กาลครั้งหนึ่งนั้น(ในความบังเอิญ)
เธอกับเขา ความทรงจำที่เคยมีร่วมกันมาก็แค่... อดีตกิ๊ก!
Tags: แต่งงาน,อดีต,รัก,บุพเพสันนิวาส,พรหมลิขิต

ตอน: ๒ ชนวน (70%)

ส่วนจิรสุตานั้นเมื่อเห็นว่าไม่มีใครสนใจเราแล้ว เธอก็กระแอม แสร้งทำเป็นยกแฟ้มขึ้นดู พูดเสียงกระซิบกระซาบ

“พิมพ์ แกจำพี่สินไม่ได้เลยเหรอ นี่ถามจริง”

“เมื่อเช้าน่ะจำไม่ได้ เพิ่งมาจำได้ตอนป๋าบอกนี่แหละ”

“โอ๊ะโอ” จิรสุตาแสร้งทำเสียงยั่ว “แล้ว--”

“แล้วไง”

“พูดจริงๆ ที่แกเคยกิ๊กกะพี่สินอะ”

“เคยกิ๊ก!” ศศิพิมพ์ตอบเรื่อยๆ แต่ตาดุ “ตอนสิบสองนั่นน่ะเหรอ แล้วฉันก็เป็นแต้มที่อายุน้อยที่สุดที่ทำให้เขาชนะเพื่อน”

จิรสุตายิ้มเรี่ย จะปฏิเสธก็ไม่ได้ จะร่วมด่าก็ใช่ที่น้องสมควรทำ เพราะพี่ชายเธอตอนห่ามๆ ก็เลวร้ายใช้ได้ทีเดียว

“ถ้าป๋าไม่แนะนำ ถ้าเจอกันอีกก็คงนึกไม่ออกหรอก แต่ช่วยไม่ได้ก็ฉันไม่ได้จะใส่ใจจำ”

“ย่ะ! ไม่ ‘ใส่ใจจำ’ เลย-ย-ย”

จิรสุตาบอกกึ่งยิ้มกึ่งบึ้ง

“แน่ซีจ๊ะ” ศศิพิมพ์ลอยหน้าตอบ แล้วยกแฟ้มที่เหลืออีกสามแฟ้มให้เพื่อนสนิท “และตอนนี้เวลางาน ทำงานนะจ๊ะ มีงานก็มีเงินพอมีเงิน อะไรที่อยากได้ก็จะได้ เพราะงั้นคุณจิรสุตาทำงานได้แล้วนะคะ”

จิรสุตาหน้าตูม กัดริมฝีปากมองเพื่อนสนิทตาเขียว หล่อนปิดแฟ้ม ก่อนวางมันลงกับแฟ้มงานที่ถูกโยนมาให้ จากนั้นก็ลุกขึ้นยืนหอบแฟ้มกองนั้นกลับโต๊ะตัวเองอย่างเซ็งๆ

และในขณะที่ด้านนอกห้องคนทำหน้าที่ซักฟอกยอมแพ้ไปแล้ว ด้านในห้องทำงานของเจ้าของบริษัท ก็ยังมีคนกำลังถูกซักฟอกอีกหนึ่งคนเช่นกัน

“คิดจะทำอะไรครับ ลูกสิน” คุณจิรศักดิ์เปิดประเด็นเมื่อประตูห้องถูกปิดลงเรียบร้อย และผู้ตกเป็นจำเลยนั่งลงบนเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงาน

“อะไรป๋าผมยังไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย”

ลูกชายทำหน้าเหลอแกล้งไม่รู้ว่าผู้เป็นพ่อพูดถึงเรื่องอะไร

“เรื่องหนูพิมพ์ แกไม่ต้องมาทำไก๋เจ้าสิน ฉันมองตาแกก็รู้ว่าคิดอะไรอยู่ ขอเตือนนะเว้ย! นั่นน่ะเด็กแม่แก แล้วก็เด็กฉันด้วยถ้าจะเล่นๆนู้นออกไปหาเอาข้างนอก” บิดาปรามเสียงแข็งเพราะลูกชายเจ้าตัวนั้นลื่นยิ่งกว่าปลาไหลเจ้าชู้ยิ่งกว่าใครๆ

“โธ่! แค่เจอหน้ากันนี่พ่อระแวงผมขนาดนั้น คิดอะไรอยู่เนี้ย...เห็นผมเป็นพวกหื่นไปได้น่า”

“ฉันพูดจริงเว้ย หนูพิมพ์น่ะน่ารัก ใครได้เป็นสะใภ้ก็ดี แต่พอรู้เรื่องไอ้ตัวดีเคยทำไว้ ให้อยากได้แค่ไหนก็ไม่อยากดึงคนดีๆ มาลงนรก!”

