+ * + * + พยศดอกฟ้า (ผู้ช่วยกามเทพ รีโพสต์) + * + * +
นี่มันไม่ใช่แค่พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก หรือราหูอมธรรมดาละ

แค่ดื้อกับแม่หน่อยเดียว อิงอรุณ เทียมสุบรรณ ถึงกับต้องโดนตัดเบี้ยเลี้ยงเลยเรอะ! แถมทางเดียวที่จะพ้นจากสถานการณ์ถังแตกได้ก็คือต้องขอความช่วยเหลือจากผู้ชายเย็นชา ไร้หัวใจ อย่างสาวัช ปรเมศวร์

นับจากวินาทีแรกที่เจอกัน ชีวิตของสาวัชก็ไม่เหลือความสงบสุขอีกเลย เมื่อผู้หญิงเอาแต่ใจใช้ทุกวิถีทางบังคับให้เขาทำตามที่เธอต้องการ ทั้งข่มขู่ แบล็กเมล์ และรวบหัวรวบหาง!

ถ้าไม่ใช่เพราะมีเป้าหมายอยู่ในใจ เขาคงไม่ยอมเดินเข้าไปในกับดักที่หญิงสาววางล่อไว้ง่ายๆ เช่นนี้

นายพรานสาวจอมเอาแต่ใจจะถูกเสือซ่อนลายปราบพยศได้หรือไม่ มหากาพย์เรื่องนี้ต้องดูกันยาวๆ เพราะที่เห็นถือไพ่เหนือกว่ามาตลอด เสือซุ่มอาจรอจังหวะตลบหลังกินรวบดอกฟ้าจอมยุ่งอยู่ก็ได้



+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

เพื่อนๆ นักอ่านค้าาาาาา
เก๊ากลับมาแล้ว มาพร้อมกับข่าวดีที่หลายคนรอคอยด้วย
ม่ายยยย ไม่ใช่สิริณจะสละโสด
แต่ข่าวดีที่ว่าก็คือ ใครที่รอผู้ช่วยกามเทพอยู่
กำลังจะได้อ่านแบบเป็นเล่มกันแล้วนะค้าาาาา

โดยเรื่องนี้สิริณจะพิมพ์เองเลยจ้า เห็นเขาฮิตทำมือกัน เลยอยากทำมั่ง
เย้ยยย ม่ายช่าย เนื่องจากส่งสำนักพิมพ์ผ่านแล้ว
แต่สำนักพิมพ์เปลี่ยนไปแนวจีนแทน (รู้กันอยู่เนอว่า สนพ.ไหน 555)
ทำให้ถูกดองต้นฉบับอยู่เป็นปีต่างหาก

ตอนนี้ถอนต้นฉบับออกมาละ
ไม่ส่ง สนพ. อื่นด้วย เกรงจะต้องรออีกนาน
ตอนนี้สิริณรีไรท์จบแล้ว พร้อมพิมพ์แล้ววววววว

แต่จะเปลี่ยนชื่อเรื่องตอนตีพิมพ์นะคะ
โดย ชื่อเดิม : ผู้ช่วยกามเทพ
ชื่อใหม่ : พยศดอกฟ้า
ตั้งใจว่าจะเขียนเป็นซีรีส์ ดอกดอก 55555
สนิมดอกรัก -> พยศดอกฟ้า -> วิวาห์ดอกกระดาษ

สำหรับพยศดอกฟ้านี้
สิริณจะรีโพสต์ให้อ่านกันวันละหนึ่งตอน
โดยมีจำนวนตอนทั้งหมด 60 ตอน
จะลงให้อ่านจนจบ ไม่ทิ้งกันแน่นอน

ส่วนตอนพิเศษอีก 100 กว่าหน้า
จะมีเฉพาะในฉบับหนังสือและอีบุ๊กเท่านั้น
บอกเลยว่าเขียนเอง ยังเขินเอง
คนอ่านจะฟินขนาดไหน ไม่ต้องเดาเนอะ :D


