ่งกล่าวตำหนิ
“ถึงพี่จะทำเพื่อเงิน แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลทั้งหมด พี่จะเล่าความหลังครั้งพบคุณอายาโกะให้หนึ่งฟัง เราพบกันบ่อยตอนพี่ไปเที่ยวคาราโอเกะ ตอนนั้นเขาป่วยเป็นมะเร็งและรู้ตัวว่าจะต้องตาย เขาไม่นึกเสียใจหรือกลัวตายสักนิด เขารักพี่มากบอกกับพี่ว่าอยากใช้เวลาที่เหลืออยู่น้อยนิดนั้นกับพี่ ขอเวลาเพียงสองปีให้เขาได้สมหวังในความรัก เวลาที่ได้อยู่กับคนที่รัก แม้เพียงช่วงระยะเวลาแสนสั้นแต่มันประเมินค่าไม่ได้ มีคุณค่ามากมายยิ่งกว่าได้ทรัพย์สินเงินทอง หากมีใครสักคนกำลังจะต้องตายและเขารักเรามาก พี่ไม่อยากปล่อยทิ้งไว้ให้เขาต่อสู้กับโรคร้ายจนตายไปเพียงลำพัง พี่สงสารเขาจึงยอมจดทะเบียนสมรสและใช้ชีวิตอยู่กับเขา ทำทุกอย่างเพื่อให้เขามีความสุขในวาระสุดท้ายชีวิตเท่าที่พี่จะทำให้ได้ พี่เชื่อว่าตอนนี้อายาโกะคงไปสู่สุขคติแล้ว”
“ตอนนั้นที่พี่ไทธรรพ์ไม่ยอมจดทะเบียนสมรสกับหนึ่งเป็นเพราะพี่ไทธรรพ์...” เพชรน้ำหนึ่งเหมือนจะถาม แต่ไทธรรพ์ชิงพูดแทรกขึ้นมาก่อน
“ใช่... ตอนนั้นพี่แต่งงานและจดทะเบียนสมรสกับอายาโกะแล้วไม่อยากบอกให้หนึ่งรู้ เชื่อว่าถ้าบอกหนึ่งต้องรับไม่ได้และไม่ยอมแน่นอน ขนาดพี่ไม่ยอมบอกหนึ่งหนึ่งยังไม่ยอมมีลูกให้พี่เมื่อสองปีก่อนนั้นเลย”
“ทำไมต้องปิดบัง ไม่บอกความจริงกับหนึ่ง”
“พี่กลัวเสียหนึ่งไป ที่เคยปลุกปล้ำพยายามทำให้หนึ่งมีลูกกับพี่นั่นเพราะไม่อยากเสียหนึ่งไป แต่หนึ่งดันหนีไปหมั้นกับยุติเพื่อกีดกันพี่ออกห่าง พี่เชื่อใจหนึ่งว่าไม่มีวันยอมแต่งงานกับยุติ พี่จึงยอมปล่อยหนึ่งไว้กับเขา รอเวลากลับมาหาหนึ่ง” แล้วไทธรรพ์ใช้มือเสยไรผมที่ปรกละใบหน้าเธออย่างนุ่มนวล เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“เหงาไหม เมื่อพี่ไม่ได้อยู่เคียงข้าง”
“เหงา... เหงาอย่างบอกไม่ถูกทีเดียวล่ะ” เพชรน้ำหนึ่งพยักหน้ารับด้วยน้ำตาคลอ
ไทธรรพ์ทรุดร่างลงคุกเข่า สองแขนรวบกอดร่างเพรียวบางไว้ ก่อนจะคลายอ้อมกอดแล้วเอ่ยขอ...
