กลรักนักดีไซน์
...โบแว...หนุ่มฝรั่งเศสเอาแต่ใจรักการออกแบบเสื้อผ้าเป็นชีวิตจิตใจทำให้คนอื่นเข้าใจผิดอยู่บ่อยๆ
...เพลิงฟ้า...สาวไทยหนีไปอยู่ปารีส
...เรื่องของคนเอาแต่ใจกับคนชอบตามใจมาเจอกันจะเกิดอะไรขึ้น...
...เพลิงฟ้า...สาวไทยหนีไปอยู่ปารีส
...เรื่องของคนเอาแต่ใจกับคนชอบตามใจมาเจอกันจะเกิดอะไรขึ้น...
Tags: รักลวง อิสระ
ตอน: Designer's desire By คชสีห์ 03
กลรักนักดีไซน์ (Designer's desire By คชสีห์) 03
พอเช้าเพลิงฟ้าก็เตรียมแซนวิชไว้ให้เขา พร้อมเบอร์โทรสั่งอาหาร เผื่อเขาอยากทานอะไรเอง แล้วไปทำงาน ไม่เห็นฌอง-ปิแยร์มาทำงาน คิดว่าคงตามหาเพื่อนอยู่แน่นอน
“ได้ยินไหม โบแวเกิดอุบัติเหตุแล้วหายไป” เจเนวิฟเข้ามาบอกเพื่อน
“เหรอๆ” เพลิงฟ้ารับคำเหมือนเคย รู้ว่าเมื่อวานเกิดอะไรขึ้น แต่ก้มหน้าก้มตาทำงาน
ตกบ่ายฌอง-ปิแยร์เดินเข้ามาถามหาเธอในห้องกราฟฟิค จากนั้นก็เดินตรงมาหา เธอกำลังงมงานอยู่จึงไม่ทันรู้ตัว ฌอง-ปิแยร์ก็ยืนตรงหน้าคอก
“โบแวอยู่ไหน” ฌอง-ปิแยร์ถามตามตรง
“เขาไม่ให้บอกคุณค่ะ ว่าแต่คุณรู้ได้ยังไง” เพลิงฟ้าถามกลับ ตกใจนิดหน่อยเพราะกำลังหาทางให้งานเดินอยู่
“รู้จากพยาบาลเพราะถามหาเจ้าของไข้ว่าใครเป็น” ฌอง-ปิแยร์บอกตามตรง “ได้ยินว่าเมื่อวานคุณไม่มาทำงานด้วย พีช มันเข้าทางทุกอย่าง”
“เฮ้อ เขาไม่ให้บอกค่ะ” เพลิงฟ้ายืนยันตามที่โบแวสั่งไว้
“เขาให้เธอเท่าไรล่ะ มอร์กานคงยินดีให้มากกว่าแน่” ฌอง-ปิแยร์รู้ว่าเพื่อนต้องเอาเรื่องเงินมาใช้ปิดปากแม่สาวคนนี้แน่นอน
“มองซิเออแซดู” เพลิงฟ้าเรียกชื่อเขาชัดเจน โดนดูถูกแบบนี้ มีหรือสาวไทยคนนี้จะไม่โกรธ “ถ้าเพื่อนคุณบอกว่าเขาอยากอยู่เงียบๆ และมีคนดูแลอย่างดี แปลว่าเขาต้องการอย่างนั้นจริงๆ รู้จักความเป็นส่วนตัวไหมคะ ต่อให้เป็นเพื่อนกัน หรือเมีย ก็ต้องให้ระยะห่างกันบ้าง อีกอย่างเขาก็สบายดี เข้าเฝือกตรงขาที่กระดูกร้าว คนเป็นเพื่อนมาก็หลายปี อย่ากดดันจนเพื่อนหนีหายไปไม่มีวันกลับไหมคะ”
ฌอง-ปิแยร์ชะงักไปเลย แม้เพลิงฟ้าจะเป็นเจ้าหน้าที่กราฟฟิค แต่ก็ทำงานดีมากและมอร์กานเป็นคนฝากเข้ามา ไม่คิดว่าจะพูดแบบนี้กับเขา
“เฮ้อ คุณน่าจะรู้ว่ามอร์กานเป็นคนอย่างไร เธอต้องหงุดหงิดแค่ไหนที่หาลูกชายหัวแก้วหัวแหวนไม่เจอ” ฌอง-ปิแยร์เปลี่ยนเรื่องแทนเมื่อเห็นอีกฝ่ายโกรธ
“ก่อนจะพูดเรื่องนั้น คุณขอโทษที่ดูถูกฉันก่อนดีกว่าไหมคะ” เพลิงฟ้าจ้องเขาเอาคำขอโทษ
“เอ่อ เอ้อ ขอโทษครับ” ฌอง-ปิแยร์รู้ว่าแม่สาวชาวไทยเป็นคนตรงๆ มานาน แต่ไม่เคยพูดเรื่องส่วนตัวด้วย
“ฉันจะถามโบแวให้เขาติดต่อคุณก็แล้วกัน เห็นเขาว่าเขาอยากหาที่สำหรับทำงานของเขาอยู่” เพลิงฟ้าบอกกแล้วทำงานของเธอต่อให้เสร็จ ก่อนพิมพ์ออกมาเตรียมเช็ครายละเอียด แต่ฌอง-ปิแยร์ไม่ยอมไปจากโต๊ะเธอ จึงหันไปถาม “อะไรอีกคะ”
“รออยู่” ฌอง-ปิแยร์บอกตามตรง
“คุณไม่ต้องรอหรอก ฉันขอรีบเคลียร์งานก่อน ยังไงคุณก็รู้แล้วนี่ว่าเขาปลอดภัยดี ตอนนี้อย่างมากก็หาอะไรกินแล้วก็กินยาและนอน” เพลิงฟ้าเล่าความแล้วก้มหน้าทำงานก่อนคิดได้ “ห้ามบอกใครว่าฉันรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหนนะคะ ฉันรักสงบ แต่เพื่อนคุณน่ะสิ หาเรื่องมาให้ฉัน แล้วจะให้ฉันทิ้งคนเข้าเฝือกก็กระไร”
“เอาเป็นว่า ให้มันติดต่อผมให้ได้นะครับ” ฌอง-ปิแยร์ได้แต่ตัดใจ แต่เท่าที่เธอเล่า เพื่อนเขาก็ยังมีความสุขดีอยู่ถือว่าโอเคอยู่
“คุณช่วยจัดการเรื่องรถเขาให้ด้วยนะคะ” เพลิงฟ้านึกขึ้นได้ เพราะเขาคงไม่สนใจอะไรเท่าไรนัก
“จริงสินะ มัวแต่หาตัวคน ลืมเรื่องอุบัติเหตุไปเลย โอเค” ฌอง-ปิแยร์ถอนหายใจยาวแล้วไปตามเรื่องพวกนี้ต่อ
เพลิงฟ้าทำงานจนเลิกงานแล้วก็กลับไปที่พัก เห็นโบแวนอนอยู่ที่โซฟา เหงื่อออกคิดว่าเป็นไข้
“เป็นไข้เหรอคะ กินยาหรือยัง” เพลิงฟ้าถามเพื่อนร่วมห้องคนใหม่
โบแวสะลืมสะลือ ส่ายหน้าช้าๆ
“กินอะไรหรือยัง” เพลิงฟ้าถามให้แน่ใจ ก่อนช่วยพยุงเขาไปนอนในห้อง เอาเท้าที่เข้าเฝือกยกขึ้นไว้สูง
“ว่าจะโทรสั่งอาหาร แต่ไม่ไหว” โบแวถอนหายใจยาว รู้สึกถึงลมร้อนที่พ่นออกมา
“ไปหาหมอไหม” เพลิงฟ้าถาม อยากเอาเขาไปโรงพยาบาลจะตายอยู่แล้ว
“กินยาก็หาย” โบแวส่ายหน้าไม่ไปโรงพยาบาลอย่างเดียว
“แซนวิชยังเหลืออยู่นี่ ถ้าไม่สั่งก็กินไปก่อนจะได้กินยา” เพลิงฟ้าถอนหายใจยาว ก่อนหยิบโจ๊กซองที่เธออุตส่าห์ตุนไว้ออกมาใส่น้ำร้อนแล้วเอาไปให้เขา
“กินอะไรไม่ค่อยลงเลย” โบแวบอกแล้วยกมือขึ้นปิดหน้า
“สมน้ำหน้า บอกให้อยู่โรงพยาบาลก่อนก็ไม่เชื่อ เอา กินโจ๊กก่อน” เพลิงฟ้าเป่าโจ๊กที่ร้อนอยู่แล้วป้อนเขาทีละคำ
“อะไรน่ะ มันคืออาหารเหรอ” โบแวชิมๆ ก็รสชาติเหมือนซุป
“อืม ข้าวบดละเอียดแล้วก็ต้มน่ะใส่น้ำซุป พอกินได้ก็ดี มันย่อยง่าย แล้วก็ดื่มนมหน่อย ไม่งั้นยาอาจกัดกระเพาะได้นะ” เพลิงฟ้าป้อนโจ๊กเขาจนหมด ดีที่เป็นอาหารอ่อนๆ ทำให้เขากลืนได้คล่อง เธอต้องคอยดูแล เพราะตาเขาจะปิด เธอเอาแผ่นเจลลดไข้ให้เขาด้วย
“ขอบใจ” โบแวเห็นเธอเช็ดปากให้เขา คอยดูแลเขา ทั้งที่ไม่อยากดูแลเขาเท่าไร สำนึกได้ว่าเธอก็เคยช่วยเขาไว้ ครั้งนี้ทำให้เขานึกถึงเหตุการณ์ที่เหมือนความฝัน เพราะฤทธิ์ยา ทำให้จำได้ว่าเพลิงฟ้าช่วยเขาป้องกันโนอาลวนลามเขา
“สงสัยต้องหาคนมาดูแล เอ้อ เจอเพื่อนคุณด้วยนะ เขามาถามฉัน อยากให้คุณโทรกลับเขาหน่อย” เพลิงฟ้าบอกเล่าแล้วเช็ดเหงื่อให้หลังส่งยา
โบแวดูหล่อนเช็ดให้อย่างเร็วและลงน้ำหนักพอดี จึงถาม “เคยพยาบาลใครเหรอ”
“พ่อน่ะ แต่พ่อสบายดีแล้ว มะเร็งขั้นแรก ตอนนี้ไม่มีแล้ว แต่ต้องทานอาหารให้ถูกหลัก ฉันเลยมาทำงานที่นี่ส่งเงินไปให้ แม่ดูแลอยู่ บ้านฉันเปิดร้านขายของชำเล็กๆ จริงๆ ก็พออยู่ได้ล่ะ แต่เป็นหนี้ตอนพ่อป่วยน่ะ” เพลิงฟ้าเล่าความแล้วก็เช็ดซ้ำด้วยผ้าแห่งอีกรอบ “เอาล่ะ เช็ดเหงื่อแห้งแล้ว ก็พักท้องนอนได้”
เพลิงฟ้าไม่เล่ารายละเอียดนัก เพราะเป็นเรื่องส่วนตัวของเธอและเป็นเรื่องปกติที่จะไม่พูดถึงเรื่องในครอบครัว และเขาก็ไม่ได้ถาม
โบแวพยักหน้าแล้วก็นั่งพิงหัวเตียง แปลว่าเขาเป็นไข้ตามปกติ ไม่ถึงขั้นช็อก แต่ก็ไม่สดชื่นเท่าที่ควร แล้วก็กดโทรหาเพื่อน “ไง ฌอง”
“ไงอะไร โทรมาแค่นี้ แค่นั้น ปิดเครื่องหาย คิดไหมว่าพ่อแม่เป็นห่วงแค่ไหน” ฌอง-ปิแยร์สวดเพื่อนยับ
“โอเค ปลอดภัย มีคนดูแลดีอยู่” โบแวเบื่อฟังเพื่อนบ่น “แค่นี้นะ อย่าไปยุ่งกับพีชอีก เขาแค่ช่วยเหลือดูแลช่วงนี้แหละ”
“โดนด่ามาแล้ว ไม่ให้ถามก็ได้ แต่แกจะอยู่ยังไง” ฌอง-ปิแยร์ถามเพื่อนให้แน่ใจ
