กลรักนักดีไซน์
...โบแว...หนุ่มฝรั่งเศสเอาแต่ใจรักการออกแบบเสื้อผ้าเป็นชีวิตจิตใจทำให้คนอื่นเข้าใจผิดอยู่บ่อยๆ
...เพลิงฟ้า...สาวไทยหนีไปอยู่ปารีส
...เรื่องของคนเอาแต่ใจกับคนชอบตามใจมาเจอกันจะเกิดอะไรขึ้น...
...เพลิงฟ้า...สาวไทยหนีไปอยู่ปารีส
...เรื่องของคนเอาแต่ใจกับคนชอบตามใจมาเจอกันจะเกิดอะไรขึ้น...
Tags: รักลวง อิสระ
ตอน: Designer's desire By คชสีห์ 06-07
กลรักนักดีไซน์ (Designer's desire By คชสีห์) 06
เมื่อกลับมาถึงบ้านโบแวแล้ว ก็ไขแล้วก็ล็อกตามระเบียบแล้วขึ้นไปที่ห้องเขา เคาะอยู่นาน ห้องเขาล็อคอยู่จึงเปิดเข้าไปไม่ได้ จึงคิดว่าเขาหลับไปแล้ว เธอไขกุญแจเข้าห้องตัวเอง เพราะโบแวสั่งไว้ให้ล็อกห้องเสมอ ไม่ว่าจะเข้าหรือออกจากห้อง แต่พอเปิดไฟในห้อง เห็นโบแวนอนอยู่ ก็รู้ว่าเขาเอากุญแจสำรองไขเข้ามาเอง
“กลับมาแล้วเหรอ” โบแวถามขึ้น และพยายามเรียกสติ
เพลิงฟ้าพยักหน้าช้าๆ แล้วหยิบเสื้อผ้าเพื่อไปอาบน้ำ แม้จะเป็นฤดูหนาว แต่เธอก็คุ้นกับการอาบน้ำมากกว่า พอออกมาเห็นโบแวพลิกตัวไปมาที่เตียงเธอ ก็ขึ้นอีกด้าน
“พ่อหยุดโครงการทำเสื้อตลาดกลางแล้ว เพราะรีอาหน้าเงินมันยุส่ง” โบแวดึงเพลิงฟ้ามากอดอย่างเหงาๆ
“ไม่โทรหาสาวๆ คลายเครียดล่ะ คิดมากไปทำไม หนทางยังมีอีกเยอะ” เพลิงฟ้าบอกเล่าแล้วรู้สึกผิดปกติ เมื่อเขาขยับมาแล้วเท้าคางมอง ก่อนโน้มลงมาจูบเธอ
โบแวถอนจูบแล้วมองเพลิงฟ้าอีกรอบ ถึงตอนนี้หล่อนจะกลายเป็นยัยเฉิ่มอีกครั้ง แต่มันไม่ใช่ภาพลักษณ์ของเธอหรอกที่ทำให้เขาติดใจ มันเป็นความปรารถนาที่เขาก็บอกไม่ได้ว่าเพราะอะไร
“ได้ไหม” โบแวถามอ้อมๆ แทนที่จะใช้กำลังบังคับ
เพลิงฟ้าถอนหายใจ บางครั้งก็ยากจะปฏิเสธพ่อหนุ่มผมยาวสีทองคนนี้ จึงพยักหน้าและปล่อยทุกอย่างเกิดขึ้น
โบแวจูบเธออีกครั้งแล้วดึงรั้งเสื้อผ้าออกจากตัวเขาและตัวเธอ เขาจูบเล้าโลมให้เธอผ่อนคลาย เขาจูบเธอด้วยความเสน่หา ซุกเข้าหาร่างกายที่แสนอบอุ่น แนบชิดกันแบบไร้ผ้าอาภรณ์
เมื่อเขาเลื่อนริมฝีปากลากลงมาสัมผัสที่เนินอก เพลิงฟ้าหลับตาพริ้มหายใจเป็นห้วงอย่างเร้าอารมณ์ เขจูบต่ำลงไปอีก จนถึงสะดือ แต่ก่อนที่จะได้ทำอะไรมากกว่านั้น เพลิงฟ้าก็นึกขึ้นมาได้
“เดี๋ยวก่อน โบแว” เพลิงฟ้าจับศีรษะเขาแล้วเขาก็เงยหน้าขึ้นมองอย่างงุนงง
“อะไร” โบแวถามเพลิงฟ้า นึกว่าเธอจะปล่อยเขาอารมณ์ค้างอีก
“ฉันยังไม่เคยกับผู้ชาย” เพลิงฟ้าบอกเล่าเขา แต่ไม่ได้ห้าม
โบแวก็ถอนหายใจยาว นึกว่าหล่อนจะห้ามเขาเสียอีก “ก็คงไม่ต่างจากของเล่นพวกนั้นเท่าไรหรอกน่า”
เพลิงฟ้าก็หัวเราะ “ของเล่นน่ะ ของโนรา เพื่อโนรา ไม่ใช่ของฉัน ฉันไม่เคยใช้หรอก”
โบแวถอนหายใจแล้วขยับขึ้นมาจ้องหน้าเธอ ลูบแก้มที่เจ้าของมีรอยยิ้มให้เขา “ก็ไม่เป็นไร ดีที่บอกจะได้ระวัง”
เพลิงฟ้าก็หัวเราะแต่ถูกเขาจูบผิดปาก มือซ้ายเขาประสานกับเธอ มือขวาเขาเอามือเธอจับที่คอเขา ปล่อยให้ผมยาวสยายของเขาละลงมาข้างตัว ริมฝีปากเขาช่างร้อนแรงตามประสบการณ์ของเขา หัวใจของเพลิงฟ้าล่องลอยไปไกลมาก...มากจนไม่น่าเชื่อว่าจะปล่อยให้เตลิดไปไกลอย่างนี้
เขาแทรกผ่านร่างเธอทีละนิด เสียงหัวใจหล่อนเต้นแทบไม่เป็นจังหวะ แล้วเผลอจิกที่คอเขาอย่างแรงจนเขาต้องจูบเนินอกเธออีกครั้งให้เธอผ่อนคลาย
เสียงถอนหายใจดังขึ้นเป็นระลอก เธอผ่อนคลายได้มาก รู้สึกเหมือนใจจะขาดเมื่อเขาขยับตัว จังหวะรักช่างเย็นเหมือนน้ำ แม้ร่างกายร้อนระอุเหมือนไฟเผา ความแสบสันต์เจ็บกลายเป็นความเสียวซ่านรัญจวนใจ เมื่อร่างกายเริ่มคุ้นเคย
เสียงร้องครางเบาๆ ดังเป็นจังหวะ สลับเสียงผิวกายที่เสียดสีกันของคนสองคน เสียงผิวกายลากจังหวะตามความต้องการทางกายที่แสนสุดจะหยุดได้ ด้วยความโหยหาที่เนิ่นนานทำให้สองร่างไม่อาจบังคับได้อีก
ร่างกายทั้งสองหล่อหลอมกลายเป็นหนึ่งเหมือนถูกกำหนดให้เข้ารับจับคู่กันอย่างลงตัว
จากจังหวะรักที่แสนหวาน เนิบนาบเชื่องช้า กลายเป็นจังหวะเร่าร้อน สะโพกขยับรับกันอย่างไร้ขอบเขต ปลดแอกความคิดเหลือเพียงสัญชาตญาณที่ซ่อนเร้น ความต้องการกันและกันรุนแรงขึ้นเรื่อยอย่างไม่รู้จักหยุดนิ่ง
แทบไม่รู้เวลารู้แต่ว่าคงเกินตีสี่มาแล้ว เมื่อความสุขสมสุกงอม ทุกสิ่งก็ถูกปลดปล่อยออกไปอย่างเต็มที่ โบแวหอบหายใจเล็กน้อย ทิ้งตัวลงบนที่นอน ปล่อยให้เพลิงฟ้าได้พัก เพราะหล่อนก็หอบหายใจอย่างถี่ๆ กับแรงกระตุ้นของเขา
“เฮ้อ” เพลิงฟ้าถอนหายใจอย่างแรงระบายความรู้สึกต่างๆ ที่อัดอั้น หากพอจะพลิกตัวหันหลังให้ โบแวก็พลิกมาซบหน้าที่อกเธออีก ไม่เพียงแค่นั้น เขายังดึงมือเธอไปกอดเขา แล้วเงยหน้ามองเธอ ทำให้เธอเห็นรอยยิ้มเขาชัดเจน
“อะไร” เธอถามอย่างหวั่นๆ
“ยังไม่ง่วง แต่รอบนี้ปิดไฟนะ” โบแวบอกแล้วลุกไปปิดไฟ
“ขอพักก่อนสิ ยังระบมอยู่เลย” เพลิงฟ้ารีบห้ามแต่คงยากและไม่ทันแล้ว เพราะเขาคร่อมทับร่างเธอ แล้วจูบปิดปากจับเธอลุกขึ้นนั่งแล้วกอดแนบแน่น เล้าโลมตามถนัดของเขา
ชั่วโมงบินในเกมรักผิดกันนัก...โบแวไม่ยอมให้ใครได้ปฏิเสธความต้องการของเขาแน่นอน
*********************
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในห้องนอน เสียงพลิกตัวก็ดังตาม เพลิงฟ้าถอนหายใจยาว แม้แสงสว่างจะรอดเข้ามาในห้องแล้วแต่เธอยังรู้สึกเมื่อยและง่วงอยู่เลย รู้สึกระบม ก่อนจะคว้ามือถือที่หัวเตียงมากดรับ
“สวัสดีค่ะ” เพลิงฟ้าทักทายเป็นภาษาฝรั่งเศสตามปกติ เพราะไม่คิดว่าจะมีใครโทรมา
“ไอ้พีช แพร์ว่ะ” พุทธรักษ์ทักทายน้องสาวแล้วยิ้ม
“แพร์ส้นตีนน่ะสิ โทรมาทำห่าอะไร คนอยากนอน” เพลิงฟ้าเซ็งที่พี่ชายโทรมา
“แหม แจกส้นตีนแต่แรกคุยเลย เออ คืองี้นะ พาแม่ไปตรวจ แม่ไข้ขึ้นสูงสามวันแล้ว พ่อรอฉันมาพาไป ก็เพิ่งว่างพาไป ทีนี้หมอบอกว่าแม่เป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ” พุทธรักษ์อธิบายชัดเจน
“ทำไมรอตั้งสามวัน” เพลิงฟ้าถอนหายใจ เหนื่อยก็เหนื่อยแต่เป็นห่วงแม่มากกว่า
“ก็ไม่ว่างติดถ่ายละคร” พุทธรักษ์ตอบตามตรง
“ทำไมไม่ให้พ่อโทรเรียกรถพยาบาลมารับแม่ไปตั้งแต่วันแรก มัวโง่อยู่หรือไง” เพลิงฟ้าด่าพี่ชายเสียๆ หายๆ ตลอดเวลา
“เฮ้ย พูดให้มันดีๆ หน่อยได้ไหมวะ พูดคำ ด่ากลับคำ กูก็มีอารมณ์นะเว๊ย!!!” พุทธรักษ์ส่ายหน้าช้าๆ หงุดหงิดที่โดนน้องด่าอยู่เรื่อย
“คุยกับพ่อหน่อย” เพลิงฟ้าจึงไม่ยอมคุยกับพี่ชายอีก
“พีช เรื่องก็ผ่านไปตั้งนานแล้ว ยกโทษให้ฉันไม่ได้หรือไงวะ” พุทธรักษ์พูดอย่างอ่อนใจ
“จะพูดกับพ่อ” เพลิงฟ้าย้ำ แล้วได้ยินโบแวพลิกตัว ก็เดินไปหยิบเสื้อคลุมแล้วเข้าไปคุยต่อในห้องน้ำ
พุทธรักษ์ก็รีบยื่นให้พ่ออย่างเซ็งๆ “มันจะคุยกับพ่อ”
พจน์รับสายแล้วถอนหายใจที่พี่น้องทะเลาะกันได้ตลอด ก่อนคุยกับลูกสาว “แม่ไม่สบายนะ พีช แต่ตอนนี้อาการดีขึ้นแล้ว หมอบอกว่าดีที่มาทัน”
“ทำไมพ่อไม่เรียกรถพยาบาลมารับแม่ไปเลย รอมันทำไม แม่น่ะคู่ชีวิตพ่อนะ คนที่คอยดูแลพ่อตลอด เวลานี้แม่ไม่สบาย ทำไมไม่รีบพาไป อย่าบอกว่าไม่มีเงิน ถึงเราไม่รวยแต่ก็พอมีเงินเก็บนะ” เพลิงฟ้าใส่เป็นชุด
“แม่บอกว่าไม่เป็นไร กินยาก็หาย พ่อก็บอกแล้วว่าให้แม่ไปหาหมอ แม่ไม่ยอม ต้องแพร์มารับ แม่ถึงยอมไปโรงพยาบาล พ่อไม่รู้จะทำยังไง ถ้าพีชอยู่ แม่ก็คงยอมไป” พจน์พูดตามจริง
“พ่อจะพูดกับพีชแค่นี้ใช่ไหม จะต่อว่าพีชที่ไม่อยู่ด้วย แม่เลยไม่ไปหาหมอ อะไรๆ พีชก็ผิดใช่ไหม” เพลิงฟ้าถอนหายใจยาว ได้ยินเสียงในห้องและเธอก็รีบล็อคประตู ได้ยินเสียงเขาพยายามไขเข้ามา
“เปล่า พีช พ่อก็พูดตามจริง ถ้าลูกคนใดคนหนึ่งพูด แม่ต้องไปโรงพยาบาล” พจน์อ่อนใจ เพราะลูกโกรธอีกแล้ว
“ทำไมพ่อไม่โทรหาพีช พีชจะได้คุยกับแม่” เพลิงฟ้าถามพ่ออย่างคาดคั้น
พุทธรักษ์เห็นพ่อหน้าเครียดก็รีบดึงกลับมาคุยเอง “อย่าคาดคั้นพ่อ ก็รู้นี่ว่าถ้าพ่อเครียด มะเร็งอาจกลับมาอีกก็ได้ นี่พ่อก็เครียดมากแล้ว เอาเป็นว่าแม่อยู่ในการดูแลของหมอแล้ว หมอบอกว่ายังไงแม่ก็ปลอดภัย”
“แค่นี้นะ” เพลิงฟ้ากดตัดสายแล้วยกมือขึ้นกุมหัว ทั้งมึนทั้งเพลีย จึงทำธุระจนเสร็จแล้วก็สวมเสื้อคลุมออกไปนอกห้อง ไม่เห็นโบแวแล้วก็กลับเข้าห้องน้ำ อาบน้ำให้สบายตัว ตั้งใจจะนอนพักอีก พอออกมาแล้วก็เห็นโบแวนอนอยู่บนเตียง เธอก็กลับเข้าห้องน้ำแล้วโทรลางาน
เมื่อออกมา ก็เจอโบแวลืมตามอง เมื่อเดินผ่านก็โดนเขาจับข้อมือ ลากลงมานอนในอ้อมแขนเขา
“ยังไม่อาบน้ำใส่เสื้อผ้าอีก” เพลิงฟ้าเปรยขึ้น เมื่อเขากอดและพยายามซุกหน้าที่ซอกคอเธอ
“ยังไม่ตื่นไง นอนต่อไหม” โบแวถามแต่ไม่ยอมปล่อย
“หิวแต่ง่วงค่ะ” เพลิงฟ้าตอบแล้วก็ใจเต้นแรง
“งั้นนอนก่อน ตื่นแล้วค่อยกิน” โบแวตอบแล้วกอดไม่ยอมปล่อย
