พนาพร่ำรัก: หอมดึก (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
เมื่อ 'พนสณฑ์' ทายาทเจ้าสัวพันล้าน ถูกกลั่นแกล้งให้รับมรดกเป็นที่ดินรกร้าง พร้อมเงื่อนไขต้องสร้างเงินล้านให้ได้ภายในปีเดียว แถมยังพ่วงเมียขัดดอก ลูกสาวนักพนันมาด้วย จะไหวไหมงานนี้...


***************

นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "หอมดึก" และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ซึ่งกำลังวางจำหน่ายอยู่ในตอนนี้ค่ะ ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ ใครชอบแนวโรแมนติก น่ารักละมุน หวานซึ้ง มิควรพลาดจ้า เพราะพ่อสณฑ์ของเราถึงแม้จะเป็นพระเอกสายโหด แต่ขยัน ‘รัก’ เมียสุดหัวใจ พ่วงด้วยความฮาแบบชาวบ้านตามท้องไร่ท้องนา บทเลิฟซีนสวย #รับประกันความสนุก!


**************

นักอ่านท่านใดสนใจ มีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ

**สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 3 ช่องทาง***
-ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
-ร้านนิยายออนไลน์ ได้แก่ ร้านนิยายรัก.com และร้าน booksforfun
-สั่งซื้อกับสนพ.โดยตรงโดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์


(หนังสือพร้อมส่ง)


ราคา 329฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 40฿ (รวมเป็น 369฿)
ค่าจัดส่ง EMS 60฿ (รวมเป็น 389฿)

หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"

**แบบ eBook มีวางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket**
Tags: แบดบอย ทายาทเศรษฐี ลูกสาวนักพนัน เมียขัดดอก น่ารัก ละมุน คู่ชีวิต ท้องไร่ท้องนา

ตอน: บทที่ 9 - 50%

“นายหญิงจ๊ะ เรื่องข้าวโพดกับถั่วลิสงที่สมปองมันถาม เราจะเอายังไงจ๊ะ ของพวกนี้ทิ้งไว้นานไม่ได้เสียด้วย”

ป้านวลปรึกษาระหว่างอาหารมื้อกลางวัน

ตายจริง ยังไม่ได้ตกลงกันกับคุณสณฑ์เรื่องนี้เลย รุจิรัตน์นึก ปากถามไปว่า

“มีเยอะไหมจ๊ะ”

“มีสามสี่เจ้า แต่ถ้านายหญิงจะส่งโรงงาน ฉันจะไปหาแถวๆ บ้านใต้ให้ แต่เราต้องลงไปรับซื้อในหมู่บ้านส่วนใหญ่ ไม่มีรถขนขึ้นมาหรอกจ้ะ”

“งั้นบ่ายนี้ป้านวลไปกับฉัน ไปดูไร่ถั่วลิสงกับข้าวโพดกัน”

“เอาสินายหญิง”

“เดี๋ยวผมขับรถไปให้นะครับ” ช่างชดเอ่ย นายสั่งไว้นักหนาว่าไม่ ให้นายหญิงไปไหนมาไหนตามลำพังโดยไม่มีคนอารักขา

ตลอดทั้งบ่ายวันนั้น รุจิรัตน์ได้แต่อยู่ในรถกระบะกลางเก่ากลางใหม่ตะลอนๆ ไปตามไร่ต่างๆ หล่อนพบว่าชาวบ้านปลูกถั่วลิสงกันแทบทุกไร่แต่คนละไม่มาก นอกจากนั้นยังมีมันเทศหวานที่หล่อนอุดหนุนกลับมาหลายกิโล ส่วนข้าวโพดนั้นมีไม่มากนัก แต่ก็น่าจะไม่ขาดทุนหากรับซื้อ หล่อนวางแผนต่างๆ ไว้ในใจ

“ถ้าชาวบ้านที่หมู่บ้านอื่นๆ รู้ว่าเรารับซื้อ เขาคงจะทยอยเอามาขายให้นะจ๊ะ” หล่อนเอ่ยเชิงปรึกษาป้านวล

