+ * + * + พยศดอกฟ้า (ผู้ช่วยกามเทพ รีโพสต์) + * + * +
นี่มันไม่ใช่แค่พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก หรือราหูอมธรรมดาละ
แค่ดื้อกับแม่หน่อยเดียว อิงอรุณ เทียมสุบรรณ ถึงกับต้องโดนตัดเบี้ยเลี้ยงเลยเรอะ! แถมทางเดียวที่จะพ้นจากสถานการณ์ถังแตกได้ก็คือต้องขอความช่วยเหลือจากผู้ชายเย็นชา ไร้หัวใจ อย่างสาวัช ปรเมศวร์
นับจากวินาทีแรกที่เจอกัน ชีวิตของสาวัชก็ไม่เหลือความสงบสุขอีกเลย เมื่อผู้หญิงเอาแต่ใจใช้ทุกวิถีทางบังคับให้เขาทำตามที่เธอต้องการ ทั้งข่มขู่ แบล็กเมล์ และรวบหัวรวบหาง!
ถ้าไม่ใช่เพราะมีเป้าหมายอยู่ในใจ เขาคงไม่ยอมเดินเข้าไปในกับดักที่หญิงสาววางล่อไว้ง่ายๆ เช่นนี้
นายพรานสาวจอมเอาแต่ใจจะถูกเสือซ่อนลายปราบพยศได้หรือไม่ มหากาพย์เรื่องนี้ต้องดูกันยาวๆ เพราะที่เห็นถือไพ่เหนือกว่ามาตลอด เสือซุ่มอาจรอจังหวะตลบหลังกินรวบดอกฟ้าจอมยุ่งอยู่ก็ได้
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
เพื่อนๆ นักอ่านค้าาาาาา
เก๊ากลับมาแล้ว มาพร้อมกับข่าวดีที่หลายคนรอคอยด้วย
ม่ายยยย ไม่ใช่สิริณจะสละโสด
แต่ข่าวดีที่ว่าก็คือ ใครที่รอผู้ช่วยกามเทพอยู่
กำลังจะได้อ่านแบบเป็นเล่มกันแล้วนะค้าาาาา
โดยเรื่องนี้สิริณจะพิมพ์เองเลยจ้า เห็นเขาฮิตทำมือกัน เลยอยากทำมั่ง
เย้ยยย ม่ายช่าย เนื่องจากส่งสำนักพิมพ์ผ่านแล้ว
แต่สำนักพิมพ์เปลี่ยนไปแนวจีนแทน (รู้กันอยู่เนอว่า สนพ.ไหน 555)
ทำให้ถูกดองต้นฉบับอยู่เป็นปีต่างหาก
ตอนนี้ถอนต้นฉบับออกมาละ
ไม่ส่ง สนพ. อื่นด้วย เกรงจะต้องรออีกนาน
ตอนนี้สิริณรีไรท์จบแล้ว พร้อมพิมพ์แล้ววววววว
แต่จะเปลี่ยนชื่อเรื่องตอนตีพิมพ์นะคะ
โดย ชื่อเดิม : ผู้ช่วยกามเทพ
ชื่อใหม่ : พยศดอกฟ้า
ตั้งใจว่าจะเขียนเป็นซีรีส์ ดอกดอก 55555
สนิมดอกรัก -> พยศดอกฟ้า -> วิวาห์ดอกกระดาษ
สำหรับพยศดอกฟ้านี้
สิริณจะรีโพสต์ให้อ่านกันวันละหนึ่งตอน
โดยมีจำนวนตอนทั้งหมด 60 ตอน
จะลงให้อ่านจนจบ ไม่ทิ้งกันแน่นอน
ส่วนตอนพิเศษอีก 100 กว่าหน้า
จะมีเฉพาะในฉบับหนังสือและอีบุ๊กเท่านั้น
บอกเลยว่าเขียนเอง ยังเขินเอง
คนอ่านจะฟินขนาดไหน ไม่ต้องเดาเนอะ :D
ตอนนี้ปกเสร็จแล้ว เหลือเก็บงานอีกนิดหน่อย
ก็จะพร้อมเปิดให้จองกันแล้ว
อาทิตย์หน้าจะนำปกมาอวดกันนะคะ
สำหรับใครที่สงสัยว่าสิริณหายไปไหนมา
ไปแต่งงานหรือเปล่า (ใช่เรอะ! 5555)
ก็ขอตอบตรงนี้เลยว่าไปทำงานค่ะ
สิริณกลับไปเป็นสาวออฟฟิศได้เกือบสองปีแล้ว
โดยทำงานในบริษัทเครื่องสำอางระดับมหาชน
ตำแหน่งที่มาพร้อมความรับผิดชอบ
ทำให้แทบไม่มีเวลาพักเลย กลับดึกตลอด
จนเกือบลืมวิธีเขียนนิยายไปแระ
ตอนนี้สิริณพักร่างช่วงใหญ่
กำลังจะเปลี่ยนงาน
ก็เลยรีบมาทำภารกิจที่ติดค้างในใจให้จบก่อน
ใครยังไม่ได้กดไลค์เพจ รีบไปกดไว้นะคะ
www.facebook.com/SirinFC
สิริณใช้สิทธิ์พนักงานซื้อเครื่องสำอางไว้แจกเพียบบบบบ 555
แค่ดื้อกับแม่หน่อยเดียว อิงอรุณ เทียมสุบรรณ ถึงกับต้องโดนตัดเบี้ยเลี้ยงเลยเรอะ! แถมทางเดียวที่จะพ้นจากสถานการณ์ถังแตกได้ก็คือต้องขอความช่วยเหลือจากผู้ชายเย็นชา ไร้หัวใจ อย่างสาวัช ปรเมศวร์
นับจากวินาทีแรกที่เจอกัน ชีวิตของสาวัชก็ไม่เหลือความสงบสุขอีกเลย เมื่อผู้หญิงเอาแต่ใจใช้ทุกวิถีทางบังคับให้เขาทำตามที่เธอต้องการ ทั้งข่มขู่ แบล็กเมล์ และรวบหัวรวบหาง!