“มีเงิน บอกแม่ พ่อและเลอาด้วยว่าไม่ต้องกังวลอะไร ฉันอยากได้เวลาทำงาน แบบนี้ก็ดี ไม่ต้องมีเรื่องผู้หญิงมาวุ่นวาย แกน่าจะดีใจที่สุดไม่ใช่เหรอ” โบแวบอกตัดบทเพื่อนง่ายๆ เขาก็อยากจะพัก แต่เพลิงฟ้าจับเขานั่งพิงพนัก เพราะต้องการให้กระเพาะได้ทำงานระดับหนึ่ง
“แล้วที่ดูแลอยู่ไม่ใช่ผู้หญิงเหรอวะ” ฌอง-ปิแยร์ย้อนเพื่อน
“ก็ใช่แต่ก็ไม่รู้สึกวุ่นวายอะไร เอาเป็นว่าไม่ต้องเป็นห่วง” โบแวมองหล่อนที่อยู่นอกห้องขณะคุยกับเพื่อน แล้วมองภาพเพลิงฟ้ากับโนราจูบกันแนบแน่นที่หัวเตียง จึงรู้ว่าสองคนนี่ไม่ใช่แค่เพื่อนเฉยๆ แต่เป็นคนรัก
โบแวพูดอีกนิดแล้วก็วางสายเพื่อน เห็นหล่อนปอกผลไม้ทานแล้วก็อ่านหนังสือ สักพักเขาก็ลืมตาต่อไม่ไหวแล้วจึงหลับไปก่อนเธอเสียอีก วันนี้เขาก็ยังไม่มีเวลาสั่งเตียงหรือทำอะไร จึงได้แต่นอนเตียงเดียวกันเธออีกรอบ
เพลิงฟ้าทำธุระเสร็จแล้วก็เข้านอน เห็นเขานอนถอดเสื้อก็ห่มผ้าให้ จัดให้เขานอนดีๆ เอาหมอนรองเท้าเขาให้สูงไว้ ไม่ให้เลือดคั่ง แล้วก็นอนข้างๆ โดยมีหมอนข้างกั้นไว้ ดีที่เป็นเตียงหกฟุต ไม่งั้นคนร่างสูงอย่างเขาคงได้ตกเตียงแน่นอน
*********************
เสียงถอนหายใจดังขึ้น เพลิงฟ้าเห็นเขาเหงื่อแตกพลั่ก ก็คิดว่าคงต้องหยุดงานเพื่อดูแล จึงโทรไปลางานกับหัวหน้า บอกว่าจะเข้าไปรับงานมาทำที่บ้าน เพราะเพื่อนร่วมห้องไม่สบาย
จากนั้นก็ไปเตรียมอาหารเช้าแล้วก็ปลุกเขามาเช็ดตัวไม่ให้สะสมไข้ โบแวรู้สึกตัวตอนที่เธอมาเช็ดตัวเพื่อให้ไข้ลดนี่เอง แล้วก็ป้อนอาหารเช้าให้เขาเป็นอาหารแบบเดิมเมื่อวาน แล้วก็ส่งยาให้เขา
“วันนี้ไม่ไปทำงานเหรอ” โบแวเพิ่งมีสติจึงถามขึ้น
“สภาพคุณเนี่ย ขืนทิ้งไว้ได้ลงหลุมแน่ ยังไงถ้าบ่ายนี้ไข้ไม่ลด ต้องไปหาหมอ กลัวติดเชื้อเรื้อรัง” เพลิงฟ้าบอกเล่าแล้วก็เอาเจลที่แช่เย็นไว้มาให้เขาเอาวางบนหน้าผาก “ระวังไว้ก่อนดีกว่า”
โบแวพยักหน้า รู้สึกร้อนๆ ในตัวอยู่เหมือนกัน
“ห่มผ้าด้วยให้เหงื่อออก เหงื่อออกมาก็ดีระบายไข้ นั่งสักพัก อีกครึ่งชั่วโมงค่อยนอน เดี๋ยวเป็นกรดไหลย้อน” เพลิงฟ้าห่มผ้าให้เขา มองลูกเจ้านายที่บังเอิญมาให้เธอช่วยอยู่เรื่อยอย่างขำๆ
“มีสมุดสเกตไหม” โบแวถามขึ้น เผื่อเขานอนไม่หลับจะได้ทำงาน
“มีสิ แต่นอนพักก่อนแล้วกัน จะเอามาวางไว้ให้ที่หัวเตียง” เพลิงฟ้าบอกแล้วก็ออกไปอ่านหนังสือเปิดคอมเพื่อทำงานที่เอามาด้วยเมื่อวาน
“สีด้วย” โบแวบอกอีกรอบ
“นอนก่อนสิ” เพลิงฟ้าอยากให้ได้พักมากๆ จะได้หายเร็วๆ
“อืมๆ ยังไงตอนนี้ก็คิดอะไรไม่ออก นอนก็ได้” โบแวได้แต่ยอมแพ้ นั่งพิงหัวเตียงแล้วหลับตาแทน เพราะอาหารยังไม่ย่อย
เพลิงฟ้าก็ทำงาน เปิดประตูห้องไว้ แล้วเที่ยงก็ปลุกมาทานมื้อเที่ยง ส่งแซนวิชให้กับนม แล้วก็ยา จากนั้นก็ทำงานของตัวเองต่อ จนบ่ายก็ต้องแปลกใจเมื่อมีคนมากดกริ่ง และคงไม่ใช่แฟนสาวที่มีกุญแจ ซึ่งไปทำงานที่ต่างประเทศ ยังไม่กลับ และคงไม่กลับก่อนเวลามากอย่างนี้
เมื่อเปิดประตูห้องก็เห็นฌอง-ปิแยร์ ซึ่งทักเธอทันที “มันอยู่นี่ใช่ไหม”
เพลิงฟ้าถอนหายใจ ก่อนพยักหน้า “อย่าพูดเสียงดังได้ไหมคะ เขานอนหลับอยู่”
“คิดแล้วว่าคุณลางานต้องมีอะไร มันเป็นหนักขึ้นล่ะสิ พามันไปโรงพยาบาลได้แล้ว” ฌอง-ปิแยร์เข้าไปด้านในแล้วมองเพื่อนหลับ ก่อนถอนหายใจ จับดูมีไข้เล็กน้อย
“ไข้ใกล้ลดแล้ว เห็นว่าไม่มีไข้จะทำงานต่อ” เพลิงฟ้าบอกเล่า ขี้เกียจเถียงกับตากล้องหนุ่ม
“ทำไมไม่เรียกรถพยาบาลมารับไปโรงพยาบาล ปล่อยให้มันเป็นไข้อย่างนี้ได้ยังไง” ฌอง-ปิแยร์หันมาตำหนิเพลิงฟ้าด้วยความเป็นห่วงเพื่อน
“เพื่อนคุณนะ หรือคุณไม่รู้จักเขาล่ะ ดื้อเหมือนลา จะให้ฉันเรียกรถพยาบาลมาพาไปเหรอ ตามตำรวจมาลากไปง่ายกว่าไหมคะ” เพลิงฟ้าย้อนถามเสียงต่ำและเบา ทำเอาฌอง-ปิแยร์สะอึก เพราะรู้สันดานเพื่อนรักดี
โบแวค่อยๆ ลืมตามอง เห็นเพื่อนก็ตกใจเล็กน้อย “มาทำไมวะ บอกว่าไม่ต้อง”
“มาดูน่ะสิ หน้าซีดฉิบหาย ไปโรงพยาบาลเลยนะ” ฌอง-ปิแยร์หันมามองเพื่อนแล้วบังคับทันที
“ขอร้อง หยุดเป็นพ่อฉันสักวัน ฉันดีขึ้นมาแล้ว พีชดูแลดี” โบแวบอกเพื่อนแล้วสะบัดมือ เมื่อเพื่อนจับแขน ก่อนมองเพลิงฟ้า “เช็ดตัวให้อีกทีสิ ไข้จะได้ลด”
“คุยกับเพื่อนให้เสร็จก่อนไหม” เพลิงฟ้าออกไปจากห้องปล่อยให้เพื่อนคุยกันเอง
“โบแว แกจะทำอะไรของแกแน่” ฌอง-ปิแยร์มองเพลิงฟ้าปิดประตูห้อง
“ฉันเบื่อชีวิตเดิมๆ แล้วว่ะ ฉันอยากหาสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ อีกอย่างพีชเขาก็ยอมช่วย” โบแวบอกเล่าแล้วถอนหายใจ ก่อนบอกอีก “โนอามันวางยาฉัน”
“หา!!! ไอ้สารเลว ทำอีกแล้ว ซ้ำๆ เบื่อมันโว๊ย” ฌอง-ปิแยร์ด่าอีกหลายคำ ก่อนเรียกสติได้ “ที่แกเกิดอุบัติเหตุนี่เพราะมันเหรอ”
“เออสิ ดื่มบรั่นดีที่มันรินให้แก้วเดียวเอง” โบแวตอบแล้วกระแทกลมหายใจ “แกไปจัดการเรื่องอุบัติเหตุให้หน่อยสิ จ่ายให้รถที่ฉันไปชนด้วยนะ เขาฝากนามบัตรประกันไว้แล้วนี่”
“เออ จัดการไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว” ฌอง-ปิแยร์พูดแล้วก็ถอนหายใจยาว “ต้องจัดการไอ้โนอาเสียบ้างแล้ว ทำเกินไปแล้วนะ ต่อหน้าฌากเลยเหรอเนี่ย สารเลวจริงๆ”
“มันคงกะให้ฉันค้างแล้วปล้ำล่ะ” โบแวพูดแล้วถอนหายใจยาว ก่อนนึกขึ้นได้ “ช่วยอะไรหน่อยสิ คืออยากให้ซื้อเตียงที่นอนมาใส่ที่ห้องข้างๆ นี่หน่อย เพื่อนพีชย้ายออกไปอยู่กับแฟน แล้วฉันก็ไม่สบาย อยากได้ที่นอนสบายๆ”
“เออนะ เสือกใช้อีก เอาเงินมา” ฌอง-ปิแยร์บ่นแต่ก็ทำให้เพื่อน
“วันนี้เลยนะ ไม่ไหวแล้ว สงสารพีช ยังไม่ได้อาบน้ำเลย” โบแวถอนหายใจยาว
“เป็นไข้นี่ อาบน้ำได้ยังไงล่ะ นี่เขาพาไปห้องน้ำเลยเหรอ” ฌอง-ปิแยร์ถามแล้วก้ปิดปากหัวเราะ
“ก็ตอนเป็นไข้หนักๆ ก็ใช่ ตอนนี้เข้าเองได้ โว๊ย” โบแวกระแทกลมหายใจ
“เออ จะรีบไปสั่งเตียงกับที่นอนมาให้ แล้วเสื้อผ้าล่ะ” ฌอง-ปิแยร์ไม่รู้ว่าเพื่อนเอาเสื้อที่ไหนมาใส่
“ก็ของพีช พีชมีเสื้อตัวใหญ่ๆ หลายตัว คือหล่อนเป็นเลสเบี้ยนน่ะ ชอบใส่เสื้อตัวใหญ่ๆ” โบแวบอกแล้วถอนหายใจ “เอาบ็อกเซอร์กับกางเกงในมาให้ด้วย”
“กลับด้านเอาสิ” ฌอง-ปิแยร์บอกก็โดนเพื่อนเหวี่ยงหมอนใส่ “เอ๋า ปกติแกไม่ใส่อะไรนอน นี่ก็นอนทั้งวัน ต้องใส่ด้วยเหรอ”
“ไม่ได้นอนคนเดียว หรือนอนกับสาวๆ นี่หว่า” โบแวถอนหายใจอีกรอบ รู้ว่าเพื่อนกำลังเห็นเขาเป็นของเล่น
“พีชไม่สาวเหรอวะ” ฌอง-ปิแยร์โยนหมอนกลับไปให้ แล้วลุกขึ้น
“ไปหาที่นอนมาให้ฉันได้แล้ว อย่าลืมกางเกงด้วย” โบแวบอก
“ให้ฉันเช็ดตัวให้แกก่อนเถอะ สงสารพีช ต้องยอมดูแลลูกเจ้านาย เพราะไม่อยากตกงาน” ฌอง-ปิแยร์จะช่วย
“ไม่ต้อง เดี๋ยวพีชทำเองดีกว่า เขาเคยดูแลคนป่วยน่ะ เขาทำเป็น” โบแวบอกเพื่อนแล้วก็เรียกเพลิงฟ้า
“รบกวนหน่อยนะ” ฌอง-ปิแยร์พูดแทนเพื่อน
“ไม่เป็นไรค่ะ คนป่วยปล่อยให้ตายก็เกินไปแล้วค่ะ” เพลิงฟ้าเอาน้ำอุ่นกับผ้าขนหนูไปเช็ดตัวให้โบแว
