มนตราในฝัน
กานติศา หญิงสาวหลงทางในความฝัน จินตนาการของเธอ กระทั่งพบชายชุดดำปริศนาเจ้าของนัยน์ตาสีเขียวยามกลางวัน กลืนเป็นสีน้ำเงินในรัตติกาล สัมผัสความลึกลับและอันตราย
เธอจะวิ่งหนีไปให้พ้นจาก 'ฝันร้าย' อย่างไร

Tags: ข้ามภพ,แฟนตาซี,ความรัก

ตอน: บทที่ 11 (1) อาณาจักรวิสตาร์เรีย

11 อาณาจักรวิสตาร์เรีย

อาณาจักร วิสตาร์เรีย
จำนวนประชากร 89,026 คน
อัตราการเติบโตประชากรลดลงอย่างต่อเนื่อง

ตามเล่าขาน อาณาจักรวิสตาร์เรียเจริญรุ่งเรือง ธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ ประชาชนอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข กลายเป็นเพียงอดีต ก่อนประสบเคราะห์ร้าย เกิดความอัปมงคล ประสบภาวะถดถอยเหมือนนาฬิกาเดินถอยหลังสู่ความหายนะ สวนพืชผลรวมถึงแหล่งอาหารทยอยล้มตายอย่างอนาถ สายน้ำหล่อเลี้ยงเสมือนหัวใจของอาณาจักรเริ่มเหือดแห้ง ก่อสารพิษในน้ำเมื่อเจอหน้าฝน คุณภาพดินต้อยต่ำเพาะปลูกผลิตผลเท่าไรก็ไม่สามารถเก็บเกี่ยว

ประชาชนสุขภาพอ่อนแอก่อกำเนิดโรคประหลาด ไร้คำอธิบายสาเหตุต้นกำเนิดความพินาศ เหตุการณ์ประหลาดแพร่ขยายเติบโตเหมือนคำสาป อาณาจักรถึงขั้นล่มสลาย สูญเสียอำนาจ ไร้หนทางการเยียวยา เพราะเหตุนี้นอกกำแพงเมืองรายรอบไปด้วยพื้นที่สุสานขนาดใหญ่และซากศพจำนวนนำมาทิ้งเพิ่มขึ้นทุกวัน

กานติศาเดินตามรอยฝีเท้าของคนข้างหน้า หากหลับตาเดินเหมือนคนตาบอดคงเป็นไม่ได้ เพราะเธอต้องค่อยหลบแท่นหินยักษ์มีรอยสลักอักษร เดาว่าแท่นหินพวกนั้นทำหน้าที่เป็นป้ายหลุมศพ บรรยากาศเงียบสงัดเหมือนอยู่ในป่าช้า เลี่ยงไม่มองศพถูกนำมาทิ้งอย่างไร้ค่า บางศพถูกกัดแทะเหลือแต่กระดูก อยากหยุดชะงักเท้ากลับก็ไม่ทันเสียแล้ว

“น่ากลัวจัง” ลูนาร์ผลุบโผล่ซ่อนตัวอยู่ในเสื้อเธอ

“เกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาคะ” บางศพไม่ได้ถูกฝังลงหลุม ทำพิธีอย่างสมเกียรติ กลับถูกทิ้งเกลื่อนกลาดปล่อยให้สภาพเน่าเฟะ เป็นอาหารพวกสัตว์ดุร้ายแทะกิน

“เพราะมีจำนวนเยอะเกินไปฮะ พวกเขาไม่สบายหาทางรักษาไม่ได้” คนตอบกลายเป็นรอธดีน แทรกกลางระหว่างเธอกับเอเดรียน เขายังคงปิดปากเงียบไม่หลุดคำไหนออกมา ก้าวนำพวกเธอไปข้างหน้า

“ไม่สบาย เกิดโรคระบาดเหรอ” กานติศาสงสัย

แม้แต่รอธดีนยังไม่สะทกสะท้านเมื่อผ่านซากศพตัวเล็กกว่า ศพเด็กนอนคว่ำจมกองเลือดทำเอาเธอกลั้นน้ำตาแทบไม่อยู่ แม้แต่ลูนาร์ต้องรีบหลบเข้าใปในเสื้อ ทำไมพวกเขานิ่งเฉยราวกับเป็นเรื่องปกติ

“ไม่ใช่โรคระบาด มันเป็น...”

