กาลครั้งหนึ่งนั้น(ในความบังเอิญ)
เธอกับเขา ความทรงจำที่เคยมีร่วมกันมาก็แค่... อดีตกิ๊ก!
Tags: แต่งงาน,อดีต,รัก,บุพเพสันนิวาส,พรหมลิขิต

ตอน: ๑๒ แผนหนึ่ง (50%)

“แล้วพี่ก็ไม่ใช่คนที่ข้ามเขตนะ” หญิงสาวก้มมองสำรวจและพบว่าตอนนี้เขาเกือบจะตกเตียงอยู่แล้ว ส่วนเธอน่ะหรือผิดเต็มๆ ที่นอนล้ำเข้าไปในเขตของเขา “เพราะอย่างนั้นพี่ไม่ผิดนะคะ”

คนไม่ผิดยิ้มยั่วแต่พอขยับลุกนั่งก็ร้องอู้ย

ศศิพิมพ์ขยับเข้าไปดู แต่จะแตะก็ไม่กล้าเพราะดูเขาเจ็บมาก

“เป็นอะไรคะ เจ็บตรงไหน”

จิรสินหัวเราะทั้งๆ อย่างนั้น เขามองสบตาเธอแล้วโน้มหน้ามาพูดอยู่ข้างหู “ไม่เจ็บค่ะแต่เหน็บกิน ชาวาบไปทั้งแขนเลย”

ศศิพิมพ์เม้มริมฝีปากผลักเขาออกโทษฐานที่ชอบยั่ว ชายหนุ่มร้องโอ๊ยขยับแขนไปมาแต่หญิงสาวไม่สนใจ เธอลุกขึ้นจากเตียง ตรงไปหยิบผ้าขนหนูในตู้พร้อมเสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยนแล้วเดินหนีเข้าห้องน้ำ

พอปิดประตูได้ศศิพิมพ์ก็อมยิ้ม เขินจัดจนต้องยกมือขึ้นปิดหน้า

คนบ้า!

ราวสามสิบนาทีศศิพิมพ์ก็กลับออกมาจาก จิรสินไม่อยู่ในห้องแล้ว หญิงสาวจัดการเก็บที่นอนให้เรียบร้อย ทำเสร็จตั้งใจจะลงไปข้างล่างก็พบว่าเขายืนยิ้มเผล่อยู่หน้าประตูห้อง

“พี่ไปอาบน้ำห้องนอนแขกมาค่ะ พิมพ์จะได้ไม่ต้องรอ”

เธอยังไม่เข้าใจแต่เขาไม่ขยายความ กระทั่งลงมากันที่ชั้นล่างนั่นเอง ศศิพิมพ์จึงรู้ทำไมเขาถึงอยากให้เราลงมาพร้อมกัน เพราะหากเธอลงมาก่อน เธอก็ยังไม่รู้เลยว่าจะรับมือกับสายตาของพ่อแม่สามี และเพื่อนสนิทที่กลายมาเป็นน้องสามีได้อย่างไร

“อรุณสวัสดิ์ครับ”

แทนคำทักทายคือยิ้มล้อเลียน ศศิพิมพ์จึงยิ่งก้มหน้าซ่อนแก้มที่แดงจัดไว้ ไม่ต้องบอกเธอก็รู้ว่าการที่เธอกับเขาตื่นสาย ในความคิดของคนอื่นนั้นมันคงเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากว่า.... หืมนั่นแหละ!

ศศิพิมพ์รู้สึกเหมือนอยากแทรกแผ่นดินหนี แต่ทำไม่ได้ เธอเดินเข้าไปนั่งตามการจับจูงของจิรสิน และเป็นเขาที่ไปจัดการตักข้าวต้มใส่ชามมาเสิร์ฟ หญิงสาวจึงยิ่งหน้าแดง ตัวแดง เพราะการกระทำของเขาเหมือนบอกทุกคนกลายๆ ว่าทำไม... เขาจึงต้องบริการเธอ ทั้งๆ ที่มันไม่ใช่แบบนั้นเลย!

