กาลครั้งหนึ่งนั้น(ในความบังเอิญ)
เธอกับเขา ความทรงจำที่เคยมีร่วมกันมาก็แค่... อดีตกิ๊ก!
Tags: แต่งงาน,อดีต,รัก,บุพเพสันนิวาส,พรหมลิขิต
ตอน: ๖ คุ้นเคย (เคยชิน) (50%)
“ก็กินซะขนาดนั้น”
ชายหนุ่มหัวเราะขึ้นเบาๆ เดินตามเจ้าของบ้านสาวเข้าบ้าน เขาไปนั่งลงที่โซฟายาวหน้าโทรทัศน์ พลางยกมือขึ้นนวดที่ต้นคอไปมา สักพักศศิพิมพ์ก็ตามมานั่งลงด้วยกัน พร้อมน้ำเย็นๆ ที่เธอรินใส่แก้วมาให้
“ขอบคุณ” พูดแล้วก็ยกขึ้นจิบ จากนั้นครู่ใหญ่เขาก็เบี่ยงตัวหันมามองเธอ “สงสารคุณวัฒน์ไหม”
“สงสาร สงสารทำไมคะ”
เขายิ้ม “พิมพ์รู้พี่หมายถึงอะไร”
เธอถอนใจ “ตัดใจตอนนี้ก็ยังดีกว่าไม่ใช่หรือคะ ยิ่งนานก็ยิ่งทรมาน” คำพูดฟังดูเศร้าๆ
“งั้นเหรอ” เขามองเธอนิ่งเหมือนไตร่ตรอง “ทำไมวันเกิดเรื่อง ทั้งๆ ที่รู้ว่ามันไม่มีอะไร พิมพ์ถึงไม่ปฏิเสธไป พี่เชื่อนะถ้าพิมพ์ยืนยันพ่อแม่พี่ท่านก็คงไม่บังคับ”
“แม่พิมพ์เป็นโรคหัวใจค่ะ”
คำตอบทำให้เขานิ่งไป
“ไม่รู้ตาเคยเล่าไหม พี่พลอยเคยทำให้แม่เสียใจ ที่กลับมาอยู่กับแม่เพราะตอนนั้นท้อง พ่อโกรธมาก ตัดพ่อตัดลูก พอพี่พลอยกลับมาไม่นานเท่าไหร่พ่อก็เสีย”
“ขอโทษ” เขาพึมพำ
“แล้วพี่สินล่ะคะ ทำไมยอม”
“พี่ไม่มีอะไรจะเสียนี่ แต่งก็ได้ หมั้นก็ได้ ถ้าอยู่กันไม่ได้ก็เลิก”
ฟังแล้วเป็นศศิพิมพ์ที่อึ้งแทน พอหายอึ้งก็อดยิ้มไม่ได้
“ไม่พูดให้ดูดีหน่อยเหรอพี่ ว่านี่เป็นเพราะน้องนะ รู้จักกันมานาน แบบตอบแบบพระเอกอะ”
เขาหัวเราะ “รู้ไส้รู้พุงกันดีขนาดนี้แล้วพิมพ์ ถ้าพี่พูดอย่างนั้นยังจะเชื่ออีกเหรอ”
“แหม... เชื่อยากค่ะ”
“ก็นั่นน่ะสิถึงไม่ได้พูด”
เราสบตา และหัวเราะขึ้นพร้อมกัน จากนั้นต่อมาราวอึดใจ ดวงตาที่ศศิพิมพ์มองสบก็ดูละมุนขึ้น
“รู้ไหมอีกอย่างที่พี่ยอมตกลง ก็เพราะอย่างน้อยก็เป็นพิมพ์”
