กลรักนักดีไซน์
...โบแว...หนุ่มฝรั่งเศสเอาแต่ใจรักการออกแบบเสื้อผ้าเป็นชีวิตจิตใจทำให้คนอื่นเข้าใจผิดอยู่บ่อยๆ
...เพลิงฟ้า...สาวไทยหนีไปอยู่ปารีส
...เรื่องของคนเอาแต่ใจกับคนชอบตามใจมาเจอกันจะเกิดอะไรขึ้น...
...เพลิงฟ้า...สาวไทยหนีไปอยู่ปารีส
...เรื่องของคนเอาแต่ใจกับคนชอบตามใจมาเจอกันจะเกิดอะไรขึ้น...
Tags: รักลวง อิสระ
ตอน: Designer's desire By คชสีห์ 02
กลรักนักดีไซน์ (Designer's desire By คชสีห์) 02
เสียงรถจักรยานยนต์คันใหญ่ดังลั่น ผมสีดำยุ่งเหยิงสะบัดอย่างแรงเพราะลมกระแทก ทำให้เธอต้องหันไปมอง เพลิงฟ้าเห็นหนุ่มผมสีทองยาวสลวย ท่าทางของเขาชวนมองมาก เสื้อหนังมีขนสัตว์ปลิว เผยแผงอกขาวมีกล้ามเนื้อพอดูดี เขาสะบัดผมออกจากเสื้อแจ็คเกต ถอดหมวกกันน็อค และเธอก็จำได้ดีว่า นั่นคือลูกชายของเจ้าของนิตยสาร...โบแว ราฟาแร็ง อีกครั้งที่ต้องเจอเขาในแบบที่ไม่ค่อยอยากเจอเท่าไรนัก เธอจึงเลี่ยงเสีย
โบแวเอาแว่นกันแดดมาสวมทับ แล้วเดินขึ้นสำนักงานของแม่เขา ผ่านหน้าพนักงานของแม่เขาไปโดยไม่สนใจใคร กลับไปใช้ชีวิตแบบเดิม เปลี่ยนกลับไปขี่รถจักรยานยนต์คันใหญ่ สวมเสื้อแบบร็อคเกอร์ และคงทำให้มอร์กานไม่พอใจมากแน่ เพราะต้องการให้ลูกชายทำตัวนำแฟชั่น ขณะที่โบแวไร้อารมณ์สุดๆ ตั้งแต่เกิดเรื่องก็แทบจะไม่พาตัวเองไปเสี่ยงให้โนอามีโอกาสเข้าหาเขาอีก
นิตยสารวีฟวร์...เป็นนิตยสารการใช้ชีวิต มีส่วนของแฟชั่นอยู่เยอะ เป็นนิตยสารของผู้หญิง แต่มอร์กานก็มีนิตยสารหลายหัวด้วย
เพลิงฟ้าละทิ้งสายตาจากหนุ่มรูปงามแล้วรีบไปแสกนนิ้วมือเพื่อเข้างาน จากนั้นก็เอากาแฟไปตั้งที่โต๊ะเจ้านาย และเธอไม่ได้ขึ้นตรงกับมอร์กาน แม้มอร์กานจะเป็นคนรับเธอเข้ามาทำงานก็ตาม
อีกด้านโบแวเดินผ่านหลายคนก่อนเห็นหญิงสาวผมแดงหน้าตาคุ้นเคย จึงสบตากันเล็กน้อยแล้วเข้าไปในห้องทำงานของแม่ เข้าไปกอดจูบทักทายกับแม่เขาที่มาทำงานแต่เช้า
“ลูกกลับมาเป็นแบบเดิมอีกแล้ว” มอร์กานถอนหายใจ เห็นลูกชายแต่งตัวแบบนี้แล้วก็เสียดาย ลูกชายเคยดูดีขึ้น แต่ตอนนี้ดูไม่ค่อยสนใจอะไรอีก
“แม่ไม่ชอบเหรอครับ” โบแวถามแต่ไม่ต้องการคำตอบ
“ก็นะ ก็ดูดี แต่จะให้ดีแม่อยากให้ลูกคนเดิมตอนที่คบกับอันนา” มอร์กานจัดปกเสื้อให้ลูกชาย “แล้วทำไมไม่ใส่เสื้อให้เรียบร้อย”
“แม่เรียกผมมาพูดเรื่องการแต่งกายเนี่ยนะ” โบแวถามให้แน่ใจอีกครั้ง
“เปล่าหรอก ลูก เรียกมาถามว่าลูกตั้งใจจะทำคอลเล็กชั่นใหม่หรือยัง” มอร์กานต้องการช่วยให้ลูกชายดังในวงการด้วยนิตยสารของเธอ
“แม่ครับ ทำไมต้องรีบ กลัวผมออกแบบเสื้อผ้าแนวพังค์เหรอครับ” โบแวถามแม่ แล้วก็มองผู้ช่วยผมสีแดงที่ขยิบตาให้เขาบ่อยๆ เมื่อก่อนก็เล่นรักกันอยู่บ้าง พอเขามีคนรักก็ห่างหายไป
“ใช่สิ ลูกอุตส่าห์เปลี่ยนไปทำชุดแฟชั่นชั้นสูงแล้ว มีลูกค้าที่มีกำลังทรัพย์แล้ว แม่อยากให้ลูกยิ่งใหญ่พอที่จะสืบทอดกิจการของพ่อ แม่ไม่ชอบนังแม่เล้ารีอาที่มันส่งโนอาให้พ่อของลูก” มอร์กานรู้ความเคลื่อนไหวรอบๆ สามีดี ถึงยังไงก็เป็นเพื่อนที่ดีกัน เธอไม่มีวันให้เพื่อนแท้อย่างฌากเจอเรื่องไม่ดีแน่นอน
“พ่อเต็มใจรับ จะให้ผมทำยังไง” โบแวยังโกรธที่พ่อเอาแต่เชื่อฟังคู่ขาแทนที่จะฟังแม่กับเขา
“อย่าโกรธพ่ออีกเลยนะ โบแว พ่อก็แค่หลงชั่ววูบ แต่สิ่งหนึ่งที่พ่อไม่มีวันให้พวกมันก็คือธุรกิจพันล้านของเรา พ่อเขาโอนหุ้นให้ลูกกับแม่รวมกัน ยี่สิบเปอร์เซ็นแล้วนะ แสดงว่าพ่อของลูกต้องการให้ลูกเป็นใหญ่ในกิจการของราฟาแร็ง แม่ก็ต้องเตือนให้ลูกเข้าใจ
“แม่ครับ ผมมีหุ้นก็เท่านั้น พ่อยังเหลือหุ้นตั้งยี่สิบห้าเปอร์เซ็นต์ แม่อีกสิบเปอร์เซ็นต์แล้วเลอาอีกห้าเปอร์เซ็นต์ล่ะ พ่อไม่ฟังผมหรอก” โบแวส่ายหน้าช้าๆ
เลอามีหุ้นที่นิตยสารนี้ยี่สิบเปอร์เซ็นต์ มอร์กานไม่ยอมให้ใครมาถือหุ้นมากกว่าคนในครอบครัว และฌากก็เห็นด้วย ดีที่มอร์กานไม่แค่อดีตนางแบบยังมีฐานการเงินดีมาก ต่อให้หลงคู่ขาแค่ไหน ฌากเชื่อภรรยาเขาที่สุด ไม่รู้เพราะอะไรแต่เขาไม่เคยมองข้ามความเห็นของภรรยา อาจเพราะภรรยาไม่เคยสั่งให้เขาเลิกกับคู่ขาคนไหน อาจมีจิกกัดบ้างแต่สุดท้ายก็ไม่เคยห้ามสิ่งที่เขาอยากทำ
“พ่อของลูกเป็นศิลปิน เขาอาจจะหลงใหลอะไรมากไปหน่อย แต่สุดท้ายเขารักลูกกับพี่สาวมากนะ เลอาก็รักลูกเหมือนกัน เพราะงั้นทำตัวเองให้ดีไม่ได้เหรอ” มอร์กานเป็นห่วงลูกชาย
“แม่จะพูดแค่นี้เหรอครับ” โบแวถามซ้ำอีกรอบ
“แม่ต้องทำแผนงานสำหรับคอลเล็กชั่น แล้วลูกต้องเอามาส่งแม่ให้ทันกำหนด มันต้องเป็นแฟชั่นชั้นสูง ตกลงไหม” มอร์กานเห็นลูกชายรำคาญก็ตัดบท
“ได้สิครับ ผมมีงานมาส่งแน่ครับ” โบแวกอดแม่อีกรอบหลังคุยงานแล้วขอตัวกลับ
มอร์กานได้แต่มองลูกชายที่ไม่ยอมรับสายเธอ ต้องไปฝากฌอง-ปิแยร์บอกอีกที ถึงจะยอมมาหา
เสียงเปิดประตูออกมาแล้ว โบแวก็ดึงมือเจนน่าไปที่ห้องแต่งตัว
“เมินฉันตั้งนานนะคะ” เจนน่าทำมีจริต แต่ก็เดินตามเขาไป
“คิดอะไรมากล่ะ ไม่มีอะไรแล้วนี่” โบแวยิ้มแล้วเชยคางเธอมาจูบดูดดื่มร้อนแรง
เจนน่าอ่อนละทวย ยอมให้เขาทำตามใจชอบ พยายามกัดฟังไม่ส่งเสียงดังออกไป ห้องนี้ว่างพอให้เขาทำกิจจนเสร็จสม ตอนนี้เขากลับไปเป็นคนเดิมเมื่อสองปีก่อนได้ โดยไม่ต้องรู้สึกผิด
****************************
เสียงเปิดประตูออกมา หนุ่มผมสีทองเข้มก็เดินออกมาแล้วผิวปากอารมณ์ดี ก่อนสะดุดเมื่อเห็นคนสองคนอยู่หน้าห้องที่เขาใช้ปฏิบัติภารกิจ แต่เขายักไหล่ แม้จะจำได้ว่าเพลิงฟ้าเป็นใคร หรือเพื่อนรักจะอยู่ตรงนั้นก็ตาม
“เอาอีกแล้วเหรอวะ ไอ้โบแว” ฌอง-ปิแยร์มาเจอเพลิงฟ้าแล้วก็เลยคุยงานกัน พอคุยเสร็จก็ว่าจะไปทำงานต่อก็มาเจอเพื่อนรักออกมาจากห้องแต่งตัวว่างๆ นั่นเอง
“พูดเรื่องอะไร” โบแวยักไหล่ไม่ใส่ใจนัก เห็นแม่สาวผมยาวสีดำร่างเล็ก แต่ทำเหมือนไม่รู้จัก เพราะโบแวคนนี้คือโบแวที่ไม่สนใจใครอีกแล้ว