ฌอง-ปิแยร์แอบมองเพลิงฟ้าอย่างสำรวจ หากเป็นคนอื่นเขาคิดว่าต้องมีใจให้โบแวแน่นอน ถึงยอมดูแลแบบนี้ เพราะถ้าเป็นเรื่องเงิน เขาคงไม่โดนตอกกลับหน้าหงายแบบที่ผ่านมา แต่ก็ไม่เคยมีท่าทีกับโบแวมาก่อน เขาจึงไม่แน่ใจนักว่าเพลิงฟ้าจะชอบโบแว หรือไม่อาจเป็นรักแรกพบก็ได้ คนที่มีรูปลักษณ์อย่างโบแว...ใครเห็นก็ชอบทั้งนั้น
รูปร่างสูงโปร่ง ดูอ้อนแอ้น ผมยาวสีทองเงางาม ดวงหน้าสวยหวานชวนหลงใหลทำให้ใครต่อใครติดใจมานานแล้ว แม้จะชอบแข่งรถแต่ก็เพื่อเคลียร์สมองให้ว่างเท่านั้น
*********************
สนามบินนานาชาติเป็นสถานที่เธอไม่อยากมาที่สุด เพราะคนเยอะวุ่นวายและมีทุกภาพให้เห็น แต่เพลิงฟ้ามารอรับแฟนสาวคนสวย กอดจูบกันพอสมควร พวกนางแบบเพื่อนของโนราก็ต่างมอง เพราะโนราสวยแต่กลับเลือกคบกับผู้หญิงเฉิ่มๆ อย่างเพลิงฟ้าเป็นเรื่องที่ผิดความคาดหมาย
“คิดถึงไหม” โนราถามคนรักกอดแขนออดอ้อน
“ไม่กลัวเพื่อนว่าเหรอ” เพลิงฟ้าถามอย่างสงสัย ขณะเดินมาเรียกรถที่ด้านหน้าสนามบิน
“กลัวทำไม ถ้ากลัวจะให้มารับเหรอ” โนราตอบอย่างไม่ใส่ใจนัก ใช้นิ้วม้วนผมสีนิลยาวคนรัก และไปเรียกแท็กซี่กัน เพราะคนรักขับรถไม่ค่อยแข็งเท่าไรนัก
เพลิงฟ้าหัวเราะ ก่อนฟังโนราบอกให้ไปอพาร์ทเมนต์เธอ “ไปอพาร์ทเมนต์เธอก็ได้นะ”
“ทำไมล่ะ ตอนนี้วีฟไม่อยู่แล้วนี่”
“ก็มีเพื่อนร่วมห้องใหม่แล้ว แต่คงอยู่ไม่นานหรอก” เพลิงฟ้าบอกเล่าสีหน้าเรียบเฉย
“ขี้เกรงใจจริงนะ ไปอพาร์ทเมนต์เธอนั่นแหละดีแล้ว” โนราบอกแท็กซี่แล้วก็กอดคนรักอย่างไม่สนใจใคร
แท็กซี่หนุ่มเห็นแล้วก็เสียดาย แต่โลกรักเสรีเป็นสิ่งที่ไม่อาจจำกัดด้วยเพศหรือนิยามใดๆ
เมื่อรถถึงหน้าตึก โนราจ่ายเงินแล้วตามคนรักขึ้นไปชั้นสาม เมื่อไปถึงห้องพักแล้ว ก็กอดจูบกันนัวเนีย ล้มลงที่เก้าอี้โซฟาหน้าห้อง ก่อนหัวเราะคิกคักกันแล้วกอดจูบกันต่อ จนกระทั่งเสียงเปิดประตูดังขึ้น
โบแวมองสองสาว กอดจูบกันแล้วรีบเข้าห้องอย่างตกใจ
“ไม่เป็นไร โบแว คุณน่าจะจำโนราได้นะ” เพลิงฟ้ารีบเรียก แต่โบแวปิดประตูห้องไปแล้ว โนราหัวเราะคิกคัก
“ไง โบแว ไม่เห็นต้องตกใจอย่างนั้นเลย” โนราได้ทีก็พูดแซว เพราะคนรักยังไม่ได้เล่าเรื่องโบแวให้ฟัง จริงๆ ต้องบอกว่าเธอมัวแต่พูด จนไม่ได้ถามมากกว่า
“อืม” โบแวพูดแค่นั้นแล้วก็รอในห้อง
“เข้าไปในห้องดีกว่านะ” เพลิงฟ้าบอกสาวคนรัก แล้วพากันเข้าห้องนอน
โบแวถึงออกมาจากห้องแล้วหาของกิน ก่อนจะกลับเข้าห้องตัวเอง ตอนนี้เขาไม่มีไข้แล้ว ก็สามารถทำอะไรต่อมิอะไรเองได้แล้ว ตั้งใจจะหาเวลาไปเที่ยวบ้าง จะได้แรงบันดาลใจในการออกแบบเสื้อผ้าชุดใหม่ แต่ชุดต่อจากครั้งที่แล้ว เขามีไว้แล้ว แค่ปรับให้ดีขึ้น ส่วนชุดใหม่ เขาจะต้องหาแรงบันดาลใจที่ฉีกแนวไปจากเดิม
*********************
สีหน้าเรียบเฉยต้องกลายเป็นยุ่งยากใจเมื่อเจ้านายเรียกไปพบ บอกให้ไปหาเจ้าของนิตยสารโดยไม่บอกว่าเรื่องอะไร เพลิงฟ้าต้องรีบวางมือจากงานที่กำลังล้นโต๊ะอยู่ รีบขึ้นไปพบเจ้าของนิตยสาร
มอร์กานมองหน้าเพลิงฟ้าที่ไม่ได้เจอเลย หลังเวอจินี่เพื่อนเธอแนะนำและเธอพาเข้ามาทำงาน เพราะชอบงานของหล่อน สำรวจแล้วไม่น่าใช่ผู้หญิงตามสเปกของลูกชายแน่ๆ ก็โล่งใจได้ไปเปราะหนึ่ง ก่อนถาม “โบแวสบายดีไหม”
เพลิงฟ้าคิดแล้วว่า ท้ายที่สุดฌอง-ปิแยร์ต้องไม่สามารถปิดความจริงจากแม่ของโบแวได้ และก็จริงดังคาด
“สบายดีค่ะ ไปหาหมอตามนัด แผลก็เชื่อมต่อกันอยู่ค่ะ” เพลิงฟ้าบอกเล่าไปตามเรื่อง
“เขาทำความลำบากให้เธอไหม แล้วมีวี่แววว่าจะกลับไปอยู่บ้านเขาไหม” มอร์กานใส่เป็นชุดอย่างหนักใจ
“ไม่ทราบค่ะ เห็นนั่งแก้งานอยู่ทุกวันค่ะ ส่วนเรื่องกลับ ไม่ทราบค่ะ” เพลิงฟ้าตอบคล่องเพราะรู้ว่าต้องมีสักวันที่แม่เขาจะเรียกมาถาม ถ้าเขายังไม่กลับบ้านแบบนี้ จึงเตรียมตัวไว้
เสียงถอนหายใจดังขึ้น มอร์กานได้แต่พยักหน้า “ขอบใจที่ช่วยดูแลลูกจอมเอาแต่ใจของฉัน ไม่รู้ทำไมเขาถึงไปขอความช่วยเหลือของเธอ ฌองบอกว่าเธอไม่ได้สนิทกับโบแวเลย แต่ก็ขอบใจที่ช่วย”
“ไม่เป็นไรค่ะ เพราะเขาก็ดูจะเอาแต่ใจมากค่ะ ก็คงต้องช่วย” เพลิงฟ้าพูดตามตรงและทำให้มอร์กานหัวเราะ
“ใช่ เขาเอาแต่ใจเหมือนพ่อเขา พวกศิลปินก็อย่างนี้แหละ” มอร์กานบอก ก่อนเขียนเช็คแล้วยื่นให้ “รับไปแล้วซื้ออะไรดีๆ ให้เขากินบ้างนะ ไม่ได้บอกว่าเธอดูแลเขาไม่ดี แต่นิสัยเขาชอบกินอาหารไม่ถูกหลัก เธอน่าจะเดาได้จากสิ่งที่เขาสั่งให้เธอซื้อน่ะ”
“อ๋อ ค่ะ ได้ค่ะ” เพลิงฟ้ารับเช็คมา แล้วก็มองสิ่งที่จดลงในกระดาษที่มอร์กานเขียนให้เป็นรายการอาหารพร้อมอาหารเสริมบำรุงร่างกายลูกชายตัวแสบ
“ซื้อตามนี้เลยนะ ขอบใจมากที่ช่วยดูแลเขา ฉันรู้ว่าถ้าเธอไม่ช่วยเขา เขาก็คงเตลิดไปอีกแน่” มอร์กานบอกอย่างรู้นิสัยลูกชายดี โดยเฉพาะนิสัยเอาแต่ใจ ยิ่งไม่ต้องพูดถึง
เพลิงฟ้าออกมาจากห้องแล้วถอนหายใจ กลับไปทำงานต่อ และโทรสั่งอาหารให้มาส่งหลังเลิกงาน จะได้กลับไปจ่ายตอนถึงบ้านแล้ว เมื่อถึงบ้านและเห็นอาหาร โบแวก็นิ่งอึ้ง
“แม่สั่งมาให้ฉันล่ะสิ” โบแวพูดขึ้นเมื่อได้สติ
“ท่านเป็นห่วงก็ทานเถอะ” เพลิงฟ้าบอกแล้วเอาใส่จานวางให้
“มีอาหารเสริมด้วย แม่ให้เงินคุณเท่าไร” โบแวถามขึ้น แค่ค่าอาหารก็บานแล้ว
“ตามเช็ค” เพลิงฟ้าส่งให้โบแวดู เธอยังไม่เอาไปขึ้นเงินเลย
“อืม” โบแวไม่กล้าพูดดูถูกเธอ เพราะเจอฤทธิ์มาแล้ว จึงเงียบๆ ไป “โนราจะมาอีกไหม”
“มาเรื่อยๆ ทำไม ลำบากใจเหรอ” เพลิงฟ้าพูดแล้วก็ยิ้มขำ เพราะห้องแค่นี้ก็คงได้ยินอะไรบ้าง
“เปล่า ก็เรื่อยๆ” โบแวเห็นเธอเปิดตู้เย็นหาของกิน ก็ชวน “อ้าว ไม่กินด้วยกันเหรอไง”
เพลิงฟ้าหันมามองแล้วยิ้ม “นึกว่าจะไม่ชวนซะแล้ว”
“กินหมดก็คงแปลกแล้วล่ะ” โบแวบอกตามตรง เพราะแม่เขาสั่งของมาให้เยอะแยะ
“ไม่หมดใส่กล่องแช่ ไว้กินมื้ออื่นสิ” เพลิงฟ้าหยิบช้อนส้อมของตัวเองมากิน
โบแวมองแล้วก็ขมวดคิ้ว เห็นอยู่ในลิ้นชัก แต่ไม่ค่อยเห็นเอาออกมาใช้ “ทำไมใช้ช้อน”
“บ้านฉันใช้แบบนี้ คุณก็ใช้ส้อมของคุณไปสิ ช้อนมันใช้ตักข้าวสะดวก จริงๆ เมื่อก่อนฉันก็รู้สึกแปลกๆ ที่พวกคุณใช้ส้อมตักข้าว เห็นแล้วงง เพราะมันตักยาก เอาน่า ทนๆ เอาหน่อย เวลาไปทานนอกบ้าน ฉันก็ไม่ได้ใช้ช้อนเสียหน่อย นอกจากเวลาทานซุป” เพลิงฟ้าอธิบายๆ นานๆ ทีถึงจะคุยกันนานๆ ต่างคนต่างอยู่มาก และเขาก็ดูจะช่วยเหลือตัวเองได้ดี
โบแวพยักหน้าช้าๆ เหมือนกำลังคบเพื่อนผู้ชายมากกว่าผู้หญิง แต่ท่าทางของเพลิงฟ้าก็ไม่ใช่ผู้ชายเสียทีเดียว บางทีก็แอบมีมุมของผู้หญิงบ้าง พอมองใกล้ๆ ก็สังเกตเห็นแว่นตาของเพลิงฟ้า ที่ไม่ใช่แว่นสายตา ก็คว้าเอามาดู
“เอ้อ” เพลิงฟ้าตกใจจะคว้าก็ไม่ทัน