เพลิงฟ้ารู้สึกได้ เพราะเธอสวมแต่เสื้อคลุมบางๆ ส่วนเขาเปลือย ไม่รู้เขากลับห้องเขายังไง แล้วยังงงอยู่ว่าทำไมเขากลับมาห้องเธออีก แต่สุดท้ายแล้วเธอก็เพลียเกินกว่าจะหาคำตอบ ตอนนี้สิ่งที่เธอควรจะคิดถึงคือแม่ที่เมืองไทยมากกว่า และยังไม่ได้คุยกับแม่เลย เพราะตอนนี้ที่นั่นก็น่าจะเริ่มดึกแล้ว เธอจึงคิดว่ารอให้ที่นั่นเช้าค่อยโทรไปน่าจะดีกว่า
*********************
หลังจากคุยกับแม่เรียบร้อย และได้คุยกับหมอแล้ว เพลิงฟ้าก็โล่งใจที่แม่ได้รับการรักษาที่ดีที่สุด เธอจึงมาซ้อมเดินแบบด้วยการแต่งหน้าทำผมจัดเต็ม โดยเดินเข้างานกับโบแว และโบแวก็สั่งไว้แล้วว่าให้เธอกลับพร้อมเขา โดยไม่สนใจว่าใครจะมองว่าเธอเป็นเด็กเส้นของโบแว
เพลิงฟ้ายืดผมตรง แต่งหน้าพอประมาณและแต่งตัวเหมือนตอนซ้อม มีรองเท้าส้นสูงติดมาด้วย และเริ่มฟังการนัดรายละเอียดอีกรอบ แล้วก็มีการเปิดเพลงซ้อม เธอได้ฝึกแล้วจึงลงจังหวะลงตัว ไม่มีปัญหา จนกระทั่งเลิกงาน เธอเปลี่ยนรองเท้าก็มีคนเข้ามาทัก
“พีช” นายแบบหนุ่มลูกครึ่งไทยฝรั่งเศสเข้ามาทักทายเธอ เมื่อมีโอกาส
เพลิงฟ้าไม่มองเจ้าของเสียง และไม่แม้แต่จะพูดกับเขา ก่อนถอดรองเท้าซ้อมเก็บใส่กระเป๋า
“พีโอนี่ โบแวบอกว่าให้คุณรอเขาก่อน เขาจะไปดูภาพตอนซ้อมแล้วดูว่าเสื้อผ้าพอดีตัวนางแบบนายแบบทุกคนหรือเปล่า” เจ้าหน้าที่คนหนึ่งบอกเพลิงฟ้าแล้วไปทำงานของเขาต่อ
“พีโอนี่? ที่นี่เขาเรียกเธอแบบนี้เหรอ” นีกอลาพยายามคุยกับเพลิงฟ้าที่ไม่ยอมพูดกับเขาสักคำ ก่อนเขานึกได้ว่าโบแวคือใคร จึงถาม “เธอกับโบแว...เหรอ”
“อย่ายุ่งเรื่องของฉันอีกได้ไหม เป็นไปได้ ไม่ต้องรู้จักกันเลย” เพลิงฟ้าตอบกลับแล้วก็เอากระเป๋าไปนั่งรอโบแว
“เธอยังไม่หายโกรธอีกเหรอ เรื่องมันนานมาแล้ว ฉันก็ขอโทษเธอแล้วนะ ไม่รู้ตั้งกี่ครั้ง คือเราน่าจะเป็นเพื่อนกันได้” นีกอลาพยายามที่จะคุยด้วยเพื่อให้เพลิงฟ้ายกโทษให้เรื่องสมัยวัยรุ่น
เพลิงฟ้ามองหน้านีกอลา มองอย่างสำรวจ ก่อนส่ายหน้า “คนที่ทำร้ายจิตใจผู้หญิง ฟันไม่เลือกอย่างนาย ฉันขอผ่าน ทำได้แม้กระทั่งเพื่อน ก็ไม่ต้องคุยกันแล้ว”
“พีช ฉันก็แค่วัยรุ่น แต่ตอนนี้ฉันไม่เหมือนเดิมแล้วนะ” นีกอลาพยายามขออภัย เขารู้สึกผิดเช่นกัน
“ฉันก็ไม่เหมือนเดิมแล้วเหมือนกัน เพราะงั้นมันไม่มีทางจะเหมือนเดิม จริงๆ แล้วอะไรๆ มันก็ดีมากในขณะที่ฉันกับนายไม่ได้เป็นเพื่อนกัน ไม่ต้องกังวล นายจะไม่ได้เจอฉันอีก แค่งานเดียวเท่านั้นแหละ” เพลิงฟ้าบอกเล่า แล้วหาที่นั่งรอโบแว โดยเอาหนังสือมาอ่าน
“เธอไม่เคยทำผิดพลาดบ้างหรือไง” นีกอลาถามอย่างจริงจัง เพราะรู้จากพุทธรักษ์ว่าเพลิงฟ้าก็ไม่ยอมพูดดีๆ ด้วย
“เคยสิ ผิดพลาดตรงที่ไว้ใจแพร์กับนายไง ต่อไปจะไม่มีวันไว้ใจนายกับแพร์อีก” เพลิงฟ้าพูดชัดเจน
เสียงถอนหายใจดังขึ้น ก่อนพูดอย่างหวังดี “เธอต้องระวังหน่อยนะ วงการนี้ใครๆ ก็ใจร้ายและไม่หวังดีทั้งนั้นแหละ ก่อนจะสวมอะไรใส่ร่างกาย ก็อย่าลืมตรวจเช็คตรวจสอบด้วย”
“ขอบใจ ฉันไม่เคยไว้ใจใครตั้งแต่โดนเพื่อนกับพี่ชายหักหลังแล้วล่ะ” เพลิงฟ้าตอกย้ำความผิดพลาดของนีกอลาตลอดเวลา ทำให้เขารู้ว่าเธอไม่เคยยกโทษให้เขากับพุทธรักษ์...พี่ชายเธอเลย
นีกอลาได้แต่ถอนหายใจแล้วถอยกลับมาตั้งหลัก เขาแอบมองอยู่ห่างๆ อยากรู้ว่าความสัมพันธ์ของเพลิงฟ้ากับโบแวเป็นยังไง
สองชั่วโมงกว่าโบแวจะออกมา นีกอลาแอบมองอยู่ เห็นโบแวยื่นมือให้เพลิงฟ้า เธอเก็บของแล้วจับมือโบแว จากนั้นโบแวก็โอบเอวเพลิงฟ้า เชยคางเพลิงฟ้าแล้วจูบกันดูดดื่ม ทำให้เขาแน่ใจแล้วว่าเธอเป็นผู้หญิงของโบแวจริงๆ อย่างที่ใครๆ เขาลือกัน
*********************
เสียงถอนหายใจดังขึ้น เมื่อเพลิงฟ้าเจอตะปูสั้นตัวที่สามในรองเท้าคู่ที่สาม เข็มหมุดสองสามอันในชุด แต่เธอก็ทำงานของเธอให้ดีที่สุดด้วยการเดินงานสามชุดของตัวเอง และดีที่เธอไม่ได้ใส่ชุดฟินาเล่ ไม่งั้นคงมีใบมีดโกนโผล่มาด้วย ดีที่เธอไม่เคยไว้ใจใคร ตรวจสอบชุดก่อนสวมเสมอ แม้จะมีเวลาเปลี่ยนเสื้อผ้าไม่มากก็ตาม
เมื่อจบการเดินแบบ เซรีน่านางแบบที่สวมชุดฟินาเล่ก็ออกไปมอบดอกไม้แล้วจูบโบแวที่แก้ม เพลิงฟ้าต้องยืนตบมือ จากนั้นก็ยืนโชว์ชุดที่งานเลี้ยง เพื่อให้ผู้ซื้อเลือกซื้อ ซึ่งชุดของเธอรวดเร็วมาก มีสองสามเจ้ามาประมูลและเสร็จอย่างรวดเร็ว ทำให้เธอได้โอกาสไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเร็ว แต่เธอก็ตรวจเช็คในกระเป๋าและเสื้อผ้าตลอด
เธอรู้อยู่แล้วว่าคนพวกนี้ค่อนข้างขี้อิจฉาและเล่นเป็นเด็กๆ แต่ตอนนี้ทุกอย่างกำลังจะจบลง และเธอจะได้กลับไปอยู่ในที่ของเธอ
“ฉันแจ็คเกอลีน มาร์แตง ฉันสนใจอยากได้เธอไปอยู่ในสังกัดฉัน” แจ็คเกอลีนเข้ามาทักและชวน หลังเห็นเธอออกมาเปลี่ยนชุด และเอาชุดไปคืนแล้วเรียบร้อย
“ฉันอายุยี่สิบห้าแล้วค่ะ แก่ไปสำหรับวงการนี้แล้ว” เพลิงฟ้าตอบอย่างชัดเจน รู้อยู่แล้วว่าวงการนี้เป็นยังไง
“ไม่ต้องคิดมากหรอก ฉันดูแล้วเธอเหมาะกับแฟชั่นชั้นสูง อีกอย่างโจเซฟีนบอกว่าเธอเก่ง” แจ็คเกอลีนชี้ไปที่โจเซฟีนที่มาคอยควบคุมพวกนางแบบนายแบบ และอีกฝ่ายก็โบกมือให้
“อีกไม่นานฉันก็สามสิบแล้วนะคะ ฉันคงไม่เหมาะ” เพลิงฟ้าพยายามปฏิเสธอ้อมๆ ทำให้แจ็คเกอลีนหัวเราะ
“เขามีแต่รีบกระโดดเข้าใส่ แต่เธอเอาแต่ถอย ทำไม” แจ็คเกอลีนถามอย่างสงสัย
“ฉันเจอตะปูเจ็ดแปดตัว เข็มหมุดสิบตัว เห็นจะไม่ไหวหรอกค่ะ” เพลิงฟ้ามองว่าเธออายุขนาดนี้ไม่เหมาะกับเกมเด็กๆ และชอบในจุดที่เธออยู่
“ลองก่อน เธอมีโครงหน้าที่สวยมาก ฉันชอบ ไม่ต้องคิดมากเรื่องเป็นเด็กโบแว ฉันจะคุยกับโบแวเอง เขากับฉันคุ้นเคยกันดี นางแบบนายแบบของฉัน เขาก็ใช้งานบ่อยๆ อายุมากน่ะไม่เท่าไรหรอก อาจต้องลดน้ำหนักก็แค่นั้น ไว้นัดวันเทสหน้ากล้องแล้วเดี๋ยวฉันจะหางานให้ ไม่ต้องคิดมาก” แจ็คเกอลีนไม่ปล่อยให้เพลิงฟ้าปฏิเสธก็เดินเข้าไปหาโบแว
เพลิงฟ้านิ่งอึ้ง เมื่อเห็นแจ็คเกอลีนพูดกับโบแวแล้วชี้มาทางเธอ โบแวก็มองหน้าเธอแล้วพยักหน้าช้าๆ ก่อนพูดอะไรกันอีกนิดแล้วแยกจากกัน แล้วแจ็คเกอลีนก็เดินไปหาโจเซฟีน สองสาวก็ยิ้มให้กัน เพลิงฟ้าค่อยๆ ถอยออกไปจากตรงนั้น แล้วรีบไปหน้าตึก แต่มีสายโทรเข้าเสียก่อน
“ไปไหนแล้ว รอก่อน เดี๋ยวกลับพร้อมกัน” โบแวบอกเมื่อเห็นเธอรีบออกมาจากงาน
“ขอฉันกลับก่อนดีกว่า เจอกันที่บ้านนะ” เพลิงฟ้าบอกด้วยน้ำเสียงร้อนรน
“เป็นอะไร เหมือนเห็นผี” โบแวถาม ตอนนี้เขาแทบไม่ต้องให้สัมภาษณ์แล้ว แม่เขาก็ไม่อยู่ พ่อก็ไม่มา รีอาก็ไม่สนใจ ตอนนี้เหลือเขาคนเดียวที่ดูแลงานทั้งหมด จึงยังกลับไม่ได้
“ไว้คุยกัน ฉันจะกลับก่อนนะ” เพลิงฟ้าเรียกแท็กซี่ได้ก็ขึ้นรถแล้วบอกเส้นทาง
โบแวได้ยินก็แปลกใจ เพราะปกติเพลิงฟ้าไม่รีบไปอย่างนี้
นีกอลาตามออกมาเห็นเพลิงฟ้าขึ้นแท็กซี่แล้วก็เรียกตามไป รถไปหยุดที่บ้านหลังใหญ่พอประมาณสำหรับในเมืองแบบนี้ เพลิงฟ้าจ่ายเงินลงรถแล้วก็เข้าไปในบ้าน ตอนนี้เพลิงฟ้าขยี้ผมตัวเองให้ยุ่งเหมือนเดิมแล้ว เธอจึงเป็นพีช ไม่ใช่พีโอนี่ เมื่อนีกอลามาถึง จึงรีบตามลงไป แล้วตะโกนเรียกเธอ
“พีช”
เพลิงฟ้าหันมามองแล้วจ้องเขา ไม่ยอมเปิดประตูรั้ว อากาศก็หนาวเย็น เธอกับเขามองสบตากัน เธอก็ถอนหายใจกับความพยายามของเขาที่จะเข้ามาในชีวิตเธออีกครั้ง
“คุยกันหน่อยได้ไหม” นีกอลาพยายามให้เธออภัยกับสิ่งที่เกิดขึ้น
หลังจากได้คุยกับพุทธรักษ์แล้วโดนพุทธรักษ์ด่าเละไม่มีเหลือ เพราะเรื่องคึกคะนองในอดีต ทำให้พุทธรักษ์กับเพลิงฟ้าเลิกคุยกันดีๆ จนตอนนี้ทั้งครอบครัวเดือดร้อนไปหมด
ปากเขาสั่นเพราะความหนาวเย็นของฤดูหนาว หิมะก็ตกอยู่บ้าง ถึงจะไม่มากนัก เพราะยังเป็นต้นฤดู
เพลิงฟ้าเห็นเขาสวมเสื้อไม่หนามาก ก็ถอนหายใจยาวแล้วพยักหน้า แต่ชี้ให้เขาไปที่ร้านอาหารฝั่งตรงข้ามมากกว่าจะเชิญเขาเข้าไปในบ้านของโบแว
“ขอบใจ” นีกอลาเดินตามเธอ หลังเธอใส่กุญแจประตูรั้วเล็กอีกครั้ง
เพลิงฟ้าเดินไปที่ร้านอย่างรวดเร็ว แต่นีกอลาไม่ทันได้ระวัง โดนรถชนเข้าอย่างจัง เพลิงฟ้ากรีดร้องเสียงดังลั่นถนน เมื่อหันไปมองตามเสียงเบรก
“นิค” เธอก็ถลาเข้าไปประคองเขา จนมีคนเห็นเหตุการณ์เรียกรถพยาบาล และเขาก็พยายามประคองสติจนได้
“พีช” นีกอลาเรียกและรู้สึกดีที่เธอไม่ถึงกับเฉยเมยใส่เขา
“ตั้งสตินะ ห้ามหลับ เดี๋ยวรถพยาบาลก็มาแล้ว” เพลิงฟ้าได้ยินคนโทรศัพท์ไปเรียกรถพยาบาลแล้ว “โรงพยาบาลอยู่ใกล้ๆ นี่เอง ห้ามหลับนะ อย่าหลับนะ ฮือๆๆ”
นีกอลาได้ยินเพลิงฟ้าร้องไห้ ก็ลืมตามอง ลืมความเจ็บปวดไปชั่วขณะ ลืมไปว่าร่างกายกำลังบอบช้ำ รู้สึกมึนๆ แต่ที่ชัดเจนคือเธอห่วงใยเขา จึงเผลอพูดอย่างเบลอๆ “แค่นี้เอง ดีที่รถไม่ทับซ้ำ ใจก็อยากให้รถทับซ้ำน่ะสิ”
“บ้า!!! ใครจะอยากให้เกิดอะไรแบบนั้น” เพลิงฟ้าพูดภาษาไทยกับนีกอลา พยายามตั้งสติ
“ขอโทษนะคะ ฉันขอโทษ ฉันมองไม่เห็นจริงๆ” หญิงสาวที่ขับรถรีบเข้ามาขอโทษขอโพย
“รถพยาบาลมาหรือยัง” เพลิงฟ้าถามกลับเป็นภาษาฝรั่งเศส “แอนน์!!”
