รักนี้ต้องโฮ่งฮับ (Yuri) - จบ
เมื่อสาวห้าวอย่างทัชชภร หรือเพื่อนๆ เรียกเธอว่า ทัช เธอมีรูปร่างสูงโปร่ง อายุ 25 ปี ทำธุรกิจส่วนตัวอยู่กับบ้าน และมีสุนัขสุดที่รักตัวหนึ่งชื่อว่า น้องท่อ เป็นสุนัขพันธุ์ผสมเพศผู้

แต่แล้ววันหนึ่ง น้องท่อกลับมาถูกรถยนต์ชน จนเกือบไม่รอดถ้าไม่มี สัตวแพทย์ประจำคลินิก อย่างหมอกานต์สินีหรือหมอนี เธอได้ช่วยชีวิตน้องท่อเอาไว้

การพบกันระหว่าง ทัชกับหมอนีผู้น่ารักและเป็นมิตรกับทุกคนรอบข้าง โดยมีรอยยิ้มที่สดใส จนทัชไม่อาจละสายตาจากสัตวแพทย์สาวคนนี้ไปได้ ช่วงเวลาที่จะได้เจอกันมันน้อยเกินไป คงต้องอาศัยน้องท่อเป็นสะพานเชื่อมให้พบกับหมอหมาที่น่ารักคนนี้
Tags: น้องหมา สัตวแพทย์ หมอหมา นิยายรัก มิตรภาพ ความรัก

ตอน: รอแล้วก็รอ

ทัชตื่นมาพร้อมกับผ้าห่มคลุมตัว เธอลุกขึ้นนั่งและมองหาน้องท่อลูกชายของเธอ ปรากฏว่าไม่เห็นบนเตียงพักฟื้น จึงรีบลุกจากโซฟาเปิดประตูตามหาไอ้ลูกชายทันที สิ่งที่ทำให้เธอต้องฉงน คือหญิงคนขับรถเก๋งที่ขับรถชนไอ้ลูกชาย กลับมายืนอยู่ในคลินิก กำลังกอดน้องท่ออยู่

"สวัสดีค่ะ น้องทัช" คำทักทายทำให้ทัชขมวดคิ้ว ทำไมถึงรู้จักชื่อเธอได้นะ

"จะให้น้องท่อสวมชุดไหนดีคะ" หมอนียื่นชุดสำหรับน้องหมามาให้เลือกมีหลายสี แต่ที่ชวนให้ทัชมึนงง คือเธอยังไม่ได้บอกชื่อเลย ทำไมถึงรู้จักชื่อไอ้ลูกชายได้

"น้องทัชงงสินะ คุณป้าเล่าให้ฟังเรื่องของน้องท่อและน้องทัชให้พี่ฟังแล้ว พี่ชื่อยา" ยาสาวขับเก๋งได้เอ่ยขึ้น



ก่อนหน้าที่ทัชจะตื่น หมอนีกำลังเปิดประตูหน้าคลินิก เจอเพื่อนสาวกำลังลงจากรถ แล้วร้องเรียกเธอทันที

"นีๆ น้องหมาเป็นไงบ้าง" 

"อืม...ปลอดภัยแล้วหล่ะ" หมอนีได้บอกกับเพื่อนของเธอ โดยที่สองมือกำลังง่วนอยู่กับการกวาดพื้นหน้าคลินิก

"เฮ้ออ...โล่งไป เดี๋ยวค่ารักษาเราจ่ายเองทั้งหมด แล้ว...เออ...น้องที่ชื่อทัช อยู่ไหม" ยาพ่นลมออกจากปากด้วยความโล่งใจ นึกว่าตนต้องซวยกว่านี้ซะแล้ว

"อ๋อ หลับในห้องนะ รอน้องหมาตื่น" หมอนีหันไปบอกเพื่อนสาวและเดินไปเก็บอุปกรณ์ทำความสะอาดเข้าที่ พร้อมกับเปิดประตูคลินิกให้ยาเข้ามาข้างใน โดยคิดในใจว่า 'เธอคนนั้นชื่อทัชนั่นเอง อายุน้อยกว่าเราสินะ ไม่อย่างนั้นยาคงไม่เรียกว่าน้อง'