โบแวเอาแว่นตามาดู แล้วมองหน้าเพลิงฟ้าอีกรอบ จากนั้นก็จับผมที่ปรกหน้าออก เผยหน้าตาแบบเอเชียที่จัดได้ว่าสวยทีเดียว ผิวพรรณก็ดี
“นี่เธอจะปิดหน้าตาตัวเองทำไม รู้ตัวไหมว่าหน้าตาไม่ได้ขี้เหร่” โบแวถามแล้วก็จับหน้าหันไปหันมา
เพลิงฟ้าหลบหน้าแล้วขมวดคิ้ว ปัดมือเขาให้ไกล “อย่ามายุ่งกับหน้าฉัน”
จากนั้นก็เขี่ยเอาอาหารใส่จานแล้วแย่งแว่นตากลับมา ก่อนเดินเข้าห้องตัวเอง
โบแวขมวดคิ้วแล้วถอนหายใจ ไม่ใช่ผู้หญิงทุกคนอยากจะสวยเหรอ ทำไมต้องโกรธด้วย แล้วทำไมต้องปกปิดใบหน้าจริงๆ ของตัวเอง หรือจะมีปัญหาอะไรที่ต้องปกปิด
*********************
ในห้องทำงานที่มีแต่ภาพชุดต่างๆ โบแวชี้แจงอธิบายแนวคิดของเขา แล้วก็สีสันที่ใช้ เห็นพ่อพยักหน้า ดูอย่างเงียบๆ เขาก็อธิบายแล้วก็พูดคุยกันตามสภาพของวงการแฟชั่น
“โอเค แกไปแก้ตามที่เราตกลงกัน แล้วพ่อจะส่งไปทำตัวอย่างที่โรงงานเลยนะ” ฌากมองขาของลูกชายแล้วถอนหายใจ เพราะยังใช้ไม้ค้ำยันอยู่ จึงพูดขึ้น “แล้วเมื่อไรแกจะหาย”
“ก็คงหายสักวันแหละครับ นี่ก็จะไปเอาเฝือกออก” โบแวบอกพ่อแล้วเก็บของ ก่อนส่งแบบให้ผู้ช่วยดู เมื่อผู้ช่วยออกไปหมดแล้วเหลือแต่พ่อกับเขา เขาก็เสนอเรื่องที่เขาอยากทำ “ผมว่าจะทำเสื้อเชิ้ตราคาต่ำออกมา เพื่อขายตลาดล่าง ทำดีไซด์สกรีนและแบบดีๆ ราคาเข้าถึงได้ ผมว่าเศรษฐกิจมันคงไม่ดีเท่าไร ยังไงเราทำควบคู่กันไปน่าจะดีกว่านะครับ”
ฌากฟังแล้วก็พยักหน้า “ลองเอาแบบมาดูแล้วก็เนื้อผ้าที่จะใช้มาดู พ่อไม่อยากให้เราทำให้แบรนด์ตกต่ำ”
“ผมจะเอาแบรนด์ผมเนี่ยแหละ เริ่มต้นแบบนั้น อยากให้ราคาต่ำแบบคนชั้นกลางซื้อได้ เพราะคนชั้นกลางมีเยอะกว่า อีกอย่างเสื้อยืดพวกนี้เราสามารถใส่เป็นเสื้อนอนได้ ตอนนี้ผมว่าเราควรปรับเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายบ้าง พวกแฟชั่นชั้นสูง เรายังทำอยู่ แต่เพิ่มเสื้อผ้าต้นทุนต่ำด้วยครับ” โบแวอธิบายพ่อเป็นหลักการ เขาค้นพบว่าบางครั้งคนธรรมดาก็ต้องการเสื้อผ้าแค่สวมใส่ในชีวิตประจำวันเท่านั้น
“ต้องดูก่อน เราควรมีมาตรฐานของเราด้วย เพราะยังไงซะ มันก็มีชื่อราฟาแร็งต่อท้าย อย่าทำลายชื่อของตัวเอง” ฌากยังไม่ค่อยเห็นภาพ แต่รู้ว่าลูกชายกระตือรือร้น “ทำโครงการมา แล้วพ่อจะคุยกับรีอา”
“เฮ้อ ก็ได้ครับ” โบแวตอบพ่อแล้วเก็บข้าวของ
“พ่อรู้ว่าลูกกับรีอามีเรื่องตึงๆ กันอยู่ แต่ลูกต้องรู้ว่าพ่อกับรีอาช่วยกันสร้างแบรนด์ขึ้นมา” ฌากอธิบายให้ลูกชายเข้าใจ
“อ๋อเหรอครับ ถ้าไม่มีฝีมือออกแบบของพ่อ รีอาคงได้ขายของหรอก” โบแวถอนหายใจยาว ก่อนตอกกลับไปอีก “ปกติต้องมาเฝ้างานผม ทำไมวันนี้ไม่มาติอีกล่ะ”
“โธ่ ลูกรัก รีอาก็มีงานที่ต้องจัดการอีกเยอะ ทำใจหน่อยสิ ศิลปินอย่างเราต้องการนักการตลาดนะ ลูก” ฌากอธิบายความสำคัญของรีอา
“เหรอครับ” โบแวไม่ค่อยสนใจความจำเป็นของรีอานัก ถ้าไม่เกรงใจพ่อ เขาจะไปทำบริษัทเองเลย แต่ก็ต้องยอมรับว่า เขายังคงอยู่ภายใต้ปีกของพ่ออยู่ และยังไม่อาจผงาดขึ้นมาให้พ้นจากปีกของพ่อเขาได้
“ลูกรักไม่ต้องกังวลไปหรอก ยังไงรีอาก็ต้องสนับสนุนความสามารถของลูกพ่อแน่ๆ” ฌากตบไหล่ลูกชาย ก่อนชวนไปทานมื้อเที่ยงด้วยกัน
โบแวเซ็งที่พ่อเกรงใจรีอา แม้ตอนแรกเขาจะมองรีอาเป็นคนดี แต่พอโนอาโผล่เข้ามา เขาก็มองรีอาได้ชัดเจนขึ้น จึงแอบสืบเรื่องของรีอามากขึ้น ดีที่พ่อเขายังเชื่อแม่เขาไม่อย่างนั้น ทุกอย่างอาจตกเป็นของรีอามากขึ้นเรื่อยๆ
ธุรกิจพันล้านของพ่อเขา...กลายเป็นน้ำผึ้งหวานที่รีอาต้องการ
*********************
สีหน้าประหลาดใจปรากฏบนดวงหน้าของเพลิงฟ้า ท่าทางอิดโรยของโนราหลังกลับจากไปเดินแบบที่รัสเซียหนึ่งเดือนทำให้เพลิงฟ้าประหลาดใจ หลังจากที่เจเนวิฟย้ายออก โนราก็พักที่ห้องเธอตลอด
“ไหวไหม” เพลิงฟ้าถาม เพื่อนแข้งขาคนรักอ่อนเพลียเหลือเกิน
“ไหวๆ ไปพักที่ห้องเถอะ ง่วงจัง” โนราอิดโรยเสียจนเพลิงฟ้าต้องพยุงจนถึงแท็กซี่
เมื่อถึงอพาร์ทเมนต์แล้วก็พาไปที่ห้องนอน ปล่อยหล่อนอนหลับให้พอ ส่วนเธอก็แวะไปดูโบแวที่กำลังเขียนแบบง่ายๆ ของเขา ก็ถามแก้เก้อ “กินอะไรหรือยัง”
“อืม เรียบร้อยแล้ว” โบแวกวักมือเรียกเพลิงฟ้ามานั่งข้างๆ “มานี่ๆ มาดูนี่สิ น่ารักไหม”
เพลิงฟ้าขยับไปนั่งข้างๆ เขา แล้วดู “น่ารักดีนะ”
ภาพชุดกระโปรงบานยาวเหนือเข่า ผ้าบางเบาสีหวานไล่โทนเป็นชั้นเหมือนกลีบดอกไม้สามชั้น ชั้นในเป็นสีบานเย็นเข้ม ตัวกระโปรงก็เช่นกัน ไล่โทนเหมือนคอชุด มีเข็มขัดสีเข้มตัดกับสีชั้นนอกสุด
“ฉันจะตัดให้เธอ และเธอต้องใส่เป็นแบบให้ฉันด้วย” โบแวบอกเล่ากึ่งสั่ง
เพลิงฟ้าชี้ตัวเองอย่างงงๆ
“ใช่ เธอนั่นแหละ” โบแวเขียนรายละเอียดพร้อมกะขนาดรูปร่างของเพลิงฟ้าลงในภาพ
“ไม่เอา” เพลิงฟ้ารีบปฏิเสธ ก่อนมองเขาเขียนขนาดชุด “นี่ขนาดใคร”
“เธอไง” โบแวบอก แล้วมองอีกรอบ “ใช่แหละ”
“ไม่จริง” เพลิงฟ้ารีบปฏิเสธขนาดสามสิบสี่-ยี่สิบห้า-สามสิบหกที่เขาเขียน
“ใช่สิ ไม่เชื่อไปเอาสายวัดมาวัดเลย ต้องใช่แน่นอน” โบแวมั่นใจว่าดูขนาดไม่ผิด เพราะตอนหล่อนช่วยพยุงเข้าห้องน้ำ ก็ได้สัมผัสตัวเธอพอสมควร
เพลิงฟ้าเลยไปเอาสายวัดมาลองวัดดู หันไปมองโบแวอย่างตะลึง ก่อนถาม “รู้ได้ไง”
“อาชีพฉัน” โบแวบอกแล้วก็ไม่ยอมให้เพลิงฟ้าปฏิเสธ “ยังไงเธอก็ต้องใส่”
เขาเติมสายรัดข้อมือรูปดอกโบตั๋นที่เขาเห็นในประเทศจีนลงไปที่ข้อมือไล่สีแบบเดียวกับชุด เขาทำคอลเล็กชั่นดอกไม้ต่อไปเรื่อยๆ
“ฉันไม่แต่งหรอกนะ” เพลิงฟ้าปฏิเสธอย่างจริงจัง
โบแวเงยหน้าขึ้นมองก่อนบอก “จ้างใส่พันยูโร”
“คิดว่าฉันเห็นแก่เงินหรือไง” เพลิงฟ้าย้อนถามสีหน้ามุ่งมั่น ยังไงไม่มีทางยอม
“งั้นฉันจะให้คนเลิกจ้างโนราคนรักของเธอ” โบแวขู่และได้ผล เมื่อเพลิงฟ้าคว้าสมุดสเกตของเขาออกอย่างหงุดหงิด เขาก็ขมวดคิ้วมองอย่างดุๆ ที่เห็นเธอแกล้งเขาแบบเด็กๆ “ตามใจเธอ เอาสมุดคืนมา”
เพลิงฟ้ากำมือก่อนกระแทกวางที่ตักเขา ก่อนต่อรอง “ต้องไม่ให้ใครรู้ว่าเป็นฉัน”
“ได้สิ” โบแวยอมง่ายๆ ท่าทีเขาเฉยชา ดูจะไม่สนใจเรื่องที่หล่อนกังวลเท่าไรนัก เวลาเขาทำงาน เขาก็ทำจริงจัง ทำของเขาอย่างที่เขาอยากจะทำ
โครงการต่อไปของเขา...บลอสซั่ม...ดอกไม้บานสะพรั่ง
เพลิงฟ้าถอนหายใจยาว รู้ว่ากล่อมเขาให้เลิกบังคับเธอไม่ได้ ไม่รู้ว่าทำไมเวลาผู้ชายคนนี้ดื้อดึง ดูเหมือนจะไม่มีอะไรเปลี่ยนใจเขาได้เลย และเธอก็รู้สึกว่ายากที่จะขัดขืน เพราะเห็นทำท่าสบายๆ อย่างนั้น เขาเอาจริงเรื่องถอดโนราออกจากงานเดินแบบของเขาแน่นอน
โบแวมีอิทธิพลในวงการแฟชั่นไม่น้อย คว้ารางวัลออกแบบตั้งแต่อายุสิบห้า ตอนนี้เพิ่งจะยี่สิบห้าก็มีแบรนด์ของตัวเองมาสามปีแล้ว ถือจะอยู่ภายใต้ราฟาแร็งก็เถอะ และเพลิงฟ้าก็ไม่อยากให้แฟนสาวต้องลำบาก
