กาลครั้งหนึ่งนั้น(ในความบังเอิญ)
เธอกับเขา ความทรงจำที่เคยมีร่วมกันมาก็แค่... อดีตกิ๊ก!
Tags: แต่งงาน,อดีต,รัก,บุพเพสันนิวาส,พรหมลิขิต
ตอน: ๘ เข้าใจผิด -จบตอน-
‘เราสองคนอยากขอเวลาทำความรู้จักกันมากกว่านี้ครับ ส่วนเรื่องหมั้นเรื่องแต่งงานก็ขอให้เลื่อนออกไปก่อน ผมกับพิมพ์ก็เหมือนคนที่เพิ่งรู้จักกัน เราอยากเรียนรู้กันและกันให้มากกว่านี้'
แน่นอนว่าเป็นประโยคบอกเล่าที่พ่อแม่จิรสินแทบจะจุดพลุฉลอง แต่มารดาศศิพิมพ์นั้นตำหนิลูกสาวอย่างอดไม่ได้ กับการกลับไปกลับมา ทว่าภายใต้การตำหนินั้นหญิงสาวรู้สึกได้ถึงความสบายใจและพอใจของมารดา
มันเป็นการเริ่มต้นความสัมพันธ์ที่จะว่าไปก็คลุมเครือ เพราะทั้งสองฝ่ายก็ไม่รู้ว่าตัวเองรู้สึกเช่นไร สิ่งที่รู้ก็มีแค่ความสบายใจเมื่อได้ใช้เวลาร่วมกัน แต่คู่ที่สปาร์กไวยิ่งกว่ากลับเป็นจิรสุตากับจักรี สองคนนี้ไม่รู้ไปคุยกันอีท่าไหน ถ่านไฟเก่าถึงได้คุแล้วลุกติดพึ่บพั่บ กระจายความหวานเมื่ออยู่กันสองคน จนคนรอบๆ แทบจะเลี่ยนกับความหวานนั่น
“วันศุกร์พี่มีงานเลี้ยงรุ่นค่ะ พิมพ์ไปกับพี่นะคะ”
ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นขณะเดินขึ้นบันไดออฟฟิศมาด้วยกัน เช้านี้เขาแวะไปรับเธอที่บ้านมาที่ทำงาน หลังไม่ได้เจอกันเป็นอาทิตย์เพราะเขาต้องไปดูไซด์งานที่ตราดแทนวิศวกรของบริษัทฯ หลังภรรยาของอีกฝ่ายคลอดลูก
“พี่สินไปเถอะค่ะ อย่าเอาพิมพ์ไปด้วยเลยเกะกะเปล่าๆ”
“พี่ก็แค่อยากพาแฟนไปอวดพวกนั้นบ้างไง”
ศศิพิมพ์เขินกับคำเขาเลยต้องเปลี่ยนเรื่อง “ไม่รู้ยายตามาถึงหรือยังนะคะเนี่ย”
จิรสินเป็นฝ่ายเปิดประตูออกให้และยอมปล่อยผ่าน แต่พอเธอจะก้าวเข้าไปเขาก็แกล้งก้าวไปขวางและก้มหน้ามองมา ดีที่ศศิพิมพ์ยั้งเท้าไว้ทันไม่งั้นคงได้หน้าชนกัน
“เล่นอะไรคะ”
“นี่โมโหจริง หรือแค่แกล้งโมโหคะ”
จะปั้นหน้าโกรธหรือก็ทำไม่ได้ หญิงสาวหลบตาและหลุดยิ้มออกมา และเขาก็ยังแหย่
“พี่ว่าพิมพ์เขินแล้วน่ารักดีนะ น่าแกล้งให้เขินบ่อยๆ”
ศศิพิมพ์ช้อนตามองเขาอย่างเอาเรื่อง แต่เขากลับยิ้มตาพราวดูไม่สะทกสะท้านอะไรสักนิด
“อะแฮ่ม!”
