เล่ห์รักสาวนักพิสูจน์อักษร (ใช้ชื่อนี้ไปก่อนค่ะ)
เล่ห์รัก สาวนักพิสูจน์อักษร

พีระดาสาวน้อยแสนสวยวัยยี่สิบสี่ที่ไม่ได้สวมแว่นตาหนาเตอะ แต่เธอใส่คอนแทคเลนส์แฟชั่นและสวมรองเท้าส้นสูงปรี๊ดแต่งตัวเปรี้ยวจี๊ดมาทำงานเป็นหัวหน้าทีมพิสูจน์อักษรให้กับสำนักพิมพ์นิยายชื่อดังซึ่งเป็นธุรกิจของครอบครัวเพราะเรียนจบมาทางด้านนี้โดยตรง เธอเกิดตกหลุมรักนักเขียนหนุ่มเจ้าของนามปากกาเมาคลี ที่เธอได้รับมอบหมายพิสูจน์อักษรให้เขาอยู่บ่อยครั้งจนหลงคิดไปว่าเขาคงเป็นชายหนุ่มใจดีสุดแสนโรแมนติกเหมือนดั่งนิยายรักอันแสนหวานที่เขาเป็นผู้ประพันธ์ผ่านปลายปากกาเอาล่ะถ้าเธอจะเลือกใครมาเป็นแฟนตัวจริงสักทีขอให้ได้เขาคนนี้เถิดสาธุ…

แต่แล้วความเป็นจริงมันกลับไม่เป็นเช่นนั้นเมื่อภาคินัยเป็นผู้ชายโมโหร้าย เอาแต่ใจ และมือไวเป็นที่หนึ่งเขารู้มาจากเพื่อนซี้ที่ทำงานวาดภาพปกนิยายว่ามีหญิงสาวแอบคลั่งไคล้เขาเอามากๆ ชายหนุ่มจินตนาการไปถึงใบหน้าแสนเฉิ่มและยิ้มหยันประกาศสียงดังว่าแม่สาวนักพิสูจน์อักษรแสนเฉิ่มแบบนั้นเขาไม่มีวันสนใจและเธอคงไม่มีวันได้แอ่มเขาอย่างแน่นอนแม้แต่ขาอ่อนขาวๆ ของเขาเธอก็คงไม่มีวันได้เห็น

แต่คำพูดทั้งหมดนั้นมันบังเอิญไปเข้าสองหูของพีระดา หญิงสาวควันออกหูภาพพระเอกในใจของเขาถูกลดเกรดให้เป็นเพียงตัวร้ายในทันที ให้ตายเถอะชาตินี้เธอสาบานเลยว่าจะต้องพาเขาขึ้นเตียงกับเธอให้ได้จากนั้นก็จะเขี่ยเขาลงจากเตียงน้ำตาของนายภาคินัยจะต้องเช็ดหัวเข่า

ภาคินัยเปลี่ยนคู่นอนไปเรื่อยๆ เขามันเป็นคาสโนว่าตัวร้ายที่ไม่ค่อยจะมีใครรู้นักว่าอีกด้านหนึ่งเขาเป็นนักเขียนชื่อดัง เขาใช้ประสบการณ์ในการร่วมรักกับสาวๆ หลายคนซึ่งพวกหล่อนเต็มใจ แล้วนำประสบการณ์มาบรรยายในบทเลิฟซีนที่เขาเขียนจนนักอ่านบางคนนั้นติดอกติดใจเคลิบเคลิ้มไปกับแต่ละฉากแต่ละตอนและที่สำคัญมันแทบจะไม่เคยซ้ำกันเลย
แต่แล้วเมื่อวันหนึ่งหัวใจของเขามันแทบจะหยุดเต้นเมื่อเพื่อนสนิทชวนไปดูงานแฟชั่นโชว์ซึ่งเขาไม่ค่อยชอบสักเท่าไหร่ เขาพบนางแบบสาวคนสวยดาวดวงใหม่ประดับวงการเธอช่างน่ารักถูกใจเขาจนคิดอยากจะจีบเธอเอามาเป็นคู่ชีวิตจริงๆ ให้ตายถ้าทำได้เขาอยากจะอุ้มเธอลงมาจากแคตวอล์กและไปขึ้นเตียงของเขาเสียเดี๋ยวนี้เลย( ที่สำคัญเธอคงไม่รู้หรอกว่าเขาเคยเห็นเธอครั้งหนึ่งแล้วเมื่อสองปีก่อนที่ขายร้านขายรองเท้าแบรนด์ดังถึงกับเอาเธอมาจินตนาการเป็นนางเอกในนิยายเล่มแรกของเขา)