“กำลังมาค่ะ” หญิงสาวคนนั้นคือแอนน์เอง บ้านของแอนน์อยู่ไม่ไกลจากที่นี่ เธอก็ตกใจที่มาเจอเพลิงฟ้า “พีช”
เพลิงฟ้ามองแอนน์อย่างงุนงง สักพักก็มีรถพยาบาลมารับ นีกอลาเรียกเพลิงฟ้าไปขึ้นด้วย เธอกุมมือเขา ดีที่รถชนไม่แรงสุดขีด ทำให้เขาไม่กระเทือนมาก แต่ขากระเทือนอย่างแรง
แอนน์มองตามแล้วถอนหายใจ มีตำรวจคอยสอบถาม เรื่องต่างๆ เธอมัวแต่ทะเลาะกับเพื่อนในรถ ทำให้ขับรถประมาท ดีที่คนที่ถูกชนเขาไม่โวยวายอะไรมาก ให้ปากคำเสร็จก็ตามตำรวจไปที่โรงพยาบาลเพื่อดูคนเจ็บ
นีกอลาถูกพาเข้าไปในห้องฉุกเฉิน เพลิงฟ้าก็ได้แต่รออยู่ด้านนอก แล้วได้รับสายจากโบแว
“อยู่ไหน” โบแวถามทันทีที่เธอรับ เพราะเธอไม่รับสายหลายรอบมาก
“อยู่โรงพยาบาลค่ะ เพื่อนฉันโดนรถชน” เพลิงฟ้าบอกเล่าอย่างสับสน
“เขาเป็นยังไงบ้าง เขาจะเป็นอะไรไหม” แอนน์หน้าตาตื่น รีบสอบถามอาการของคนที่เธอชน
“หมอดูเขาอยู่” เพลิงฟ้าบอกแอนน์ แล้วหันมาคุยโทรศัพท์ “ขอโทษนะโบแว แต่คืนนี้ฉันคงต้องอยู่เฝ้าเขาก่อน”
“เขา? เพื่อนผู้ชายเหรอ ใคร เอาล่ะอยู่โรงพยาบาลไหน ฉันจะไปหา” โบแวบอกเล่า
“อย่าเลย ไม่ต้องหรอก คุณกลับบ้านเถอะ” เพลิงฟ้าเห็นว่าไม่ใช่ธุระของเขา จึงไม่อยากให้เขาต้องวุ่นวาย
“ฉันบอกแล้วไงว่าจะไป บอกโรงพยาบาลมา” โบแวใส่อารมณ์จนคนอื่นมอง
เพลิงฟ้าบอกโรงพยาบาลแล้วเขาก็ตัดบทวางสาย เธอกับแอนน์ก็นั่งรอ ส่วนเพื่อนแอนน์นั้นก็กลับไปก่อน
“ฉันไม่ตั้งใจจริงๆนะ คือฉันทะเลาะกับเพื่อน” แอนน์บอกแล้วทำหน้าเหมือนจะร้องไห้
“ใจเย็นๆ เขายังไม่เป็นอะไร เห็นอยู่ว่าเขาเอามือกันหัวเขาไว้” เพลิงฟ้าไม่ทันได้เห็นเหตุการณ์ก็จริง แต่ดูจากอาการเขาแล้ว เขาน่าจะป้องกันตัวระดับหนึ่ง ก่อนเธอจะนึกได้ว่าต้องโทรหาพรศักดิ์พ่อของนีกอลา เธอไม่โทรหาเวอจินี่เพราะกลัวอีกฝ่ายกังวลมาก
“ขอโทษนะคะที่โทรมาตอนนี้ เรื่องด่วนค่ะ ลุงพร” เพลิงฟ้าพยายามควบคุมสติแล้วบอกเล่า
“เอ้อ เหรอ มีอะไรล่ะ” พรศักดิ์พยายามตั้งสติ เพราะเขายังต้องไปทำงานอีกในตอนเช้า
“คือว่านิกโดนรถชนค่ะ ตอนนี้อยู่ที่ห้องฉุกเฉิน พอดีเขาอยู่กับพีชพอดีค่ะ แต่เขามีสติ สมองไม่กระทบกระเทือนเท่าไรค่ะ หมอยังไม่ออกมา ก็ยังไม่รู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง” เพลิงฟ้าใส่รัวๆ เป็นชุด
พรศักดิ์ตั้งสติ ก่อนเรียบเรียงสิ่งที่ฟังใหม่ จากนั้นก็พยายามไม่ตื่นตระหนกตกใจ ให้ภรรยาต้องเป็นลมมากไปกว่านี้ “นิกเขาโอเคไหม”
“เขามีสติตลอดนะคะ คุยกับพีชไปตลอดทางเลยค่ะ” เพลิงฟ้าบอกเล่าแล้วถอนหายใจยาว
“ถ้ายังไงหมอออกมาแล้ว ช่วยโทรหาลุงอีกทีได้ไหม” พรศักดิ์พยายามตั้งสติ มองภรรยาที่ลืมตามองเขา แล้วก็เลยออกไปคุยนอกห้องนอนแทน
“ค่ะ ได้ค่ะ พีชจะคอยเฝ้าดูเขาให้นะคะ ไม่ต้องห่วง” เพลิงฟ้ารับปากพรศักดิ์แล้วก็หันไปมองแอนน์ที่นั่งกังวลกัดเล็บไปเรื่อยๆ กลัวเรื่องคดีความก็กลัว กลัวคนตายก็กลัว เธอจึงวางสายแล้วเดินไปปลอบแอนน์แทน
“เธอว่าเขาจะเป็นอะไรไหม ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ นะ” แอนน์พูดซ้ำๆ อย่างหวาดกลัว
“ฉันคิดว่าเขาจะต้องปลอดภัย” เพลิงฟ้าปลอบแอนน์แล้วมองอย่างเชื่อมั่น
แอนน์พยักหน้าช้าๆ ตั้งใจรอฟังข่าว
สักพักโบแวก็มาถึงแล้วโทรหาเพลิงฟ้า จากนั้นก็ถามเหตุการณ์แล้วมองเธออย่างสงสัย เพราะไม่เข้าใจว่าทำไมนายแบบหนุ่มถึงตามเธอไปถึงบ้านเขา
“เขาเป็นเพื่อนฉันตั้งแต่สมัยอยู่เมืองไทย คุณไม่รู้เหรอ เขาเป็นลูกชายของเวอจินี่” เพลิงฟ้าบอกเล่าประวัติเขาในที่สุด
โบแวครุ่นคิดแล้วพยักหน้า เห็นสีหน้าประหลาดใจของเธอแล้วรู้สึกแปลกใจ เขาหิวก็เดินไปซื้อแซนวิชมาเผื่อสองสาวที่นั่งรออยู่ คนขับรถชนก็คือแอนน์เจ้าหน้าที่ในบริษัทแม่เขา และยังเป็นลูกสาวเพื่อนชาวอังกฤษของแม่อีกด้วย ซึ่งก็พักอยู่ที่ทาวเฮาส์ไม่ห่างจากบ้านเขาเท่าไรนัก
“กินสักหน่อยจะได้มีแรงรอ” โบแวพูดกับแอนน์ด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล และส่งแซนวิชให้แอนน์พร้อมกาแฟ ก่อนจะส่งให้เพลิงฟ้าด้วย พูดแกมบังคับ กระแทกน้ำเสียงเล็กน้อย “ถ้าไม่กินจะป้อน”
เพลิงฟ้ามองเขาพูดกับแอนน์ผิดกับพูดกับเธอ แล้วรู้สึกแปลกๆ ก่อนจะค่อยๆ กินทั้งที่ไม่อยาก และไม่ได้กลัวเขาป้อน แต่กลัวเขาจับยัดใส่ปากเธอมากกว่า จึงกินช้าๆ ตาก็มองประตูห้องฉุกเฉิน
โบแวนั่งเอามือพาดที่พนักพิงของเพลิงฟ้า ขณะที่เพลิงฟ้านั่งตัวตรงและรอคอยอย่างเป็นห่วง เธอพยายามกินจนหมด เพราะเมื่อหยุด โบแวจะสะกิดให้เธอกินจนหมด แล้วยังต้องดื่มกาแฟรออีก
สักพักพยาบาลก็ลากคนไข้ออกมา แล้วพาไปห้องเพื่อตรวจอาการอีกรอบ
“ขาน่าจะหัก พาไปเอ็กซเรย์ก่อน” หมอสั่งแล้วก็คุยกับญาติคนไข้
เพลิงฟ้าจะรับเป็นเจ้าของไข้ แต่แอนน์รีบแสดงตัวเพื่อให้การช่วยเหลือคนเจ็บ แล้วเพลิงฟ้าจึงเงียบ เมื่อแอนน์ต้องการแสดงความรับผิดชอบ เธอจึงไม่ขัดข้อง
เพลิงฟ้าโทรหาพรศักดิ์อีกครั้ง ครั้งนี้เสียงเหมือนไม่ได้นอนต่อ จึงคุยกันสะดวก “หมอว่าขาหักค่ะ ดีที่รถขับไม่เร็วมาก นี่คนขับก็รอดูอาการเป็นเพื่อน เขาจะรับเป็นเจ้าของไข้เองค่ะ”
“แล้วส่วนอื่นเป็นยังไง” พรศักดิ์เรียกภรรยากับลูกสาวขึ้นมาเพื่อบอกเล่าแล้ว ได้แต่รอข่าว เพราะไม่มีใครนอนลงอีก
“ก็มีแผลที่แขน เพราะตอนโดนจนรถเบรกพอดี ที่ขาแรงหน่อย แต่นิกเอามือกันหน้าไว้ แขนเลยกระแทรก ตัวเขาเลยไปฟุบอยู่หน้ารถค่ะ แล้วเอนลงนอนราบที่พื้นค่ะ” เพลิงฟ้าบอกเล่าแล้วถอนหายใจ “พีชช่วยพยุงเขา แต่เขามีสติดีค่ะ ยังพูดเล่นกับพีชอยู่เลย”
“เดี๋ยวเวอจินี่จะจองตั๋วกลับปารีสเลยนะ ขอบใจมากที่ส่งข่าว ลุงจะไปด้วย ไม่อยากให้เวอจินี่เดินทางคนเดียว เอลโตแล้วอยู่คนเดียวได้แหละ” พรศักดิ์พูดถึงเอลิซา ลูกสาววัยยี่สิบของตนที่กำลังเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยที่เชียงใหม่
“โอเคค่ะ ช่วงนี้พีชจะคอยดูให้ก่อนนะคะ ยังไงช่วยดำเนินการเร็วๆ ด้วยค่ะ” เพลิงฟ้าบอกเล่าแล้วก็ถอนหายใจ เห็นโบแวนั่งมองก็กลับไปนั่งข้างเขา “เบื่อไหมคะ คือว่ายังไงคงต้องอยู่รอก่อนน่ะค่ะ นิกเป็นเพื่อนฉันด้วย”
“ไม่เห็นเคยบอก” โบแวเงียบมานานแล้วก็ถามสิ่งที่ข้องใจ
“เพราะไม่คิดว่าจะต้องมาเห็นเขาโดนรถชนน่ะสิคะ” เพลิงฟ้าพูดเสียงดังแล้วก็ถอนหายใจ
“เอาล่ะๆ ใจเย็นๆ รู้ว่าเธอใจไม่ดี แต่ช่วยใจเย็นๆ ด้วยพีช” โบแวเห็นเธอโวยวาย ก็รีบหยุด ก่อนดึงเธอมากอด ขณะที่แอนน์มองทั้งสองคนแบบแปลกๆ ไม่ค่อยเข้าใจนัก
เพลิงฟ้าร้องไห้ออกมาทันที เมื่อเขากอด โบแวถึงแปลกใจว่าทำไมเธอต้องร้องไห้ หรือจะเป็นห่วงนีกอลามากเกินไปแล้ว เขาเริ่มสงสัยว่าจะมากเกินกว่าการเป็นเพื่อน
“เรากลับบ้านกันก่อนเถอะ พรุ่งนี้เช้าค่อยมาใหม่” โบแวสรุป ก่อนบอกเพลิงฟ้า
“ไม่ค่ะ ฉันจะรอจนกว่าเขาจะไปพักห้องคนไข้” เพลิงฟ้าปาดน้ำตาแล้วหยุดร้องไห้
ใจเธอก็กลัวเขาเป็นอะไร โดยไม่ได้คุยกันอีก เรื่องในอดีตเธอพร้อมจะลืมแล้ว ถ้าเพียงสามารถปรับความเข้าใจกันได้ ก่อนที่ใครจะเป็นอะไรไป
“โอเค เธอล่ะแอนน์กลับก่อนไหม ฉันจะช่วยดูแลให้” โบแวหันไปถามแอนน์ที่กำลังนั่งถอนหายใจ และเธอก็ไม่กล้าตัดสินใจ “กลับไปก่อน ไม่ต้องกลัวอะไร เดี๋ยวจะอยู่เป็นธุระให้เอง”
แอนน์จึงถอนหายใจแล้วถือกระเป๋าไว้
“ไปแท็กซี่ใช่ไหม” โบแวถามให้แน่ใจอีกรอบ
“ค่ะ คงต้องอย่างนั้นค่ะ” แอนน์ตอบแล้วก็เดินไปที่ทางออกเพื่อกลับ
โบแวโอบไหล่เพลิงฟ้าแล้วถอนหายใจยาว
“จริงๆ คุณกลับก่อนก็ได้นะคะ คือยังไงนิกก็ไม่เกี่ยวกับคุณ” เพลิงฟ้าพูดอย่างเกรงใจ
“นี่เธอเกรงใจหรือเธออยากไล่ฉัน นีกอลาเป็นลูกของเวอจินี่ไม่ใช่เหรอ เวอจินี่ไม่ใช่เพื่อนแม่ฉันหรือไง” โบแวเริ่มหงุดหงิดกับท่าทีของเธอ
“ขอโทษค่ะ ฉันเกรงใจจริงๆ” เพลิงฟ้าบอกตามตรง ไม่รู้เขาหงุดหงิดอะไรหนักหนา
“รอเป็นเพื่อนเธอแหละ พรุ่งนี้เธอลางานไม่ใช่เหรอ” โบแวพูดขึ้น เพราะรู้ว่าเธอลางาน และทำงานที่ค้างอยู่เสร็จแล้ว
“ก็ใช่ค่ะ” เพลิงฟ้าตอบตามตรง
“แล้วเธออยากจะเป็นนางแบบอยู่ไหม” โบแวถามเรื่องอื่นแทนเรื่องอุบัติเหตุ
“ไม่ค่ะ” เพลิงฟ้าเห็นเขาเปลี่ยนเรื่องก็เปลี่ยนเรื่องตาม ตอนนี้ไม่อยากกวนอารมณ์ใคร
“ถ้าเขามีจ็อบก็น่าจะลองดู ได้เงินพิเศษด้วย จะได้เอาไว้ซื้ออะไรที่อยากได้” โบแวใจเย็นลงก็พูดตามปกติ
“คุณเห็นฉันอยากได้อะไรเหรอ” เพลิงฟ้าย้อนถามแต่ไม่ตั้งใจกวนประสาท
โบแวเห็นด้วย เพราะแม้แต่เสื้อผ้ายังไม่ค่อยจะซื้อใหม่เลย เขาเห็นเธอเพลียๆ และนี่ก็ดึกมากแล้ว หมอก็เข้ามาบอกว่าต้องดามเหล็ก จึงต้องผ่าตัดเลย พวกเขาก็ต้องรออีก จึงเดินเรื่องขอห้องพักฟื้น เพราะต้องดูอาการว่าสมองถูกกระทบกระเทือนหรือไม่
“นอนพักสักเดี๋ยวเถอะ” โบแวเห็นไม่มีใครก็ดึงเธอมาซบไหล่เขา ปล่อยให้เธอพักสายตาบ้าง
เพลิงฟ้าก็เหนื่อยเต็มที ก็ซบไหล่เขาแล้วหลับไปพักใหญ่ กว่าหมอจะมาสะกิดเรียกแล้วพาคนไข้ที่ทำแผลทุกอย่างเรียบร้อยแล้วไปนอนพักฟื้น โชคดีที่แค่ขาหัก ไม่มีอาการช้ำในจนเกินการรักษา ไม่อย่างนั้นเพลิงฟ้าคงได้แต่รู้สึกผิดที่ทำให้เขาต้องมาขอโทษซ้ำๆ แบบนี้
ทิฐิบางอย่างปล่อยวางบ้างก็ดี...