คนในห้องก็ไม่กล้าออก เพราะมีเพื่อนร่วมงานอยู่ด้านนอก ดีที่มอร์กานมีผู้ช่วยสองคนและสั่งงานเธอให้ไปทำ ไม่งั้นอาจโดนด่าจากเจ้านายได้
“ขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ คุณแซดู” เพลิงฟ้าเดินเลี่ยงไปทำงาน ไม่อยากให้โบแวทักอยู่แล้ว นึกรู้สึกแย่อยู่บ้าง ที่โบแวเป็นคนไม่ค่อยสำนึกเท่าไร เพิ่งเจอเรื่องแย่ๆ มา ก็ยังจะทำตัวแย่หนักเข้าไปอีก
เธองดวิจารณ์เรื่องลูกชายเจ้านาย ยังจำข่าวลือที่ได้ฟังมาอยู่บ้าง แต่เธอมาทำงานหลังจากที่ลูกชายเจ้านายกลายเป็นคนหนุ่มรักเดียวใจเดียวมุ่งหน้าทำงานทำงานตามฝัน มากกว่าจะเป็นหนุ่มพังค์ร็อคเพลย์บอยเที่ยวหิ้วสาวตามใจแบบนี้
“โอเคครับ พีช” ฌอง-ปิแยร์มองเพื่อนแล้วส่ายหน้า ก่อนทักทายพูดคุยกับเพื่อน “เดี๋ยวฉันเดินไปส่งแก ไป โบแว”
“เออ” โบแวโอบไหล่เพื่อนแล้วเดินไป ทิ้งให้เจน่าหาช่องพาตัวเองออกมาจากสถานการณ์ที่น่าอึดอัด
ถึงตอนนี้เธอจะมีคู่หมั้นแล้ว แต่การมีอะไรกับโบแวก็เป็นเรื่องที่เธอโหยหามาตลอดสองปี ความตื่นเต้นเร้าใจที่หาได้จากที่ทำงานอีกด้วย และเจ้านายก็คงไม่ว่าแม้จะรู้ดี ช่างเร้าใจน่าเสน่หาเสียนี่กระไร
ฌอง-ปิแยร์ลูบหน้าแล้วถอนหายใจยาว “ขอเถอะวะ เรื่องมาเอาพนักงานหรือนางแบบในสำนักงานแม่แกแบบนี้ รักษาหน้าแม่แกบ้างเถอะวะ”
“น่าก็ความเร้าใจในที่ทำงาน อีกอย่างพวกหล่อนก็เต็มใจและก็แสวงหาความตื่นเต้น ฉันก็แค่สนองความต้องการของผู้หญิงเท่านั้นเอง” โบแวตอบแต่ก็ไม่เคยบอกเพื่อนว่าเป็นใคร
เรื่องกินในที่ลับไขในที่แจ้ง เขาไม่คิดจะทำ แต่ถ้าใครจะรู้เองก็เป็นเรื่องของเขา
“ไปล่องเรือกลับมาทำซะสาวๆ เยิ่นต้องพักฟื้นกันเลยทีเดียว ยังมีหน้ามาเอาเด็กในออฟฟิศแม่แกอีก ฉันล่ะไม่รู้จะพูดยังไงเลย” ฌอง-ปิแยร์บ่นแล้วก็ถอนหายใจ
“อะไรวะ ทำอย่างกับไม่เคย ก่อนมีแมเรียน ในออฟฟิศแม่ฉันก็เสร็จแกไปหลายคนเหมือนกัน เผลอๆ คนเดียวกันซ้ำๆ ยังเคย คิดมากทำไมวะ” โบแวไม่สนใจนัก สวมแว่นตากันแดดแล้วควงกุญแจ
“ฌากให้แกทำคอลเล็กชั่นใหม่ ถึงไหนแล้ว” ฌอง-ปิแยร์เปลี่ยนเรื่อง และเขามีหน้าที่ตามงาน ขี้เกียจพูดกับเพื่อนเรื่องพฤติกรรมหลังอกหักของเพื่อน
“ไม่ถึงไหน ตอนที่ไปล่องเรือไปเจอเพลย์เกิร์ลคนหนึ่ง มารี ลูกสาวเจ้าของโรงงานผลิตช็อกโกแลต กำลังว่าจะควงกันเล่นๆ สักเดือน หล่อนก็รักสนุกไม่คิดจริงจัง” โบแวกลับมาพูดเรื่องผู้หญิงอีก
ฌอง-ปิแยร์กระแทกลมหายใจแล้วจ้องตาเพื่อน “ขอร้องล่ะนะ เรื่องผู้หญิงเนี่ยค่อยคิดทีหลังได้ไหม แกต้องทำงานก่อนสิ เดี๋ยวรีอาก็ยึดอำนาจในบริษัทพ่อแกหมดหรอก”
“เรื่องนั้นไม่ต้องกังวลแล้วล่ะ รีอามีลูกสาวคนหนึ่งอายุสิบเก้า ฉันรู้ว่าจะทำยังไงให้หล่อนเจ็บเหมือนที่ฉันเจ็บ” โบแวมาดร้ายแล้วยิ้มเหี้ยม แค้นที่โดนโนอาซึ่งเป็นน้องชายของรีอาตามมาลอบกัดซ้ำๆ
“เฮ้ย โคลอี้ไม่รู้อะไรด้วยเลย อย่าไปลากมาเกี่ยวได้ไหม” ฌอง-ปิแยร์ถอนหายใจยาว
“ยัยรีอาทำฉันก่อน มันจะได้รู้ว่าใครทำอะไรไว้ต้องได้รับผลที่ตามมา มันต้องได้รับการชดใช้ สิ่งที่มันทำ ลูกของมันก็ต้องชดใช้เหมือนที่ฉันเจอมา ไว้ก่อน เดี๋ยวไปก่อนนะ นัดอีฟไว้” โบแวขึ้นควบเจ้าสองล้อที่ถูกจับปัดฝุ่นและแต่งจนหล่อเหมือนเดิม เอาผมใส่เสื้อแล้วรูดซิปปิดอกขาว สวมหมวกกันน็อค
“โบแว ฉันขอล่ะ ขับรถสปอร์ตของแกแทนเจ้าเบนซ์ก็ยังดี อย่างน้อยมันก็มีหลังคาคุ้มหัว เจ้านายฉันจะได้ไม่ต้องบ่นกลัวว่าลูกชายจะเป็นอะไรให้ต้องพยาบาล” ฌอง-ปิแยร์เตือนเพื่อนอีกรอบ
“โอเค จะจำไว้ คราวหน้าละกัน” โบแวบิดรถออกไปอย่างแรง
ฌอง-ปิแยร์ได้แต่ถอนหายใจ เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่อนุบาลแล้วแต่ก็ยังไม่ชินกับสภาพเพื่อนสักที เวลาโลกของโบแวพลิก บอกได้เลยว่าโลกเขาก็พลิกเช่นกัน แต่จะให้พลิกกลับไปกลับมาเหมือนโบแวเขาก็ทำไม่ได้แล้ว รู้สึกความคิดต่างๆ ของตัวเองโตขึ้น ขณะที่โลกส่วนตัวของโบแวดูจะขยายอย่างรวดเร็วเพราะอกหักนี่เอง
****************************
โบแว ราฟาแร็ง กลับไปแข่งรถอีกครั้งคว้ารางวัลที่หนึ่ง...
ฌากยกมือขึ้นลูบหน้า แล้วถอนหายใจยาว เจ้าลูกคนนี้ทำตัวเหมือนเด็กมีปัญหาตลอดเวลา ยิ่งมาเลิกกับแฟนสาวที่ตั้งใจว่าจะแต่งงานด้วยแบบนี้ เขาก็ไม่รู้จะทำอะไรหรือจะแก้ไขยังไงดี
“สวัสดี” มอร์กานรับสายจากสามี
“ที่รักคุยกับลูกแล้วเหรอ” ฌากยังคงติดปากเรียกภรรยาแบบเดิม
“แน่นอน แต่คงยาก รู้สึกว่าเขาจะจริงจังกับแม่หนูอันนามากเสียเหลือเกิน อกหักครั้งนี้ถ้าลูกไม่ติดโรคร้ายถือว่าพระเจ้ายังปราณี” มอร์กานได้แต่ทำใจ
“ฉันว่านะ ให้มันเอาเชื้อไปฝากไว้ที่ธนาคารก่อนดีไหม จะได้มั่นใจว่าถ้ามันติดโรคร้ายจะได้มีหลานสืบสกุล” ฌากกระแทกลมหายใจหนักหน่วงแล้วก็หงุดหงิดที่ภรรยาหัวเราะกลับมา
“ใจเย็นๆ ที่รัก อย่าไปเครียดเรื่องโบแวมากนัก มาคิดเรื่องเลอาดีกว่า ทางนั้นเขาจะมาคุยเรื่องแต่งงานแล้วนะ คุณว่ายังไง มาร์คก็ดูดีมาก ฐานะก็เหมาะสม เลอาก็อยากแต่งงานแล้วด้วย” มอร์กานปล่อยลูกชายบ้าไปก่อน เพราะเรียกมาเตือนรอบหนึ่งแล้ว
“ก็ดำเนินการไปเลย แต่ชุดแต่งงานของลูกฉันออกแบบไว้แล้วต้องใส่ชุดที่ฉันออกแบบเท่านั้นนะ” ฌากยื่นคำขาด คงเสียหน้าถ้าลูกสาวไปใส่ชุดของใครอื่นที่ไม่ใช่เขา
“ต้องอย่างนั้นสิคะ” มอร์กานเป็นว่าเรื่องนี้สามีซีเรียสแน่ๆ เพราะวาดไว้ตั้งแต่ลูกสาวเพิ่งคลอดออกมาเลยทีเดียว
“แล้วจะเอาชุดไหนดี ฉันก็ออกแบบไว้เป็นสิบชุด” ฌากก็เข้าเรื่องลูกสาวแทนเรื่องกลุ้มๆ ของลูกชาย
“สักชุดเถอะ” มอร์กานเห็นสามีอารมณ์ดีขึ้นก็ดีใจ
“มาช่วยเลือกด้วยนะ ไม่รู้ล่ะ” ฌากบอกแล้วนัดแนะภรรยา “ที่ร้านโบวิเย่ว์นะ หนึ่งทุ่ม”
“ให้ลูกเลือกเถอะ” มอร์กานรู้ว่าร้านนี้คือร้านที่สามีกับเธอเจอกันครั้งแรก เธออยากจะเก็บไว้ในความทรงจำดีๆ
“แล้วเธอจะไม่คิดมาเจอฉันเพื่อคุยรายละเอียดการแต่งงานของลูกเลยรึไง” ฌากถามภรรยาที่ตอนนี้ย้ายไปอยู่บ้านคู่รักแล้ว