ถ้าไม่ใช่เพราะมีเป้าหมายอยู่ในใจ เขาคงไม่ยอมเดินเข้าไปในกับดักที่หญิงสาววางล่อไว้ง่ายๆ เช่นนี้
นายพรานสาวจอมเอาแต่ใจจะถูกเสือซ่อนลายปราบพยศได้หรือไม่ มหากาพย์เรื่องนี้ต้องดูกันยาวๆ เพราะที่เห็นถือไพ่เหนือกว่ามาตลอด เสือซุ่มอาจรอจังหวะตลบหลังกินรวบดอกฟ้าจอมยุ่งอยู่ก็ได้
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
เพื่อนๆ นักอ่านค้าาาาาา
เก๊ากลับมาแล้ว มาพร้อมกับข่าวดีที่หลายคนรอคอยด้วย
ม่ายยยย ไม่ใช่สิริณจะสละโสด
แต่ข่าวดีที่ว่าก็คือ ใครที่รอผู้ช่วยกามเทพอยู่
กำลังจะได้อ่านแบบเป็นเล่มกันแล้วนะค้าาาาา
โดยเรื่องนี้สิริณจะพิมพ์เองเลยจ้า เห็นเขาฮิตทำมือกัน เลยอยากทำมั่ง
เย้ยยย ม่ายช่าย เนื่องจากส่งสำนักพิมพ์ผ่านแล้ว
แต่สำนักพิมพ์เปลี่ยนไปแนวจีนแทน (รู้กันอยู่เนอว่า สนพ.ไหน 555)
ทำให้ถูกดองต้นฉบับอยู่เป็นปีต่างหาก
ตอนนี้ถอนต้นฉบับออกมาละ
ไม่ส่ง สนพ. อื่นด้วย เกรงจะต้องรออีกนาน
ตอนนี้สิริณรีไรท์จบแล้ว พร้อมพิมพ์แล้ววววววว
แต่จะเปลี่ยนชื่อเรื่องตอนตีพิมพ์นะคะ
โดย ชื่อเดิม : ผู้ช่วยกามเทพ
ชื่อใหม่ : พยศดอกฟ้า
ตั้งใจว่าจะเขียนเป็นซีรีส์ ดอกดอก 55555
สนิมดอกรัก -> พยศดอกฟ้า -> วิวาห์ดอกกระดาษ
สำหรับพยศดอกฟ้านี้
สิริณจะรีโพสต์ให้อ่านกันวันละหนึ่งตอน
โดยมีจำนวนตอนทั้งหมด 60 ตอน
จะลงให้อ่านจนจบ ไม่ทิ้งกันแน่นอน
ส่วนตอนพิเศษอีก 100 กว่าหน้า
จะมีเฉพาะในฉบับหนังสือและอีบุ๊กเท่านั้น
บอกเลยว่าเขียนเอง ยังเขินเอง
คนอ่านจะฟินขนาดไหน ไม่ต้องเดาเนอะ :D
ตอนนี้ปกเสร็จแล้ว เหลือเก็บงานอีกนิดหน่อย
ก็จะพร้อมเปิดให้จองกันแล้ว
อาทิตย์หน้าจะนำปกมาอวดกันนะคะ
สำหรับใครที่สงสัยว่าสิริณหายไปไหนมา
ไปแต่งงานหรือเปล่า (ใช่เรอะ! 5555)
ก็ขอตอบตรงนี้เลยว่าไปทำงานค่ะ
สิริณกลับไปเป็นสาวออฟฟิศได้เกือบสองปีแล้ว
โดยทำงานในบริษัทเครื่องสำอางระดับมหาชน
ตำแหน่งที่มาพร้อมความรับผิดชอบ
ทำให้แทบไม่มีเวลาพักเลย กลับดึกตลอด
จนเกือบลืมวิธีเขียนนิยายไปแระ
ตอนนี้สิริณพักร่างช่วงใหญ่
กำลังจะเปลี่ยนงาน
ก็เลยรีบมาทำภารกิจที่ติดค้างในใจให้จบก่อน
ใครยังไม่ได้กดไลค์เพจ รีบไปกดไว้นะคะ
www.facebook.com/SirinFC
สิริณใช้สิทธิ์พนักงานซื้อเครื่องสำอางไว้แจกเพียบบบบบ 555
Tags: สิริณ, อิงอรุณ, ผู้ชายเย็นชา, พระเอกซึน
ตอน: ตอนที่ 41
ห้องฮิมาวาริแห่งภัตตาคารโตเกียวในโรงแรมคีรีธารารีสอร์ทแอนด์สปา เป็นห้องพิเศษที่ตกแต่งให้บรรยากาศเหมือนรับประทานอาหารอยู่ใจกลางเมืองหลวงของญี่ปุ่น บัดนี้เบาะฟากหนึ่งมีสามพี่น้องสกุลปรเมศวร์ และธนภูมิกำลังเฝ้าคอยการมาถึงของคู่สัญญา...กลุ่มทุนลึกลับที่เสนอขอซื้อหุ้นของปรเมศวร์เทรดดิ้ง
เมื่อนาฬิกาบอกเวลาสิบเจ็ดนาฬิกา เสียงเคาะก็ดังขึ้น จากนั้นบานประตูถูกเลื่อนไปด้านข้าง คนที่มาก่อนแล้วมองไปยังผู้ที่ก้าวเข้ามาเป็นตาเดียว เพียงเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นใคร ตัวแทนกลุ่มปรเมศวร์เทรดดิ้งก็รีบทำความเคารพผู้มาใหม่ จากนั้นทั้งสี่คนจึงหันมาสบตากันด้วยความประหลาดใจคาดไม่ถึง
“ตามสบายเถอะ ไม่ต้องพิธีรีตองมากมาย คนกันเองทั้งนั้น” ผู้อาวุโสกว่าโบกมือไม่เห็นเป็นเรื่องใหญ่ แล้วนั่งลงคนละฟากโต๊ะเผชิญหน้ากับสามพี่น้องและทนาย กวาดตาพินิจลูกหลานสกุลปรเมศวร์ทีละคนจนมาหยุดสายตาที่สาวัช
ชายหนุ่มกำมือแน่น ความอาดูรรื้นขึ้นในอก
สุพจน์นี่เอง...ผู้ที่ต้องการควบคุมกิจการของปรเมศวร์เทรดดิ้ง บิดาของ
อิงอรุณรู้ราคาประเมินของหุ้นพีอาร์เอ็ม แสดงว่าท่านจับตาดูบริษัทมาระยะหนึ่งแล้ว และการยื่นมือเข้ามาซื้อบริษัทในยามที่ทุกอย่างมาถึงจุดต่ำสุดย่อมไม่ใช่เหตุบังเอิญ แต่เป็นแผนการที่ถูกกำหนดไว้ตั้งแต่แรกแล้ว!
เขานึกถึงบทสนทนา ปัญหา เรื่องราวหนักใจ หรือแม้กระทั่งความลับของบริษัท ทั้งหมดที่เคยพูดคุยกับอิงอรุณ ที่แท้...หญิงสาวมิได้สนใจไยดีอะไรเขามากไปกว่าต้องการข้อมูลเพื่อนำไปส่งต่อให้บิดาเท่านั้น
‘นี่อิงก็กำลังปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมายมาอย่างสุดความสามารถอยู่นะคะ ไม่ได้ทำเล่น ๆ สักหน่อย’
ที่เธอพูดโทรศัพท์ที่สีชังวันนั้น คู่สนทนาคือสุพจน์ เทียมสุบรรณ นี่เอง
‘อิงทุ่มสุดตัวขนาดนี้แล้ว อย่าลืมส่วนแบ่งยี่สิบเปอร์เซนต์ของอิงละกัน’
ความรู้สึกดีและมิตรภาพของเขามีค่าแค่ยี่สิบเปอร์เซ็นต์ของมูลค่าบริษัทเท่านั้น เธอช่างมักน้อยเสียจริง!
ที่แท้ทั้งหมดก็เป็นแค่เรื่องของผลประโยชน์ เขาไม่ได้รับความรู้สึกใดที่ทัดเทียมกันกลับมาเลย...
น่าเศร้า...ที่แม้รู้แก่ใจเช่นนั้น แต่เขาเกลียดผู้หญิงคนนั้นไม่ลง!
น่าสมเพช...ที่ใจเขาหม่นหมอง เมื่อตระหนักว่าหากการเจรจาครั้งนี้สำเร็จ เส้นทางของเขาและอิงอรุณคงฉีกแยกห่างจากกันไกลขึ้นทุกที บรรพบุรุษคงยอมรับไม่ได้ถ้าเขามีความรู้สึกดีให้ทายาทของผู้ที่ซื้อบริษัทต้นตระกูลไป!
สุพจน์เปิดฉาก “ผมทราบเรื่องคุณแม่ของคุณริสาแล้ว เสียใจด้วยนะครับ”
“ตำรวจแค่เชิญตัวไปสอบปากคำเท่านั้น ยังไม่มีการยืนยันว่าท่านเป็นผู้ต้องหาค่ะ” ริสาอธิบายเสียงเรียบ มือที่กำแน่นอยู่บนตักบอกให้รู้ว่ากำลังอดทนอย่างหนัก ริสาทนฟังใครให้ร้ายมารดาไม่ได้เลย ไม่ว่าสิ่งที่ท่านทำจะถูกหรือผิดก็ตาม อย่างไรเสียท่านก็เป็นแม่ของเธอ!
“ผมสนิทกับท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ถ้ามีอะไรให้ช่วย ก็บอกได้เสมอนะ” สุพจน์เสนอตัว
“ขอบคุณค่ะ แต่เราติดต่อขอความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ไปแล้ว ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรค่ะ” เมื่อทักทายตามธรรมเนียมแล้ว ริสาจึงเข้าเรื่อง “ดิฉันต้องสารภาพว่าคาดไม่ถึงจริง ๆ ว่าบริษัทที่ขอเทนเดอร์หุ้นพีอาร์เอ็มจะทำหน้าที่แทนคุณสุพจน์ ถ้าทราบก่อนว่าท่านสนใจปรเมศวร์เทรดดิ้ง เราคง...”