เมื่อยาได้เดินเข้ามาในคลินิกสิ่งที่เธอต้องทำอันดับแรก คือช่วยหมอนีเพื่อนของเธอที่กำลังง่วนอยู่ตรงเคาว์เตอร์

"แล้วทำอะไรอยู่ ฉันช่วยไหม" 

มือทั้งสองของหมอนีหยิบนั่นหยิบนี่และก้มๆ เงยๆ จนยาไม่รู้จะช่วยอะไรได้แต่ยืนเกาะเคาว์เตอร์อยู่อย่างนั้น จนนีหยิบบัตรนัดและกระดาษที่ใช้บันทึกประวัติ โดยมีถุงใส่ยาเอาไว้เรียบร้อยวางรอแต่ปัญหาคือ ไม่รู้จักชื่อน้องหมาจึงบันทึกไม่ได้มากแถมประวัติก็ยังไม่รู้

"กำลังจัดยาให้น้องน่ะ แต่ยังไม่รู้ชื่อน้องเลย คงต้องรอให้เจ้าของตื่นก่อน" 

"เรารู้ๆ ชื่อท่อ" ยารีบตอบทันที เธอได้คุยกับมารดาของทัชเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

"จริง...ชื่อน่ารักดีนะ สงสัยคงชอบท่อน้ำหรืออะไรเกี่ยวกับท่อแน่ๆ เลยชื่อนี้น่ะเนอะ" หมอนีฉีกยิ้มกว้างเมื่อได้ฟังเรื่องราวของน้องหมา คนตั้งชื่อคิดได้น่ารักคงตั้งตามสิ่งที่น้องหมาชอบแน่

"เฮ้ยย...เดาถูก ใช่เลยแหละ เราน่ะ ได้คุยกับคุณแม่ของน้องทัชมาแล้ว คุณป้าเล่าให้ฟังว่าน้องท่อซนมากขนาดไหน เธอใจดีมากเลยนะ" ยาไม่คิดว่าหมอนีจะเดาได้ถูก เป็นไปตามสิ่งที่เพื่อนเธอคิดทั้งหมด ส่วนหมอนีก็ได้แต่ยิ้ม ยาจึงรีบพูดต่อทันที

"ขนาดเราขับรถชนน้องหมาของพวกเขา คุณป้ายังไม่ว่าอะไรเลย ยังเล่าเรื่องที่เจอน้องท่อและเรื่องของน้องทัชให้ฟังอีก นี่รู้ไหมพวกเขาอยู่บ้านถัดจากเราไม่กี่หลังเอง และคุณป้ายังเป็นเพื่อนคุณแม่ในกลุ่มแม่บ้านด้วยนะ" ยาเล่าไปยิ้มไป ไม่คิดว่าโลกจะกลมขนาดนี้ 

"โลกกลมเนอะ" หมอนีฟังอย่างตั้งใจ เธอยิ้มน้อยๆ ไม่น่าเชื่อว่าโลกมันจะแคบแบบนี้ 

"ใช่ๆ" ยาพยักหน้ารัว เธอก็ไม่คิดเช่นกันว่าทัชจะเป็นลูกของเพื่อนมารดาเธอ และโชคดีที่รู้จักกันไม่อย่างนั้นมีหรือเธอจะมาอยู่ตรงนี้ได้ อาจจะโดนฟ้อง ขึ้นโรงพัก หรือไม่อาจโดนร้องเรียกค่าเสียหายจำนวนมากจนเธอไม่มีปัญญาจ่าย 

"แล้วพลหล่ะ ตื่นยัง" ยาถามหาอีกคนที่ไม่ได้อยู่ที่นี่

"อ๋อ รายนั้นตื่นยากน่ะ ยิ่งเมื่อคืนนอนดึกด้วยแล้ว กว่าจะตื่นอีกทีคงเที่ยงไม่ก็บ่าย"

