กาลครั้งหนึ่งนั้น(ในความบังเอิญ)
เธอกับเขา ความทรงจำที่เคยมีร่วมกันมาก็แค่... อดีตกิ๊ก!
Tags: แต่งงาน,อดีต,รัก,บุพเพสันนิวาส,พรหมลิขิต
ตอน: ๑๐ พันธะสัญญา (25%)
การเดินจากไปของศศิพิมพ์ คือสิ่งที่กระทบกระแทกใจของจิรสินจนเกินกล่าว เขาอยากรั้งเธอไว้แต่รั้งไว้แล้วจะพูดอะไรได้ ตอนนี้เขาเหมือนคนถูกน็อก น็อกเพราะเพิ่งรู้เสียงหัวใจตัวเอง
เคยสงสัย เคยอยากรู้ ทำไมถึงได้อยากแตะเธอนัก มันไม่ใช่แตะในเชิงปรารถนาของชายที่กระสันอยากในความใคร่ ไม่ใช่ในความรู้สึกอย่างนั้นแต่แค่อยากอยู่ใกล้ อยากมอง อยากสัมผัสให้รู้ให้แน่ใจว่า ‘เธอ’ ยังอยู่ตรงนั้นข้างๆ เขา
เคยสงสัยทำไม แต่พอค้นคำตอบจนเกือบจะได้มาก็เกิด ‘กลัว’
มันมีอยู่ครั้งหนึ่ง ตอนที่เราไม่ได้ใกล้กันมากเท่านี้ จู่ๆ เขาก็เกิดเผลออยากแตะเธอขึ้นมา
ตอนนั้นเราไปดูไซด์งานกันที่ปราณบุรี...
พูดตามตรง จริงๆ คนที่ต้องไปคือเขาคนเดียว แต่กับศศิพิมพ์นั้นเป็นภาคบังคับโดยคนที่คุณก็รู้ว่าใคร
‘ไปช่วยพี่เขาทีนะลูก ป้าละห้วงห่วงใจคอไม่ดีเลย เมื่อคืนป้าฝันเห็นพี่เขา... พี่เขา’
คำพูดไม่กี่คำกับน้ำตาอีกไม่กี่หยดของแม่เขา ศศิพิมพ์ก็พูดไม่ออก ร่ำๆ จะร้องไห้ตาม จากนั้นน่ะหรือ... เฮ้อ มารยาผู้หญิงใช้ได้เสมอไม่เว้นแม้แต่กับผู้หญิงด้วยกันเอง!
เอาละก็เอาเป็นว่าก่อนจะออกนอกเรื่อง เรามาคุยกันต่อเรื่องที่ผมอยากแตะเธอกันดีกว่า
วันนั้นเราเดินจากอาคารที่กำลังสร้างตรงไปยังออฟฟิศชั่วคราว ก่อนจะหยุดเมื่อลูกค้ากำลังสั่งงานเลขาที่หอบแฟ้มเดินมาหา เธอหยุดยืนใกล้ๆ เขา แต่สายตาไม่ได้อยู่ที่เขา หรือคู่สนทนาของเขา เพราะมันจับจ้องอยู่ที่พ่อแม่ลูก ซึ่งเด็กชายกำลังอุ้มลูกหมาขะมุกขะมอมไว้ในอ้อมแขน และเหมือนกำลังเจรจากับบิดามารดาเรื่องลูกหมาตัวนั้น
เขาหันมาเจอพอดีกับที่เธอเผลอยิ้มน้อยๆ หลังลูกค้าขอแยกตัวไปจัดการปัญหาและให้เราเดินไปที่ออฟฟิศกันก่อนตามลำพัง
รอยยิ้มของเธอทำให้เขาเผลอไป จิรสินละสายตาจากเธอไม่ได้ และโดยไม่รู้ตัวเขาก็ยกมือเอื้อมหมายจะแตะที่แก้มอิ่ม
“จะทำอะไรคะ”
คำถามเธอทำเขาสะดุ้ง
“เอ่อ” สมองเขาคิดหาคำตอบไม่ทัน มือก็ยังยกค้าง
“เอ่อ” เธอขมวดคิ้ว “รอฟังอยู่ค่ะ”
“พี่--”
ศศิพิมพ์เอียงคอมองเขา ท่าทางอย่างนั้นในความรู้สึกเขาคิดว่ามันน่ารักมาก จนเผลอทาบมือกับแก้มอิ่ม และเธอก็ผงะ จิรสินจึงรู้ตัวและได้แต่ถอนหายใจ ยามสบกับแววตาตื่นๆ ของเธอ
“ขอโทษนะ”
