เคียงเธอ
หวันยิหวาแอบรักจิระ เพื่อนชายข้างบ้านที่รู้จักกันตั้งแต่เกิด โดยที่ไม่รู้ว่าเขาและเธอมีใจตรงกัน วันหนึ่งหวาไม่สบาย จิระจึงช่วยดูแล...แล้วเขาก็เผลอใจจูบเธอเข้าโดยที่เธอไม่รู้ตัว

เป็นตัวละครคู่พี่ของเรื่องเหตุเกิดที่...หัวใจ แต่เพื่อความกระชับและความต่อเนื่อง จึงขอแยกออกมาเป็นอีกเรื่องนึงค่ะ
Tags: จิระ หวันยิหวา แอบรัก เพื่อนสนิท

ตอน: ตอนที่ 3 : ดูหนังกันไหม

เจลกาเดินทางไปปราณบุรีหลายวันแล้ว จิระก็เริ่มงุ่นง่านคิดถึงน้องสาวจับใจ จะโทรหาบ่อยก็ไม่ได้เพราะเดี๋ยวไอ้น้องตัวดีมันจะล้อเอา เขาสั่งให้หล่อนโทรมารายงานว่าเป็นไงบ้างในตอนค่ำๆ ของทุกวัน ถึงมันจะบ่นๆ หน่อยแต่ไอ้น้องคนนี้ก็โทรมาบอกทุกวัน แค่นี้ก็ทำให้เขาคลายกังวลได้มากพอสมควร แต่มันก็เหงานะ น้องทั้งคนไม่อยู่ให้ทะเลาะด้วย เหมือนจะนึกอะไรออกจิระจึงเดินไปหาไปหาเพื่อนสาวข้างบ้าน ชายหนุ่มเปิดประตูเชื่อมบ้านระหว่างบ้านเขาและบ้านเธอ

ประตูทางเชื่อมนี้เป็นความคิดของพ่อแม่เขากับพ่อแม่ยัยหวาที่ลงความเห็นกันว่า ทุบกำแพงทำทางเชื่อมดีกว่า ลูกๆ จะได้ไม่ต้องลำบากเดินอ้อมรั้ว อ้อมไปอ้อมมา กำแพงก็เลยโดนทุบทิ้งซะสร้างประตูซะเลย

“หวาๆ” จิระเคาะประตูบ้านเจ้าหล่อน

“มีอะไรเหรอจี” หวันยิหวาขยับขาแว่นขึ้นเล็กน้อยขณะที่คิ้วสวยขมวดด้วยความสงสัย

“เย็นนี้ว่างไหม” ชายหนุ่มถาม หญิงสาวนึกถึงตารางเวรที่คลินิก

“ว่าง มีอะไรเหรอ”

“ไปดูหนังกันไหม” จิระเอ่ยถาม ตาคมเสมองฟ้าด้วยความเขิน ฝ่ายคนถูกถามก็ก้มหน้ามองพื้นด้วยความรู้สึกเดียวกัน นึกแปลกใจคนตรงหน้า

“วันนี้มีอะไรพิเศษรึเปล่า” หวันยิหวาถามเสียงเบา

“ก็อยากชวน ไปไหม” จิระถามซ้ำ

“ไปสิ”

“แล้วจะให้จีไปรับกี่โมงเหรอ”

“หกโมงเย็นก็ได้จ้ะ” หวันยิหวายิ้มให้

“เช้านี้หวาก็ออกไปพร้อมกับจีเลยละกันนะ” จิระบอกเสร็จก็เดินไปปิดบ้านก่อนขับรถออกมารอหญิงสาวที่หน้าประตูรั้ว



หวันยิหวาเดินเข้ามาในบ้านเพื่อเข้ามาหยิบกระเป๋าสะพาย แล้วก็พลันคิดถึงเหตุการณ์เมื่อครู่นี้ นี่หล่อนฝันไปหรือเปล่านี่จิระชวนหล่อนไปดูหนังกับเขา ถึงจะข้องใจอยู่มากแต่ก็อดมีความสุขลึกๆ ในใจไม่ได้ เพื่อนเธอหลายคนก็เคยเตือนให้หักอกหักใจจากเขาเสียเถอะเพราะฉันกับเขาอาจจะสนิทกันเกินจนไม่อาจเป็นแฟนกันได้ อายุอานามตอนนี้ก็ไม่ใช่น้อยๆ ยี่สิบเก้าแล้วนะยัยหวา ยี่สิบเก้า...ไม่ใช่น้อยๆ แล้วนะยะ คิดแล้วหล่อนก็ถอนใจอีกเฮือกใหญ่ ก่อนคิดว่าน่าจะถึงเวลาที่หล่อนจะตัดใจจากเขาเสียที