ผู้นำทางหันมาดุเด็กชาย กำชับให้ทำตามสัญญาที่เคยให้ไว้ เด็กชายทำหน้าราวกับนึกออก จึงตีหน้ายิ้มตาหยีกลบเกลื่อน เรียบเรียงคำพูดใหม่ “พวกเขาแค่ไม่สบาย”

สองคนนี้แอบมีเรื่องปิดบังอยู่ บางเรื่องไม่ให้เธอรู้

“ว่าแต่ทำไมพี่สาวถึงแต่งตัวเหมือนผู้ชาย” รอธดีนมองพี่สาวตั้งแต่หัวจรดปลายเท้า ยังไงก็ดูไม่เหมือนพี่สาวคนเดิม

กานติศากับทรงผมถูกตัดสั้นกว่าเดิม สวมเสื้อผ้าเหมือนผู้ชาย ปรายตามองเอเดรียนอดสงสัยมิได้ กับแผนการพิลึก ความคิดมาจากชายหนุ่มตรงหน้านี่แหละ วางมาดแสนเท่เป็นที่ต้องใจสาวแน่นอนกลับเสนอให้เธอปลอมตัวเป็นผู้ชาย พลางนึกถึงละครหลังข่าว นางเอกสวมวิกติดหนวดปลอม แต่ปัดแก้มชมพูเป็นตูดลิงขัดใจผู้ชมละครอย่างไม่มีผิดเพี้ยน

“ก่อนอื่นอยากให้เลิกเรียกพี่สาว เรียกพี่ชายแทน”

เป็นความโชคดีที่เอเดรียนให้ความสำคัญกับรายละเอียดได้ดีกว่า เขาใช้ดินโคลนและฝุ่นทรายป้ายหน้าเธอให้ดูมอมแมม แถมยังเข้ามาพยายามทึ้งเสื้อผ้าออก ตอนนั้นกานติศาตกใจมากถึงกับร้องทักท้วง

“เจ้าต้องปลอมตัวเป็นผู้ชาย” ในมือเขามีเสื้อผ้าชุดใหม่เอี่ยม

“ไม่เอา ทำไมต้องปลอมตัวด้วย” สาววิ่งหนีอ้อมไปหลังก้อนหิน เจอเอเดรียนดักทางไว้อีกด้านหนึ่งพอดี มือหนารั้งตัวเธอขังไว้อ้อมแขนไม่ให้หนีไปไหนได้ เสียงทุ้มต่ำกระซิบชิดใบหู ด้วยความรู้สึกแปลกใหม่สาวเอียงคอหลบ ความวาบหวามรบกวนจิตใจ ทำไมเอเดรียนกลายเป็นผู้ชายมือไวแบบนี้

“จะปลอมเป็นผู้ชาย หรือปลอมตัวเป็นภรรยาข้า เจ้าเลือกเอา”

ด้วยเหตุเช่นนี้กานติศายอมรับบทผู้ชายด้วยความยินดี นั่งนิ่งให้เอเดรียนตัดผมจัดทรงใหม่ให้ดูสมจริง ทว่าเธอกลับไม่รู้สึกเสียดายเส้นผม “ทำไมต้องผู้ชายคะ”

“วิสตาร์เรียเป็นที่อันตราย ไม่ปลอดภัยสำหรับผู้หญิง ความงามของพวกนางโดดเด่นเป็นเป้าง่าย ข้าจึงอยากให้เจ้าเป็นผู้ชายเพื่อตัดปัญหาเสีย เจ้าหน้าตาอัปลักษณ์ น่าเกลียดยิ่งมากเท่าไร ยิ่งปลอดภัยมากขึ้นเท่านั้น”