“จะนัดออกเดทพูดให้มันดีๆ หน่อยได้ไหม” มอร์กานย้อนสามีเล่นๆ
“เออ จะนัดออกเดท ตกลงตามนี้ ถ้าไม่มาบุกถึงบ้าน” ฌากตอบแบบอารมณ์เสีย
“ได้จ๊ะ เจ๊าะแจะตามประสาสาวๆ ไม่มีใครว่าหรอก” มอร์กานก็อ่อนลงให้สามี
ฌากหึงภรรยาเมื่อตอนรู้ว่าภรรยากลับไปซบอกพ่อม่ายแฟนเก่า ตอนนั้นโกรธจัดเกือบจะหย่าขาดกับภรรยา แต่ภรรยาก็บอกก่อนที่จะไปหาคนรักเก่า อธิบายกันแม้บ้านเกือบแตก จนเขาใจเย็นนั่นแหละ แล้วก็ต้องนึกถึงตัวเองที่มีคนอื่นโดยไม่บอกภรรยาก่อน ถือว่ามอร์กานใจเย็นกว่าเขามาก
ความที่ความรักฉูดฉาดกลายเป็นมิตรภาพของมิตรแท้ เขาก็ต้องยอมแพ้ให้กับมอร์กาน อีกทั้งลูกก็โตพอจะเข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว มอร์กานก็ขอวางแผนชีวิตตนเองบ้าง แต่ก็ต้องการปกป้องทรัพย์สินของลูกๆ จึงไม่คิดจะหย่าร้างและแต่งงานใหม่ และคนรักก็เห็นด้วย เพราะคนรักเองก็มองอนาคตให้ลูกตนเองด้วย ทุกอย่างจึงลงตัวอย่างนี้
****************************
“อะไรนะ วีฟ” เพลิงฟ้าถามเพื่อนอย่างงุนงง
“เออ จะย้ายไปอยู่กับฌอง” เจเนวีฟเก็บของไปด้วย พูดกับเพื่อนอย่างไม่ใส่ใจนัก “วันนี้เลย แกจะได้ไม่ต้องบ่นเรื่องฉันเอากับฌองในห้องรับแขก”
“วีฟ ไม่ได้จะว่าอะไร แต่ห้องนอนก็มี ไปทำในห้องนอนสิ” เพลิงฟ้าถอนหายใจยาว
“แต่อารมณ์มันพาไปให้ทำไงวะ ย้ายออกเลยละกัน เจอกันที่บริษัทนะ” เจเนวีฟตบไหล่เพื่อน แล้วสั่งคนขนของตัวเองออกไปจนหมด
ห้องก็โล่งขึ้นแต่เพลิงฟ้าถอนหายใจยาว จะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายค่าเช่า หารสองก็พอทน แต่พออยู่คนเดียวนี่สิ
โนรามาพอดี เห็นคนขนของไปหมด แม่สาวผมทองก็เดินเข้าห้องคนรักแล้วมองอีกฝ่ายที่กำลังนั่งถอนหายใจ “วีฟย้ายออกไปแล้วเหรอ”
“อือ” เพลิงฟ้ากำลังคิดอยู่ว่าจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายค่าเช่า
“ฉันจะช่วยไปก่อนจนกว่าจะหารูมเมจได้นะ” โนรายื่นมือช่วยเหลือคนรัก แล้วนั่งตักมองหน้า จับดวงหน้าเอเชียเก๋ๆ มาสบตาแล้วจูบ จากนั้นก็ปลอบ “ไม่ต้องคิดมาก เรารักกันนี่”
“เฮ้อ ถ้าหาไม่ได้ คงต้องหาที่มันไกลอีกแล้วถูกกว่านี้ เปลี่ยนเป็นไปรับงานมาทำแทน จะได้ประหยัดค่ารถ” เพลิงฟ้าคิดวางแผนชีวิตใหม่จนโนราหงุดหงิด จูบดูดดื่มดึงความสนใจของคนรัก
เพลิงฟ้าเริ่มเคลิ้มแล้วโนราก็ลากไปห้องนอนของเพลิงฟ้าแทน ปัญหาของเพลิงฟ้าก็จบลงแค่นี้ก่อน เพราะไม่มีสติจะคิดเรื่องปัญหาแล้ว กับอุปกรณ์ให้ความสุขของโนรานั่นเอง
****************************
สีหน้าของชายหนุ่มเคร่งเครียด เพราะพ่อเรียกมาร่วมโต๊ะกับโนอาที่นั่งฝั่งตรงข้ามเขา ไม่มีใครสบอารมณ์ที่ต้องเห็นสีหน้ากวนประสาทของคู่ปรับตัวแสบ
“โครงการใหม่ถึงไหนแล้ว” ฌากถามลูกชายโดยไม่ทันได้สังเกต
“ทำไมไม่ไปคุยที่บริษัทครับ มาคุยที่บ้านพ่อทำไม” โบแวถามพ่ออย่างสงสัย
“ก็ทานมื้อเย็นกับลูกชายบ้างไม่ได้หรือยังไง ตอนนั้นไปคุยเรื่องแต่งงานพี่สาว แกก็ไม่มา” ฌากสั่งอาหารลงโต๊ะ แล้วก็รู้สึกเหงาๆ เพราะตอนนี้ใครๆ ก็พากันไปมีบ้านของตัวเองหมด “มาทานมื้อเย็นกับพ่อสักมื้อ คงไม่เป็นไรหรอกใช่ไหม”
“ก็ได้ครับ” โบแวเกรงใจพ่อ แต่เห็นโนอามองสบตาเขาบ่อยๆ เขาก็เบื่อๆ มีผู้ชายเข้าหาเขาเยอะจริงๆ แต่เขาไม่คิดจะเอาใครมาเป็นคู่ขา ตอนนี้เขาก็มีผู้หญิงมาเอาอกเอาใจเยอะ
“ตกลงงานใหม่ถึงไหนแล้ว” ฌากชวนลูกชายคุยเรื่องงานทันที
“กำลังหาแรงบันดาลใจอยู่ครับ” โบแวตอบแบบกลางๆ เขายังไม่ได้เริ่มอะไรมาก แต่มีร่างเอาไว้ก่อนเลิกกับอันนา
“คราวก่อนไปทานมื้อเย็นที่โรงแรม เจออันนามากับสามีเขาด้วยนะ” โนอาพูดขึ้นมาอย่างหมั่นไส้
โบแวกระแทกมีดกับส้อมลงโต๊ะ แล้วประสานมือเพื่อสะกดอารมณ์ “กาฝากอย่างแกหุบปากไปเลยนะ พ่อฉันเมตตาให้มานั่งโต๊ะด้วยก็ดีแค่ไหนแล้ว”
“ใจเย็นๆ น่า โนอาก็แค่พูดความจริง แต่ความจริงบางอย่างก็ต้องระมัดระวังด้วยนะ มารยาทน่ะ” ฌากตักเตือนทั้งสองฝ่ายแล้วทานอาหารต่อ
โบแวไม่พูดอะไรอีกจนทานอาหารเสร็จ ก็มองบรั่นดีที่โนอาเอามาวางให้ เขาดื่มรวดเดียวแล้วรีบขอตัวพ่อกลับ “ผมกลับก่อนนะครับ ได้ความคืบหน้าเรื่องงานยังไงจะบอกอีกที”
“อย่ามัวแต่เที่ยวมากนะ พ่อแม่เป็นห่วง” ฌากกอดลูกชายแล้วปล่อย
“จะรีบกลับไปไหนล่ะครับ ผมว่าเมาแล้วก็นอนพักเสียที่นี่ดีกว่านะครับ” โนอายิ้มกริ่มหวังให้ผลสำเร็จ
“อย่ามายุ่งกับฉัน” โบแวส่ายหน้าช้าๆ แล้วไปขึ้นรถจักรยานยนต์คันใหญ่
“อย่าไปเซ้าซี้เขาเลยน่า โนอา ไปเถอะ อ๋อ แล้วอีกหกเดือนอย่าให้งานแต่งงานพี่แกต้องไม่มีน้องชายล่ะ” ฌากเตือนลูกชายอีกรอบ
โบแวพยักหน้าแล้วบิดออกไปอย่างรวดเร็ว
โนอาได้แต่ถอนหายใจ รู้สึกผิดแผนมาก
ภาพด้านข้างผ่านไปแล้วเรื่อยๆ โบแวรู้สึกมึนๆ งงๆ จากนั้นก็บังคับรถไม่ไหว สติก็หลุดๆ ลอยๆ ได้ยินแต่เสียงโครมดังลั่น คาดว่ารถคงชนเข้ากับอะไรสักอย่าง
เสียงรถล้มทำให้เพลิงฟ้าต้องหันไปดู จุดนี้ห่างจากที่พักเธอแค่สามช่วงตึกเท่านั้น เธอรีบไปช่วยเจ้าของรถ ก่อนตำรวจมา ก็เรียกรถพยาบาลทันที เธอพยายามช่วยยกรถ คนที่ผ่านมาก็เข้ามาช่วยยกอีกหลายแรง โบแวขี่ชนรถยนต์คันด้านหน้า แล้วรถล้มทับขาตัวเอง และเพราะไม่มีแรงทำให้แรงชนไม่เยอะเท่าที่ควร หากก็แรงพอให้มีแผลที่ขาน่ากลัวมากได้
เพลิงฟ้าช่วยพยุงคนเกิดเหตุ แต่เห็นเป็นลูกเจ้านายก็ตกใจ “คุณโบแว”
โบแวสั่นหน้าไปมาพยายามเรียกสติ เกาะคนที่เข้ามาช่วยและพยายามมอง ทำให้รู้ตัวว่าโดนวางยา
เพลิงฟ้าตามโบแวไปจัดการเรื่องต่างๆ ให้ เพราะเป็นลูกเจ้านาย จึงจัดการทุกอย่างให้ แล้วกำลังจะโทรหาเจ้านาย แต่เจ้านายยังไม่ทันรับสาย โบแวก็คว้ามือเธอไว้
“ห้ามโทรบอกแม่ผม” โบแวออกคำสั่ง เพราะเธอบอกแล้วว่าจะโทรหาแม่เขา
“งั้นคุณจะให้โทรหาใคร ฌองไหม” เพลิงฟ้ารู้มาว่าฌอง-ปิแยร์เป็นเพื่อนรักกับโบแว
“ไม่ต้องๆ” โบแวปฏิเสธอย่างเดียว
