กาลครั้งหนึ่งนั้น(ในความบังเอิญ)
เธอกับเขา ความทรงจำที่เคยมีร่วมกันมาก็แค่... อดีตกิ๊ก!
Tags: แต่งงาน,อดีต,รัก,บุพเพสันนิวาส,พรหมลิขิต

ตอน: ๑๒ แผนหนึ่ง -จบตอน-

“พี่ว่ามันนานกว่านั้นนะ เหมือนก่อนหน้านั้นอีก ปกติยายกัญแหย่จิกๆ กัดๆ ก็ไม่เห็นว่าวัฒน์มันจะของขึ้นง่ายๆ แบบนี้”

จิรสุตาเหลือบมองไปยังคู่กรณี

“แล้วพี่วัฒน์รู้ไหมน่ะว่าพี่กัญชอบ”

นิชาไม่ตอบและเอาแต่ถอนหายใจ แล้วก็พยักพเยิดเข้าไปในห้องทำงานอีก “คู่นั้นน่ะเมื่อไหร่จะมีข่าวดี แต่งกันมาได้สามเดือนละ พี่ว่าถ้ายายพิมพ์มีเบบี๋นะ ป๋าปิดบริษัทเลี้ยงแน่นอน พี่เห็นคุณสินมองยายพิมพ์อย่างจะกลืนลงท้องไปแล้วน่ะถ้าทำได้ ตางี้หวานเยิ้ม ขนาดพี่เป็นคนนอกนะบางทีเห็นแกมองยายพิมพ์ พี่ยังเขินแทนเลย”

จริงดังว่า เพราะสามีที่ดีถือถุงใส่ของมาส่งภรรยาที่โต๊ะทำงาน และบรรยากาศระหว่างสองคนนั่นหวานจนลืมโลกไปเลย

“ฮาย-ย-ย-ย”

เมื่อพี่ชายแยกเข้าห้องทำงานไป จิรสุตาจึงเดินเข้าไปหาเพื่อนสนิท ศศิพิมพ์เงยหน้าขึ้นมองพลางชูถุงขนมให้ดู

“เมื่อวานไปชลบุรี เลยซื้อของมาฝาก”

น้องสามีเบ้ปาก “ย่ะ! รู้ว่าไปสวีตกันมาอย่าอวดมาก”

“บ้า!” คนเขินหน้าแดง และคนมองที่ยิ้มขำก็มี แต่ที่ปวดใจก็มี

“เออ เห็นเดินฉับๆ กลับเข้าห้อง มีใครบอกพี่สินไหมคะว่ามีคนมารอ--” ถามยังไม่จบเสียงโครมก็ดังขึ้น ทั้งหมดทุกคนในห้องทำงานต่างหันไปมองยังจุดเดียว คนแรกที่ถลาลุกขึ้นยืนคือศศิพิมพ์ ธนวัฒน์เห็นอย่างนั้นก็เข้าไปห้ามไว้ เพราะกลัวเธอถูกลูกหลง ตัวเขาเป็นคนที่ถลันไปเปิดประตูห้องออกและทันได้เห็นว่าแขกถูกชกปลิวมากระแทกกับผนังห่างจากประตูไปนิดเดียว

จิรสินยืนอยู่หน้าโต๊ะทำงานที่ของตกเละเทะ บนใบหน้ามีรอยแตกเหนือคิ้ว มุมปากข้างซ้ายมีเลือดไหลซึม ศศิพิมพ์ไม่รู้ทั้งคู่มีเรื่องอะไรกัน แต่ตอนนี้เธอเป็นห่วงเขา

มือน้อยที่แตะลงตรงต้นแขนเหมือนเรียกสติกลับมาให้จิรสิน เขาก้มลงมองเธอและยกมือขึ้นกุมมือเรียวนั่นไว้ ก่อนเงยมองไปยังแขกที่เอ่ยด้วยน้ำเสียงคั่งแค้น

