ทรายล้อมเพชร: สะมะเรีย (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
เมื่อรจนาอย่างนางรำ ‘เพชรไพลิน’ เสี่ยงพวงมาลัยดอกรักออกไป คนรับหาใช่เจ้าเงาะป่าไม่ แต่กลับเป็นถึง ‘ชีคมุซตาฮ์ซาน บินรามาน อัลซาบาฮัท’ ผู้ปกครองรัฐรามาน
ทั้งสองตกอยู่ในบ่วงเสน่หาซึ่งกันและกันเพียงแค่พบสบตา ความรักได้ก่อตัวขึ้นหวานล้ำราวน้ำผึ้ง ทว่า...ที่ใดมีรัก ก็ย่อมมีทุกข์ เพชรไพลินจึงต้องพบกับอุปสรรคที่เต็มไปด้วยขวากหนามแหลมคม ทั้งจากมารดาเลี้ยงและบรรดาสาวๆ ที่อยู่ในฮาเร็มของชีคหนุ่ม
ซ้ำร้ายที่สุด...ชายคนรักยังลงมือกรีดหัวใจของเธอด้วยตัวเขาเอง
เช่นนี้แล้วเพชรที่ว่ากล้าแกร่งจะทนทานต่อการแผดเผาหัวใจจนปวดร้าวทรมานได้หรือไม่ หรือเธอ...จะลาลับจากเขาไปตลอดกาล
*************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "สะมะเรีย" และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ซึ่งกำลังวางจำหน่ายอยู่ตอนนี้ค่ะ ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ ใครชอบนิยายแนวทะเลทราย โรมานซ์ ดราม่า มิควรพลาดด้วยประการทั้งปวง นอกจากความฟินชวนให้ยิ้มแก้มแตกในความเป็นสุภาพบุรุษของท่านชีคแล้ว สะมะเรียถ่ายทอดความดราม่าในความรักของหนุ่มสาวได้ชนิดที่น้ำตาไหลพรากทีเดียว ที่สำคัญ ยังผสมผสานศิลปวัฒนธรรมไทยเข้าไปในแนวทะเลทรายได้อย่างน่าประทับใจ #พร้อมตอนพิเศษ #ฟินทวีคูณ! #ติดหนึบ #รับประกันความสนุก!
***********
นักอ่านท่านใดสนใจ มีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
**สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 3 ช่องทาง***
-ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
-ร้านนิยายออนไลน์ ได้แก่ ร้านนิยายรัก.com ร้าน booksforfun ร้าน booktogothailand และร้าน booksyourlikeshop
-inbox สั่งซื้อโดยตรงกับแอดมินเพจ 'ปลายปากกา สำนักพิมพ์' หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
(หนังสือเหลือแต่เล่มมีตำหนิ)
ราคา 280฿ (จากปก 372฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 40฿ (รวมเป็น 320฿)
ค่าจัดส่ง EMS 60฿ (รวมเป็น 340฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
ทั้งสองตกอยู่ในบ่วงเสน่หาซึ่งกันและกันเพียงแค่พบสบตา ความรักได้ก่อตัวขึ้นหวานล้ำราวน้ำผึ้ง ทว่า...ที่ใดมีรัก ก็ย่อมมีทุกข์ เพชรไพลินจึงต้องพบกับอุปสรรคที่เต็มไปด้วยขวากหนามแหลมคม ทั้งจากมารดาเลี้ยงและบรรดาสาวๆ ที่อยู่ในฮาเร็มของชีคหนุ่ม
ซ้ำร้ายที่สุด...ชายคนรักยังลงมือกรีดหัวใจของเธอด้วยตัวเขาเอง
เช่นนี้แล้วเพชรที่ว่ากล้าแกร่งจะทนทานต่อการแผดเผาหัวใจจนปวดร้าวทรมานได้หรือไม่ หรือเธอ...จะลาลับจากเขาไปตลอดกาล
*************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "สะมะเรีย" และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ซึ่งกำลังวางจำหน่ายอยู่ตอนนี้ค่ะ ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ ใครชอบนิยายแนวทะเลทราย โรมานซ์ ดราม่า มิควรพลาดด้วยประการทั้งปวง นอกจากความฟินชวนให้ยิ้มแก้มแตกในความเป็นสุภาพบุรุษของท่านชีคแล้ว สะมะเรียถ่ายทอดความดราม่าในความรักของหนุ่มสาวได้ชนิดที่น้ำตาไหลพรากทีเดียว ที่สำคัญ ยังผสมผสานศิลปวัฒนธรรมไทยเข้าไปในแนวทะเลทรายได้อย่างน่าประทับใจ #พร้อมตอนพิเศษ #ฟินทวีคูณ! #ติดหนึบ #รับประกันความสนุก!