“อ้าว แล้วจะให้ฉันทำยังไงดีล่ะ” เพลิงฟ้าบ่นแต่ดีที่โนราเพิ่งไปถ่ายแบบชุดชั้นในที่อเมริกา เธอจึงไม่ต้องคอยตอบคอยอธิบายว่าทำไมไม่ยอมกลับบ้าน
“อยากไปไหนก็ไปเถอะ” โบแวบอก แล้วกำชับอีกที “อย่าโทรบอกพ่อแม่ผม”
“งั้นคุณก็ต้องให้ฉันช่วย” เพลิงฟ้าตัดสินใจในทันทีว่าต้องช่วยแล้วถอยออกไปรอข้างนอก
เพลิงฟ้ารอหลายอย่างจนเช้าถึงรู้ว่าเขาต้องเข้าเฝือกที่ขา เพราะกระดูกร้าวจากน้ำหนักรถที่กดทับ
“คือฉันขอไปทำงานก่อนนะ เดี๋ยวได้ห้องยังไงค่อยกลับมาใหม่” เธอบอกแล้วก็นึกปวดหัวเพราะยังไม่ได้นอนเลย
“โทรไปลางานสักวันเถอะน่า ไหนๆ ก็ช่วยผมมาซะขนาดนี้แล้ว” โบแวบอกแล้วถอนหายใจยาว
“อ๋อ คือรถที่คุณไปชนเขาน่ะ เขาบอกเบอร์ติดต่อมาแล้วนะ” เพลิงฟ้าบอกเล่าอย่างไม่ใส่ใจคำพูดเขาเท่าไรนัก
“เธอชื่ออะไร” โบแวถามโดยที่เขาไม่ต้องแนะนำตัว เพราะเธอระบุตัวเขาถูก แปลว่าต้องเคยเห็นเขาบ้าง ก็เป็นพนักงานของแม่เขานี่
“พีช เรียกอย่างนี้แหละ” เพลิงฟ้าบอกแล้วโทรไปลางานกับหัวหน้า แทนที่จะโทรไปบอกเจ้าของนิตยสารเรื่องลูกชาย แต่ทุกอย่างก็เรียบร้อยรวดเร็ว
โบแวถอนหายใจยาวเมื่อทุกอย่างเสร็จแล้ว “ต้องอยู่โรงพยาบาลไหมครับ”
“ก็ถ้าสมองคุณปกติดีก็กลับได้ แต่รอดูอาการอีกวันเถอะ พรุ่งนี้ค่อยกลับ” หมอบอกแล้วก็ไปจัดการธุระต่อ
เพลิงฟ้าถอนหายใจยาว “งั้นฉันกลับไปนอนนะ แล้วได้ห้องคุณโทรหาฉันเบอร์นี้นะ”
“อืม” โบแวเห็นผู้หญิงที่มาส่งเขา ผมเผ้ากระเซอะกระเซิงก็โล่งใจ กำลังเบื่อผู้หญิงวุ่นวายอยู่พอดี
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เขาเห็นเป็นเพื่อนก็รับสาย “มีอะไร ฌอง”
“แกอยู่ไหน” ฌอง-ปิแยร์ถามเพื่อนทันที
“ทำไม” โบแวถามกลับ
“ไม่รู้เหรอว่าข่าวใหญ่แล้ว เมื่อวานเกิดอุบัติเหตุ แกอยู่โรงพยาบาลไหน” ฌอง-ปิแยร์รู้จากข่าว แต่ไม่มีบอกโรงพยาบาล
“สบายดีแค่นี้นะ” โบแวตัดบทเพื่อน ก่อนโทรหาเพลิงฟ้าที่เพิ่งออกไป
“หัวผมไม่กระแทก ขอออกโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้เลย” เขาบอกทันทีที่เธอรับสาย
“จะบ้าเหรอ หมอบอกให้อยู่ดูอาการ” เพลิงฟ้าหงุดหงิดเพราอดนอนทั้งคืน
“ไม่บ้า ถ้าไม่อยากให้โรงพยาบาลแตก พาผมออกไปจากโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้เลย” โบแวบอกแล้วเรียกพยาบาล
“แต่คุณต้องเข้าเฝือกอีก เข้าเสร็จแล้วเหรอ เฝือกนะ ไม่ใช่ผ้าพันแผลจะได้พันๆ ให้มันเสร็จๆ ไป” เพลิงฟ้าหงุดหงิดเพราะง่วงเต็มที
“รอก่อนสิ อย่างกับผมได้หลับงั้นแหละ พาผมไปด้วยนะ เดี๋ยวฌองมันคงพามาหมดบ้านล่ะทีนี้” โบแวไม่อยากเจอครอบครัวนัก นึกอยู่ว่าเพราะอะไร เขาก็ไม่ได้ดื่มอะไรนอกจากบรั่นดีแค่แก้วเดียว
“ถามจริงๆ เถอะ ทำไมฉันต้องยอมด้วย อีกอย่างนั่นก็คือคนที่รักห่วงใยคุณ ทำไมไม่รอพวกเขามาดูแล” เพลิงฟ้าถามอย่างจริงจัง
“ผมไม่อยากเจอหน้าใครตอนนี้” โบแวสงสัยว่าโนอาคงจะวางยาเขา
ไม่งั้นเขาคงไม่มึนงงแบบนี้ และถ้าต้องมีใครดูแล คงไม่มีทางเป็นเลอาพี่สาว เพราะเลอาต้องดูแลงานแต่งของตัวเองและหน้าที่การงานอีก จะให้แม่มาคอยเฝ้าเขาก็คงไม่ใช่เรื่องอีก เพราะแม่เขาต้องอยู่กับคู่รัก ถ้าเป็นพ่อ เขาโดนปล้ำแน่ๆ เหมือนโนอาจ้องจะปล้ำเขาตลอดเวลา ส่วนฌอง-ปิแยร์ก็คงไม่ค่อยมีเวลาเท่าไรนัก ทั้งงานของแม่เขาและคู่หมั้นสาวอีก ส่วนแม่สาวเอเชียคนนี้เห็นมีน้ำใจให้เขาก็คิดว่าน่าจะช่วยเหลือได้
“ผมจะจ่ายค่าเสียเวลาให้ แต่คุณอาจจะต้องคอยดูแลผมหน่อย” โบแวยื่นข้อเสนอ
เพลิงฟ้าถอนหายใจยาว ก่อนถาม “แล้วคุณจะไปที่ไหนล่ะ”
“คุณมีที่ให้ผมหลบไปก่อนได้ไหม ผมให้หมอตรวจเลือดละเอียดด้วย ผมว่าผมถูกวางยานะ” โบแวกระแทกลมหายใจ นึกโกรธไอ้บรั่นดีแก้วนั้น ดีที่มาถึงโรงพยาบาลก็สั่งเก็บเลือดเลย ไม่งั้นเขาก็คงไม่มีวันรู้หรอกว่าโดนหรือเปล่า
เพลิงฟ้านึกในใจ “ห้องฉันมีห้องนอนว่างอยู่ห้อง คุณก็ช่วยจ่ายค่าห้องก็แล้วกัน”
“ตกลง” โบแวอยากหลบไปพักจากสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคย ยิ่งในช่วงที่ขามีปัญหาแบบนี้ด้วยแล้ว
เพลิงฟ้าได้แต่รอจนทุกอย่างเคลียเรียบร้อย แล้วรีบหนีออกไปจากโรงพยาบาล ก่อนที่เพื่อนเขาจะมาถึง พอมาถึงแล้วก็ต้องช่วยพยุงพาเขาขึ้นไปชั้นสาม แล้ววางเขาไว้ที่โซฟาใหม่ที่เธอซื้อมาแทนที่โซฟาเก่าที่บีบบังคับให้เจเนวีฟยกไป
โบแวเห็นห้องพักเก่าๆ แบบฝรั่งเศสแล้วก็ถอนหายใจเล็กน้อย ดีที่มีห้องนอนแยกกัน ไม่งั้นไม่รู้ว่าจะไปนอนที่ไหน
“เพื่อนฉันเพิ่งย้ายออกไปได้อาทิตย์นึง” เพลิงฟ้าบอกแล้วเอาน้ำดื่มยื่นให้เขา “ที่นี่ไม่มีน้ำแร่แบบคนรวยๆ เขาดื่มหรอกนะ มีแต่น้ำกรองเครื่องเนี่ยแหละค่ะ”
เพลิงฟ้าไม่สนใจว่าน้ำประปาของที่นี่จะสะอาดแค่ไหน เธอหาซื้อเครื่องกรองไว้ต่างหากแทน แล้วต้องยื้อไว้ให้เจเนวีฟเอาไป เพราะหล่อนเกือบเชิดไปแล้ว ดีที่จ้องไว้ก่อน และเป็นเงินที่เธอซื้อมาเอง
“หิวไหมคะ” เพลิงฟ้าถามขึ้น เธอซัดแซนวิชที่โรงพยาบาลไปแล้ว
“ได้ก็ดี ขอบใจมาก” โบแวเดินเข้าไปในห้องนอนอีกห้องที่ว่างอยู่ เครื่องนอนก็แทบไม่มี แล้วเขาจะนอนยังไง
เพลิงฟ้าเห็นแล้วก็วางจานแซนวิชง่ายๆ ลงที่โต๊ะ “นอนห้องฉันไปก่อน เดี๋ยวจัดที่นอนให้ นอนยัดๆ กันไปก่อนแล้วกัน แต่ถ้าคุณรังเกียจก็เอาโซฟาเบดไปวางไว้ให้ก่อนนะ”
โบแวไม่หวังให้เธอสละที่นอนให้เขาแน่ เพราะเธอดูไม่อยากช่วยเขาเท่าไร ไม่รู้ว่าเพราะอะไรหล่อนถึงช่วย คงไม่ใช่เพราะทำงานให้แม่เขา หรือต้องการให้เขาไปพูดกับแม่ให้แน่นอน จากที่เธอยังไม่พูดอะไรเลย หรือแค่ต้องการให้ใครสักคนมาช่วยเรื่องค่าเช่า
“อ๋อ ถ้าอยากได้ที่นอนและเตียงก็ซื้อเอาเองนะคะ ฉันไม่มีปัญญาซื้อให้หรอกนะ หรือไม่ก็กลับบ้านคุณซะ” เพลิงฟ้าบอกตบท้าย พร้อมแก้วนมวางบนหัวเตียงเธอ เพราะดูแล้วเขาคงไม่รังเกียจจะนอนที่เดียวกับเธอ
โบแวคาดแล้วไม่ผิด หล่อนไม่อยากช่วยเขาเท่าไร ถ้าเขาไม่ใช่ลูกแม่ที่เป็นเจ้าของนิตยสารที่หล่อนทำงานอยู่