ชายหนุ่มดีใจจนเนื้อเต้นเมื่อจู่ๆหญิงสาวที่แอบหมายปองก็พาตัวมาสนิทกับเขาจนภาคินัยเห็นสวรรค์รอยู่รำไรข้างหน้า แต่แล้วเขาก็ต้องเจ็บปวดและเสียหน้าอย่างแรง เมื่อพีระดาบอกว่าเธอสนใจเพื่อนเขาต่างหากนั่นคื่อเวหา เพื่อนที่สนิทที่สุดของภาคินัย
ส่วนเขานั่นเหรอมันก็เป็นแค่สะพานให้เธอเดินข้ามไปเท่านั้น และแล้วเธอก็ไปคบกับเพื่อนของเขาอย่างเปิดเผยทำให้ภาคินัยรู้สึกเจ็บแปลบไปถึงขั้วหัวใจ แต่ว่าทำไมเธอถึงแอบส่งสายตามายั่วยวนเขาอยู่บ่อยๆเวลาเพื่อนเขาเผลอ มันยังไงกันแน่หรือแม่นางแบบสาวผู้เร่าร้อนคนนี้คิดจะจับปลาสองมือ ได้สิในเมื่อหล่อนอยากจะทำตัวเป็นแม่ปลาไหลเขาก็จะเป็นใบข่อย เขาจะจัดการรีดเมือกให้หล่อนหมดโอกาสลื่นไหลไปหาใครต่อใครได้อีก เพราะหล่อนต้องเป็นของเขาคนเดียวเท่านั้น

+++++++++++++++++++++++++++++


Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ตอนที่ 7

ตอนที่ 7


พีระดามองเงาสะท้อนจากกระจกรถยนต์เห็นหลังของเอิ๊กไวไว เหมือนกำลังเดินไปที่รถ ไหนเมื่อสักครู่
คุณเอิ๊กบอกว่าเขาไม่ได้เอารถมา หญิงสาวขมวดคิ้วนายคลีนี่ก็ช่างไม่รู้อะไรบ้างเลยว่าเพื่อนเขาเพิ่งจะบอกความในใจกับเธออยู่แท้ๆ จู่ๆก็เอาตัวเข้ามาแทรกแบบไม่รู้สึกรู้สา แม้พีระดาจะไม่รู้สึกอะไรกับเอิ๊กเกินกว่าเพื่อนแต่ความเห็นอกเห็นใจและความสงสารมันกับพุ่งขึ้นจนเกือบจะเต็มร้อย
ไม่เป็นไรยังมีเวลาอีกมากที่จะเอาคืนนายคลี “คุณคลีคะ พรีมเปลี่ยนใจแล้วค่ะพรีมขอกลับกับคุณเอิ๊กนะคะพอดีเรายังมีเรื่องที่คุยกันไม่จบ” จากนั้นพีระดาก็เปิดประตูลงจากรถท่ามกลางความมึนงงของคลี
“อะไรกัน” คลีมองตามนางแบบคนสวย

“คุณพรีมเดี๋ยวสิครับ” แต่พีระดาไม่แม้แต่จะหันกลับมามอง

+++++++++++++++++++++


เอิ๊กเปิดประตูรถยนต์ด้วยหัวใจห่อเหี่ยวแต่ไม่เสียใจที่ได้บอกความรู้สึกภายในใจกับพีระดาเขาทำเต็มที่แล้ว

“ไหนบอกว่าไม่ได้เอารถมา จะกลับแท็กซี่ไม่ใช่เหรอคะ”


เสียงหวานที่เอิ๊กจำได้ดี เขารีบหันกลับไปหาเจ้าขอเสียง “คุณดา!”


“ไปส่งดาที่คอนโดหน่อยได้ไหมคะ”


“เชิญครับ เอ่อ...แล้วนายคลีล่ะครับ”

“ดาไล่เขากลับไปแล้วค่ะ” พีระดายิ้มให้เอิ๊กก่อนจะพาร่างระหงเข้าไปนั่งในรถเก๋งเก่าๆของเอิ๊ก


“ไล่ เลยเหรอครับ” ประกายตาของเอิ๊กส่อแววความหวัง

“รถผมมันเก่าไปหน่อยนะครับ” เอิ๊กพูดอย่างอายๆ หัวใจเต้นตึกตักไม่คิดว่าพีระดาจะยอมกลับด้วย

“ไม่เป็นไรค่ะจะเก่าจะใหม่ขอให้มันไปถึงจุดหมายปลายทางก็พอ”