*********************
กลรักนักดีไซน์ (Designer's desire By คชสีห์) 07
เมื่อได้เห็นนีกอลาเข้าห้องพักฟื้นแล้ว เพลิงฟ้าก็คลายใจได้บ้าง แล้วก็ชวนโบแวกลับบ้าน เพราะเกรงใจที่เขามานั่งอยู่เป็นเพื่อน ก่อนไปเพลิงฟ้าก็โทรบอกพรศักดิ์ว่านีกอลาปลอดภัยไม่ต้องกังวล
“ขอบใจที่รอดูจนเขาปลอดภัยดี ลุงกำลังทำเรื่องเดินทางอยู่ ยังไงก็ต้องไป แม่เขากังวลน่ะ” พรศักดิ์บอกในตอนท้าย
“ค่ะๆ พีชขอกลับไปนอนพักก่อนนะคะ” เพลิงฟ้าบอกกล่าวแล้วก็ขึ้นรถโบแว เมื่อถึงบ้านแล้วโบแวก็เอารถไปจอด จากนั้นก็เดินไปขึ้นเตียง แล้วพักผ่อน
เพลิงฟ้าจัดการตัวเองจนเรียบร้อยแล้วก็ออกมาใส่เสื้อกางเกงนอน แล้วขึ้นเตียงเช่นกัน ขณะที่โบแวแค่ถอดเสื้อผ้าออกเท่านั้น แล้วหลับพักผ่อน เมื่อเพลิงฟ้าขึ้นเตียง เขาก็รวบเธอมากอด เพลิงฟ้าเริ่มชินกับการแก้ผ้านอนของเขาแล้ว
ทั้งสองนอนหลับจนถึงช่วงสายของวัน แล้วก็มีสายเข้า เพลิงฟ้าหาโทรศัพท์แล้วกดรับ “ค่ะ”
“พีช” นีกอลาตื่นแล้วก็โทรหาเพลิงฟ้าทันที
“นิกฟื้นแล้วเหรอ ดีจัง” เพลิงฟ้างัวเงียแล้วก็ถอนหายใจยาว “บอกลุงพรให้แล้วนะ”
“รู้แล้วล่ะ ก่อนโทรหาเธอ โทรไปที่บ้านมา ขอบใจที่เป็นธุระให้นะ เอ่อ คือ เธอจะเข้ามาไหม” นีกอลาถามอย่างเกรงๆ กลัวเธอจะทิ้งเขาแล้วไม่สนใจอีก
“อีกเดี๋ยวว่าจะเข้าไป ขอเวลานิดนึง” เพลิงฟ้าบอกแล้วรู้สึกว่าโบแวพลิกตัว แต่พอเธอจะหลบไปคุยในห้องน้ำ โบแวก็ยึดเธอเอาไว้ กอดไม่ยอมให้ไปไหน
“ได้ จะรอ” นีกอลาปวดไปทั้งตัว เขาเอามือขึ้นประสานกันหน้า แล้วต้องกุมหัวไว้เพื่อปกป้อง ทุกอย่างเขาทำไปตามสัญชาตญาณ ดีที่สมองไม่บวม แม้จะมีแรงกระแทกทำให้มึนงงบ้างก็ตาม และถือว่าโชคดีมากที่คนขับไม่ได้ขับเร็วอะไรด้วย เขาจึงเป็นแค่นี้ ก็ถือว่าเคราะห์หนักพอควร
เพลิงฟ้าค่อยๆ ปลดมือโบแวออก แต่โบแวลืมตาแล้วมองเธออย่างสงสัย จึงอธิบาย “คือฉันจะไปเยี่ยมนิกหน่อยค่ะ นิกฟื้นแล้ว ฉันก็เลยว่าจะไปดูหน่อย เผื่อเขาต้องการอะไร”
โบแวสะบัดหัวไปมา ก่อนพยักหน้า แต่ไม่ยอมคลายอ้อมแขน ยังคงกอดไว้ รู้สึกเหมือนเหตุการณ์เดียวกับอันนาจะเกิดขึ้น ยังไงนีกอลาก็ถือว่าเป็นเพื่อนสมัยเด็กของเพลิงฟ้า และดูเหมือนเธอจะอ่อนไหวมากกับเรื่องนี้ ทำให้เขาชักหวั่นใจ เขาคงรับไม่ไหว ถ้าเธอจะไปหาเพื่อนสมัยเด็กแล้วทิ้งเขาตามลำพังเหมือนที่อันนาเคยทำ
โบแวอ่อนไหวมากขึ้น ถึงจะรู้ว่านีกอลาอยู่โรงพยาบาล แต่เขาก็หวง เพียงไม่กล้าบอกตามตรง
“ปล่อยก่อนสิคะ ฉันต้องไปเตรียมตัว” เพลิงฟ้าขืนตัวเองมากขึ้น พยายามจะลุกจากเตียง
“ฉันจะไปด้วย” โบแวบอกแล้วลุกขึ้น สวมเสื้อคลุมกลับห้องตัวเองแล้วไปเตรียมตัว
เพลิงฟ้าก็แต่งตัวเช่นกัน นึกแปลกใจอยู่ว่าเขาจะมาคอยรับส่งทำไม ไม่ได้สนิทกับนีกอลาสักหน่อย ถึงจะเป็นลูกเพื่อนแม่ก็เถอะ หรือเพราะเป็นห่วงแอนน์ แต่ก็ไม่เคยเห็นเขาทักทายกับแอนน์เลย เมื่อไปที่สำนักงาน หากเธอก็สลัดความคิดทิ้งไป
โบแวโอบเอวเพลิงฟ้าที่วันนี้ใส่ชุดกระโปรงพาไปขึ้นรถ และขับพาเธอไปโรงพยาบาลที่อยู่ไม่ไกลนัก เมื่อไปถึงเขาก็จอดให้เธอลงก่อนแล้วค่อยไปหาที่จอดรถ
เพลิงฟ้าขึ้นไปที่ห้องพักฟื้น เคาะประตูแล้วเปิดเข้าไป เห็นนีกอลากำลังนั่งดูโทรทัศน์ และยิ้มออกเมื่อเธอมา ยิ่งรู้สึกดีเมื่อเธอเข้าไปกอดเขา
“นึกถึงเหตุการณ์ทีไร ฉันก็ใจเสียทุกครั้ง นึกว่าพอหันไปแล้วเธอล้มลงกับพื้น เห็นหัวกระแทก ตกใจน้ำตาไหลเลย” เพลิงฟ้าถอนหายใจยาว
นีกอลาโอบกอดร่างบางแล้วดึงให้นั่งบนเตียงเขา แม้ปวดแขน แต่ดีใจที่มีเธอในอ้อมแขน เพลิงฟ้าไม่ถึงกับซบอกเขา ปล่อยเขาเกาะเอวไปอย่างนั้น
“ยังไงฉันก็ต้องปรับความเข้าใจกับเธอให้ได้ก่อนหรอกน่า” นีกอลาลูบผมเธออย่างอ่อนโยน
“ช่างมันเถอะ ฉันไม่อยากให้เวอจินี่ต้องเสียใจ เอาเป็นว่าไม่มีอะไรติดค้างกันแล้วนะ” เพลิงฟ้าบอกแล้วถอนหายใจยาว ก่อนตกใจเพราะนีกอลาดึงเธอไปกอดเอาไว้แน่น
โบแวเปิดประตูเข้ามาพอดี เห็นนีกอลาโอบกอดเหมือนเธอกำลังซบอกอีกฝ่ายก็โมโห เดินกลับออกไปแล้วปิดประตูแรงๆ
เพลิงฟ้าได้ยินเสียงปิดประตูดังลั่นก่อนนึกได้ “โบแว”
เธอผละออกจากอ้อมแขนนีกอลาจนอีกฝ่ายร้องโอย เพราะแรงผลัก “ขอโทษนะ โบแวโกรธอะไรไม่รู้ เดี๋ยวขอไปดูเขาก่อน”
“ไปเถอะ” นีกอลาถอนหายใจ ต่อให้เพลิงฟ้าหายโกรธก็ไม่ได้หมายความว่าจะกลับมารักเขาอีก
เพลิงฟ้ารีบออกไปจากห้อง สวนกับแอนน์พอดี แค่พยักหน้าทักทายกันเท่านั้น แล้วก็หันรีหันขวาง เห็นโบแวเข้าไปในลิฟต์ก็รีบวิ่งแต่ไม่ทัน รีบกดลิฟต์ตัวข้างๆ ที่มาจอดพอดีก็รีบเข้าไป
โบแวหงุดหงิดหนัก เดินออกลิฟต์ได้ก็ตรงไปที่รถ เพลิงฟ้าวิ่งตามมาแต่ก็ไม่ทัน เขากระชากรถออกไปแล้ว เธอก็หันซ้ายแลขวาไม่รู้จะทำยังไง จึงลองกดโทรหาเขาแต่เขาก็ไม่รับ เธอไม่รู้จะทำยังไง จึงขึ้นไปเยี่ยมนีกอลาก่อน เห็นแอนน์กำลังคุยอยู่
“ผมก็ประมาทเกินไป ไม่ทันเห็นรถคุณที่เลี้ยงโค้งมาพอดี” นีกอลาบอกเล่า เห็นสีหน้าของอีกฝ่ายท่าทางจะรู้สึกผิดมาก
“ฉันจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง พร้อมเงินค่าเสียหายค่ะ ไม่ต้องกังวลนะคะ” แอนน์ถอนหายใจอย่างโล่งอกที่นีกอลาไม่เอาเรื่องมากนัก
“ไว้ค่อยคุยรายละเอียดเรื่องนี้นะครับ” นีกอลาบอกเล่า เมื่อเห็นเพลิงฟ้าก็ยิ้ม นึกว่าหล่อนจะหนีกลับไปเสียแล้ว
“ฉันจะมาบอกว่าจะกลับก่อนนะ โบแวหงุดหงิดอะไรก็ไม่รู้ ฉันไม่อยากให้เขาเกิดอุบัติเหตุอีก คนอะไรก็ไม่รู้ใจร้อนมาก” เพลิงฟ้าพูดขึ้น ก่อนนึกได้ว่าแอนน์อยู่ในห้องนี้ด้วย แต่เมื่อพูดออกไปแล้ว ก็คงไม่ต้องกลัวอะไรอีก
“อืม แล้วเธอจะกลับมาอีกไหม” นีกอลาไม่กล้ารั้งไว้มากๆ เกิดเพลิงฟ้านึกรำคาญขึ้นมา เขาก็หมดหวังสานสัมพันธ์อีกรอบ
“บ่ายๆ มาแน่ อยากได้อะไรไหม” เพลิงฟ้าถามอีกรอบ
“อยากได้สิ” นีกอลาพูดขึ้นแล้วยิ้มจางๆ
“จะเอาอะไรล่ะ เดี๋ยวเอามาให้” เพลิงฟ้าถามซ้ำอีกรอบ
“อยากได้เห็นหน้าเธอไงล่ะ” นีกอลาพูดแล้วทำให้เพลิงฟ้าขำ
“นะ ฝากแอนน์ด้วยนะ อย่าพูดจาร้ายๆ กับแอนน์รู้ไหม” เพลิงฟ้าพูดแล้วก็หัวเราะสดใส
“เดี๋ยวคุณแอนน์ก็คงกลับ” นีกอลาพูดอย่างไม่จริงจังนัก
“ถ้าคุณต้องการเพื่อน ฉันอยู่ก็ได้นะคะ” แอนน์ยืนรอคำตอบ
“ก็ถ้าคุณไม่มีธุระ ก็รบกวนด้วย” นีกอลาบอกตามมารยาท จะให้เขาออกปากไล่ก็ใช่เรื่อง
“อยู่เป็นเพื่อนเขานี่แหละจ๊ะ นิกเขาเป็นมิตรนะ เดี๋ยวบ่ายๆ เย็นๆ จะมาใหม่” เพลิงฟ้าบอกเล่า แล้วก็ออกจากห้องไป เพื่อกลับไปดูว่าโบแวกลับบ้านหรือเปล่า
แอนน์ก็หาที่นั่ง สักพักก็เริ่มพูดคุยกับนีกอลา นีกอลาก็โทรหาตัวแทนของเขาเพื่อแจ้งเรื่องเขาเจออุบัติเหตุ เมื่อแอนน์เตือนเขา แล้วก็กลายเป็นการพูดจาที่ดี
***************************
เมื่อเพลิงฟ้ามาถึงบ้านก็เจอแต่มาดามโบวิเย่ว์ เธอจึงนั่งรอ โทรหาโบแวก็ปิดเครื่องก็ได้แต่เป็นกังวล ไม่รู้อะไรกวนใจเขา ก่อนมีสายเข้าให้เข้าสำนักงาน เธอจึงออกไปทำงานา ก่อนแวะไปหานีกอลา เจอแอนน์นั่งอยู่ไม่ไปไหน
“คือที่ออฟฟิศตามไปช่วยทำอีกงานน่ะ เดี๋ยวค่อยแวะมาอีกทีตอนเลิกนะ นิก” เพลิงฟ้าพูดภาษาฝรั่งเศสกับเขาตามมารยาท เพราะยังไงแอนน์ก็ฟังเข้าใจอยู่แล้ว
“มีเรื่องอะไรเหรอ” แอนน์ถาม เพราะวันนี้เธอก็มัวยุ่งเรื่องอุบัติเหตุจึงไม่ได้เข้าออฟฟิศเช่นกัน
“เรื่องนิตยสารหัวอื่นน่ะ ไม่เกี่ยวกับเธอหรอก ฉันไปก่อนนะ” เพลิงฟ้าเข้าไปสวมกอดนีกอลาเป็นการลา แต่เขาไม่ยอมปล่อยง่ายๆ เธอจึงสะกิดเขาเบาๆ ให้ปล่อย
นีกอลาแค่คลายอ้อมแขน แต่ถามเพลิงฟ้าอีก “ตอนเย็นมาแน่นะ”
“อืม ว่าจะเข้าไปรับงาน แล้วรีบกลับ ยังไม่เจอโบแวเลย ไม่รู้เขาโมโหอะไร” เพลิงฟ้าบอกเล่า ก่อนปลดมือเขาออกแล้วลาอีกที “ไปละนะ แอนน์ ถ้าเบื่อก็ไม่ต้องเฝ้าเขาหรอกนะ เขาไม่ขึ้นค่าเสียหายหรอก”
นีกอลาหัวเราะไปกับแอนน์ เพราะรู้ว่าเพลิงฟ้าพูดเล่นด้วยกันทั้งคู่
“จ๊ะ” แอนน์รับคำเท่านั้น ไม่เคยเห็นเพลิงฟ้าพูดเล่นหัวแบบนี้
ท่าทางของเพลิงฟ้าในที่ทำงานคือเฉยชา คาดว่าเพราะสนิทกับนีกอลาจึงดูผ่อนคลายมากกว่าที่ทำงาน