เพลิงฟ้าเข้าห้องน้ำแล้วแปรงฟัน ก่อนเอาท่อนเหล็กมาวางไว้ข้างเตียง เผื่อเขาคิดมิดีมิร้ายกับเธอ แต่เขากินแซนวิชกับยาแล้วก็หลับสนิท เธอก็แค่เอาหมอนข้างกั้นไว้เท่านั้น
****************************
เสียงรถจักรยานยนต์คันใหญ่ดังลั่น ผมสีดำยุ่งเหยิงสะบัดอย่างแรงเพราะลมกระแทก ทำให้เธอต้องหันไปมอง เพลิงฟ้าเห็นหนุ่มผมสีทองยาวสลวย ท่าทางของเขาชวนมองมาก เสื้อหนังมีขนสัตว์ปลิว เผยแผงอกขาวมีกล้ามเนื้อพอดูดี เขาสะบัดผมออกจากเสื้อแจ็คเกต ถอดหมวกกันน็อค และเธอก็จำได้ดีว่า นั่นคือลูกชายของเจ้าของนิตยสาร...โบแว ราฟาแร็ง อีกครั้งที่ต้องเจอเขาในแบบที่ไม่ค่อยอยากเจอเท่าไรนัก เธอจึงเลี่ยงเสีย
โบแวเอาแว่นกันแดดมาสวมทับ แล้วเดินขึ้นสำนักงานของแม่เขา ผ่านหน้าพนักงานของแม่เขาไปโดยไม่สนใจใคร กลับไปใช้ชีวิตแบบเดิม เปลี่ยนกลับไปขี่รถจักรยานยนต์คันใหญ่ สวมเสื้อแบบร็อคเกอร์ และคงทำให้มอร์กานไม่พอใจมากแน่ เพราะต้องการให้ลูกชายทำตัวนำแฟชั่น ขณะที่โบแวไร้อารมณ์สุดๆ ตั้งแต่เกิดเรื่องก็แทบจะไม่พาตัวเองไปเสี่ยงให้โนอามีโอกาสเข้าหาเขาอีก
นิตยสารวีฟวร์...เป็นนิตยสารการใช้ชีวิต มีส่วนของแฟชั่นอยู่เยอะ เป็นนิตยสารของผู้หญิง แต่มอร์กานก็มีนิตยสารหลายหัวด้วย
เพลิงฟ้าละทิ้งสายตาจากหนุ่มรูปงามแล้วรีบไปแสกนนิ้วมือเพื่อเข้างาน จากนั้นก็เอากาแฟไปตั้งที่โต๊ะเจ้านาย และเธอไม่ได้ขึ้นตรงกับมอร์กาน แม้มอร์กานจะเป็นคนรับเธอเข้ามาทำงานก็ตาม
อีกด้านโบแวเดินผ่านหลายคนก่อนเห็นหญิงสาวผมแดงหน้าตาคุ้นเคย จึงสบตากันเล็กน้อยแล้วเข้าไปในห้องทำงานของแม่ เข้าไปกอดจูบทักทายกับแม่เขาที่มาทำงานแต่เช้า
“ลูกกลับมาเป็นแบบเดิมอีกแล้ว” มอร์กานถอนหายใจ เห็นลูกชายแต่งตัวแบบนี้แล้วก็เสียดาย ลูกชายเคยดูดีขึ้น แต่ตอนนี้ดูไม่ค่อยสนใจอะไรอีก
“แม่ไม่ชอบเหรอครับ” โบแวถามแต่ไม่ต้องการคำตอบ
“ก็นะ ก็ดูดี แต่จะให้ดีแม่อยากให้ลูกคนเดิมตอนที่คบกับอันนา” มอร์กานจัดปกเสื้อให้ลูกชาย “แล้วทำไมไม่ใส่เสื้อให้เรียบร้อย”
“แม่เรียกผมมาพูดเรื่องการแต่งกายเนี่ยนะ” โบแวถามให้แน่ใจอีกครั้ง
“เปล่าหรอก ลูก เรียกมาถามว่าลูกตั้งใจจะทำคอลเล็กชั่นใหม่หรือยัง” มอร์กานต้องการช่วยให้ลูกชายดังในวงการด้วยนิตยสารของเธอ
“แม่ครับ ทำไมต้องรีบ กลัวผมออกแบบเสื้อผ้าแนวพังค์เหรอครับ” โบแวถามแม่ แล้วก็มองผู้ช่วยผมสีแดงที่ขยิบตาให้เขาบ่อยๆ เมื่อก่อนก็เล่นรักกันอยู่บ้าง พอเขามีคนรักก็ห่างหายไป
“ใช่สิ ลูกอุตส่าห์เปลี่ยนไปทำชุดแฟชั่นชั้นสูงแล้ว มีลูกค้าที่มีกำลังทรัพย์แล้ว แม่อยากให้ลูกยิ่งใหญ่พอที่จะสืบทอดกิจการของพ่อ แม่ไม่ชอบนังแม่เล้ารีอาที่มันส่งโนอาให้พ่อของลูก” มอร์กานรู้ความเคลื่อนไหวรอบๆ สามีดี ถึงยังไงก็เป็นเพื่อนที่ดีกัน เธอไม่มีวันให้เพื่อนแท้อย่างฌากเจอเรื่องไม่ดีแน่นอน
“พ่อเต็มใจรับ จะให้ผมทำยังไง” โบแวยังโกรธที่พ่อเอาแต่เชื่อฟังคู่ขาแทนที่จะฟังแม่กับเขา
“อย่าโกรธพ่ออีกเลยนะ โบแว พ่อก็แค่หลงชั่ววูบ แต่สิ่งหนึ่งที่พ่อไม่มีวันให้พวกมันก็คือธุรกิจพันล้านของเรา พ่อเขาโอนหุ้นให้ลูกกับแม่รวมกัน ยี่สิบเปอร์เซ็นแล้วนะ แสดงว่าพ่อของลูกต้องการให้ลูกเป็นใหญ่ในกิจการของราฟาแร็ง แม่ก็ต้องเตือนให้ลูกเข้าใจ
“แม่ครับ ผมมีหุ้นก็เท่านั้น พ่อยังเหลือหุ้นตั้งยี่สิบห้าเปอร์เซ็นต์ แม่อีกสิบเปอร์เซ็นต์แล้วเลอาอีกห้าเปอร์เซ็นต์ล่ะ พ่อไม่ฟังผมหรอก” โบแวส่ายหน้าช้าๆ
เลอามีหุ้นที่นิตยสารนี้ยี่สิบเปอร์เซ็นต์ มอร์กานไม่ยอมให้ใครมาถือหุ้นมากกว่าคนในครอบครัว และฌากก็เห็นด้วย ดีที่มอร์กานไม่แค่อดีตนางแบบยังมีฐานการเงินดีมาก ต่อให้หลงคู่ขาแค่ไหน ฌากเชื่อภรรยาเขาที่สุด ไม่รู้เพราะอะไรแต่เขาไม่เคยมองข้ามความเห็นของภรรยา อาจเพราะภรรยาไม่เคยสั่งให้เขาเลิกกับคู่ขาคนไหน อาจมีจิกกัดบ้างแต่สุดท้ายก็ไม่เคยห้ามสิ่งที่เขาอยากทำ
“พ่อของลูกเป็นศิลปิน เขาอาจจะหลงใหลอะไรมากไปหน่อย แต่สุดท้ายเขารักลูกกับพี่สาวมากนะ เลอาก็รักลูกเหมือนกัน เพราะงั้นทำตัวเองให้ดีไม่ได้เหรอ” มอร์กานเป็นห่วงลูกชาย
“แม่จะพูดแค่นี้เหรอครับ” โบแวถามซ้ำอีกรอบ
“แม่ต้องทำแผนงานสำหรับคอลเล็กชั่น แล้วลูกต้องเอามาส่งแม่ให้ทันกำหนด มันต้องเป็นแฟชั่นชั้นสูง ตกลงไหม” มอร์กานเห็นลูกชายรำคาญก็ตัดบท
“ได้สิครับ ผมมีงานมาส่งแน่ครับ” โบแวกอดแม่อีกรอบหลังคุยงานแล้วขอตัวกลับ
มอร์กานได้แต่มองลูกชายที่ไม่ยอมรับสายเธอ ต้องไปฝากฌอง-ปิแยร์บอกอีกที ถึงจะยอมมาหา
เสียงเปิดประตูออกมาแล้ว โบแวก็ดึงมือเจนน่าไปที่ห้องแต่งตัว
“เมินฉันตั้งนานนะคะ” เจนน่าทำมีจริต แต่ก็เดินตามเขาไป
“คิดอะไรมากล่ะ ไม่มีอะไรแล้วนี่” โบแวยิ้มแล้วเชยคางเธอมาจูบดูดดื่มร้อนแรง
เจนน่าอ่อนละทวย ยอมให้เขาทำตามใจชอบ พยายามกัดฟังไม่ส่งเสียงดังออกไป ห้องนี้ว่างพอให้เขาทำกิจจนเสร็จสม ตอนนี้เขากลับไปเป็นคนเดิมเมื่อสองปีก่อนได้ โดยไม่ต้องรู้สึกผิด
****************************
เสียงเปิดประตูออกมา หนุ่มผมสีทองเข้มก็เดินออกมาแล้วผิวปากอารมณ์ดี ก่อนสะดุดเมื่อเห็นคนสองคนอยู่หน้าห้องที่เขาใช้ปฏิบัติภารกิจ แต่เขายักไหล่ แม้จะจำได้ว่าเพลิงฟ้าเป็นใคร หรือเพื่อนรักจะอยู่ตรงนั้นก็ตาม
“เอาอีกแล้วเหรอวะ ไอ้โบแว” ฌอง-ปิแยร์มาเจอเพลิงฟ้าแล้วก็เลยคุยงานกัน พอคุยเสร็จก็ว่าจะไปทำงานต่อก็มาเจอเพื่อนรักออกมาจากห้องแต่งตัวว่างๆ นั่นเอง
“พูดเรื่องอะไร” โบแวยักไหล่ไม่ใส่ใจนัก เห็นแม่สาวผมยาวสีดำร่างเล็ก แต่ทำเหมือนไม่รู้จัก เพราะโบแวคนนี้คือโบแวที่ไม่สนใจใครอีกแล้ว
คนในห้องก็ไม่กล้าออก เพราะมีเพื่อนร่วมงานอยู่ด้านนอก ดีที่มอร์กานมีผู้ช่วยสองคนและสั่งงานเธอให้ไปทำ ไม่งั้นอาจโดนด่าจากเจ้านายได้
“ขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ คุณแซดู” เพลิงฟ้าเดินเลี่ยงไปทำงาน ไม่อยากให้โบแวทักอยู่แล้ว นึกรู้สึกแย่อยู่บ้าง ที่โบแวเป็นคนไม่ค่อยสำนึกเท่าไร เพิ่งเจอเรื่องแย่ๆ มา ก็ยังจะทำตัวแย่หนักเข้าไปอีก