“แต่งงานกับพี่นะหนึ่ง”
ถึงนาทีนี้ที่ได้รับการขอแต่งงาน เพชรน้ำหนึ่งไม่ลังเลที่จะตอบรับ
“ตกลงค่ะ หนึ่งอยากแต่งงานกับพี่ไทธรรพ์อยู่แล้ว แต่หนึ่งคงต้องบอกพี่ยุติก่อน มีปัญหาต้องสะสางกับเขา”
“พี่เข้าใจ พี่จะรอ” ไทธรรพ์กล่าว
...หลังจากนั้นเพชรน้ำหนึ่งได้มอบหนังสือบทกวีให้กับไทธรรพ์ ซึ่งเนื้อหาในนั้นเขียนรำพึงรำพันพรรณนาความเหงาความคิดถึงระหว่างที่ไม่มีคนรักอยู่เคียงข้าง
‘คืนเดือนเหงา’ บทกวีพร้อมภาพประกอบของเพชรน้ำหนึ่งถูกตีพิมพ์ออกมาเป็นหนังสือแล้ว
..........เมื่อเพชรน้ำหนึ่งบอกยุติเรื่องไทธรรพ์ขอแต่งงาน
“การแต่งงานมีครอบครัวไม่ใช่เรื่องล้อเล่นของชีวิตลูกผู้หญิง ต้องเลือกคนดีมาเป็นหัวหน้าครอบครัว หากได้หัวหน้าครอบครัวไม่ดีมีแต่จะลำบากกันไปถึงลูกหลาน หนึ่งไม่อยากได้คนไม่ดี มีผู้หญิงมากมายในโลกนี้ที่มีชีวิตอยู่ไม่เป็นสุขกับสามีไม่ดี หนึ่งไม่อยากเป็นอย่างนั้น”
“ทั้งที่พี่ดีกับหนึ่ง ใครเขาก็เห็นว่าพี่เป็นคนดี ทำความดีเสมอ หนึ่งคิดไปเองว่าพี่เป็นคนไม่ดีหรือเปล่า”
“เปล่า... หนึ่งไม่คิดแบบนั้น พี่ยุติเป็นคนดี ดีมากด้วย”
“แต่ดีเกินไปหนึ่งถึงรักไม่ลงใช่ไหม ท้ายที่สุดแล้ว ผู้หญิงไม่เลือกผู้ชายที่ดีเป็นสามีถึงเห็นมีผู้หญิงที่เป็นทุกข์เพราะสามีอยู่เกลื่อนโลกใบนี้”
“พี่ไทธรรพ์เขาดีกับหนึ่งมาก มากกว่าใครทั้งหมดและเป็นคนดี หนึ่งเลือกเขาเพราะรักเขามาตั้งแต่ต้น เขาคือคนรักเก่าที่กลับมารักกันใหม่ได้อีก”
“นี่หนึ่งหลงคิดว่าเขาคือคนรักเก่าเมื่อชาติก่อนงั้นสิ แน่ใจหรือว่าเขาคือเนื้อคู่ของหนึ่ง”
ยุติกล่าวถ้อยที่ทำให้เพชรน้ำหนึ่งชะงักชักไม่แน่ใจ แต่เพราะความรักความหลงเธอจึงไม่ลังเลอีก
“บางทีพี่ไทธรรพ์อาจเป็นเนื้อคู่ของหนึ่ง แต่จะใช่หรือไม่หนึ่งไม่สนใจแล้ว หนึ่งเชื่อว่าเนื้อคู่กันแล้วไม่แคล้วกัน ถ้าหากหนึ่งได้แต่งงานกับพี่ไทธรรพ์หมายความว่าไม่แคล้วกัน แสดงว่าพี่ไทธรรพ์คือเนื้อคู่เมื่อชาติก่อนของหนึ่ง”
“พี่ไม่เชื่อหรอกว่าไทธรรพ์คือเนื้อคู่ของหนึ่ง เขาไม่ใช่คนรักเก่าเมื่อชาติก่อนของหนึ่ง หนึ่งระลึกชาติของตัวเองไม่ได้จะสรุปอย่างนั้นได้ยังไง ระวังเถอะถ้าแต่งงานไปแล้วจะเสียใจภายหลังหากเนื้อคู่ตัวจริงมาปรากฏ แค่ตอนนี้ลองถามใจตัวเองดูว่ารักไทธรรพ์คนเดียวแน่จริงหรือเปล่า ยังมีชายคนอื่นอยู่ในดวงใจของหนึ่งอยู่บ้างไหมที่หนึ่งหวั่นไหวเผลอใจรักเขา”
ด้วยคำพูดของเขาเท่านี้ที่ทำให้ใจไหวหวั่นของเพชรน้ำหนึ่งต้องนึกสะดุด หันมามองจ้องดวงตาคู่สวยที่ยังคงหวานซึ้งใจ...