“รับซื้อเองถึงที่แบบนี้ ใครๆ ก็อยากขายนายหญิง”

“ดีจ้ะ อาชดเอามันเทศไปสักสองถุงสิจ๊ะ เผื่อหมกขี้เถ้าทานกันคืนนี้ ลูกแก้วว่าจะลองเหมือนกัน เคยเห็นเขาทำกันในทีวี น่าจะอร่อย เสียดายไม่มีขิง ไม่งั้นจะทำมันต้มขิงให้ทานกัน”

“ขอบคุณครับ นายหญิงให้ป้านวลค้างด้วยที่กระท่อมไม่ดีหรือครับ ลานมันนี่ก็ห่างจากกระท่อมไม่น้อยเลย”

“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ ไม่ไกลอะไรนักหรอก มองเห็นกันได้นี่นา”

เมื่อคนงานออกจากไร่ดงไม้หอมไปกันหมด แดดเริ่มอ่อนโรย ทุกคนเหนื่อยอ่อน...

นายช่างสมชัยเข้ามาสมทบในเวลาถัดมา

“นายหญิงครับ ผมซื้อพวกไก่สด หมู ไข่ไก่ มาไว้ให้ ในถังน้ำแข็งมีน้ำแข็งอัดแน่น นายหญิงจะเอาอะไรอีกไหม”

“โถ พี่ชัยจัดหามาให้มากขนาดนั้น ลูกแก้วจะเอาอะไรอีกล่ะคะ งั้นมื้อค่ำแวะมาเอานะคะ เดี๋ยวลูกแก้วจะต้มข่าไก่แซ่บๆ หม้อโตๆ เดี๋ยวหุงข้าวเผื่อด้วยจ้ะ”

“ครับผม ช่วงที่นายหญิงออกไปข้างนอก นายโทร.หาผมหลายรอบ ไม่ได้เอาโทรศัพท์ไปหรือครับ”

“ตายจริง ลูกแก้วเสียบสายชาร์จไว้ที่บ้านน่ะค่ะ เราต้องชาร์จพวกเครื่องใช้ต่างๆ ตอนกลางวันที่มีแสงแดดนี่คะ อีกอย่างปกติก็ไม่มีใครโทร.มาอยู่แล้วค่ะ คุณสณฑ์ไปถึงแล้วใช่ไหมคะ เป็นอย่างไรบ้าง”

“ถึงนานแล้วครับ บ่นๆ ตามเคย ถ้าไม่อยากให้นายกลับมาที่ไร่คืนนี้ นายหญิงเปิดเครื่องไว้เถอะนะครับ”

“ได้ค่ะ” หล่อนรับคำ หน้าแดงเรื่อ ปลื้มใจไม่น้อยเลยที่เขาห่วงใยหล่อน หล่อนเองก็ใช่ว่าจะไม่คิดถึงเขา แต่การทุ่มเทให้กับงานมันช่วยได้มากทีเดียว แค่สองสามวันเท่านั้นนี่นา

กระท่อมปลายไร่ ช่างเงียบเหงาและโดดเดี่ยวเมื่อต้องอยู่คนเดียว ยังดีที่แม่แดงส่งเสียงทักทายราวกับจะปลอบใจหล่อน เจ้าลูกอมกับเจ้าลูกกวาด ไล่ฟัดกันนัวเนียรอบๆ ขาหล่อน รุจิรัตน์อยากอุ้มพวกมันขึ้นเรือนไปด้วยก็กลัวมันจะเล่นดื้อกันจนตกลงมา หล่อนปูเศษผ้าเก่าๆ หนาๆ บนพื้นที่ทำยกระดับขึ้นมาจากดิน ที่หลับที่นอนของพวกมันกับแม่น่าสบายไม่น้อยเลย