คนสูงวัยกลับยิ้มแย้มแทรกถามกลางคัน “หุ้นที่กลุ่มประเมศวร์ถืออยู่มีรวมกันราวยี่สิบหกเปอร์เซ็นต์ ที่คุณริสาแจ้งตัวแทนของผมว่าจะขายหุ้นทั้งหมดที่มีในมือ โดยขอตำแหน่งซีอีโอไว้ ผมไม่มีปัญหาตรงจุดนั้น คุณและทีมงานจะยังคงคุมอำนาจบริหารทั้งหมดไว้อย่างเดิม คุณจะ...”
“ดิฉันเปลี่ยนใจแล้วค่ะ” หญิงสาวปฏิเสธทันควัน
ทุกคนในห้องมีปฏิกิริยาแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
สุพจน์เลิกคิ้วเล็กน้อย แต่ดูไม่ประหลาดใจนักดุจคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าแล้ว
ธนภูมิและสาวัชมองไปยังหญิงสาว พยายามตามให้ทันว่าเธอคิดอะไรอยู่
วัชระยิ้มกว้างไม่เก็บกิริยา มองพี่สาวด้วยสายตาชื่นชม และสะใจยามเหลือบไปทางคู่เจรจาดุจผู้มีชัยเหนือกว่า
“ดิฉันไม่ต้องการเงินสดจากการขายหุ้นพีอาร์เอ็มค่ะ” ริสาเอ่ยอย่างเชื่อมั่น สบสายตากับสุพจน์โดยไม่เกรงกลัว “ดิฉันไม่ขาย แต่อยากแลกหุ้นพีอาร์เอ็มกับหุ้นเอสดีซีในมูลค่าที่เท่ากันค่ะ”
สุพจน์ชะงัก ก่อนหัวเราะก้องพึงใจอย่างที่สุด “ไม่เลว! ฉลาด แล้วก็เจนจัดสมกับเป็นลูกสาวของเสี่ยธนาจริง ๆ ”
สาวัชนึกชื่นชมพี่สาวต่างมารดาสุดหัวใจ ริสาอ่านเกมขาดอีกครั้ง! สุพจน์นั้นคร่ำหวอดในเรื่องการเข้าซื้อกิจการจนนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์จัดให้เขาเป็นมือวางระดับตำนาน หมากทุกตัวที่เขาเดินมีแต่ทำให้กำไรของบริษัทแม่อย่างสยามดริ๊งค์ฯ เติบโตขึ้นแบบก้าวกระโดด การเสนอขอแลกหุ้นเช่นนี้อยู่นอกเหนือความคาดคิดของทุกคนโดยสิ้นเชิง และนั่นทำให้ชายหนุ่มคิดว่าคำชมของสุพจน์ ‘ไม่คู่ควร’ กับความสามารถแท้จริงของริสาแม้สักเสี้ยว!
“กราบขอบพระคุณสำหรับคำชมค่ะ แต่ดิฉันคงไม่บังอาจรับ เพราะถ้าดิฉันต่อรองเก่งอย่างที่คุณสุพจน์ว่าจริง เราคงไม่ต้องมาพบกันในสภาพนี้ ไม่ทราบว่าคุณสุพจน์คิดยังไงกับข้อเสนอของดิฉันคะ”
สาวัชแทบกลั้นใจรอฟังคำตอบ เพราะการขอปันหุ้นจากผู้ถือหุ้นใหญ่นั้นเป็นเรื่องสำคัญ สุพจน์คงคิดหนักหากต้องเสียสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทตัวเองให้คนนอก มันอาจทำให้การบริหารจัดการในภายภาคหน้ายุ่งยากกว่าที่เคยเป็น
สุพจน์วางหน้านิ่ง กิริยานั้นมั่นคงและเยือกเย็นดุจภูเขาน้ำแข็งในมหาสมุทรแอตแลนติก ไม่หวั่นไหว ไม่ลังเลสักนิด หลังจากไตร่ตรองอยู่ชั่วขณะ เขาจึงเอ่ย
“จำนวนหุ้นที่เราจะแลกกัน ให้คำนวณราคาตามที่ซื้อขายกันในกระดานวันที่เซ็นสัญญา คุณขัดข้องไหม”
“ขอให้คำนวณตามราคาตลาดในวันนี้เลย คุณสุพจน์จะสะดวกไหมคะ”
สายตาผู้อาวุโสเปี่ยมด้วยแววชื่นชม “คุณกลัวผมปั่นราคาหุ้นเอสดีซีให้สูง จะได้แลกจำนวนหุ้นให้คุณน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้งั้นเหรอ”
“เรียนตามตรงว่าใช่ค่ะ” ริสาไม่อับอายหรือเกรงคนฟังสะเทือนใจ
“งั้นเรามาเซ็นสัญญากันพรุ่งนี้เลย” สุพจน์เปิดแท็บเล็ตเช็กราคาหุ้น แล้วหันไปทางธนภูมิ “ราคาของเอสดีซีวันนี้อยู่ที่หุ้นละสองร้อยสิบหกบาท”
“ค่ะ สองร้อยสิบหกบาท ดิฉันยอมรับที่ราคานี้”
“ยินดีที่ได้ทำธุรกิจร่วมกันนะ คุณริสาต้องการเข้าถือหุ้นของสยามดริ๊งค์ฯ แล้วต้องการอำนาจบริหารในสยามดริ๊งค์ฯ ด้วยหรือเปล่า”
“ไม่ต้องการค่ะ”
สาวัชอ่านความคิดของริสาออกปรุโปร่ง หญิงสาวเพียงต้องการอำนาจต่อรองสำหรับนั่งในตำแหน่งซีอีโอของปรเมศวร์เทรดดิ้งเท่านั้น เพราะเมื่อสุพจน์จำต้องแบ่งหุ้นให้เธอ สัดส่วนการถือหุ้นสยามดริ๊งค์ฯ ของเขาย่อมลดลง ตราบใดที่เขายังปฏิบัติกับครอบครัวปรเมศวร์อย่างพันธมิตร ทุกเสียงโหวตของริสาในการประชุม
ผู้ถือหุ้นสยามดริ๊งค์ฯ จะเป็นของสุพจน์ แต่ถ้าเขาคิดหักหลัง คะแนนโหวตของเธอจะเป็นของฝั่งตรงข้ามทันที ซึ่งสุพจน์ไม่ทำอะไรเสี่ยง ๆ เช่นนั้นแน่นอน
“คุณเป็นผู้หญิงที่ฉลาดมาก เสี่ยธนาโชคดีที่มีลูกเก่งอย่างนี้”
ใช่...เขาก็โชคดีมากที่มีพี่สาวเก่งอย่างนี้ หากต้องรับมือเอง เขาคงทำมันออกมาได้ไม่ดีเท่าที่ริสากำลังกระทำอยู่
สาวัชเหลือบมองวัชระ เห็นพี่ชายกำมือแน่น ไม่พอใจกับการเจรจา แม้จะหนักใจ แต่ชายหนุ่มมั่นใจว่าริสากล่อมวัชระให้เห็นด้วยไม่ยาก
ชายหนุ่มเลื่อนสายตาไปสังเกตปฏิกิริยาทนายมือฉกาจของบริษัทบ้าง จึงพบว่าฝ่ายนั้นกำลังมองริสาด้วยสายตาชื่นชม และถ้าตาไม่ฝาดเขาเชื่อว่าเห็นความภาคภูมิภักดีฉายฉาดมาจากดวงตาคู่นั้นเช่นกัน!