“ความจริงหนึ่งรักพี่ยุติเหมือนกัน เป็นความรักที่เกิดขึ้นภายหลังจากการได้ใกล้ชิดสนิทสนมจนได้รู้ใจกัน แต่หนึ่งไม่เคยเลือกพี่ยุติไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตาม”
“ผู้หญิงไม่มีสิทธิ์เลือกผู้ชาย ผู้ชายไม่มีดีไม่มีชั่ว มีแต่แข็งแกร่งหรืออ่อนแอ ธรรมชาติคัดสรรให้คนที่แกร่งกว่าเท่านั้นอยู่รอดเพื่อดำรงเผ่าพันธุ์มนุษย์ต่อไป แล้วหนึ่งจะได้รู้ซึ้งถึงคำพูดของพี่”
..........ยุติพยายามพูดเพื่อหวังให้เพชรน้ำหนึ่งระลึกถึง... วันเวลาที่ได้มีความสุขร่วมกันมา
“หนึ่งไม่เคยนึกถึงวันเวลาของเราบ้างหรือที่ผ่านมาหนึ่งไม่เคยมีความสุขเลยเหรอเมื่อมีพี่อยู่กับหนึ่ง หรือว่าหนึ่งไม่เคยสนใจจะมองพี่เลยตั้งแต่วันแรกเจอทั้งที่พี่เจอหนึ่งก่อนเขา พี่ไม่เคยอยู่ในสายตาหนึ่งไม่มีความหมายสำหรับหนึ่งทั้งที่พี่ก็รักหนึ่ง วันนี้หนึ่งจึงจะทิ้งพี่กลับไปหาเขา”
“หนึ่งไม่ได้ทิ้งพี่ยุติ พี่ยุติมีความหมายสำหรับหนึ่งมาก หนึ่งรักนับถือเหมือนพี่ชายแท้จริงเป็นพี่ที่ช่างประเสริฐและแสนดีกับหนึ่งเสมอ ทั้งชาตินี้หนึ่งไม่มีวันลืมสิ่งดีสารพัดที่พี่ยุติทำให้กับหนึ่ง แต่สิ่งที่ถูกต้องที่สุดคือหนึ่งควรกลับไปหาพี่ไทธรรพ์เมื่อเขากลับมาหาหนึ่ง เรายังรักกันอยู่ เวลาได้พิสูจน์แล้วว่าไม่มีสิ่งใดทำลายความรักระหว่างเราได้ ที่สำคัญพี่ไทธรรพ์ไม่รังเกียจลูกของหนึ่งที่เกิดกับใครที่ไหนไม่รู้ นับเป็นบุญของหนึ่งกับลูกนะ”
“หนึ่งคิดอย่างนั้นไม่ถูกต้องหรอก พี่เป็นพ่อของลูกหนึ่งและเราสองคนได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน เราเป็นคู่หมั้นกันแล้วต้องแต่งงานกันสิ นั่นแหละความถูกต้อง”
“หนึ่งขอบคุณมาก พี่ยุติเป็นผู้มีพระคุณกับหนึ่งทุกอย่างรับเป็นพ่อให้ลูกของหนึ่ง ถึงเราสองคนจะได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน แต่เราสองคนไม่ใช่ผัวเมีย ไม่เหมือนหนึ่งกับพี่ไทธรรพ์”
“เราสองคนไม่ใช่ผัวเมียกัน หนึ่งคิดอย่างนั้นหรือ ถ้าหนึ่งรู้อะไรเป็นอะไรหนึ่งจะไม่มีวันพูดอย่างนี้แน่”