พูดมาแล้วก็เหมือนความดันจะขึ้น ก็ใครจะไปลืมตอนจิรสินอายุสิบเก้าปีเคยก่อวีรกรรมหลอกเด็ก!

‘ลุงจ๋า ลุงจ๋า’ เป็นจิรสุตาวัยสิบสองปี วิ่งผมเปียปลิว กระโปรงเปิดหน้าตื่นมาหา พอถึงตัวก็ลากกึ่งจูงผู้เป็นลุงให้เดินตาม กระทั่งไปถึงจุดหมายใต้ต้นมะม่วง ศศิพิมพ์วัยสิบสองนั่งร้องไห้กระซิก

‘พี่สินทำพิมพ์ร้องไห้ ลุงดูสิจ๊ะ’

จิรศักดิ์ก้มลงคุกเข่าใกล้ๆ เด็กหญิงเพื่อนหลานสาวที่กำลังจะโตเป็นสาว เขาลูบเบาๆ ที่ผมยาวสลวยแล้วเอ่ยถาม

‘พี่สินแกล้งอะไรหนูพิมพ์ลูก บอกลุงสิคะ เดี๋ยวลุงจัดการให้นะ’

คนถูกแกล้งเอาแต่ร้องไห้ คนตอบจึงกลายเป็นหลานสาวเขา

‘พี่สินแกล้งเป็นแฟนพิมพ์!’

ผู้เสียหายยิ่งร้องไห้หนัก และทนายฝ่ายโจทก์ก็แจ้งข้อหาต่ออัยการต่อ เมื่อยื่นสมุดบันทึกเล่มเล็กๆ เล่มหนึ่งส่งให้ผู้เป็นลุง จิรศักดิ์รับมาและเปิดออกดู เห็นหมายเลขและรายชื่อ ซึ่งแล้วแต่เป็นชื่อผู้หญิง เขามึนและงง สงสัย มากระจ่างก็ที่หลานสาวบอก

‘นั่นรายชื่อแฟนพี่สิน พี่สินแข่งกับเพื่อนว่าใครจะมีแฟนมากกว่า และอายุน้อยที่สุด พิมพ์กับตาได้ยินพี่สินคุยกับเพื่อน เลยแอบมาค้นดูว่ามันจริงไหม นี่เลยค่ะ วางบนโต๊ะในห้องพี่สินเลย!’

กรรม... จิรศักดิ์แทบกุมขมับ

จะด่าลูกก็อยากด่า

จะด่าหลานก็อยากด่า

ลูกตัวก็เจ้าชู้ ดันคิดทำอะไรแผลงๆ แต่หลานตัวนี่สิ อายุเพิ่งสิบสองทำไมมันแก่แดดคิดเรื่องฟงเรื่องแฟนกันแล้ว!

“แหมพ่อก็”

จิรสินหัวเราะแหะๆ ดึงผู้เป็นพ่อให้กลับออกมาจากอดีต

“ฉันพูดจริงๆ นะไอ้สิน ตอนนี้ก็โตๆ กันแล้วไม่ใช่เด็กๆ ถ้าแกไม่คิดจริงจังก็อย่าไปยุ่งกับหนูพิมพ์ อีกอย่างแกชอบขาวๆ อวบๆ ออก แบบนี้มันคนละทางกับสเป็คแกเลยนะ”

“ว่าได้เหรอ เผื่อผมคิดจริงจังพ่อกับแม่จะได้ดีใจไงที่ผมจะหาสะใภ้ให้”

ผู้เป็นบุตรชายยิ้มยั่วผู้เป็นพ่ออย่างอารมณ์ดี

“เจ้าสิน! หนูพิมพ์ดีเกินไปสำหรับแก หน้าตาอย่างแกไปหาเอาใหม่เถอะ อย่าหาเรื่องให้พ่อโดนแม่แกถล่มเล่นเลยขอร้องล่ะวะ” ชายสูงวัยเอ่ยอย่างอ่อนใจ เมื่อลูกชายทำท่าว่ายิ่งห้ามก็ยิ่งยุ “อย่างแกมันไม่มีทางเอาชนะใจหนูพิมพ์ได้หรอก... ดูอย่างเจ้าวัดสิ นิสัยก็ดีหน้าตาก็ดี เทียวไล่เทียวขื่อมาตั้งแต่ยายหนูนี่เข้าทำงาน จนป่านนี้ยังไม่ได้เป็นอะไรกับเขาสักแอะ แล้วยิ่งแกนะ ก่อวีรเวรไว้ขนาดนั้น เชื่อพ่อไอ้ลูกชายไม่มีทางว่ะ ยายหนูพิมพ์เป็นคนใจแข็งกับเรื่องรักๆ ใคร่ๆ อะไรพวกนี้คงไม่ซึมเข้าหัวเลยมั้ง ชีวิตก็เห็นวนเวียนอยู่แต่ที่บ้านที่ทำงาน ไม่เห็นว่าจะอยากไปไหนมาไหนกับใครสักที”

