+ * + * + พยศดอกฟ้า (ผู้ช่วยกามเทพ รีโพสต์) + * + * +
นี่มันไม่ใช่แค่พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก หรือราหูอมธรรมดาละ

แค่ดื้อกับแม่หน่อยเดียว อิงอรุณ เทียมสุบรรณ ถึงกับต้องโดนตัดเบี้ยเลี้ยงเลยเรอะ! แถมทางเดียวที่จะพ้นจากสถานการณ์ถังแตกได้ก็คือต้องขอความช่วยเหลือจากผู้ชายเย็นชา ไร้หัวใจ อย่างสาวัช ปรเมศวร์

นับจากวินาทีแรกที่เจอกัน ชีวิตของสาวัชก็ไม่เหลือความสงบสุขอีกเลย เมื่อผู้หญิงเอาแต่ใจใช้ทุกวิถีทางบังคับให้เขาทำตามที่เธอต้องการ ทั้งข่มขู่ แบล็กเมล์ และรวบหัวรวบหาง!

ถ้าไม่ใช่เพราะมีเป้าหมายอยู่ในใจ เขาคงไม่ยอมเดินเข้าไปในกับดักที่หญิงสาววางล่อไว้ง่ายๆ เช่นนี้

นายพรานสาวจอมเอาแต่ใจจะถูกเสือซ่อนลายปราบพยศได้หรือไม่ มหากาพย์เรื่องนี้ต้องดูกันยาวๆ เพราะที่เห็นถือไพ่เหนือกว่ามาตลอด เสือซุ่มอาจรอจังหวะตลบหลังกินรวบดอกฟ้าจอมยุ่งอยู่ก็ได้



+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

เพื่อนๆ นักอ่านค้าาาาาา
เก๊ากลับมาแล้ว มาพร้อมกับข่าวดีที่หลายคนรอคอยด้วย
ม่ายยยย ไม่ใช่สิริณจะสละโสด
แต่ข่าวดีที่ว่าก็คือ ใครที่รอผู้ช่วยกามเทพอยู่
กำลังจะได้อ่านแบบเป็นเล่มกันแล้วนะค้าาาาา

โดยเรื่องนี้สิริณจะพิมพ์เองเลยจ้า เห็นเขาฮิตทำมือกัน เลยอยากทำมั่ง
เย้ยยย ม่ายช่าย เนื่องจากส่งสำนักพิมพ์ผ่านแล้ว
แต่สำนักพิมพ์เปลี่ยนไปแนวจีนแทน (รู้กันอยู่เนอว่า สนพ.ไหน 555)
ทำให้ถูกดองต้นฉบับอยู่เป็นปีต่างหาก

ตอนนี้ถอนต้นฉบับออกมาละ
ไม่ส่ง สนพ. อื่นด้วย เกรงจะต้องรออีกนาน
ตอนนี้สิริณรีไรท์จบแล้ว พร้อมพิมพ์แล้ววววววว

แต่จะเปลี่ยนชื่อเรื่องตอนตีพิมพ์นะคะ
โดย ชื่อเดิม : ผู้ช่วยกามเทพ
ชื่อใหม่ : พยศดอกฟ้า
ตั้งใจว่าจะเขียนเป็นซีรีส์ ดอกดอก 55555
สนิมดอกรัก -> พยศดอกฟ้า -> วิวาห์ดอกกระดาษ

สำหรับพยศดอกฟ้านี้
สิริณจะรีโพสต์ให้อ่านกันวันละหนึ่งตอน
โดยมีจำนวนตอนทั้งหมด 60 ตอน
จะลงให้อ่านจนจบ ไม่ทิ้งกันแน่นอน

ส่วนตอนพิเศษอีก 100 กว่าหน้า
จะมีเฉพาะในฉบับหนังสือและอีบุ๊กเท่านั้น
บอกเลยว่าเขียนเอง ยังเขินเอง
คนอ่านจะฟินขนาดไหน ไม่ต้องเดาเนอะ :D


ตอนนี้ปกเสร็จแล้ว เหลือเก็บงานอีกนิดหน่อย
ก็จะพร้อมเปิดให้จองกันแล้ว
อาทิตย์หน้าจะนำปกมาอวดกันนะคะ