ตอนนี้ปกเสร็จแล้ว เหลือเก็บงานอีกนิดหน่อย
ก็จะพร้อมเปิดให้จองกันแล้ว
อาทิตย์หน้าจะนำปกมาอวดกันนะคะ

สำหรับใครที่สงสัยว่าสิริณหายไปไหนมา
ไปแต่งงานหรือเปล่า (ใช่เรอะ! 5555)
ก็ขอตอบตรงนี้เลยว่าไปทำงานค่ะ
สิริณกลับไปเป็นสาวออฟฟิศได้เกือบสองปีแล้ว
โดยทำงานในบริษัทเครื่องสำอางระดับมหาชน
ตำแหน่งที่มาพร้อมความรับผิดชอบ
ทำให้แทบไม่มีเวลาพักเลย กลับดึกตลอด
จนเกือบลืมวิธีเขียนนิยายไปแระ

ตอนนี้สิริณพักร่างช่วงใหญ่
กำลังจะเปลี่ยนงาน
ก็เลยรีบมาทำภารกิจที่ติดค้างในใจให้จบก่อน

ใครยังไม่ได้กดไลค์เพจ รีบไปกดไว้นะคะ
www.facebook.com/SirinFC
สิริณใช้สิทธิ์พนักงานซื้อเครื่องสำอางไว้แจกเพียบบบบบ 555

Tags: สิริณ, อิงอรุณ, ผู้ชายเย็นชา, พระเอกซึน

ตอน: ตอนที่ 13

เช้าวันจันทร์สัปดาห์ต่อมา ณ ตึกใหญ่บ้านปรเมศวร์ ดารณีซึ่งเพิ่งกลับจากปฏิบัติธรรมนั่งหลังตรงอยู่ที่โซฟา ปรายตามองสามีด้วยท่าทีปั้นปึ่ง เย็นชา

“เด็กบอกว่าลื้ออยากเจอ มีอะไรก็ว่ามา” เกือบสี่สิบปีที่ใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน ธนาใช้คำพูดห้วนสั้นกับเธอเสมอ เขาไม่เคยแสดงความห่วงใย อาทร หรือรักใคร่ฉันสามีภรรยาเช่นที่กระทำกับ ‘ผู้หญิงคนนั้น’ เลยสักครั้ง!

“ฉันได้ยินจากทนายว่าเฮียจะโอนหุ้นให้สาวัช”

“ไม่ใช่ธุระของลื้อ” เขาบอกปัดอย่างไม่ไยดี...เช่นเคย

“ทำไมจะไม่ใช่ แค่ที่เฮียให้ไอ้ลูกเมียน้อยใช้นามสกุลปรเมศวร์ก็มากพอแล้ว ไม่เห็นต้องยกหุ้นให้มันเลย”

“อั๊วเป็นพ่อก็ต้องยุติธรรมมอบต้นทุนชีวิตให้ลูกทุกคนอย่างเท่าเทียมกันสิ”

“เฮียยืนกรานจะยกหุ้นให้สาวัชใช่ไหม” น้ำเสียงนางเจือรอยข่มขู่

“ถ้าธุระของลื้อมีแค่นี้ งั้นก็ไม่ต้องคุยกันแล้ว” ธนาเอ่ยจบก็ลุกออกจากห้อง

ดารณีมองห้องว่างเปล่า พลางทอดถอนใจด้วยความกังวล แต่แล้ว...