มือใหญ่แข็งแรงลดลงมาจับที่บ่า หลบสายตาลงไปมองพื้น ในขณะที่เธอยังคงตื่นตกใจกับท่าทางของเขาอยู่นั้น เสียงทุ้มเลยดังขึ้นอีกพอที่จะทำให้คนฟังหายจากตกใจแล้วเปลี่ยนไปสงสัยแทนแต่ถึงกระนั้นหัวใจก็ยังไม่ยอมกลับเข้าสู่ภาวะปกติ เพราะคราวนี้ความรู้สึกเสียดายพุ่งผ่านเข้ามาแทนที่
“คือเมื่อกี๊มันเบลอๆ งงๆ พี่สงสัยเพราะเมื่อคืนนอนน้อยไปหน่อย”
“คะ? นี่จะล้มหรือเปล่าคะ”
จากผงะออกห่างเธอแทบจะประคองเขาไว้ ดวงหน้าที่ลอยใกล้เต็มไปด้วยความห่วงใย และจิรสินก็รู้สึกว่ามันดีมาก
ตอนนั้นเขาไม่รู้ว่าทำไมอยากแตะเธอ ทำไมดีใจกับความห่วงใยตามปกติที่คนรู้จักพึงมีให้กัน และทำไมหัวใจถึงได้เต้นแรงนัก
ตอนนั้นไม่รู้และไม่กล้าจะหาคำตอบ แต่มาตอนนี้...
จิรสินผ่อนลมหายใจ เขาเผลอรักเธอเข้าให้ไปแล้ว
และที่แย่สุดๆ ในตอนนี้ เขาจะทำอย่างไรดีที่จะบอกให้เธอรู้ โดยที่ศศิพิมพ์จะไม่เผ่นหนีไปเสียก่อน!
เวรกรรมแท้ๆ ถ้าตอนนั้นรู้ว่าจะเป็นอย่างนี้ เขาคบเธอจริงจังเสียเลยดีกว่าจะได้ไม่มีชนักปักหลัง ว่าครั้งหนึ่งเคยหลอกเด็กผู้หญิงน่ารักมาเป็นแฟน เพราะต้องล่าแต้มแข่งกับเพื่อน!
ผลที่ได้ก็คือเมื่อคืนเขานอนไม่หลับ มาผล็อยหลับไปเพราะเพลียก็เกือบจะตีห้าแล้ว ครั้นงัวเงียตื่นขึ้นมาก็พบว่าเป็นเวลาหกโมงเช้าและ... จะพูดอย่างไรดี คือ... จากที่คิดมากเรื่องของปุณณมา ตอนนี้กลับไม่ใช่ คนที่อยู่ในหัวคือศศิพิมพ์กับความรู้สึกที่แน่ใจแล้วว่า
เขารักเธอเข้าจริงๆ
แต่พับผ่าสิ ทีนี้เขาต้องทำอย่างไรให้เธอรัก ที่สำคัญดันบอกไปอีกว่ากลุ้มเรื่องใคร งานนี้ไม่โทษใครเพราะตัวเองทำผิดเต็มๆ
จิรสินยกมือขึ้นกุมหัวถอนหายใจยืดยาว มาสะดุ้งก็เพราะเสียงทัก ถึงรู้ว่าไม่ได้อยู่คนเดียว
“ตื่นแล้วหรือจ๊ะ”
ชายหนุ่มเงยมองทันควันยิ้มไม่สนิทนัก
“ครับคุณป้า ขอโทษด้วยนะครับที่มารบกวน” พร้อมกันนั้นก็ยกมือไหว้ รอยยิ้มอ่อนหวานของผู้มากกว่าด้วยวัยทำให้เขาสบายใจขึ้น
“ล้างหน้าก่อนไหมจ๊ะ นั่นพิมพ์เขาเอาผ้าขนหนูลงมาไว้ให้ เดี๋ยวอยู่กินข้าวเช้าด้วยกันนะจ๊ะ วันนี้ป้าทำข้าวต้มจ้ะ”
“ขอบคุณครับ แล้วเอ่อพิมพ์”
“อยู่หน้าบ้าน เขารดน้ำต้นไม้อยู่”

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 21 มิ.ย. 2561, 20:37:49 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 21 มิ.ย. 2561, 20:37:49 น.
จำนวนการเข้าชม : 818
<< ๙ แค่คำพูด -จบตอน- | ๑๐ พันธะสัญญา (50%) >> |