ระหว่างทางเอิ๊กกลับเงียบเขาไม่พูดอะไรออกมาอีกเลยจนพีระดาต้องเป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อน

“คุณเอิ๊กคะ เรื่องนั้นที่คุณบอกดาในร้านอาหาร”

เอิ๊กเม้มริมฝีกปากนิดหน่อยหัวคิ้วดกเข้มขมวดเข้าหากันเหมือนกำลังตัดสินใจจะพูดอะไรบางอย่าง

“ใช่ครับผมหลงรักคุณดาตั้งแต่วันแรกที่เห็นคุณเดินเข้ามาในสำนักพิมพ์แต่ยิ่งรู้จักคุณผมก็รู้ว่าคุณดาสูงเกินที่คนอย่างผมจะเอื้อมไปถึง แต่ผมก็ไม่อาจตัดใจได้สักครั้ง ผมจึงเลือกที่จะบอกคุณแต่ช่างมันเถอะครับ”

เอิ๊กจอดรถใกล้ๆสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง แต่ทว่าเป็นเวลาเกือบสามทุ่มทำให้สวนสาธารณะแห่งนี้เงียบสงบ


พีระดาลงจากรถและเดินไปยืนข้างเอิ๊ก “คุณเอิ๊กคะ”

“ที่ตามมาเพราะสงสารใช่ไหมครับ สงสาร เห็นใจ แต่ไม่ได้รัก” เขาหันใบหน้าหล่อเซอร์มาสบสายตาเธอ แววตาของเขามองเธอด้วยความอ่อนโยนแต่ปนด้วยความเศร้าจนหญิงสาวรู้สึกสะท้อนใจ


“คุณเอิ๊ก” หญิงสาวเอื้อมมือไปแตะที่บ่ากว้างของเขาเพียงเบาๆ


และสิ่งที่เธอไม่คาดคิดก็คือเขาหันกลับมารั้งเอวบางกลมกลึ่งของเธอตวัดเข้าหาตัว ก่อนที่เขาจะโถมน้ำหนักมากอดเธอเอาไว้แนบแน่นซบใบหน้าหล่อไว้กับซอกคอขาวหอมกรุ่น

“ผมพยายาม แล้วนะครับ แต่ผมก็ทำไม่ได้เชื่อไหมครับคุณดาตอนนี้ผมวาดหน้าผู้หญิงคนไหนสุดท้ายมันก็จะกลายเป็นใบหน้าของคุณ”


ทุกอย่างดูเงียบสงบได้ยินเพียงเสียงใบไม้แห้งที่ล่วงลงจากพื้นและเสียงเต้นจากหัวใจของผู้ชายคนหนึ่ง

ใบหน้าของพีระดาก็กำลังซบอยู่กับไหล่ของเอิ๊กเธอรู้สึกตกใจ แต่ก็สัมผัสได้ถึงอุ่นไอความรักที่แผ่ซ่านออกมาจากร่างสูง


“คุณเอิ๊ก” เธอไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าเพราะอะไรจึงปล่อยให้เขากอดเธออยู่แบบนั้นจนเนิ่นนาน


รถสีดำยี่ห้อหรูแล่นผ่านไปอย่างช้าๆ ชายหนุ่มผิวขาวหน้าเข้มลดกระจกออกมามองให้เห็นชัดๆ ว่าหนุ่มสาวที่กำลังกอดกันกลมอยู่ตรงสวนสาธารณะใช่คนที่เขารู้จักรึเปล่า


“คุณพรีม ไอ้เอิ๊ก!” คลีขับผ่านไปแล้ว แต่ยังมองคนทั้งคู่จากกระจกด้านหน้าคนขับ ความรู้สึกของเขาเหมือนมีก้อนอะไรมาจุกอยู่ที่อกมันทรมานเหลือเกิน อาการแบบนี้เรียกว่าอกหักได้รึเปล่า ทั้งๆที่เพิ่งเจอพรีมได้ไม่กี่วันแต่หัวใจเขามันกับยกให้เธอไปตั้งแต่วินาทีแรกที่พบ คลีได้แต่ถามหัวใจตัวเองไปตลอดทาง


“คุณเอิ๊กคะปล่อยดาเถอะค่ะ”


“ผมขอโทษครับคุณดา” เอิ๊กคลายอ้อมกอดลง “ไปครับผมจะไปส่งคุณ และผมสัญญาว่าต่อไปนี้ผมจะไม่ใช้ความอ่อนแอภายในหัวใจมาฉวยโอกาสกับคุณดาอีก”