สำหรับใครที่สงสัยว่าสิริณหายไปไหนมา
ไปแต่งงานหรือเปล่า (ใช่เรอะ! 5555)
ก็ขอตอบตรงนี้เลยว่าไปทำงานค่ะ
สิริณกลับไปเป็นสาวออฟฟิศได้เกือบสองปีแล้ว
โดยทำงานในบริษัทเครื่องสำอางระดับมหาชน
ตำแหน่งที่มาพร้อมความรับผิดชอบ
ทำให้แทบไม่มีเวลาพักเลย กลับดึกตลอด
จนเกือบลืมวิธีเขียนนิยายไปแระ

ตอนนี้สิริณพักร่างช่วงใหญ่
กำลังจะเปลี่ยนงาน
ก็เลยรีบมาทำภารกิจที่ติดค้างในใจให้จบก่อน

ใครยังไม่ได้กดไลค์เพจ รีบไปกดไว้นะคะ
www.facebook.com/SirinFC
สิริณใช้สิทธิ์พนักงานซื้อเครื่องสำอางไว้แจกเพียบบบบบ 555

Tags: สิริณ, อิงอรุณ, ผู้ชายเย็นชา, พระเอกซึน

ตอน: ตอนที่ 8

ธนา ปรเมศวร์ ก้าวช้า ๆ ไปบนสนามหญ้าเขียวขจี พลางแกว่งแขนเบา ๆ ตามที่แพทย์แนะนำให้กระทำหลังรับประทานอาหาร โดยมีสาวิตรีเดินอยู่เคียงข้าง จุดหมายของทั้งคู่คือเรือนหลังเล็กซึ่งอยู่ทางด้านหลังของบ้าน

“พักนี้ทำไมดูเงียบ ๆ ” ธนาถามอย่างคนที่สังเกตสังกาสตรีข้างกายมาตลอด

“สงสารพี่จันทร์น่ะค่ะ หลานสาวหายไปหลายวันแล้ว ติดต่อไม่ได้เลย”

“เด็กหายก็ต้องแจ้งตำรวจสิ คนของสาไปแจ้งความหรือยัง”

สาวิตรีส่ายศีรษะ “วินมอเตอร์ไซค์ปากซอยบอกว่าศศิขึ้นแท็กซี่ไปกับผู้ชาย เขาลือกันทั้งซอยว่าศศิหนีตามผู้ชายไป พี่จันทร์แกอาย เลยไม่ไปแจ้งความค่ะ”

“เห็นกันมาตั้งแต่เล็ก ๆ ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นเด็กใจแตกอย่างนี้” ธนาส่ายหน้า และเปลี่ยนเรื่องเพื่อให้อีกฝ่ายคลายกังวล “สาวัชไปทำงานที่บริษัทอาทิตย์นึงแล้ว มาบ่นอะไรให้สาฟังบ้างหรือเปล่า”

“ไม่ได้เล่าอะไรนี่คะ ท่าทางเขามีความสุขที่ได้ไปช่วยงานพ่อกับพี่ ๆ เห็นตั้งใจแล้วก็ทุ่มเทกับงานมาก เอางานกลับมาทำที่บ้านจนถึงดึกดื่นบ่อย ๆ ” สาวิตรีลูบแขนสามีอย่างเอาใจ “นี่คุณหยงไว้ใจให้ไปสะสางปัญหาที่
โคราช สาเห็นแล้วเบาใจว่าคุณหยงไม่ได้รังเกียจน้อง”

ธนาหัวเราะหึ ๆ ขันที่คนเป็นแม่พูดราวกับไม่รู้จักลูกชายตัวเองเลย “มันน่าจะโกรธที่เฮียบังคับให้ลาออกจากมหาวิทยาลัยมากกว่าจะมีความสุขนะ”

“เสี่ยหมิ่นน้ำใจลูก ฟังแล้วสาน้อยใจแทนนะเนี่ย” สาวิตรีพ้อแสนงอน

ธนาตบมืออีกฝ่ายที่เกาะอยู่บนแขนเขาเบา ๆ ปะเหลาะเอาใจ “เอาเถอะ ๆ สาว่ายังไงก็อย่างนั้น เฮียคงเข้าใจผิดไปเอง อย่าน้อยใจไปเลยนะ”