“ท่าทางคุณนายใหญ่เครียด ๆ มีอะไรที่ดิฉันพอจะช่วยได้ไหมคะ” สาวิตรีเข้ามาในห้องอย่างเงียบเชียบ ถามเสียงอ่อนฟังเผิน ๆ คล้ายห่วงใย แต่สีหน้ากลับไม่ปิดบังความอยากรู้อยากเห็น

“ใครอนุญาตให้เธอเข้ามาในนี้” ดารณีเสียงแข็ง หน้าตึง

“ไม่ต้องให้ใครอนุญาตหรอกค่ะ นี่บ้านสามีฉัน ฉันจะไปไหนมาไหนก็ได้ นี่ฉันก็แค่บังเอิญผ่านมา ได้ยินเสียงคนถอนใจ ก็เลยนึกเป็นห่วง”

“ฉันไม่ต้องการความห่วงใยเสแสร้งดัดจริตนั่น ออกไป!” ดารณีโกรธจัด

“ดิฉันเป็นห่วงคุณนายใหญ่จริง ๆ นะคะ” สาวิตรีสำทับเสียงหวาน แต่ดวงตากลับเต็มไปด้วยประกายสะใจ

“ออกไป ฉันบอกให้ออกไป๊” ดารณีหวีดเสียงแหลม สูญเสียความควบคุม

เสียงตึงตังดังมาแต่ไกล แล้วริสาก็ปรากฏตัวขึ้นโผเข้าไปกอดมารดา “หายใจเข้าลึก ๆ ค่ะหม่าม้า” แล้วหันไปตวาดสาวิตรี “ยืนทำอะไรอยู่อีก ออกไปสิ”

สาวิตรียกมุมปากขึ้นยิ้มสะใจ ขณะแสร้งทำตัวสั่นลนลานยอบตัวถอยออกไป

เป็นนานกว่าดารณีจะคลี่มือของริสาที่กำแน่นอยู่ออกจากกัน จากนั้นลูบแก้มบุตรี พึมพำเสียงเครือ “หม่าม้าขอโทษนะที่ทำให้ลื้อต้องโตมาในสภาพแบบนี้”

ดารณีดึงบุตรีเข้ามากอด มือลูบศีรษะหญิงสาว ซ่อนแววตาและสีหน้าอาฆาตพลางย้ำในใจ เธอจะไม่ให้อภัยคนที่ทำให้ลูก ๆ ต้องเติบโตมาด้วยความเจ็บปวดเช่นนี้เด็ดขาด สักวัน ‘คนพวกนั้น’ จะต้องเสียใจที่เหยียบย่ำความรักของเธอ!





ณ ห้องรับแขกของบ้านเทพวรสิงห์ ผู้เป็นประมุขของบ้านนั่งอยู่บนโซฟากำลังประกอบชิ้นส่วนปืนรีวอลโว เขาตวัดตาไปยังประตูเมื่อได้ยินเสียงกรอกแกรก ครั้นเห็นว่าเป็นบุตรชายจึงหยิบผ้าชุบน้ำมันกันสนิมมาเช็ดปืนต่อ

“ออกจากโรงพยาบาลแล้วหายไปไหน ไม่เห็นหน้าเห็นตา”

“ไปช่วยงานอิงที่บริษัทครับ” พันเทพถือตะกร้าหวายจัดไม้ใบหลายชนิดมาวางบนโต๊ะ แล้วนั่งลงบนพื้นกราบตักบิดา “ผมอยากมากราบขอโทษคุณพ่อครับ”

ศักดิ์สิทธิ์มีสีหน้าผยองลำพอง “ในที่สุดแกก็รู้แล้วสิ ว่าควรทำตัวยังไง”

พันเทพพยักหน้า “ผมจะเสนอตัวเข้าไปเป็นผู้บริหารของสยามดริ๊งค์ฯ และค่อย ๆ ถ่ายโอนอำนาจในการบริหารทั้งหมดมาอยู่ที่ผมให้เร็วที่สุด”

ศักดิ์สิทธิ์โยนผ้าชุบน้ำมันกันสนิมลงบนโต๊ะ หัวเราะก้องพึงใจ หลังจากดื้อรั้นหัวแข็งกินอุดมการณ์ต่างข้าวอยู่นานในที่สุดลูกชายหน้าโง่ก็โอนอ่อนตามความต้องการของเขาเสียที การ ‘สั่งสอน’ มันไปคราวก่อนนับว่าได้ผลจริง ๆ !