*********************
พอเช้าเพลิงฟ้าก็เตรียมแซนวิชไว้ให้เขา พร้อมเบอร์โทรสั่งอาหาร เผื่อเขาอยากทานอะไรเอง แล้วไปทำงาน ไม่เห็นฌอง-ปิแยร์มาทำงาน คิดว่าคงตามหาเพื่อนอยู่แน่นอน
“ได้ยินไหม โบแวเกิดอุบัติเหตุแล้วหายไป” เจเนวิฟเข้ามาบอกเพื่อน
“เหรอๆ” เพลิงฟ้ารับคำเหมือนเคย รู้ว่าเมื่อวานเกิดอะไรขึ้น แต่ก้มหน้าก้มตาทำงาน
ตกบ่ายฌอง-ปิแยร์เดินเข้ามาถามหาเธอในห้องกราฟฟิค จากนั้นก็เดินตรงมาหา เธอกำลังงมงานอยู่จึงไม่ทันรู้ตัว ฌอง-ปิแยร์ก็ยืนตรงหน้าคอก
“โบแวอยู่ไหน” ฌอง-ปิแยร์ถามตามตรง
“เขาไม่ให้บอกคุณค่ะ ว่าแต่คุณรู้ได้ยังไง” เพลิงฟ้าถามกลับ ตกใจนิดหน่อยเพราะกำลังหาทางให้งานเดินอยู่
“รู้จากพยาบาลเพราะถามหาเจ้าของไข้ว่าใครเป็น” ฌอง-ปิแยร์บอกตามตรง “ได้ยินว่าเมื่อวานคุณไม่มาทำงานด้วย พีช มันเข้าทางทุกอย่าง”
“เฮ้อ เขาไม่ให้บอกค่ะ” เพลิงฟ้ายืนยันตามที่โบแวสั่งไว้
“เขาให้เธอเท่าไรล่ะ มอร์กานคงยินดีให้มากกว่าแน่” ฌอง-ปิแยร์รู้ว่าเพื่อนต้องเอาเรื่องเงินมาใช้ปิดปากแม่สาวคนนี้แน่นอน
“มองซิเออแซดู” เพลิงฟ้าเรียกชื่อเขาชัดเจน โดนดูถูกแบบนี้ มีหรือสาวไทยคนนี้จะไม่โกรธ “ถ้าเพื่อนคุณบอกว่าเขาอยากอยู่เงียบๆ และมีคนดูแลอย่างดี แปลว่าเขาต้องการอย่างนั้นจริงๆ รู้จักความเป็นส่วนตัวไหมคะ ต่อให้เป็นเพื่อนกัน หรือเมีย ก็ต้องให้ระยะห่างกันบ้าง อีกอย่างเขาก็สบายดี เข้าเฝือกตรงขาที่กระดูกร้าว คนเป็นเพื่อนมาก็หลายปี อย่ากดดันจนเพื่อนหนีหายไปไม่มีวันกลับไหมคะ”
ฌอง-ปิแยร์ชะงักไปเลย แม้เพลิงฟ้าจะเป็นเจ้าหน้าที่กราฟฟิค แต่ก็ทำงานดีมากและมอร์กานเป็นคนฝากเข้ามา ไม่คิดว่าจะพูดแบบนี้กับเขา
“เฮ้อ คุณน่าจะรู้ว่ามอร์กานเป็นคนอย่างไร เธอต้องหงุดหงิดแค่ไหนที่หาลูกชายหัวแก้วหัวแหวนไม่เจอ” ฌอง-ปิแยร์เปลี่ยนเรื่องแทนเมื่อเห็นอีกฝ่ายโกรธ
“ก่อนจะพูดเรื่องนั้น คุณขอโทษที่ดูถูกฉันก่อนดีกว่าไหมคะ” เพลิงฟ้าจ้องเขาเอาคำขอโทษ
“เอ่อ เอ้อ ขอโทษครับ” ฌอง-ปิแยร์รู้ว่าแม่สาวชาวไทยเป็นคนตรงๆ มานาน แต่ไม่เคยพูดเรื่องส่วนตัวด้วย
“ฉันจะถามโบแวให้เขาติดต่อคุณก็แล้วกัน เห็นเขาว่าเขาอยากหาที่สำหรับทำงานของเขาอยู่” เพลิงฟ้าบอกกแล้วทำงานของเธอต่อให้เสร็จ ก่อนพิมพ์ออกมาเตรียมเช็ครายละเอียด แต่ฌอง-ปิแยร์ไม่ยอมไปจากโต๊ะเธอ จึงหันไปถาม “อะไรอีกคะ”
“รออยู่” ฌอง-ปิแยร์บอกตามตรง
“คุณไม่ต้องรอหรอก ฉันขอรีบเคลียร์งานก่อน ยังไงคุณก็รู้แล้วนี่ว่าเขาปลอดภัยดี ตอนนี้อย่างมากก็หาอะไรกินแล้วก็กินยาและนอน” เพลิงฟ้าเล่าความแล้วก้มหน้าทำงานก่อนคิดได้ “ห้ามบอกใครว่าฉันรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหนนะคะ ฉันรักสงบ แต่เพื่อนคุณน่ะสิ หาเรื่องมาให้ฉัน แล้วจะให้ฉันทิ้งคนเข้าเฝือกก็กระไร”
“เอาเป็นว่า ให้มันติดต่อผมให้ได้นะครับ” ฌอง-ปิแยร์ได้แต่ตัดใจ แต่เท่าที่เธอเล่า เพื่อนเขาก็ยังมีความสุขดีอยู่ถือว่าโอเคอยู่
“คุณช่วยจัดการเรื่องรถเขาให้ด้วยนะคะ” เพลิงฟ้านึกขึ้นได้ เพราะเขาคงไม่สนใจอะไรเท่าไรนัก
“จริงสินะ มัวแต่หาตัวคน ลืมเรื่องอุบัติเหตุไปเลย โอเค” ฌอง-ปิแยร์ถอนหายใจยาวแล้วไปตามเรื่องพวกนี้ต่อ
เพลิงฟ้าทำงานจนเลิกงานแล้วก็กลับไปที่พัก เห็นโบแวนอนอยู่ที่โซฟา เหงื่อออกคิดว่าเป็นไข้
“เป็นไข้เหรอคะ กินยาหรือยัง” เพลิงฟ้าถามเพื่อนร่วมห้องคนใหม่
โบแวสะลืมสะลือ ส่ายหน้าช้าๆ
“กินอะไรหรือยัง” เพลิงฟ้าถามให้แน่ใจ ก่อนช่วยพยุงเขาไปนอนในห้อง เอาเท้าที่เข้าเฝือกยกขึ้นไว้สูง
“ว่าจะโทรสั่งอาหาร แต่ไม่ไหว” โบแวถอนหายใจยาว รู้สึกถึงลมร้อนที่พ่นออกมา
“ไปหาหมอไหม” เพลิงฟ้าถาม อยากเอาเขาไปโรงพยาบาลจะตายอยู่แล้ว
“กินยาก็หาย” โบแวส่ายหน้าไม่ไปโรงพยาบาลอย่างเดียว
“แซนวิชยังเหลืออยู่นี่ ถ้าไม่สั่งก็กินไปก่อนจะได้กินยา” เพลิงฟ้าถอนหายใจยาว ก่อนหยิบโจ๊กซองที่เธออุตส่าห์ตุนไว้ออกมาใส่น้ำร้อนแล้วเอาไปให้เขา
“กินอะไรไม่ค่อยลงเลย” โบแวบอกแล้วยกมือขึ้นปิดหน้า
“สมน้ำหน้า บอกให้อยู่โรงพยาบาลก่อนก็ไม่เชื่อ เอา กินโจ๊กก่อน” เพลิงฟ้าเป่าโจ๊กที่ร้อนอยู่แล้วป้อนเขาทีละคำ
“อะไรน่ะ มันคืออาหารเหรอ” โบแวชิมๆ ก็รสชาติเหมือนซุป
“อืม ข้าวบดละเอียดแล้วก็ต้มน่ะใส่น้ำซุป พอกินได้ก็ดี มันย่อยง่าย แล้วก็ดื่มนมหน่อย ไม่งั้นยาอาจกัดกระเพาะได้นะ” เพลิงฟ้าป้อนโจ๊กเขาจนหมด ดีที่เป็นอาหารอ่อนๆ ทำให้เขากลืนได้คล่อง เธอต้องคอยดูแล เพราะตาเขาจะปิด เธอเอาแผ่นเจลลดไข้ให้เขาด้วย
“ขอบใจ” โบแวเห็นเธอเช็ดปากให้เขา คอยดูแลเขา ทั้งที่ไม่อยากดูแลเขาเท่าไร สำนึกได้ว่าเธอก็เคยช่วยเขาไว้ ครั้งนี้ทำให้เขานึกถึงเหตุการณ์ที่เหมือนความฝัน เพราะฤทธิ์ยา ทำให้จำได้ว่าเพลิงฟ้าช่วยเขาป้องกันโนอาลวนลามเขา
“สงสัยต้องหาคนมาดูแล เอ้อ เจอเพื่อนคุณด้วยนะ เขามาถามฉัน อยากให้คุณโทรกลับเขาหน่อย” เพลิงฟ้าบอกเล่าแล้วเช็ดเหงื่อให้หลังส่งยา
โบแวดูหล่อนเช็ดให้อย่างเร็วและลงน้ำหนักพอดี จึงถาม “เคยพยาบาลใครเหรอ”
“พ่อน่ะ แต่พ่อสบายดีแล้ว มะเร็งขั้นแรก ตอนนี้ไม่มีแล้ว แต่ต้องทานอาหารให้ถูกหลัก ฉันเลยมาทำงานที่นี่ส่งเงินไปให้ แม่ดูแลอยู่ บ้านฉันเปิดร้านขายของชำเล็กๆ จริงๆ ก็พออยู่ได้ล่ะ แต่เป็นหนี้ตอนพ่อป่วยน่ะ” เพลิงฟ้าเล่าความแล้วก็เช็ดซ้ำด้วยผ้าแห่งอีกรอบ “เอาล่ะ เช็ดเหงื่อแห้งแล้ว ก็พักท้องนอนได้”
เพลิงฟ้าไม่เล่ารายละเอียดนัก เพราะเป็นเรื่องส่วนตัวของเธอและเป็นเรื่องปกติที่จะไม่พูดถึงเรื่องในครอบครัว และเขาก็ไม่ได้ถาม
โบแวพยักหน้าแล้วก็นั่งพิงหัวเตียง แปลว่าเขาเป็นไข้ตามปกติ ไม่ถึงขั้นช็อก แต่ก็ไม่สดชื่นเท่าที่ควร แล้วก็กดโทรหาเพื่อน “ไง ฌอง”
“ไงอะไร โทรมาแค่นี้ แค่นั้น ปิดเครื่องหาย คิดไหมว่าพ่อแม่เป็นห่วงแค่ไหน” ฌอง-ปิแยร์สวดเพื่อนยับ
“โอเค ปลอดภัย มีคนดูแลดีอยู่” โบแวเบื่อฟังเพื่อนบ่น “แค่นี้นะ อย่าไปยุ่งกับพีชอีก เขาแค่ช่วยเหลือดูแลช่วงนี้แหละ”
“โดนด่ามาแล้ว ไม่ให้ถามก็ได้ แต่แกจะอยู่ยังไง” ฌอง-ปิแยร์ถามเพื่อนให้แน่ใจ
“มีเงิน บอกแม่ พ่อและเลอาด้วยว่าไม่ต้องกังวลอะไร ฉันอยากได้เวลาทำงาน แบบนี้ก็ดี ไม่ต้องมีเรื่องผู้หญิงมาวุ่นวาย แกน่าจะดีใจที่สุดไม่ใช่เหรอ” โบแวบอกตัดบทเพื่อนง่ายๆ เขาก็อยากจะพัก แต่เพลิงฟ้าจับเขานั่งพิงพนัก เพราะต้องการให้กระเพาะได้ทำงานระดับหนึ่ง
“แล้วที่ดูแลอยู่ไม่ใช่ผู้หญิงเหรอวะ” ฌอง-ปิแยร์ย้อนเพื่อน
“ก็ใช่แต่ก็ไม่รู้สึกวุ่นวายอะไร เอาเป็นว่าไม่ต้องเป็นห่วง” โบแวมองหล่อนที่อยู่นอกห้องขณะคุยกับเพื่อน แล้วมองภาพเพลิงฟ้ากับโนราจูบกันแนบแน่นที่หัวเตียง จึงรู้ว่าสองคนนี่ไม่ใช่แค่เพื่อนเฉยๆ แต่เป็นคนรัก
