กาลครั้งหนึ่งนั้น(ในความบังเอิญ)
เธอกับเขา ความทรงจำที่เคยมีร่วมกันมาก็แค่... อดีตกิ๊ก!
Tags: แต่งงาน,อดีต,รัก,บุพเพสันนิวาส,พรหมลิขิต

ตอน: บทที่ ๑๘ เขาและเรา (130%)

“ถึงว่าโทร.มาก็ไม่รับ”

จิรสินหัวเราะเก้อๆ เมื่อวางแก้วน้ำลงตรงหน้าพ่อกับแม่

“อีกหน่อยพ่อคงได้หลานแล้วมั้งเนี่ย” ผู้เป็นพ่อเย้า “แล้วก็--” ประโยคต่อมาจริงจัง “นี่หนูจันทร์ก็คลอดแล้ว ยายหนูก็โตพอสมควรนี่คิดจะขยับขยายกันยังไง”

“พ่อกับแม่ก็อยากเคลียร์ให้จบนะเรื่องนี้ ที่ขึ้นโรงขึ้นศาลครั้งที่แล้วว่ายังไงบ้างจะถามหนูจันทร์แม่ก็ไม่กล้า”

“ทนายฝ่ายโน้นมือดีเชียวนะครับ” จิรสินถอนหายใจ “ยกเรื่องความสามารถในการเลี้ยงดูบุตรขึ้นมาอ้าง ว่าจันทร์ยังต้องอาศัยเราอยู่”

“เอ พูดแบบนั้นก็ไม่ถูก เอกสารแสดงรายได้กับทรัพย์สินของหนูจันทร์ทนายก็น่าจะมียืนยันนะแล้วยังไง” จิรศักดิ์ซักต่อ

“เราค้านด้วยหลักฐานแน่นอนครับ แต่ทนายฝ่ายเขาแย้งว่านั่นเป็นทรัพย์สินที่ได้มาจากการแต่งงาน ตอนนี้จันทร์ไม่มีงาน มีแต่รายจ่ายอนาคจะทำยังไง ทนายฝ่ายเรายกเรื่องความปลอดภัยมาสู้ แต่ฝ่ายโน้นก็บอกว่าลูกความเขาไม่ได้มีกิริยาคุกคามใดๆ อีกแล้ว”

สุพนิตถอนหายใจ “แค่เห็นหน้าก็เป็นการข่มขวัญแล้ว”

“ห้ามเข้าใกล้เกินสิบเมตรและห้ามอยู่ในที่รโหฐาน เขาก็ทำตามนะครับ แต่ก็อย่างแม่ว่า เจอกันในห้างแล้วสายตามองอย่างกับกินเลือดกินเนื้อแบบนั้น ใครมันจะไว้ใจว่าจะไม่ทำอะไรบ้าๆ”

“มันนานเป็นปีๆ แล้ว แม่ห่วงหนูพิมพ์จะคิดยังไง”

“ผมคุยกับพิมพ์ครับ ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับจันทร์”

จิรศักดิ์กับสุพนิตมองหน้ากันและพร้อมถอนใจเบาๆ

“ไม่ใช่แม่คิดมากนะสิน แต่เกิดหนูจันทร์คิดอยากกลับมาล่ะ แม่เข้าใจนะหนูจันทร์ไม่มีใครแล้วยังถูกผู้ชายแบบนั้นคุกคาม แต่มันก็อดคิดไม่ได้ใช่ไหม ไม่ได้หมายความว่าหนูจันทร์จะร้าย แต่เราก็ต้องคิดเผื่อไว้บ้าง มันไม่เกิดก็ดีไป แต่ถ้าเกิด... แม่ก็กลัว”

จิรสินพยักหน้ารับ “ไว้ผมจะคุยเรื่องจันทร์กับพิมพ์อีกครั้งครับ”

ทั้งพ่อและแม่พยักหน้ารับ อย่างน้อยตอนนี้ปุณณมาก็พอจะขยับขยายที่ทางได้บ้างแล้ว ไม่ใช่ว่าไม่อยากช่วยแต่ ความช่วยเหลือในบางครั้งเราก็ต้องมองถึงความเหมาะสมด้วย

“คือแบบ ได้ยินแว่วๆ ว่าพี่ณันพาณุมาหาแก”