“แล้วแกจะทำยังไง ไอ้สุพจน์ถึงจะเชื่อว่าแกไม่ได้หวังสมบัติของมัน” ศักดิ์สิทธิ์หมุนลูกโม่บรรจุกระสุนใส่รังเพลิง

“ผมจะเรียนคุณพ่ออิงว่าขัดแย้งกับพ่อเพราะยืนกรานว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับสมบัติใด ๆ ของอิง แล้วผมก็จะไม่ยอมย้ายเข้าไปอยู่ในบ้านเทียมสุบรรณ แต่จะไปอยู่ที่เรือนหอแทน พ่อโกรธมากก็เลยไล่ผมออกจากบ้าน ด้วยวิธีนี้คุณพ่ออิงน่าจะเชื่อว่าผมยอมขัดใจกับพ่อแต่จะไม่ยื่นมือเข้าไปยุ่งกับสมบัติของอิงเด็ดขาด”

“แกฉลาดเหมือนกันนี่” ศักดิ์สิทธิ์หรี่ตานิด ๆ

พันเทพพยักพเยิดไปยังตะกร้าไม้ใบ “พ่อรับคำขอโทษของผมไว้ใช่ไหมครับ”

“แกเอาไปวางบนโต๊ะฉันโน่น ไว้ตรงนี้เดี๋ยวความชื้นมาโดนปืนฉันขึ้นสนิมหมด” เขาสั่งอย่างอารมณ์ดี คอยจนลูกชายนำตะกร้าไปวางที่โต๊ะทำงาน จัดองศาจนพอใจและกลับมาสมทบแล้ว ศักดิ์สิทธิ์จึงให้หน้าเรียกพันเทพมาคุกเข่าอยู่ใกล้ ๆ

“แค่บอกว่าเราขัดแย้งกันจนฉันบันดาลโทสะและไล่แกออกจากบ้านมันเลื่อนลอยเกินไป ฉันจะทำให้คำพูดของแกมีน้ำหนักมากขึ้นว่าฉันโกรธแค่ไหน ในเมื่อแกยืนกรานจะไปอยู่ที่เรือนหอนั่นให้ได้ ฉันก็เลยต้องสั่งสอนแกให้หลาบจำ”

เพียงขาดคำศักดิ์สิทธิ์ก็ยกมือที่ถือปืนขึ้นจ่อตรงต้นแขนบุตรชาย รอยยิ้มเกรียมปรากฏขึ้นบนใบหน้าเมื่อเขาเหนี่ยวไกลั่นกระสุน

ปัง! เสียงปืนดังสนั่น พันเทพสะดุ้งสุดตัว ผงะหงายหลังลงไปนั่งกองกับพื้น

“พ่อ!” ชายหนุ่มยกมือกุมแผล เลือดสด ๆ ไหลทะลักจนแขนเสื้อเปียกชุ่ม

“ถึงฉันจะยิงแก แต่แกก็ยังยืนกรานว่าจะไปอยู่ที่เรือนหอ ไม่ยอมเข้าไปอยู่ในบ้านเทียมสุบรรณ และจะไม่ยุ่งกับสมบัติของอิงอรุณเด็ดขาด ฉันก็เลย...” ศักดิ์สิทธิ์โน้มตัวมาจ่อปืนที่ขาเขาและลั่นไกอีกคำรบ

หยดน้ำตาร้อน ๆ รินจากหางตาพันเทพ

“สุดท้ายแกก็เลยยื่นคำขาดว่านัดเดียวที่จะบังคับให้แกทำอย่างที่ฉันต้องการได้ ก็คือที่หัวใจเท่านั้น ฉันไม่อยากเสี่ยงกับลูกบ้าของแกอีกถึงยอมวางมือ แกก็เลยเก็บของออกจากบ้าน อย่างนี้ต่างหากถึงจะน่าเชื่อถือกว่าไอ้เรื่องที่แกสร้างขึ้น”