***********
นักอ่านท่านใดสนใจ มีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
**สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 3 ช่องทาง***
-ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
-ร้านนิยายออนไลน์ ได้แก่ ร้านนิยายรัก.com ร้าน booksforfun ร้าน booktogothailand และร้าน booksyourlikeshop
-inbox สั่งซื้อโดยตรงกับแอดมินเพจ 'ปลายปากกา สำนักพิมพ์' หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
(หนังสือเหลือแต่เล่มมีตำหนิ)
ราคา 280฿ (จากปก 372฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 40฿ (รวมเป็น 320฿)
ค่าจัดส่ง EMS 60฿ (รวมเป็น 340฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
Tags: โรมานซ์ ชีค นางรำ พาฝัน ดราม่า ริษยา
ตอน: บทที่ 3 -30%
ร่างบางที่นอนหลับใหลอยู่บนเตียงยกมือขยี้ตาสองสามครั้ง ก่อนจะควานหาโทรศัพท์มือถือที่ส่งเสียงดังปลุกเธอให้ตื่นจากนิทรา หญิงสาวกดรับแล้วเอาโทรศัพท์แนบหูทันที ก่อนจะกรอกเสียงลงไปด้วยความง่วงงุนเหลือกำลัง
“สวัสดีค่ะ”
“อรุณสวัสดิ์”
เสียงทุ้มจากปลายสายทำให้ร่างบางลืมตาโพลง สปริงตัวลุกขึ้นนั่งแล้วกรอกเสียงกลับไปด้วยความตกใจ
“ทะ ท่านชีค” หญิงสาวจำไม่ได้ว่าให้เบอร์โทรศัพท์มือถือเขาไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ทว่าคนอย่างชีคมุซตาฮ์ซาน อยากได้อะไรมีหรือจะหามาไม่ได้ แล้วอีกอย่างเธอก็ตกลงคบกับเขาแล้วด้วย ฉะนั้นการที่เขาจะโทรศัพท์มาหาคงไม่ใช่เรื่องแปลก
“ใช่ฉันเอง ตื่นหรือยัง ฉันโทร.มาปลุกเธอหรือเปล่า”
น้ำเสียงทอดอ่อนจากปลายสายทำให้หญิงสาวอมยิ้มน้อยๆ ก่อนจะล้มตัวลงนอน ดึงหมอนข้างมากอดเอาไว้
“ตื่นแล้วค่ะ เพิ่งตื่นตอนท่านชีคโทร.มานี่เอง ท่านชีคตื่นเร็วจังนะคะ นี่เพิ่งเจ็ดโมงเช้าแท้ๆ”
ปกติหญิงสาวก็ตื่นเช้าเช่นกัน ยกเว้นเมื่อคืนที่กว่าจะหลับตาลงได้ก็ย่ำเข้าสองยาม ก็ใครกันล่ะที่ทำให้เธอไม่อาจข่มตานอนได้ เฝ้าแต่คิดถึงอ้อมกอดอบอุ่นและจุมพิตละมุนที่เขาประทับลงบนหน้าผากมิรู้ลืม
“ฉันคิดถึงเธอ”
“...” คนฟังถึงกับเงียบราวกับถูกสาปให้แข็งเป็นหิน แล้วใบหน้าหวานก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีมะปรางสุกระเรื่อไปทั้งแก้มและใบหู
“คะ” เธอขึ้นเสียงสูงอย่างตั้งตัวไม่ถูก