โบแวพูดอีกนิดแล้วก็วางสายเพื่อน เห็นหล่อนปอกผลไม้ทานแล้วก็อ่านหนังสือ สักพักเขาก็ลืมตาต่อไม่ไหวแล้วจึงหลับไปก่อนเธอเสียอีก วันนี้เขาก็ยังไม่มีเวลาสั่งเตียงหรือทำอะไร จึงได้แต่นอนเตียงเดียวกันเธออีกรอบ
เพลิงฟ้าทำธุระเสร็จแล้วก็เข้านอน เห็นเขานอนถอดเสื้อก็ห่มผ้าให้ จัดให้เขานอนดีๆ เอาหมอนรองเท้าเขาให้สูงไว้ ไม่ให้เลือดคั่ง แล้วก็นอนข้างๆ โดยมีหมอนข้างกั้นไว้ ดีที่เป็นเตียงหกฟุต ไม่งั้นคนร่างสูงอย่างเขาคงได้ตกเตียงแน่นอน
*********************
เสียงถอนหายใจดังขึ้น เพลิงฟ้าเห็นเขาเหงื่อแตกพลั่ก ก็คิดว่าคงต้องหยุดงานเพื่อดูแล จึงโทรไปลางานกับหัวหน้า บอกว่าจะเข้าไปรับงานมาทำที่บ้าน เพราะเพื่อนร่วมห้องไม่สบาย
จากนั้นก็ไปเตรียมอาหารเช้าแล้วก็ปลุกเขามาเช็ดตัวไม่ให้สะสมไข้ โบแวรู้สึกตัวตอนที่เธอมาเช็ดตัวเพื่อให้ไข้ลดนี่เอง แล้วก็ป้อนอาหารเช้าให้เขาเป็นอาหารแบบเดิมเมื่อวาน แล้วก็ส่งยาให้เขา
“วันนี้ไม่ไปทำงานเหรอ” โบแวเพิ่งมีสติจึงถามขึ้น
“สภาพคุณเนี่ย ขืนทิ้งไว้ได้ลงหลุมแน่ ยังไงถ้าบ่ายนี้ไข้ไม่ลด ต้องไปหาหมอ กลัวติดเชื้อเรื้อรัง” เพลิงฟ้าบอกเล่าแล้วก็เอาเจลที่แช่เย็นไว้มาให้เขาเอาวางบนหน้าผาก “ระวังไว้ก่อนดีกว่า”
โบแวพยักหน้า รู้สึกร้อนๆ ในตัวอยู่เหมือนกัน
“ห่มผ้าด้วยให้เหงื่อออก เหงื่อออกมาก็ดีระบายไข้ นั่งสักพัก อีกครึ่งชั่วโมงค่อยนอน เดี๋ยวเป็นกรดไหลย้อน” เพลิงฟ้าห่มผ้าให้เขา มองลูกเจ้านายที่บังเอิญมาให้เธอช่วยอยู่เรื่อยอย่างขำๆ
“มีสมุดสเกตไหม” โบแวถามขึ้น เผื่อเขานอนไม่หลับจะได้ทำงาน
“มีสิ แต่นอนพักก่อนแล้วกัน จะเอามาวางไว้ให้ที่หัวเตียง” เพลิงฟ้าบอกแล้วก็ออกไปอ่านหนังสือเปิดคอมเพื่อทำงานที่เอามาด้วยเมื่อวาน
“สีด้วย” โบแวบอกอีกรอบ
“นอนก่อนสิ” เพลิงฟ้าอยากให้ได้พักมากๆ จะได้หายเร็วๆ
“อืมๆ ยังไงตอนนี้ก็คิดอะไรไม่ออก นอนก็ได้” โบแวได้แต่ยอมแพ้ นั่งพิงหัวเตียงแล้วหลับตาแทน เพราะอาหารยังไม่ย่อย
เพลิงฟ้าก็ทำงาน เปิดประตูห้องไว้ แล้วเที่ยงก็ปลุกมาทานมื้อเที่ยง ส่งแซนวิชให้กับนม แล้วก็ยา จากนั้นก็ทำงานของตัวเองต่อ จนบ่ายก็ต้องแปลกใจเมื่อมีคนมากดกริ่ง และคงไม่ใช่แฟนสาวที่มีกุญแจ ซึ่งไปทำงานที่ต่างประเทศ ยังไม่กลับ และคงไม่กลับก่อนเวลามากอย่างนี้
เมื่อเปิดประตูห้องก็เห็นฌอง-ปิแยร์ ซึ่งทักเธอทันที “มันอยู่นี่ใช่ไหม”
เพลิงฟ้าถอนหายใจ ก่อนพยักหน้า “อย่าพูดเสียงดังได้ไหมคะ เขานอนหลับอยู่”
“คิดแล้วว่าคุณลางานต้องมีอะไร มันเป็นหนักขึ้นล่ะสิ พามันไปโรงพยาบาลได้แล้ว” ฌอง-ปิแยร์เข้าไปด้านในแล้วมองเพื่อนหลับ ก่อนถอนหายใจ จับดูมีไข้เล็กน้อย
“ไข้ใกล้ลดแล้ว เห็นว่าไม่มีไข้จะทำงานต่อ” เพลิงฟ้าบอกเล่า ขี้เกียจเถียงกับตากล้องหนุ่ม
“ทำไมไม่เรียกรถพยาบาลมารับไปโรงพยาบาล ปล่อยให้มันเป็นไข้อย่างนี้ได้ยังไง” ฌอง-ปิแยร์หันมาตำหนิเพลิงฟ้าด้วยความเป็นห่วงเพื่อน
“เพื่อนคุณนะ หรือคุณไม่รู้จักเขาล่ะ ดื้อเหมือนลา จะให้ฉันเรียกรถพยาบาลมาพาไปเหรอ ตามตำรวจมาลากไปง่ายกว่าไหมคะ” เพลิงฟ้าย้อนถามเสียงต่ำและเบา ทำเอาฌอง-ปิแยร์สะอึก เพราะรู้สันดานเพื่อนรักดี
โบแวค่อยๆ ลืมตามอง เห็นเพื่อนก็ตกใจเล็กน้อย “มาทำไมวะ บอกว่าไม่ต้อง”
“มาดูน่ะสิ หน้าซีดฉิบหาย ไปโรงพยาบาลเลยนะ” ฌอง-ปิแยร์หันมามองเพื่อนแล้วบังคับทันที
“ขอร้อง หยุดเป็นพ่อฉันสักวัน ฉันดีขึ้นมาแล้ว พีชดูแลดี” โบแวบอกเพื่อนแล้วสะบัดมือ เมื่อเพื่อนจับแขน ก่อนมองเพลิงฟ้า “เช็ดตัวให้อีกทีสิ ไข้จะได้ลด”
“คุยกับเพื่อนให้เสร็จก่อนไหม” เพลิงฟ้าออกไปจากห้องปล่อยให้เพื่อนคุยกันเอง
“โบแว แกจะทำอะไรของแกแน่” ฌอง-ปิแยร์มองเพลิงฟ้าปิดประตูห้อง
“ฉันเบื่อชีวิตเดิมๆ แล้วว่ะ ฉันอยากหาสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ อีกอย่างพีชเขาก็ยอมช่วย” โบแวบอกเล่าแล้วถอนหายใจ ก่อนบอกอีก “โนอามันวางยาฉัน”
“หา!!! ไอ้สารเลว ทำอีกแล้ว ซ้ำๆ เบื่อมันโว๊ย” ฌอง-ปิแยร์ด่าอีกหลายคำ ก่อนเรียกสติได้ “ที่แกเกิดอุบัติเหตุนี่เพราะมันเหรอ”
“เออสิ ดื่มบรั่นดีที่มันรินให้แก้วเดียวเอง” โบแวตอบแล้วกระแทกลมหายใจ “แกไปจัดการเรื่องอุบัติเหตุให้หน่อยสิ จ่ายให้รถที่ฉันไปชนด้วยนะ เขาฝากนามบัตรประกันไว้แล้วนี่”
“เออ จัดการไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว” ฌอง-ปิแยร์พูดแล้วก็ถอนหายใจยาว “ต้องจัดการไอ้โนอาเสียบ้างแล้ว ทำเกินไปแล้วนะ ต่อหน้าฌากเลยเหรอเนี่ย สารเลวจริงๆ”
“มันคงกะให้ฉันค้างแล้วปล้ำล่ะ” โบแวพูดแล้วถอนหายใจยาว ก่อนนึกขึ้นได้ “ช่วยอะไรหน่อยสิ คืออยากให้ซื้อเตียงที่นอนมาใส่ที่ห้องข้างๆ นี่หน่อย เพื่อนพีชย้ายออกไปอยู่กับแฟน แล้วฉันก็ไม่สบาย อยากได้ที่นอนสบายๆ”
“เออนะ เสือกใช้อีก เอาเงินมา” ฌอง-ปิแยร์บ่นแต่ก็ทำให้เพื่อน
“วันนี้เลยนะ ไม่ไหวแล้ว สงสารพีช ยังไม่ได้อาบน้ำเลย” โบแวถอนหายใจยาว
“เป็นไข้นี่ อาบน้ำได้ยังไงล่ะ นี่เขาพาไปห้องน้ำเลยเหรอ” ฌอง-ปิแยร์ถามแล้วก้ปิดปากหัวเราะ
“ก็ตอนเป็นไข้หนักๆ ก็ใช่ ตอนนี้เข้าเองได้ โว๊ย” โบแวกระแทกลมหายใจ
“เออ จะรีบไปสั่งเตียงกับที่นอนมาให้ แล้วเสื้อผ้าล่ะ” ฌอง-ปิแยร์ไม่รู้ว่าเพื่อนเอาเสื้อที่ไหนมาใส่
“ก็ของพีช พีชมีเสื้อตัวใหญ่ๆ หลายตัว คือหล่อนเป็นเลสเบี้ยนน่ะ ชอบใส่เสื้อตัวใหญ่ๆ” โบแวบอกแล้วถอนหายใจ “เอาบ็อกเซอร์กับกางเกงในมาให้ด้วย”
“กลับด้านเอาสิ” ฌอง-ปิแยร์บอกก็โดนเพื่อนเหวี่ยงหมอนใส่ “เอ๋า ปกติแกไม่ใส่อะไรนอน นี่ก็นอนทั้งวัน ต้องใส่ด้วยเหรอ”
“ไม่ได้นอนคนเดียว หรือนอนกับสาวๆ นี่หว่า” โบแวถอนหายใจอีกรอบ รู้ว่าเพื่อนกำลังเห็นเขาเป็นของเล่น
“พีชไม่สาวเหรอวะ” ฌอง-ปิแยร์โยนหมอนกลับไปให้ แล้วลุกขึ้น
“ไปหาที่นอนมาให้ฉันได้แล้ว อย่าลืมกางเกงด้วย” โบแวบอก
“ให้ฉันเช็ดตัวให้แกก่อนเถอะ สงสารพีช ต้องยอมดูแลลูกเจ้านาย เพราะไม่อยากตกงาน” ฌอง-ปิแยร์จะช่วย
“ไม่ต้อง เดี๋ยวพีชทำเองดีกว่า เขาเคยดูแลคนป่วยน่ะ เขาทำเป็น” โบแวบอกเพื่อนแล้วก็เรียกเพลิงฟ้า
“รบกวนหน่อยนะ” ฌอง-ปิแยร์พูดแทนเพื่อน
“ไม่เป็นไรค่ะ คนป่วยปล่อยให้ตายก็เกินไปแล้วค่ะ” เพลิงฟ้าเอาน้ำอุ่นกับผ้าขนหนูไปเช็ดตัวให้โบแว
ฌอง-ปิแยร์แอบมองเพลิงฟ้าอย่างสำรวจ หากเป็นคนอื่นเขาคิดว่าต้องมีใจให้โบแวแน่นอน ถึงยอมดูแลแบบนี้ เพราะถ้าเป็นเรื่องเงิน เขาคงไม่โดนตอกกลับหน้าหงายแบบที่ผ่านมา แต่ก็ไม่เคยมีท่าทีกับโบแวมาก่อน เขาจึงไม่แน่ใจนักว่าเพลิงฟ้าจะชอบโบแว หรือไม่อาจเป็นรักแรกพบก็ได้ คนที่มีรูปลักษณ์อย่างโบแว...ใครเห็นก็ชอบทั้งนั้น