ใบหน้าร้อนฉ่าราวกับถูกชม หรือเขาหาว่าเธอเป็นผู้หญิงงาม

เธอก็ยังสงสัยอยู่ดี หากที่นั้นเต็มไปด้วยความอันตรายไม่ปลอดภัย ขนาดเอเดรียนยังเผยความไม่มั่นใจออกมา สถานที่หลังประตูเมืองเป็นสถานที่แบบไหนกันแน่ ณ ตอนนี้ได้ตัดสินใจแล้วว่าจะทำเพื่อรอธดีน จนกว่าส่งเด็กคืนสู่อ้อมอกผู้เป็นแม่เธอจะไม่ล้มเลิก

“ใกล้ได้พบท่านแม่ ตื่นเต้นมั้ย”

“ตื่นเต้นมั้งฮะ” เด็กตอบเสียงต่ำกว่าปกติ เรียวปากเหยียดยิ้มใส่คนข้างหน้าด้วยความสะใจยิ่ง

สุดเขตสุสานพวกเธอมาถึงประตูเมืองมีนายทวารร่างยักษ์ในชุดนักรบตั้งท่ารออยู่ ทำหน้าที่ตรวจตราผู้เข้าออก เปิดปิดประตูค่อยลำเลียงคนงานเข็นรถขนศพจำนวนหนึ่งไปทิ้ง ทันทีประตูเปิดแง้มหนึ่งเธอเห็นความวุ่นวายอลหม่านอยู่หลังประตูซึ่งอยู่ห่างไปไม่กี่ก้าว

“พวกเจ้าเป็นใคร” ทวารบาลคนหน้าสุดตวาดถาม เตรียมดึงดาบอาวุธ สายตามองมาไม่เป็นมิตร

“นี่ฮะ” รอธดีนหยิบโลหะวงกลมมาจากกระเป๋าเสื้อท่านพ่อ มีรอยแกะสลักเหมือนเหรียญแต่มีขนาดใหญ่กว่า ใส่มือนายทวาร พวกเขาต่างรุมเข้ามาดูเหรียญ

“เจ้าหนูเป็นชาววิสตาร์เรียนจริงๆ บ้านเจ้าอยู่ที่ไหน”

“บ้านข้าอยู่หัวมุมจัตุรัสสีน้ำเงินฮะ พ่อข้าเคยเปิดร้านรับจ้างตีอาวุธให้ทหาร”

“งั้นพ่อเจ้าอยู่ไหน พวกเขาเป็นใคร” ทวารบาลเครายาวไม่หายสงสัย กวาดสายตาดุปานคมดาบมองพวกผู้มาใหม่อย่างไม่ไว้ใจ รอธดีนอ้ำอึ้งจะตอบ “เอ่อ...พ่อข้าตายแล้ว พวกเขาเป็นคนในครอบครัว”

“ครอบครัว? แปลกจริงเจ้าหนูเป็นเพียงเด็ก ทำไมไม่ให้พวกเขาถือเหรียญเข้ามาแทนเจ้าหนูล่ะ”

“หรือว่าเจ้าเด็กมันโกหก มันพาพวกเหลือขอเข้ามา”

รอธดีนรีบหลบไปอยู่หลังเอเดรียน เมื่อพวกเขาชักดาบออกจากฝัก มุ่งเข้ามาจับตัวเด็กแล้วต้องเจอดาบเล่มยักษ์มีขนาดใหญ่กว่าขวางพวกเขา ต่างฮือฮากับรูปร่างดาบที่ไม่เคยพบพานมาก่อน ชายร่างชุดดำปิดหน้าเว้นช่องเหลือแต่ลูกตาดูน่าสงสัยโยนเหรียญลอยลิ่วใส่พวกนายทวาร

“ข้าก็มีเหรียญ อย่าถือสาเด็ก พวกเราพบกันระหว่างทางเพียงเท่านั้น”

“เหรียญชาววิสตาร์เรียนนี่เป็นของจริง” หลังตรวจสอบเหรียญ มีรอยประทับตราประจำอาณาจักรของแท้ “ทำไมไม่บอกพวกข้าตั้งแต่แรก”