“คุณเอิ๊ก” พีระดาจับมือชายหนุ่มเธอรู้สึกได้ว่ามือแข็งแรงของเขาสั่นอยู่นิดๆ “ดาขอเวลาคุณเอิ๊กสักหน่อยนะคะดาเองยังไม่แน่ใจตัวเอง ดาไม่อยากให้ความหวังคุณเพราะถ้าในวันข้างหน้ามันไม่ใช่อาจจะยิ่งทำให้คุณเจ็บปวดมากกว่าดาปฏิเสธคุณออกไปตอนนี้”


“ผมพร้อมจะเสี่ยงครับคุณดา ขอเพียงให้โอกาสผมแม้ว่าความหวังมันจะลางเลือนก็ตาม”


“คุณเอิ๊ก” น้ำเสียงของหญิงสาวประหลาดใจ “แม้ว่าตอนนี้ดากำลังยุ่งเกี่ยวกับเพื่อนของคุณอยู่ คุณก็ทนได้เหรอคะ”


เอิ๊กนิ่ง และคิดไปถึงคลี “คุณดากำลังคิดจะทำอะไรเหรอครับ”

“ดากำลังจะสั่งสอนให้คนอวดดีคนที่ขยี้หัวใจของดาได้รับความเจ็บปวดคืนไปบ้างยังไงล่ะคะ” แววตาฉายแววอาฆาตออกมาแวบหนึ่ง


“ถึงว่า นายคลีถึงได้รู้จักคุณดาแต่กลับไม่รู้ว่าคุณคือคนที่เอาโหลคุกกี้ฟาดหัวมันจนแตกต้องไปเย็บยี่สิบเข็ม”

“ใช่ค่ะ และคุณจะทนได้เหรอที่จะเห็นดาไปพัวพันกับเพื่อนรักของคุณ” เธอถามเขาตรงๆ



“คุณดาเลิกเจ้าคิดเจ้าแค้นได้ไหมครับ ผมรู้ว่าคุณเสียใจเรื่องนายคลีที่มันดูถูกคุณ เหยียดหยามคุณตั้งแต่ยังไม่เคยเห็นหน้ากัน แต่จะมีประโยชน์อะไรที่จะทำแบบนี้ อีกอย่างนายคลีมันเป็นเพื่อนผม ผมรู้นิสัยมันดียิ่งอยู่ใกล้มันคุณดาจะยิ่งเปลืองตัวเปล่าๆ ปล่อยมันไปและมาเริ่มต้นใหม่กับผมเถอะครับ” เขาบีบมือบางของเธอเอาไว้แน่น


“ถ้าไม่ได้สั่งสอนนายคลี ชาตินี้ดาคงนอนตายตาไม่หลับ” พีระดากล่าวอย่างมั่นคง นัยน์ตาหวานใสมีแววแห่งความอาฆาตฉายขึ้นมาอีกแวบหนึ่ง


“คุณดา!” เอิ๊กไม่อยากเห็นผู้หญิงที่เขารักเป็นคนอาฆาตแค้นแบบนี้เลย


“ในเมื่อดาเลือกจะทำแบบนี้แล้วคุณเอิ๊กจะไม่เปลี่ยนใจเหรอคะ ถ้าอีกคนก็เป็นเพื่อนคุณ อีกคนก็เป็น....”


“เป็นผู้หญิงที่ผมรักหมดใจ” เอิ๊กตอบแทน

“ใช่ค่ะ”



“ครับผมยอมรับว่าลำบากใจมากแค่คิดก็เห็นแววยุ่งยากมาแต่ไกลแล้ว ผมจะทนได้ไหมเวลาเห็นคุณอยู่ใกล้ไอ้คลี และเพื่อนผมก็เสือผู้หญิงตัวพ่อผมจะห่วงคุณมากแค่ไหน” เอิ๊กถอนหายใจยาว


“เห็นไหมคะว่ามันไม่มีความสุขเลยสักนิด เราเดินคนละเส้นทางดีกว่าค่ะ”


“คุณดาครับ ได้โปรดเปลี่ยนใจเถอะครับแผลร้ายที่ไอ้คลีมันสร้างไว้กับหัวใจของคุณดา ได้โปรดลืมมันไปสักที”


“ดาอยากกลับคอนโดไปพักผ่อนแล้วค่ะ ตอนนี้ดาไม่สามารถจะตอบอะไรคุณเอิ๊กได้ขอเวลาดาสักหน่อยนะคะ”


ชายหนุ่มยืนนิ่งก่อนจะตอบคำสั้น ๆ “ครับ” เอิ๊กพยักหน้ารับคำ “ไปครับผมจะไปส่ง” ++++++++++++++++++++++++++++