เพลิงฟ้าเคลียร์งานแล้วก็ฟังกองบรรณาธิการออกแบบ พอดีเจ้าหน้าที่กราฟฟิกอีกคนลางาน ทำให้ทุกคนต้องหาคนที่ว่างมาทำ ซึ่งเพลิงฟ้าเคลียร์งานตัวเองเสร็จแล้ว จึงโดนโยนงานมาให้ เธอไม่เกี่ยงอยู่แล้ว แค่มีเวลาให้ทำงานเท่านั้น
“เอาล่ะๆ วีฟ เธอช่วยเงียบก่อนได้ไหม โซอี้เป็นหัวหน้ากองบรรณาธิการ ถ้าเธอแย่งเขาพูดอย่างนี้ก็คุยงานไม่เสร็จสักที ขอร้องนะ เงียบและฟัง” เพลิงฟ้าเริ่มรำคาญเจเนวีฟที่พยายามเอาตัวเองไปใส่นิตยสาร
“พีช เธอมาขัดคอฉันทำไม” เจเนวีฟหันมาหาเรื่องเพลิงฟ้าอย่างไม่พอใจนัก
“ก็เธอแย่งโซอี้พูดตลอดเวลา ฉันมึน เธอทำเฉพาะคอลัมน์ของตัวเองไปก็น่าจะพอไหม” เพลิงฟ้าปวดหัวกับเรื่องที่เกิดขึ้นมากมาย
“ฉันแค่อยากช่วยให้ฟีย์มีความทันสมัยเข้ากับตลาดเด็กสาววัยรุ่นต่างหาก” เจเนวีฟแก้ตัวอย่างไม่รู้สึกผิด
พอดีหัววีฟวร์เคลียร์จบไปสองปักษ์แล้ว หัวฟีย์ขาดคนจึงต้องไปหาคนมาช่วย
“โซอี้ ถ้าเธอเคลียร์เนื้อหาในเล่มหมดแล้วค่อยเรียกฉันก็แล้วกัน” เพลิงฟ้าหมดความอดทน เบื่อความเอาแต่ใจของเจเนวีฟมาก เมื่อก่อนก็ว่าเยอะแล้ว ตั้งแต่ย้ายไปอยู่กับแฟนก็มากขึ้นเรื่อยๆ
“จะรีบไปสนองความต้องการโบแวเพื่อไต่เต้าเป็นหัวหน้าฝ่ายกราฟฟิคหรือไง” เจเนวีฟหลุดปากมาคำหนึ่ง แล้วต้องรู้ตัวว่าเล่นผิดเรื่อง
เพลิงฟ้าตบหน้าเพื่อนอย่างแรงจนตัวปลิว แล้วทำท่าจะเอาเรื่องอีกจนโซอี้และมารีที่เดินผ่านมาต้องห้าม ไม่งั้นเพลิงฟ้าจะใส่มากกว่านี้
“แกพูดอะไรของแกฮะ ฉันเคารพปิแยร์ตลอด ไม่เคยคิดจะแย่งงานเขาเลย ส่วนเรื่องฉันกับโบแวก็แค่เพื่อนกัน แกหาเรื่องมากไปแล้ว” เพลิงฟ้าจะเข้าไปกระทืบอีก
เจเนวีฟก็ไม่ยอมแพ้จะเข้ามาตอบโต้ สุดท้ายห้องประชุมก็กลายเป็นตลาดสดดังลั่น
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!!!” มารีตะโกนเสียงดังลั่น ทำให้เพลิงฟ้ากับเจเนวีฟสงบ “เฮ้อ”
โซอี้กับอีกคนยึดเจเนวีฟไว้ ส่วนเพลิงฟ้านั้นก็มีเจ้าหน้าที่อีกสองคน ฌอง-ปิแยร์ก็ได้แต่ส่ายหน้า เพราะมีคนไปเรียกเขามาพอดี
“ใครเริ่มก่อน” ฌอง-ปิแยร์ถามก่อนคนแรก
“พีชค่ะ” เจเนวีฟรีบเสนอชื่อเพลิงฟ้าก่อนเลย
“จะไล่ฉันออกก็ได้ ฉันไม่สนใจแล้ว” เพลิงฟ้าพูดตรงๆ เลย แล้วสะบัดหน้าจะออกไปจากห้อง
“หยุดนะ!! พีช!!” ฌอง-ปิแยร์รีบสั่งไม่ให้เพลิงฟ้าออกไปจากห้องประชุม
ปิแยร์...หัวหน้ากราฟฟิคก็เดินเข้ามา เพราะมีคนไปตาม จึงขวางทางเพลิงฟ้าได้พอดี “เห็นว่าทะเลาะกัน เลยรีบมาดู เกิดอะไรขึ้น”
“เจเนวีฟกล่าวหาว่าพีชมีอะไรกับโบแวเพื่อแย่งตำแหน่งของคุณค่ะ ปิแยร์” เจ้าหน้าที่คนหนึ่งที่ไม่ชอบเจเนวีฟพูดขึ้น “พีชเลยโกรธแล้วเข้าไปตบเจเนวีฟค่ะ”
เสียงถอนหายใจดังขึ้น ปิแยร์กับมารีมองหน้ากันแล้วส่ายหน้า ฌอง-ปิแยร์ได้ยินชื่อเพื่อนก็หงุดหงิด
“เจเนวีฟ นี่เธอกล้าเอาเรื่องส่วนตัวของโบแวมาพูดในที่ประชุมของเราเลยเหรอ เธอก็รู้นะว่ามอร์กานไม่ชอบให้พนักงานคนใดพูดถึงลูกเขาแบบนี้ เธออยากออกไปหางานใหม่ใช่ไหม” ฌอง-ปิแยร์ถามให้ชัดๆ
เจเนวีฟได้ฟังก็ตกใจ เพราะคนในสำนักงานนี้รู้ดีว่าต้องไม่พูดพาดพิงถึงโบแว ลูกชายสุดที่รักของมอร์กาน แต่เธอเผลอหลุดปากพูดออกไป เมื่อมีคนลือไปทั่ว โบแวไม่แคร์สายตาใคร ถ้ามา แทนที่จะพาคู่ขาเข้าห้องใดในสำนักงาน กลับมานั่งที่โต๊ะเพลิงฟ้าเพื่อทำงานของตัวเอง
ขณะเดียวกันโบแวก็มีข่าวกับนางแบบสาวคนสวยอีกคน ที่ควงคู่โชว์หวานไปออกงานอีกหลายงาน นางแบบคนพิเศษที่ไร้ที่มาที่ไป แต่โบแวดูจะหลงใหลมาก ชนิดเรียกมาใช้งานแล้วพากลับด้วยตลอด
“เอาล่ะๆ ให้ถือว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น พวกเธอทะเลาะกันเรื่องงานเพราะความเห็นไม่ลงรอยแล้วกัน” มารีไกล่เกลี่ยทันที เบื่อจะมาวุ่นวายกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง อีกอย่างถ้าเจเนวีฟผิดพลาดอาจมีปัญหามาถึงเธอได้
“เรื่องงานอาร์ต โซอี้เธอไปสรุปในทีมให้เรียบร้อยแล้วเอามาคุยกับฉัน ฉันจะคุยกับพีชเอง พวกเธอต้องรู้นะว่าฝ่ายฉันจัดสรรงานกันลงตัวแล้ว พวกเธอฝ่ายบรรณาธิการช้ากันเอง ฉันมีกำหนดส่งงานมาทางฝ่ายฉันชัดเจน พวกเธอต้องแก้ปัญหา ไม่ใช่เรียกลูกน้องฉันกลับมาจากลาพักแล้วก็มาทำเสียงดังใส่ ลูกน้องฉันไม่ใช่คนรับใช้พวกเธอ” ปิแยร์ปกป้องลูกน้องออกชัดเจน
“ใจเย็นๆ ค่ะ เดี๋ยวฉันจะสรุปงานให้นะคะ มารีคะ ยังไงฉันขอเปลี่ยนคนก็แล้วกัน จะได้ไม่มีปัญหากับพีช” โซอี้รู้ว่าเพลิงฟ้าทำงานด้วยง่ายกว่าเจเนวีฟ จึงเลือกเพลิงฟ้าแทน
“งั้นฉันจะส่งแอนน์มาแทนแล้วกัน แต่เธอต้องรีบสรุปงานไม่ใช่เหรอ แอนน์ก็ลาไปทำธุระด้วย” มารีบอกแล้วถอนหายใจ
ตอนนี้คงต้องหาคนมาดิวงานกับเพลิงฟ้าใหม่ ปกติเพลิงฟ้าเป็นคนง่ายๆ คุยงานได้สบายที่สุดในทีมกราฟฟิก ไม่เรื่องมาก แต่ไม่ชอบเปิดเผยเรื่องส่วนตัว ไม่ว่าใครจะถามยังไง ก็ไม่พูด แต่ถ้าใครลากไส้เรื่องส่วนตัวหล่อนมาพูด ปกติจะเดินหนี แต่เพราะเกี่ยวกับลูกชายเจ้าของบริษัท ทำให้ขาดสติไปได้
เพลิงฟ้าเดินตามแรงเจ้านายออกไปจากห้องประชุม ไม่สนใจปัญหาของฝ่ายบรรณาธิการ
ปิแยร์เดินมาก็คุยกับลูกน้อง “ผมว่าคุณต้องใจเย็นกว่านี้นะ พีช ผมรู้ว่าคุณไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวายเรื่องส่วนตัว และรู้ว่าโบแวเข้ามาวุ่นวายกับคุณก่อน แต่คนในออฟฟิศ เขานึกอยากพูดกัน ก็ต้องเข้าใจว่าการนินทามันเกิดขึ้นได้ อย่าพยายามใส่ใจ”
“ค่ะ บอส” เพลิงฟ้ารับฟังเจ้านายเสมอ
“แล้วไม่ต้องคิดมาก ถ้าผมไม่เก่งจริง ผมไม่ได้อยู่ตำแหน่งนี้นานๆ หรอก อีกอย่างผมทำงานกับคุณ ก็พอรู้นิสัยคุณ อย่าคิดมาก” ปิแยร์บอกอย่างเข้าใจ
เพลิงฟ้าเห็นเวลาเลิกงานก็ไปเยี่ยมนีกอลา เห็นแอนน์ยังอยู่และกำลังคุยเรื่องงานทางโทรศัพท์ เห็นเขากำลังดุโทรทัศน์อยู่ “ไง ดีขึ้นไหม”
“ก็เหมือนเมื่อเช้าล่ะ กินอะไรมาหรือยัง” นีกอลาเห็นเธอทำท่าทางเหนื่อยๆ
แอนน์รีบคุยงานแล้วก็รีบจดมาตลอดชั่วโมงแล้ว เพราะถึงเข้าไปตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์ เธอต้องเริ่มโจทย์ใหม่เลย และรู้ว่าเพลิงฟ้ากับเจเนวีฟมีเรื่องกัน
“ใช่แล้วล่ะ ได้แซนวิชมาน่ะ วันนี้ฉันเหนื่อยมาก กลับก่อนนะ พักผ่อนเยอะๆ ล่ะ” เพลิงฟ้าตัดบททันที ก่อนโบกมือให้นีกอลากับแอนน์ แล้วออกไปจากห้องคนป่วย
แอนน์คุยงานเสร็จก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้นีกอลาฟัง
“อ๋อ อย่างนี้นี่เอง” นีกอลาละเรื่องพีโอนี่ไว้ ก่อนพูดขึ้น “อย่างพีชคงไม่ใช่เสปกของโบแวหรอกมั้ง”
“ใครๆ ก็ว่างั้น แต่เจเนวีฟกับเจนน่าไม่คิดงั้น คนอื่นเขามองว่าโบแวแค่ได้เจอศิลปินอีกคนเป็นเพื่อนกัน เข้าใจกันมากกว่า เห็นโบแวไปนั่งโต๊ะพีชทีไรก็ทำแต่งาน พีชนี่เขาชอบผู้หญิงน่ะ แฟนเก่าเขาก็เป็นนางแบบสวยมาก แต่แฟนเขาดันไปติดใจผู้ชายเสียก่อน เลยเลิกกับเขา” แอนน์เล่าตามที่รู้
“อ๋อ” นีกอลาไม่เชื่อเรื่องนี้เท่าไร เพียงแต่เขาลืมนึกไปว่าเขาไม่ได้ติดต่อเพลิงฟ้ามาหลายปี ตั้งแต่เพลิงฟ้าเรียนมหาวิทยาลัย และมาไกลถึงฝรั่งเศส ทุกอย่างเปลี่ยนไปมากเหลือเกิน
เขายังเห็นความรู้สึกที่ยังหลงเหลืออยู่ในแววตาของเธอ
***************************
เสียงไขประตูเข้ามาในช่วงตีสองของวันใหม่แล้ว เขาเห็นแสงไฟที่เตาผิงเทียมส่องไปยังร่างบางที่นอนห่มผ้าอยู่ที่โซฟากลางห้องรับแขก เหมือนเพลิงฟ้ากำลังรอเขา
โบแวยอมรับว่าเขากลัวจะเหมือนอันนาอีก พอมีเพื่อนสมัยเด็กเข้ามา หล่อนก็จะทิ้งเขาไปอยู่กับเพื่อนสมัยเด็กอีกครั้ง สายตาเขามองร่างบางที่ทอดกายยาวเหยียดนอนห่มผ้าอย่างสบายอารมณ์ ไม่รู้ว่ากำลังรอเขาอยู่หรือเปล่า แต่ใจเขาหวั่นไหวได้อย่างน่าประหลาด และเขาก็ตัดสินใจปลุกเธอขึ้นไปนอนชั้นบน
“พีชๆ ไปนอนข้างบนเถอะ” โบแวปลุกเธอด้วยการสะกิดเบาๆ แล้วเขย่าที่สะโพกเธอ
เพลิงฟ้าสะดุ้งตื่นแล้วได้กลิ่นน้ำหอมไม่คุ้นก็ผงะ ก่อนตั้งสติได้เมื่อเห็นเขา
“มานอนทำไมตรงนี้ ไม่ไปนอนในห้อง” โบแวพยายามปรับเสียงให้ราบเรียบ
เธอจ้องมองเขาแล้วรวมกับกลิ่นน้ำหอมที่ไม่คุ้นก็รู้ว่าเขาหนีไปไหน เธอกลับรู้สึกโกรธที่เขาหนีไปปล่อยเธอเผชิญหน้ากับสิ่งต่างๆ ของวันนี้เพียงลำพัง
เพลิงฟ้าลุกขึ้นแล้วเดินหนีเขาทันที...