ผู้นี้ครองอาวุธน่าสนใจ รูปร่างสง่ามีราศี ท่าควงดาบอย่างมีชั้นเชิงจึงคาดว่าท่านผู้นี้คงพ่วงตำแหน่งยศทหารใหญ่ในกองทัพ แต่ดวงตาสีเขียวประหลาดทวงความคุ้นเคย ราวกับเคยเห็นมาก่อน หนึ่งในกลุ่มแอบกระซิบกันภายในกัน “คุ้นกันมั้ย ไยต้องปิดหน้า ทำตัวอย่างกับหนอนบ่อนไส้”

นายทวารมาดกวนใจกล้าผู้หนึ่งยืนขวางทางเอเดรียน ด้วยร่างสูงใหญ่กว่าตั้งตนเป็นผู้ได้เปรียบ พยายามคว้าผ้าคลุมปิดหน้าออก แต่เอเดรียนไม่เสียท่าให้ปลีกตัวหันหลบได้ทันควัน ใช้ความเร็วจับร่างคนตัวใหญ่กว่าทุ่มใส่พื้นเสียงดังสนั่นแผ่นดิน ทำเอาผู้คนในบริเวณนั้นต้องลุกฮือเข้ามาช่วยกันปราบ ไม่ให้เอเดรียนลงมือทำร้ายร่างกายไปมากกว่านี้

“ข้าต้องขออภัยด้วย ที่คนของข้าเสียมารยาท ว่าแต่หน้าท่าน” ทวารบาลเครายาวกิริยาอ่อนน้อมคนเดิม ถึงพวกเขาเป็นฝ่ายเสียมารยาทก่อนแต่ก็อดสงสัยมิได้

“มีคำสั่งใหม่ ให้นายทวารทุกคนตรวจสอบใบหน้าผู้เข้าออก เพื่อให้แน่ใจว่าไม่มีพวกนอกรีตเข้ามา ดังนั้นข้าขออนุญาตเสียมารยาทดูหน้าท่านด้วย” ถึงอย่างไรก็ตามก็ไม่ปล่อยความสงสัยนี้คาใจ จึงสร้างข้ออ้างเพื่อดูหน้าให้ได้

กานติศาถือกระเป๋าสัมภาระทั้งหมดของเขาอยู่ด้านหลัง ถึงกับกลืนน้ำลาย ดูท่าทีว่าเอเดรียนจะแก้ไขสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออกตรงหน้าอย่างไร

“หวังว่าใบหน้าน่ารังเกียจของข้าไม่ทำลายวันดี ๆ ของท่าน อย่าให้ต้องดูนานนักเลย” เขาแง้มเผยเสี้ยวหนึ่งของใบหน้า เห็นแว่บเดียวทวารบาลชักสีหน้าด้วยความรังเกียจ โบกมือไล่พวกเธอ

“ท่านติดโรคแห่งความตาย ทำไมไม่บอกก่อน มัวยืดยาดอะไร รีบเข้าไปสิ” ความสุภาพอ่อนน้อมในตอนแรกมลายหายไป

ถึงกักตัวผู้ป่วยน่าสงสัยไว้ก็ไม่มีประโยชน์ โรคแห่งความตายไม่มีหนทางรักษา

เป็นความโชคดีที่เอเดรียนมองการณ์ไกล ใช้ดินโคลนเหนียวมาทาหน้าจนแห้งกรัง ปลอมตัวซ้อนไว้อีกชั้น ป้องกันหากพวกมันเกิดสงสัย

“เดี๋ยวก่อน” ทวารบาลท่านหนึ่งรั้งคนแปลกหน้าร่างเล็กไว้อีก เพราะสังเกตทีท่าเด็กหนุ่มก้มๆ เงยๆ มีพิรุธ

