กาลครั้งหนึ่งนั้น(ในความบังเอิญ)
เธอกับเขา ความทรงจำที่เคยมีร่วมกันมาก็แค่... อดีตกิ๊ก!
Tags: แต่งงาน,อดีต,รัก,บุพเพสันนิวาส,พรหมลิขิต

ตอน: ๙ แค่คำพูด (75%)

“ก็เรื่อยๆ จ้ะแม่ แต่--”

“หือ”

“ตาบ่นว่าพิมพ์ไม่ค่อยใส่ใจพี่สินเท่าไหร่” เธอถอนหายใจ “ไม่รู้พี่สินเป็นอะไรจ้ะดูมีเรื่องหนักใจ พิมพ์ไม่อยากถามถ้าพี่เขาพร้อมก็คงบอกพิมพ์เอง แม่ว่าพิมพ์ทำถูกไหมจ๊ะ” หญิงสาวลุกขึ้นยืนเดินตามมารดาที่นำเข้าครัวไปก่อนหน้านี้

“แล้วพิมพ์คิดว่าตัวเองทำถูกไหมลูก”

“ก็ไม่รู้สิจ๊ะ”

คนเป็นแม่ยิ้มขำ ละสายตาจากหม้อแกงหันมามอง “พิมพ์คิดว่าการแต่งงานคืออะไรล่ะลูก ระหว่างการแสดงความเป็นเจ้าของกันและกัน ต้องรู้ทุกอย่าง ต้องรู้ทุกเรื่องทุกสิ่งที่อีกฝ่ายทำ หรือกับการคิดว่าการแต่งงานคือการใช้ชีวิตด้วยกัน การให้เกียรติกันและกัน ไม่ว่าพิมพ์จะเลือกข้อหนึ่ง หรือสอง สิ่งที่พิมพ์จะทำก็คงสมควรแล้ว”

ฟังแล้วศศิพิมพ์ก็ยิ้ม

“พิมพ์รักแม่จัง”
“อย่ามาอ้อน”

“แม่จ๋า ตอนแม่คบกับพ่อ แม่รู้สึกยังไงเหรอ”

สริพรยิ้มอ่อนโยน “ทำไมนึกอยากรู้ล่ะลูก”

“ก็พิมพ์อยากรู้ คือพิมพ์ไม่รู้จะพูดยังไงดี แต่พิมพ์รู้สึกเหมือนเรายังไม่พร้อม การแต่งงานมันสำคัญแล้วเรายังไม่ดีพอสำหรับมัน พิมพ์ไม่รู้ว่าพี่เขาคิดอะไรอยู่ตอนที่เราอยู่ด้วยกัน พิมพ์รู้สึกแค่ว่าพี่เขากำลังสับสน เพราะไม่รู้เหมือนกันว่าที่เราคบกันอยู่ทุกวันนี้ มันดีหรือเปล่า”

หญิงสาวขึ้นต้นประโยคเหมือนคนที่ตัดสินใจพูดให้เด็ดขาด แต่ประโยคท้ายกลับเบาหวิวหาความมั่นใจไม่มีเลย

“รัก รู้สึกดี ถ้าให้แม่บอกนะจ๊ะ ถึงมันจะเปลี่ยนไปก็เถอะ”

“แม่จ๋า”

“แม่ไม่เป็นไรแล้วพิมพ์ แม่ทำใจได้แล้วว่าพ่อไม่ได้รักแม่อีกแล้วเมื่อตอนนั้น แม่ก็ปล่อยพ่อไปเพราะแม่ยังรักพ่อ พ่อมีความสุขแม่ก็มีความสุขด้วย คนเราน่ะนะลูก ไม่มีหรอกที่จะดีทั้งหมด ทุกคนต่างก็ดีอย่าง เสียอย่าง หรือไม่ก็ดีมากหน่อย ดีน้อยหน่อยเท่านั้นเอง”

ศศิพิมพ์นิ่งฟังแล้วยิ้ม

“แม่เป็นไอดอลของพิมพ์เลยนะ”