เสียงกระแอมทำให้ทั้งคู่ชะงัก ทั้งคู่หันไปมองและเจอกับเจ้าของเสียง ที่พื้นข้างล่างจิรสุตายืนกอดอกแสร้งไอค่อกแค่ก
“สวีตกันแต่เช้า น้ำตาลหกเรี่ยราดไปทั้งบริษัทแล้วเนี่ย ขยันหวานแบบนี้มดลำบากนะ ทำงานหนัก ขนาดนี้แล้วแต่งกันเลยเหอะจะได้จบๆ”
ศศิพิมพ์เขินจัดจนแก้มแดง เธอไม่พูดกับสองพี่น้องจอมแหย่อีกจึงหันหลังเดินฉับๆ เข้าไป จิรสุตาเดินขึ้นมายืนเคียงคู่กับพี่ชายและมองล้อๆ แต่จิรสินทำเฉยก้าวเข้าไปและผลักประตูปิดใส่หน้าน้องสาว คนถูกทิ้งจึงหน้ามุ่ยผลักประตูก้าวตามเข้าไป
ที่หลังพุ่มโมกไม่ไกลนัก ธนวัฒน์ยืนอยู่ตรงนั้นนิ่งเงียบ ราวห้านาทีที่เขายืนจมจ่อมกับความคิดตัวเอง มารู้สึกตัวเมื่อได้ยินเสียงกัญญา
“จะโทษใครได้พี่วัฒน์นอกจากตัวเอง”
เขาหันไปมอง สีหน้าเรียบสนิท
“โทษได้สิก็กัญไง ถ้ากัญไม่ยุ่ง คิดไหมว่าตรงที่คุณสินยืนมันต้องเป็นพี่”
ใช่วันงานเลี้ยงนั่นเขาตั้งใจ เขาอยากให้เรื่องนั่นมันเกิดกับตัวเองกับศศิพิมพ์ เขารู้เธอกินยาแล้วต้องหลับ เขาแกล้งเมา ทุกอย่างจะสมเหตุสมผลถ้าหากเขาตื่นขึ้นมาบนเตียงกับเธอ
แต่... เชื่อไหมว่าทุกอย่างผิดแผนไปหมดเพราะคนคนเดียว
กัญญาตลบหลังเขาได้เจ็บแสบ ในเหล้าเขามียานอนหลับ จากที่แกล้งหลับเขาหลับไปจริงๆ และแทนที่เขาคือจิรสิน
แล้วก็เป็นกัญญาที่พาจิรสินไปไว้บนเตียงศศิพิมพ์!
“ใช่กัญผิดแล้วยังไง พี่ก็รู้ว่ากัญคิดยังไงกับพี่ กัญรักพี่แล้วกัญก็รักพิมพ์ กัญไม่อยากทำร้ายน้องพอๆ กับที่กัญเห็นแก่ตัวมากพอที่จะไม่ปล่อยให้แผนพี่สำเร็จ อีกอย่างระหว่างสองคนนั่นพี่ก็เห็นมีอะไรเกิดขึ้น ความรู้สึกของพวกเขามันกำลังเปลี่ยนไป โดยเฉพาะพิมพ์ที่ให้ตายยังไงมันก็ไม่เกิดขึ้นกับพี่!”
ธนวัฒน์ยิ้มหยัน “ใช่! แล้วมันก็ไม่มีทางเกิดขึ้นกับกัญด้วย” เขาทิ้งท้ายไว้แค่นั้นและเดินจากมา
กัญญากลืนน้ำลายลงคอและมองตามแผ่นหลังกว้างที่เดินห่างออกไป เธอกะพริบตาและยกมือขึ้นปาดหยดน้ำตาหยดหนึ่งที่ไหลระข้างแก้มทิ้ง ก่อนสูดลมหายใจเข้าลึก
ผิดหรือที่เธอเห็นแก่ตัว
กัญญาบอกตัวเองว่าไม่ โลกนี้ไม่มีใครจะไม่เห็นแก่ตัว!
แน่นอนว่าเป็นประโยคบอกเล่าที่พ่อแม่จิรสินแทบจะจุดพลุฉลอง แต่มารดาศศิพิมพ์นั้นตำหนิลูกสาวอย่างอดไม่ได้ กับการกลับไปกลับมา ทว่าภายใต้การตำหนินั้นหญิงสาวรู้สึกได้ถึงความสบายใจและพอใจของมารดา
มันเป็นการเริ่มต้นความสัมพันธ์ที่จะว่าไปก็คลุมเครือ เพราะทั้งสองฝ่ายก็ไม่รู้ว่าตัวเองรู้สึกเช่นไร สิ่งที่รู้ก็มีแค่ความสบายใจเมื่อได้ใช้เวลาร่วมกัน แต่คู่ที่สปาร์กไวยิ่งกว่ากลับเป็นจิรสุตากับจักรี สองคนนี้ไม่รู้ไปคุยกันอีท่าไหน ถ่านไฟเก่าถึงได้คุแล้วลุกติดพึ่บพั่บ กระจายความหวานเมื่ออยู่กันสองคน จนคนรอบๆ แทบจะเลี่ยนกับความหวานนั่น
“วันศุกร์พี่มีงานเลี้ยงรุ่นค่ะ พิมพ์ไปกับพี่นะคะ”
ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นขณะเดินขึ้นบันไดออฟฟิศมาด้วยกัน เช้านี้เขาแวะไปรับเธอที่บ้านมาที่ทำงาน หลังไม่ได้เจอกันเป็นอาทิตย์เพราะเขาต้องไปดูไซด์งานที่ตราดแทนวิศวกรของบริษัทฯ หลังภรรยาของอีกฝ่ายคลอดลูก
“พี่สินไปเถอะค่ะ อย่าเอาพิมพ์ไปด้วยเลยเกะกะเปล่าๆ”
“พี่ก็แค่อยากพาแฟนไปอวดพวกนั้นบ้างไง”
ศศิพิมพ์เขินกับคำเขาเลยต้องเปลี่ยนเรื่อง “ไม่รู้ยายตามาถึงหรือยังนะคะเนี่ย”
จิรสินเป็นฝ่ายเปิดประตูออกให้และยอมปล่อยผ่าน แต่พอเธอจะก้าวเข้าไปเขาก็แกล้งก้าวไปขวางและก้มหน้ามองมา ดีที่ศศิพิมพ์ยั้งเท้าไว้ทันไม่งั้นคงได้หน้าชนกัน
“เล่นอะไรคะ”
“นี่โมโหจริง หรือแค่แกล้งโมโหคะ”
จะปั้นหน้าโกรธหรือก็ทำไม่ได้ หญิงสาวหลบตาและหลุดยิ้มออกมา และเขาก็ยังแหย่
“พี่ว่าพิมพ์เขินแล้วน่ารักดีนะ น่าแกล้งให้เขินบ่อยๆ”
ศศิพิมพ์ช้อนตามองเขาอย่างเอาเรื่อง แต่เขากลับยิ้มตาพราวดูไม่สะทกสะท้านอะไรสักนิด
“อะแฮ่ม!”