“แล้วเจ้านี่เป็นใคร ทำไมตัวหอมนักล่ะ” ได้กลิ่นหอมสมุนไพรอ่อนๆ

“เอ่อ ฉะ ขะ ข้า...” กานติศาในคราบชายหนุ่มมอมแมมถูกกักตัว เอเดรียนเห็นว่าสถานการณ์เริ่มไม่ค่อยดี

“นี่คือ เรเวน เป็นทาส ทำงานให้ข้า ทำงานหน้าที่ดองเหล้าขาย พวกท่านมีปัญหาอะไรหรือเปล่าขอรับ” คำพูดเขาเหมือนช่วยชีวิตเธอก็จริง แต่บท ‘ทาส’ ที่เขาเยียดยัดมาจากไหน ไม่ใช่อย่างที่ตกลงกันไว้

“เรเวน เจ้าแอบดื่มเหล้าดอกไม้หมักของข้าอีกแล้ว อยากโดนตัดลิ้นขาดใช่มั้ย” เอเดรียนชูมีดสั้นมาขู่ ปากว่าตาขยิบชักชวนให้เธอแสดงละครตามบท ‘ทาส’ ที่เขายัดเยียดให้

“ยังไม่ตอบอีก เจ้าทาสขี้ขโมย”

“ขะ ข้าจะไม่ทำอีกแล้วขอรับ นายท่าน โปรดไว้ชีวิตข้า” กานติศาลงทุนนั่งคุกเข่ากับพื้นแสดงอย่างสมบทบาท ยกประนมมือไหว้ขอโทษเจ้านาย นำวิธีขออโหสิกรรมตามวัฒนธรรมไทยมาใช้ที่นี่จะดูแปลกไปหรือเปล่า

ไม่สำคัญว่าพวกเธอแสดงได้ดีแค่ไหน ขอให้พวกนายทวารมันหลงเชื่อหน่อยเถอะ

“แก เป็นทาสชั้นต่ำเองหรือ”

“จะ จริงขอรับ”

ทวารบาลทั้งหลายไม่มีเหตุผลรั้งพวกมันอีก ทาสมีหน้าที่ทำตามคำสั่งผู้เป็นนายเท่านั้น ไม่เข้าข่ายผู้มีสิทธิพกถือเหรียญตราประจำอาณาจักร หลังตรวจหนังสือทาสปลอมที่เอเดรียนเตรียมไว้ยื่นให้เป็นหลักฐาน เมื่อไม่พบความผิดปกติจึงปล่อยทั้งสามคนผ่านประตูเมือง

แต่ว่าเรื่องอคติและความเชื่อเป็นสิ่งที่ลบล้างยากที่สุด นายทวารเครายาวคนเดิมดูสูงศักดิ์กว่าคนอื่นขมวดคิ้วผูกเป็นปมที่คลายยากเสียด้วย “ข้าก็ว่ามันแปลกๆ อยู่ดี คนป่วยเป็นโรคแห่งความตายที่ไหนมันถือดาบยักษ์ประหลาดไหว และเจ้าทาสนั้นอีก”

“แต่ข้าตรวจสอบเหรียญแล้ว พวกมันเป็นวิสตาร์เรียนจริงๆ ” นายหนึ่งในกลุ่มออกความเห็น

“ของมันขโมยกันได้ นักเขียนคนไหนมันคิดค้นเรื่องเหรียญกันวะ”

“ยิ่งฟังยิ่งแถเป็นเรื่องเป็นราว เหล้าดอกไม้หมักรึ ข้าเพิ่งเคยได้ยินก็วันนี้แหละ” เจ้าของเครายาวใช้นิ้วสากหนวดเคราใช้ความคิด




“ทำไมไม่บอกว่าท่านเป็นวิสตาร์เรียนเหมือนกัน”

“เจ้าไม่ได้ถามข้า เรเวน เจ้าควรปิดปากเงียบฐานะทาสดีกว่า ทำเป็นค่อยรับใช้ข้า หรืออยากทำเสียแผน ประกาศให้พวกเขารู้ว่าเจ้าเป็นผู้หญิง” เอเดรียนดึงสาวหลบขบวนทหารขี่ม้าวิ่งผ่านพวกเขา มือนางยังจับตัวรอธดีนไว้อย่างเหนียวแน่น