คลีกลับถึงคอนโดก่อนพีระดานานแล้วและเขากำลังรอเธออยู่ ตั้งแต่รถเก๋งคันเก่าๆ สีขาวของเอิ๊กเลี้ยวเข้าประตูคอนโดมาสายตาของคลีก็ยังคงไม่กระพริบสักนิดเขามองจนกระทั่งเพื่อนรักเปิดประตูให้หญิงสาวจนกระทั่งเอิ๊กขับรถออกไปจากคอนโด

“ร่าน ร้อยเล่ห์ มารยา ยั่วเราคนเดียวไม่พอยังไปยุ่งกับไอ้เอิ๊ก นึกว่าจะเป็นผู้หญิงดีๆ ที่แท้ก็อสรพิษนี่เอง” คลีหยิบนิยายเล่มแรกในชีวิตที่หน้าปกนางเอกนิยายถอดพิมพ์มาจากใบหน้าของพีระดาปาลงที่พื้น เขารู้สึก โกรธ หงุดหงิด และสับสน ถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่นเขาจะไม่แคร์สักนิดเพราะเขาจะผ่านแล้วผ่านเลย

“นี่เหรอผู้หญิงในฝันของเรา มีนิสัยแบบนี้เอง ร่าน กร้านผู้ชาย”


“ถ้าคิดจะจับปลาสองมือก็ได้เลยคุณพรีม นายคลีคนนี้จะจัดให้อย่างเต็มพิกัด” คลีหัวเสียอย่างนัก ยิ่งคิดไปถึงเอิ๊กยิ่งรู้สึกเจ็บแค้นแทนเพื่อน เขาคิดว่าเพื่อนรักคงถูกหญิงสาวปั่นหัวเช่นเดียวกัน


คลีหันไปมองโทรศัพท์และกระตุกยิ้มเหี้ยมเกรียมนิดหน่อย

“สวัสดีครับคุณพรีมถึงคอนโดหรือยังครับ” คลีกรอกน้ำเสียงเป็นปกติ

“ถึงแล้วค่ะ”


“ถ้าอย่างนั้นผมลงไปหานะครับ”


“เอ่อ...อย่าดีกว่าค่ะพอดีพรีมจะอาบน้ำแล้วเข้านอน” อาบน้ำเหรอคืนนี้ผมจะทำให้คุณอาบเหงื่อแทน คุณคงไม่รู้ว่าคนอย่างผมเกลียดที่สุดคือผู้หญิงที่ชอบปั่นหัวผู้ชาย

“ไม่เสียเวลามากนักหรอกครับผมแค่มีอะไรบางอย่างจะคุยกับคุณ”

“ถ้าอย่างนั้นก็ได้ค่ะ”


พีระดาวางโทรศัพท์ลง “จะมาทำไมดึกดื่นป่านนี้หรือว่า.... ใช่คนอย่างนายคลีเราต้องระวังตัวเอาไว้เป็นดี”

ไม่นานนักเสียงกริ่งก็ดังขึ้น


“มาเร็วนะคะ ถ้าธุระไม่ด่วนคุณคลีบอกพรีมมาตรงนี้เลยก็ได้ค่ะ พอดีวันนี้ห้องพรีมลกมากไม่อยากให้เห็นค่ะ”


แอบซ่อนผู้ชายไว้อีกคนหรือยังไงถึงไม่ยอมให้เข้า “ผมรบกวนเวลาคุณพรีมไม่นานหรอกครับ ผมจะรีบคุยธุระแล้วมีของจะให้จากนั้นจะรีบกลับไป” คลีดันประตูและแทรกกายเข้ามาในห้อง สายตาของเขากวาดมองสิ่งผิดปกติแต่ไม่พบ


ก่อนที่คลีจะลงมาพีระดาตัดสินใจว่าจะเลิกยุ่งเกี่ยวกับเขาบางทีแก้แค้นไปก็อาจจะไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีอย่างที่เอิ๊กว่า ยุ่งกับนายคลีมีแต่เปลืองตัว หากคนที่เรารักเขาเห็นเราเป็นแค่ก้อนกรวดไม่มีค่า แต่คนที่เขารักเราเขากลับเห็นเราเป็นเพชรเม็ดงามเราควรจะเลือกแบบไหนพีระดาตัดสินใจได้แล้ว


“ว่าเรื่องของคุณมาสิคะ” น้ำเสียงของพีระดาขุ่นเพราะคิดจะถอยจึงไม่ใส่ใจ หรือว่าใช้สายตายั่วยวนเขาอย่างเคย