โบแวเห็นเธอรีบเดินขึ้นชั้นสองก็แปลกใจ พอขึ้นไปถึงชั้นสามก็ดึงคุยกันอยู่ตรงทางเดิน “เป็นอะไร”
“วันหลังถ้าคุณแค่ต้องการไปนอนกับผู้หญิง ก็ควรรับสายก่อนจะไปทำอย่างนั้นบ้างสิ ฉันก็เป็นห่วงว่าคุณเป็นอะไรอยู่ทั้งวัน แค่บอกว่าไปคลายเครียดหรือไปสนุกก็ได้ ฉันจะได้ไม่ต้องกังวลว่าคุณมีเรื่องอะไร” เพลิงฟ้าใส่เขาเป็นชุด
“เป็นห่วงฉันเหรอ” โบแวถามอย่างงุนงง
“ไม่ให้เป็นห่วงได้ไง ปิดประตูห้องคนไข้ปัง เดินกระแทกๆ หนีไปเฉย นึกว่ามีเรื่องอะไรอีก” เพลิงฟ้าพูดแล้วเดินเข้าห้อง พอเขาเดินตาม เธอก็ผลักเขา “ฉันไม่มีอารมณ์จะมารับรู้เรื่องบนเตียงของคุณ เพราะงั้นไปนอนห้องคุณเถอะ”
“ฉันยังไม่ได้บอกเลย” โบแวก็สงสัยอีก
“กลิ่นน้ำหอมผู้หญิง คิดว่ามันเหมือนผู้ชายหรือไง และมันฉุนมาก ฉันคงนอนไม่หลับ” เพลิงฟ้าไล่เขาไปนอนห้องเขา แล้วเข้าห้องตัวเองพร้อมปิดล็อก
โบแวดมกลิ่นตัวเองแล้วถอนหายใจ กลิ่นของแม่สองสาวนั่นติดตัวเขา จึงกลับไปห้องตัวเองเพื่ออาบน้ำ กลับมาอีกทีพร้อมกุญแจห้องเพลิงฟ้า ไขได้แต่พอจะกดคันประตู ปรากฏว่ากดไม่ลง เหมือนมีอะไรค้ำอยู่ จึงเคาะประตูเรียก
“พีชเอาอะไรที่ขวางคันประตูออกไปที” โบแวบอกแต่ไม่ได้ยินเสียงตอบ ก็รออยู่นานไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย ก็เคาะเรียกอีก “ให้ตายเถอะ นี่มันจะตีสามอยู่แล้วนะ ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย”
เพลิงฟ้าไม่ตอบแล้วก็พยายามนอนให้หลับ
โบแวเตะประตูเสียงดังเข้ามาในห้อง ก่อนปิดประตูห้องตัวเองเสียงดังลั่น แล้วพยายามนอนที่เตียงตัวเองให้หลับ ขณะที่เพลิงฟ้าได้ยินเสียงเขากลับห้องไปแล้วก็เลื่อนตู้ออกจากประตู จากนั้นก็ล็อคห้องแล้วนอนต่อ รู้สึกใจเต้นแรงเพราะอารมณ์โกรธกับความรู้สึกที่บอกไม่ได้ว่าเป็นความรู้สึกอะไร
โบแวพลิกตัวไปมาบนเตียงแล้วลุกขึ้นนั่ง จากนั้นก็ดมกลิ่นตัวเอง ถอนหายใจแล้วเดินไปอาบน้ำอีกรอบ พอเดินผ่านที่นอน เขาก็อยากลองอีกครั้ง อย่างน้อยเธออาจยอมใจอ่อนเปิดประตูแล้วคุยกันบ้าง
เมื่อไขประตูแล้ว เขาก็กดคันประตูได้อย่างง่ายดาย และเปิดเข้าไปได้ มีแสงสลัวเล็กน้อย ทำให้เขามองเห็นเพลิงฟ้าหลับสบายบนเตียงของเธอ เพราะคิดว่าเขาคงไม่กลับมาแล้ว แต่คิดผิดถนัด เมื่อเขาทิ้งน้ำหนักลงด้านหลังของเธอ เธอก็ตกใจมาก เขาใช้มือปิดปากเธอแล้วบอก
“ฉันเอง”
เพลิงฟ้าได้สติว่า ‘ฉันเอง’ คือใครก็ทุบเขาแรงๆ ก่อนว่าเขา “ทำบ้าอะไรของคุณ ฉันตกใจแทบตาย”
“ก็เธอไม่ยอมเปิดประตูให้ฉันเข้ามาดีๆ” โบแวตอบอ้อมแอ้ม พยายามจับมือเธอที่ทุบเขาอย่างโกรธ “ขอโทษๆ หยุดทุบเสียที”
เพลิงฟ้าได้สติก็หันหลังให้
“เธอโกรธที่ฉันนอนกับผู้หญิงอื่น หรือโกรธที่ฉันไม่รับโทรศัพท์แล้วทำให้เป็นห่วงกันแน่” โบแวถามจริงๆ จังๆ
เสียงถอนหายใจดังขึ้น เพลิงฟ้าต้องตั้งสติ “โกรธที่ทำให้เป็นห่วง โกรธที่คุณทำให้ฉันเจอสถานการณ์วุ่นวายในวันนี้”
“สถานการณ์วุ่นวาย?” โบแวกอดร่างบางในอ้อมแขน “นี่เธอคงไม่ได้ออกไปตามหาฉันตามที่ต่างๆ หรอกนะ”
“ไม่ได้ไปค่ะ ไม่รู้จะไปตามที่ไหน คิดว่าเพื่อนคุณคงรู้ เห็นเขาที่สำนักงาน” เพลิงฟ้าตอบตามตรง และทำให้โบแวแอบไม่พอใจที่เธอไม่คิดจะตามหาเขา
เพลิงฟ้าเห็นเขาเงียบก็พลิกตัวหันไปมอง ลืมไปว่าไม่ได้เปิดไฟ หันไปก็ใช่ว่าจะเห็นสีหน้าเขา แต่กลายเป็นว่าเขาพลิกตัวมาทางเธอดึงมือเธอไปโอบกอดเขาเสียอย่างนั้น แถมเขายังจูบเธออีก จนเธอต้องผลักเขาออกไป
“อะไรเนี่ย”
“แค่อยากจูบ”
“เอาแต่ใจตลอด”
“ก็เป็นอย่างนี้มาตลอด”
เพลิงฟ้าขี้เกียจต่อปากต่อคำ รู้แต่ว่าเขากำลังกระชับอ้อมแขนดึงเธอเข้าอ้อมกอดเขาให้แน่นขึ้น จากนั้นเขาก็ซบหน้าที่อกเธอ อกเธออิ่มและเต็มไม้เต็มมือมากขึ้น ซึ่งก็มาจากฝีมือเขาอีกนั่นแหละ
“ตกลง สถานการณ์วุ่นๆ อะไร” โบแวเงยหน้าขึ้นมอง แต่โดนเธอผลักออก แต่ก็ยังอยู่ในอ้อมแขนเขา
“เรื่องที่ออฟฟิศน่ะ เขาพูดว่าฉันนอนกับคุณเพื่อแย่งตำแหน่งหัวหน้าฉัน” เพลิงฟ้าบอกเล่าตามตรง
โบแวผงะแล้วเปิดไฟ มองหน้าเพลิงฟ้าตามตรง “มีคนพูดอย่างนั้นจริงๆ เหรอ”
“อืม ฉันว่าต่อไปคุณไปคุยงานกับแม่คุณแล้วไม่ต้องแวะไปหาฉันเลย เรื่องพีโอนี่อีก ไม่ไหวแล้วนะ ฉันไม่ชอบออกงาน” เพลิงฟ้าบอกเล่าแล้วพยายามผลักเขาให้พ้นตัวจะได้นอนตะแคงหันหลังให้เขา
“ไม่เห็นจะสน ใครอยากพูดอะไรก็พูดไป” โบแวปล่อยเธอพลิกตัวหันหลังให้ แล้วสวมกอดจากด้านหลัง
เพลิงฟ้าถอนหายใจ จะทำยังไงให้จอมบงการอย่างเขามองเห็นปัญหาต่างๆ เธอพลิกตัวหันมาทางเขา ก็ถูกเขาจับแขนไปกอดเขา แล้วเขาก็จูบเธอแนบแน่นอีกรอบ แล้วถอนจูบ แล้วซบที่ไหล่เธอ
“ถามจริงๆ เถอะ ทำไมอยู่ๆ ก็ออกไป” เพลิงฟ้าถามเขาอย่างใจเย็น แล้วโอบกอดเขา
ทำไมคนเราจึงต้องโหยหาอ้อมแขนใครสักคนเพียงนี้...
“รู้สึกเหมือนเธอจะทิ้งฉันเหมือนอันนา” โบแวพูดสั้นๆ
“ทำไมคิดแบบนั้น” เพลิงฟ้าไม่รู้เรื่องโบแวกับคนรักมากนัก
“อันนาทิ้งฉันไปหาเพื่อนสมัยเด็ก เหมือนเธอกับนีกอลา” โบแวถอนหายใจ ไม่อยากอธิบายเท่าไรนัก
เพลิงฟ้าได้ฟังเหตุผลเขาแล้วถอนหายใจ ก่อนอธิบาย “ทำไมคิดว่าฉันจะแต่งงานกับนิก อีกอย่างนิกไม่แต่งงานกับฉันหรอก”
“จะรู้ไหม รู้สึกเหมือนพวกเธอจะมีความหลังกัน” โบแวไม่อยากอธิบายยาวๆ
“ช่างมัน ฉันไม่คิดว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นเลยนะคะ อย่างน้อยก็ตอนนี้” เพลิงฟ้าไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นไหม และระหว่างเขากับเธอก็แค่เพื่อนคนพิเศษที่ไม่พูดอะไรกันมาก แต่ยอมรับสิ่งที่อีกฝ่ายเป็น ก่อนพูดตบท้าย “ฉันก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเราสองคนเป็นอะไรกันแน่”
โบแวนิ่งเงียบไม่พูดมาก ไม่รู้ว่าควรอยู่ในฐานะไหนกันดี “นอนกันเถอะ”
เพลิงฟ้ารู้ว่าที่เขาเงียบ เขาก็คงทบทวนอยู่บ้าง แต่บอกได้เลยว่าทั้งเธอและเขาต่างก็กลัวที่จะคิดถึงจุดนี้
โบแว...คือชายที่เธอไม่ควรจะรักแต่ใจกลับโหยหา
เพลิงฟ้า...คือหญิงที่เขาปรารถนาแต่ไม่อาจครอบครอง
***************************
นิ่งอึ้ง...
แจ็คเกอลีนบุกมาถึงออฟฟิศของมอร์กาน เมื่อรู้ว่าพีโอนี่เป็นเด็กของมอร์กานแล้วเข้าไปคุยกับมอร์กาน ท่าทางคุยกันยาวสักพัก เพลิงฟ้าก็โดนเรียกไปในห้องทำงานของมอร์กาน แล้วรูดปิดม่านไว้หมด
“นี่เหรอ พีโอนี่ตัวจริง” แจ็คเกอลีนจ้องอย่างสงสัย
สาวแว่นไม่แต่งตัวผมเผ้ารุงรังปกปิดความเป็นสาวเฉี่ยวแบบพีโอนี่หมด
“ใช่ นี่แหละพีโอนี่ เอาล่ะ ฉันบอกเธอแล้วว่าเขาไม่สนใจหรอก เขาอายุยี่สิบห้าแล้วนะ มันแก่เกินไปสำหรับวงการนางแบบหรือเปล่า” มอร์กานพยายามปกป้องเพลิงฟ้ามาก
“ฉันปฏิเสธคุณไปแล้วนะคะ” เพลิงฟ้าบอกทันทีแล้วมีสีหน้าตื่นๆ
“ได้โปรดเถอะ ฉันเอารูปเธอไปหางานมาให้แล้ว โบแวบอกแล้วแต่เธอ ฉันกลัวเธอไม่รับ เลยไปหางานมาให้แล้ว นี่ไง” แจ็คเกอลีนเอางานมาวาง มีรายละเอียดพร้อม เพราะถูกชะตากับพีโอนี่แต่แรกเห็น เมื่อมาเจอตัวจริงก็ยังไม่ถอย
“นี่แจ็คกี้ เธอทำเกินไปแล้วนะ พีโอนี่ยังไม่ได้รับงานเลย” มอร์กานตำหนิรุ่นน้องแล้วส่ายหน้า ก่อนมองราคาได้ค่าจ้าง แล้วหันไปมองเพลิงฟ้า ก่อนบอก “รับเถอะ แบรนด์นี้เขาไม่รับนางแบบอายุเยอะง่ายๆ ด้วย เธอนี่เก่งจริงๆ แจ็คกี้”
“แน่นอน มันเป็นหน้าที่ของฉันที่อยากจะได้ลูกค้าใหม่ หมายถึงเธอที่เป็นนางแบบก็เป็นลูกค้าฉัน แล้วก็เจ้าของสินค้าน่ะ รับเถอะ รายได้เยอะนะ” แจ็คเกอลีนพยายามขอร้อง
เพลิงฟ้ามองหน้ามอร์กานที่พยักเพยิดให้รับงาน ก่อนตอบรับ “ได้ค่ะ”
“งั้นเรามาเซ็นสัญญาส่วนแบ่งค่าตัวเลยนะ เธอรับไปเจ็ดสิบ ฉันขอสามสิบเลยนะ งานนี้จ้างแบบครอบคลุม ไม่งั้นค่าจ้างไม่เยอะอย่างนี้หรอก” แจ็คเกอลีนดีใจมาก ร่าเริงขึ้นมาทันที
“เดี๋ยวก่อน ฉันต้องการข้อตกลงที่จะไม่เปิดเผยตัวจริงของเด็กคนนี้ด้วย” มอร์กานออกโรงปกป้องเพลิงฟ้าชัดเจน พรุ่งนี้เพื่อนเธอก็จะเดินทางมาจากเมืองไทยพร้อมสามีชาวไทย เธอไม่อยากโดนเพื่อนตำหนิกับวิธีการดูแลเด็กของเธอ
“โอเค เดี๋ยวให้ผู้ช่วยฉันจัดการร่างสัญญาเลยนะ แล้ววันที่ไปเซ็นสัญญากับเจ้าของบริษัทเซเว่นสตาร์เนี่ย ต้องไปในลักษณะของพีโอนี่นะ” แจ็คเกอลีนย้ำ เพราะไม่อยากให้ใครเห็นว่าพีโอนี่เป็นสินค้ามีตำหนิ
“อืม ได้เลย” มอร์กานเป็นคนตกลงแทน “ขอสัญญาก่อน จะได้เอามาศึกษา”
“ได้เลย” แจ็คเกอลีนโทรไปสั่งผู้ช่วยให้ทำเอกสารสัญญาส่งเมลมาทันที
มอร์กานมองเพลิงฟ้าหนักใจก็เข้าใจว่าอีกฝ่ายไม่อยากวุ่นวายมาก ถ้าเธอรับงาน หน้าตาของพีโอนี่ก็ไปมากกว่าอยู่ในปารีส เมื่อเทียบกับงานของโบแว แต่จะทำยังไงได้ เมื่อแจ็คเกอลีนใช้วิธีนี้ในการบีบบังคับให้เพลิงฟ้ารับงานในฐานะพีโอนี่
เมื่อจัดการอ่านทวนสัญญาแล้ว มอร์กานเอาให้ทนายความศึกษา แจ็คเกอลีนก็พยายามจะบีบให้เซ็นในวันนี้เลย โดยยอมแก้ตามที่มอร์กานต้องการทุกอย่าง เมื่อทนายความเห็นว่าสัญญาเป็นธรรม ก็เป็นอันตกลงกัน โดยเพลิงฟ้าให้แจ็คเกอลีนทำหน้าที่รับงานแทนหมด สัญญาปีต่อปี ส่วนแบ่งให้ดูตามความเหมาะสมกับงาน ซึ่งจะต้องคอยดูกันต่อไปในอนาคต
มอร์กานมองเฉพาะงานแรกที่รายได้หกหลักเท่านั้น ที่เธอเน้นมาก เพราะสัญญาตัวอื่นต้องส่งสัญญาส่วนแบ่งให้ต่างหาก เรื่องอื่นก็ไม่คิดอะไรมาก เพราะยังไงเพลิงฟ้าก็คงให้ช่วยดูอีกในอนาคต
แจ็คเกอลีนนัดแนะเวลาอีกครั้งแล้วก็ขอตัวกลับ
“แล้วงานของคุณล่ะคะ” เพลิงฟ้าถามอย่างงุนงง
“ก็ทำไปสิ ยังไงก็ไม่ต้องเข้าออฟฟิศตลอดเวลาอยู่แล้วนี่นะ” มอร์กานบอกอย่างไม่คิดมากแล้วโบกมือให้เพลิงฟ้ากลับไปได้แล้ว
ท่าทางมอร์กานกับโบแวก็เหมือนกันอยู่มาก แต่ถ้าเพลิงฟ้าเคยเห็นท่าทีของฌากกับโบแว จะยิ่งมั่นใจว่าโบแวเหมือนฌากมากกว่ามอร์กานเยอะ