ศักดิ์สิทธิ์ยกปืนขึ้นเป่าควันที่ลอยอยู่บาง ๆ ตรงปลายลำกล้อง แล้วหันปากกระบอกปืนที่ยังร้อนฉ่ามาจ่อขมับบุตรชายขยี้จนได้กลิ่นเนื้อไหม้เหม็นคลุ้ง แล้วบุรุษชราจึงเอ่ยยิ้ม ๆ ด้วยน้ำเสียงสบายอกสบายใจ

“ฉันมอบหลักฐานที่ดีที่สุดให้แล้ว ใช้มันให้คุ้มค่าละ หวังว่าแกจะไม่ทำให้พ่อผิดหวังอีกนะพันเทพ!”





อิงอรุณแปลกใจเมื่อผ่านห้องประชุมแล้วได้ยินเสียงข้างใน ครั้นถามฝ่ายไอทีให้ตรวจตารางจองห้องประชุม ก็ยิ่งงงหนัก “พี่เพชรประชุมกับผู้ช่วยกามเทพครับ”

ทุกบ่ายวันจันทร์ เธอ แพรวเพชร และทีมผู้ช่วยกามเทพจะประชุมเพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมของลูกค้าคู่เด่นๆ ด้วยกัน แปลกที่วันนี้ย้ายมาประชุมตอนสาย

หญิงสาวจึงเคาะประตูแล้วผลักเข้าไปทันที

“สวัสดีจ้ะทุกคน ประเมินลูกค้าอยู่ใช่ไหม โทษทีพี่มาช้าไปหน่อย” หญิงสาวนั่งยังเก้าอี้ว่าง แปลกใจนิด ๆ ที่ทุกคนชะงักงันแข็งค้างกันไปหมด “ว่าต่อได้เลยจ้ะ”

แพรวเพชรขึงตากับลูกน้องคนสนิท แล้วหันมาทางหุ้นส่วน “ว่างเหรอ นึกว่าตรวจสัญญาอยู่ซะอีก”

“ก็ตรวจอยู่แหละ พอดีออกมาหาเอกสารเลยเห็นว่าทุกคนประชุมอยู่ อิงยังไม่ได้เช็กเมลน่ะ เลยไม่รู้ว่าเลื่อนเวลามาประชุมตอนเช้ากัน ขอโทษอีกทีนะ”

“ไม่เป็นไร ไม่มีอะไรสำคัญหรอก นี่ก็ประชุมใกล้เสร็จแล้วละ ว่าแต่คุณหนูเถอะ จะต้องไปเป็นนางแบบกิตติมศักดิ์ที่งานว็อตช์เฟสติวัลอยู่ละ พร้อมหรือยัง”

“ยิ่งกว่าพร้อมอีก ซ้อมทุกวันจนหลับตาเดินได้แล้ว ทีแรกยังนึกว่าต้องซ้อมกันจนหยดสุดท้าย ดีนะที่วันนี้ผู้จัดงานให้พักเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับวันจริง”

“เราละแทบอดใจรอดูอิงขึ้นเวทีไม่ไหวแล้ว” แพรวเพชรยิ้ม แล้วหันไปทางพนักงาน “เอ้า! กลับมาเข้าเรื่องเคส ‘เอสพี’ กันต่อ มีใครคิดอะไรออกบ้างไหม”

อิงอรุณยกมือ “เอสพีนี่อะไรเหรอ”

“ลูกค้าใหม่น่ะ ขอความช่วยเหลือพิเศษ” แพรวเพชรตอบ

“เอสพีนี่ย่อมาจากสเปเชียลเหรอ เก๋นะ” อิงอรุณหัวเราะไม่รู้อิโหน่อิเหน่

“กุ้งว่าให้เวลาทุกคนไปคิดสักวัน แล้วพรุ่งนี้บ่ายค่อยมาประชุมเคสนี้กันใหม่ดีไหมคะ ตอนนี้เค้นไอเดียไปก็คงคิดไม่ออก สมองล้ากันหมดแล้ว” กัญญาซึ่งเป็นผู้ช่วยกามเทพมือรองจากแพรวเพชรเสนอ ทั้งยังสบตากับเจ้านายนิ่ง ๆ