สาวิตรีกอดแขนสามี ซบศีรษะกับบ่าเขา ฝากเนื้อฝากตัวอ่อนหวาน “แค่ที่เสี่ยเมตตาสากับลูกตลอดมา แค่นี้สาก็ซาบซึ้งมากแล้ว ไม่กล้าน้อยใจหรอกค่ะ”

ธนาหน้าชื่น “สาน่ารักตลอด เมื่อก่อนเคยเป็นยังไง เดี๋ยวนี้ก็ยังเป็นอย่างนั้น”

สาวใหญ่สบตาเขาด้วยสายตาภักดี “ลูกโตขนาดนี้แล้ว เสี่ยไม่เบื่อสาหรือ”

“ไม่เบื่อหรอก สาน่ารักอย่างนี้ ใครจะเบื่อลงคอ” ธนาชะงักเหมือนเพิ่งนึกได้

“เออ! พรุ่งนี้สาโทร.เรียกทนายให้เฮียหน่อย เฮียว่าจะทำพินัยกรรมเสียที”

“พินัยกรรมอะไรกันคะ” เธออุทานเสียงสั่น

“อ้าว! เฮียแก่แล้ว จะตายวันไหนก็ยังไม่รู้ เฮียอยากจัดการให้เรียบร้อย”

“ไม่เอาค่ะ อย่าพูดเรื่องตายเตยอะไรนี่เลย สาไม่อยากฟัง” เธอเกาะท่อนแขนเขาแน่น “พินัยกรรมก็ไม่ต้องทำนะคะ มันเป็นลาง สาไม่ชอบเลย”

“ลื้อไม่ห่วงตัวเองเลยเหรอ เกิดเฮียปุบปับตายไป สาจะลำบากนะ”

“เสี่ยก็อย่าตาย อยู่กับสาไปอีกนาน ๆ สิคะ” นางท้วงราวกับตนสามารถประกาศิตความตายได้ดังปากว่า

ธนาหัวเราะ ดึงเธอเข้ามากอดแน่นขึ้น “สานี่น้า หัวโบราณจริง ๆ ”

“จะว่าสาหัวโบราณก็ยอม แต่ห้ามพูดเรื่องนี้อีกนะคะ ไม่งั้นสางอนจริงด้วย”

“ตกลง ๆ สาว่ายังไง เฮียก็ว่ายังงั้นละ” ธนาหัวเราะเอิ้กอ้าก

ทั้งคู่มาถึงเรือนของสาวิตรี จันทร์รีบเปิดประตูให้เจ้านายก้าวเข้าไปนั่งยังโซฟาภายใน เครื่องปรับอากาศเย็นฉ่ำทำให้คนมีอายุที่เดินมาไกลพอควรรู้สึกสดชื่น สาวิตรีกุลีกุจอไปรินเครื่องดื่มใส่จอกเล็ก ๆ มาให้สามีพร้อมกับอธิบาย

“สาไปตรวจสุขภาพประจำปีมา คุณหมอแนะนำว่าน้ำขึ้นฉ่ายคั้นแยกกากช่วยลดความดันโลหิต สาเลยหัดทำเอง ลองชิมดูสิคะว่าฝีมือสาพอกินได้ไหม”

“สาจะทำให้ลำบากทำไม” ปากบ่นอย่างนั้น แต่รอยยิ้มปลื้มเปรมเต็มหน้าบอกให้รู้ว่าคนชราพึงใจกับการเอาอกเอาใจนี้ ธนาจิบน้ำสีเขียวเข้มมีกลิ่นฉุนและรสขมฝาดรวดเดียวหมดแก้ว แล้วออกปากด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม “ชื่นใจ”

“เหม็นเขียวไหมคะ สาลองผสมสาลี่ แอปเปิ้ลแล้วก็น้ำผึ้งลงไปกลบรสดู”

“ชอบมาก ขออีกแก้วได้ไหม” เขาส่งแก้วเปล่าคืน เอ่ยเอาใจทั้งที่รู้สึกตรงข้าม

“ไม่ได้ค่ะ ขึ้นฉ่ายมีสรรพคุณลดความดัน แต่ดื่มมากไปเดี๋ยววูบ หมอย้ำว่าต้องระวังเรื่องปริมาณนะคะ”

