กาลครั้งหนึ่งนั้น(ในความบังเอิญ)
เธอกับเขา ความทรงจำที่เคยมีร่วมกันมาก็แค่... อดีตกิ๊ก!
Tags: แต่งงาน,อดีต,รัก,บุพเพสันนิวาส,พรหมลิขิต

ตอน: ๑๘ เขาและเรา (50%)

“เอ่อ สวัสดีครับ” คำทายทักที่เปล่งออกไปแปร่งปร่า จิรสินถอด กลอนประตูก่อนผลักเปิด “คุณณัน คุณ--” ถ้อยคำขาดหายไปชั่วครู่ “คุณคงเป็นคุณณวัฒน์” เจ้าบ้านยื่นมือออกไปข้างหน้า “ยินดีที่รู้จัก ผมจิรสินครับ”



ณวัฒน์กลืนน้ำลายลงคอและยื่นมือออกมาเพื่อจับกับมือที่ยื่นรอ หลังณัฐพงษ์วางมือลงบนบ่าเขา



“สวัสดีครับ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ”



บรรยากาศอึมครึมนั้นไม่ได้ผ่อนลงเลยแม้ณัฐพงษ์จะเอ่ย “ขอโทษที่มารบกวนแต่เช้านะครับ แต่นายณุอยากเจอพิมพ์จริงๆ ครับ”



ในการคาดการณ์ ความเป็นสามีภรรยาคงไม่มีเรื่องลับใดต่อกัน ณัฐพงษ์จึงเอ่ยออกไปตรงๆ อย่างน้อยมันก็ยังดีกว่าการช่วยปิดบัง หากสามีของศศิพิมพ์ไม่รู้ เขาก็อยากให้รู้เสียตอนนี้ ในตอนที่เขาและน้องชายอยู่ต่อหน้าทั้งคู่ แม้จิรสินจะไม่เข้าใจหรือโกรธ เขาก็อยากเคลียร์ให้จบไปเลยดีกว่าจะปล่อยให้ทุกอย่างยืดเยื้อ



“เชิญข้างในครับ”



เจ้าบ้านหลีกทางและผายมือเชื้อเชิญ ฟองน้ำครางขู่แขกแปลกหน้า แต่พอจิรสินเอ็ดก็วิ่งหน้าเริ่ดกลับเข้าบ้านไปก่อน



ศศิพิมพ์ก้มมองสุนัขตัวโปรดที่วิ่งหน้าเริ่ดเข้ามาหา เธอยิ้มขำคิดว่าฟองน้ำคงถูกสามีดุเข้าให้เหมือนเคย หญิงสาวถอดผ้ากันเปื้อนล้างมือให้สะอาดและก้าวออกไปจากห้องครัว



ชั่วขณะที่สายตารับภาพเธอนิ่งงันไปเลยทีเดียว



จิรสินก้าวเข้าไปหาภรรยาพูดเบาๆ แค่ให้ได้ยินกันสองคน



“คุณณันกับคุณณวัฒน์มา พี่จะเอาน้ำออกไปให้เอง พิมพ์ไปคุยกับพวกเขาเถอะ”



หญิงสาวกะพริบตา ในอกเสียดลึกด้วยความรู้สึกผิดเมื่อประสบเข้ากับสายตาผิดหวังของณวัฒน์ คำในอดีตพุ่งขึ้นมาในหัว



ก่อนนั้นครั้งบอกเลิก



‘พิมพ์พยายามแล้วณุ แต่พิมพ์รักใครไม่ได้อีก และจะไม่มีวันรักใครอีกแล้วเหมือนกัน พิมพ์ขอโทษนะณุ เพราะถ้าพิมพ์รักใครได้ คนนั้นก็ต้องเป็นณุ และถ้ามันจะชดเชยให้กับณุได้ พิมพ์ก็อยากอยู่ข้างณุ แต่พิมพ์รู้มันก็เท่ากับเป็นการโกหก มีแต่จะทำร้ายณุมากขึ้นไปอีก เพราะอย่างนั้นพิมพ์ให้สัญญากับณุได้แค่ พิมพ์จะไม่มีใครจะไม่ทำร้ายใครเพราะความรู้สึกครึ่งๆ กลางๆ ของพิมพ์อีกแล้ว’



แล้วเธอก็ผิดสัญญา!