เธองดวิจารณ์เรื่องลูกชายเจ้านาย ยังจำข่าวลือที่ได้ฟังมาอยู่บ้าง แต่เธอมาทำงานหลังจากที่ลูกชายเจ้านายกลายเป็นคนหนุ่มรักเดียวใจเดียวมุ่งหน้าทำงานทำงานตามฝัน มากกว่าจะเป็นหนุ่มพังค์ร็อคเพลย์บอยเที่ยวหิ้วสาวตามใจแบบนี้
“โอเคครับ พีช” ฌอง-ปิแยร์มองเพื่อนแล้วส่ายหน้า ก่อนทักทายพูดคุยกับเพื่อน “เดี๋ยวฉันเดินไปส่งแก ไป โบแว”
“เออ” โบแวโอบไหล่เพื่อนแล้วเดินไป ทิ้งให้เจน่าหาช่องพาตัวเองออกมาจากสถานการณ์ที่น่าอึดอัด
ถึงตอนนี้เธอจะมีคู่หมั้นแล้ว แต่การมีอะไรกับโบแวก็เป็นเรื่องที่เธอโหยหามาตลอดสองปี ความตื่นเต้นเร้าใจที่หาได้จากที่ทำงานอีกด้วย และเจ้านายก็คงไม่ว่าแม้จะรู้ดี ช่างเร้าใจน่าเสน่หาเสียนี่กระไร
ฌอง-ปิแยร์ลูบหน้าแล้วถอนหายใจยาว “ขอเถอะวะ เรื่องมาเอาพนักงานหรือนางแบบในสำนักงานแม่แกแบบนี้ รักษาหน้าแม่แกบ้างเถอะวะ”
“น่าก็ความเร้าใจในที่ทำงาน อีกอย่างพวกหล่อนก็เต็มใจและก็แสวงหาความตื่นเต้น ฉันก็แค่สนองความต้องการของผู้หญิงเท่านั้นเอง” โบแวตอบแต่ก็ไม่เคยบอกเพื่อนว่าเป็นใคร
เรื่องกินในที่ลับไขในที่แจ้ง เขาไม่คิดจะทำ แต่ถ้าใครจะรู้เองก็เป็นเรื่องของเขา
“ไปล่องเรือกลับมาทำซะสาวๆ เยิ่นต้องพักฟื้นกันเลยทีเดียว ยังมีหน้ามาเอาเด็กในออฟฟิศแม่แกอีก ฉันล่ะไม่รู้จะพูดยังไงเลย” ฌอง-ปิแยร์บ่นแล้วก็ถอนหายใจ
“อะไรวะ ทำอย่างกับไม่เคย ก่อนมีแมเรียน ในออฟฟิศแม่ฉันก็เสร็จแกไปหลายคนเหมือนกัน เผลอๆ คนเดียวกันซ้ำๆ ยังเคย คิดมากทำไมวะ” โบแวไม่สนใจนัก สวมแว่นตากันแดดแล้วควงกุญแจ
“ฌากให้แกทำคอลเล็กชั่นใหม่ ถึงไหนแล้ว” ฌอง-ปิแยร์เปลี่ยนเรื่อง และเขามีหน้าที่ตามงาน ขี้เกียจพูดกับเพื่อนเรื่องพฤติกรรมหลังอกหักของเพื่อน
“ไม่ถึงไหน ตอนที่ไปล่องเรือไปเจอเพลย์เกิร์ลคนหนึ่ง มารี ลูกสาวเจ้าของโรงงานผลิตช็อกโกแลต กำลังว่าจะควงกันเล่นๆ สักเดือน หล่อนก็รักสนุกไม่คิดจริงจัง” โบแวกลับมาพูดเรื่องผู้หญิงอีก
ฌอง-ปิแยร์กระแทกลมหายใจแล้วจ้องตาเพื่อน “ขอร้องล่ะนะ เรื่องผู้หญิงเนี่ยค่อยคิดทีหลังได้ไหม แกต้องทำงานก่อนสิ เดี๋ยวรีอาก็ยึดอำนาจในบริษัทพ่อแกหมดหรอก”
“เรื่องนั้นไม่ต้องกังวลแล้วล่ะ รีอามีลูกสาวคนหนึ่งอายุสิบเก้า ฉันรู้ว่าจะทำยังไงให้หล่อนเจ็บเหมือนที่ฉันเจ็บ” โบแวมาดร้ายแล้วยิ้มเหี้ยม แค้นที่โดนโนอาซึ่งเป็นน้องชายของรีอาตามมาลอบกัดซ้ำๆ
“เฮ้ย โคลอี้ไม่รู้อะไรด้วยเลย อย่าไปลากมาเกี่ยวได้ไหม” ฌอง-ปิแยร์ถอนหายใจยาว
“ยัยรีอาทำฉันก่อน มันจะได้รู้ว่าใครทำอะไรไว้ต้องได้รับผลที่ตามมา มันต้องได้รับการชดใช้ สิ่งที่มันทำ ลูกของมันก็ต้องชดใช้เหมือนที่ฉันเจอมา ไว้ก่อน เดี๋ยวไปก่อนนะ นัดอีฟไว้” โบแวขึ้นควบเจ้าสองล้อที่ถูกจับปัดฝุ่นและแต่งจนหล่อเหมือนเดิม เอาผมใส่เสื้อแล้วรูดซิปปิดอกขาว สวมหมวกกันน็อค
“โบแว ฉันขอล่ะ ขับรถสปอร์ตของแกแทนเจ้าเบนซ์ก็ยังดี อย่างน้อยมันก็มีหลังคาคุ้มหัว เจ้านายฉันจะได้ไม่ต้องบ่นกลัวว่าลูกชายจะเป็นอะไรให้ต้องพยาบาล” ฌอง-ปิแยร์เตือนเพื่อนอีกรอบ
“โอเค จะจำไว้ คราวหน้าละกัน” โบแวบิดรถออกไปอย่างแรง
ฌอง-ปิแยร์ได้แต่ถอนหายใจ เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่อนุบาลแล้วแต่ก็ยังไม่ชินกับสภาพเพื่อนสักที เวลาโลกของโบแวพลิก บอกได้เลยว่าโลกเขาก็พลิกเช่นกัน แต่จะให้พลิกกลับไปกลับมาเหมือนโบแวเขาก็ทำไม่ได้แล้ว รู้สึกความคิดต่างๆ ของตัวเองโตขึ้น ขณะที่โลกส่วนตัวของโบแวดูจะขยายอย่างรวดเร็วเพราะอกหักนี่เอง
****************************
โบแว ราฟาแร็ง กลับไปแข่งรถอีกครั้งคว้ารางวัลที่หนึ่ง...
ฌากยกมือขึ้นลูบหน้า แล้วถอนหายใจยาว เจ้าลูกคนนี้ทำตัวเหมือนเด็กมีปัญหาตลอดเวลา ยิ่งมาเลิกกับแฟนสาวที่ตั้งใจว่าจะแต่งงานด้วยแบบนี้ เขาก็ไม่รู้จะทำอะไรหรือจะแก้ไขยังไงดี
“สวัสดี” มอร์กานรับสายจากสามี
“ที่รักคุยกับลูกแล้วเหรอ” ฌากยังคงติดปากเรียกภรรยาแบบเดิม
“แน่นอน แต่คงยาก รู้สึกว่าเขาจะจริงจังกับแม่หนูอันนามากเสียเหลือเกิน อกหักครั้งนี้ถ้าลูกไม่ติดโรคร้ายถือว่าพระเจ้ายังปราณี” มอร์กานได้แต่ทำใจ
“ฉันว่านะ ให้มันเอาเชื้อไปฝากไว้ที่ธนาคารก่อนดีไหม จะได้มั่นใจว่าถ้ามันติดโรคร้ายจะได้มีหลานสืบสกุล” ฌากกระแทกลมหายใจหนักหน่วงแล้วก็หงุดหงิดที่ภรรยาหัวเราะกลับมา
“ใจเย็นๆ ที่รัก อย่าไปเครียดเรื่องโบแวมากนัก มาคิดเรื่องเลอาดีกว่า ทางนั้นเขาจะมาคุยเรื่องแต่งงานแล้วนะ คุณว่ายังไง มาร์คก็ดูดีมาก ฐานะก็เหมาะสม เลอาก็อยากแต่งงานแล้วด้วย” มอร์กานปล่อยลูกชายบ้าไปก่อน เพราะเรียกมาเตือนรอบหนึ่งแล้ว
“ก็ดำเนินการไปเลย แต่ชุดแต่งงานของลูกฉันออกแบบไว้แล้วต้องใส่ชุดที่ฉันออกแบบเท่านั้นนะ” ฌากยื่นคำขาด คงเสียหน้าถ้าลูกสาวไปใส่ชุดของใครอื่นที่ไม่ใช่เขา
“ต้องอย่างนั้นสิคะ” มอร์กานเป็นว่าเรื่องนี้สามีซีเรียสแน่ๆ เพราะวาดไว้ตั้งแต่ลูกสาวเพิ่งคลอดออกมาเลยทีเดียว
“แล้วจะเอาชุดไหนดี ฉันก็ออกแบบไว้เป็นสิบชุด” ฌากก็เข้าเรื่องลูกสาวแทนเรื่องกลุ้มๆ ของลูกชาย
“สักชุดเถอะ” มอร์กานเห็นสามีอารมณ์ดีขึ้นก็ดีใจ
“มาช่วยเลือกด้วยนะ ไม่รู้ล่ะ” ฌากบอกแล้วนัดแนะภรรยา “ที่ร้านโบวิเย่ว์นะ หนึ่งทุ่ม”
“ให้ลูกเลือกเถอะ” มอร์กานรู้ว่าร้านนี้คือร้านที่สามีกับเธอเจอกันครั้งแรก เธออยากจะเก็บไว้ในความทรงจำดีๆ
“แล้วเธอจะไม่คิดมาเจอฉันเพื่อคุยรายละเอียดการแต่งงานของลูกเลยรึไง” ฌากถามภรรยาที่ตอนนี้ย้ายไปอยู่บ้านคู่รักแล้ว
“จะนัดออกเดทพูดให้มันดีๆ หน่อยได้ไหม” มอร์กานย้อนสามีเล่นๆ
“เออ จะนัดออกเดท ตกลงตามนี้ ถ้าไม่มาบุกถึงบ้าน” ฌากตอบแบบอารมณ์เสีย
“ได้จ๊ะ เจ๊าะแจะตามประสาสาวๆ ไม่มีใครว่าหรอก” มอร์กานก็อ่อนลงให้สามี