“เข้าใจละ ๆ เอาเป็นว่าเฮียจะเป็นคนไข้ที่ดี ทำตามคำสั่งของสาอย่างเคร่งครัดเลยดีไหม” บุรุษชราวาดแขนไปวางบนพนักโซฟา

“ดีคะ เสี่ยจะได้อยู่กับสาไปนาน ๆ ” สาวิตรีนั่งลงเคียงข้างเอนกายซบศีรษะกับบ่าแข็งแรง สายตาที่ทอดมองสามีเต็มไปด้วยรอยรักภักดีเต็มเปี่ยม







เปรมิกานั่งเก้าอี้ตรงข้าม พยักพเยิดเป็นเชิงถามถึงบาดแผลที่ถูกตี สีหน้ามีรอยเสียใจ “เจ็บหรือเปล่า”

“หายเจ็บแล้วค่ะแม่” อิงอรุณยิ้มปลอบใจ ด้วยรู้ว่ามารดาคงรู้สึกแย่ไม่แพ้กัน

“ผู้ชายคนนั้นเป็นใคร”

“คุณสาวัชก็บอกแล้วนี่คะ ว่าเราเป็นแค่คนรู้จักกัน”

“ไม่รู้ลูกเต้าเหล่าใคร พูดจาโอหังเหลือเกิน” มารดาถอนใจ “แต่ก็ต้องชมว่าเขากล้ามากที่พูดกับแม่อย่างนั้น”

“แม่ไม่โกรธคุณสาวัชใช่ไหมคะ” อิงอรุณหมุนช็อกโกแลตอย่างไร้ความหมาย

“เขาไม่ได้พูดจาก้าวร้าวอะไร แค่พูดตรงจนบาดหูคนฟังเท่านั้นละ”

“เขาเป็นอย่างนั้นแหละค่ะ” หญิงสาวชะงัก เมื่อก้นซองมีอะไรนูน ๆ สะดุดนิ้ว เธอพลิกดูก็พบว่ามันเป็นป้ายกระดาษมีชื่อร้านสะดวกซื้อติดราคาไว้เสร็จสรรพ!

“งั้นแม่เข้าเรื่องละนะ วันนี้พ่อแม่พันเทพมาทาบทามสู่ขอ แล้วก็ขอวันเดือนปีเกิดจะไปหาฤกษ์หมั้นฤกษ์แต่ง” เปรมิกากดเสียงให้ราบเรียบ

แค่ขึ้นต้น อิงอรุณก็เดาได้ว่าเรื่องคงจบไม่สวย และนั่นอาจเป็นเหตุผลที่ทำให้มารดาลุโทสะลงมือกับเธอ แถมบิดายังต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ด้วย

“แล้วยังไงคะ” อิงอรุณเหนื่อยใจแต่ไม่อาจผรุสวาทได้ดังคิด เพราะคนที่กำลังพูดถึงคือพ่อแม่ของพันเทพ

หญิงสาวแกะช็อกโกแลตใส่ปาก กลิ่นหอมหวานฟุ้งอยู่ในปาก สารธีโอโบรมีนในช็อกโกแลตกระตุ้นให้สมองหลั่งเอ็นโดรฟีนช่วยให้ร่างกายรู้สึกมีความสุข

“ทางนั้นจะจัดสินสอดทองหมั้นมาให้เราเป็นเงินสดสี่ล้าน ที่ดินแปลงนึง ทองคำสองร้อยบาท เครื่องเพชรอีกสี่ชุด ส่วนแหวนหมั้นจะเป็นเพชรสี่กะรัต”

“มันมากหรือน้อยไปคะ” อิงอรุณไม่แน่ใจว่าตัวเลขที่เหมาะควรเป็นเท่าไร

“ประเด็นไม่ได้อยู่ที่มากหรือน้อย แต่อยู่ตรงที่นายพลศักดิ์สิทธิ์บอกว่าเขาจะเตรียมเฉพาะแหวนหมั้นมาเท่านั้น ที่เหลือขอให้พ่อน้องอิงจัดเตรียมไว้ใส่พานสินสอดให้ด้วย เขาต้องการให้หน้าบ้านเทียมสุบรรณ”