หากไม่ติดว่าอยู่ในห้องที่กำลังเจรจาเรื่องสำคัญ ชายหนุ่มคงเผลอเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ ริสารู้ตัวไหมนะว่ามีใครบางคนเฝ้ามองเธอและมีความรู้สึกพิเศษมอบให้ บางที...เขาน่าจะลองเชียร์ธนภูมิให้พี่สาวพิจารณาบ้าง
สาวัชชะงัก เขากลายเป็นคนประเภทที่อยากช่วยให้คนอื่นมีความรักไปตั้งแต่เมื่อไร คงต้องโทษอิงอรุณ! ผู้หญิงคนนั้นทำให้โลกเงียบสงบของเขาเปลี่ยนไปจนแทบไม่เหลือเค้าเดิม เธอทำให้เขาต้องมาเรียนรู้ความรู้สึกทั้งสุข ทุกข์ ขมขื่น เจ็บปวด และสมหวังในคราเดียว
พลันที่ความคิดนั้นตกกระทบถึงใจ ชายหนุ่มก็นึกชิงชังตัวเอง ผู้หญิงคนนั้นร่วมมือกับพ่อฮุบกิจการของบริษัทฯ เขายังจะนึกถึงเธอด้วยความรู้สึกดีอีกทำไม
โทรศัพท์ในกระเป๋าเสื้อสั่นเป็นจังหวะบอกว่ามีข้อความเข้า ครั้นเปิดอ่านจึงพบว่าอิงอรุณส่งชื่อภัตตาคารฝรั่งเศสในโรมแรมสุดหรูมาให้ นัดหมายเวลาดิบดี ทั้งยังทิ้งท้ายว่า ‘จะคอย’ ให้เขารีบไปหาโดยเร็วที่สุดหลังเสร็จธุระ
สาวัชทั้งสมเพชแกมเวทนาตัวเอง เขามองข้อความนั้นนิ่งนาน สุดท้ายจึงกดลบโดยไม่ลังเล ทว่าหากสังเกตให้ดีจะเห็นว่าชายหนุ่มกำมือแน่นระงับความรู้สึก เลิกคิดถึงอิงอรุณเสียที เธอไม่มีค่าพอให้เขาระลึกถึงอีกต่อไปแล้ว!
โสมสุรางค์นั่งบนโซฟามองบอดี้การ์ดของแพรวเพชรลบไฟล์ที่เธอ ‘สะสม’ มาอย่างยากลำบากด้วยสายตาละห้อย เพียงคลิกเดียวที่ผู้ชายคนนั้นกด ทำให้ทุกหยาดเหงื่อแรง ‘กาย’ ที่เธอพลีไป กลายเป็นอากาศธาตุในพริบตา
“ได้เวลาโอนเงินคืนแล้ว รายการที่จดไว้อยู่ไหน” การุณเสียงเข้มตีหน้าขึงขัง
โสมสุรางค์กระฟัดกระเฟียดลุกไปในครัว ไขกุญแจตู้ข้างเตาไฟฟ้า เปิดลิ้นชักดึงสมุดปกหนังเล่มเท่าฝ่ามือ ถือมายืนค้ำศีรษะอีกฝ่ายตรงข้างโซฟา แล้วโยนสมุดลงบนโต๊ะรับแขกอย่างกระแทกกระทั้น
การุณหยิบสมุดไปพลิกอ่านคร่าว ๆ แล้วสั่ง “มาเริ่มโอนเงินคืนกันเลย”
“ฉันปวดฉี่ ขอเข้าห้องน้ำก่อนได้ไหม” เธอเหลือบมองโทรศัพท์มือถือบนโต๊ะ
“จะไปก็รีบไป” การุณรำคาญ แต่ก็วางสมุดลงทำท่าจะลุกขึ้นยืน
โสมสุรางค์แสร้งสะดุดขาล้มถลาเข้าไปหาร่างแข็งแกร่ง มือกวาดข้าวของจากโต๊ะลงบนพื้น หญิงสาวกระชากเสื้อเชิ้ตเขาแบะออก แล้วไล่จูบไปตามแผงอกแกร่งเปลือยเปล่าอย่างรวดเร็ว
การุณผลักเธอออกจนโสมสุรางค์หงายกลิ้งลงมาทับของบนพื้น หญิงสาวสบโอกาสที่การุณกำลังจัดเสื้อเข้าที่ รีบควานหาโทรศัพท์ไว้ในมือ แล้วลุกขึ้นมานั่งพับเพียบ สอดมือลอดใต้ต้นขาเสียบโทรศัพท์ไว้ตรงหว่างขาใต้กระโปรงรวดเร็ว
การุณหัวเสียสบถเสียงดัง เขาลุกขึ้นถอยห่างพลางมองเธอด้วยสายตาขุ่นมัว
โสมสุรางค์ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ เสโกยข้าวของขึ้นมาวางบนโต๊ะ ขณะเปลี่ยนไปนั่งคุกเข่ายังคงใช้ต้นขาหนีบโทรศัพท์ไว้แน่น จากนั้นจึงค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน ทำเสียงอ่อนหวาน “ขอบคุณที่รับฉันไว้”
“ลูกไม้ตื้น ๆ เคยมีคนโง่หลงเชื่อมารยาเธอเหรอ” เขาถามมะนาวไม่มีน้ำ
โสมสุรางค์หน้าบึ้ง เดินกระมิดกระเมี้ยนผ่านเขาไปเพราะหนีบโทรศัพท์เอาไว้
ชายหนุ่มคว้าแขนเธอ “เป็นอะไร”
“ปวดฉี่ อย่ากระชากแรงได้ไหม เดี๋ยวฉี่ราด”
การุณปล่อยแขน ถอยออกไปยืนห่าง ๆ และจับตามองเธอไม่คลาด
ทันที่เข้าห้องน้ำ โสมสุรางค์ล็อกประตูแน่นหนา ก้มลงไปหยิบโทรศัพท์ออกมา เธอกลอกตาครุ่นคิด ครั้นสายตาแลเลยไปที่กระจกเห็นรอยช้ำแดงก่ำรอบคอก็กัดริมฝีปากแน่นด้วยความเจ็บใจ หญิงสาวแตะปลายนิ้วบนรอยนั้นแผ่วเบา หน้าตาเหยเกเมื่อรู้สึกร้าวระบม เธอไล้มือไปตามรอยช้า ๆ พลันมือกลับนิ่งงัน ดวงตาเบิกกว้างเมื่อคิดบางอย่างออก
โสมสุรางค์ขยี้ผม ขยำเสื้อให้ยุ่งเหยิง และถ่ายรูปตัวเองในสภาพยับเยิน สิ่งสุดท้ายที่สิบแปดมงกุฎสาวทำคือ เริ่มต้นพิมพ์ข้อความยาวเหยียด
เมื่อวางโทรศัพท์บนเคาน์เตอร์ล้างหน้า หญิงสาวหัวเราะเบา ๆ โดยมีรอยยิ้มชั่วร้ายปาดป้ายบนใบหน้าด้วยความสะใจ!
แสงจากเทียนในครอบแก้วที่วางอยู่บนโต๊ะส่องให้เห็นว่าสตรีที่นั่งอยู่ลำพังมีรอยยิ้มวาดหวังแต้มอยู่เต็มใบหน้า ครั้นบริกรเข้ามารอรับรายการอาหาร หญิงสาวจึงเรียกไวน์มาดื่มระหว่างรอคอย สองทุ่มเศษเลยเวลานัดหมายไปเกือบชั่วโมงแล้ว แต่
อิงอรุณไม่อนาทรร้อนใจ เธอเรียบเรียงเหตุการณ์ ซ้อมพูดครั้งแล้วครั้งเล่า ตั้งใจเปิดเผยการหมั้นของเธอให้สาวัชทราบตั้งแต่ต้นจนจบ
เพียงกะการณ์ถึงสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นก็สุขใจแล้ว อิงอรุณหยิบโทรศัพท์มาเปิดดูซ้ำ ๆ หวังว่าสาวัชจะส่งข้อความมาบอกว่ามาช้าเพราะเหตุใด
“สงสัยยังประชุมไม่เสร็จ” เธอฮัมเพลงเบา ๆ อย่างครึ้มอกครึ้มใจ
ไวน์ในขวดพร่องไปเกือบครึ่ง เมื่ออิงอรุณโทร.หาสาวัช แต่กลับต้องวางสายด้วยความผิดหวัง เมื่อพบว่าเขา... “ปิดเครื่องหรือแบตหมดเนี่ย”
กามเทพสาวเปิดโปรแกรมแชทไลน์ตรวจข้อความก็พบว่าเขาเปิดอ่านนัดหมายของเธอแล้ว ความสังหรณ์ใจเริ่มคืบคลานเข้ามาในใจ สาวัชอ่านข้อความแล้ว แต่กลับไม่คอนเฟิร์มนัด ไม่โทร.บอกว่าจะมาสาย แถมยังปิดเครื่อง เขาเงียบหายไปราวกับว่า...