สริพรหัวเราะ หันกลับไปสนใจกับแกงในหม้อพลางสั่ง

“ไปอาบน้ำได้แล้วจ้ะ เดี๋ยวได้ทานข้าวเย็นกัน”

หญิงสาวเดินเข้าไปโอบมารดาและหอมแก้มฟอดใหญ่ คนเป็นแม่หมุนตัวมองตาลูกสาวคนเล็กแล้วผ่อนลมหายใจ

ถึงจะโตอย่างไร ในสายตาเธอก็ยังมองว่าลูกยังเล็กอยู่นั่นเอง

อาหารมื้อเย็นนั้นจบลงราวสองทุ่ม สริพรนั่งดูโทรทัศน์กับบุตรสาวจนถึงสองทุ่มครึ่งก็กลับขึ้นห้องนอนไปพักผ่อน ศศิพิมพ์ยังนั่งทำงานที่ชั้นล่างต่อ มีฟองน้ำนอนเกยคางกับเท้าผู้เป็นเจ้านาย

ค่ำนี้ฝนตกลงมาปรอยๆ แต่ต่อเนื่องและในสนามก็เริ่มแฉะเพราะน้ำขัง แสงไฟที่ถนนหน้าบ้านสลัว เมื่อมองออกไปจึงเห็นเพียงเงาตะคุ่มของรั้วบ้าน และเพราะไม่ได้สนใจจริงจังเธอจึงไม่เห็นว่ามีรถยนต์จอดชิดรั้วด้านหน้า

จิรสินคือเจ้าของรถคันนั้น เขามาถึงที่นี่ตอนสามทุ่มและนั่งมองเข้าไปในบ้านหลังน้อยนั่นเงียบๆ ศศิพิมพ์ยังนั่งทำงานที่ชั้นล่าง แม้ฝนจะตกแต่ก็ยังมองเห็นรางๆ ชายหนุ่มคิดจะขับรถกลับบ้านหลายครั้งหลายหน แต่สุดท้ายพอสตาร์ทตั้งท่าจะขับออกไป กลับหยุดและนิ่งมอง เย็นนี้เขาไปเจอปุณณมาอีกครั้ง เราคุยกันหลายเรื่อง และหนึ่งในนั้นก็คือเรื่องในอดีต

ลึกๆ ในซอกหัวใจเธอยังอยู่เขารู้ดี

‘จันทร์ได้ยินจากเพื่อนว่าสินมีแฟนแล้ว แล้วก็จะมีข่าวดีเร็วๆ นี้ จันทร์ดีใจด้วยนะ ในที่สุดสินก็ได้เจอคนๆ นั้นแล้ว’

ลึกๆ ในใจมันเจ็บที่ได้ยินอย่างนั้น และมันก็ยังเจ็บมาถึงตอนนี้

‘ฉันรู้คนเราเคยรักมากให้ตายก็ตัดให้ขาดแบบว่าไม่รู้สึกอะไรเลยน่ะมันยาก แต่ฉันขอเตือนแกจริงๆ จังๆ เลยนะสิน ถ้าแกยังลังเล ความรู้สึกนี่นะมันส่งผ่านถึงคุณพิมพ์ไม่ยาก เธอจะรู้ด้วยตัวเธอเอง แล้วนั่นก็จะทำให้พวกแกมีปัญหากัน สุดท้ายรู้ไหมอะไรที่จะเกิดขึ้น ประวัติศาสตร์ก็จะวนซ้ำรอย เธอเจ็บ แกเจ็บ’

คำพูดของจักรีดังก้องในหัว และเขาปฏิเสธไม่ได้ว่ามันจริง

‘แกต้องเลือก ไอ้จะมาจับปลาสองมือมันหน้าตัวเมียเกินไป’




ดังปัณณ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 19 มิ.ย. 2561, 20:42:16 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 19 มิ.ย. 2561, 20:42:16 น.

จำนวนการเข้าชม : 676





<< ๙ แค่คำพูด (50%)   ๙ แค่คำพูด -จบตอน- >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account