“หรือเจ้าอยากลงเอ่ยแบบพวกนาง” ชิ้นิ้วไปทางตรงกันข้าม

เอเดรียนหมายถึงกลุ่มผู้หญิงหลายคนหลายวัยและสัตว์ในเทพนิยายถูกจับขังภายในลูกกรง ริมทางเดินฝั่งตรงข้าม คาดด้วยถนนปูด้วยหินหลากสีไปตามทางเนินขึ้นเขา สิ่งที่เหมือนกันคือพวกนางทุกคนมีใบหน้างดงาม ดวงตาเศร้าสร้อยหมดอาลัยตายอยาก สาวอายุน้อยที่สุดอายุไม่เกินสิบขวบน่ารักน่าชังสบตาเธอ และผู้ชายท่าทางเหมือนพ่อค้าคุยกับลูกค้าพูดคุยคล้ายต่อรองซื้อขายสินค้า

“การค้ามนุษย์ พวกนางกลายเป็นทาส ไม่ก็นางบำเรอ เจ้าเป็นเจ้าดีแล้วใช่มั้ย เรเวน”

กานติศาค้อนวงใหญ่ ถึงสงสารพวกนาง แต่เธอก็ไม่มีบทบาทหรืออำนาจเข้าไปสอดแทรก ในเมื่อฐานะผู้หญิงคนหนึ่งธรรมดายังไม่ปลอดภัย วิสตาร์เรีย คงอันตรายอย่างที่เขาว่า

“ดูสิ มีภูติน้อยเหมือนข้าด้วย” มีจำนวนภูติน้อยกลุ่มหนึ่งถูกจับใส่ไว้ในกรงอันเล็ก

“เราช่วยพวกเขาไม่ได้เหรอ หนึ่งในนั้นอาจจะเป็นครอบครัวข้า” ลูนาร์เศร้ากับภาพที่เห็น จนกานติศารีบเข้าปลอบ “อย่าออกมาสิจ้ะ ที่นี่ไม่ปลอดภัย เราเชื่อเอเดรียนไว้ก่อนดีกว่า”

บนทางเนินเขาที่มีแต่ความวุ่นวายโกลาหล อัดแน่นไปด้วยประชาชนหลายชนชั้น พวกแต่งตัวดูดีขึ้นมาหน่อยคงเป็นชนชั้นสูง แย่สุดก็ระดับผู้ยากไร้ ร่างพิกลพิการ สวมเสื้อผ้าเก่าแบมือขอสินน้ำใจระหว่างทาง และจิตใจโอบอ้อมอารีของเธอไม่มีอะไรให้พวกเขาได้

วิสตาร์เรียเหมือนอาณาจักรหนึ่งในฉากภาพยนตร์ สิ่งปลูกสร้างอย่างบ้านเรือนระหว่างทางวนขึ้นเขา ยังมีบ้านเรือนอาคารต่าง ๆ ถูกเจาะเข้าไปในภูเขา ประชาชนอาศัยอยู่ในบ้านภูเขาได้อย่างไม่น่าเชื่อ เสียงจ้อกแจ้กของคนนับร้อยที่จัตุรัสสีเขียว กานติศาเห็นซากรูปปั้นสีเขียวอยู่ตรงกลางเหมือนอนุสาวรีย์ เสมือนจุดพักระหว่างทางวนขึ้นเขา

หากเดินทางวนขึ้นเขาไปเรื่อย ๆ เธอเดาว่าจะเห็นรูปปั้นสีน้ำเงิน บ้านรอธดีนอยู่ที่นั้น