“พรุ่งนี้พี่มีนัดแล้ว” อิงอรุณดูตารางนัดแล้วแย้ง

“อิงไปตามนัดเถอะ เราจัดการเอง” แพรวเพชรเสนอ “เอ้า! งั้นทุกคน พรุ่งนี้สองมาอัพเดทเรื่องนี้กันใหม่ ลงเวลาไว้สักยี่สิบนาทีก็พอ” คนพูดเสก้มลงดูนาฬิกา “วันนี้ประชุมนาน เกือบสองชั่วโมงแน่ะ”

“ประชุมนานแปลว่ามีเคสให้วิเคราะห์เยอะ ดีกว่าประชุมแป๊บเดียว” อิงอรุณมองพนักงานที่เอนศีรษะปรึกษากันด้วยสีหน้าจริงจัง แล้วเพิ่งนึกได้ “เออ เพชร...ปรเมศวร์เทรดดิ้งเปลี่ยนใจแล้วละ อาทิตย์ก่อนยังยักท่าเรื่องสัญญาอยู่เลย อยู่ดี ๆ เมื่อเช้าก็โทร.มาเร่งให้รีบเข้าไปทำสัญญา เพชรพอรู้หรือเปล่าว่าทำไม”

“อิงติดต่อคู่ค้า ยังไม่รู้เลย แล้วเราจะรู้ได้ยังไง” แพรวเพชรหัวเราะขัน ๆ “พูดถึงบริษัทปรเมศวร์เทรดดิ้ง เราเพิ่งสังเกตว่าคุณสาวัชคนที่ไม่รักษาคำพูดจนเราต้องวุ่นวายเปลี่ยนวิทยากรคอร์สพิพิธภัณฑ์ก็นามสกุลปรเมศวร์เหมือนกัน”

“ไม่ใช่แค่นามสกุลปรเมศวร์ แต่เขาเป็นผู้บริหารของปรเมศวร์เทรดดิ้งด้วย”

“เป็นคนระดับผู้บริหาร แต่พูดจากลับกลอกไปมาอย่างนั้น ใช้ไม่ได้เลย” แพรวเพชรตั้งข้อหา

อิงอรุณร้อนใจ รีบอธิบายแทนคนถูกกล่าวหา “ไม่ใช่นะ เขาไม่ได้กลับกลอก ทั้งหมดเป็นความเลินเล่อของอิงเอง ที่เห็นเขาไม่แย้งก็เลยเหมาว่าเขาโอเค ความจริงเขาปฏิเสธแล้ว แต่อิงนึกว่าเขาจะโก่งค่าตัวไง เลยยัดเยียดใส่ชื่อไปก่อน กะจะมัดมือชก แต่เขาดันไม่เล่นตามเกม เรื่องก็เลยเอวังด้วยประการฉะนี้แล”

“ถามจริง เขาเป็นคนแบบไหนเหรอ” แพรวเพชรพิงเก้าอี้สบาย ๆ

“เขาเป็นคนไม่ชอบแสดงออกน่ะ คนนอกดูเผิน ๆ ก็เลยคิดว่าเขาเย่อหยิ่ง จองหอง” อิงอรุณมัวแต่กระตือรือร้นที่จะแก้ตัวแทนสาวัช จนลืมสังเกตว่าไฉนหุ้นส่วนจึงสนใจเรื่องของชายหนุ่มมากกว่าปกติ

“สงสัยเพราะเป็นไฮโซมากกว่ามั้ง ถือว่าครอบครัวมีเงิน เลยไม่เห็นหัวคนอื่น” แพรวเพชรวิจารณ์คล้ายมีอคติ