ความอบอุ่นที่ฝ่ามือทำให้เธอหลุดจากความคิด จิรสินไม่พูดอะไร เขาเดินผ่านและแค่แตะมือเธอ



เป็นกำลังใจที่มากกว่าคำพูดใดๆ



“ณุดีขึ้นแล้วก็อยากมาเยี่ยมพิมพ์พี่เลยอาสาพามา”



ณัฐพงษ์เลือกที่จะพูดเช่นนี้ และศศิพิมพ์ก็ยิ้มจาง เธอเดินเข้าไปหาคนทั้งสองเชื้อเชิญให้นั่งที่โซฟาตัวยาว ตัวเองนั่งลงที่โซฟาเดี่ยว



ในดวงตาจับจ้องท่าทางเดินเหินไม่ค่อยแข็งแรง และเรือนร่างที่ยังคงผอมของณวัฒน์ ด้วยความรู้สึกผิดและสงสารจับใจ



“ณุ--ดูดีขึ้นมาก พิมพ์ดีใจจริงๆ นะ”



น้ำเสียงสั่นๆ นั่นบอกชัดว่าคนพูดรู้สึกเช่นไร ณวัฒน์อยากจะเบือนหน้าหนี หนีจากความสงสารที่เขาเห็นในแววตาเธอ



“ใช่เราดีขึ้นมาก เรา--”



“ก็เลยอยากมาเยี่ยมพิมพ์ไง” ณัฐพงษ์แทรกเพราะกลัวน้องชายจะพูดอะไรที่ไม่เข้าท่าออกไป “ว่าแต่ไม่ได้เจอกันหลายเดือนเลย พิมพ์ดูมีน้ำมีนวลขึ้นนะ”



หัวข้อที่เขาหันเหไม่ประสบผลเพราะณวัฒน์ไม่ยอมง่ายๆ



“เราจำอะไรไม่ค่อยได้ตอนฟื้นใหม่ๆ ก็จำได้แค่ว่ามีใครคนหนึ่งที่เราอยากเจอมากๆ จนหลายเดือนถึงเริ่มจำได้ว่าใครคนนั้นเป็นพิมพ์”


“พิมพ์--”



“เรารู้พ่อแม่ห้ามพิมพ์ไม่ให้ไปเยี่ยมเราอีก ไม่ใช่ความผิดพิมพ์หรอก” ความอึดอัดทวีคูณ “อีกอย่างพิมพ์แต่งงานแล้วคงไม่สะดวก”



ณัฐพงษ์จะแทรก “ณัน--”



“ขอคุยกับพิมพ์ตามลำพังได้ไหมพี่ณุ”



ณัฐพงษ์พูดไม่ออกเมื่อน้องชายเอ่ยขึ้นห้วนๆ จิรสินที่เพิ่งก้าวออกมาจากครัวพร้อมถาดใส่แก้วน้ำหยุดทันควัน เมื่อสายตาแขกตวัดมองเขาราวจะย้ำในประโยคที่เอ่ย



คำพูดตรงๆ แต่มีผลกับใจคนฟัง



ศศิพิมพ์อึดอัด ห่วงความรู้สึกคนที่เธอเคยทำร้ายหรือก็ห่วง แต่ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นสามีนั้นกลับยิ่งห่วงกว่า เธอเหลียวมองเขาด้วยอาการวิงวอน ไม่อยากให้เขาคิดมาก และอยากอธิบาย



จิรสินส่งยิ้มแทนทุกคำพูด เขาก้าวเข้าไปวางแก้วน้ำลง



“พี่จะพาคุณณุไปคุยกับน้าเล็กรอนะ”



เอ่ยแล้วแม้จะไม่เต็มใจนัก แถมณัฐพงษ์ยังลุกตามแต่โดยดี จิรสินที่ครึ่งหนึ่งอยากอยู่ขวาง อีกครึ่งก็อยากเปิดทางให้ทั้งสองเคลียร์กันให้รู้เรื่องจึงได้แต่ถอนหายใจยามเดินนำ