ผู้คนเสียงดังต่อรองซื้อขายสินค้าในตลาดชุมชนแห่งหนึ่ง ขณะที่เอเดรียนนำทางพวกเธอฝ่าเข้าไปในหมู่คน เหม็นคละคลุ้งเหมือนอาหารคาวตลบอวลไปทั่งบริเวณนั้น พวกเขาขายเนื้อสัตว์ทุกอย่างเท่าที่ล่าจับได้ หญิงสาวสะเทือนใจเมื่อเห็นก้อนเนื้อถูกสับเป็นชิ้น หัวม้า สิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ รูปร่างเหมือนลูนาร์ นอนวางขายในตลาด ผู้คนที่นี่กินสิ่งมีชีวิตทุกอย่างเคลื่อนไหวในป่า ใจกานติศารีบอยากออกไปจากตรงนั้น

ประชาชนอดอยากปากแห้ง แหล่งอาหารหายากเกิดภาวะข้าวยากหมากแพง การต่อรองซื้อขายสินค้าและอาหารเป็นไปอย่างฝืดเคืองเพราะราคาตั้งไว้สูงลิบ ไม่เป็นที่พึ่งพอใจ สุดท้ายมีการลักขโมยอย่างห้าวหาญไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย ประชาชนท่านอื่นเห็นแล้วเอาเป็นแบบเยี่ยงอย่าง ก่อความวุ่นวายภายในตลาด เกิดตะลุมบอนระหว่างพ่อค้าทั้งหลายกับประชาชนลูกค้า กานติศาถูกลูกหลงศอกกระแทกเบ้าตาเจ็บ เกิดพลัดหลงกับเอเดรียนและรอธดีน เด็กชายหายไปท่ามกลางความโกลาหล

ความไม่แน่ใจเกิดขึ้นชั่วขณะ นั้นเป็นเพราะเธอทำเด็กหลุดมือ หรือ รอธดีนจงใจกระชากมือออกแล้ววิ่งหนีจากไป

ก่อนอื่นกานติศาหาทางออกไปจากสถานการณ์ย่ำแย่ลงตรงนี้ก่อน พวกเขามีการลงไม้ลงมือรวมถึงการใช้ขวานทำร้ายฆ่าฟันกัน กว่าจะหลบความวุ่นวายออกมาได้เกือบแย่ กานติศาหายใจลึกๆ กับอาการปวดร้าวระบมรอบดวงตา เธอได้พลัดหลงกับพวกเขาแล้ว ลูนาร์ซ่อนตัวในเสื้อยังพลอยหายไปด้วย

“อยู่ไหนกันนะ”

ร่างหนึ่งถูกจับเหวี่ยงมาตกพื้นต่อหน้าเธอ ลำคอถูกมีดหั่นเนื้อเสียบทะลุคอ น้ำข้นเหนียวพุ่งเป็นลำธารสาดกานติศาใบหน้าเปรอะเปื้อนสีแดงชาด ศพไร้วิญญาณทำให้เธอสติกระเจิงวิ่งเข้าไปในความวุ่นวายทั้งน้ำตาด้วยความกลัวสุดขีด ฝ่าหมู่คนอย่างไม่มีจุดหมาย

ปัง

กระสุนเหล็กทองคำจากปืนโบราณ ฝ่ากระแสสายลมทะลุอกร่างหนึ่งในผู้ก่อความไม่สงบล้มแน่นิ่ง กลางอกมีรูโหว่ ละอองความร้อนแผ่ออกมาจากรูซึ่งมองเห็นด้วยตาเปล่า บทลงโทษโหดเหี่ยมเข้ามาขัดจังหวะภาวะคับขัน

“ทหารมา ทหารมา”

ทุกคนวางมวยถึงกับนิ่งงัน ทิ้งอาวุธลงกับพื้นอย่างจำนน ราวกับเกรงกลัวต่อสิ่งบางอย่างกำลังคืบคลานเข้ามาหาพวกเขา

“ท่านมัทธิอัสมาแล้ว”



KAVIDA
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 19 มิ.ย. 2561, 23:58:05 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 19 มิ.ย. 2561, 23:58:05 น.

จำนวนการเข้าชม : 544





<< บทที่ 10 (2) ที่อันตรายคือที่ปลอดภัยที่สุด   บทที่ 11 (2) อาณาจักรวิสตาร์เรีย >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account