ฌากหึงภรรยาเมื่อตอนรู้ว่าภรรยากลับไปซบอกพ่อม่ายแฟนเก่า ตอนนั้นโกรธจัดเกือบจะหย่าขาดกับภรรยา แต่ภรรยาก็บอกก่อนที่จะไปหาคนรักเก่า อธิบายกันแม้บ้านเกือบแตก จนเขาใจเย็นนั่นแหละ แล้วก็ต้องนึกถึงตัวเองที่มีคนอื่นโดยไม่บอกภรรยาก่อน ถือว่ามอร์กานใจเย็นกว่าเขามาก
ความที่ความรักฉูดฉาดกลายเป็นมิตรภาพของมิตรแท้ เขาก็ต้องยอมแพ้ให้กับมอร์กาน อีกทั้งลูกก็โตพอจะเข้าใจปัญหาที่เกิดขึ้นแล้ว มอร์กานก็ขอวางแผนชีวิตตนเองบ้าง แต่ก็ต้องการปกป้องทรัพย์สินของลูกๆ จึงไม่คิดจะหย่าร้างและแต่งงานใหม่ และคนรักก็เห็นด้วย เพราะคนรักเองก็มองอนาคตให้ลูกตนเองด้วย ทุกอย่างจึงลงตัวอย่างนี้
****************************
“อะไรนะ วีฟ” เพลิงฟ้าถามเพื่อนอย่างงุนงง
“เออ จะย้ายไปอยู่กับฌอง” เจเนวีฟเก็บของไปด้วย พูดกับเพื่อนอย่างไม่ใส่ใจนัก “วันนี้เลย แกจะได้ไม่ต้องบ่นเรื่องฉันเอากับฌองในห้องรับแขก”
“วีฟ ไม่ได้จะว่าอะไร แต่ห้องนอนก็มี ไปทำในห้องนอนสิ” เพลิงฟ้าถอนหายใจยาว
“แต่อารมณ์มันพาไปให้ทำไงวะ ย้ายออกเลยละกัน เจอกันที่บริษัทนะ” เจเนวีฟตบไหล่เพื่อน แล้วสั่งคนขนของตัวเองออกไปจนหมด
ห้องก็โล่งขึ้นแต่เพลิงฟ้าถอนหายใจยาว จะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายค่าเช่า หารสองก็พอทน แต่พออยู่คนเดียวนี่สิ
โนรามาพอดี เห็นคนขนของไปหมด แม่สาวผมทองก็เดินเข้าห้องคนรักแล้วมองอีกฝ่ายที่กำลังนั่งถอนหายใจ “วีฟย้ายออกไปแล้วเหรอ”
“อือ” เพลิงฟ้ากำลังคิดอยู่ว่าจะเอาเงินที่ไหนมาจ่ายค่าเช่า
“ฉันจะช่วยไปก่อนจนกว่าจะหารูมเมจได้นะ” โนรายื่นมือช่วยเหลือคนรัก แล้วนั่งตักมองหน้า จับดวงหน้าเอเชียเก๋ๆ มาสบตาแล้วจูบ จากนั้นก็ปลอบ “ไม่ต้องคิดมาก เรารักกันนี่”
“เฮ้อ ถ้าหาไม่ได้ คงต้องหาที่มันไกลอีกแล้วถูกกว่านี้ เปลี่ยนเป็นไปรับงานมาทำแทน จะได้ประหยัดค่ารถ” เพลิงฟ้าคิดวางแผนชีวิตใหม่จนโนราหงุดหงิด จูบดูดดื่มดึงความสนใจของคนรัก
เพลิงฟ้าเริ่มเคลิ้มแล้วโนราก็ลากไปห้องนอนของเพลิงฟ้าแทน ปัญหาของเพลิงฟ้าก็จบลงแค่นี้ก่อน เพราะไม่มีสติจะคิดเรื่องปัญหาแล้ว กับอุปกรณ์ให้ความสุขของโนรานั่นเอง
****************************
สีหน้าของชายหนุ่มเคร่งเครียด เพราะพ่อเรียกมาร่วมโต๊ะกับโนอาที่นั่งฝั่งตรงข้ามเขา ไม่มีใครสบอารมณ์ที่ต้องเห็นสีหน้ากวนประสาทของคู่ปรับตัวแสบ
“โครงการใหม่ถึงไหนแล้ว” ฌากถามลูกชายโดยไม่ทันได้สังเกต
“ทำไมไม่ไปคุยที่บริษัทครับ มาคุยที่บ้านพ่อทำไม” โบแวถามพ่ออย่างสงสัย
“ก็ทานมื้อเย็นกับลูกชายบ้างไม่ได้หรือยังไง ตอนนั้นไปคุยเรื่องแต่งงานพี่สาว แกก็ไม่มา” ฌากสั่งอาหารลงโต๊ะ แล้วก็รู้สึกเหงาๆ เพราะตอนนี้ใครๆ ก็พากันไปมีบ้านของตัวเองหมด “มาทานมื้อเย็นกับพ่อสักมื้อ คงไม่เป็นไรหรอกใช่ไหม”
“ก็ได้ครับ” โบแวเกรงใจพ่อ แต่เห็นโนอามองสบตาเขาบ่อยๆ เขาก็เบื่อๆ มีผู้ชายเข้าหาเขาเยอะจริงๆ แต่เขาไม่คิดจะเอาใครมาเป็นคู่ขา ตอนนี้เขาก็มีผู้หญิงมาเอาอกเอาใจเยอะ
“ตกลงงานใหม่ถึงไหนแล้ว” ฌากชวนลูกชายคุยเรื่องงานทันที
“กำลังหาแรงบันดาลใจอยู่ครับ” โบแวตอบแบบกลางๆ เขายังไม่ได้เริ่มอะไรมาก แต่มีร่างเอาไว้ก่อนเลิกกับอันนา
“คราวก่อนไปทานมื้อเย็นที่โรงแรม เจออันนามากับสามีเขาด้วยนะ” โนอาพูดขึ้นมาอย่างหมั่นไส้
โบแวกระแทกมีดกับส้อมลงโต๊ะ แล้วประสานมือเพื่อสะกดอารมณ์ “กาฝากอย่างแกหุบปากไปเลยนะ พ่อฉันเมตตาให้มานั่งโต๊ะด้วยก็ดีแค่ไหนแล้ว”
“ใจเย็นๆ น่า โนอาก็แค่พูดความจริง แต่ความจริงบางอย่างก็ต้องระมัดระวังด้วยนะ มารยาทน่ะ” ฌากตักเตือนทั้งสองฝ่ายแล้วทานอาหารต่อ
โบแวไม่พูดอะไรอีกจนทานอาหารเสร็จ ก็มองบรั่นดีที่โนอาเอามาวางให้ เขาดื่มรวดเดียวแล้วรีบขอตัวพ่อกลับ “ผมกลับก่อนนะครับ ได้ความคืบหน้าเรื่องงานยังไงจะบอกอีกที”
“อย่ามัวแต่เที่ยวมากนะ พ่อแม่เป็นห่วง” ฌากกอดลูกชายแล้วปล่อย
“จะรีบกลับไปไหนล่ะครับ ผมว่าเมาแล้วก็นอนพักเสียที่นี่ดีกว่านะครับ” โนอายิ้มกริ่มหวังให้ผลสำเร็จ
“อย่ามายุ่งกับฉัน” โบแวส่ายหน้าช้าๆ แล้วไปขึ้นรถจักรยานยนต์คันใหญ่
“อย่าไปเซ้าซี้เขาเลยน่า โนอา ไปเถอะ อ๋อ แล้วอีกหกเดือนอย่าให้งานแต่งงานพี่แกต้องไม่มีน้องชายล่ะ” ฌากเตือนลูกชายอีกรอบ
โบแวพยักหน้าแล้วบิดออกไปอย่างรวดเร็ว
โนอาได้แต่ถอนหายใจ รู้สึกผิดแผนมาก
ภาพด้านข้างผ่านไปแล้วเรื่อยๆ โบแวรู้สึกมึนๆ งงๆ จากนั้นก็บังคับรถไม่ไหว สติก็หลุดๆ ลอยๆ ได้ยินแต่เสียงโครมดังลั่น คาดว่ารถคงชนเข้ากับอะไรสักอย่าง
เสียงรถล้มทำให้เพลิงฟ้าต้องหันไปดู จุดนี้ห่างจากที่พักเธอแค่สามช่วงตึกเท่านั้น เธอรีบไปช่วยเจ้าของรถ ก่อนตำรวจมา ก็เรียกรถพยาบาลทันที เธอพยายามช่วยยกรถ คนที่ผ่านมาก็เข้ามาช่วยยกอีกหลายแรง โบแวขี่ชนรถยนต์คันด้านหน้า แล้วรถล้มทับขาตัวเอง และเพราะไม่มีแรงทำให้แรงชนไม่เยอะเท่าที่ควร หากก็แรงพอให้มีแผลที่ขาน่ากลัวมากได้
เพลิงฟ้าช่วยพยุงคนเกิดเหตุ แต่เห็นเป็นลูกเจ้านายก็ตกใจ “คุณโบแว”
โบแวสั่นหน้าไปมาพยายามเรียกสติ เกาะคนที่เข้ามาช่วยและพยายามมอง ทำให้รู้ตัวว่าโดนวางยา
เพลิงฟ้าตามโบแวไปจัดการเรื่องต่างๆ ให้ เพราะเป็นลูกเจ้านาย จึงจัดการทุกอย่างให้ แล้วกำลังจะโทรหาเจ้านาย แต่เจ้านายยังไม่ทันรับสาย โบแวก็คว้ามือเธอไว้
“ห้ามโทรบอกแม่ผม” โบแวออกคำสั่ง เพราะเธอบอกแล้วว่าจะโทรหาแม่เขา
“งั้นคุณจะให้โทรหาใคร ฌองไหม” เพลิงฟ้ารู้มาว่าฌอง-ปิแยร์เป็นเพื่อนรักกับโบแว
“ไม่ต้องๆ” โบแวปฏิเสธอย่างเดียว
“อ้าว แล้วจะให้ฉันทำยังไงดีล่ะ” เพลิงฟ้าบ่นแต่ดีที่โนราเพิ่งไปถ่ายแบบชุดชั้นในที่อเมริกา เธอจึงไม่ต้องคอยตอบคอยอธิบายว่าทำไมไม่ยอมกลับบ้าน
“อยากไปไหนก็ไปเถอะ” โบแวบอก แล้วกำชับอีกที “อย่าโทรบอกพ่อแม่ผม”
“งั้นคุณก็ต้องให้ฉันช่วย” เพลิงฟ้าตัดสินใจในทันทีว่าต้องช่วยแล้วถอยออกไปรอข้างนอก
เพลิงฟ้ารอหลายอย่างจนเช้าถึงรู้ว่าเขาต้องเข้าเฝือกที่ขา เพราะกระดูกร้าวจากน้ำหนักรถที่กดทับ