“ฉันออกมาวิ่งจ็อกกิ้ง แล้วคิดถึงเธอเลยโทร.มาฟังเสียง เธอชอบออกกำลังกายหรือเปล่า” ชีคหนุ่มชวนคุย ในขณะที่เขากำลังวิ่งไปรอบๆ สวนสาธารณะ หูข้างหนึ่งเหน็บสมอลล์ทอล์กเอาไว้ ส่วนมือหนึ่งจับผ้าเช็ดตัวสีขาวที่พาดคออยู่มาซับเหงื่อบริเวณใบหน้า
“ค่ะ” หญิงสาวตอบออกไปสั้นๆ เพราะยังเขินอายกับคำว่าคิดถึงของชายหนุ่มอยู่ เกิดมาเพิ่งมีแฟนคนแรก แถมยังเป็นถึงชีคแห่งรัฐรามาน นี่เธอฝันไปหรือเปล่านะ
“ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้เช้าฉันจะไปรับเธอมาออกกำลังกายด้วยกันดีไหม ส่วนเย็นนี้เราไปหาร้านอร่อยๆ ทานข้าวด้วยกัน”
ชีคหนุ่มรวบรัดโดยที่หญิงสาวได้แต่นิ่งงัน
“อะไรนะคะท่านชีค”
“แค่นี้ก่อนแล้วกันนะเพชร แล้วห้าโมงเย็นฉันจะไปรับเธอที่บ้าน” พูดจบชีคหนุ่มก็ตัดสายโทรศัพท์ไป
หญิงสาวนอนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียว เธอซุกหน้าแดงก่ำลงกับหมอนข้าง ก่อนจะฉุกใจบางอย่างขึ้นมาได้
“ถ้าท่านชีครู้ว่าเราอายุสิบแปดปี ท่านชีคจะว่ายังไงนะ”
หญิงสาวครุ่นคิด แล้วก็สรุปออกมาว่ายังไม่บอกอายุกับชายหนุ่มน่าจะดีกว่า เพราะอีกสองเดือนเธอก็จะอายุสิบเก้าแล้ว ให้ดูโตขึ้นมาอีกหน่อย จะได้เหมาะสมกับชีคมุซตาฮ์ซานที่มีอายุห่างจากเธอถึงสิบสองปี
***************
“หอมจังค่ะคุณแม่ วันนี้เพชรขอโทษนะคะที่ตื่นสายไม่ได้ช่วยคุณแม่เข้าครัวเลย” หญิงสาวทำจมูกฟุดฟิดไปมา พลางยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ หม้อข้าวต้มบนเตาที่กำลังเดือดได้ที่
“จะนอนต่อหรือเปล่าล่ะเพชร บ่ายๆ ค่อยลงมาสอนเด็กแทนแม่ เดี๋ยวช่วงเช้าแม่ดูแลเอง” เธอไม่ได้หันไปบอกลูกเลี้ยงแต่เอี้ยวตัวไปหยิบขวดเกลือมาเหยาะลงในข้าวต้ม เมื่อชิมแล้วคิดว่ามันรสจืดไปนิด
“ไม่ดีกว่าค่ะ เดี๋ยวเพชรสอนช่วงเช้า แล้วให้คุณแม่ไปนอนพัก เมื่อคืนคุณแม่น่าจะกลับดึก ได้งีบบ้างหรือยังคะ” เพชรไพลินเองก็กลับดึก แต่กลับมาที่บ้านก็พบว่ามารดายังไม่กลับ เธอจึงรอดตัวจากการซักถาม จึงรีบจัดการอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วทำราวกับว่าไม่ได้ออกไปไหน ด้วยเขินอายเกินกว่าจะเล่าเรื่องชีคมุซตาฮ์ซานให้มารดาเลี้ยงฟัง
“ลองพูดอย่างนี้ตอนเย็นสงสัยมีนัดใช่หรือเปล่า” รุจินภาดักขึ้นอย่างรู้ทัน ปิดเตาแก๊สเมื่อข้าวต้มได้ที่แล้วหันมามองหน้าบุตรสาวยิ้มๆ
“เพชรจะไปทานข้าวกับเพื่อน” หญิงสาวเลือกที่จะบอกไม่หมด
