กาลครั้งหนึ่งนั้น(ในความบังเอิญ)
เธอกับเขา ความทรงจำที่เคยมีร่วมกันมาก็แค่... อดีตกิ๊ก!
Tags: แต่งงาน,อดีต,รัก,บุพเพสันนิวาส,พรหมลิขิต

ตอน: ๓ ผู้สมรู้ร่วมคิด -จบตอน-

“พี่ไม่กินหรอก”

ศศิพิมพ์เงยหน้าขึ้นมอง ก่อนจะหลุบตาลงต่ำ ไม่รู้ทำไมพอมองเขาตรงๆ ทีไร เหตุการณ์ตอนอายุสิบสองก็ผ่านแวบเข้ามา จนหน้าร้อนเพราะความอับอายแทบทุกที

“เป็นยังไงบ้างคะ ไม่ได้เจอกันเกือบสิบปีแล้วมั้งเราสองคนน่ะ”

ครั้นเห็นเขาชวนคุยอีก จะทำเงียบก็เกินไป และจิรสินเองก็ไม่ได้มีท่าทียั่วโมโห ศศิพิมพ์จึงยอมคุยด้วยดีๆ

“ก็เรื่อยๆ ค่ะ สบายดี” ถ้าตอบแค่นี้ก็เกินไปหน่อย “แล้วคุณสินล่ะคะ เป็นยังไงบ้าง”

“พี่ก็สบายดีค่ะ งานก็สนุกดี จากที่ไม่ค่อยชินกับอาหารใต้ เดี๋ยวนี้กลายเป็นของโปรดไปละ”

เพราะรู้ว่าการไม่มองคู่สนทนาเป็นการเสียมารยาท ดังนั้นเธอจึงเงยมองคนชวนคุย ยิ้มบาง

“ความจริง วันนี้ที่หนูพิมพ์ต้องมากับพี่ เป็นเพราะพี่ขอร้องตาเองล่ะค่ะ พี่อยากคุยกับหนูพิมพ์น่ะ”

พอได้ฟัง ศศิพิมพ์ก็ทำท่าจะเผ่นจนเขาต้องจับตัวไว้

“พี่ไม่ใช่พวกทำอนาจารนะคะ เมื่อกลางวันแค่หยอกเล่น”

ศศิพิมพ์มองเขาตาเขียวทีเดียว

“ความหมายของคำว่าหยอกของคุณกับฉันไม่เหมือนกันแน่นอนค่ะ” แม้จิรสินจะทำตัวเหมือนสมัยก่อนที่พูดคะขากัน แต่ศศิพิมพ์ก็ไม่ได้เป็นปลื้มเหมือนกับตอนนั้นแล้ว

ความทรงจำของเด็กแก่แดด มันทำเธออับอาย

“พี่ขอโทษค่ะ เรื่องเมื่อตอนนั้น” เขาที่ยึดแขนเธอไว้เอ่ยขึ้น สายตา น้ำเสียง ท่าทางเขาบอกว่าไม่ได้พูดเล่นหรือยั่วแหย่เหมือนทุกที “พี่ไม่แก้ตัว แต่ยอมรับว่าตอนนั้นทำตัวได้เหี้ยจริงๆ แต่ก็ไม่รู้จะกลับไปแก้ไขยังไง เด็กน่ะค่ะ มันคิดไม่เหมือนตอนเป็นผู้ใหญ่แล้ว”

ศศิพิมพ์มองเขานิ่ง นานทีเดียวแล้วเธอก็ถอนใจ

“เรื่องเด็กๆ ค่ะ มันผ่านมาแล้วก็ผ่านไปเถอะ”

“แต่พิมพ์ยังโกรธพี่นี่คะ”

“ถ้าคุณสินพูดแบบนี้ ก็ไม่โกรธแล้วค่ะ แต่ถ้ามาแบบเมื่อตอนกลางวัน” เธอเว้นคำพูดไว้เสีย และคนฟังก็หัวเราะ

“ตกลงเราดีกันแล้วนะคะ ไม่โกรธแล้วนะ สงบศึก”

ชายหนุ่มยกมือขึ้นและชูนิ้วก้อยเพียงนิ้วเดียว ศศิพิมพ์มองพลางโคลงศีรษะ สุดท้ายก็บอกกลั้วหัวเราะ

“โตแล้วค่ะคุณสิน ไม่ต้องมาเกี่ยวก้อยกันเหมือนตอนเด็กแล้ว”

เป็นครั้งแรกที่ศศิพิมพ์เห็นเขากลับไปเป็นเด็กชายรุ่นหนุ่มอีกครั้ง จิรสินยกมือขึ้นเกาต้นคอเก้อๆ และยิ้มส่งให้เธออายๆ

ราวสิบนาทีต่อมา เจ้าของร้านก็กลับออกมาอีกครั้งพร้อมกระถางต้นไม้ ขนาดไม่ใหญ่ไม่เล็ก พร้อมขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่ที่ต้องให้ลูกค้ารออยู่นาน