แต่มันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยนะที่จะตัดใจจากผู้ชายคนนี้ คนที่เป็นรักแรกและรักเดียว ยี่สิบปีที่ผ่านมาความรู้สึกนี้มันคงจะหยั่งรากลึกเกินไป หากจะตัดใจก็ไม่กล้าพอ ยิ่งอยู่ใกล้ชิดกันมันยากยิ่งทวีคูณ คิดแล้วก็อดสงสารตัวเองไม่ได้ ยังไงก็ต้องตัดใจ แต่ขอหล่อนตักตวงเวลาตอนนี้ก่อนเถอะนะ หากจิระยังไม่มีใครหล่อนยังมีสิทธิ์หวังอยู่สินะ ถึงแม้ว่าความหวังนั้นจะริบหรี่ก็ตาม

‘ชื่นชีวัน เมื่อฉันและเธอชิดใกล้ แต่ไฉนเธอห่างฉันไปทุกที
ช่างไม่มีน้ำใจใยดี ต่อไมตรีสัมพันธ์
เริ่มแต่วันที่เราคบกันคล้ายเพื่อน แต่ดูเหมือนมีสิ่งเร้าใจไหวหวั่น
ปล่อยให้รุมสุมทรวงนานวัน เปลี่ยนเป็นฉันรักเธอ
ไม่เคยเผยความในใจ หากวันใดเผยใจกลัวเก้อ
เฝ้าคอยแต่หลงละเมอ ยามเมื่อเธอห่างไป
อยากให้เธอได้มองเห็นใจฉันหน่อย แต่เพียงน้อยคือหนึ่งมิตรเคยชิดใกล้
จะคู่ควรเสมอเธอเพียงใด สุดแต่ใจของเธอ



“ตอนเย็นเจอกัน” ชายหนุ่มโบกมือให้ก่อนที่จะค่อยๆ เคลื่อนรถออกไป หวันยิหวายืนมองจนชายหนุ่มขับรถไปได้ไกลลิบแล้วจึงเข้าไปในคลินิกวางกระเป๋าลงที่หน้าเคาเตอร์แล้วจึงรินน้ำดื่มด้วยความกระหายหลังจากลำคอรู้สึกจะแห้งผากยังไงชอบกลตอนที่อยู่ด้วยกันสองต่อสองกับจิระ

“พี่หวาแฟนมาส่งหรือคะ” ได้ยินดังนั้นเจ้าหล่อนซึ่งกำลังดื่มน้ำอยู่ถึงกับสำลักน้ำ

“พี่หวาหนูขอโทษค่ะ” ผู้ช่วยคนนั้นทำหน้าตาสำนึกผิดรีบเข้าไปลูบหลังของรุ่นพี่ทันที

“ไม่ใช่แฟนหรอกจ้ะ เพื่อนพี่เขามาส่งเพราะว่าบ้านอยู่ใกล้กันเท่านั้นเอง” หวันยิหวาบอก

“หนูก็นึกว่าเป็นแฟนพี่ซะอีก”

‘พี่ก็คงจะดีใจเหมือนกัน หากเป็นอย่างที่น้องว่า’ หวันยิหวาแอบคิดในใจไม่กล้าพูดออกไปให้ผู้ช่วยได้ยิน



สักครึ่งชั่วโมงต่อมาจิระก็ขับรถมาถึงบริษัทที่ทำนิตยสารท่องเที่ยวที่เขาเป็นคนก่อตั้ง ถึงจะเพิ่งก่อตั้งได้เพียงแค่ห้าปีแต่ก็สามารถไปอยู่ในระดับแนวหน้าได้อย่างไม่ยากเย็น

“สวัสดีครับพี่อร เดี๋ยวผมรบกวนให้เอางานวันนี้ทั้งหมดเอาเข้ามาให้ผมในห้องเลยนะครับ เพราะวันนี้ผมมีนัดตอนเย็นคงอยู่ดึกไม่ได้” จิระบอกเลขาที่อายุน่าจะใกล้ๆ จะสี่สิบ

“ได้ค่ะคุณจี” พี่อรรับคำแต่แววตาเจือด้วยความสงสัย ชายหนุ่มหลังสั่งงานเสร็จก็เดินเข้าไปในห้อง พี่อรเองก็รีบจัดงานเอกสารทั้งหมดเข้าไปส่งให้เจ้านายหนุ่มทันที พอพี่อรออกจากห้องเจ้านายมาเรียบร้อยสำนักข่าวกรองของบริษัทก็ประชุมถกเถียงกันหารือหัวข้อข่าวล่าสุดที่ออกจากปากเจ้านายโดยพลัน

