กาลครั้งหนึ่งนั้น(ในความบังเอิญ)
เธอกับเขา ความทรงจำที่เคยมีร่วมกันมาก็แค่... อดีตกิ๊ก!
Tags: แต่งงาน,อดีต,รัก,บุพเพสันนิวาส,พรหมลิขิต

ตอน: บทที่ ๑๘ เขาและเรา -จบตอน-/ บทที่ ๑๙ คลางแคลง

เริ่มต้นวันแรกของสัปดาห์ที่ออฟฟิศยังเฮฮาเหมือนเดิม แต่คนที่แปลกไปคือธนวัฒน์ จากที่เคร่งเครียดอยู่แล้วนับแต่ศศิพิมพ์แต่งงาน ตอนนี้สภาพชายหนุ่มเหมือนซอมบี้เข้าไปทุกวัน



อมทุกข์ เจ็บปวด ทุกอย่างเหมือนจะรวมอยู่ที่เขาคนเดียว



“เอ้อ จะว่าไปนี่แน่ะพิมพ์ พี่หาลูกค้ามาให้”



แม้จะมีพาทิชั่นกั้น แต่ช่องว่างระหว่างโต๊ะก็พอจะมองเห็นกันได้ ดังนั้นเมื่อผู้ฟังยังเหมือนใจลอย นิตาจึงเหลียวมองตาม



ตั้งแต่กัญญาลาออกก็มีการจัดโต๊ะที่นั่งกันใหม่ นิตากับศศิพิมพ์นั่งคู่กัน จิรสุตานั่งอยู่โต๊ะข้างหน้า เยื้องไปเป็นธนวัฒน์และอาทิตย์ ส่วนหน้าสุดเป็นพนักงานใหม่กับเด็กฝึกงาน



“นั่นแน่ะตั้งแต่กลับมาจากดูงานสภาพแย่ยับเยินมาก อย่างกับคนอกหักโทรมซะ”



ศศิพิมพ์ละสายตากลับมามองคนชวนคุย



“แย่นะคะ แล้วรู้ไหมคะทำไม”



นิตาสั่นศีรษะ “ไม่รู้จ้ะ ไม่มีใครเข้าใกล้พ่อเจ้าประคุณได้หรอก คือพี่ก็อดคิดไม่ได้นี่อาการหนักตั้งแต่กัญลาออก ทำอย่างกับโดนกัญมันหักอกเอา”



“พี่นิดคะ”



“แหมคุณน้อง” นิตาโบกมือไปมา “พี่ก็พูดไปงั้น เอ้อนั่นเกือบลืมนี่นามบัตรเขา พี่ตรวจไม่ไหวขอส่งให้พิมพ์ต่อละกัน ขอพี่เซ็นงบสวยๆ ให้ก็พอ” พูดแล้วก็ยื่นกระดาษแผ่นเล็กกลิ่นหอมส่งให้



ศศิพิมพ์รับมาและเอ่ยชื่อบริษัทที่เห็น



“บริษัทก็โอเคนะเท่าที่ดู แล้วค่าจ้างก็งามอยู่”



“น่าสนใจนะคะ”



“ใช่ไหมพี่ก็ว่า ลองติดต่อไปดูสิถ้าเวิร์กก็ลงล็อก”



“ขอบคุณนะคะพี่นิด”



“จ้า พี่ต่างหากที่ต้องขอบคุณ ขอบใจมากที่ช่วยเพราะบริษัทนี้ยังไงๆ พี่ก็ไม่อยากให้หลุดไป จ่ายดีเงินงามไม่มีปัญหากับสรรพากรนี่โคตรจะดีเลย สวรรค์ชัดๆ”



ศศิพิมพ์หัวเราะ ตามองที่ชื่อบริษัทอีกครั้งพลางพึมพำ



“คลินิกงั้นเหรอ”



บทที่ ๑๙ คลางแคลง



“ลูกค้าเจ้านี้พี่นิดส่งต่อมาให้ค่ะ เห็นแกบ่นๆ ว่าเหนื่อยแต่เสียดายค่าจ้างเลยส่งให้พิมพ์แทน ไม่น่าจะมีปัญหานะคะงบก็ปกติ”

ศศิพิมพ์เล่าเรื่องงานให้สามีฟัง แต่เพิ่มเติมมีแขกพิเศษคือณวัฒน์ที่นั่งแท็กซี่มาหาตั้งแต่เย็นและอยู่รับประทานอาหารค่ำด้วย