“ไปทำกับข้าวก่อนนะจ๊ะ เดี๋ยวจะลงมาเล่นด้วย อย่าซนนะ นายสณฑ์ไม่อยู่รู้ไหม พวกนายต้องช่วยแม่ดูแลไร่ เข้าใจหรือเปล่า”

หล่อนให้เจ้าลูกสุนัขเลียมือแผล็บๆ ก่อนจะผละขึ้นเรือนไปล้างไม้ล้างมือ เดินไปหยิบโทรศัพท์ที่ต่อสายชาร์จกับแบตเตอรี่ที่เก็บพลังงานแสงอาทิตย์มาเปิดดูเป็นอย่างแรก

“ตายจริง คุณสณฑ์โทร.มาเป็นสิบๆ สายเลย” หล่อนพึมพำ ไม่ทันที่หล่อนจะโทร.กลับ เสียงสายเรียกเข้าก็ดังขึ้นอีก

“ลูกแก้วค่ะ” หล่อนกรอกเสียงลงไปในสาย

“คุณไปไหนมาทั้งวัน ผมบอกแล้วไม่ใช่หรือว่าอย่าออกไปไหนช่วงนี้” เสียงกราดเกรี้ยวนั้นทำให้หล่อนใจฝ่อ

“ลูกแก้วไปดูไร่ถั่วลิสงกับข้าวโพดละแวกใกล้ๆ นี่ล่ะค่ะ คุณสณฑ์เป็นยังไงบ้างคะ”

“ผมติดต่อคุณไม่ได้ เกือบจะทิ้งที่นี่กลับไปไร่แล้วรู้ไหม”

“ขอโทษค่ะ ลูกแก้วชาร์จโทรศัพท์ไว้ แล้วอาชดกับป้านวลที่ไปด้วยกันก็ไม่ได้พกโทรศัพท์ด้วยค่ะ คุณสณฑ์อย่าโกรธเลยนะคะ”

“หึ”

“คุณสณฑ์ทานข้าวเย็นหรือยังคะ” หล่อนถามไปพลางตั้งหม้อข้าวไปพลาง อีกเดี๋ยวก็ผละไปเตรียมเครื่องแกง หูหนีบโทรศัพท์มือถือไว้ ทั้งอมยิ้มขันคนตัวโตๆ แสนงอน

“ทานไม่ลงหรอก เมียดื้อนัก บอกอะไรไม่ฟังกันเลย รู้อย่างนี้ไม่มาเสียก็ดี”

“ได้ยังไงคะ เรื่องสำคัญขนาดนั้น ไม่กี่วันเท่านั้นเองนะคะ ทางโน้นเป็นอย่างไรบ้าง ป๋ากับนายแม่สบายดีไหมคะ” หล่อนถามซ้ำ

“ผมยังไม่ได้พบท่านเลย ตอนนี้ผมมาที่ท่าเรือที่เรานำรถเข้ามา มาคุยกับพวกมีสีหิวเงิน สงสัยคืนนี้คงต้องนอนโรงแรมแถวนี้ ผมมากับลูกน้องสองสามคน แต่ผมจะนอนคิดถึงเมียคนเดียวให้ทรมานตายไปเลย”

“ค่ะ” หล่อนแทบหัวเราะคิก

“ไม่ยุติธรรมเลยนะ ผมมันเจ้าบ่าวที่อาภัพที่สุด”

“ที่มีเมียจนๆ อย่างลูกแก้วน่ะหรือคะ” หล่อนนึกสนุกเข้าไปใหญ่ เวลาอยู่ใกล้ๆ เขา หล่อนไม่กล้ากวนประสาทอย่างนี้หรอก

กลัวโดนจับกินน่ะ

“เปล่า อาภัพที่ได้รักเมียแค่คืนเดียวก็ต้องจาก อยากจะรักอีกจนใจแทบจะขาดรอนๆ แต่ก็ทำไม่ได้ แถมเมียยังดื้อน่าตีชะมัด”

“คุณสณฑ์คะ อุ๊ย!”

เพล้ง!