“ตามใจเถอะ ทั้งเรียนทั้งทำงานหนูคงเหนื่อยมาก ปิดเทอมทั้งทีก็ต้องมาช่วยแม่ทำงานแทบไม่มีวันหยุดพักเลย แต่ขออย่างว่าอย่ากลับค่ำ เราเป็นผู้หญิงจะทำอะไรต้องระวังตัวรู้ไหม” น้ำเสียง แววตาอ่อนโยน และใบหน้ายิ้มละไมทำให้เพชรไพลินกอดมารดาเลี้ยงเอาไว้แน่น
“ค่ะคุณแม่ เพชรสัญญาว่าจะเป็นเด็กดีของคุณแม่รุจิและคุณพ่อคุณแม่ที่คอยมองดูเพชรอยู่บนสวรรค์” พูดแล้วก็น้ำตาซึม หากไม่มีมารดาเลี้ยง ไม่รู้ว่าเธอจะเติบโตขึ้นมาเช่นไร จะใช้ชีวิตอยู่คนเดียวเพียงลำพังด้วยความรู้สึกเหว่หว้าจับใจสักเพียงไร
“ดูทำเข้า ไปไป...ไปอาบน้ำได้แล้ว จะได้มาทานข้าวต้มร้อนๆ” รุจินภาดุ แต่ไม่จริงจังนัก
“ค่ะคุณแม่ ขอเวลาเพชรอาบน้ำห้านาที”
เพชรไพลินสาวเท้ายาวกลับเข้าไปในห้องน้ำ ไม่มีเสียล่ะที่จะวิ่งตึงตังเป็นม้าดีดกะโหลกอย่างหญิงสาวสมัยใหม่
หญิงวัยกลางคนยิ้มขัน ลูกเลี้ยงของเธอดูเหมือนจะเกิดมาผิดยุคผิดสมัย แต่เอ...จะว่าอย่างนั้นก็ไม่ถูกเพราะมารดาของเพชรไพลิน...ลักษมีก็อ่อนหวานชดช้อยเช่นนี้ เธอยังจำได้ดี ไม่สิ จำได้ไม่เคยลืมเลยต่างหาก...
********************
อิอิ ความรักระหว่างเพชรกับท่านชีคตอนนี้ดูน่าจะเป็นไปด้วยดี แล้วอะไรคือปัญหาที่ทำให้เกิดดราม่าหนอ...
'ทรายล้อมเพชร' พร้อมส่งแล้วนะคะ นักอ่านท่านใดสนใจสั่งซื้อได้ที่เพจปลายปากกาสำนักพิมพ์จ้า หรือร้านนิยายออนไลน์ ได้แก่ ร้านนิยายรัก.com ร้าน booksyourlikeshop และร้าน booktogothailand
สำหรับแฟน eBook วางจำหน่ายราวๆ ต้นเดือนกรกฎาคมนะคะ^^
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บเลิฟ
“สวัสดีค่ะ”
“อรุณสวัสดิ์”
เสียงทุ้มจากปลายสายทำให้ร่างบางลืมตาโพลง สปริงตัวลุกขึ้นนั่งแล้วกรอกเสียงกลับไปด้วยความตกใจ
“ทะ ท่านชีค” หญิงสาวจำไม่ได้ว่าให้เบอร์โทรศัพท์มือถือเขาไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ทว่าคนอย่างชีคมุซตาฮ์ซาน อยากได้อะไรมีหรือจะหามาไม่ได้ แล้วอีกอย่างเธอก็ตกลงคบกับเขาแล้วด้วย ฉะนั้นการที่เขาจะโทรศัพท์มาหาคงไม่ใช่เรื่องแปลก
“ใช่ฉันเอง ตื่นหรือยัง ฉันโทร.มาปลุกเธอหรือเปล่า”
น้ำเสียงทอดอ่อนจากปลายสายทำให้หญิงสาวอมยิ้มน้อยๆ ก่อนจะล้มตัวลงนอน ดึงหมอนข้างมากอดเอาไว้
“ตื่นแล้วค่ะ เพิ่งตื่นตอนท่านชีคโทร.มานี่เอง ท่านชีคตื่นเร็วจังนะคะ นี่เพิ่งเจ็ดโมงเช้าแท้ๆ”