เมื่อได้ของ จิรสินก็เอ่ยลา ขากลับเขาเป็นคนหิ้วถุงกระถางต้นไม้นั่น ศศิพิมพ์เดินเคียงข้างออกมาพร้อมกัน กระทั่งกลับเข้าไปในรถ ชายหนุ่มจึงได้เอ่ยขึ้นอีกครั้ง

“นั่นของพิมพ์นะคะ”

ศศิพิมพ์มองเขาอย่างไม่เข้าใจ แต่จิรสินอมยิ้ม

“ของขวัญวันเกิด กับของขวัญขอโทษเรื่องเมื่อกลางวันค่ะ” พอเห็นเธอมองอย่างระแวงเขาก็บอกกลั้วหัวเราะ “จริงๆ ค่ะ ไม่ใช่ของกำนัลสาวหรอก ถ้าอย่างนั้นพี่เปย์ไม่อั้นค่ะ”

ศศิพิมพ์อดยิ้มไม่ได้ เธอเอ่ยขอบคุณเขา ก่อนเหลือบมองไปยังถุงกระถางต้นไม้ที่ตั้งไว้บนเบาะหลัง ด้วยดวงตาพราวระยับอย่างถูกใจ

เห็นอย่างนั้น จิรสินก็ยิ้มตาม รู้สึกถูกใจรอยยิ้มของหญิงสาวอย่างประหลาด ดูคล้ายๆ รอยยิ้มเด็กหญิงอายุสิบสองปี ตอนที่ได้ดอกกุหลาบสีแดงเข้มจากเขาในวันวาเลนไทน์





เธอรู้แค่ขากลับ จิรสินต้องพาศศิพิมพ์รับเค้กที่สั่งไว้กลับมาด้วยแต่ที่น่าสงสัยคือ เกิดอะไรขึ้น เพราะถึงศศิพิมพ์และจิรสินจะทำตัวตามปกติ แต่บรรยากาศระหว่างสองคนนั่นกลับดูอึมครึมพิกล อีกอย่างจิรสินกลับมาพร้อมเค้กแล้วก็ต้นไม้ ส่วนศศิพิมพ์มาตัวเปล่ากับแท็กซี่...

จิรสุตาคันปากอยากถาม แต่ยังไม่มีโอกาส และดูเหมือนว่าผู้เป็นเพื่อนจะหลบเลี่ยงพี่ชายของเธออยู่กลายๆ ดังนั้นหญิงสาวจึงเบนเข็มไปยังพี่ชาย

เขานั่งอยู่ลำพังบนเก้าอี้ยาวใต้ต้นมะยมไร้ใบ ห่างจากเตาปิ้งย่างที่ขนมาวางกลางแจ้งกับโต๊ะที่นั่งรับประทานอาหารกันไกลพอสมควร

“พี่สิน”

“ว่า” คนปลีกวิเวกเงยหน้ามองน้องสาว ยิ้มนิดๆ จากนั้นก็ยกแก้วเหล้าในมือขึ้นจิบ อาทิตย์เป็นตัวตั้งตัวตี ขออนุญาตเจ้าของบ้านว่าขอเมาเละที่นี่สักวันหนึ่ง ภรรยาคุณจิรศักดิ์อนุญาตแต่ก็ไม่วายค้อนสามตลบกับพวกชอบเมา ถึงขั้นประชดแสบๆ คันๆ ว่า

‘เป็นสถาปนิกนี่ขาดเหล้ากันไม่ได้’

“ยังไม่ดีกันเหรอ กับยัยพิมพ์น่ะ ไหนบอกจะขอโทษ”

“หือ?” ชายหนุ่มเผลอขมวดคิ้ว เมื่อเห็นธนวัฒน์เดินเข้าไปนั่งข้างศศิพิมพ์ จากท่าทางของผู้ชาย และสายตาที่เขาเห็นมาช่วงเย็นของวันนี้ก็พอจะรู้ หนึ่งในแต้มที่เขาเคยล่าเนื้อหอมน่าดู

“พี่สิน!” จิรสุตาร้องเสียงแหลมเพราะคู่สนทนาไม่สนใจ นั่นแหละจิรสินถึงรู้ตัว เขาดึงสายตากลับมาและบอกน้องสาวแกมบ่น

“เบาๆ ก็ได้ตา หูพี่จะหนวก ว่าไงมีอะไร”

“ว่าไงเหรอ” จิรสุตาทรุดลงนั่งข้างกันและกลอกตา “สรุปคือไม่ได้ยิน ทั้งหูทั้งตาไปอยู่ที่ยัยพิมพ์หมดว่างั้น” เธอเท้าข้อศอกกับพนักพิงและมองพี่ชายพร้อมยิ้มเจ้าเล่ห์ “เสียดายกิ๊กเก่าว่างั้น หึง?”