“พี่อรเมื่อกี้บอสบอกมีนัดตอนเย็นนัดกับใครไว้คะ” หญิงสาวที่ชื่อพัดถามขึ้น

“ผู้หญิงรึเปล่าคะพี่อร”

“ไม่รู้น่ะสิ คุณจีไม่ได้บอกพี่ไว้ ถ้าเป็นอย่างที่ว่าก็ดีหรอก พวกเธอรู้อะไรไหมคุณจีน่ะกว่าจะกลับบ้านตั้งสองสามทุ่ม ทำแต่งานจนไม่มีเวลาหาแฟน พี่ล่ะเป็นห่วง” พนักงานหญิงอีกสามคนพยักหน้าเห็นด้วย

“นั่นสิคะ แถมตอนนี้ยังมีผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์สาวสวยสปอนเซอร์ใหม่เข้ามาพัวพัน บอกตามตรงนะคะ นีหมั่นไส้ยัยคนนี้จัง ขนาดคุณจีปฏิเสธก็ยังตื๊อไม่เลิก” พนักงานที่ชื่อนีพูดขึ้นบ้าง

“จำได้หรือเปล่าตอนนั้นที่ต้องไปประชุมกันที่บริษัทนั้นน่ะ มาถึงก็เกาะแขนคุณจีวางท่าเป็นเจ้าเข้าเจ้าของ” พี่อรบอกความเห็นบ้าง

“ใช่ค่ะแต่หนูก็กลั้นหัวเราะแทบตายตอนที่คุณเธอเกาะแขนคุณจีแน่นเชียว แต่คุณจีของเราก็ค่อยๆ แกะมือเจ๊แกออก พร้อมกับบอกเสียงสุภาพว่า ‘ปล่อยเถอะครับมันไม่งาม’ พอพูดคุณจีก็เดินไปอย่างปกติแต่ยัยเจ๊ยั่นสิสงสัยแทบจะกรี๊ดเลยล่ะ” พนักงานที่ชื่อเอมดัดเสียงให้ต่ำตอนที่ ‘ปล่อยเถอะครับมันไม่งาม’ ทำให้คนที่เหลือหัวเราะครืน

“แต่หนูมีเพื่อนอยู่บริษัทที่ยัยคุณขวัญนี่อยู่เขาบอกว่าเป็นลูกสาวของเจ้าของบริษัทเลยนะคะ” พัดบอกสามคนที่เหลือมองหน้ากันแววตาเจือความวิตกทันทีที่พูดจบ

“ถึงว่าสิ...ตอนที่พี่ไปบริษัทคราวนั้นพนักงานดูหวาดๆ ยัยคุณขวัญนี่ชอบกล เป็นลูกเจ้าของนี่เอง” พี่อรพูดขึ้นบ้าง

“งั้นคุณจีก็อันตรายน่ะสิพี่อร” เอมพูดขึ้นซึ่งทุกคนก็เห็นด้วย

“พี่อยากให้คุณจีกับคุณหวาลงเอยกันเร็วๆ จัง” พี่อรว่า

“ใช่ค่ะพี่ หนูว่าคุณหวาน่ารักเรียบร้อย แถมยังใจดี นีว่าเหมาะสมกับคุณจีดีออก” นีว่า

“นั่นสิ เรื่องอะไรจะมาให้ยัยแม่มดนั่นแย่งไป” พัดพูดขึ้นน้ำเสียงหมายมั่น

“นี่ๆ ผู้บริหารเขาตกลงกันว่าจะไปเที่ยวเมืองกาญจน์กันเดือนหน้า พี่ว่ายัยคุณขวัญนั่นตามมาแน่” พอพี่อรเลขาจิระบอกข่าวล่าหัวข้อใหม่สีหน้าทุกคนจึงเป็นกังวลขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

“เป็นงานเลี้ยงภายในบริษัทไม่ใช่เหรอคะพี่แล้วยัยแม่มดนั่นจะมาทำไม” เอมถาม

“ตอนแรกพี่รู้แค่ว่าคุณธนาน่ะเป็นญาติกะเจ้าของบริษัทสปอนเซอร์เท่านั้นแหละ แต่ตอนนี้พอรู้ว่ายัยคุณขวัญเป็นลูกสาวเจ้าของบริษัทนั้นก็เท่ากับว่าเป็นญาติคุณธนา โอ๊ยพี่ละปวดหัวยัยแม่มดของพวกเธอตามมาแน่นอน” คุณอรถึงกับเอามือกุมขมับ คุณธนาที่ว่าคือผู้บริหารคนหนึ่งในบริษัทจิระ สงสัยไปเที่ยวครั้งนี้คงหนียัยแม่มดนี่ไม่พ้นซะล่ะมั้ง