“เขาไม่ได้อวดรวยหรือทำตัวแย่ ๆ แบบนั้นนะ คุณสาวัชน่ะสมถะจะตาย ห้องทำงานที่มหาวิทยาลัยมีแต่หนังสือกับเอกสาร ไม่มีข้าวของส่วนตัวเลย ออฟฟิศที่ปรเมศวร์เทรดดิ้งก็เป็นแค่ห้องเล็ก ๆ ไม่มีอะไรพิเศษ”

“งกกับประหยัดมันห่างกันแค่เส้นบาง ๆ เองนะ”

“คุณสาวัชไม่ใช่คนงก อิงรับประกันได้”

แพรวเพชรยิ้มขัน “นึกยังไงถึงไปรับประกันคนอื่นแบบนั้น”

“ก็คนงกที่ไหนจะสวมนาฬิกาแพง ๆ อิงว่าเขาน่าจะเป็นนักสะสมนาฬิกาด้วยซ้ำ เขาสวมนาฬิการุ่นเดียวกับพี่นราเชียวนะ”

“อิงรู้เรื่องเกี่ยวกับวิทยากรคนนี้เยอะจัง”

อิงอรุณส่ายหน้าโบกมือปฏิเสธเป็นพัลวัน “เปล่าซะหน่อย อิงก็แค่...เจอกันหลายหน มันก็ต้องเห็นอยู่แล้ว ไม่ได้ตั้งใจจดจำอะไรเลยนะ”

“กุ้งว่าผู้ชายคนนี้ไม่น่าคบเลย ขี้เก๊ก เย็นชา บ้าของแพง ไม่เห็นมีดีสักอย่าง” ผู้ช่วยกามเทพมือขวาของแพรวเพชรเปรยลอย ๆ

อิงอรุณรีบแก้ตัวแทนอีกคำรบ “พี่คิดว่าเขาอาจจะเอาความเย็นชาพวกนั้นมาปิดบังอะไรบางอย่างก็ได้นะ”

“กุ้งไม่เคยเจอผู้ชายคนนี้ อย่าวิจารณ์เลย ไม่ดีหรอก” แพรวเพชรปราม แล้วหันกลับมาที่เธอ “อิงทำงานค้างอยู่หรือเปล่า ถ้ามีจะกลับไปทำต่อก็ได้นะ เดี๋ยวตรงนี้เรายังมีเรื่องต้องวางแผนกันอีกหน่อย เราจัดการเองได้”

“เอางั้นเหรอ ก็ได้ งั้นอิงไปนะ” อิงอรุณโบกมือลาผู้ช่วยกามเทพอย่างร่าเริง

แพรวเพชรคอยจนประตูงับสนิทอีกครั้ง แล้วจึงสบตาพนักงานทีมจับคู่ช้า ๆ “ทุกคนคงได้ยินแล้วนะว่า ‘เอสพี’ ของเราเป็นยังไง ลองวิเคราะห์คร่าว ๆ หน่อยสิ”

“กุ้งว่าที่เขาไม่วางข้าวของไว้ในห้องทำงานที่มหาวิทยาลัยเลย น่าจะเป็นเพราะเขาไม่รู้สึกว่ามหาวิทยาลัยเป็นที่ทางของตัวเอง การไม่วางของส่วนตัว มันเหมือนว่าเขาพร้อมจากไปได้ทุกเมื่อ”

“ที่เมื่อกี้แย้งพี่อิงเป็นฉาก ๆ ตั้งใจแหย่ให้พี่เขาพูดข้อมูลเยอะ ๆ ใช่ไหมเนี่ย”

“ว่าแต่กุ้ง พี่เพชรก็เหมือนกันนั่นแหละ”