“ธรรมเนียมอะไรคะเนี่ย เอาเงินเราเองไปใส่พานสินสอดเพื่อเป็นการให้หน้าเราเนี่ยนะ เขาจะอวดให้คนอื่นเข้าใจว่าตัวเองรวยที่ให้สินสอดทางเราเยอะต่างหาก”

“คุณพ่อบอกว่าไม่สนใจเรื่องสินสอดว่าต้องมากน้อยเท่าไหร่ สะดวกแค่ไหนก็ให้มาแค่นั้นก็ได้ แต่คุณพ่อเทพยืนกรานว่าเราต้องเตรียมของพวกนี้ไว้ให้”

“แค่ยืนกรานหรือคะ”

“ท่านนายพลควักปืนออกมาวางบนโต๊ะจ้ะ”

ช็อกโกแลตหวาน ๆ เมื่อครู่กลับขื่นขมคอขึ้นมาดื้อ ๆ อิงอรุณกุมขมับ เข้าใจทันทีว่าเหตุใดพ่อจึงล้มหมอนนอนเสื่อ สุพจน์ เทียมสุบรรณ ต้องมาถูกข่มขู่เนี่ยนะ!

“คุณพ่อคงโกรธอิงมาก” หญิงสาวเพิ่งรู้สึกว่าการทำโทษของมารดาเมื่อครู่เทียบไม่ได้เลยกับสิ่งที่เธอสมควรได้รับ

“หลังพวกนั้นกลับไป แม่โทร.หาคุณลุง ท่านรับปากว่าจะเรียกพ่อเทพไปปราม” มารดาเอ่ยถึงพี่ชายซึ่งดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการทหารบกและเป็นเจ้านายโดยตรงของศักดิ์สิทธิ์ “แต่เราก็หวังอะไรไม่ได้มากนักหรอก ยิ่งมีข่าวว่าคุณลุงจะถูกดันขึ้นไปเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด นายพลศักดิ์สิทธิ์ก็ยิ่งกร่างเพราะเป็นตัวเก็งขึ้นคุมกองทัพแทนคุณลุง”

เนื่องจากตำแหน่งผู้บัญชาการทหารสูงสุดนั้น มีคนใต้บังคับบัญชาแค่สามคน คือผู้บัญชาการทหารบก ทหารเรือ และทหารอากาศ แต่ผู้บัญชาการทหารบกมีกำลังพลใต้บังคับบัญชาสามแสนกว่านาย ใครก็ต้องอยากคุมกองทัพมากกว่าขึ้นไปสู่ตำแหน่งสูงสุดนั่น!

อิงอรุณคอตก จนด้วยคำพูด

“แม่รักและเอ็นดูเทพเหมือนลูกชายนะน้องอิง แต่รับพ่อแม่เขาไม่ได้ นี่ขนาดยังไม่ได้เกี่ยวดองกัน เขายังวางอำนาจข่มขู่ ทำยังกับเงินเราเป็นของตัวเอง แล้วถ้าอีกหน่อยน้องอิงเป็นสะใภ้เขาจริง เขามิยิ่งอวดบารมีกว่านี้เหรอ”

อิงอรุณหนักใจ มั่นใจว่าบิดาพันเทพคงไม่มีวันหยุดหรือพอ มีแต่จะเรียกร้องมากขึ้นเรื่อย ๆ ควรแล้วหรือที่จะเอาชีวิตพ่อแม่เข้าไปเสี่ยงกับศักดิ์สิทธิ์ เพียงเพื่อ...