“เอาไงดีอ่ะพี่ยัยแม่มดนั่นไม่ปล่อยคุณจีแหงๆ” นีเองก็เริ่มกังวลตามที่พี่อรว่า

“ถ้าหากยัยคุณขวัญไปจริงๆ วันนั้นเราต้องปกป้องคุณจีให้ถึงที่สุด เพราะเราก็ไม่รู้ว่าแม่คนนี้จะใช้มารยาเกวียนไหนมาหลอกคุณจี” พี่อรกล่าว

“ได้ค่ะ” ยังไม่ทันที่จะพูดอะไรต่อได้มากกว่านี้เสียงอินเตอร์คอมก็ดังขึ้นสำนักข่าวที่กำลังหารือกันอยู่ถึงกับสะดุ้ง

“พี่อรครับผมฝากชงกาแฟให้ถ้วยนึงนะครับ”

“ได้ค่ะคุณจี” คุณเลขารับคำ

“แยกย้ายกันได้แล้ว แต่อย่าลืมเรื่องที่พูดกันเมื่อกี้ล่ะ ถ้าแม่นั่นไปจริงเริ่มแผนได้เลย” พี่อรกล่าวปิดท้ายก่อยแยกย้ายกันไปทำงาน



จิระรีบเคลียร์งานที่ต้องเร่งทำวันนี้ของเขาให้เสร็จส่วนงานอันไหนไม่เร่งส่งวันพรุ่งนี้ก็ได้ก็ค่อยกลับมาทำทีหลัง แต่กว่าจะเสร็จก็เกือบๆ ห้าโมงเย็นชายหนุ่มข้อมือดูนาฬิกา

“เกือบชั่วโมงคงทัน” ว่าพลางจัดโต๊ะทำงานให้เรียบร้อยเอาเครื่องเขียนต่างๆ เก็บเข้าลิ้นชัก ชายหนุ่มเดินออกมาจากห้องยังเห็นพี่อรยังทำงานอยู่เลยเอ่ยทักขึ้น

“อ้าวพี่อรยังไม่กลับอีกเหรอครับ”

“ยังหรอกค่ะอีกสักครู่ก็จะกลับแล้วค่ะ”

“เดี๋ยวลูกจะบ่นเอานะครับ เออใช่พูดถึงลูกพี่อรผมเกือบลืมไปแล้วนะเนี่ย” ชายหนุ่มรีบกลับเข้าไปในห้องทำงานหยิบของสิ่งหนึ่งออกมาจากตู้ด้านหลังโต๊ะ

“พี่อรครับผมฝากแฮปปี้เบิร์ธเดย์น้องอาร์ตด้วยนะครับ” พอพี่อรได้เห็นสิ่งที่ชายหนุ่มถือออกมาถึงกับซึ้งใจ

“ขอบคุณค่ะ ความจริงคุณจีไม่น่าลำบากซื้อให้ลูกดิฉันเลยค่ะ” ลูกของหล่อนได้ของขวัญจากชายหนุ่มคนนี้ตั้งแต่อายุเจ็ดขวบนี่ก็สิบขวบแล้วสินะ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมทุกคนในบริษัทถึงรักและเคารพคุณจิระขนาดนี้ ความมีน้ำใจเป็นกันเองไม่ถือตัวว่าเป็นเจ้านายและลูกน้อง และยิ่งเจ้านายให้ความเป็นกันเองมากเท่าไรความรักและความเคารพก็มากขึ้นเท่านั้น โดยเฉพาะรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ของแต่ละคนคุณจิระก็จำได้หมดเพราะเหตุนี้บรรดาพนักงานจึงรักคุณจีกันทุกคน

“ไม่ลำบากหรอกครับ น้องอาร์ตก็เหมือนหลานผม ผมไปก่อนนะครับพี่อร”



ระหว่างทางที่ขับรถไปจิระก็อารมณ์ดี ชายหนุ่มฮัมเพลงไปเรื่อยๆ จนไปถึงคลินิคของหวันยิหวา