ลูกพี่อมยิ้มยอมรับโดยดุษณี “เท่าที่พี่ค้นกูเกิ้ล นอกจากปริญญานิพนธ์และบทความภาษาอังกฤษที่เขาเขียนแล้ว ไม่มีชื่อดอกเตอร์สาวัชในสื่อไหนเลย เขาไม่ใช้โซเชียลเน็ตเวิร์คอะไรสักอย่าง ข่าวสังคมเป็นศูนย์ ข่าวธุรกิจก็ว่างเปล่า คุณสาวัชคนนี้ทำตัวโลว์โปรไฟล์มาก ถ้าเทียบกับฐานะและประวัติส่วนตัวของเขา”

“เกี่ยวกับฐานะแม่ของเขาหรือเปล่าคะ” กุ้งเปิดประเด็น

“อาจเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวก็ได้ พี่ยังไม่อยากฟันธง เอาละทุกคนมาช่วยกันลองคิดฉากการพบกันแบบบังเอิญ ๆ ที่เป็นไปได้ไว้คนละหลาย ๆ อย่างดูสิ”

“พี่เพชรนึกออกแล้วเหรอคะว่าจะจัดฉากที่ไหน เมื่อไหร่ และยังไง” กุ้งถาม

“ดูจากตารางนัดที่หม่อมดวงกมลส่งมา คุณหญิงอินทุอรวีจะไปงานว็อตช์เฟสติวัล ส่วนคุณสาวัชไม่ลงเรื่องส่วนตัวในปฏิทิน เรามาวางแผนเผื่อว่าเขายอมไปงานนี้ก่อนก็ละกัน สิ่งที่เราต้องทำก็คือเขียนเส้นทางเดินให้เขาไปเจอกับคุณหญิงตรงจุดที่เราต้องการ” แพรวเพชรยิ้มมุมปาก ดวงตาเป็นประกาย

“เราควรหายี่ห้อนาฬิกาที่ทั้งสองคนน่าจะชอบเหมือนกันก่อน โดยดูจากความสนใจทั่วไป เอสพีใช้นาฬิการุ่นเดียวกับคุณนราธิป งั้นก็เป็นโอเดอร์มา เพีย-เจต์ รุ่นโรยัลโอ๊ค ทุกคนช่วยกันหารูปคุณหญิงอินทุอรวี ดูนาฬิกาที่เธอสวม แล้วหารายละเอียดมาให้ได้มากที่สุด พรุ่งนี้บ่ายมาคุยกันอีกที จำไว้ว่าห้ามให้พี่อิงรู้เด็ดขาด”

“แล้วถ้าพี่อิงเจอเราที่งานละคะ”

“ก็บอกไปสิ ว่าพี่ใช้เส้นสามีขอบัตรเชิญมาได้ ก็เลยพาพวกเราไปเชียร์พี่อิงเดินแบบ!” แพรวเพชรสรุปปนยิ้ม





**********************************************************************







นิยายเรื่องนี้มี 60 ตอนนะคะ

สิริณจะลงให้อ่าน "จนจบ"

ไม่เท ไม่ทิ้งกันแน่นอน

แต่ในฉบับหนังสือและอีบุ๊ก

จะมีตอนพิเศษจัดเต็มอีกเกือบ 100 หน้า

(ประมาณ 1/5 ของเล่ม)

วันนี้เปิดให้จองหนังสือแล้วจ้า

จะจัดพิมพ์ตามจำนวนจอง ไม่มีวางขายหน้าร้านนะค้า

หนังสือหนา 600 หน้า + ที่คั่น

ราคา 450 บาท ค่าจัดส่ง 30 บาท

สนใจสั่งจองที> https://goo.gl/kHN2TN

** สำหรับ 100 คนแรกที่จองและโอนเงิน จัดส่งฟรี พร้อมรับของแถมพิเศษ **




ฉบับอีบุ๊ค รอประมาณกลางเดือนนะคะ

ตอนนี้กำลังรีบจัดหน้าและขอเลข ISBN อยู่ค่ะ





สิริณ
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 5 พ.ค. 2561, 17:10:41 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 5 พ.ค. 2561, 17:10:41 น.

จำนวนการเข้าชม : 680





<< ตอนที่ 12   ตอนที่ 14 >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account