“ณุจำพี่นิดได้ไหม ตอนนั้นพี่นิดเพิ่งเข้ามาทำงานใหม่พอดี”

คู่สามีภรรยานั่งอยู่ที่โต๊ะรับประทานอาหาร ซึ่งตอนนี้เปลี่ยนเป็นโต๊ะทำงาน จิรสินใช้คอมพิวเตอร์ ส่วนศศิพิมพ์นั่งเย็บเสื้อเชิ้ตของสามีที่กระดุมหลุด ตัวแขกอ่านรายงานงบคร่าวๆ ที่เพื่อนได้รับต่อมาจากนิตา

ณวัฒน์ก็เป็นผู้สอบบัญชี แต่พอเกิดเรื่องจึงไม่ได้รับงานอีก และเป็นเพราะเจ็บอยู่นานใบอนุญาตจึงหมดอายุ ชายหนุ่มมีความคิดที่จะไปสอบใหม่แต่ช่วงนี้คงต้องอาศัยพึ่งพาให้ศศิพิมพ์ช่วย

ณวัฒน์อยากทำงาน และเขาก็ขอทำกับเธอด้วย

“เราคงช่วยพิมพ์ไม่ได้มาก”

ประโยคนั้นทำให้จิรสินเงยหน้าจากจอคอมพิวเตอร์และยิ้มน้อยๆ “อย่าพูดอย่างนั้นสิครับ คุณเพิ่งหายเจ็บอะไรๆ ก็ยังไม่เข้าที่เข้าทางมันต้องใช้เวลาทั้งนั้น อย่างตอนนี้ก็คิดว่าเป็นช่วงฟื้นฟูความรู้แล้วกันครับ”

ความที่ณวัฒน์เป็นคนพูดตรงอยู่แล้วจึงเอ่ยออกไป

“ผมนึกว่าคุณจะบอกว่าผมเป็นตัวถ่วงของพิมพ์เสียอีก”

ศศิพิมพ์ฟังแล้วเหลียวมองสามีแต่พอเห็นรอยยิ้มของจิรสินเธอก็ผ่อนลมหายใจ

อีกคนพูดตรง

อีกคนก็เหมือนกันอย่างกับแกะ!

“จริงๆ ผมก็อยากพูดนะ ถ้าไม่รู้ว่าคุณเคยเป็นนักบัญชีมือดีมาก่อน แถมยังเป็นผู้สอบที่เซ็นรับรองให้กับพิมพ์ด้วย”

แทนที่ณวัฒน์จะโกรธแต่เขากลับหลุดหัวเราะหึๆ ออกมา

“ชาไหมครับระหว่างรอคุณณัน” เจ้าบ้านนำเสนอและแขกก็เห็นด้วยเพียงแต่

“ขอเป็นน้ำเปล่าดีกว่าครับ ผมกลัวนอนไม่หลับ”

“เดี๋ยวพิมพ์ไปเอาให้ค่ะ” หญิงสาววางงานและลุกเดินเข้าไปในครัว แต่ไม่วายแอบอยู่หลังประตูมองเพื่อนกับสามีที่กำลังคุยกัน

“คุณคิดว่าเศรษฐกิจช่วงนี้เป็นยังไงบ้าง”

คนเปิดประเด็นคือสามีเธอ

“ถ้าให้เทียบกับงบพวกนี้” ณวัฒน์นิ่งไปนิด “กิจการเกี่ยวกับความสวยความงามกำลังบูม อสังหาฯ คงที่ แต่สื่อสิ่งพิมพ์แย่หน่อย”

“แล้วคุณคิดว่าจะรอดไหม”

“อาจจะรอด แต่คุณ ผมไม่ใช่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง”

“นั่นสินะ” จากเสี้ยวหน้าด้านข้าง จิรสินเงยมองแขกและยิ้ม

“ผมก็เผลอคิดตลอดว่าตัวเองเป็นนักข่าวต้องคอยตามเก็บสัมภาษณ์เพื่อจะลงหนังสือพิมพ์พรุ่งนี้เช้า”





ดังปัณณ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 9 ส.ค. 2561, 21:16:35 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 9 ส.ค. 2561, 21:16:35 น.

จำนวนการเข้าชม : 674





<< บทที่ ๑๘ เขาและเรา (130%)   ๑๙ คลางแคลง (75%) >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account