“เมียกู มึงไม่มีสิทธิ์จำไว้ ถึงกูไม่เอามึงก็ไม่มีสิทธิ์!” พอพูดจบผู้เป็นแขกก็ผลักธนวัฒน์เต็มแรงให้พ้นทาง

จิรสุตากับกัญญารับร่างสูงใหญ่ของเพื่อนร่วมงานที่เซมาแทบไม่ทัน ประตูที่เหวี่ยงออกปิดกลับและกระแทกขอบประตูเสียงดังปังใหญ่ ศศิพิมพ์สะดุ้งโหยงเพราะตกใจ

ไม่ทันได้ไถ่ถามประตูห้องก็เปิดออกอีก ใบหน้าของคนที่ออกันหน้าประตูนั่นเต็มไปด้วยความห่วงใย

“ไม่มีอะไรครับ แค่คุยกันไม่รู้เรื่อง ไปทำงานเถอะ”

นั่นคือประโยคไล่กลายๆ จิรสุตาแม้จะอยากรู้แต่ก็ยอมแพ้เมื่อเห็นพี่ชายมองด้วยสายตาดุๆ เธอปิดประตูลงอย่างแสนเสียดาย

“พี่ไม่เป็นอะไรค่ะ” เมื่ออยู่กันตามลำพัง สีหน้าเป็นห่วงเป็นใยและน้ำตาที่คลออยู่รอบดวงตาคู่สวยนี้ก็ทำเขาใจอ่อนยวบ อารมณ์โมโหหายไปไหนหมดไม่รู้ “ไม่เป็นอะไรจริงๆ ค่ะ ยังครบสามสิบสองนะ”

“ยังจะเล่นอีกนะคะ”

เธอยื่นมือไปแตะที่ตรงปลายคิ้วอย่างเบามือ จิรสินยิ้มปลื้มและยอมให้เธอจับจูงไปนั่งแต่ที่โซฟาใกล้หน้าต่างแต่โดยดี

“พิมพ์จะออกไปเอาอุปกรณ์ทำแผล แล้วก็บอกแม่บ้านให้มาเก็บห้องให้นะคะ”

เขาคว้ามือเธอไว้เมื่อจะลุก “ไม่เป็นไรค่ะ อีกเดี๋ยวก็ได้”

หญิงสาวนั่งลงตามเดิมอย่างว่าง่าย

“ใครหรือคะ” ถามออกไปทั้งๆ ที่คิดเอาไว้ว่าน่าจะเป็นสามีเก่าของปุณณมา

“อย่างที่พิมพ์คิดนั่นแหละค่ะ เขาได้ประกันตัวก็เตรียมสู้คดีกันในศาล แต่ก็ยังไม่วายจะพยายามมาวุ่นวายกับจันทร์อีก วันก่อนไปอาละวาดที่บ้านแต่แม่ไม่ยอมให้เข้า แถมยังโทร.เรียกตำรวจ ก็คงโกรธมากวันนี้ถึงได้โผล่มาที่นี่ มาหาเรื่องพี่แทน”

เรื่องของปุณณมายังไม่จบ เธอไม่รู้เรื่องอะไรมากนอกจากสามีเก่าของหล่อนถูกจับได้เมื่อเดือนก่อน ทนายทำเรื่องประกันตัวอยู่นานเหมือนกัน แต่ฝั่งทนายของปุณณมาก็ใช่ย่อย ยกเรื่องความปลอดภัยมาสู้ ฝั่งนั้นจึงได้นอนคุกมาเป็นเดือน นี่ได้ประกันตัวออกมาแล้ว เรื่องก็คงแล้วไม่รู้แล้วอยู่นั่น

ถึงจะรู้อยู่แล้วแต่พอได้ฟังก็อดหวิวๆ ในใจไม่ได้ จิรสินพยายามช่วยปุณณมาเต็มที่ ตั้งแต่ให้มาพักที่บ้านรวมถึงจัดหาทนายสู้คดีให้กับหล่อน บางครั้งศศิพิมพ์ก็อดคิดไม่ได้ เขาตัดได้ขาดแน่หรือ และนั่นก็ทำให้เธอลังเล ไม่กล้าที่จะเริ่มต้นจริงจังเสียที

บางทีอยู่แบบพี่แบบน้องอย่างนี้ก็ดีแล้ว เผื่อมัน... มีอะไรเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะทั้งเธอและเขาก็จะไม่ได้เจ็บมาก

หากถามว่าหลายเดือนที่ผ่านมามีความสุขไหม ศศิพิมพ์ก็ตอบว่าใช่ แต่สุขนั้นมันกลับมีความกลัวเจืออยู่

บทเรียนความรักจากณัฐพงษ์ยังหลอกหลอนและเธอกลัว

จิรสินเห็นเธอเงียบไปไม่พูดอะไรเลยเขาก็ชักกังวล ชายหนุ่มกุมมือทั้งสองข้างของภรรยาแต่ในนามไว้และบีบเบาๆ เธอมองสบตาเขาและยิ้มบาง “พิมพ์จะไปทำเอาอุปกรณ์ทำแผลค่ะ”

“พี่--”

“ต๊าย! อะไรกันคะเละเทะ” เสียงนั้นมาพร้อมกับบานประตูที่เปิดพรวดเข้ามา ก่อนได้ยินเสียงจิรสุตาดังตาม

“คุณเข้า--” น้องสาวจิรสินถลึงตามองอดีตนางแบบที่ยกมือกอดอกและหันกลับมามองคนห้าม “เข้าไม่ได้ค่ะ รอสักครู่”

“ก็เข้ามาแล้วนี่ไงคะ”

ตีรณายักไหล่ไม่ได้ใส่ใจใดๆ ก่อนหันมามองอดีตกิ๊ก

“สินคะ ตี๊มีเรื่องให้ช่วย” หล่อนยังคงคอนเซ็ปชุดแดง ปากแดง เล็บแดง และรองเท้าก็แดง “ตี๊อยากรีโนเวทบ้าน แต่ไม่ถูกใจบริษัทไหนเลย สินช่วยตี๊ทีนะเพราะสินน่ะรู้ใจตี๊ดีเป็นที่หนึ่งเลย”

จิรสุตาเหลือบมองคนพูดตั้งแต่หัวจรดเท้า

จิรสินถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขามองแขกและกลับมามองภรรยา ศศิพิมพ์โคลงศีรษะ ดึงมือออกจากการเกาะกุมของเขาและลุกขึ้นยืน

“เดี๋ยวพิมพ์มานะคะ”

และเป็นจิรสินที่รีบลุกตามคว้ามือเรียวไว้ “พี่ไปด้วยค่ะ ไหนพิมพ์บอกจะทำแผลให้พี่ไงคะ” เขาพูดหน้าตาเฉยและบอกกับแขก “ผมไปฟัดกับหมามาเลยได้แผล” จิรสุตายกมือขึ้นปิดปากกลั้นขำ ศศิพิมพ์นั้นดูอ่อนอกอ่อนใจยิ่ง “ตี๊รอตามสบาย เดี๋ยวผมให้สถาปนิกฝีมือดีที่สุดในบริษัทมาดูแล ตี๊อยากได้แบบไหน ยังไง ไม่ต้องห่วงเลยเพราะคนนี้เก่ง เก่งกว่าผมมากชนิดแค่มองตาตี๊ เขาก็ทำให้ได้แล้ว”

พูดจบก็จูงศศิพิมพ์เดินออกจากห้องไปเร็วๆ จิรสุตาตามไปแต่ไม่วายหัวเราะให้คนถูกทิ้งเจ็บใจ