เสียงกระแอมทำให้ทั้งคู่ชะงัก ทั้งคู่หันไปมองและเจอกับเจ้าของเสียง ที่พื้นข้างล่างจิรสุตายืนกอดอกแสร้งไอค่อกแค่ก
“สวีตกันแต่เช้า น้ำตาลหกเรี่ยราดไปทั้งบริษัทแล้วเนี่ย ขยันหวานแบบนี้มดลำบากนะ ทำงานหนัก ขนาดนี้แล้วแต่งกันเลยเหอะจะได้จบๆ”
ศศิพิมพ์เขินจัดจนแก้มแดง เธอไม่พูดกับสองพี่น้องจอมแหย่อีกจึงหันหลังเดินฉับๆ เข้าไป จิรสุตาเดินขึ้นมายืนเคียงคู่กับพี่ชายและมองล้อๆ แต่จิรสินทำเฉยก้าวเข้าไปและผลักประตูปิดใส่หน้าน้องสาว คนถูกทิ้งจึงหน้ามุ่ยผลักประตูก้าวตามเข้าไป
ที่หลังพุ่มโมกไม่ไกลนัก ธนวัฒน์ยืนอยู่ตรงนั้นนิ่งเงียบ ราวห้านาทีที่เขายืนจมจ่อมกับความคิดตัวเอง มารู้สึกตัวเมื่อได้ยินเสียงกัญญา
“จะโทษใครได้พี่วัฒน์นอกจากตัวเอง”
เขาหันไปมอง สีหน้าเรียบสนิท
“โทษได้สิก็กัญไง ถ้ากัญไม่ยุ่ง คิดไหมว่าตรงที่คุณสินยืนมันต้องเป็นพี่”
ใช่วันงานเลี้ยงนั่นเขาตั้งใจ เขาอยากให้เรื่องนั่นมันเกิดกับตัวเองกับศศิพิมพ์ เขารู้เธอกินยาแล้วต้องหลับ เขาแกล้งเมา ทุกอย่างจะสมเหตุสมผลถ้าหากเขาตื่นขึ้นมาบนเตียงกับเธอ
แต่... เชื่อไหมว่าทุกอย่างผิดแผนไปหมดเพราะคนคนเดียว
กัญญาตลบหลังเขาได้เจ็บแสบ ในเหล้าเขามียานอนหลับ จากที่แกล้งหลับเขาหลับไปจริงๆ และแทนที่เขาคือจิรสิน
แล้วก็เป็นกัญญาที่พาจิรสินไปไว้บนเตียงศศิพิมพ์!
“ใช่กัญผิดแล้วยังไง พี่ก็รู้ว่ากัญคิดยังไงกับพี่ กัญรักพี่แล้วกัญก็รักพิมพ์ กัญไม่อยากทำร้ายน้องพอๆ กับที่กัญเห็นแก่ตัวมากพอที่จะไม่ปล่อยให้แผนพี่สำเร็จ อีกอย่างระหว่างสองคนนั่นพี่ก็เห็นมีอะไรเกิดขึ้น ความรู้สึกของพวกเขามันกำลังเปลี่ยนไป โดยเฉพาะพิมพ์ที่ให้ตายยังไงมันก็ไม่เกิดขึ้นกับพี่!”
ธนวัฒน์ยิ้มหยัน “ใช่! แล้วมันก็ไม่มีทางเกิดขึ้นกับกัญด้วย” เขาทิ้งท้ายไว้แค่นั้นและเดินจากมา
กัญญากลืนน้ำลายลงคอและมองตามแผ่นหลังกว้างที่เดินห่างออกไป เธอกะพริบตาและยกมือขึ้นปาดหยดน้ำตาหยดหนึ่งที่ไหลระข้างแก้มทิ้ง ก่อนสูดลมหายใจเข้าลึก
ผิดหรือที่เธอเห็นแก่ตัว
กัญญาบอกตัวเองว่าไม่ โลกนี้ไม่มีใครจะไม่เห็นแก่ตัว!

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 16 มิ.ย. 2561, 20:33:23 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 16 มิ.ย. 2561, 20:33:23 น.
จำนวนการเข้าชม : 732
<< ๘ เข้าใจผิด (75%) | ๙ แค่คำพูด (25%) >> |