ศศิพิมพ์ยิ้มค้างเพราะนึกว่าฟังผิด แต่ขณะที่กำลังคิดว่าจะทำอย่างไรดี แววขบขันในดวงตาเขาก็ทำให้เธอนึกฉุน
“ถ้าจะบริหารเสน่ห์ เชิญป้ายหน้าเลยค่ะ”
แม้สีหน้าจะเรียบเฉย แต่ในใจเต้นรัวกับคำพูดเขา กับสายตาเขา ทั้งๆ ที่รู้ว่าเขาแค่แหย่เธอเล่น
“เหรอ แต่พี่อยากลองป้ายนี้นะ”
ศศิพิมพ์เม้มริมฝีปาก “ป้ายนี้ร้างแล้วค่ะ”
คนตัวโตจึงแกล้งยั่ว “ที่ว่าร้างเพราะไม่อยากให้พี่เข้าใกล้ กลัวว่าจะหลงรักพี่ขึ้นมาจริงๆ ล่ะสิ บอกมาเถอะ”
หญิงสาวถอนหายใจ “เอาตามที่พี่สบายใจเลยค่ะ”
จิรสินหัวเราะดังลั่นจนหญิงสาวต้องรีบบอกให้เขาเบาเสียง เพราะเนื่องจากว่าตอนนี้ดึกมากแล้ว ถ้ายังหัวเราะแบบไม่เกรงใจ เธอกลัวว่าอาจมีรองเท้าลอยข้ามรั้วมาได้
“พี่สิน!” เสียงเอ็ดนั่นไม่ได้ผล มือน้อยจึงลอยตามไปปิดปากคนตัวโต สัมผัสอุ่นชื้นที่สัมผัสกลางฝ่ามือทำเธอชะงัก ศศิพิมพ์จะดึงมือกลับแต่เขากลับยึดไว้
ศศิพิมพ์ไม่อยากสบตาแต่ก็ทำไม่ได้ เธอมองเขา และเขาก็มองเธอ ดวงตาแพรวพรายนั่นระยิบระยับ
“อยู่กับพิมพ์พี่รู้สึกว่าสบายใจ เพราะอย่างนี้แหละ พี่ถึงบอกว่าเป็นพิมพ์ พี่ถึงได้ยอมตกลง”
คำพูดของเขายังวนเวียนอยู่ในหัว
ปฏิเสธยากว่าไม่หวั่นไหว แต่จะให้ยอมรับมันก็ยังยากพอๆ กัน ศศิพิมพ์ผ่อนลมหายใจ เมื่อวานวันเสาร์และเพราะงานทำให้เธอพอจะเลือนๆ ไปบ้าง แต่พอมาถึงวันอาทิตย์ ได้หยุด ได้พักเต็มที่ คำพูดของจิรสินก็ตามมาหลอกหลอนโดยเฉพาะ... เอ่อ รอยอุ่นๆ ที่ข้างแก้มเธอนี่!
คนอะไร ปากว่ามือถึง! พูดจบแล้วก็หอมแก้มเธอปั๊บ จากนั้นก็เผ่นป่าราบกลับบ้านไปเลย!!
และใครจะคิด ผ่านไปแค่วันเดียวเขายังกล้ามาให้เห็นหน้าอีก!
ศศิพิมพ์ตีหน้าไม่ถูก เมื่อสายๆ จิรสินมาหาถึงบ้าน ชวนเธอหน้าตาเฉยให้ออกไปลองชุดด้วยกัน แน่นอนเธอปฏิเสธไม่ได้ แต่เรื่องเมื่อคืนวันศุกร์ยังทำให้เธอวางตัวไม่ถูก
ในขณะที่เขายิ้มร่า ทำเหมือนไม่รู้สึกรู้สา!