ยุติพูดแปลกไปในความรู้สึกของเพชรน้ำหนึ่ง เธอจึงจ้องมองหน้าเขา
“หมายความว่ายังไงพี่ยุติ” เธอถามและเป็นครั้งแรกที่ยุติเงียบ... ไม่เล่าอะไรให้ฟัง
..........เพชรน้ำหนึ่งและยุติมีเรื่องถกเถียงกันไม่เว้นแต่ละวัน นับแต่ไทธรรพ์กลับคืนมาหาเธอจนกระทั่งขอแต่งงาน
“หนึ่งคืนดีกับเขา? ให้อภัยเขาได้? ทั้งที่เขาทรยศนอกใจแอบซุกเมียไว้ ทอดทิ้งหนึ่งไปตั้งนานแล้วอย่างนั้นเหรอ” ยุติกระแทกเสียงเยาะหยัน
“เขารักหนึ่งจริง ต่อให้ทิ้งไปไหนยังหวนกลับมาซบอกหนึ่ง คราวนี้จริงจังหวังแต่งงานจะไม่จากไปไหน”
“เชื่อเขาเลย พอเขากลับมารีบอ้าแขนรับ ไม่เกี่ยงงอนให้ดูมีศักดิ์ศรีลูกผู้หญิง นี่นะเหรอผู้หญิงที่เป็นหนึ่ง ไม่เป็นสองรองใคร พี่อยากถามความจริงว่าเคยนับไหมว่าตัวเองเป็นคนรักคนที่เท่าไหร่ของไทธรรพ์ ...เฮอะ”
“ไม่ต้องนับจะนับทำไม ในที่สุดสุดท้ายแล้วหนึ่งได้เป็นคนสุดท้ายและเป็นคนเดียวที่พี่ไทธรรพ์รักอยู่ดี”
“คนสุดท้ายคือคนที่รับเละ ไม่รู้ติดโรคอะไรมารึเปล่า มั่วผู้หญิงไม่ใช่เล่นนะพี่ชายสุดที่รักของหนึ่งคนนี้”
“อย่าพูดจาว่าร้ายพี่ไทธรรพ์ให้ฟังดูเลวทรามเลย มันจะย้อนกลับเข้าตัวคนที่ว่าเขา พี่ยุติแน่ใจรึว่าตัวเองไม่เคยมั่วผู้หญิง”
“แล้วมันมีดีวิเศษอะไรมิทราบ หนึ่งถึงหลงงมโข่งเป็นหญิงโง่หลงรักเข้าไปได้” ยุติว่าอย่างแรง
แต่เพชรน้ำหนึ่งไม่ถือโกรธ ส่ายหน้าและอธิบายอย่างง่ายดาย
“อันอ้อยตาลหวานลิ้นแล้วสิ้นซาก แต่ลมปากหวานหูไม่รู้หาย... บทกลอนที่ท่านสุนทรภู่ว่าไว้ พี่ยุติเคยได้ยินมาไม่ใช่หรือ พี่ไทธรรพ์มีอารมณ์ละเมียดละไมเป็นคนเจ้าคารมคมคาย กวีเป็นเช่นไรพี่ไทธรรพ์ก็เป็นเช่นนั้น เราทั้งสองคนเข้ากันได้ดีที่สุด จะหาใครเทียบเท่าพี่ไทธรรพ์ได้ไม่มีอีกแล้ว ที่สำคัญพี่ไทธรรพ์รักหนึ่งมาก มาก มาก... รักไม่มีที่สิ้นสุดและหนึ่งก็รักพี่ไทธรรพ์มากเหมือนกัน เลือกพี่ไทธรรพ์มาตั้งแต่ต้น พี่ยุติคือคนที่มาทีหลังเพราะก่อนหน้านั้นเราสองคนไม่เคยรักกันมาก่อน”