***************************
เมื่อกลับมาถึงบ้านโบแวแล้ว ก็ไขแล้วก็ล็อกตามระเบียบแล้วขึ้นไปที่ห้องเขา เคาะอยู่นาน ห้องเขาล็อคอยู่จึงเปิดเข้าไปไม่ได้ จึงคิดว่าเขาหลับไปแล้ว เธอไขกุญแจเข้าห้องตัวเอง เพราะโบแวสั่งไว้ให้ล็อกห้องเสมอ ไม่ว่าจะเข้าหรือออกจากห้อง แต่พอเปิดไฟในห้อง เห็นโบแวนอนอยู่ ก็รู้ว่าเขาเอากุญแจสำรองไขเข้ามาเอง
“กลับมาแล้วเหรอ” โบแวถามขึ้น และพยายามเรียกสติ
เพลิงฟ้าพยักหน้าช้าๆ แล้วหยิบเสื้อผ้าเพื่อไปอาบน้ำ แม้จะเป็นฤดูหนาว แต่เธอก็คุ้นกับการอาบน้ำมากกว่า พอออกมาเห็นโบแวพลิกตัวไปมาที่เตียงเธอ ก็ขึ้นอีกด้าน
“พ่อหยุดโครงการทำเสื้อตลาดกลางแล้ว เพราะรีอาหน้าเงินมันยุส่ง” โบแวดึงเพลิงฟ้ามากอดอย่างเหงาๆ
“ไม่โทรหาสาวๆ คลายเครียดล่ะ คิดมากไปทำไม หนทางยังมีอีกเยอะ” เพลิงฟ้าบอกเล่าแล้วรู้สึกผิดปกติ เมื่อเขาขยับมาแล้วเท้าคางมอง ก่อนโน้มลงมาจูบเธอ
โบแวถอนจูบแล้วมองเพลิงฟ้าอีกรอบ ถึงตอนนี้หล่อนจะกลายเป็นยัยเฉิ่มอีกครั้ง แต่มันไม่ใช่ภาพลักษณ์ของเธอหรอกที่ทำให้เขาติดใจ มันเป็นความปรารถนาที่เขาก็บอกไม่ได้ว่าเพราะอะไร
“ได้ไหม” โบแวถามอ้อมๆ แทนที่จะใช้กำลังบังคับ
เพลิงฟ้าถอนหายใจ บางครั้งก็ยากจะปฏิเสธพ่อหนุ่มผมยาวสีทองคนนี้ จึงพยักหน้าและปล่อยทุกอย่างเกิดขึ้น
โบแวจูบเธออีกครั้งแล้วดึงรั้งเสื้อผ้าออกจากตัวเขาและตัวเธอ เขาจูบเล้าโลมให้เธอผ่อนคลาย เขาจูบเธอด้วยความเสน่หา ซุกเข้าหาร่างกายที่แสนอบอุ่น แนบชิดกันแบบไร้ผ้าอาภรณ์
เมื่อเขาเลื่อนริมฝีปากลากลงมาสัมผัสที่เนินอก เพลิงฟ้าหลับตาพริ้มหายใจเป็นห้วงอย่างเร้าอารมณ์ เขจูบต่ำลงไปอีก จนถึงสะดือ แต่ก่อนที่จะได้ทำอะไรมากกว่านั้น เพลิงฟ้าก็นึกขึ้นมาได้
“เดี๋ยวก่อน โบแว” เพลิงฟ้าจับศีรษะเขาแล้วเขาก็เงยหน้าขึ้นมองอย่างงุนงง
“อะไร” โบแวถามเพลิงฟ้า นึกว่าเธอจะปล่อยเขาอารมณ์ค้างอีก
“ฉันยังไม่เคยกับผู้ชาย” เพลิงฟ้าบอกเล่าเขา แต่ไม่ได้ห้าม
โบแวก็ถอนหายใจยาว นึกว่าหล่อนจะห้ามเขาเสียอีก “ก็คงไม่ต่างจากของเล่นพวกนั้นเท่าไรหรอกน่า”
เพลิงฟ้าก็หัวเราะ “ของเล่นน่ะ ของโนรา เพื่อโนรา ไม่ใช่ของฉัน ฉันไม่เคยใช้หรอก”
โบแวถอนหายใจแล้วขยับขึ้นมาจ้องหน้าเธอ ลูบแก้มที่เจ้าของมีรอยยิ้มให้เขา “ก็ไม่เป็นไร ดีที่บอกจะได้ระวัง”
เพลิงฟ้าก็หัวเราะแต่ถูกเขาจูบผิดปาก มือซ้ายเขาประสานกับเธอ มือขวาเขาเอามือเธอจับที่คอเขา ปล่อยให้ผมยาวสยายของเขาละลงมาข้างตัว ริมฝีปากเขาช่างร้อนแรงตามประสบการณ์ของเขา หัวใจของเพลิงฟ้าล่องลอยไปไกลมาก...มากจนไม่น่าเชื่อว่าจะปล่อยให้เตลิดไปไกลอย่างนี้
เขาแทรกผ่านร่างเธอทีละนิด เสียงหัวใจหล่อนเต้นแทบไม่เป็นจังหวะ แล้วเผลอจิกที่คอเขาอย่างแรงจนเขาต้องจูบเนินอกเธออีกครั้งให้เธอผ่อนคลาย
เสียงถอนหายใจดังขึ้นเป็นระลอก เธอผ่อนคลายได้มาก รู้สึกเหมือนใจจะขาดเมื่อเขาขยับตัว จังหวะรักช่างเย็นเหมือนน้ำ แม้ร่างกายร้อนระอุเหมือนไฟเผา ความแสบสันต์เจ็บกลายเป็นความเสียวซ่านรัญจวนใจ เมื่อร่างกายเริ่มคุ้นเคย
เสียงร้องครางเบาๆ ดังเป็นจังหวะ สลับเสียงผิวกายที่เสียดสีกันของคนสองคน เสียงผิวกายลากจังหวะตามความต้องการทางกายที่แสนสุดจะหยุดได้ ด้วยความโหยหาที่เนิ่นนานทำให้สองร่างไม่อาจบังคับได้อีก
ร่างกายทั้งสองหล่อหลอมกลายเป็นหนึ่งเหมือนถูกกำหนดให้เข้ารับจับคู่กันอย่างลงตัว
จากจังหวะรักที่แสนหวาน เนิบนาบเชื่องช้า กลายเป็นจังหวะเร่าร้อน สะโพกขยับรับกันอย่างไร้ขอบเขต ปลดแอกความคิดเหลือเพียงสัญชาตญาณที่ซ่อนเร้น ความต้องการกันและกันรุนแรงขึ้นเรื่อยอย่างไม่รู้จักหยุดนิ่ง
แทบไม่รู้เวลารู้แต่ว่าคงเกินตีสี่มาแล้ว เมื่อความสุขสมสุกงอม ทุกสิ่งก็ถูกปลดปล่อยออกไปอย่างเต็มที่ โบแวหอบหายใจเล็กน้อย ทิ้งตัวลงบนที่นอน ปล่อยให้เพลิงฟ้าได้พัก เพราะหล่อนก็หอบหายใจอย่างถี่ๆ กับแรงกระตุ้นของเขา
“เฮ้อ” เพลิงฟ้าถอนหายใจอย่างแรงระบายความรู้สึกต่างๆ ที่อัดอั้น หากพอจะพลิกตัวหันหลังให้ โบแวก็พลิกมาซบหน้าที่อกเธออีก ไม่เพียงแค่นั้น เขายังดึงมือเธอไปกอดเขา แล้วเงยหน้ามองเธอ ทำให้เธอเห็นรอยยิ้มเขาชัดเจน
“อะไร” เธอถามอย่างหวั่นๆ
“ยังไม่ง่วง แต่รอบนี้ปิดไฟนะ” โบแวบอกแล้วลุกไปปิดไฟ
“ขอพักก่อนสิ ยังระบมอยู่เลย” เพลิงฟ้ารีบห้ามแต่คงยากและไม่ทันแล้ว เพราะเขาคร่อมทับร่างเธอ แล้วจูบปิดปากจับเธอลุกขึ้นนั่งแล้วกอดแนบแน่น เล้าโลมตามถนัดของเขา
ชั่วโมงบินในเกมรักผิดกันนัก...โบแวไม่ยอมให้ใครได้ปฏิเสธความต้องการของเขาแน่นอน
*********************
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นในห้องนอน เสียงพลิกตัวก็ดังตาม เพลิงฟ้าถอนหายใจยาว แม้แสงสว่างจะรอดเข้ามาในห้องแล้วแต่เธอยังรู้สึกเมื่อยและง่วงอยู่เลย รู้สึกระบม ก่อนจะคว้ามือถือที่หัวเตียงมากดรับ
“สวัสดีค่ะ” เพลิงฟ้าทักทายเป็นภาษาฝรั่งเศสตามปกติ เพราะไม่คิดว่าจะมีใครโทรมา
“ไอ้พีช แพร์ว่ะ” พุทธรักษ์ทักทายน้องสาวแล้วยิ้ม
“แพร์ส้นตีนน่ะสิ โทรมาทำห่าอะไร คนอยากนอน” เพลิงฟ้าเซ็งที่พี่ชายโทรมา
“แหม แจกส้นตีนแต่แรกคุยเลย เออ คืองี้นะ พาแม่ไปตรวจ แม่ไข้ขึ้นสูงสามวันแล้ว พ่อรอฉันมาพาไป ก็เพิ่งว่างพาไป ทีนี้หมอบอกว่าแม่เป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ” พุทธรักษ์อธิบายชัดเจน
“ทำไมรอตั้งสามวัน” เพลิงฟ้าถอนหายใจ เหนื่อยก็เหนื่อยแต่เป็นห่วงแม่มากกว่า
“ก็ไม่ว่างติดถ่ายละคร” พุทธรักษ์ตอบตามตรง
“ทำไมไม่ให้พ่อโทรเรียกรถพยาบาลมารับแม่ไปตั้งแต่วันแรก มัวโง่อยู่หรือไง” เพลิงฟ้าด่าพี่ชายเสียๆ หายๆ ตลอดเวลา
“เฮ้ย พูดให้มันดีๆ หน่อยได้ไหมวะ พูดคำ ด่ากลับคำ กูก็มีอารมณ์นะเว๊ย!!!” พุทธรักษ์ส่ายหน้าช้าๆ หงุดหงิดที่โดนน้องด่าอยู่เรื่อย
“คุยกับพ่อหน่อย” เพลิงฟ้าจึงไม่ยอมคุยกับพี่ชายอีก
“พีช เรื่องก็ผ่านไปตั้งนานแล้ว ยกโทษให้ฉันไม่ได้หรือไงวะ” พุทธรักษ์พูดอย่างอ่อนใจ
“จะพูดกับพ่อ” เพลิงฟ้าย้ำ แล้วได้ยินโบแวพลิกตัว ก็เดินไปหยิบเสื้อคลุมแล้วเข้าไปคุยต่อในห้องน้ำ
พุทธรักษ์ก็รีบยื่นให้พ่ออย่างเซ็งๆ “มันจะคุยกับพ่อ”
พจน์รับสายแล้วถอนหายใจที่พี่น้องทะเลาะกันได้ตลอด ก่อนคุยกับลูกสาว “แม่ไม่สบายนะ พีช แต่ตอนนี้อาการดีขึ้นแล้ว หมอบอกว่าดีที่มาทัน”
“ทำไมพ่อไม่เรียกรถพยาบาลมารับแม่ไปเลย รอมันทำไม แม่น่ะคู่ชีวิตพ่อนะ คนที่คอยดูแลพ่อตลอด เวลานี้แม่ไม่สบาย ทำไมไม่รีบพาไป อย่าบอกว่าไม่มีเงิน ถึงเราไม่รวยแต่ก็พอมีเงินเก็บนะ” เพลิงฟ้าใส่เป็นชุด
“แม่บอกว่าไม่เป็นไร กินยาก็หาย พ่อก็บอกแล้วว่าให้แม่ไปหาหมอ แม่ไม่ยอม ต้องแพร์มารับ แม่ถึงยอมไปโรงพยาบาล พ่อไม่รู้จะทำยังไง ถ้าพีชอยู่ แม่ก็คงยอมไป” พจน์พูดตามจริง
“พ่อจะพูดกับพีชแค่นี้ใช่ไหม จะต่อว่าพีชที่ไม่อยู่ด้วย แม่เลยไม่ไปหาหมอ อะไรๆ พีชก็ผิดใช่ไหม” เพลิงฟ้าถอนหายใจยาว ได้ยินเสียงในห้องและเธอก็รีบล็อคประตู ได้ยินเสียงเขาพยายามไขเข้ามา
“เปล่า พีช พ่อก็พูดตามจริง ถ้าลูกคนใดคนหนึ่งพูด แม่ต้องไปโรงพยาบาล” พจน์อ่อนใจ เพราะลูกโกรธอีกแล้ว
“ทำไมพ่อไม่โทรหาพีช พีชจะได้คุยกับแม่” เพลิงฟ้าถามพ่ออย่างคาดคั้น
พุทธรักษ์เห็นพ่อหน้าเครียดก็รีบดึงกลับมาคุยเอง “อย่าคาดคั้นพ่อ ก็รู้นี่ว่าถ้าพ่อเครียด มะเร็งอาจกลับมาอีกก็ได้ นี่พ่อก็เครียดมากแล้ว เอาเป็นว่าแม่อยู่ในการดูแลของหมอแล้ว หมอบอกว่ายังไงแม่ก็ปลอดภัย”
“แค่นี้นะ” เพลิงฟ้ากดตัดสายแล้วยกมือขึ้นกุมหัว ทั้งมึนทั้งเพลีย จึงทำธุระจนเสร็จแล้วก็สวมเสื้อคลุมออกไปนอกห้อง ไม่เห็นโบแวแล้วก็กลับเข้าห้องน้ำ อาบน้ำให้สบายตัว ตั้งใจจะนอนพักอีก พอออกมาแล้วก็เห็นโบแวนอนอยู่บนเตียง เธอก็กลับเข้าห้องน้ำแล้วโทรลางาน
เมื่อออกมา ก็เจอโบแวลืมตามอง เมื่อเดินผ่านก็โดนเขาจับข้อมือ ลากลงมานอนในอ้อมแขนเขา
“ยังไม่อาบน้ำใส่เสื้อผ้าอีก” เพลิงฟ้าเปรยขึ้น เมื่อเขากอดและพยายามซุกหน้าที่ซอกคอเธอ
“ยังไม่ตื่นไง นอนต่อไหม” โบแวถามแต่ไม่ยอมปล่อย
“หิวแต่ง่วงค่ะ” เพลิงฟ้าตอบแล้วก็ใจเต้นแรง
“งั้นนอนก่อน ตื่นแล้วค่อยกิน” โบแวตอบแล้วกอดไม่ยอมปล่อย
เพลิงฟ้ารู้สึกได้ เพราะเธอสวมแต่เสื้อคลุมบางๆ ส่วนเขาเปลือย ไม่รู้เขากลับห้องเขายังไง แล้วยังงงอยู่ว่าทำไมเขากลับมาห้องเธออีก แต่สุดท้ายแล้วเธอก็เพลียเกินกว่าจะหาคำตอบ ตอนนี้สิ่งที่เธอควรจะคิดถึงคือแม่ที่เมืองไทยมากกว่า และยังไม่ได้คุยกับแม่เลย เพราะตอนนี้ที่นั่นก็น่าจะเริ่มดึกแล้ว เธอจึงคิดว่ารอให้ที่นั่นเช้าค่อยโทรไปน่าจะดีกว่า
*********************
หลังจากคุยกับแม่เรียบร้อย และได้คุยกับหมอแล้ว เพลิงฟ้าก็โล่งใจที่แม่ได้รับการรักษาที่ดีที่สุด เธอจึงมาซ้อมเดินแบบด้วยการแต่งหน้าทำผมจัดเต็ม โดยเดินเข้างานกับโบแว และโบแวก็สั่งไว้แล้วว่าให้เธอกลับพร้อมเขา โดยไม่สนใจว่าใครจะมองว่าเธอเป็นเด็กเส้นของโบแว
เพลิงฟ้ายืดผมตรง แต่งหน้าพอประมาณและแต่งตัวเหมือนตอนซ้อม มีรองเท้าส้นสูงติดมาด้วย และเริ่มฟังการนัดรายละเอียดอีกรอบ แล้วก็มีการเปิดเพลงซ้อม เธอได้ฝึกแล้วจึงลงจังหวะลงตัว ไม่มีปัญหา จนกระทั่งเลิกงาน เธอเปลี่ยนรองเท้าก็มีคนเข้ามาทัก
“พีช” นายแบบหนุ่มลูกครึ่งไทยฝรั่งเศสเข้ามาทักทายเธอ เมื่อมีโอกาส
เพลิงฟ้าไม่มองเจ้าของเสียง และไม่แม้แต่จะพูดกับเขา ก่อนถอดรองเท้าซ้อมเก็บใส่กระเป๋า
“พีโอนี่ โบแวบอกว่าให้คุณรอเขาก่อน เขาจะไปดูภาพตอนซ้อมแล้วดูว่าเสื้อผ้าพอดีตัวนางแบบนายแบบทุกคนหรือเปล่า” เจ้าหน้าที่คนหนึ่งบอกเพลิงฟ้าแล้วไปทำงานของเขาต่อ
“พีโอนี่? ที่นี่เขาเรียกเธอแบบนี้เหรอ” นีกอลาพยายามคุยกับเพลิงฟ้าที่ไม่ยอมพูดกับเขาสักคำ ก่อนเขานึกได้ว่าโบแวคือใคร จึงถาม “เธอกับโบแว...เหรอ”
“อย่ายุ่งเรื่องของฉันอีกได้ไหม เป็นไปได้ ไม่ต้องรู้จักกันเลย” เพลิงฟ้าตอบกลับแล้วก็เอากระเป๋าไปนั่งรอโบแว