จิรสินยกเหล้าในแก้วขึ้นดื่มรวดเดียว “ประสาท”

“เออ อย่ากลืนน้ำลายละกัน นี่ถามจริงยังไม่เคลียร์กัน”

“เคลียร์แล้ว”

“อ๋อเหรอ-อ-อ-อ”

“เออ!” พี่ชายย้ำ “ก็ดีกันแล้ว ขอโทษแล้ว เซ็นสัญญาสงบศึกเรียบร้อย แต่พี่ก็ยังไม่รู้อยู่ดีว่าทำไมเพื่อนเรามาโกรธพี่”

“เห?” จิรสุตาดูมึนและจิรสินก็ถอนหายใจ

“ตอนไปรับเค้ก เจอผู้ชายคนหนึ่ง ก็... คนที่ชื่อนันที่เราเล่าให้ฟัง”

จิรสินพูดแล้วก็นิ่งเงียบ วางสายตาไปจับที่ศศิพิมพ์อีกครั้ง

จากร้านต้นไม้มาร้านเค้กไม่ไกลมาก เขาเข้าไปรับเค้กในร้าน ส่วนศศิพิมพ์แวะไปซื้อของที่แม่เขาโทร.มาสั่งเพิ่ม เพราะจิรสุตากับคนอื่นๆ ออกมาจากตลาดแล้ว เขาทำธุระเสร็จก่อนเลยจะตามไปช่วยเธอ ก็พอดีพบว่าเธอซื้อเสร็จแล้วเช่นกัน แต่ติดพันกับคู่สนทนาอยู่คนหนึ่ง

แต่แรกเขาไม่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นคือใคร มารู้ก็ตอนเข้าไปถึงตัวเธอศศิพิมพ์ดูหน้าตาตื่นๆ ที่เขาเข้าไปหา มาถึงบางอ้อก็ตอนทักทายและแนะนำตัวกัน แต่เธอหน้าซีดทีเดียวเมื่อผู้ชายคนนั้นเอ่ย

‘พี่ดีใจนะที่เห็นพิมพ์เริ่มต้นใหม่ อย่าเอาเรื่องของณุมาเป็นปัญหาที่ทำให้พิมพ์ไม่มีความสุขเลย จริงสิ ณุอาการดีขึ้นมากแล้วนะ การตอบสนองดีขึ้น หมอบอกว่ามีโอกาสที่จะฟื้นสูงมาก แล้วก็ข่าวดีอีกเรื่องพี่ฝ้ายก็มีน้องให้พี่ได้สามเดือนแล้ว พ่อแม่ก็พูดอยู่หลานมาพร้อมข่าวดีของอา นี่ก็รอให้พิมพ์ไปโรงพยาบาลจะได้บอก แต่มาเจอกันก่อนพี่ก็เลยบอกเลยละกัน แต่ถ้าไปแล้วพิมพ์ก็ทำเป็นไม่รู้หน่อยนะ ที่บ้านจะได้ไม่โวยว่าพี่ปากสว่างก่อน’

“เรื่องมันก็มีแค่นี้ พี่ก็ยังไม่เข้าใจว่าเพื่อนเราโกรธอะไรพี่”

จิรสุตายกมือขึ้นเกาศีรษะ พูดไม่ออกบอกไม่ถูก

“ทำตัวเหมือนเด็ก” จิรสินตำหนิเอากับน้องสาว “โกรธคนอื่น น้อยใจคนอื่นแล้วพาลมาลงกับพี่ พี่ทำอะไรผิด แค่พี่ไม่ได้ปฏิเสธว่าไม่ใช่แฟนนี่นะ เฮ้อ!”

“ก็มันเป็นเรื่องเปราะบาง อาจไม่ได้โกรธ แต่ไม่กล้าสู้หน้าพี่มากกว่า” จิรสุตาแก้แทน และพี่ชายก็เลิกคิ้วขึ้นรอฟัง เธอจึงบุ้ยปากใบ้ไปยังเพื่อนสนิท “มันอาย แค่พี่นันพูดแค่นั้นพี่ก็คงรู้กลายๆ แล้วละว่ามันแอบรักคนมีเจ้าของ หรือไม่ใช่”

คิดๆ ตามแล้ว จิรสินก็คล้อยตาม

“อีกอย่าง เข้าใจไหม แบบมันก็รักของมัน หนึ่งนะพี่นันอะ ไม่รักแล้วยังมาบอกให้รักคนอื่นอีกมันก็ต้องมีเสียใจใช่มะ สอง อารมณ์ก็จะแบบอยากพาลหน่อยๆ ถ้าใครก็ไม่รู้ทะเล่อทะล่าเข้าไป แล้วดันทำเหมือนรับสมอ้างเป็นแฟน”

“สรุปพี่ผิด”

“เอ้อ! ผิดอยู่นิดนึง แล้วพิมพ์มันก็งี่เง่าด้วย โอเค้?”

จิรสินทำเสียงขึ้นจมูก เขาโคลงศีรษะแต่สายตาก็ยังจับแต่อดีตกิ๊กเก่าที่ปลีกตัวจากธนวัฒน์ออกมาได้แล้ว



ดังปัณณ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 2 เม.ย. 2561, 19:40:04 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 2 เม.ย. 2561, 19:40:04 น.

จำนวนการเข้าชม : 721





<< ๓ ผู้สมรู้ร่วมคิด (70%)   ๔ ผู้เสียหาย (35%) >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account