อิงอรุณจิบไวน์ปลอบใจตัวเอง อย่าคิดมากอิงอรุณ สาวัชก็แค่ยังไม่เสร็จธุระ เขาอาจรถเสีย มีเรื่องด่วนแทรกเข้ามา ต้องมีสักเหตุผลนึงสิ ที่ทำให้เขายังมาไม่ถึง
หญิงสาวเคาะนิ้วกับโต๊ะด้วยความกระวนกระวาย เธอจิบไวน์สลับกับ ‘หลอกตัวเอง’ อยู่เช่นนั้น จนบริการมาโค้งพร้อมกับแจ้งว่า “ครัวจะปิดแล้ว คุณผู้หญิงจะสั่งอาหารเลยไหมครับ”
เข็มนาฬิกาชี้บอกเวลาสี่ทุ่มครึ่ง อิงอรุณจึงยอมรับความจริงเป็นครั้งแรกว่าเขาจะไม่มาปรากฏตัวในค่ำคืนนี้ “ไม่สั่งแล้วค่ะ เช็กบิลเลยนะคะ”
หลังชำระค่าบริการ หญิงสาวคล้องกระเป๋าใส่ข้อมือ เซนิด ๆ ลุกออกจากร้านอาหาร ขณะกลับไปที่รถ เก๋งคันหนึ่งก็แล่นเข้ามาจอดเทียบออดี้ขับเคลื่อนสีขาว
อิงอรุณจุปากด้วยความหงุดหงิด เหลียวไปมองรถคันข้าง ๆ ที่จอดเสียชิด ทำให้เธอขึ้นรถไม่สะดวก พลันผู้ชายคนหนึ่งก็ลงจากรถมาประกบข้างกาย กึ่งลากกึ่งประคองเธอไปที่รถ เขาเปิดประตูด้านข้างคนขับของออดี้สีขาว อิงอรุณยังไม่ทันอ้าปากโวยวายขัดขืน สติรับรู้ของหญิงสาวก็ดับวูบลง!
สุพจน์คลายเน็กไทและดึงออกมาพับพาดไว้บนสูทที่แขน เมื่อก้าวเข้ามาในบ้าน คนรับใช้รีบปรี่เข้ามารับเสื้อที่เขาส่งให้ พร้อมกับยอบตัวรายงานเช่นทุกวัน “คุณผู้หญิงอยู่ที่ห้องโฮมเธียร์เตอร์ ส่วนคุณอิงยังไม่กลับค่ะ”
เจ้าของอาณาจักรสยามดริ๊งค์คอร์ปอเรชันจึงมุ่งตรงไปยังห้องชมภาพยนตร์ที่ภรรยาอยู่ เขาอมยิ้มเมื่อเห็นรายการทำอาหารบนหน้าจอ
“วันหยุดนี้ผมจะได้กินอาหารชาววังเชียวเหรอ นี่แสร้งว่าใช่ไหม น่ากินจัง” เขากระเซ้าพลางนั่งลงข้างภรรยา จากนั้นจึงบ่น “คุณเปรมคงต้องเรียกน้องอิงมาอบรมหน่อยละ ห้าทุ่มแล้วยังไม่กลับบ้าน ชักเหลวไหลใหญ่แล้ว”
“น้องอิงส่งข้อความมาขออนุญาตดิฉันแล้วค่ะ บอกว่าจะไปฉลองที่พ้นจากบ้านนั้นมาได้ กลัวกลับดึกแล้วอันตราย เลยจะไปค้างกับแพรวเพชร”
สุพจน์ขมวดคิ้ว บังเอิญหรือเปล่า หลังเจรจาแลกหุ้นเสร็จ สาวัชก็ผลุนผลันออกจากห้อง แล้วจู่ ๆ ลูกสาวคนเล็กที่แทบไม่ได้ไปค้างข้างนอก วันนี้ดันไม่กลับบ้านดื้อ ๆ หวังว่าอิงอรุณคงไม่ได้มัวแต่ไปปลอบใจ ‘คนบ้านนั้น’ อยู่หรอกนะ!
ครั้นได้สติเขาก็รีบปัดความคิดอกุศลออกจากใจ ด้วยเชื่อมั่นว่าลูกรักวางตัวดี และไม่เคยประพฤติด่างพร้อยในเรื่องนี้ ทว่าก็อดตั้งข้อสังเกตไม่ได้
“แค่ส่งข้อความมาเหรอ ทำไมไม่โทร.มา”
“น้องอิงบอกว่าไปเต้นรำกันน่ะค่ะ เสียงอึกทึก กลัวจะคุยไม่รู้เรื่อง เลยขอส่งข้อความมาแทน”
สุพจน์ผงกศีรษะรับรู้ด้วยความหนักใจ สังหรณ์ใจว่ามีบางสิ่งไม่ถูกต้อง เพียงแต่คิดไม่ตกว่าความรู้สึกประหลาดที่เกิดขึ้นมีสาเหตุครอบคลุมไปถึงเรื่องใดบ้าง!
------------------------------------
พยศดอกฟ้ามีขายทั้งฉบับหนังสือและอีบุ๊ค
** ความยาว 61 ตอน + ตอนพิเศษ 6 ตอน **
จำนวน 600 หน้า ราคา 450 บาท ค่าส่ง 30 บาท
สั่งซื้อหนังสือกับสิริณ https://goo.gl/HA1QWz
หรือซื้อจากร้านนิยายรัก https://goo.gl/uPTdCs
ร้าน Booksforfun https://goo.gl/Z13fKy
E-book
mebmarket >>https://goo.gl/o9FXn6
ookbee >>https://goo.gl/rf274b
Hytexts >>https://goo.gl/KcekzB
เมื่อนาฬิกาบอกเวลาสิบเจ็ดนาฬิกา เสียงเคาะก็ดังขึ้น จากนั้นบานประตูถูกเลื่อนไปด้านข้าง คนที่มาก่อนแล้วมองไปยังผู้ที่ก้าวเข้ามาเป็นตาเดียว เพียงเห็นว่าอีกฝ่ายเป็นใคร ตัวแทนกลุ่มปรเมศวร์เทรดดิ้งก็รีบทำความเคารพผู้มาใหม่ จากนั้นทั้งสี่คนจึงหันมาสบตากันด้วยความประหลาดใจคาดไม่ถึง
“ตามสบายเถอะ ไม่ต้องพิธีรีตองมากมาย คนกันเองทั้งนั้น” ผู้อาวุโสกว่าโบกมือไม่เห็นเป็นเรื่องใหญ่ แล้วนั่งลงคนละฟากโต๊ะเผชิญหน้ากับสามพี่น้องและทนาย กวาดตาพินิจลูกหลานสกุลปรเมศวร์ทีละคนจนมาหยุดสายตาที่สาวัช
ชายหนุ่มกำมือแน่น ความอาดูรรื้นขึ้นในอก
สุพจน์นี่เอง...ผู้ที่ต้องการควบคุมกิจการของปรเมศวร์เทรดดิ้ง บิดาของ
อิงอรุณรู้ราคาประเมินของหุ้นพีอาร์เอ็ม แสดงว่าท่านจับตาดูบริษัทมาระยะหนึ่งแล้ว และการยื่นมือเข้ามาซื้อบริษัทในยามที่ทุกอย่างมาถึงจุดต่ำสุดย่อมไม่ใช่เหตุบังเอิญ แต่เป็นแผนการที่ถูกกำหนดไว้ตั้งแต่แรกแล้ว!
เขานึกถึงบทสนทนา ปัญหา เรื่องราวหนักใจ หรือแม้กระทั่งความลับของบริษัท ทั้งหมดที่เคยพูดคุยกับอิงอรุณ ที่แท้...หญิงสาวมิได้สนใจไยดีอะไรเขามากไปกว่าต้องการข้อมูลเพื่อนำไปส่งต่อให้บิดาเท่านั้น
‘นี่อิงก็กำลังปฏิบัติภารกิจที่ได้รับมอบหมายมาอย่างสุดความสามารถอยู่นะคะ ไม่ได้ทำเล่น ๆ สักหน่อย’
ที่เธอพูดโทรศัพท์ที่สีชังวันนั้น คู่สนทนาคือสุพจน์ เทียมสุบรรณ นี่เอง
‘อิงทุ่มสุดตัวขนาดนี้แล้ว อย่าลืมส่วนแบ่งยี่สิบเปอร์เซนต์ของอิงละกัน’
ความรู้สึกดีและมิตรภาพของเขามีค่าแค่ยี่สิบเปอร์เซ็นต์ของมูลค่าบริษัทเท่านั้น เธอช่างมักน้อยเสียจริง!