“คุณคิดจะทำอะไร” ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไป ฉายแววความไม่พอใจออกมากจนเด่นชัด


“เรื่องอะไรฉันไม่เข้าใจ”


“คุณปั่นหัวผม คุณมายั่วผม แต่แล้วก็ไปกอดกันกลมกับเพื่อนของผมคิดจะจับปลาสองมือหรือไง”

พีระดาฉุนจัด “ใครไปยั่วคุณไม่ทราบ” เธอตวาดเสียงเข้ม

“ก็คุณนั่นแหละ” นิ้วชี้ของเขาจิ้มไปที่หัวใจของเธอ แถมยังมองหน้าแบบหาเรื่อง

“ออกไป! ”ใช่เธอควรเชื่อคุณเอิ๊ก ตั้งแต่กลับมาถึงคอนโดพีระดาก็นั่งคิดอยู่ตลอดว่าเธอควรจะลามือกับการคิดจะสั่งสอนเข้าให้รู้สำนึก เพราะเขาคงไม่สำนึก อีกอย่างบางมุมหมอนี่ดูเถื่อนจนน่ากลัวแต่ไม่คิดว่าจะเจอเหตุการณ์แบบนี้เสียก่อน

“ผมไม่ออก เป็นไงอยากเทียบเหรอว่าผมกับเพื่อนใครมันจะถูกใจกว่ากันกลางวันยั่วผม กลางคืนยั่วนายเอิ๊ก”


“ทุเรศ หยาบคาย ออกไปจากห้องฉันเดี๋ยวนี้ก่อนฉันจะตาม รปภ ขึ้นมาลากตัวคุณออกไป”

“ไปแน่แต่ว่าขอผมสั่งสอนผู้หญิงแพศยาแบบคุณเสียก่อน” เขาพูดไม่ทันจบก็อุ้มาร่างบางลอยลิ่วไปทางห้องนอนแม่ว่าเธอจะดีดดิ้นทุบตีเขาไปตลอด

“รู้ไหมว่าผมคิดจริงจังกับคุณ แต่ไม่คิดเลยว่าผู้หญิงสวยๆอย่างคุณมันจะร้อยเล่ห์มารยาแบบนี้”


“ปล่อยฉัน คุณน่ะเหรอ คิดจริงจังกับใครเป็น คุณมันก็ผู้ชายเศษสวะดีๆนี่เอง ไม่เคยมองผู้หญิงที่นิสัย หรือความดี แค่หน้าตาผ่านคุณก็พร้อมจะกระโจนขึ้นเตียงแล้ว”

“ก็ไม่ต่างจากผู้หญิงอย่างคุณถ้าเจอผู้ชาย หน้าตาดี มีเงินก็พร้อมจะกระโดดไปนอนรอบนเตียงเหมือนกัน”

“ไอ้คนเลว ถ่อย สถุล” พีระดาข่วนเล็บยาวของเธอไปที่หน้าของเขาแต่ชายหนุ่มเบี่ยงตัวหลบจึงทำให้พลาดไปที่ลำคอเลือดสดๆไหลซึมออกมาคลีรู้สึกได้ถึงความเจ็บแปลบ เขาโยนร่างบางลงบนเตียงของเธออย่างแรงจากนั้นโถมร่างตามลงไปจนที่นอนยวบไปตามแรงกดทับ


“คนอย่างผมไม่เคยหักหาญน้ำใจผู้หญิงคนไหน แต่ผู้หญิงร้ายๆ ที่เห็นผู้ชายเป็นขนมหวานแบบคุณมันสมควรที่จะได้รับบทเรียนเสียบ้าง”

เขากดเธอไว้กับที่นอนแม้จะยากลำบากเพราะเธอดิ้นอยู่ตลอดเวลาแต่เพียงไม่นานเขาก็จัดการกับเสื้อผ้าของเขาและเธอได้อย่างชนิดหมดเปลือก เหลือแต่ร่างเปลือยสองร่าง น้ำตาของพีระดาไหลรินตอนนี้เธอกลับคิดถึงเอิ๊ก

“น้ำตามันไม่ช่วยอะไรหรอกคุณพรีม ผมไม่ใช่ไก่อ่อนอย่างไอ้เอิ๊กมัน” คลีคิดจะสั่งสอนให้พีระดารู้สึกพิษสงของผู้ชายแต่ไม่คิดจะข่มขืนเธอจริงๆ เขาคิดจะหยุดมันเมื่อข่มขู่เธอได้จนพอใจแล้ว