“มีอะไรจ๊ะ”

“ลูกแก้วทำชามแตกค่ะ ผักกระจายหมดเลย”

“โถ เมียจ๋า ผัวเกี้ยวนิดเดียว มือไม้สั่นเลยหรือ”

“คุณสณฑ์ วางสายก่อนเลยนะคะ ลูกแก้วจะทำกับข้าวค่ะ หิวด้วย คุณสณฑ์ทานอะไรหรือยังคะ”

“เรียบร้อยแล้วครับ เอ...นี่เมียโมโหหิวเสียแล้ว วางก็ได้จ้ะ เดี๋ยวก่อนนอนจะโทร.มาอีก เราจะได้เข้านอนด้วยกัน นะครับ” เสียงทุ้ม หวานติดหู รุจิรัตน์ยิ้มเต็มใบหน้า ยืนหันซ้ายหันขวาใจเต้นระรัวไปกับคำหวานของสามีอยู่พักใหญ่

ค่ำคืนนั้นเป็นคืนเดือนแรม สมชัยเดินมารับเสบียงอาหารและตรวจสอบความเรียบร้อยรอบๆ กระท่อมของนายหญิง แม้กระท่อมจะตั้งอยู่เกือบใจกลางของไร่ แต่ก็ห่างจากลานมันที่เป็นที่พักคนงานอยู่มากโข

“นายหญิงอยู่ได้แน่นะครับ ฟืนไฟเป็นยังไงบ้าง”

“ใช้ได้ดีค่ะ พอง่วงๆ ลูกแก้วก็จะปิดไฟหมดแล้วล่ะ ประหยัดแบตเตอรี่ เผื่อฝนตกแดดไม่มี พรุ่งนี้จะได้มีไฟใช้”

“ไฟฉายยังมีถ่านอยู่ไหมครับ นายหญิงตรวจดูก่อนเถอะ”

สมชัยรอบคอบ รุจิรัตน์ยิ้มบางๆ เดินไปหยิบไฟฉายหัวเตียงมากดไฟดูเห็นมันสว่างกล้าดี

“ใช้ได้ดีค่ะพี่ชัย”

“เปิดเครื่องปั่นไฟไหมครับ เปิดไว้ทั้งคืนก็ได้”

“ไม่เอาละค่ะ หนวกหูกันแย่เลย เอาไว้ใช้ตอนกลางวันดีกว่าค่ะ ไม่ต้องห่วงนะคะ”

“ครับ เอ่อ นายหญิงได้คุยกับนายแล้วใช่ไหมครับ ท่าทางทางนั้นจะยุ่งมาก มีคนในเครื่องแบบใส่ร้ายว่า ป๋าประพจน์ใช้ธุรกิจนำเข้ารถบังหน้าฟอกเงิน” หน้าตาสมชัยตึงเครียด เขาเป็นมือขวาของพนสณฑ์ หัวจิตหัวใจคงแล่นไปกับนายแล้วกระมัง

“พี่ชัยคะ ไปช่วยคุณสณฑ์ที่อู่ดีไหมคะ อย่าห่วงไร่หรือลูกแก้วเลย รับรองว่าดูแลกันเองได้แน่ๆ ค่ะ”

“ไม่ได้หรอกครับ นายห่วงคุณมาก ผมจะให้นายห่วงหน้าพะวงหลังไม่ได้” สมชัยคนขี้เล่นกลับพูดจาจริงจังได้น่าฟัง

“ขอบคุณนะคะ อาหารนั่น ทานกันให้อร่อยนะคะ เจอกันพรุ่งนี้เช้าค่ะ เดี๋ยวจะมีข้าวต้มกับมันเทศเชื่อมด้วยนา สนไหมคะ”

“แน่นอนครับ ลาภปาก” สมชัยทำท่าลูบปากแผล็บ น่าขัน เขาหอบหม้อข้าวหม้อแกงเดินลงเรือนหายไปทางที่พักคนงานที่เห็นแสงไฟที่เหล่าคนงานสุมไล่ยุงวับวามอยู่พอให้อุ่นใจ