“แล้วที่เรารู้จักกันมาตั้งแต่ยังเป็นเด็ก เราไม่ได้เป็นคนคุ้นเคยกันหรอกเหรอ”
“ตอนเด็กหนึ่งไม่ได้แก่แดดแก่ลมนะจะได้ริรักตั้งแต่ยังเด็กยังเล็ก โดยเฉพาะพี่ยุติทำให้หนึ่งแค้นจำฝังใจเรื่องแฟนของพี่มาด่าว่าหนึ่งให้เสียใจไม่เคยลืม เขากับพวกเพื่อนรังรุมรังแกหนึ่งแต่พี่ยุติไม่เคยปกป้องช่วยเหลือหนึ่งตอนเป็นเด็กนั่นเลย พอหนึ่งโตเป็นวัยรุ่น ได้เจอพี่ไทธรรพ์แล้วแอบชอบ กลายเป็นความรักครั้งแรกเพราะเราเข้ากันได้ดี ตอนนั้นหนึ่งชอบหลบหน้าพี่ยุติ พี่ยุติย่อมรู้ดีอยู่แก่ใจ ส่วนพี่ยุติเองมีแฟนสาวรุมรักไม่เคยว่างเว้น ตั้งแต่ไหนแต่ไรมาพี่ยุติแฟนเยอะไม่เคยขาด ถ้าวันนี้ไม่มีหนึ่งสักคนจะเป็นไรไป”
ยุติเถียงไม่ออก ความผิดสมัยเด็กของเขาเขาเห็นเป็นเรื่องเล็กน้อยน่าจะให้อภัยกันได้ แต่สำหรับเพชรน้ำหนึ่งกลับเห็นเป็นเรื่องใหญ่หลวงจดจำฝังใจจากสมัยเด็กจนถึงวัยรุ่น ทั้งที่เขาพยายามทำดีด้วยช่วยชีวิตเธอ แต่นั่นเป็นบุญคุณที่เธอจดจำโดยแยกส่วนกับความแค้นทำให้ไม่สามารถลบล้างลงได้ เขาเลยต้องหาเรื่องอื่นมาต่อว่าเธอ
“หนึ่งหลอกพี่? บอกเสมอว่าต้องการเวลาเพื่อทำใจให้ลืมเขาตลอดเวลาที่เขาทอดทิ้งไป แต่ใจจริงหนึ่งไม่เคยเลยที่จะคิดตัดใจ รักแต่เขาหลงแต่เขาแล้วมาปันใจรักพี่ทำไม มารักกันเพื่อคั่นเวลาแก้เหงาเท่านั้นใช่ไหม หนึ่งทำกับพี่เจ็บปวดมาก หนึ่งต้องรับผิดชอบชดใช้ด้วยชีวิต”เป็นคำเรียกร้องจากปากของยุติ
พูดถึงเรื่องจิตใจที่อ่อนไหวของตนเองแล้วนั่นเป็นจุดอ่อนอย่างมากทีเดียว เพชรน้ำหนึ่งยอมรับกับใจตัวเองว่าได้เผลอไปรักเขาเข้าอย่างสุดจะห้ามใจ
“หนึ่งขอโทษ... ขอโทษที่ห้ามใจตัวเองไม่ได้ ความจริงหนึ่งไม่ควรรักพี่ยุติ พยายามห้ามใจตัวเองว่าสักวันหนึ่งต้องเสียใจเพราะพี่ยุติ แต่หนึ่งกลับเผลอใจรักพี่ยุติเข้าอย่างจัง พี่ยุติยกโทษให้หนึ่งเถอะ ยังไงหนึ่งก็รักพี่ไทธรรพ์มากกว่าพี่ยุติและเลือกพี่ไทธรรพ์เพียงคนเดียว หนึ่งจะแต่งงานกับพี่ไทธรรพ์ ถ้า...” ในใจของเพชรน้ำหนึ่งลังเลมากด้วยความอาลัยอาวรณ์เพราะคนนี้เป็นอีกคนที่รักกัน