ณวัฒน์เฝ้ามองอากัปกิริยาของศศิพิมพ์และยิ่งเจ็บในใจ



ทั้งศศิพิมพ์และจิรสินดูผูกพันกันมากกว่าที่เขาคิด ผูกพันกันเสียจนเรื่องที่ทำให้คู่จำต้องแต่งงานกันที่เขาได้ฟังมา มันกลายกลับเป็นเรื่องเล่าขำๆ



เราปล่อยให้ความอึดอัดครอบงำอยู่ได้ไม่นาน ณวัฒน์ก็เป็นฝ่ายเอ่ยขึ้น และยิ่งทำให้ความอึดอัดนั้นทวีคูณ



“เรามา... อยากรู้พิมพ์ลืมที่เคยให้สัญญาไว้กับเราหรือยัง”









“วันนี้รถติด” ณัฐพงษ์เอ่ยขึ้นลอยๆ ในอีกสองชั่วโมงให้หลังขณะกำลังเดินทางกลับบ้าน ชายหนุ่มซึ่งรับหน้าที่คนขับเคาะนิ้วกับพวงมาลัยรถอย่างชั่งใจว่าจะถามดีหรือไม่ “เอ่อจริงสิคือ--”



“ไม่ต้องกลัวผมคิดบ้าๆ อีกหรอกพี่ณัน”



คนฟังกลอกตา ก็ดี เมื่อณวัฒน์เอ่ยออกมาแล้วเขาก็อดจะเตือนไม่ได้ “คือรู้ใช่ไหมที่พูดออกไปแบบนั้นสามีภรรยาเขาจะมีปัญหากันได้น่ะ” ไม่มีคำตอบรับ น้องชายแค่เหลียวมามองเขานิ่งๆ “พี่ไม่ได้อยากจะย้ำแต่... พิมพ์ดูแย่มากจริงๆ ช่วงที่ณันอยู่โรงพยาบาล คิดดูนะไหนจะสายตาพ่อแม่ที่มองพิมพ์อย่างกับ เอ่อ รังเกียจ อรอีกล่ะ พี่ไม่ได้ว่าพิมพ์ไม่ผิดนะแต่พิมพ์ก็ไม่ใช่คนผิดเสียทีเดียว”



“ผมรู้ ผมก็ผิดด้วย”



“ณัน พี่--”



“พี่ก็ผิดพี่ณุ ดีเกินไปจนพิมพ์คิดว่าพี่มีใจให้” ณวัฒน์เอ่ยเรียบๆ “ไฟเขียวแล้วเดี๋ยวโดนบีบแตรด่า” เมื่อพี่ชายหันกลับไปสนใจกับการจราจรเขาก็เอ่ยต่อ “พิมพ์ผิดที่คิดใช้ผมเป็นเครื่องมือดึงพี่กลับมา แล้วก็ผมผิดที่เอาความรักไปบังคับพิมพ์ให้ทำตามที่ผมต้องการ”



คนพูดถอนหายใจ



“เราผิดกันทั้งนั้น และทั้งพี่ ทั้งพิมพ์ก็กำลังเดินไปข้างหน้า ผมยังอยู่ที่เดิมไม่ใช่สิถอยหลังลงคลองยังขึ้นไม่ได้เลยจริงไหม”



“ตอนนี้นายก็กำลังเดินไปข้างหน้าเหมือนกัน”



“ข้างหน้าที่ผมอาจจะทำผิดอีกงั้นหรือพี่ณัน พิมพ์ยิ้มได้ ยิ้มได้จริงๆ เธอดูมีความสุข ดูสงบ เขาคงเป็นใครคนนั้นสำหรับพิมพ์จริงๆ ไม่ใช่ผม”



ณัฐพงษ์ถอนหายใจบ้างพลางเหลือบมองน้องชาย เขาไม่พูดอะไรต่อเพราะกำลังนึกถึงเรื่องที่คุยกับจิรสิน



‘คุณคงอยากถามทำไมผมยอมง่ายๆ’



ดังปัณณ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 6 ส.ค. 2561, 22:40:55 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 6 ส.ค. 2561, 22:40:55 น.

จำนวนการเข้าชม : 701





<< ๑๗ หลอมรวม -จบตอน-   บทที่ ๑๘ เขาและเรา (100%) >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account