คางสากๆและจมูกโด่งเป็นสันก้มลงซุกหน้าลงกับอกอวบหยุ่นที่สวยที่สุดตั้งแต่เขาเคยเห็นมาไม่สนใจว่าเธอจะร้องไห้และสั่งให้เขาหยุดมัน ริมฝีปากบางถูกปิดด้วยริมฝีปากร้อนของเขาลิ้นเรียวสากเล็กน้อยเข้าไปฉกชิมความหวานในโพรงปากของหญิงสาว มือหนาไล้ไปตามเนินสาวอย่างจาบจ้วงเธอได้ยินเสียงของเขาหัวเราะเพียงเบาๆ นิ้วเรียวยาวของเขากดน้ำหนักลงไปตรงใจกลางความเป็นหญิง ร่างของสาวกระตุกขึ้นเพราะรู้สึกเจ็บแปลบๆ

“ไม่นะ”

คลีรู้สึกควบคุมตัวเองไม่ได้จากที่คิดจะสั่งสอนแต่ตอนนี้กับอยากครอบครองเธอขึ้นมาอย่างแท้จริงๆ


“ฉันไม่ยอมเป็นของคนเลวแบบคุณหรอกไอ้คนไม่มีหัวใจ” พีระดานึกถึงคำที่พี่สาวเคยบอกเธอว่าหากเกิดเรื่องร้ายแรงขึ้น จุดยุทธศาสตร์ของผู้ชายมันอยู่ตรงนั้นใจกลางระหว่างขาสองข้าง บีบให้มั่นคั้นให้ตายๆ รับรองผู้ชายหน้าไหนก็ไม่สามารถจะมาล่วงละเมิดเราได้

“ลองดูสิว่าผมกับเพื่อนผมใครจะทำได้ถูกใจคุณมากกว่ากัน หรือถ้าไม่สาแก่ใจจะทั้งสองคนพร้อมกันก็ได้” คลีเผลอไผลไปกับซอกคอขาวผ่องเธอทำให้เขาอารมณ์กระเจิดกระเจิง

หญิงสาวหยุดร้องไห้ ใช้ความใจกล้าลูบไประหว่างขาของเขาจนคลีรู้สึกประหลาดใจ

เขาสูดปากรู้สึกเสียวซ่านจนเสียงเข้มของเขาเปลี่ยนเป็นเสียงร้องคราง“โอ๊ย! คุณพรีมครับ” เขาครวญครางออกมาได้อีกเพียงไม่นานเสียงกระเซ่าจากความเสียวซ่านก็แปรเปลี่ยนเป็นเสียงร้องแห่งความเจ็บปวด


“โอ๊ย! คุณพรีมปล่อยผมคุณจะทำอะไร”

“บีบให้มั่นแล้วคั้นให้ตาย แบบที่พี่สาวฉันเคยสอนไว้ยังไงล่ะ”

คลีหน้าเขียวหน้าเหลืองเหงื่อไหลผุดขึ้นจนเต็มใบหน้าหล่อ “ปล่อยเถอะครับคุณพรีมผมเจ็บ” คลีร้องเสียงหลง

“ไม่ นายมันเลวชาติชั่ว คิดจะรังแกฉัน” พรีมกร่นด่าพร้อมน้ำตาเปื้อนแก้ม


ปังๆๆ เสียงเคาะประตูดังถี่ยิบ “คุณดาครับ คุณดา”

“เสียงของคุณเอิ๊ก” ราวกับว่าสวรรค์ส่งคนมาช่วยเธอ ทั้งที่เธอกำลังช่วยตัวเองให้ปลอดภัย และเธอก็ทำได้


“สิ่งที่คุณจะเสียต่อไปนอกจากเสียใจที่กล้าล่วงเกินฉัน ก็คือเสียเพื่อนรักไปตลอดกาล”

หญิงสาวตวัดผ้าห่มรัดร่างอย่างรวดเร็วและวิ่งไปเปิดประตูทั้งน้ำตา ในขณที่คลีรีบใส่เสื้อผ้าเต็มไปด้วยความเจ็บปวดอย่างแสนสาหัส


เมื่อประตูเปิดออกเอิ๊กแทบจะรับร่างบางที่พุ่งเข้าหาไม่ทัน “คุณดาเกิดอะไรขึ้นครับ” เขามองสภาพของเธอที่มีผ้าห่มสีขาวพันตัวผมยุ่งเหยิงใบหน้าเปื้อนคราบน้ำตา