“พี่จะรอค่ะ เร็ว เดี๋ยวได้ไปหาอะไรกินก่อนไปลองชุดกัน”
จะโวยวายหรือก็อายเพราะเขาเฉยๆ ดังนั้นศศิพิมพ์จึงเลือกที่จะเงียบ เพราะนี่เป็นทางเดียวที่เธอทำได้ แต่ครั้นพอเขาเดินตามเข้ามาถึงในบ้านมือของเธอก็ถูกคว้าไว้ หญิงสาวสะบัดออกในทันทีแต่เขายึดไว้แน่น
“ดูพิมพ์เกร็งๆ”
ศศิพิมพ์ไม่รู้จะทึ่ง หรือโกรธเขาดีแล้วตอนนี้
“พี่ไม่ได้เมาค่ะ” ใบหน้าคมสันเปื้อนยิ้ม ดวงตาเขาแพรวพราย “ที่ทำเพราะอยากทำ ตอนนั้นรู้แค่พิมพ์น่ารักมากเท่านั้นเอง”
หญิงสาวจะอ้าปากตอบโต้แต่ก็นึกหาคำไม่ได้ รู้แค่เพียงหน้าเธอร้อนวาบ และไม่กล้าจะสบตาเขา ใจเต้นเร็วขึ้นช้าๆ และสุดท้ายคือเธอดึงมือออกแล้วหมุนตัวเดินกลับขึ้นชั้นสองไปให้เร็วที่สุด
ราวครึ่งชั่วโมงศศิพิมพ์ก็พร้อมออกจากบ้าน แต่พอเจอหน้าจิรสินก็ชะงักอีก
“แวะไปซื้อของให้ฟองน้ำด้วยไหม”
เป็นคำชวนที่ช่วยให้เธอหายอึดอัดไปได้บ้าง
“ก็ดีค่ะ”
เขาพยักหน้ารับเดินเข้ามาใกล้ ไม่วายส่งท้ายให้เธอตัวแข็งทื่อ
“ถึงเราจะเป็นว่าที่คู่หมั้น แต่ถ้าพี่เริ่มจีบพิมพ์ตอนนี้มันคงไม่สายไปใช่ไหม” พูดจบเขาก็แย่งกระเป๋าสะพายเธอไปถือ แล้วเดินลอยชายออกไปรอที่รถ ศศิพิมพ์เหมือนหยุดหายใจไปนานทีเดียว เพราะเมื่อสูดลมหายใจเข้าหน้าอกเธอถึงกับเจ็บ
เธอสูดลมหายใจเข้าลึก ตั้งสติ
เกรียนจริง เกรียนเสมอต้นเสมอปลาย!
ชายหนุ่มหัวเราะขึ้นเบาๆ เดินตามเจ้าของบ้านสาวเข้าบ้าน เขาไปนั่งลงที่โซฟายาวหน้าโทรทัศน์ พลางยกมือขึ้นนวดที่ต้นคอไปมา สักพักศศิพิมพ์ก็ตามมานั่งลงด้วยกัน พร้อมน้ำเย็นๆ ที่เธอรินใส่แก้วมาให้
“ขอบคุณ” พูดแล้วก็ยกขึ้นจิบ จากนั้นครู่ใหญ่เขาก็เบี่ยงตัวหันมามองเธอ “สงสารคุณวัฒน์ไหม”
“สงสาร สงสารทำไมคะ”
เขายิ้ม “พิมพ์รู้พี่หมายถึงอะไร”
เธอถอนใจ “ตัดใจตอนนี้ก็ยังดีกว่าไม่ใช่หรือคะ ยิ่งนานก็ยิ่งทรมาน” คำพูดฟังดูเศร้าๆ
“งั้นเหรอ” เขามองเธอนิ่งเหมือนไตร่ตรอง “ทำไมวันเกิดเรื่อง ทั้งๆ ที่รู้ว่ามันไม่มีอะไร พิมพ์ถึงไม่ปฏิเสธไป พี่เชื่อนะถ้าพิมพ์ยืนยันพ่อแม่พี่ท่านก็คงไม่บังคับ”
“แม่พิมพ์เป็นโรคหัวใจค่ะ”
คำตอบทำให้เขานิ่งไป
“ไม่รู้ตาเคยเล่าไหม พี่พลอยเคยทำให้แม่เสียใจ ที่กลับมาอยู่กับแม่เพราะตอนนั้นท้อง พ่อโกรธมาก ตัดพ่อตัดลูก พอพี่พลอยกลับมาไม่นานเท่าไหร่พ่อก็เสีย”