“แม่อยากให้อิงทำยังไงคะ”

“น้องอิงอายุยังน้อย ยังมีโอกาสเจอคนดี ๆ ที่ไม่ต้องพ่วงมาพร้อมปัญหาอย่างนี้อีกเยอะแยะ พ่อเราก็ไม่ต้องมีเรื่องรกใจด้วย เปลี่ยนใจเรื่องแต่งงานกับพันเทพดีไหม ผู้ใหญ่ทางโน้นที่มาทาบทามน้องอิงไว้ เขาก็ยังรอคำตอบอยู่นะ”

อิงอรุณงันไปกับข้อเสนอของมารดา ในฐานะลูกเธอย่อมรักและห่วงใยพ่อกับแม่ที่สุดอยู่แล้ว หากเลิกกับพันเทพแน่นอนว่าเธอจะตัดเรื่องรกใจในภายหน้าได้สิ้นซาก แต่มันจะไม่โหดร้ายสำหรับพันเทพหรือ ที่ตัดสินเรื่องนี้จากครอบครัวเขา มิใช่คุณสมบัติของตัวชายหนุ่มเอง

ที่สำคัญหากเลิกกันจริง เปรมิกาคงจับเธอไปดูตัวกับ ‘ทางโน้น’ ที่เธอยังไม่รู้ว่าทางไหนนั่นแน่ ๆ ก็ไอ้ที่ยอมโดนตัดเบี้ยเลี้ยงรายเดือน ยกเลิกบัตรเครดิต แถมยังขอพันเทพแต่งงาน ก็เพราะไม่อยากถูกจับคลุมถุงชนทั้งนั้น ขืนยอมแพ้ตอนนี้ ก็เท่ากับทั้งหมดที่ทำไปสูญเปล่าน่ะสิ เรื่องอะไรจะยอม นี่มันหนีเสือปะจระเข้ชัด ๆ !
เสียงโทรศัพท์ดังขัดจังหวะ อิงอรุณหยิบขึ้นมาดูชื่อคนโทร.เข้า

“เพชรโทร.มา สงสัยคงจะถามข่าวคุณพ่อ ขออิงรับสายแป๊บนึงนะคะ” อิงอรุณคุยชั่วครู่จึงวางสายด้วยสีหน้าซีดเผือด “แม่คะ เทพอยู่ห้องฉุกเฉินที่นี่ค่ะ”

เปรมิกายกมือทาบอก ตกใจไม่แพ้กัน

“เป็นยังไงมายังไงกันเนี่ย งั้นเรารีบไปกันเถอะ” ท่านคว้ากระเป๋าลุกขึ้นทันที

“กู้ภัยโทร.หาเพชรบอกว่าเทพหมดสติอยู่ในรถไม่ไกลจากบ้าน เพชรให้อิงไปดูก่อน ส่วนเพชรกำลังมาค่ะ” อิงอรุณสรุปพลางสาวเท้าตามมารดาไปติด ๆ

สองแม่ลูกตะลึงจนก้าวขาไม่ออกเมื่อเห็นสภาพของพันเทพ ศีรษะชายหนุ่มมีผ้าพันแผลพันรอบ ใบหน้าซีกหนึ่งเป็นรอยช้ำอมม่วง มุมปากเจ่อบวม แขนเสื้อเชิ้ตข้างขวาถูกตัดมีผ้าพันไว้ตั้งแต่ใต้ข้อศอกลงมาถึงข้อมือ แค่นอกร่มผ้าที่เห็นยังบอบช้ำปานนี้ แล้วใต้ผ้าห่มที่มองไม่เห็น จะมีบาดแผลอีกแค่ไหน!

“เทพถูกใครทำร้าย แล้วทำไมถึงยังขับรถเองทั้งที่อยู่ในสภาพนี้” เปรมิกาตั้งคำถามที่ต้องรอคนเจ็บฟื้นขึ้นมาตอบเอง

“เทพอาจบาดเจ็บ และพยายามขับรถมาโรงพยาบาลเองมั้งคะ แต่หมดสติไปกลางทางซะก่อน” อิงอรุณก้าวเข้าไปยืนมองชายหนุ่มใกล้ ๆ ด้วยความห่วงใย

เสียงครางแผ่วเบาดังลอดมาจากริมฝีปากแตกระแหง พร้อมกับที่คนเจ็บนิ่วหน้าขยับตัวเล็กน้อย อิงอรุณตื่นเต้นรีบก้มลงไปสำรวจอีกฝ่าย แล้วหันไปบอกพยาบาล “คนไข้รู้สึกตัวแล้วค่ะ”