รุจิรัตน์เข้าห้องนอนไปแล้ว แต่เตียงใหม่เอี่ยมก็กว้างจนหล่อนรู้สึกอ้างว้างเมื่อนอนเพียงลำพัง รอยยับย่นจางๆ บนที่นอนและรอยบุ๋มที่หมอนนุ่มยังเตือนความจำ

‘พอเถอะค่ะ คุณสณฑ์ ไม่เหนื่อยบ้างหรือคะ’

‘ผมทำเพื่อป๋ากับนายแม่นะนี่’

‘อะไรคะ’ หล่อนเบี่ยงตัวออกเงยหน้าถาม

‘อ้าว ก็ท่านคิดว่าเรา ‘รัก’ กันตลอดหลายเดือนมานี้...หวังจะได้อุ้มหลาน แต่เปล่าทั้งเพ อย่างนี้ผมก็ต้องไล่ทำแต้มตามให้ทัน ท่านจะได้อุ้มหลานไวๆ’

‘ระ...เราจะมีลูกกันเหรอคะ’ หล่อนตัวแข็ง หน้าซีด

‘อ้าว เมียจ๋า ขืนไม่มี พ่อก็เหนื่อยฟรีน่ะสิ รักกันขนาดนี้ ป่านนี้ พนสณฑ์น้อยมาเกิดแล้วกระมัง’

คำออดอ้อน ฝากรักของเขายังก้องหู หล่อนอดใจเต้นไปกับเขาไม่ได้ หากหล่อนท้องลูกของเขาจริงก็คงดี เมื่อเวลาพรากจากเขาหล่อนจะได้มีลูกไว้เป็นตัวแทน เจ้าสัวคงไม่ปรารถนาเหลนที่มีสายเลือดนักพนันหรอก ท่านคงให้หล่อนจากไปเงียบๆ เพื่อวงศ์ตระกูลอันสูงส่ง หล่อนเดาว่าเศรษฐีชราที่เป็นไม้ใกล้ฝั่ง คงกำลังทดสอบหลานชายหัวดื้ออยู่ มากกว่าที่จะกลั่นแกล้ง หากพนสณฑ์ผ่านบททดสอบนี้ไปได้ เขาจะผงาดขึ้นมาแทนที่ผู้เป็นปู่ มีทุกอย่าง มากมายจนไม่จำเป็นต้องมีหล่อนเลยก็ได้ ตรงกันข้ามกับหล่อนที่จะไม่เหลือใคร นอกจากลูกหากบุญมี ยามนั้นหล่อนกับลูกจะจากไปเงียบๆ หล่อนภาวนาอยากให้พนสณฑ์น้อยๆ มาเกิดกับหล่อนเพื่อเป็นพยานรักของหล่อนและเขา แม้จะเป็นความรักที่ต้องเก็บไว้เป็นความลับเฉพาะที่ดงไม้หอมนี้เท่านั้นก็ตาม


**********

ขณะนี้หนังสือของปลายปากกาสำนักพิมพ์มีวางจำหน่ายที่ 'ศูนย์หนังสือจุฬาฯ' แล้วนะคะทุกท่าน ประเดิม 'พนาพร่ำรัก' เป็นล็อตแรก! ใครถนัดสอยหน้าร้าน จัดไปจ้าาาา
(ตามหน้าร้านหนังสือมีวางจำหน่ายแค่ที่ศูนย์หนังสือจุฬาฯ เท่านั้น ส่วนออนไลน์มีร้านนิยายรัก.com และร้าน booksforfun ค่ะ หรือจะสั่งซื้อโดยตรงผ่านสนพ.ก็ inbox หาแอดในเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ได้เช่นกันค่ะ)


หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บเลิฟ



ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 26 เม.ย. 2561, 12:50:30 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 26 เม.ย. 2561, 12:50:30 น.

จำนวนการเข้าชม : 779





<< บทที่ 8 - 100%   บทที่ 9 - 80% >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account