“ขอโทษ” เขาพึมพำ
“แล้วพี่สินล่ะคะ ทำไมยอม”
“พี่ไม่มีอะไรจะเสียนี่ แต่งก็ได้ หมั้นก็ได้ ถ้าอยู่กันไม่ได้ก็เลิก”
ฟังแล้วเป็นศศิพิมพ์ที่อึ้งแทน พอหายอึ้งก็อดยิ้มไม่ได้
“ไม่พูดให้ดูดีหน่อยเหรอพี่ ว่านี่เป็นเพราะน้องนะ รู้จักกันมานาน แบบตอบแบบพระเอกอะ”
เขาหัวเราะ “รู้ไส้รู้พุงกันดีขนาดนี้แล้วพิมพ์ ถ้าพี่พูดอย่างนั้นยังจะเชื่ออีกเหรอ”
“แหม... เชื่อยากค่ะ”
“ก็นั่นน่ะสิถึงไม่ได้พูด”
เราสบตา และหัวเราะขึ้นพร้อมกัน จากนั้นต่อมาราวอึดใจ ดวงตาที่ศศิพิมพ์มองสบก็ดูละมุนขึ้น
“รู้ไหมอีกอย่างที่พี่ยอมตกลง ก็เพราะอย่างน้อยก็เป็นพิมพ์”
ศศิพิมพ์ยิ้มค้างเพราะนึกว่าฟังผิด แต่ขณะที่กำลังคิดว่าจะทำอย่างไรดี แววขบขันในดวงตาเขาก็ทำให้เธอนึกฉุน
“ถ้าจะบริหารเสน่ห์ เชิญป้ายหน้าเลยค่ะ”
แม้สีหน้าจะเรียบเฉย แต่ในใจเต้นรัวกับคำพูดเขา กับสายตาเขา ทั้งๆ ที่รู้ว่าเขาแค่แหย่เธอเล่น
“เหรอ แต่พี่อยากลองป้ายนี้นะ”
ศศิพิมพ์เม้มริมฝีปาก “ป้ายนี้ร้างแล้วค่ะ”
คนตัวโตจึงแกล้งยั่ว “ที่ว่าร้างเพราะไม่อยากให้พี่เข้าใกล้ กลัวว่าจะหลงรักพี่ขึ้นมาจริงๆ ล่ะสิ บอกมาเถอะ”
หญิงสาวถอนหายใจ “เอาตามที่พี่สบายใจเลยค่ะ”
จิรสินหัวเราะดังลั่นจนหญิงสาวต้องรีบบอกให้เขาเบาเสียง เพราะเนื่องจากว่าตอนนี้ดึกมากแล้ว ถ้ายังหัวเราะแบบไม่เกรงใจ เธอกลัวว่าอาจมีรองเท้าลอยข้ามรั้วมาได้
“พี่สิน!” เสียงเอ็ดนั่นไม่ได้ผล มือน้อยจึงลอยตามไปปิดปากคนตัวโต สัมผัสอุ่นชื้นที่สัมผัสกลางฝ่ามือทำเธอชะงัก ศศิพิมพ์จะดึงมือกลับแต่เขากลับยึดไว้
ศศิพิมพ์ไม่อยากสบตาแต่ก็ทำไม่ได้ เธอมองเขา และเขาก็มองเธอ ดวงตาแพรวพรายนั่นระยิบระยับ
“อยู่กับพิมพ์พี่รู้สึกว่าสบายใจ เพราะอย่างนี้แหละ พี่ถึงบอกว่าเป็นพิมพ์ พี่ถึงได้ยอมตกลง”
คำพูดของเขายังวนเวียนอยู่ในหัว
ปฏิเสธยากว่าไม่หวั่นไหว แต่จะให้ยอมรับมันก็ยังยากพอๆ กัน ศศิพิมพ์ผ่อนลมหายใจ เมื่อวานวันเสาร์และเพราะงานทำให้เธอพอจะเลือนๆ ไปบ้าง แต่พอมาถึงวันอาทิตย์ ได้หยุด ได้พักเต็มที่ คำพูดของจิรสินก็ตามมาหลอกหลอนโดยเฉพาะ... เอ่อ รอยอุ่นๆ ที่ข้างแก้มเธอนี่!