แพทย์ตรวจปฏิกิริยาตอบสนองของรูม่านตา อ่านค่าออกซิเจน วัดความดัน

และเรียกฟิล์มเอกซเรย์มาดู สุดท้ายบอกอิงอรุณและมารดาด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “ปลอดภัยแล้วครับ ทำแผล เช็กกระดูก สแกนสมองแล้ว ไม่มีอะไรผิดปกติ แต่ดูจากบาดแผลคืนนี้คงจะปวดมาก หมอขอให้นอนดูอาการที่โรงพยาบาลสักคืนนะ”

“งั้นดิฉันจะไปทำเรื่องขอแอดมิทค่ะ” เปรมิกาพยักพเยิดกับลูกสาว “น้องอิงอยู่เป็นเพื่อนเทพก่อน เรื่องห้องพักผู้ป่วย แม่จะสั่งเลขาฯ จัดการให้เอง”

อิงอรุณหันมาทางพันเทพซึ่งปรือตาขึ้นอย่างยากเย็น “เป็นยังไงบ้างเทพ”

คนเจ็บเบือนหน้าไปทางอื่น หญิงสาวปลอบเสียงอ่อน “เทพพักมาก ๆ นะ เดี๋ยวดีขึ้นแล้วค่อยเล่าให้อิงฟังว่าเกิดอะไรขึ้น ใครมันกล้าทำแบบนี้กับเทพ อิงไม่ปล่อยไว้แน่” ประกาศเสียงกร้าวไปแล้ว อิงอรุณก็ชะงัก

แม้ชายหนุ่มไม่เคยกร่างอวดอ้างว่าเป็นใคร แต่คนส่วนใหญ่ย่อมรู้ว่าเขาคือลูกชายโทนของพลเอกศักดิ์สิทธิ์ เทพวรสิงห์ ไม่มีใครเสี่ยงมีเรื่องกับทายาทคนใหญ่คนโตอย่างนั้นหรอก เมื่อรวมกับที่กู้ภัยไปช่วยเขาจากรถที่อยู่ใกล้ ๆ บ้าน บางทีคนที่ทำให้พันเทพมีสภาพเช่นนี้อาจจะเป็น...

เธอขับความคิดอกุศลจากใจ บ้าน่า! ไม่มีพ่อที่ไหนลงมือกับลูกแบบนี้หรอก!

“พ่ออิงเป็นยังไงบ้าง” คนเจ็บเสียงแหบ สีหน้าเป็นกังวล

อิงอรุณนึกขอบคุณอีกฝ่าย ที่ขนาดบาดเจ็บ แต่ยังมีแก่ใจถามถึงพ่อเธอ

“พ่อคงเครียดน่ะ หมอยังให้อยู่ในซีซียู เพราะสงสัยว่าที่อาการกำเริบ อาจเกิดจากที่ทำบอลลูนขยายหลอดเลือดหัวใจไปเมื่อหลายปีก่อนอุดตันอีก”

พันเทพหลับตาลง คนเฝ้าไข้จึงเข้าใจว่าเขาเพลียและต้องการพักผ่อน “เทพพักเถอะ อิงไม่กวนแล้ว แม่ไปจัดการเรื่องห้องพักฟื้นอยู่ เดี๋ยวคงจะได้ย้าย”

ไม่นานเขาก็ถูกย้ายไปยังหออภิบาลผู้ป่วยใน เปรมิกาจ้างพยาบาลส่วนตัวมาเฝ้าไข้ ส่วนอิงอรุณมาสมทบกับมารดาที่หน้าห้องซีซียู หญิงสาวโทร.แจ้งข่าวการบาดเจ็บของชายหนุ่มแก่พ่อแม่พันเทพ แต่ปรากฏว่า...

“ทส.บอกว่าท่านนายพลกับคุณหญิงทราบเรื่องแล้ว แต่ตอนนี้ท่านอยู่ที่งานเลี้ยง ยังไม่ว่างมาดูอาการของเทพ แม่ว่าน่าโมโหไหมคะ นี่ลูกชายเขาทั้งคนนะ!”






สิริณ
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 1 พ.ค. 2561, 21:42:12 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 1 พ.ค. 2561, 22:27:58 น.

จำนวนการเข้าชม : 531





<< ตอนที่ 6   ตอนที่ 9 >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account