“แหม! สืบมาหมดเชียวนะป๋า”

รอยยิ้มล้อเลียนนั่นได้รับผลเป็นมะเหงกหนึ่งโป๊ก

“ไม่สืบก็เหมือนสืบ แม่เราน่ะอยากได้หนูพิมพ์เป็นสะใภ้ตัวสั่น”

จิรสินหัวเราะ “ไม่มีอะไรหรอกครับ ผมก็แค่ไม่เจอน้องนานพ่ออย่าคิดมากน่า ก็แค่แหย่เล่นๆ ว่าแต่ว่านี่มันกล่องของขวัญของใครครับผมเห็นวางอยู่ตั้งแต่เมื่อเช้า”

จิรสินเปลี่ยนเรื่องถาม เมื่อเห็นกล่องของขวัญวางอยู่บนโต๊ะ

“ของหนูพิมพ์แหละ แม่เราฝากมาให้ตั้งแต่เมื่อวาน ป๋าก็ลืม”

“โฮ่! แม่ปลื้มขนาดนั้นเชียวถ้าจะเป็นเอามากนะ”

จิรสินบอกแบบทึ่งๆ นึกสงสัยว่ามารดาติดใจอะไรนักหนาในตัวของผู้หญิงคนนี้

“ก็คนเขารัก อย่างแกจะไปรู้อะไร ที่รู้ก็คงแค่ ๓๔-๒๔-๓๕ สูงร้อยกว่าๆ อย่างอื่นน่ะดูไม่เป็น... ได้บ่นละก็ขอสักหน่อย แกนี่น้าไม่คิดอยากมีครอบครัวเป็นเรื่องเป็นราวเหมือนคนอื่นเขาบ้างเหรอ อายุอานามไม่น้อยแล้วนา” สีหน้าของคนพูดจริงจังไม่มีแววล้อเล่นอย่างเดิม

“ไม่ล่ะครับพ่อ! ผมเบื่อที่จะต้องมารับผิดชอบชีวิตใครๆ เขานี่ผมไม่ชอบการผูกมัด พ่อก็รู้ว่าผมเหนื่อยหน่ายกับความยุ่งยากที่จะต้องเปลี่ยนตัวเองเพื่อใครก็ตาม ที่จะเข้ามาแชร์ความเป็นส่วนตัว”

จิรสินเบือนหน้าหนีไปทางอื่น เมื่อรู้ว่าผู้เป็นพ่อกำลังจ้องจับผิดคุณจิรศักดิ์ถอนหายใจเปลี่ยนเรื่อง เมื่อลูกชายทำท่าว่าไม่อยากให้หัวข้อสนทนานี้ยืดยาวออกไปอีก

“จริงสิ แม่แกบอกว่าจะจัดงานเลี้ยงต้อนรับแก เออ! เห็นว่าจะรวบงานวันเกิดหนูพิมพ์ด้วย แกเอาของออกไปให้แล้วบอกพวกเด็กๆด้วยล่ะ”

“วันไหนครับพ่อ”

จิรศักดิ์จุ๊ปาก “วันนี้! แล้วก็ไอ้สัญชาติเสือสิงห์ของแกนั่นก็เพลาๆ ลงซะบ้าง เดี๋ยวแม่แกจะหัวใจวายตายซะก่อน”

“คร้าบๆ ผมไม่ทำให้พ่อกับแม่ป่วนหรอก”

แค่ยุ่งนิดหน่อยคงไม่เป็นไร ก็ยายหนูนั้นของพ่อเขาน่าหยอกน้อยเสียเมื่อไหร่ ประโยคถัดมานั้นชายหนุ่มได้แต่คิด เพราะรู้ว่าถ้าขืนพูดออกไปให้ผู้เป็นพ่อฟังคงได้ช็อคแน่ ก็ในเมื่อเตือนกันขนาดนี้แล้วยังไม่ยอมฟังก็ดื้อด้านเต็มทน

ชายสูงวัยมองตามก่อนจะถอนใจ แววตาของลูกชายนั้นไม่ได้บ่งบอกว่ารู้สึกเหมือนที่บอกออกมา สงสัยเขาคงจะต้องเตรียมมือรับเรื่องยุ่งๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้เสียแล้ว




ดังปัณณ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 28 มี.ค. 2561, 20:49:15 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 28 มี.ค. 2561, 20:49:15 น.

จำนวนการเข้าชม : 749





<< ๒ ชนวน (35%)   ๒ ชนวน -จบตอน- >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account