รูปร่างสูงโปร่ง ดูอ้อนแอ้น ผมยาวสีทองเงางาม ดวงหน้าสวยหวานชวนหลงใหลทำให้ใครต่อใครติดใจมานานแล้ว แม้จะชอบแข่งรถแต่ก็เพื่อเคลียร์สมองให้ว่างเท่านั้น
*********************
สนามบินนานาชาติเป็นสถานที่เธอไม่อยากมาที่สุด เพราะคนเยอะวุ่นวายและมีทุกภาพให้เห็น แต่เพลิงฟ้ามารอรับแฟนสาวคนสวย กอดจูบกันพอสมควร พวกนางแบบเพื่อนของโนราก็ต่างมอง เพราะโนราสวยแต่กลับเลือกคบกับผู้หญิงเฉิ่มๆ อย่างเพลิงฟ้าเป็นเรื่องที่ผิดความคาดหมาย
“คิดถึงไหม” โนราถามคนรักกอดแขนออดอ้อน
“ไม่กลัวเพื่อนว่าเหรอ” เพลิงฟ้าถามอย่างสงสัย ขณะเดินมาเรียกรถที่ด้านหน้าสนามบิน
“กลัวทำไม ถ้ากลัวจะให้มารับเหรอ” โนราตอบอย่างไม่ใส่ใจนัก ใช้นิ้วม้วนผมสีนิลยาวคนรัก และไปเรียกแท็กซี่กัน เพราะคนรักขับรถไม่ค่อยแข็งเท่าไรนัก
เพลิงฟ้าหัวเราะ ก่อนฟังโนราบอกให้ไปอพาร์ทเมนต์เธอ “ไปอพาร์ทเมนต์เธอก็ได้นะ”
“ทำไมล่ะ ตอนนี้วีฟไม่อยู่แล้วนี่”
“ก็มีเพื่อนร่วมห้องใหม่แล้ว แต่คงอยู่ไม่นานหรอก” เพลิงฟ้าบอกเล่าสีหน้าเรียบเฉย
“ขี้เกรงใจจริงนะ ไปอพาร์ทเมนต์เธอนั่นแหละดีแล้ว” โนราบอกแท็กซี่แล้วก็กอดคนรักอย่างไม่สนใจใคร
แท็กซี่หนุ่มเห็นแล้วก็เสียดาย แต่โลกรักเสรีเป็นสิ่งที่ไม่อาจจำกัดด้วยเพศหรือนิยามใดๆ
เมื่อรถถึงหน้าตึก โนราจ่ายเงินแล้วตามคนรักขึ้นไปชั้นสาม เมื่อไปถึงห้องพักแล้ว ก็กอดจูบกันนัวเนีย ล้มลงที่เก้าอี้โซฟาหน้าห้อง ก่อนหัวเราะคิกคักกันแล้วกอดจูบกันต่อ จนกระทั่งเสียงเปิดประตูดังขึ้น
โบแวมองสองสาว กอดจูบกันแล้วรีบเข้าห้องอย่างตกใจ
“ไม่เป็นไร โบแว คุณน่าจะจำโนราได้นะ” เพลิงฟ้ารีบเรียก แต่โบแวปิดประตูห้องไปแล้ว โนราหัวเราะคิกคัก
“ไง โบแว ไม่เห็นต้องตกใจอย่างนั้นเลย” โนราได้ทีก็พูดแซว เพราะคนรักยังไม่ได้เล่าเรื่องโบแวให้ฟัง จริงๆ ต้องบอกว่าเธอมัวแต่พูด จนไม่ได้ถามมากกว่า
“อืม” โบแวพูดแค่นั้นแล้วก็รอในห้อง
“เข้าไปในห้องดีกว่านะ” เพลิงฟ้าบอกสาวคนรัก แล้วพากันเข้าห้องนอน
โบแวถึงออกมาจากห้องแล้วหาของกิน ก่อนจะกลับเข้าห้องตัวเอง ตอนนี้เขาไม่มีไข้แล้ว ก็สามารถทำอะไรต่อมิอะไรเองได้แล้ว ตั้งใจจะหาเวลาไปเที่ยวบ้าง จะได้แรงบันดาลใจในการออกแบบเสื้อผ้าชุดใหม่ แต่ชุดต่อจากครั้งที่แล้ว เขามีไว้แล้ว แค่ปรับให้ดีขึ้น ส่วนชุดใหม่ เขาจะต้องหาแรงบันดาลใจที่ฉีกแนวไปจากเดิม
*********************
สีหน้าเรียบเฉยต้องกลายเป็นยุ่งยากใจเมื่อเจ้านายเรียกไปพบ บอกให้ไปหาเจ้าของนิตยสารโดยไม่บอกว่าเรื่องอะไร เพลิงฟ้าต้องรีบวางมือจากงานที่กำลังล้นโต๊ะอยู่ รีบขึ้นไปพบเจ้าของนิตยสาร
มอร์กานมองหน้าเพลิงฟ้าที่ไม่ได้เจอเลย หลังเวอจินี่เพื่อนเธอแนะนำและเธอพาเข้ามาทำงาน เพราะชอบงานของหล่อน สำรวจแล้วไม่น่าใช่ผู้หญิงตามสเปกของลูกชายแน่ๆ ก็โล่งใจได้ไปเปราะหนึ่ง ก่อนถาม “โบแวสบายดีไหม”
เพลิงฟ้าคิดแล้วว่า ท้ายที่สุดฌอง-ปิแยร์ต้องไม่สามารถปิดความจริงจากแม่ของโบแวได้ และก็จริงดังคาด
“สบายดีค่ะ ไปหาหมอตามนัด แผลก็เชื่อมต่อกันอยู่ค่ะ” เพลิงฟ้าบอกเล่าไปตามเรื่อง
“เขาทำความลำบากให้เธอไหม แล้วมีวี่แววว่าจะกลับไปอยู่บ้านเขาไหม” มอร์กานใส่เป็นชุดอย่างหนักใจ
“ไม่ทราบค่ะ เห็นนั่งแก้งานอยู่ทุกวันค่ะ ส่วนเรื่องกลับ ไม่ทราบค่ะ” เพลิงฟ้าตอบคล่องเพราะรู้ว่าต้องมีสักวันที่แม่เขาจะเรียกมาถาม ถ้าเขายังไม่กลับบ้านแบบนี้ จึงเตรียมตัวไว้
เสียงถอนหายใจดังขึ้น มอร์กานได้แต่พยักหน้า “ขอบใจที่ช่วยดูแลลูกจอมเอาแต่ใจของฉัน ไม่รู้ทำไมเขาถึงไปขอความช่วยเหลือของเธอ ฌองบอกว่าเธอไม่ได้สนิทกับโบแวเลย แต่ก็ขอบใจที่ช่วย”
“ไม่เป็นไรค่ะ เพราะเขาก็ดูจะเอาแต่ใจมากค่ะ ก็คงต้องช่วย” เพลิงฟ้าพูดตามตรงและทำให้มอร์กานหัวเราะ
“ใช่ เขาเอาแต่ใจเหมือนพ่อเขา พวกศิลปินก็อย่างนี้แหละ” มอร์กานบอก ก่อนเขียนเช็คแล้วยื่นให้ “รับไปแล้วซื้ออะไรดีๆ ให้เขากินบ้างนะ ไม่ได้บอกว่าเธอดูแลเขาไม่ดี แต่นิสัยเขาชอบกินอาหารไม่ถูกหลัก เธอน่าจะเดาได้จากสิ่งที่เขาสั่งให้เธอซื้อน่ะ”
“อ๋อ ค่ะ ได้ค่ะ” เพลิงฟ้ารับเช็คมา แล้วก็มองสิ่งที่จดลงในกระดาษที่มอร์กานเขียนให้เป็นรายการอาหารพร้อมอาหารเสริมบำรุงร่างกายลูกชายตัวแสบ
“ซื้อตามนี้เลยนะ ขอบใจมากที่ช่วยดูแลเขา ฉันรู้ว่าถ้าเธอไม่ช่วยเขา เขาก็คงเตลิดไปอีกแน่” มอร์กานบอกอย่างรู้นิสัยลูกชายดี โดยเฉพาะนิสัยเอาแต่ใจ ยิ่งไม่ต้องพูดถึง
เพลิงฟ้าออกมาจากห้องแล้วถอนหายใจ กลับไปทำงานต่อ และโทรสั่งอาหารให้มาส่งหลังเลิกงาน จะได้กลับไปจ่ายตอนถึงบ้านแล้ว เมื่อถึงบ้านและเห็นอาหาร โบแวก็นิ่งอึ้ง
“แม่สั่งมาให้ฉันล่ะสิ” โบแวพูดขึ้นเมื่อได้สติ
“ท่านเป็นห่วงก็ทานเถอะ” เพลิงฟ้าบอกแล้วเอาใส่จานวางให้
“มีอาหารเสริมด้วย แม่ให้เงินคุณเท่าไร” โบแวถามขึ้น แค่ค่าอาหารก็บานแล้ว
“ตามเช็ค” เพลิงฟ้าส่งให้โบแวดู เธอยังไม่เอาไปขึ้นเงินเลย
“อืม” โบแวไม่กล้าพูดดูถูกเธอ เพราะเจอฤทธิ์มาแล้ว จึงเงียบๆ ไป “โนราจะมาอีกไหม”
“มาเรื่อยๆ ทำไม ลำบากใจเหรอ” เพลิงฟ้าพูดแล้วก็ยิ้มขำ เพราะห้องแค่นี้ก็คงได้ยินอะไรบ้าง
“เปล่า ก็เรื่อยๆ” โบแวเห็นเธอเปิดตู้เย็นหาของกิน ก็ชวน “อ้าว ไม่กินด้วยกันเหรอไง”
เพลิงฟ้าหันมามองแล้วยิ้ม “นึกว่าจะไม่ชวนซะแล้ว”
“กินหมดก็คงแปลกแล้วล่ะ” โบแวบอกตามตรง เพราะแม่เขาสั่งของมาให้เยอะแยะ
“ไม่หมดใส่กล่องแช่ ไว้กินมื้ออื่นสิ” เพลิงฟ้าหยิบช้อนส้อมของตัวเองมากิน
โบแวมองแล้วก็ขมวดคิ้ว เห็นอยู่ในลิ้นชัก แต่ไม่ค่อยเห็นเอาออกมาใช้ “ทำไมใช้ช้อน”
“บ้านฉันใช้แบบนี้ คุณก็ใช้ส้อมของคุณไปสิ ช้อนมันใช้ตักข้าวสะดวก จริงๆ เมื่อก่อนฉันก็รู้สึกแปลกๆ ที่พวกคุณใช้ส้อมตักข้าว เห็นแล้วงง เพราะมันตักยาก เอาน่า ทนๆ เอาหน่อย เวลาไปทานนอกบ้าน ฉันก็ไม่ได้ใช้ช้อนเสียหน่อย นอกจากเวลาทานซุป” เพลิงฟ้าอธิบายๆ นานๆ ทีถึงจะคุยกันนานๆ ต่างคนต่างอยู่มาก และเขาก็ดูจะช่วยเหลือตัวเองได้ดี
โบแวพยักหน้าช้าๆ เหมือนกำลังคบเพื่อนผู้ชายมากกว่าผู้หญิง แต่ท่าทางของเพลิงฟ้าก็ไม่ใช่ผู้ชายเสียทีเดียว บางทีก็แอบมีมุมของผู้หญิงบ้าง พอมองใกล้ๆ ก็สังเกตเห็นแว่นตาของเพลิงฟ้า ที่ไม่ใช่แว่นสายตา ก็คว้าเอามาดู
“เอ้อ” เพลิงฟ้าตกใจจะคว้าก็ไม่ทัน
โบแวเอาแว่นตามาดู แล้วมองหน้าเพลิงฟ้าอีกรอบ จากนั้นก็จับผมที่ปรกหน้าออก เผยหน้าตาแบบเอเชียที่จัดได้ว่าสวยทีเดียว ผิวพรรณก็ดี
“นี่เธอจะปิดหน้าตาตัวเองทำไม รู้ตัวไหมว่าหน้าตาไม่ได้ขี้เหร่” โบแวถามแล้วก็จับหน้าหันไปหันมา
เพลิงฟ้าหลบหน้าแล้วขมวดคิ้ว ปัดมือเขาให้ไกล “อย่ามายุ่งกับหน้าฉัน”