“ถ้า... อะไรพูดมาสิ ทำท่าทางแบบนี้พี่คาใจ”
“ถ้าคราวนี้มันเกิดอะไรที่ทำให้หนึ่งไม่ได้แต่งงานกับพี่ไทธรรพ์อีก หนึ่งจะเลือกพี่ยุติเพราะหนึ่งรักพี่ยุติมากรองจากพี่ไทธรรพ์”
คำตอบของเพชรน้ำหนึ่งแทนที่จะทำให้ยุติอารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง กลับยิ่งโกรธจนเดือดพลุ่งพล่าน
“พี่ไม่ยอมเป็นรองใคร ลูกผู้ชายมันยอมกันไม่ได้ พี่เป็นคู่หมั้น หมั้นแล้วต้องแต่งงานกับพี่ เรื่องจะปล่อยให้หนึ่งไปแต่งงานกับคนอื่นพี่ไม่ยอม”
“โถ โถ... ไม่ยอมรึอย่างนี้ก็ต้อง...” ไทธรรพ์เว้นวรรคพูดให้ฟังยียวนกวนโมโหยุติ “จำยอมล่ะนะ คารมเป็นต่อรูปหล่อเป็นรอง ทุกยุคทุกสมัยเป็นอย่างนี้และยิ่งสมัยนี้ถ้ามีทั้งคารมทั้งรูปงามเลิศล้ำแถมด้วยร่ำรวยมหาศาล สมบูรณ์แบบเยี่ยงไทธรรพ์คนนี้มีเหรอแค่รูปหล่ออย่างเดียวจะมาสู้ได้ ยังไงคงต้องเป็นพระรอง แค่ตัวสำรอง ผู้ช่วยพระเอก ฮะ ฮะ ฮะ...” ไทธรรพ์ปิดท้ายด้วยเสียงหัวเราะเยาะที่แสนจะเสียดแทงใจยุติ เมื่อจู่ ๆ เขาโผล่เข้ามาและร่วมวงสนทนาอย่างไม่ได้รับเชิญ
“ฉันไม่ใช่แค่หล่ออย่างเดียว ฉันทั้งรูปหล่อพ่อรวยด้วย ไม่ใช่กระจอกงอกง่อย มีเชื้อสายเป็นตระกูลผู้ดีเก่า ไม่ใช่พวกต่ำต้อยที่ได้ดีเพราะอาศัยแต่งงานกับคนรวย” ยุติว่าอย่างผู้รู้ภูมิหลังของไทธรรพ์มาก่อน
“อืม... จริงสิฉันลืมไปว่าแกเป็นลูกคนรวย แต่ทุกวันนี้ยังรับมรดกได้ไม่มาก โรงเรียนเอกชนที่พ่อแกเป็นเจ้าของ ประเมินแล้วประมาณสักกี่ร้อยล้านนะ เอ... รวมกับทรัพย์สินที่ดิน เงินสด ทองคำ หุ้นของแม่แกด้วย คงอีกหลายร้อยล้านที่แน่นอนมีไม่ถึงพันล้าน แต่เรียกว่าเศรษฐีล่ะนะ ส่วนฉันรับมรดกมาจิ๊บจ๊อยแค่ไม่กี่พันล้านเท่านั้นเอง อ้อ... แถมมรดกจากเมียเก่าอีกด้วย แค่นี้ก็นับกันไม่หวาดไม่ไหวแล้ว เพชรน้ำหนึ่งอยากจะแต่งงานกับใครไม่ต้องเดาเลย ความใฝ่ฝันของเพชรน้ำหนึ่งคืออะไร แกรู้ไม่ใช่เหรอ เพชรน้ำหนึ่งอยากก้าวขึ้นมายิ่งใหญ่ ตระกูลทาคาดะของเรามีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ติดอันดับแนะนำลำดับต้นของนักเล่นหุ้นเลยนะ ที่นี่คืออาณาจักรที่มีทั้งคอนโดหรู โรงแรมรีสอร์ท คฤหาสน์ที่เราปลูกสร้างซื้อขายราคาเป็นร้อยล้านพันล้าน เพชรน้ำหนึ่งแต่งงานกับฉันฉันจะยกให้ปกครองอาณาจักรแห่งนี้ ลูกของเพชรน้ำหนึ่งจะเป็นเสมือนเจ้าชายองค์น้อยนั่งนอนอยู่บนกองเงินกองทองสมบูรณ์พูนสุข จริงไหมจ๊ะเพชรน้ำหนึ่งว่าที่ศรีภรรยาของพี่” ไทธรรพ์พูดเล่นกับเพชรน้ำหนึ่ง
ยุตินั้นให้รู้สึกหมั่นไส้มากจึงด่าว่าออกไป
“โถ่เอ๊ยไอ้ลิเกหลงโรงจะไปเล่นที่ไหนก็ไปไป๊ ไปที่ชอบได้ยิ่งดี”
“อ้าว... ไม่เล่นด้วย” ไทธรรพ์บ่น แต่ยังอารมณ์ดีเกินปกติจนไม่เข้ากาลเทศะ แล้ววกมาถามคำถามเจ็บปวดกับยุติ
“แล้วอย่างแกล่ะมีธุรกิจพันล้านรึยัง ทุกวันนี้เป็นนักดนตรีหนุ่มหล่อทรมานใจสาว ได้ทิปคืนละซักกี่ดอลลาร์ ฮะ ฮะ ฮะ...”
“นี่ไอ้... โคตรมหาเศรษฐี” ยุติมิรู้จะสรรหาคำใดมาด่าว่าอีกฝ่าย ในใจนั้นเจ็บ... เจ็บยิ่งกว่าโดนตบหน้าหลายเท่า มันเป็นตลกโหดร้ายทำให้ขำไม่ออก
“พี่ไทธรรพ์หัวเราะเยาะพี่ยุติเกินไปแล้ว พี่ไทธรรพ์มีความสุข แต่พี่ยุติเขามีความทุกข์ ช่วยเกรงใจเขาด้วย”
“พี่พูดล้อเล่น แหม... คนคุ้นเคยกันคิดอะไรมาก แต่สิ่งที่พี่พูดเป็นความจริงนะรับไม่ได้รึ ทำไมหนึ่งต้องเกรงใจยุติด้วย ไม่เห็นมีอะไรให้น่าเกรงใจ แถมปกป้องคุ้มครองหนึ่งไม่ได้ หนึ่งถึงต้องไปท้องกับผู้ชายอื่น พี่ยังไม่เอาเรื่องยุติที่ดูแลหนึ่งได้ไม่ดีเลย”
“แต่พี่ยุติมีบุญคุณกับหนึ่งมาก ตลอดเวลาที่หนึ่งยากลำบากเขาดูแลหนึ่งอย่างดี ไม่เคยทิ้งให้ต้องอยู่ลำพังและในใบเกิดลูกของหนึ่งมีชื่อพี่ยุติรับเป็นพ่อ”
“อ๋อ... ยุติถือเป็นคนมีน้ำใจล่ะนะ สมควรยกย่องให้เป็นพี่ชายที่แสนดีของหนึ่ง แต่ต่อไปพอเราแต่งงานกัน พี่จะได้เป็นพ่อของลูกหนึ่ง รับรองจะรักให้เหมือนเป็นลูกของตัวเอง ถึงเวลานั้นยุติเป็นอันหมดหน้าที่คุณพ่อจำเป็น” ไทธรรพ์กล่าวโดยใจไม่นึกชื่นชมยกย่องยุติ มิวายใช้สายตาแลมองแบบดูหมิ่นดูแคลน
ถ้อยคำท้ายประโยคนั้นมันสะท้อนใจยุติเข้าอย่างเจ็บปวด ใจหายกับคำว่า...