“คือฉันขอไปทำงานก่อนนะ เดี๋ยวได้ห้องยังไงค่อยกลับมาใหม่” เธอบอกแล้วก็นึกปวดหัวเพราะยังไม่ได้นอนเลย
“โทรไปลางานสักวันเถอะน่า ไหนๆ ก็ช่วยผมมาซะขนาดนี้แล้ว” โบแวบอกแล้วถอนหายใจยาว
“อ๋อ คือรถที่คุณไปชนเขาน่ะ เขาบอกเบอร์ติดต่อมาแล้วนะ” เพลิงฟ้าบอกเล่าอย่างไม่ใส่ใจคำพูดเขาเท่าไรนัก
“เธอชื่ออะไร” โบแวถามโดยที่เขาไม่ต้องแนะนำตัว เพราะเธอระบุตัวเขาถูก แปลว่าต้องเคยเห็นเขาบ้าง ก็เป็นพนักงานของแม่เขานี่
“พีช เรียกอย่างนี้แหละ” เพลิงฟ้าบอกแล้วโทรไปลางานกับหัวหน้า แทนที่จะโทรไปบอกเจ้าของนิตยสารเรื่องลูกชาย แต่ทุกอย่างก็เรียบร้อยรวดเร็ว
โบแวถอนหายใจยาวเมื่อทุกอย่างเสร็จแล้ว “ต้องอยู่โรงพยาบาลไหมครับ”
“ก็ถ้าสมองคุณปกติดีก็กลับได้ แต่รอดูอาการอีกวันเถอะ พรุ่งนี้ค่อยกลับ” หมอบอกแล้วก็ไปจัดการธุระต่อ
เพลิงฟ้าถอนหายใจยาว “งั้นฉันกลับไปนอนนะ แล้วได้ห้องคุณโทรหาฉันเบอร์นี้นะ”
“อืม” โบแวเห็นผู้หญิงที่มาส่งเขา ผมเผ้ากระเซอะกระเซิงก็โล่งใจ กำลังเบื่อผู้หญิงวุ่นวายอยู่พอดี
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เขาเห็นเป็นเพื่อนก็รับสาย “มีอะไร ฌอง”
“แกอยู่ไหน” ฌอง-ปิแยร์ถามเพื่อนทันที
“ทำไม” โบแวถามกลับ
“ไม่รู้เหรอว่าข่าวใหญ่แล้ว เมื่อวานเกิดอุบัติเหตุ แกอยู่โรงพยาบาลไหน” ฌอง-ปิแยร์รู้จากข่าว แต่ไม่มีบอกโรงพยาบาล
“สบายดีแค่นี้นะ” โบแวตัดบทเพื่อน ก่อนโทรหาเพลิงฟ้าที่เพิ่งออกไป
“หัวผมไม่กระแทก ขอออกโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้เลย” เขาบอกทันทีที่เธอรับสาย
“จะบ้าเหรอ หมอบอกให้อยู่ดูอาการ” เพลิงฟ้าหงุดหงิดเพราอดนอนทั้งคืน
“ไม่บ้า ถ้าไม่อยากให้โรงพยาบาลแตก พาผมออกไปจากโรงพยาบาลเดี๋ยวนี้เลย” โบแวบอกแล้วเรียกพยาบาล
“แต่คุณต้องเข้าเฝือกอีก เข้าเสร็จแล้วเหรอ เฝือกนะ ไม่ใช่ผ้าพันแผลจะได้พันๆ ให้มันเสร็จๆ ไป” เพลิงฟ้าหงุดหงิดเพราะง่วงเต็มที
“รอก่อนสิ อย่างกับผมได้หลับงั้นแหละ พาผมไปด้วยนะ เดี๋ยวฌองมันคงพามาหมดบ้านล่ะทีนี้” โบแวไม่อยากเจอครอบครัวนัก นึกอยู่ว่าเพราะอะไร เขาก็ไม่ได้ดื่มอะไรนอกจากบรั่นดีแค่แก้วเดียว
“ถามจริงๆ เถอะ ทำไมฉันต้องยอมด้วย อีกอย่างนั่นก็คือคนที่รักห่วงใยคุณ ทำไมไม่รอพวกเขามาดูแล” เพลิงฟ้าถามอย่างจริงจัง
“ผมไม่อยากเจอหน้าใครตอนนี้” โบแวสงสัยว่าโนอาคงจะวางยาเขา
ไม่งั้นเขาคงไม่มึนงงแบบนี้ และถ้าต้องมีใครดูแล คงไม่มีทางเป็นเลอาพี่สาว เพราะเลอาต้องดูแลงานแต่งของตัวเองและหน้าที่การงานอีก จะให้แม่มาคอยเฝ้าเขาก็คงไม่ใช่เรื่องอีก เพราะแม่เขาต้องอยู่กับคู่รัก ถ้าเป็นพ่อ เขาโดนปล้ำแน่ๆ เหมือนโนอาจ้องจะปล้ำเขาตลอดเวลา ส่วนฌอง-ปิแยร์ก็คงไม่ค่อยมีเวลาเท่าไรนัก ทั้งงานของแม่เขาและคู่หมั้นสาวอีก ส่วนแม่สาวเอเชียคนนี้เห็นมีน้ำใจให้เขาก็คิดว่าน่าจะช่วยเหลือได้
“ผมจะจ่ายค่าเสียเวลาให้ แต่คุณอาจจะต้องคอยดูแลผมหน่อย” โบแวยื่นข้อเสนอ
เพลิงฟ้าถอนหายใจยาว ก่อนถาม “แล้วคุณจะไปที่ไหนล่ะ”
“คุณมีที่ให้ผมหลบไปก่อนได้ไหม ผมให้หมอตรวจเลือดละเอียดด้วย ผมว่าผมถูกวางยานะ” โบแวกระแทกลมหายใจ นึกโกรธไอ้บรั่นดีแก้วนั้น ดีที่มาถึงโรงพยาบาลก็สั่งเก็บเลือดเลย ไม่งั้นเขาก็คงไม่มีวันรู้หรอกว่าโดนหรือเปล่า
เพลิงฟ้านึกในใจ “ห้องฉันมีห้องนอนว่างอยู่ห้อง คุณก็ช่วยจ่ายค่าห้องก็แล้วกัน”
“ตกลง” โบแวอยากหลบไปพักจากสภาพแวดล้อมที่คุ้นเคย ยิ่งในช่วงที่ขามีปัญหาแบบนี้ด้วยแล้ว
เพลิงฟ้าได้แต่รอจนทุกอย่างเคลียเรียบร้อย แล้วรีบหนีออกไปจากโรงพยาบาล ก่อนที่เพื่อนเขาจะมาถึง พอมาถึงแล้วก็ต้องช่วยพยุงพาเขาขึ้นไปชั้นสาม แล้ววางเขาไว้ที่โซฟาใหม่ที่เธอซื้อมาแทนที่โซฟาเก่าที่บีบบังคับให้เจเนวีฟยกไป
โบแวเห็นห้องพักเก่าๆ แบบฝรั่งเศสแล้วก็ถอนหายใจเล็กน้อย ดีที่มีห้องนอนแยกกัน ไม่งั้นไม่รู้ว่าจะไปนอนที่ไหน
“เพื่อนฉันเพิ่งย้ายออกไปได้อาทิตย์นึง” เพลิงฟ้าบอกแล้วเอาน้ำดื่มยื่นให้เขา “ที่นี่ไม่มีน้ำแร่แบบคนรวยๆ เขาดื่มหรอกนะ มีแต่น้ำกรองเครื่องเนี่ยแหละค่ะ”
เพลิงฟ้าไม่สนใจว่าน้ำประปาของที่นี่จะสะอาดแค่ไหน เธอหาซื้อเครื่องกรองไว้ต่างหากแทน แล้วต้องยื้อไว้ให้เจเนวีฟเอาไป เพราะหล่อนเกือบเชิดไปแล้ว ดีที่จ้องไว้ก่อน และเป็นเงินที่เธอซื้อมาเอง
“หิวไหมคะ” เพลิงฟ้าถามขึ้น เธอซัดแซนวิชที่โรงพยาบาลไปแล้ว
“ได้ก็ดี ขอบใจมาก” โบแวเดินเข้าไปในห้องนอนอีกห้องที่ว่างอยู่ เครื่องนอนก็แทบไม่มี แล้วเขาจะนอนยังไง
เพลิงฟ้าเห็นแล้วก็วางจานแซนวิชง่ายๆ ลงที่โต๊ะ “นอนห้องฉันไปก่อน เดี๋ยวจัดที่นอนให้ นอนยัดๆ กันไปก่อนแล้วกัน แต่ถ้าคุณรังเกียจก็เอาโซฟาเบดไปวางไว้ให้ก่อนนะ”
โบแวไม่หวังให้เธอสละที่นอนให้เขาแน่ เพราะเธอดูไม่อยากช่วยเขาเท่าไร ไม่รู้ว่าเพราะอะไรหล่อนถึงช่วย คงไม่ใช่เพราะทำงานให้แม่เขา หรือต้องการให้เขาไปพูดกับแม่ให้แน่นอน จากที่เธอยังไม่พูดอะไรเลย หรือแค่ต้องการให้ใครสักคนมาช่วยเรื่องค่าเช่า
“อ๋อ ถ้าอยากได้ที่นอนและเตียงก็ซื้อเอาเองนะคะ ฉันไม่มีปัญญาซื้อให้หรอกนะ หรือไม่ก็กลับบ้านคุณซะ” เพลิงฟ้าบอกตบท้าย พร้อมแก้วนมวางบนหัวเตียงเธอ เพราะดูแล้วเขาคงไม่รังเกียจจะนอนที่เดียวกับเธอ
โบแวคาดแล้วไม่ผิด หล่อนไม่อยากช่วยเขาเท่าไร ถ้าเขาไม่ใช่ลูกแม่ที่เป็นเจ้าของนิตยสารที่หล่อนทำงานอยู่
เพลิงฟ้าเข้าห้องน้ำแล้วแปรงฟัน ก่อนเอาท่อนเหล็กมาวางไว้ข้างเตียง เผื่อเขาคิดมิดีมิร้ายกับเธอ แต่เขากินแซนวิชกับยาแล้วก็หลับสนิท เธอก็แค่เอาหมอนข้างกั้นไว้เท่านั้น
****************************
เพลิงวารี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 8 ส.ค. 2561, 19:24:40 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 8 ส.ค. 2561, 19:24:40 น.
จำนวนการเข้าชม : 622
<< Designer's desire By คชสีห์ 01 | Designer's desire By คชสีห์ 03 >> |