“ไอ้คนสารเลวนั่นคิดจะข่มเหงดา ดีที่ว่าคุณเอิ๊กมาทันเวลา” เอิ๊กมองตามนิ้วของพีระดา


“ไอ้คลี ไอ้สารเลว” ไม่กี่ก้าวเอิ๊กก็ถึงตัวคลีพร้อมกับส่งมัดรุ่นเสยคางเพื่อนรักอย่างแรงโดยไม่ฟังเหตุผลใดๆ ทั้งสิ้น

“ไอ้เอิ๊กอะไรกัน ฟังฉันก่อนสิเพื่อน” คลีที่เจ็บตัวจนไม่มีทางสู้อยู่แล้วต้องล้มลงไปอีก

พีระดามองมาด้วยแววตาสาแก่ใจ “ฉันเสียใจ แต่นายเสียเพื่อนนายคลีคราวนี้เราหายกัน”

“ต่อไปนี้กูกับมึงไม่ใช่เพื่อนกันอีกต่อไปไอ้คลี ไอ้เพื่อนเลว” ทั้งสองปล้ำชกกันเป็นพัลวัน แต่หญิงสาวยืนยิ้มด้วยแววตาสาแก่ใจ ซึ่งคลีมองเห็นมันเข้าพอดี

“ทำไม” คลีพูดเบาๆ เขาไม่เข้าใจผู้หญิงคนนี้
+++++++++++++++++++++++++++++++++++





อัปสรา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 16 ส.ค. 2554, 10:10:43 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 7 ก.ย. 2554, 11:34:38 น.

จำนวนการเข้าชม : 4870





<< ตอนที่ 6   ตอนที่ 8 >>
แพม 16 ส.ค. 2554, 11:14:34 น.
โฮ๊ะ! นึกว่าจะเสียทีซะแล้ว เจ่ง!


อัปสรา 16 ส.ค. 2554, 12:27:50 น.
ยังหรอกค่ะ เรื่องนี้นางเอกก็ร้ายไม่เบาไม่แพ้น้องกระท้อนเลย


violette 16 ส.ค. 2554, 13:54:09 น.
โอ้ สงสารนายเอิ๊กกก เห็นแววแพ้ตั้งแต่ไม่เริ่มเลย
ต้องหาสาวมาดามใจนะคะ
(เป็นพวกสงสารพระรองฮ่าๆป


เบลินญา 16 ส.ค. 2554, 15:11:35 น.
นางเอกเราแน่มากเลยค่ะ
มันต้องแบบนี้สิ อย่ายอมง่าย ๆ นะคะ


kaero 16 ส.ค. 2554, 15:26:39 น.
ร้ายพอๆๆกันนะเนี่ย


XaWarZd 16 ส.ค. 2554, 15:31:41 น.
นายเอิ๊กกน่าสงสารสุด หรือว่าจริงแล้วนายเอิ๊กเป็นพระเอกน๊า ฮุๆ


ling 16 ส.ค. 2554, 15:42:36 น.
เกือบไปแล้วนางเอก


อัปสรา 16 ส.ค. 2554, 16:14:43 น.
นายเอิ๊กจะรู้ไหมมีคนเขาให้กำลังใจเยอะนะ


กาซะลองพลัดถิ่น 16 ส.ค. 2554, 16:23:12 น.
เอ้า ทำไมทำให้เพื่อนรักเขาแตกคอกันอ่ะ เพียงแค่ผู้ชายคนหนึ่งที่พูดจาแบบปากพล่อย ๆ แค่นี้เองเหรอ ...


แพรพริมา 16 ส.ค. 2554, 16:46:02 น.
มาเป็นกำลังใจให้น้องสาวค่ะ สู้ๆ นะจ๊ะ


anOO 16 ส.ค. 2554, 17:50:01 น.
สมน้ำหน้านัก ทำอะไรไม่คิดให้รอบคอบ


ann 16 ส.ค. 2554, 18:04:20 น.
พระเอกน่าสงสารเหมือนกันนะเนี่ย


ปูสีน้ำเงิน 16 ส.ค. 2554, 20:32:43 น.
นางเอกหรือนางร้ายกันแน่เนี่ย


lovemuay 16 ส.ค. 2554, 21:54:04 น.
นายคลีก็จะยิ่งแค้นสิคะเนี่ย ^^


pseudolife 18 ส.ค. 2554, 22:34:27 น.
แก้แค้นนายคลีน่ะสะใจ แต่ทำให้เพื่อนผิดใจกันไม่ดีหนอ


shotang 31 ม.ค. 2556, 18:44:11 น.
ทำไมทำยังงี้ล่ะนี่


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account