‘หมดหน้าที่ หมดประโยชน์อย่างนั้นเหรอ’
รู้สึกอยากจะร้องไห้ขึ้นมาทันที แต่ต่อหน้าใครในเวลานี้คงทำได้เพียงเบือนหน้าหนี หันมองไปทางอื่น
.
__...__...__...__...__...__...__...__...__...__...__...__...__...__...__...__...__...__...__
.
มีคำพูดของยุติที่พูดกับเพชรน้ำหนึ่งเป็นความจริงเหมือนสัจจธรรมชีวิตอย่างหนึ่ง ที่ว่า...
"ธรรมชาติคัดสรรให้คนที่แกร่งกว่าอยู่รอดเพื่อดำรงเผ่าพันธุ์มนุษย์ต่อไป"
เราจึงได้เห็นผู้ชายชอบแข่งขันกันเรื่อง... ใครใหญ่กว่า ใครรวยกว่า ใครแข็งแกร่งกว่า
ทุกยุคทุกสมัยเป็นอย่างนี้มาโดยตลอด
ไตรติมา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 20 ม.ค. 2561, 15:05:28 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 20 ม.ค. 2561, 15:38:47 น.
จำนวนการเข้าชม : 986
<< 35[2] | ตอน 36[2] >> |
ไตรติมา 20 ม.ค. 2561, 15:09:51 น.
โหลดอีบุ๊กได้ที่ >>
https://www.mebmarket.com/ebook-50709-คู่หมั้นคืนเหงาใจ
โหลดฟรีอีบุ๊ก >> https://www.mebmarket.com/ebook-51222-คู่หมั้นคืนเหงาใจ-ฉบับพิเศษ
ติดตามอัพเดท-กดไลค์เพจ >> https://www.facebook.com/oranamarinlove
หาอ่านเพิ่มได้ >> https://writer.dek-d.com/aunnan/writer/view.php?id=1354376
http://www.tunwalai.com/story/126612
http://www.niyayrak.com/novels/khuuhmankhuuenehngaaaicch
https://www.readawrite.com/a/f17b63d878e1e227361ddce49b95fecd
โหลดอีบุ๊กได้ที่ >>
https://www.mebmarket.com/ebook-50709-คู่หมั้นคืนเหงาใจ
โหลดฟรีอีบุ๊ก >> https://www.mebmarket.com/ebook-51222-คู่หมั้นคืนเหงาใจ-ฉบับพิเศษ
ติดตามอัพเดท-กดไลค์เพจ >> https://www.facebook.com/oranamarinlove
หาอ่านเพิ่มได้ >> https://writer.dek-d.com/aunnan/writer/view.php?id=1354376
http://www.tunwalai.com/story/126612
http://www.niyayrak.com/novels/khuuhmankhuuenehngaaaicch
https://www.readawrite.com/a/f17b63d878e1e227361ddce49b95fecd
coonX3 20 ม.ค. 2561, 17:47:01 น.
ยังมีความลับที่นายยุตยังไม่เปิดอีก ปมปัญหาเรื่องรักๆนี่แก้ยากมาก
ยังมีความลับที่นายยุตยังไม่เปิดอีก ปมปัญหาเรื่องรักๆนี่แก้ยากมาก