“รอจีนานไหม” จิระถามขณะที่หญิงสาวขึ้นรถเรียบร้อยแล้ว

“ไม่นานหรอกแป๊บเดียวเอง” หญิงสาวบอก

“แล้วจะไปดูเรื่องอะไรกันน่ะ” หวันยิหวาถามต่อ

“จีรู้นะว่าหวาอยากดูเรื่อง...” เขาเอ่ยชื่อภาพยนตร์รักโรแมนติกเรื่องนึงที่หล่อนต้องการไปดูแต่หล่อนคิดว่าจิระคงไม่ชอบดูละมั้งหนังแนวนี้

“ไม่ต้องมาตามใจหวาก็ได้ แล้วจีล่ะอยากดูเรื่องไหน”

“ไม่ได้อยากดูเรื่องไหนเป็นพิเศษหรอก แค่อยากพาหวาออกมาดูหนัง พักสมองจะได้คลายเครียดบ้าง” จิระกล่าวพร้อมกับยิ้มให้

‘เพราะอย่างนี้ไงล่ะเพราะเขาเป็นแบบนี้ไง หล่อนถึงตัดใจจากเขาไม่ได้เสียที’

“ขอบใจนะ” หญิงสาวกล่าวพร้อมกับรอยิ้ม ชายหนุ่มหัวใจกระตุกไปวูบนึงเมื่อเห็นรอยยิ้มของเธอ



“เราไปกินอะไรกันก่อนไหม อีกตั้งชั่วโมงนึงกว่าจะได้ดู” จิระชวน หลังจากซื้อตั๋วหนังเสร็จ ซึ่งหวันยิหวาก็พยักหน้าเห็นด้วย ทั้งสองคนจึงเดินมุ่งหน้าไปที่ร้านอาหารร้านหนึ่งซึ่งพอไปถึงเขาและเธอก็ได้ที่นั่งที่มุมด้านหลังร้าน ขณะที่จิระและหวันยิหวาเดินตามพนักงานไปที่โต๊ะอาหาร โดยที่คนทั้งคู่ไม่รู้ตัวเลยว่าได้ตกเป็นเป้าสายตาของกลุ่มผู้หญิงสามคนไปแล้วและหนึ่งในนั้นมียัยแม่มดหรือขวัญฤดีรวมอยู่ด้วย

“นี่ขวัญ นั่นหนุ่มที่หล่อนตามกิ๊กอยู่ไม่ใช่เหรอ” เพื่อนของหล่อนคนหนึ่งพูดขึ้นพลางชี้นิ้วไปที่ชายหญิงคู่หนึ่งที่เดินผ่านไป ทำให้เพื่อนอีกสองคนมองตามรวามทั้งเจ้าของชื่อที่ชื่อว่าขวัญ

“ไหนบอกว่าหล่อนจีบติดแล้วไงยะ แล้วทำไมเขาพาแฟนมากะหนุงกะหนิงได้” เพื่อนอีกคนพูดเสริมซึ่งประโยคหลังทำให้ขวัญฤดีถึงกับอยากจะกรี๊ดออกมา

“นี่ยัยแพรวเงียบปากไปเลยคนกำลังกลุ้มอย่ามาตอกย้ำ” เพื่อนทั้งสองหัวเราะอย่างแกนๆ ก่อนจะกินข้าวต่อโดยไม่สนใจขวัญฤดีที่ตอนนี้จ้องมองโต๊ะที่จิระกับหวันยิหวานั่งอยู่อย่างไม่วางตา

“ฉันต้องรู้ให้ได้ว่ายัยเฉิ่มคนนั้นเป็นใคร”






ปาลิตา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 16 ส.ค. 2554, 23:20:30 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 17 ส.ค. 2554, 08:07:55 น.

จำนวนการเข้าชม : 2105





<< ตอนที่ 2 : สัญญาข้างหน้าต่าง   ตอนที่ 4 : พิษไข้ >>
violette 17 ส.ค. 2554, 00:29:34 น.
โอมีนางมารแล้วหรือคะ
แล้วใครมาจีบหมอหวามีมั้ยเอ่ย
รออ่านค่า


anOO 17 ส.ค. 2554, 15:59:08 น.
อ้าวๆๆ นายจีเค้ากำลังรุก
ดันจะมีคนมาสกัดแล้วซะงั้น


silverraindrop 17 ส.ค. 2554, 17:17:37 น.
โอะ..โอ มารร้ายเผยโฉมแล้ว
มาลุ้นให้กำลังหวาค่ะ


นางสาวปลาดาว 20 ส.ค. 2554, 01:51:22 น.
โอ้ นางร้าย


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account