ปกติหญิงสาวก็ตื่นเช้าเช่นกัน ยกเว้นเมื่อคืนที่กว่าจะหลับตาลงได้ก็ย่ำเข้าสองยาม ก็ใครกันล่ะที่ทำให้เธอไม่อาจข่มตานอนได้ เฝ้าแต่คิดถึงอ้อมกอดอบอุ่นและจุมพิตละมุนที่เขาประทับลงบนหน้าผากมิรู้ลืม
“ฉันคิดถึงเธอ”
“...” คนฟังถึงกับเงียบราวกับถูกสาปให้แข็งเป็นหิน แล้วใบหน้าหวานก็ค่อยๆ เปลี่ยนเป็นสีมะปรางสุกระเรื่อไปทั้งแก้มและใบหู
“คะ” เธอขึ้นเสียงสูงอย่างตั้งตัวไม่ถูก
“ฉันออกมาวิ่งจ็อกกิ้ง แล้วคิดถึงเธอเลยโทร.มาฟังเสียง เธอชอบออกกำลังกายหรือเปล่า” ชีคหนุ่มชวนคุย ในขณะที่เขากำลังวิ่งไปรอบๆ สวนสาธารณะ หูข้างหนึ่งเหน็บสมอลล์ทอล์กเอาไว้ ส่วนมือหนึ่งจับผ้าเช็ดตัวสีขาวที่พาดคออยู่มาซับเหงื่อบริเวณใบหน้า
“ค่ะ” หญิงสาวตอบออกไปสั้นๆ เพราะยังเขินอายกับคำว่าคิดถึงของชายหนุ่มอยู่ เกิดมาเพิ่งมีแฟนคนแรก แถมยังเป็นถึงชีคแห่งรัฐรามาน นี่เธอฝันไปหรือเปล่านะ
“ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้เช้าฉันจะไปรับเธอมาออกกำลังกายด้วยกันดีไหม ส่วนเย็นนี้เราไปหาร้านอร่อยๆ ทานข้าวด้วยกัน”
ชีคหนุ่มรวบรัดโดยที่หญิงสาวได้แต่นิ่งงัน
“อะไรนะคะท่านชีค”
“แค่นี้ก่อนแล้วกันนะเพชร แล้วห้าโมงเย็นฉันจะไปรับเธอที่บ้าน” พูดจบชีคหนุ่มก็ตัดสายโทรศัพท์ไป
หญิงสาวนอนยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อยู่คนเดียว เธอซุกหน้าแดงก่ำลงกับหมอนข้าง ก่อนจะฉุกใจบางอย่างขึ้นมาได้
“ถ้าท่านชีครู้ว่าเราอายุสิบแปดปี ท่านชีคจะว่ายังไงนะ”
หญิงสาวครุ่นคิด แล้วก็สรุปออกมาว่ายังไม่บอกอายุกับชายหนุ่มน่าจะดีกว่า เพราะอีกสองเดือนเธอก็จะอายุสิบเก้าแล้ว ให้ดูโตขึ้นมาอีกหน่อย จะได้เหมาะสมกับชีคมุซตาฮ์ซานที่มีอายุห่างจากเธอถึงสิบสองปี
***************
“หอมจังค่ะคุณแม่ วันนี้เพชรขอโทษนะคะที่ตื่นสายไม่ได้ช่วยคุณแม่เข้าครัวเลย” หญิงสาวทำจมูกฟุดฟิดไปมา พลางยื่นหน้าเข้าไปใกล้ๆ หม้อข้าวต้มบนเตาที่กำลังเดือดได้ที่
“จะนอนต่อหรือเปล่าล่ะเพชร บ่ายๆ ค่อยลงมาสอนเด็กแทนแม่ เดี๋ยวช่วงเช้าแม่ดูแลเอง” เธอไม่ได้หันไปบอกลูกเลี้ยงแต่เอี้ยวตัวไปหยิบขวดเกลือมาเหยาะลงในข้าวต้ม เมื่อชิมแล้วคิดว่ามันรสจืดไปนิด