คนอะไร ปากว่ามือถึง! พูดจบแล้วก็หอมแก้มเธอปั๊บ จากนั้นก็เผ่นป่าราบกลับบ้านไปเลย!!
และใครจะคิด ผ่านไปแค่วันเดียวเขายังกล้ามาให้เห็นหน้าอีก!
ศศิพิมพ์ตีหน้าไม่ถูก เมื่อสายๆ จิรสินมาหาถึงบ้าน ชวนเธอหน้าตาเฉยให้ออกไปลองชุดด้วยกัน แน่นอนเธอปฏิเสธไม่ได้ แต่เรื่องเมื่อคืนวันศุกร์ยังทำให้เธอวางตัวไม่ถูก
ในขณะที่เขายิ้มร่า ทำเหมือนไม่รู้สึกรู้สา!
“พี่จะรอค่ะ เร็ว เดี๋ยวได้ไปหาอะไรกินก่อนไปลองชุดกัน”
จะโวยวายหรือก็อายเพราะเขาเฉยๆ ดังนั้นศศิพิมพ์จึงเลือกที่จะเงียบ เพราะนี่เป็นทางเดียวที่เธอทำได้ แต่ครั้นพอเขาเดินตามเข้ามาถึงในบ้านมือของเธอก็ถูกคว้าไว้ หญิงสาวสะบัดออกในทันทีแต่เขายึดไว้แน่น
“ดูพิมพ์เกร็งๆ”
ศศิพิมพ์ไม่รู้จะทึ่ง หรือโกรธเขาดีแล้วตอนนี้
“พี่ไม่ได้เมาค่ะ” ใบหน้าคมสันเปื้อนยิ้ม ดวงตาเขาแพรวพราย “ที่ทำเพราะอยากทำ ตอนนั้นรู้แค่พิมพ์น่ารักมากเท่านั้นเอง”
หญิงสาวจะอ้าปากตอบโต้แต่ก็นึกหาคำไม่ได้ รู้แค่เพียงหน้าเธอร้อนวาบ และไม่กล้าจะสบตาเขา ใจเต้นเร็วขึ้นช้าๆ และสุดท้ายคือเธอดึงมือออกแล้วหมุนตัวเดินกลับขึ้นชั้นสองไปให้เร็วที่สุด
ราวครึ่งชั่วโมงศศิพิมพ์ก็พร้อมออกจากบ้าน แต่พอเจอหน้าจิรสินก็ชะงักอีก
“แวะไปซื้อของให้ฟองน้ำด้วยไหม”
เป็นคำชวนที่ช่วยให้เธอหายอึดอัดไปได้บ้าง
“ก็ดีค่ะ”
เขาพยักหน้ารับเดินเข้ามาใกล้ ไม่วายส่งท้ายให้เธอตัวแข็งทื่อ
“ถึงเราจะเป็นว่าที่คู่หมั้น แต่ถ้าพี่เริ่มจีบพิมพ์ตอนนี้มันคงไม่สายไปใช่ไหม” พูดจบเขาก็แย่งกระเป๋าสะพายเธอไปถือ แล้วเดินลอยชายออกไปรอที่รถ ศศิพิมพ์เหมือนหยุดหายใจไปนานทีเดียว เพราะเมื่อสูดลมหายใจเข้าหน้าอกเธอถึงกับเจ็บ
เธอสูดลมหายใจเข้าลึก ตั้งสติ
เกรียนจริง เกรียนเสมอต้นเสมอปลาย!
ดังปัณณ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 18 เม.ย. 2561, 21:55:18 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 18 เม.ย. 2561, 21:55:18 น.
จำนวนการเข้าชม : 736
<< ๖ คุ้นเคย (เคยชิน) (25%) | ๖ คุ้นเคย (เคยชิน) -จบตอน- >> |