ที่แท้ทั้งหมดก็เป็นแค่เรื่องของผลประโยชน์ เขาไม่ได้รับความรู้สึกใดที่ทัดเทียมกันกลับมาเลย...
น่าเศร้า...ที่แม้รู้แก่ใจเช่นนั้น แต่เขาเกลียดผู้หญิงคนนั้นไม่ลง!
น่าสมเพช...ที่ใจเขาหม่นหมอง เมื่อตระหนักว่าหากการเจรจาครั้งนี้สำเร็จ เส้นทางของเขาและอิงอรุณคงฉีกแยกห่างจากกันไกลขึ้นทุกที บรรพบุรุษคงยอมรับไม่ได้ถ้าเขามีความรู้สึกดีให้ทายาทของผู้ที่ซื้อบริษัทต้นตระกูลไป!
สุพจน์เปิดฉาก “ผมทราบเรื่องคุณแม่ของคุณริสาแล้ว เสียใจด้วยนะครับ”
“ตำรวจแค่เชิญตัวไปสอบปากคำเท่านั้น ยังไม่มีการยืนยันว่าท่านเป็นผู้ต้องหาค่ะ” ริสาอธิบายเสียงเรียบ มือที่กำแน่นอยู่บนตักบอกให้รู้ว่ากำลังอดทนอย่างหนัก ริสาทนฟังใครให้ร้ายมารดาไม่ได้เลย ไม่ว่าสิ่งที่ท่านทำจะถูกหรือผิดก็ตาม อย่างไรเสียท่านก็เป็นแม่ของเธอ!
“ผมสนิทกับท่านผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ถ้ามีอะไรให้ช่วย ก็บอกได้เสมอนะ” สุพจน์เสนอตัว
“ขอบคุณค่ะ แต่เราติดต่อขอความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ไปแล้ว ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรค่ะ” เมื่อทักทายตามธรรมเนียมแล้ว ริสาจึงเข้าเรื่อง “ดิฉันต้องสารภาพว่าคาดไม่ถึงจริง ๆ ว่าบริษัทที่ขอเทนเดอร์หุ้นพีอาร์เอ็มจะทำหน้าที่แทนคุณสุพจน์ ถ้าทราบก่อนว่าท่านสนใจปรเมศวร์เทรดดิ้ง เราคง...”
คนสูงวัยกลับยิ้มแย้มแทรกถามกลางคัน “หุ้นที่กลุ่มประเมศวร์ถืออยู่มีรวมกันราวยี่สิบหกเปอร์เซ็นต์ ที่คุณริสาแจ้งตัวแทนของผมว่าจะขายหุ้นทั้งหมดที่มีในมือ โดยขอตำแหน่งซีอีโอไว้ ผมไม่มีปัญหาตรงจุดนั้น คุณและทีมงานจะยังคงคุมอำนาจบริหารทั้งหมดไว้อย่างเดิม คุณจะ...”
“ดิฉันเปลี่ยนใจแล้วค่ะ” หญิงสาวปฏิเสธทันควัน
ทุกคนในห้องมีปฏิกิริยาแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
สุพจน์เลิกคิ้วเล็กน้อย แต่ดูไม่ประหลาดใจนักดุจคาดการณ์ไว้ล่วงหน้าแล้ว
ธนภูมิและสาวัชมองไปยังหญิงสาว พยายามตามให้ทันว่าเธอคิดอะไรอยู่
วัชระยิ้มกว้างไม่เก็บกิริยา มองพี่สาวด้วยสายตาชื่นชม และสะใจยามเหลือบไปทางคู่เจรจาดุจผู้มีชัยเหนือกว่า
“ดิฉันไม่ต้องการเงินสดจากการขายหุ้นพีอาร์เอ็มค่ะ” ริสาเอ่ยอย่างเชื่อมั่น สบสายตากับสุพจน์โดยไม่เกรงกลัว “ดิฉันไม่ขาย แต่อยากแลกหุ้นพีอาร์เอ็มกับหุ้นเอสดีซีในมูลค่าที่เท่ากันค่ะ”
สุพจน์ชะงัก ก่อนหัวเราะก้องพึงใจอย่างที่สุด “ไม่เลว! ฉลาด แล้วก็เจนจัดสมกับเป็นลูกสาวของเสี่ยธนาจริง ๆ ”
สาวัชนึกชื่นชมพี่สาวต่างมารดาสุดหัวใจ ริสาอ่านเกมขาดอีกครั้ง! สุพจน์นั้นคร่ำหวอดในเรื่องการเข้าซื้อกิจการจนนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์จัดให้เขาเป็นมือวางระดับตำนาน หมากทุกตัวที่เขาเดินมีแต่ทำให้กำไรของบริษัทแม่อย่างสยามดริ๊งค์ฯ เติบโตขึ้นแบบก้าวกระโดด การเสนอขอแลกหุ้นเช่นนี้อยู่นอกเหนือความคาดคิดของทุกคนโดยสิ้นเชิง และนั่นทำให้ชายหนุ่มคิดว่าคำชมของสุพจน์ ‘ไม่คู่ควร’ กับความสามารถแท้จริงของริสาแม้สักเสี้ยว!
“กราบขอบพระคุณสำหรับคำชมค่ะ แต่ดิฉันคงไม่บังอาจรับ เพราะถ้าดิฉันต่อรองเก่งอย่างที่คุณสุพจน์ว่าจริง เราคงไม่ต้องมาพบกันในสภาพนี้ ไม่ทราบว่าคุณสุพจน์คิดยังไงกับข้อเสนอของดิฉันคะ”
สาวัชแทบกลั้นใจรอฟังคำตอบ เพราะการขอปันหุ้นจากผู้ถือหุ้นใหญ่นั้นเป็นเรื่องสำคัญ สุพจน์คงคิดหนักหากต้องเสียสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัทตัวเองให้คนนอก มันอาจทำให้การบริหารจัดการในภายภาคหน้ายุ่งยากกว่าที่เคยเป็น
สุพจน์วางหน้านิ่ง กิริยานั้นมั่นคงและเยือกเย็นดุจภูเขาน้ำแข็งในมหาสมุทรแอตแลนติก ไม่หวั่นไหว ไม่ลังเลสักนิด หลังจากไตร่ตรองอยู่ชั่วขณะ เขาจึงเอ่ย
“จำนวนหุ้นที่เราจะแลกกัน ให้คำนวณราคาตามที่ซื้อขายกันในกระดานวันที่เซ็นสัญญา คุณขัดข้องไหม”
“ขอให้คำนวณตามราคาตลาดในวันนี้เลย คุณสุพจน์จะสะดวกไหมคะ”
สายตาผู้อาวุโสเปี่ยมด้วยแววชื่นชม “คุณกลัวผมปั่นราคาหุ้นเอสดีซีให้สูง จะได้แลกจำนวนหุ้นให้คุณน้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้งั้นเหรอ”
“เรียนตามตรงว่าใช่ค่ะ” ริสาไม่อับอายหรือเกรงคนฟังสะเทือนใจ
“งั้นเรามาเซ็นสัญญากันพรุ่งนี้เลย” สุพจน์เปิดแท็บเล็ตเช็กราคาหุ้น แล้วหันไปทางธนภูมิ “ราคาของเอสดีซีวันนี้อยู่ที่หุ้นละสองร้อยสิบหกบาท”
“ค่ะ สองร้อยสิบหกบาท ดิฉันยอมรับที่ราคานี้”
“ยินดีที่ได้ทำธุรกิจร่วมกันนะ คุณริสาต้องการเข้าถือหุ้นของสยามดริ๊งค์ฯ แล้วต้องการอำนาจบริหารในสยามดริ๊งค์ฯ ด้วยหรือเปล่า”
“ไม่ต้องการค่ะ”
สาวัชอ่านความคิดของริสาออกปรุโปร่ง หญิงสาวเพียงต้องการอำนาจต่อรองสำหรับนั่งในตำแหน่งซีอีโอของปรเมศวร์เทรดดิ้งเท่านั้น เพราะเมื่อสุพจน์จำต้องแบ่งหุ้นให้เธอ สัดส่วนการถือหุ้นสยามดริ๊งค์ฯ ของเขาย่อมลดลง ตราบใดที่เขายังปฏิบัติกับครอบครัวปรเมศวร์อย่างพันธมิตร ทุกเสียงโหวตของริสาในการประชุม
ผู้ถือหุ้นสยามดริ๊งค์ฯ จะเป็นของสุพจน์ แต่ถ้าเขาคิดหักหลัง คะแนนโหวตของเธอจะเป็นของฝั่งตรงข้ามทันที ซึ่งสุพจน์ไม่ทำอะไรเสี่ยง ๆ เช่นนั้นแน่นอน
“คุณเป็นผู้หญิงที่ฉลาดมาก เสี่ยธนาโชคดีที่มีลูกเก่งอย่างนี้”
ใช่...เขาก็โชคดีมากที่มีพี่สาวเก่งอย่างนี้ หากต้องรับมือเอง เขาคงทำมันออกมาได้ไม่ดีเท่าที่ริสากำลังกระทำอยู่
สาวัชเหลือบมองวัชระ เห็นพี่ชายกำมือแน่น ไม่พอใจกับการเจรจา แม้จะหนักใจ แต่ชายหนุ่มมั่นใจว่าริสากล่อมวัชระให้เห็นด้วยไม่ยาก
ชายหนุ่มเลื่อนสายตาไปสังเกตปฏิกิริยาทนายมือฉกาจของบริษัทบ้าง จึงพบว่าฝ่ายนั้นกำลังมองริสาด้วยสายตาชื่นชม และถ้าตาไม่ฝาดเขาเชื่อว่าเห็นความภาคภูมิภักดีฉายฉาดมาจากดวงตาคู่นั้นเช่นกัน!