“ไม่ดีกว่าค่ะ เดี๋ยวเพชรสอนช่วงเช้า แล้วให้คุณแม่ไปนอนพัก เมื่อคืนคุณแม่น่าจะกลับดึก ได้งีบบ้างหรือยังคะ” เพชรไพลินเองก็กลับดึก แต่กลับมาที่บ้านก็พบว่ามารดายังไม่กลับ เธอจึงรอดตัวจากการซักถาม จึงรีบจัดการอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วทำราวกับว่าไม่ได้ออกไปไหน ด้วยเขินอายเกินกว่าจะเล่าเรื่องชีคมุซตาฮ์ซานให้มารดาเลี้ยงฟัง
“ลองพูดอย่างนี้ตอนเย็นสงสัยมีนัดใช่หรือเปล่า” รุจินภาดักขึ้นอย่างรู้ทัน ปิดเตาแก๊สเมื่อข้าวต้มได้ที่แล้วหันมามองหน้าบุตรสาวยิ้มๆ
“เพชรจะไปทานข้าวกับเพื่อน” หญิงสาวเลือกที่จะบอกไม่หมด
“ตามใจเถอะ ทั้งเรียนทั้งทำงานหนูคงเหนื่อยมาก ปิดเทอมทั้งทีก็ต้องมาช่วยแม่ทำงานแทบไม่มีวันหยุดพักเลย แต่ขออย่างว่าอย่ากลับค่ำ เราเป็นผู้หญิงจะทำอะไรต้องระวังตัวรู้ไหม” น้ำเสียง แววตาอ่อนโยน และใบหน้ายิ้มละไมทำให้เพชรไพลินกอดมารดาเลี้ยงเอาไว้แน่น
“ค่ะคุณแม่ เพชรสัญญาว่าจะเป็นเด็กดีของคุณแม่รุจิและคุณพ่อคุณแม่ที่คอยมองดูเพชรอยู่บนสวรรค์” พูดแล้วก็น้ำตาซึม หากไม่มีมารดาเลี้ยง ไม่รู้ว่าเธอจะเติบโตขึ้นมาเช่นไร จะใช้ชีวิตอยู่คนเดียวเพียงลำพังด้วยความรู้สึกเหว่หว้าจับใจสักเพียงไร
“ดูทำเข้า ไปไป...ไปอาบน้ำได้แล้ว จะได้มาทานข้าวต้มร้อนๆ” รุจินภาดุ แต่ไม่จริงจังนัก
“ค่ะคุณแม่ ขอเวลาเพชรอาบน้ำห้านาที”
เพชรไพลินสาวเท้ายาวกลับเข้าไปในห้องน้ำ ไม่มีเสียล่ะที่จะวิ่งตึงตังเป็นม้าดีดกะโหลกอย่างหญิงสาวสมัยใหม่
หญิงวัยกลางคนยิ้มขัน ลูกเลี้ยงของเธอดูเหมือนจะเกิดมาผิดยุคผิดสมัย แต่เอ...จะว่าอย่างนั้นก็ไม่ถูกเพราะมารดาของเพชรไพลิน...ลักษมีก็อ่อนหวานชดช้อยเช่นนี้ เธอยังจำได้ดี ไม่สิ จำได้ไม่เคยลืมเลยต่างหาก...
********************
อิอิ ความรักระหว่างเพชรกับท่านชีคตอนนี้ดูน่าจะเป็นไปด้วยดี แล้วอะไรคือปัญหาที่ทำให้เกิดดราม่าหนอ...
'ทรายล้อมเพชร' พร้อมส่งแล้วนะคะ นักอ่านท่านใดสนใจสั่งซื้อได้ที่เพจปลายปากกาสำนักพิมพ์จ้า หรือร้านนิยายออนไลน์ ได้แก่ ร้านนิยายรัก.com ร้าน booksyourlikeshop และร้าน booktogothailand
สำหรับแฟน eBook วางจำหน่ายราวๆ ต้นเดือนกรกฎาคมนะคะ^^
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บเลิฟ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 28 มิ.ย. 2561, 16:06:21 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 28 มิ.ย. 2561, 16:06:27 น.
จำนวนการเข้าชม : 741
<< บทที่ 2 -100% | บทที่ 3 -70% >> |