จิรสุตายืดกอดอกหลังพิงประตูห้องน้ำยามเอ่ยถาม

“อื้อ” เสียงตอบกลับดังมาจากด้านหลังบานประตูนั่น ศศิพิมพ์กำลังอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า

“แค่-อื้อ-เหรอ”

“แล้วจะให้พูดอะไรล่ะ ก็แค่คุยกัน เคลียร์กัน”

“โอ้โหพี่ชายฉันใจกว้างขนาดนั้นเชียว”

“เปล่า ณุพูดตรงๆ ว่าขอคุยกันตามลำพัง”

“แม่เจ้า ใครจะนึกมันฟื้นขึ้นมาได้นิสัยก็ยังไม่เปลี่ยน” มีเพียงเสียงหัวเราะเบาๆ ดังลอดออกมา “แล้วอะไรแบบไหน ณุมันไม่คลั่งเหรอที่แกชิงแต่งงานไปก่อนแบบนี้”

อีกฝั่งของบานประตูเงียบไปพักหนึ่ง “พูดตามตรงนะตอนแรกฉันก็กลัว แต่พอได้คุยกันณุกลับไม่ได้เป็นแบบที่เรากลัว”

‘เรามาเพราะอยากเจอพิมพ์ อยากให้รู้เราเข้มแข็งขึ้นแล้วนะ’

ณวัฒน์บอกกับเธอเป็นประโยคแรก เขายิ้มแม้ตาเศร้าแต่ในน้ำเสียงนั่นมีบางอย่างบอกว่าเขาเข้มแข็งขึ้นเหมือนที่พูดจริงๆ

‘เขาดูเป็นผู้ชายหน้าตาดีนะ เราไม่รู้เขานิสัยดีมากไหม แต่เรารู้แค่ว่าพิมพ์ไม่ได้เศร้าเหมือนกับตอนที่ต้องคบเราต่อเพราะสงสารเรา’

“เรายังเป็นเพื่อนกันได้ ฉันรู้สึกเหมือนฉันเพิ่งได้เพื่อนแสนดีกลับมา ดีใจจริงๆ นะที่ณุให้โอกาสฉันได้เป็นเพื่อนเขาอีกครั้ง”

จิรสุตาฟังแล้วถอนหายใจเฮือกใหญ่

“ฉันดีใจด้วย แต่อย่างว่าณุมันก็ต้องเดินไปข้างหน้าบ้างเหมือนกัน ยายน้องอรคู่หมั้นก็รักณุมันจริงจัง คงไม่มีผู้หญิงที่ไหนรอหรอกถ้าผู้ชายมีสิทธิ์เป็นเจ้าชายนิทราน่ะ แต่จะว่าไปก็เหมือนละครเลยแก พ่อแม่พระเอกจัดการให้เสร็จสรรพ แต่พระเอกดันมีสาวในดวงใจพอประสบอุบัติเหตุ นางเอกผู้แสนดีก็คอยดูแล พล็อตนี่มันละครหลังข่าวชัดๆ ที่สุดท้ายพระเอกก็ใจอ่อนเพราะความดีของนางเอก”

“นั่นซิ ส่วนฉันเป็นนางร้ายปั่นหัวเขาเล่นแล้วทิ้ง”

จิรสุตากลอกตา แต่สุดท้ายก็โคลงศีรษะ

นึกดีใจที่เรื่องของศศิพิมพ์กับณวัฒน์มันเคลียร์ได้ง่าย แต่แรกที่เธอได้ยินป้าข้างบ้านจอมสอดรู้บอกว่า ณัฐพงษ์กับณวัฒน์มาก็ถึงกับพูดไม่ออก และได้แต่เร่งผู้เป็นป้าให้ถือวิสาสะเปิดประตูเข้ามาเลย เพราะกลัวว่าจิรสินกับศศิพิมพ์จะมีปัญหากัน

แต่พอมันลงเอยแบบนี้เธอก็หมดห่วง กระนั้นก็ยังแอบห่วงนิดๆ ไม่ได้ว่าณวัฒน์ทำใจได้แล้วจริงๆ หรือ




ดังปัณณ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 8 ส.ค. 2561, 20:56:24 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 8 ส.ค. 2561, 20:56:24 น.

จำนวนการเข้าชม : 657





<< บทที่ ๑๘ เขาและเรา (100%)   บทที่ ๑๘ เขาและเรา -จบตอน-/ บทที่ ๑๙ คลางแคลง >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account