"เหมือนเดิมเลยนะ" ยาฉีกยิ้มแอบขำอยู่ในใจ ไม่ว่ากี่ปีพลก็ยังคงเป็นพลอยู่แบบเดิม

น้องชายของหมอนีเป็นพวกนอนตื่นสาย ซึ่งเธอรู้ข้อนั้นดี ไม่เล่นเกมก็ออกไปเที่ยวกับเพื่อน แต่ถึงอย่างนั้น น้องชายของเธอมักจะมาช่วยเธอเสมอเวลางานรัดตัว เพราะแบบนี้เธอถึงรักน้องชาย ก็เรามีกันแค่สองพี่น้อง ส่วนมารดากับบิดาพวกท่านแยกทางกัน ตอนเด็กพวกเราจึงถูกแยก เธออยู่กับมารดาส่วนน้องชายอยู่กับบิดา แต่ก็ยังสลับตัวคนละเดือนเพื่อที่จะได้เจอท่านทั้งสองอยู่ จนกระทั่งท่านทั้งสองแต่งงานใหม่ มารดาของเธอพบรักกับหนุ่มฝรั่งเศสจึงไปอยู่ที่นั่น ส่วนบิดาของเธอพบรักกับสาวเยอรมันจึงย้ายตามกันไป แต่ยังส่งเสียเลี้ยงดูน้องชายเหมือนเดิม และทิ้งบ้านให้อยู่อาศัย ส่วนเธอโชคดีที่เรียนจบและมีงานทำ จึงไม่เดือดร้อนใคร ถึงอย่างนั้นน้องชายก็ไม่ยอมไปไหน เกาะติดกับเธอแทบทุกวัน คลินิกนี้ก็เช่นกัน เธอสร้างมาด้วยน้ำพักน้ำแรงของตนเอง ถึงแม้จะพึ่งเปิดไม่ถึงปีโดยชั้นสองเป็นที่พักให้หลับนอน จึงไม่เดือดร้อนในการกลับบ้าน ส่วนบ้านของมารดาก็กลับช่วงพักผ่อน พลน้องชายของเธอจึงมาขออาศัยอยู่ด้วย ส่วนบ้านของบิดา พลยกให้ลูกพี่ลูกน้องฝ่ายบิดาอยู่ เพราะรายนั้นกำลังหาที่พักใกล้มหา'ลัย จึงจ้องบ้านของบิดา ซึ่งพลก็ใจดียกให้และหอบข้าวของมาอยู่กับเธอแทน

"แล้วน้องท่ออยู่ไหน" เสียงของยาทำให้หมอนีกลับมาสนใจคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าต่อ หมอนีจึงชี้ไปยังน้องท่อที่นั่งคอตกอยู่ในกรงขนาดพอดีกับสุนัขไซส์เล็ก

"ทำไมนั่งคอตกแบบนั้นหล่ะ" ยาเดินเข้าไปใกล้โต๊ะที่วางกรงสุนัขและมีน้องท่อนั่งคอตกอยู่ข้างใน 

"เราก็ไม่รู้เหมือนกัน โชคดีนะที่ไม่ได้เป็นอะไรมาก ถ้าเจ็บหนักกว่านี้คงต้องส่งโรงพยาบาล" ตั้งแต่อุ้มน้องท่อนอนในกรงก็ลุกนั่งในท่าคอตกอยู่แบบนั้น เธอคิดว่าอาจจะคิดถึงทัชและไม่มีใครปลอบหลังจากรอดตาย ขนาดเธอลูบหัวและตามลำตัวเพื่อเป็นกำลังใจไม่ให้ตื่นกลัว แต่ยังนั่งอยู่ท่านั้นตลอด

"โชคดีของเราเหมือนกัน" ยาเปิดกรงเพื่อดูอารมณ์ของน้องท่อ ปรากฏว่าหมาน้อยยังนั่งนิ่งก้มหน้าอยู่ในกรง หรือว่ามันจะเจ็บแผลเลยไม่ยอมขยับตัว เธอเห็นเช่นนั้นจึงเอื้อมมือเข้าไปเพื่อกอดแต่ทัชเข้ามาเห็นพอดี



กลับมาปัจจุบัน ความมึนงงจากสถานการณ์การรู้จักชื่อของตนและน้องท่อ ต้องสลายไปเมื่อทัชเห็นไอ้ลูกชาย ที่ตอนนี้กำลังกระสับกระส่ายออกจากกรง มองตรงมาทางเธอ หางกระดิกไปมาและนั่งรอให้นายไปหา ดวงตาแวววาวอย่างมีความหวัง หวังให้นายมากอดมาปลอบ คอยอยู่ใกล้เพราะเขากำลังป่วย อยากมีใครข้างกายและจะไม่สนใจใครนอกจากทัช เจ้านายเพียงคนเดียวของน้องท่อเท่านั้น