ประตูห้องปิดปัง และเธอก็รู้สึกตัว อดีตนางแบบสาวเข่นเขี้ยว ความรู้สึกไม่พอใจกรุ่นๆ อยู่ในอก พอๆ กับความอิจฉา ก็เหมือนกับตอนที่เขาคิดจริงจังกับแฟนเก่าที่ชื่อปุณณมานั่นแหละ

ยายนั่นเธอจัดการได้ไม่ยากเลย เด็กอนาถาย่อมทะเยอทะยาน หลงแสงสีเข้าหน่อยก็บินถลาเข้าไปไม่รู้ว่ามันเป็นกองไฟ

แต่แรกเธอก็ใช้เส้นสายที่ยังพอเหลือให้ดันยายนั่นเข้าวงการ ถ่ายแบบสักครั้ง เล่นมิวสิควิดีโอสักเพลง ขี้คร้านจิรสินก็จะถูกทิ้ง จากนั้นเธอก็ใช้เส้นสายทำให้ยายนั่นไม่มีโอกาสได้เกิด แต่ใครจะคิดปุณณมาไปได้ไกลเกินกว่านั้น ได้เป็นถึงนางเอกละครช่อง แถมยังไม่มีทีท่าว่าหวั่นไหวกับผู้ชายคนไหน แต่สวรรค์ก็ยังเข้าข้างเธอ เพราะสุดท้ายปุณณมาก็ทิ้งจิรสินไปจริงๆ เมื่อเจอผู้ชายที่หล่อกว่า รวยกว่า แล้วไงเหรองานแต่งที่จะมีก็ล่ม และเธอสะใจ

ตีรณาเกือบลืมเขาไปแล้วจริงๆ ถ้าหากว่าจะไม่ได้ยินข่าวเขา

จากวิศวกรตัวเล็กๆ ไม่เป็นที่รู้จัก ผลงานก่อสร้างโรงแรมระดับไฮเอ็นด์ที่สมุยทำให้เขามีชื่อขึ้นมา หนุ่มคนล่าสุดที่เธอควงแก้เบื่อเป็นลูกมหาเศรษฐีเจ้าของที่นั่น เขามันพวกหลงตัวเอง แถมเป็นวิศวกรแต่พ่อไม่ยอมยกโปรเจคท์ยักษ์ใหญ่นั่นให้ทำ เขาโกรธมากที่บิดาชื่นชมจิรสินจนออกนอกหน้า แถมยังให้เครดิตเสียจนจิรสินกลายเป็นวิศวกรที่ใครๆ ต่างก็ต้องการตัวไปร่วมงานด้วย

จิรสินกำลังพุ่งขึ้นไปอยู่จุดสูงสุด

ในขณะที่เธอยังย่ำอยู่จุดต่ำสุดและไม่มีทีท่าว่าจะได้กลับไปเจิดจรัสอีกครั้งเหมือนวันวาน

เธอไม่มีงาน ไม่มีใครสนใจ ถึงมีเงินแต่มันก็ไร้ประโยชน์

จิรสินทำชีวิตเธอพัง และเธอจะเอาคืนจนกว่าจะพอใจ ยิ่งชีวิตเธอพังมากเท่าไหร่ ชีวิตเขาก็ต้องเละเทะไม่เป็นท่ายิ่งกว่าเธอ!




ดังปัณณ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 5 ก.ค. 2561, 20:59:05 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 5 ก.ค. 2561, 20:59:05 น.

จำนวนการเข้าชม : 969





<< ๑๒ แผนหนึ่ง (100%)   ๑๓ ล่ม (25%) >>
กาซะลองพลัดถิ่น 6 ก.ค. 2561, 06:18:56 น.
สินจะช่วยเหลือใคร เอาแค่พอดีก็พอเดี๋ยวมันจะพังไปกันใหญ่ ครอบครัว คนรักของตัวเองนั้นแหละน่ะห่วงจิตใจเค้าหน่อย


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account