จากนั้นก็เขี่ยเอาอาหารใส่จานแล้วแย่งแว่นตากลับมา ก่อนเดินเข้าห้องตัวเอง
โบแวขมวดคิ้วแล้วถอนหายใจ ไม่ใช่ผู้หญิงทุกคนอยากจะสวยเหรอ ทำไมต้องโกรธด้วย แล้วทำไมต้องปกปิดใบหน้าจริงๆ ของตัวเอง หรือจะมีปัญหาอะไรที่ต้องปกปิด
*********************
ในห้องทำงานที่มีแต่ภาพชุดต่างๆ โบแวชี้แจงอธิบายแนวคิดของเขา แล้วก็สีสันที่ใช้ เห็นพ่อพยักหน้า ดูอย่างเงียบๆ เขาก็อธิบายแล้วก็พูดคุยกันตามสภาพของวงการแฟชั่น
“โอเค แกไปแก้ตามที่เราตกลงกัน แล้วพ่อจะส่งไปทำตัวอย่างที่โรงงานเลยนะ” ฌากมองขาของลูกชายแล้วถอนหายใจ เพราะยังใช้ไม้ค้ำยันอยู่ จึงพูดขึ้น “แล้วเมื่อไรแกจะหาย”
“ก็คงหายสักวันแหละครับ นี่ก็จะไปเอาเฝือกออก” โบแวบอกพ่อแล้วเก็บของ ก่อนส่งแบบให้ผู้ช่วยดู เมื่อผู้ช่วยออกไปหมดแล้วเหลือแต่พ่อกับเขา เขาก็เสนอเรื่องที่เขาอยากทำ “ผมว่าจะทำเสื้อเชิ้ตราคาต่ำออกมา เพื่อขายตลาดล่าง ทำดีไซด์สกรีนและแบบดีๆ ราคาเข้าถึงได้ ผมว่าเศรษฐกิจมันคงไม่ดีเท่าไร ยังไงเราทำควบคู่กันไปน่าจะดีกว่านะครับ”
ฌากฟังแล้วก็พยักหน้า “ลองเอาแบบมาดูแล้วก็เนื้อผ้าที่จะใช้มาดู พ่อไม่อยากให้เราทำให้แบรนด์ตกต่ำ”
“ผมจะเอาแบรนด์ผมเนี่ยแหละ เริ่มต้นแบบนั้น อยากให้ราคาต่ำแบบคนชั้นกลางซื้อได้ เพราะคนชั้นกลางมีเยอะกว่า อีกอย่างเสื้อยืดพวกนี้เราสามารถใส่เป็นเสื้อนอนได้ ตอนนี้ผมว่าเราควรปรับเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายบ้าง พวกแฟชั่นชั้นสูง เรายังทำอยู่ แต่เพิ่มเสื้อผ้าต้นทุนต่ำด้วยครับ” โบแวอธิบายพ่อเป็นหลักการ เขาค้นพบว่าบางครั้งคนธรรมดาก็ต้องการเสื้อผ้าแค่สวมใส่ในชีวิตประจำวันเท่านั้น
“ต้องดูก่อน เราควรมีมาตรฐานของเราด้วย เพราะยังไงซะ มันก็มีชื่อราฟาแร็งต่อท้าย อย่าทำลายชื่อของตัวเอง” ฌากยังไม่ค่อยเห็นภาพ แต่รู้ว่าลูกชายกระตือรือร้น “ทำโครงการมา แล้วพ่อจะคุยกับรีอา”
“เฮ้อ ก็ได้ครับ” โบแวตอบพ่อแล้วเก็บข้าวของ
“พ่อรู้ว่าลูกกับรีอามีเรื่องตึงๆ กันอยู่ แต่ลูกต้องรู้ว่าพ่อกับรีอาช่วยกันสร้างแบรนด์ขึ้นมา” ฌากอธิบายให้ลูกชายเข้าใจ
“อ๋อเหรอครับ ถ้าไม่มีฝีมือออกแบบของพ่อ รีอาคงได้ขายของหรอก” โบแวถอนหายใจยาว ก่อนตอกกลับไปอีก “ปกติต้องมาเฝ้างานผม ทำไมวันนี้ไม่มาติอีกล่ะ”
“โธ่ ลูกรัก รีอาก็มีงานที่ต้องจัดการอีกเยอะ ทำใจหน่อยสิ ศิลปินอย่างเราต้องการนักการตลาดนะ ลูก” ฌากอธิบายความสำคัญของรีอา
“เหรอครับ” โบแวไม่ค่อยสนใจความจำเป็นของรีอานัก ถ้าไม่เกรงใจพ่อ เขาจะไปทำบริษัทเองเลย แต่ก็ต้องยอมรับว่า เขายังคงอยู่ภายใต้ปีกของพ่ออยู่ และยังไม่อาจผงาดขึ้นมาให้พ้นจากปีกของพ่อเขาได้
“ลูกรักไม่ต้องกังวลไปหรอก ยังไงรีอาก็ต้องสนับสนุนความสามารถของลูกพ่อแน่ๆ” ฌากตบไหล่ลูกชาย ก่อนชวนไปทานมื้อเที่ยงด้วยกัน
โบแวเซ็งที่พ่อเกรงใจรีอา แม้ตอนแรกเขาจะมองรีอาเป็นคนดี แต่พอโนอาโผล่เข้ามา เขาก็มองรีอาได้ชัดเจนขึ้น จึงแอบสืบเรื่องของรีอามากขึ้น ดีที่พ่อเขายังเชื่อแม่เขาไม่อย่างนั้น ทุกอย่างอาจตกเป็นของรีอามากขึ้นเรื่อยๆ
ธุรกิจพันล้านของพ่อเขา...กลายเป็นน้ำผึ้งหวานที่รีอาต้องการ
*********************
สีหน้าประหลาดใจปรากฏบนดวงหน้าของเพลิงฟ้า ท่าทางอิดโรยของโนราหลังกลับจากไปเดินแบบที่รัสเซียหนึ่งเดือนทำให้เพลิงฟ้าประหลาดใจ หลังจากที่เจเนวิฟย้ายออก โนราก็พักที่ห้องเธอตลอด
“ไหวไหม” เพลิงฟ้าถาม เพื่อนแข้งขาคนรักอ่อนเพลียเหลือเกิน
“ไหวๆ ไปพักที่ห้องเถอะ ง่วงจัง” โนราอิดโรยเสียจนเพลิงฟ้าต้องพยุงจนถึงแท็กซี่
เมื่อถึงอพาร์ทเมนต์แล้วก็พาไปที่ห้องนอน ปล่อยหล่อนอนหลับให้พอ ส่วนเธอก็แวะไปดูโบแวที่กำลังเขียนแบบง่ายๆ ของเขา ก็ถามแก้เก้อ “กินอะไรหรือยัง”
“อืม เรียบร้อยแล้ว” โบแวกวักมือเรียกเพลิงฟ้ามานั่งข้างๆ “มานี่ๆ มาดูนี่สิ น่ารักไหม”
เพลิงฟ้าขยับไปนั่งข้างๆ เขา แล้วดู “น่ารักดีนะ”
ภาพชุดกระโปรงบานยาวเหนือเข่า ผ้าบางเบาสีหวานไล่โทนเป็นชั้นเหมือนกลีบดอกไม้สามชั้น ชั้นในเป็นสีบานเย็นเข้ม ตัวกระโปรงก็เช่นกัน ไล่โทนเหมือนคอชุด มีเข็มขัดสีเข้มตัดกับสีชั้นนอกสุด
“ฉันจะตัดให้เธอ และเธอต้องใส่เป็นแบบให้ฉันด้วย” โบแวบอกเล่ากึ่งสั่ง
เพลิงฟ้าชี้ตัวเองอย่างงงๆ
“ใช่ เธอนั่นแหละ” โบแวเขียนรายละเอียดพร้อมกะขนาดรูปร่างของเพลิงฟ้าลงในภาพ
“ไม่เอา” เพลิงฟ้ารีบปฏิเสธ ก่อนมองเขาเขียนขนาดชุด “นี่ขนาดใคร”
“เธอไง” โบแวบอก แล้วมองอีกรอบ “ใช่แหละ”
“ไม่จริง” เพลิงฟ้ารีบปฏิเสธขนาดสามสิบสี่-ยี่สิบห้า-สามสิบหกที่เขาเขียน
“ใช่สิ ไม่เชื่อไปเอาสายวัดมาวัดเลย ต้องใช่แน่นอน” โบแวมั่นใจว่าดูขนาดไม่ผิด เพราะตอนหล่อนช่วยพยุงเข้าห้องน้ำ ก็ได้สัมผัสตัวเธอพอสมควร
เพลิงฟ้าเลยไปเอาสายวัดมาลองวัดดู หันไปมองโบแวอย่างตะลึง ก่อนถาม “รู้ได้ไง”
“อาชีพฉัน” โบแวบอกแล้วก็ไม่ยอมให้เพลิงฟ้าปฏิเสธ “ยังไงเธอก็ต้องใส่”
เขาเติมสายรัดข้อมือรูปดอกโบตั๋นที่เขาเห็นในประเทศจีนลงไปที่ข้อมือไล่สีแบบเดียวกับชุด เขาทำคอลเล็กชั่นดอกไม้ต่อไปเรื่อยๆ
“ฉันไม่แต่งหรอกนะ” เพลิงฟ้าปฏิเสธอย่างจริงจัง
โบแวเงยหน้าขึ้นมองก่อนบอก “จ้างใส่พันยูโร”
“คิดว่าฉันเห็นแก่เงินหรือไง” เพลิงฟ้าย้อนถามสีหน้ามุ่งมั่น ยังไงไม่มีทางยอม
“งั้นฉันจะให้คนเลิกจ้างโนราคนรักของเธอ” โบแวขู่และได้ผล เมื่อเพลิงฟ้าคว้าสมุดสเกตของเขาออกอย่างหงุดหงิด เขาก็ขมวดคิ้วมองอย่างดุๆ ที่เห็นเธอแกล้งเขาแบบเด็กๆ “ตามใจเธอ เอาสมุดคืนมา”
เพลิงฟ้ากำมือก่อนกระแทกวางที่ตักเขา ก่อนต่อรอง “ต้องไม่ให้ใครรู้ว่าเป็นฉัน”
“ได้สิ” โบแวยอมง่ายๆ ท่าทีเขาเฉยชา ดูจะไม่สนใจเรื่องที่หล่อนกังวลเท่าไรนัก เวลาเขาทำงาน เขาก็ทำจริงจัง ทำของเขาอย่างที่เขาอยากจะทำ
โครงการต่อไปของเขา...บลอสซั่ม...ดอกไม้บานสะพรั่ง
เพลิงฟ้าถอนหายใจยาว รู้ว่ากล่อมเขาให้เลิกบังคับเธอไม่ได้ ไม่รู้ว่าทำไมเวลาผู้ชายคนนี้ดื้อดึง ดูเหมือนจะไม่มีอะไรเปลี่ยนใจเขาได้เลย และเธอก็รู้สึกว่ายากที่จะขัดขืน เพราะเห็นทำท่าสบายๆ อย่างนั้น เขาเอาจริงเรื่องถอดโนราออกจากงานเดินแบบของเขาแน่นอน
โบแวมีอิทธิพลในวงการแฟชั่นไม่น้อย คว้ารางวัลออกแบบตั้งแต่อายุสิบห้า ตอนนี้เพิ่งจะยี่สิบห้าก็มีแบรนด์ของตัวเองมาสามปีแล้ว ถือจะอยู่ภายใต้ราฟาแร็งก็เถอะ และเพลิงฟ้าก็ไม่อยากให้แฟนสาวต้องลำบาก
*********************
เพลิงวารี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 9 ส.ค. 2561, 19:20:47 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 9 ส.ค. 2561, 19:20:47 น.
จำนวนการเข้าชม : 651
<< Designer's desire By คชสีห์ 02 | Designer's desire By คชสีห์ 04 >> |