ทัชตรงเข้าไปกอดเข้าไปหอมไอ้ลูกชาย ที่ซุกที่ท้องให้ตนเองอยู่ในอ้อมแขนของผู้เป็นนาย ทำให้หมอนีและยาหันมามองหน้ากันแล้วยิ้ม หมอนีตรงเข้าไปหาทัชและนำเสื้อที่จะต้องสวมใส่ให้น้องหมา เพื่อกันไม่ให้น้องเกาหรือเลียแผลที่เย็บบริเวณหน้าท้องจากการผ่าตัด

"เออ...สีไหนดี" ทัชอ้ำอึ้งเพราะเธอไม่รู้ว่าจะเลือกแบบไหน จึงรับมาทั้งหมดและวางบนโต๊ะพร้อมกับมองลูกชายที่นั่งนิ่งๆ มองเธอเช่นกัน

"ท่อเราชอบสีฟ้าสินะ"

"น้องหมาชอบสีฟ้า เลือกสีได้จริงหรือคะ" ยาแปลกใจที่ทัชบอกแบบนั้น ส่วนทัชหันมามองหน้าหมอนีที่กำลังจดจ่ออยู่กับบทสนทนาของทั้งสอง จึงได้โอกาสขอโชว์สักนิด

"ท่อเลือกสิ เอาตัวไหน" ทัชหันไปมองน้องท่อที่จ้องมองชุดที่ทัชยกขึ้นมาโชว์ มีสีฟ้ากับสีชมพู โดยในใจทัชร้องบอกน้องท่อว่า 'อย่าทำแม่ขายหน้านะ อย่านะท่อ' เหมือนกับว่าเจ้าตัวเล็กจะรู้ค่อยๆ ขยับเข้ามาใกล้และจ้องมองตาของทัช พร้อมกับนำจมูกจิ้มที่เสื้อสีฟ้าโดยสายตาเหลือบมองมายังทัชตลอด ซึ่งนั่นทำให้ทัชยิ้ม 

เมื่อท่อทำให้เธอไม่หน้าแตกยับกลางสาวทั้งสอง เธอจึงสวมใส่ชุดให้ไอ้ลูกชายภายใต้การจ้องมองของทั้งสองสาว คงมีแต่หมอนีที่แอบอมยิ้มพร้อมกับหันหลังไปหยิบกระดาษและถุงยาที่ใส่บัตรนัดมาให้ทัช ซึ่งทัชก็รับมากรอกประวัติของไอ้ลูกชายและยื่นคืนให้กับหมอนี

"น้องทัชกลับกับพี่ไหม" ยาเป็นคนเสนอตัวเพื่อว่าทัชจะไม่เอาเรื่องเธอต่อ แต่ทัชหันกลับหันไปหาหมอนีแล้วเอ่ยบางสิ่ง

"ขอเบอร์คุณหมอได้ไหมคะ" 

"เบอร์"

"ใช่ค่ะ" ความหวังลึกๆ อยากได้เบอร์ส่วนตัวแต่หมอนีกลับให้บัตรที่บอกแต่เบอร์คลินิก ซึ่งทำให้ความหวังทั้งหมดหดหายไปทันตา

"แล้วค่ารักษาเท่าไหร่คะ" น้ำเสียงเศร้าที่ไม่มีใครสนใจแต่กลับมีเสียงของยาแทรกมาแทน

"พี่จ่ายให้หมดแล้วค่ะ น้องทัช" ซึ่งการพูดของยาทำให้คิ้วของทัชกระตุกนิดๆ แล้วหันไปเผชิญหน้ากับเจ้าตัว

"ขอบคุณค่ะ แต่จะดีมากกว่านี้ถ้าไม่เรียกว่าน้อง เรียกทัชเฉยๆ ได้ไหมคะ"



HM06
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 1 เม.ย. 2561, 21:26:05 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 1 เม.ย. 2561, 21:26:05 น.

จำนวนการเข้าชม : 625





<< อยู่คลินิก   ทานยา >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account