หากไม่ติดว่าอยู่ในห้องที่กำลังเจรจาเรื่องสำคัญ ชายหนุ่มคงเผลอเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ ริสารู้ตัวไหมนะว่ามีใครบางคนเฝ้ามองเธอและมีความรู้สึกพิเศษมอบให้ บางที...เขาน่าจะลองเชียร์ธนภูมิให้พี่สาวพิจารณาบ้าง
สาวัชชะงัก เขากลายเป็นคนประเภทที่อยากช่วยให้คนอื่นมีความรักไปตั้งแต่เมื่อไร คงต้องโทษอิงอรุณ! ผู้หญิงคนนั้นทำให้โลกเงียบสงบของเขาเปลี่ยนไปจนแทบไม่เหลือเค้าเดิม เธอทำให้เขาต้องมาเรียนรู้ความรู้สึกทั้งสุข ทุกข์ ขมขื่น เจ็บปวด และสมหวังในคราเดียว
พลันที่ความคิดนั้นตกกระทบถึงใจ ชายหนุ่มก็นึกชิงชังตัวเอง ผู้หญิงคนนั้นร่วมมือกับพ่อฮุบกิจการของบริษัทฯ เขายังจะนึกถึงเธอด้วยความรู้สึกดีอีกทำไม
โทรศัพท์ในกระเป๋าเสื้อสั่นเป็นจังหวะบอกว่ามีข้อความเข้า ครั้นเปิดอ่านจึงพบว่าอิงอรุณส่งชื่อภัตตาคารฝรั่งเศสในโรมแรมสุดหรูมาให้ นัดหมายเวลาดิบดี ทั้งยังทิ้งท้ายว่า ‘จะคอย’ ให้เขารีบไปหาโดยเร็วที่สุดหลังเสร็จธุระ
สาวัชทั้งสมเพชแกมเวทนาตัวเอง เขามองข้อความนั้นนิ่งนาน สุดท้ายจึงกดลบโดยไม่ลังเล ทว่าหากสังเกตให้ดีจะเห็นว่าชายหนุ่มกำมือแน่นระงับความรู้สึก เลิกคิดถึงอิงอรุณเสียที เธอไม่มีค่าพอให้เขาระลึกถึงอีกต่อไปแล้ว!
โสมสุรางค์นั่งบนโซฟามองบอดี้การ์ดของแพรวเพชรลบไฟล์ที่เธอ ‘สะสม’ มาอย่างยากลำบากด้วยสายตาละห้อย เพียงคลิกเดียวที่ผู้ชายคนนั้นกด ทำให้ทุกหยาดเหงื่อแรง ‘กาย’ ที่เธอพลีไป กลายเป็นอากาศธาตุในพริบตา
“ได้เวลาโอนเงินคืนแล้ว รายการที่จดไว้อยู่ไหน” การุณเสียงเข้มตีหน้าขึงขัง
โสมสุรางค์กระฟัดกระเฟียดลุกไปในครัว ไขกุญแจตู้ข้างเตาไฟฟ้า เปิดลิ้นชักดึงสมุดปกหนังเล่มเท่าฝ่ามือ ถือมายืนค้ำศีรษะอีกฝ่ายตรงข้างโซฟา แล้วโยนสมุดลงบนโต๊ะรับแขกอย่างกระแทกกระทั้น
การุณหยิบสมุดไปพลิกอ่านคร่าว ๆ แล้วสั่ง “มาเริ่มโอนเงินคืนกันเลย”
“ฉันปวดฉี่ ขอเข้าห้องน้ำก่อนได้ไหม” เธอเหลือบมองโทรศัพท์มือถือบนโต๊ะ
“จะไปก็รีบไป” การุณรำคาญ แต่ก็วางสมุดลงทำท่าจะลุกขึ้นยืน
โสมสุรางค์แสร้งสะดุดขาล้มถลาเข้าไปหาร่างแข็งแกร่ง มือกวาดข้าวของจากโต๊ะลงบนพื้น หญิงสาวกระชากเสื้อเชิ้ตเขาแบะออก แล้วไล่จูบไปตามแผงอกแกร่งเปลือยเปล่าอย่างรวดเร็ว
การุณผลักเธอออกจนโสมสุรางค์หงายกลิ้งลงมาทับของบนพื้น หญิงสาวสบโอกาสที่การุณกำลังจัดเสื้อเข้าที่ รีบควานหาโทรศัพท์ไว้ในมือ แล้วลุกขึ้นมานั่งพับเพียบ สอดมือลอดใต้ต้นขาเสียบโทรศัพท์ไว้ตรงหว่างขาใต้กระโปรงรวดเร็ว
การุณหัวเสียสบถเสียงดัง เขาลุกขึ้นถอยห่างพลางมองเธอด้วยสายตาขุ่นมัว
โสมสุรางค์ทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ เสโกยข้าวของขึ้นมาวางบนโต๊ะ ขณะเปลี่ยนไปนั่งคุกเข่ายังคงใช้ต้นขาหนีบโทรศัพท์ไว้แน่น จากนั้นจึงค่อย ๆ ลุกขึ้นยืน ทำเสียงอ่อนหวาน “ขอบคุณที่รับฉันไว้”
“ลูกไม้ตื้น ๆ เคยมีคนโง่หลงเชื่อมารยาเธอเหรอ” เขาถามมะนาวไม่มีน้ำ
โสมสุรางค์หน้าบึ้ง เดินกระมิดกระเมี้ยนผ่านเขาไปเพราะหนีบโทรศัพท์เอาไว้
ชายหนุ่มคว้าแขนเธอ “เป็นอะไร”
“ปวดฉี่ อย่ากระชากแรงได้ไหม เดี๋ยวฉี่ราด”
การุณปล่อยแขน ถอยออกไปยืนห่าง ๆ และจับตามองเธอไม่คลาด
ทันที่เข้าห้องน้ำ โสมสุรางค์ล็อกประตูแน่นหนา ก้มลงไปหยิบโทรศัพท์ออกมา เธอกลอกตาครุ่นคิด ครั้นสายตาแลเลยไปที่กระจกเห็นรอยช้ำแดงก่ำรอบคอก็กัดริมฝีปากแน่นด้วยความเจ็บใจ หญิงสาวแตะปลายนิ้วบนรอยนั้นแผ่วเบา หน้าตาเหยเกเมื่อรู้สึกร้าวระบม เธอไล้มือไปตามรอยช้า ๆ พลันมือกลับนิ่งงัน ดวงตาเบิกกว้างเมื่อคิดบางอย่างออก
โสมสุรางค์ขยี้ผม ขยำเสื้อให้ยุ่งเหยิง และถ่ายรูปตัวเองในสภาพยับเยิน สิ่งสุดท้ายที่สิบแปดมงกุฎสาวทำคือ เริ่มต้นพิมพ์ข้อความยาวเหยียด
เมื่อวางโทรศัพท์บนเคาน์เตอร์ล้างหน้า หญิงสาวหัวเราะเบา ๆ โดยมีรอยยิ้มชั่วร้ายปาดป้ายบนใบหน้าด้วยความสะใจ!