“ขอโทษที่ทำให้รอนะคะ เอ่อ--คุณแม่”

สุพนิตที่จัดการวางไข่ลวกไว้ข้างเก้าอี้ที่เธอนั่งยิ้มน้อยๆ

“ไม่เป็นไรจ้ะแม่เข้าใจ”

ศศิพิมพ์ยิ้มแห้ง และได้แต่มองคนยกชามข้าวต้มมาส่งให้ เขาไม่ได้พูดอะไร แต่นั่งลงข้างๆ เธอและสิ่งแรกที่ทำคือเลื่อนแก้วไข่ลวกมาไว้ตรงหน้าตนเอง

“กินเยอะๆ นะลูก”

ก็คำพูดธรรมดาแต่ทำให้ศศิพิมพ์ก้มหน้างุด รีบตักข้าวเข้าปากและไม่เงยหน้ามองใครอีกเลย ไม่นานก็จัดการกับอาหารเช้าเสร็จ จิรศักดิ์เพิ่งกลับมาจากวิ่งออกกำลังกาย เขานั่งลงที่หัวโต๊ะระหว่างรอภรรยาชงกาแฟมาให้

“เป็นยังไงบ้างหนูพิมพ์ เมื่อคืนหลับสบายไหม” ไม่รอคำตอบคนถามก็พูดต่อ “ว่าแต่คิดกันไว้หรือยังว่าอยากไปไหน”

“คะ” สีหน้าเธองุนงง และทำให้ผู้ใหญ่หัวเราะ

“ก็ฮันนีมูนไงลูก อยากไปที่ไหน”

ศศิพิมพ์เหลียวมองคนข้างตัว เขาก้มมองเธอแล้วพยักหน้า

“กะว่าให้พิมพ์เคลียร์งานเสร็จก่อนแล้วค่อยไปครับ”

สุพนิตจึงพูดต่อ “แสดงว่ายังไม่คิดว่าจะไปไหนกัน” นิ่งไปนิดมารดาจิรสินก็เสนอตัว “แม่คิดให้ไหมลูก”

“เดี๋ยวตาช่วยค่ะป้า”

จิรสุตาที่ฟังมาเงียบแต่แรกรีบผสมโรง แล้วก็เป็นจิรสินที่ขัดตาทัพ “ผมว่าผมกับพิมพ์เลือกเองดีกว่าครับ ขืนให้ยายตาช่วยฮันนีมูนมันจะพิลึกเกินไป”

ทั้งแม่ตัวและน้องสาวมองค้อน จิรศักดิ์ยิ้มขำ กระทั่งศศิพิมพ์เองยังต้องกลั้นยิ้มจนเมื่อยหน้า เพราะที่จิรสินพูดนั้นไม่ผิดเลย!

ช่วงสายต่างคนก็ต่างแยกย้าย จิรสินกับศศิพิมพ์ออกมาดูความเรียบร้อยในสนามหน้าบ้าน ออแกไนซ์จัดการเก็บกวาดทุกอย่างเรียบร้อยดี เธอกับเขาจึงนั่งเล่นกันที่ใต้ต้นไม้ริมรั้วบ้านนั่นเอง

ชั่วขณะหนึ่งที่นั่งกันอยู่เงียบๆ เมื่อมองไปยังบ้านหลังน้อยในสวน ศศิพิมพ์เห็นแผ่นหลังของปุณณมาที่เดินลับหายไปจึงได้เอ่ยขึ้น

“พี่จันทร์เป็นยังไงบ้างคะ เมื่อคืนดูพี่เขาเศร้าๆ”



ดังปัณณ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 30 มิ.ย. 2561, 21:05:11 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 30 มิ.ย. 2561, 21:05:11 น.

จำนวนการเข้าชม : 814





<< ๑๒ แผนหนึ่ง (25%)   ๑๒ แผนหนึ่ง (75%) >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account