แสงจากเทียนในครอบแก้วที่วางอยู่บนโต๊ะส่องให้เห็นว่าสตรีที่นั่งอยู่ลำพังมีรอยยิ้มวาดหวังแต้มอยู่เต็มใบหน้า ครั้นบริกรเข้ามารอรับรายการอาหาร หญิงสาวจึงเรียกไวน์มาดื่มระหว่างรอคอย สองทุ่มเศษเลยเวลานัดหมายไปเกือบชั่วโมงแล้ว แต่
อิงอรุณไม่อนาทรร้อนใจ เธอเรียบเรียงเหตุการณ์ ซ้อมพูดครั้งแล้วครั้งเล่า ตั้งใจเปิดเผยการหมั้นของเธอให้สาวัชทราบตั้งแต่ต้นจนจบ
เพียงกะการณ์ถึงสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้นก็สุขใจแล้ว อิงอรุณหยิบโทรศัพท์มาเปิดดูซ้ำ ๆ หวังว่าสาวัชจะส่งข้อความมาบอกว่ามาช้าเพราะเหตุใด
“สงสัยยังประชุมไม่เสร็จ” เธอฮัมเพลงเบา ๆ อย่างครึ้มอกครึ้มใจ
ไวน์ในขวดพร่องไปเกือบครึ่ง เมื่ออิงอรุณโทร.หาสาวัช แต่กลับต้องวางสายด้วยความผิดหวัง เมื่อพบว่าเขา... “ปิดเครื่องหรือแบตหมดเนี่ย”
กามเทพสาวเปิดโปรแกรมแชทไลน์ตรวจข้อความก็พบว่าเขาเปิดอ่านนัดหมายของเธอแล้ว ความสังหรณ์ใจเริ่มคืบคลานเข้ามาในใจ สาวัชอ่านข้อความแล้ว แต่กลับไม่คอนเฟิร์มนัด ไม่โทร.บอกว่าจะมาสาย แถมยังปิดเครื่อง เขาเงียบหายไปราวกับว่า...
อิงอรุณจิบไวน์ปลอบใจตัวเอง อย่าคิดมากอิงอรุณ สาวัชก็แค่ยังไม่เสร็จธุระ เขาอาจรถเสีย มีเรื่องด่วนแทรกเข้ามา ต้องมีสักเหตุผลนึงสิ ที่ทำให้เขายังมาไม่ถึง
หญิงสาวเคาะนิ้วกับโต๊ะด้วยความกระวนกระวาย เธอจิบไวน์สลับกับ ‘หลอกตัวเอง’ อยู่เช่นนั้น จนบริการมาโค้งพร้อมกับแจ้งว่า “ครัวจะปิดแล้ว คุณผู้หญิงจะสั่งอาหารเลยไหมครับ”
เข็มนาฬิกาชี้บอกเวลาสี่ทุ่มครึ่ง อิงอรุณจึงยอมรับความจริงเป็นครั้งแรกว่าเขาจะไม่มาปรากฏตัวในค่ำคืนนี้ “ไม่สั่งแล้วค่ะ เช็กบิลเลยนะคะ”
หลังชำระค่าบริการ หญิงสาวคล้องกระเป๋าใส่ข้อมือ เซนิด ๆ ลุกออกจากร้านอาหาร ขณะกลับไปที่รถ เก๋งคันหนึ่งก็แล่นเข้ามาจอดเทียบออดี้ขับเคลื่อนสีขาว
อิงอรุณจุปากด้วยความหงุดหงิด เหลียวไปมองรถคันข้าง ๆ ที่จอดเสียชิด ทำให้เธอขึ้นรถไม่สะดวก พลันผู้ชายคนหนึ่งก็ลงจากรถมาประกบข้างกาย กึ่งลากกึ่งประคองเธอไปที่รถ เขาเปิดประตูด้านข้างคนขับของออดี้สีขาว อิงอรุณยังไม่ทันอ้าปากโวยวายขัดขืน สติรับรู้ของหญิงสาวก็ดับวูบลง!
สุพจน์คลายเน็กไทและดึงออกมาพับพาดไว้บนสูทที่แขน เมื่อก้าวเข้ามาในบ้าน คนรับใช้รีบปรี่เข้ามารับเสื้อที่เขาส่งให้ พร้อมกับยอบตัวรายงานเช่นทุกวัน “คุณผู้หญิงอยู่ที่ห้องโฮมเธียร์เตอร์ ส่วนคุณอิงยังไม่กลับค่ะ”
เจ้าของอาณาจักรสยามดริ๊งค์คอร์ปอเรชันจึงมุ่งตรงไปยังห้องชมภาพยนตร์ที่ภรรยาอยู่ เขาอมยิ้มเมื่อเห็นรายการทำอาหารบนหน้าจอ
“วันหยุดนี้ผมจะได้กินอาหารชาววังเชียวเหรอ นี่แสร้งว่าใช่ไหม น่ากินจัง” เขากระเซ้าพลางนั่งลงข้างภรรยา จากนั้นจึงบ่น “คุณเปรมคงต้องเรียกน้องอิงมาอบรมหน่อยละ ห้าทุ่มแล้วยังไม่กลับบ้าน ชักเหลวไหลใหญ่แล้ว”
“น้องอิงส่งข้อความมาขออนุญาตดิฉันแล้วค่ะ บอกว่าจะไปฉลองที่พ้นจากบ้านนั้นมาได้ กลัวกลับดึกแล้วอันตราย เลยจะไปค้างกับแพรวเพชร”
สุพจน์ขมวดคิ้ว บังเอิญหรือเปล่า หลังเจรจาแลกหุ้นเสร็จ สาวัชก็ผลุนผลันออกจากห้อง แล้วจู่ ๆ ลูกสาวคนเล็กที่แทบไม่ได้ไปค้างข้างนอก วันนี้ดันไม่กลับบ้านดื้อ ๆ หวังว่าอิงอรุณคงไม่ได้มัวแต่ไปปลอบใจ ‘คนบ้านนั้น’ อยู่หรอกนะ!
ครั้นได้สติเขาก็รีบปัดความคิดอกุศลออกจากใจ ด้วยเชื่อมั่นว่าลูกรักวางตัวดี และไม่เคยประพฤติด่างพร้อยในเรื่องนี้ ทว่าก็อดตั้งข้อสังเกตไม่ได้
“แค่ส่งข้อความมาเหรอ ทำไมไม่โทร.มา”
“น้องอิงบอกว่าไปเต้นรำกันน่ะค่ะ เสียงอึกทึก กลัวจะคุยไม่รู้เรื่อง เลยขอส่งข้อความมาแทน”
สุพจน์ผงกศีรษะรับรู้ด้วยความหนักใจ สังหรณ์ใจว่ามีบางสิ่งไม่ถูกต้อง เพียงแต่คิดไม่ตกว่าความรู้สึกประหลาดที่เกิดขึ้นมีสาเหตุครอบคลุมไปถึงเรื่องใดบ้าง!
------------------------------------
พยศดอกฟ้ามีขายทั้งฉบับหนังสือและอีบุ๊ค
** ความยาว 61 ตอน + ตอนพิเศษ 6 ตอน **
จำนวน 600 หน้า ราคา 450 บาท ค่าส่ง 30 บาท
สั่งซื้อหนังสือกับสิริณ https://goo.gl/HA1QWz
หรือซื้อจากร้านนิยายรัก https://goo.gl/uPTdCs
ร้าน Booksforfun https://goo.gl/Z13fKy
E-book
mebmarket >>https://goo.gl/o9FXn6
ookbee >>https://goo.gl/rf274b
Hytexts >>https://goo.gl/KcekzB
สิริณ
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 9 มิ.ย. 2561, 21:51:56 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 9 มิ.ย. 2561, 21:51:56 น.
จำนวนการเข้าชม : 748
<< ตอนที่ 40 (100%) | ตอนที่ 42 >> |