“เธอยังไม่หายโกรธอีกเหรอ เรื่องมันนานมาแล้ว ฉันก็ขอโทษเธอแล้วนะ ไม่รู้ตั้งกี่ครั้ง คือเราน่าจะเป็นเพื่อนกันได้” นีกอลาพยายามที่จะคุยด้วยเพื่อให้เพลิงฟ้ายกโทษให้เรื่องสมัยวัยรุ่น
เพลิงฟ้ามองหน้านีกอลา มองอย่างสำรวจ ก่อนส่ายหน้า “คนที่ทำร้ายจิตใจผู้หญิง ฟันไม่เลือกอย่างนาย ฉันขอผ่าน ทำได้แม้กระทั่งเพื่อน ก็ไม่ต้องคุยกันแล้ว”
“พีช ฉันก็แค่วัยรุ่น แต่ตอนนี้ฉันไม่เหมือนเดิมแล้วนะ” นีกอลาพยายามขออภัย เขารู้สึกผิดเช่นกัน
“ฉันก็ไม่เหมือนเดิมแล้วเหมือนกัน เพราะงั้นมันไม่มีทางจะเหมือนเดิม จริงๆ แล้วอะไรๆ มันก็ดีมากในขณะที่ฉันกับนายไม่ได้เป็นเพื่อนกัน ไม่ต้องกังวล นายจะไม่ได้เจอฉันอีก แค่งานเดียวเท่านั้นแหละ” เพลิงฟ้าบอกเล่า แล้วหาที่นั่งรอโบแว โดยเอาหนังสือมาอ่าน
“เธอไม่เคยทำผิดพลาดบ้างหรือไง” นีกอลาถามอย่างจริงจัง เพราะรู้จากพุทธรักษ์ว่าเพลิงฟ้าก็ไม่ยอมพูดดีๆ ด้วย
“เคยสิ ผิดพลาดตรงที่ไว้ใจแพร์กับนายไง ต่อไปจะไม่มีวันไว้ใจนายกับแพร์อีก” เพลิงฟ้าพูดชัดเจน
เสียงถอนหายใจดังขึ้น ก่อนพูดอย่างหวังดี “เธอต้องระวังหน่อยนะ วงการนี้ใครๆ ก็ใจร้ายและไม่หวังดีทั้งนั้นแหละ ก่อนจะสวมอะไรใส่ร่างกาย ก็อย่าลืมตรวจเช็คตรวจสอบด้วย”
“ขอบใจ ฉันไม่เคยไว้ใจใครตั้งแต่โดนเพื่อนกับพี่ชายหักหลังแล้วล่ะ” เพลิงฟ้าตอกย้ำความผิดพลาดของนีกอลาตลอดเวลา ทำให้เขารู้ว่าเธอไม่เคยยกโทษให้เขากับพุทธรักษ์...พี่ชายเธอเลย
นีกอลาได้แต่ถอนหายใจแล้วถอยกลับมาตั้งหลัก เขาแอบมองอยู่ห่างๆ อยากรู้ว่าความสัมพันธ์ของเพลิงฟ้ากับโบแวเป็นยังไง
สองชั่วโมงกว่าโบแวจะออกมา นีกอลาแอบมองอยู่ เห็นโบแวยื่นมือให้เพลิงฟ้า เธอเก็บของแล้วจับมือโบแว จากนั้นโบแวก็โอบเอวเพลิงฟ้า เชยคางเพลิงฟ้าแล้วจูบกันดูดดื่ม ทำให้เขาแน่ใจแล้วว่าเธอเป็นผู้หญิงของโบแวจริงๆ อย่างที่ใครๆ เขาลือกัน
*********************
เสียงถอนหายใจดังขึ้น เมื่อเพลิงฟ้าเจอตะปูสั้นตัวที่สามในรองเท้าคู่ที่สาม เข็มหมุดสองสามอันในชุด แต่เธอก็ทำงานของเธอให้ดีที่สุดด้วยการเดินงานสามชุดของตัวเอง และดีที่เธอไม่ได้ใส่ชุดฟินาเล่ ไม่งั้นคงมีใบมีดโกนโผล่มาด้วย ดีที่เธอไม่เคยไว้ใจใคร ตรวจสอบชุดก่อนสวมเสมอ แม้จะมีเวลาเปลี่ยนเสื้อผ้าไม่มากก็ตาม
เมื่อจบการเดินแบบ เซรีน่านางแบบที่สวมชุดฟินาเล่ก็ออกไปมอบดอกไม้แล้วจูบโบแวที่แก้ม เพลิงฟ้าต้องยืนตบมือ จากนั้นก็ยืนโชว์ชุดที่งานเลี้ยง เพื่อให้ผู้ซื้อเลือกซื้อ ซึ่งชุดของเธอรวดเร็วมาก มีสองสามเจ้ามาประมูลและเสร็จอย่างรวดเร็ว ทำให้เธอได้โอกาสไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเร็ว แต่เธอก็ตรวจเช็คในกระเป๋าและเสื้อผ้าตลอด
เธอรู้อยู่แล้วว่าคนพวกนี้ค่อนข้างขี้อิจฉาและเล่นเป็นเด็กๆ แต่ตอนนี้ทุกอย่างกำลังจะจบลง และเธอจะได้กลับไปอยู่ในที่ของเธอ
“ฉันแจ็คเกอลีน มาร์แตง ฉันสนใจอยากได้เธอไปอยู่ในสังกัดฉัน” แจ็คเกอลีนเข้ามาทักและชวน หลังเห็นเธอออกมาเปลี่ยนชุด และเอาชุดไปคืนแล้วเรียบร้อย
“ฉันอายุยี่สิบห้าแล้วค่ะ แก่ไปสำหรับวงการนี้แล้ว” เพลิงฟ้าตอบอย่างชัดเจน รู้อยู่แล้วว่าวงการนี้เป็นยังไง
“ไม่ต้องคิดมากหรอก ฉันดูแล้วเธอเหมาะกับแฟชั่นชั้นสูง อีกอย่างโจเซฟีนบอกว่าเธอเก่ง” แจ็คเกอลีนชี้ไปที่โจเซฟีนที่มาคอยควบคุมพวกนางแบบนายแบบ และอีกฝ่ายก็โบกมือให้
“อีกไม่นานฉันก็สามสิบแล้วนะคะ ฉันคงไม่เหมาะ” เพลิงฟ้าพยายามปฏิเสธอ้อมๆ ทำให้แจ็คเกอลีนหัวเราะ
“เขามีแต่รีบกระโดดเข้าใส่ แต่เธอเอาแต่ถอย ทำไม” แจ็คเกอลีนถามอย่างสงสัย
“ฉันเจอตะปูเจ็ดแปดตัว เข็มหมุดสิบตัว เห็นจะไม่ไหวหรอกค่ะ” เพลิงฟ้ามองว่าเธออายุขนาดนี้ไม่เหมาะกับเกมเด็กๆ และชอบในจุดที่เธออยู่
“ลองก่อน เธอมีโครงหน้าที่สวยมาก ฉันชอบ ไม่ต้องคิดมากเรื่องเป็นเด็กโบแว ฉันจะคุยกับโบแวเอง เขากับฉันคุ้นเคยกันดี นางแบบนายแบบของฉัน เขาก็ใช้งานบ่อยๆ อายุมากน่ะไม่เท่าไรหรอก อาจต้องลดน้ำหนักก็แค่นั้น ไว้นัดวันเทสหน้ากล้องแล้วเดี๋ยวฉันจะหางานให้ ไม่ต้องคิดมาก” แจ็คเกอลีนไม่ปล่อยให้เพลิงฟ้าปฏิเสธก็เดินเข้าไปหาโบแว
เพลิงฟ้านิ่งอึ้ง เมื่อเห็นแจ็คเกอลีนพูดกับโบแวแล้วชี้มาทางเธอ โบแวก็มองหน้าเธอแล้วพยักหน้าช้าๆ ก่อนพูดอะไรกันอีกนิดแล้วแยกจากกัน แล้วแจ็คเกอลีนก็เดินไปหาโจเซฟีน สองสาวก็ยิ้มให้กัน เพลิงฟ้าค่อยๆ ถอยออกไปจากตรงนั้น แล้วรีบไปหน้าตึก แต่มีสายโทรเข้าเสียก่อน
“ไปไหนแล้ว รอก่อน เดี๋ยวกลับพร้อมกัน” โบแวบอกเมื่อเห็นเธอรีบออกมาจากงาน
“ขอฉันกลับก่อนดีกว่า เจอกันที่บ้านนะ” เพลิงฟ้าบอกด้วยน้ำเสียงร้อนรน
“เป็นอะไร เหมือนเห็นผี” โบแวถาม ตอนนี้เขาแทบไม่ต้องให้สัมภาษณ์แล้ว แม่เขาก็ไม่อยู่ พ่อก็ไม่มา รีอาก็ไม่สนใจ ตอนนี้เหลือเขาคนเดียวที่ดูแลงานทั้งหมด จึงยังกลับไม่ได้
“ไว้คุยกัน ฉันจะกลับก่อนนะ” เพลิงฟ้าเรียกแท็กซี่ได้ก็ขึ้นรถแล้วบอกเส้นทาง
โบแวได้ยินก็แปลกใจ เพราะปกติเพลิงฟ้าไม่รีบไปอย่างนี้
นีกอลาตามออกมาเห็นเพลิงฟ้าขึ้นแท็กซี่แล้วก็เรียกตามไป รถไปหยุดที่บ้านหลังใหญ่พอประมาณสำหรับในเมืองแบบนี้ เพลิงฟ้าจ่ายเงินลงรถแล้วก็เข้าไปในบ้าน ตอนนี้เพลิงฟ้าขยี้ผมตัวเองให้ยุ่งเหมือนเดิมแล้ว เธอจึงเป็นพีช ไม่ใช่พีโอนี่ เมื่อนีกอลามาถึง จึงรีบตามลงไป แล้วตะโกนเรียกเธอ
“พีช”
เพลิงฟ้าหันมามองแล้วจ้องเขา ไม่ยอมเปิดประตูรั้ว อากาศก็หนาวเย็น เธอกับเขามองสบตากัน เธอก็ถอนหายใจกับความพยายามของเขาที่จะเข้ามาในชีวิตเธออีกครั้ง
“คุยกันหน่อยได้ไหม” นีกอลาพยายามให้เธออภัยกับสิ่งที่เกิดขึ้น
หลังจากได้คุยกับพุทธรักษ์แล้วโดนพุทธรักษ์ด่าเละไม่มีเหลือ เพราะเรื่องคึกคะนองในอดีต ทำให้พุทธรักษ์กับเพลิงฟ้าเลิกคุยกันดีๆ จนตอนนี้ทั้งครอบครัวเดือดร้อนไปหมด
ปากเขาสั่นเพราะความหนาวเย็นของฤดูหนาว หิมะก็ตกอยู่บ้าง ถึงจะไม่มากนัก เพราะยังเป็นต้นฤดู
เพลิงฟ้าเห็นเขาสวมเสื้อไม่หนามาก ก็ถอนหายใจยาวแล้วพยักหน้า แต่ชี้ให้เขาไปที่ร้านอาหารฝั่งตรงข้ามมากกว่าจะเชิญเขาเข้าไปในบ้านของโบแว
“ขอบใจ” นีกอลาเดินตามเธอ หลังเธอใส่กุญแจประตูรั้วเล็กอีกครั้ง
เพลิงฟ้าเดินไปที่ร้านอย่างรวดเร็ว แต่นีกอลาไม่ทันได้ระวัง โดนรถชนเข้าอย่างจัง เพลิงฟ้ากรีดร้องเสียงดังลั่นถนน เมื่อหันไปมองตามเสียงเบรก
“นิค” เธอก็ถลาเข้าไปประคองเขา จนมีคนเห็นเหตุการณ์เรียกรถพยาบาล และเขาก็พยายามประคองสติจนได้
“พีช” นีกอลาเรียกและรู้สึกดีที่เธอไม่ถึงกับเฉยเมยใส่เขา
“ตั้งสตินะ ห้ามหลับ เดี๋ยวรถพยาบาลก็มาแล้ว” เพลิงฟ้าได้ยินคนโทรศัพท์ไปเรียกรถพยาบาลแล้ว “โรงพยาบาลอยู่ใกล้ๆ นี่เอง ห้ามหลับนะ อย่าหลับนะ ฮือๆๆ”
นีกอลาได้ยินเพลิงฟ้าร้องไห้ ก็ลืมตามอง ลืมความเจ็บปวดไปชั่วขณะ ลืมไปว่าร่างกายกำลังบอบช้ำ รู้สึกมึนๆ แต่ที่ชัดเจนคือเธอห่วงใยเขา จึงเผลอพูดอย่างเบลอๆ “แค่นี้เอง ดีที่รถไม่ทับซ้ำ ใจก็อยากให้รถทับซ้ำน่ะสิ”
“บ้า!!! ใครจะอยากให้เกิดอะไรแบบนั้น” เพลิงฟ้าพูดภาษาไทยกับนีกอลา พยายามตั้งสติ
“ขอโทษนะคะ ฉันขอโทษ ฉันมองไม่เห็นจริงๆ” หญิงสาวที่ขับรถรีบเข้ามาขอโทษขอโพย
“รถพยาบาลมาหรือยัง” เพลิงฟ้าถามกลับเป็นภาษาฝรั่งเศส “แอนน์!!”
“กำลังมาค่ะ” หญิงสาวคนนั้นคือแอนน์เอง บ้านของแอนน์อยู่ไม่ไกลจากที่นี่ เธอก็ตกใจที่มาเจอเพลิงฟ้า “พีช”
เพลิงฟ้ามองแอนน์อย่างงุนงง สักพักก็มีรถพยาบาลมารับ นีกอลาเรียกเพลิงฟ้าไปขึ้นด้วย เธอกุมมือเขา ดีที่รถชนไม่แรงสุดขีด ทำให้เขาไม่กระเทือนมาก แต่ขากระเทือนอย่างแรง
แอนน์มองตามแล้วถอนหายใจ มีตำรวจคอยสอบถาม เรื่องต่างๆ เธอมัวแต่ทะเลาะกับเพื่อนในรถ ทำให้ขับรถประมาท ดีที่คนที่ถูกชนเขาไม่โวยวายอะไรมาก ให้ปากคำเสร็จก็ตามตำรวจไปที่โรงพยาบาลเพื่อดูคนเจ็บ
นีกอลาถูกพาเข้าไปในห้องฉุกเฉิน เพลิงฟ้าก็ได้แต่รออยู่ด้านนอก แล้วได้รับสายจากโบแว
“อยู่ไหน” โบแวถามทันทีที่เธอรับ เพราะเธอไม่รับสายหลายรอบมาก
“อยู่โรงพยาบาลค่ะ เพื่อนฉันโดนรถชน” เพลิงฟ้าบอกเล่าอย่างสับสน
“เขาเป็นยังไงบ้าง เขาจะเป็นอะไรไหม” แอนน์หน้าตาตื่น รีบสอบถามอาการของคนที่เธอชน
“หมอดูเขาอยู่” เพลิงฟ้าบอกแอนน์ แล้วหันมาคุยโทรศัพท์ “ขอโทษนะโบแว แต่คืนนี้ฉันคงต้องอยู่เฝ้าเขาก่อน”
“เขา? เพื่อนผู้ชายเหรอ ใคร เอาล่ะอยู่โรงพยาบาลไหน ฉันจะไปหา” โบแวบอกเล่า
“อย่าเลย ไม่ต้องหรอก คุณกลับบ้านเถอะ” เพลิงฟ้าเห็นว่าไม่ใช่ธุระของเขา จึงไม่อยากให้เขาต้องวุ่นวาย
“ฉันบอกแล้วไงว่าจะไป บอกโรงพยาบาลมา” โบแวใส่อารมณ์จนคนอื่นมอง
เพลิงฟ้าบอกโรงพยาบาลแล้วเขาก็ตัดบทวางสาย เธอกับแอนน์ก็นั่งรอ ส่วนเพื่อนแอนน์นั้นก็กลับไปก่อน
“ฉันไม่ตั้งใจจริงๆนะ คือฉันทะเลาะกับเพื่อน” แอนน์บอกแล้วทำหน้าเหมือนจะร้องไห้
“ใจเย็นๆ เขายังไม่เป็นอะไร เห็นอยู่ว่าเขาเอามือกันหัวเขาไว้” เพลิงฟ้าไม่ทันได้เห็นเหตุการณ์ก็จริง แต่ดูจากอาการเขาแล้ว เขาน่าจะป้องกันตัวระดับหนึ่ง ก่อนเธอจะนึกได้ว่าต้องโทรหาพรศักดิ์พ่อของนีกอลา เธอไม่โทรหาเวอจินี่เพราะกลัวอีกฝ่ายกังวลมาก
“ขอโทษนะคะที่โทรมาตอนนี้ เรื่องด่วนค่ะ ลุงพร” เพลิงฟ้าพยายามควบคุมสติแล้วบอกเล่า
“เอ้อ เหรอ มีอะไรล่ะ” พรศักดิ์พยายามตั้งสติ เพราะเขายังต้องไปทำงานอีกในตอนเช้า
“คือว่านิกโดนรถชนค่ะ ตอนนี้อยู่ที่ห้องฉุกเฉิน พอดีเขาอยู่กับพีชพอดีค่ะ แต่เขามีสติ สมองไม่กระทบกระเทือนเท่าไรค่ะ หมอยังไม่ออกมา ก็ยังไม่รู้ว่าต้องทำอะไรบ้าง” เพลิงฟ้าใส่รัวๆ เป็นชุด
พรศักดิ์ตั้งสติ ก่อนเรียบเรียงสิ่งที่ฟังใหม่ จากนั้นก็พยายามไม่ตื่นตระหนกตกใจ ให้ภรรยาต้องเป็นลมมากไปกว่านี้ “นิกเขาโอเคไหม”
“เขามีสติตลอดนะคะ คุยกับพีชไปตลอดทางเลยค่ะ” เพลิงฟ้าบอกเล่าแล้วถอนหายใจยาว
“ถ้ายังไงหมอออกมาแล้ว ช่วยโทรหาลุงอีกทีได้ไหม” พรศักดิ์พยายามตั้งสติ มองภรรยาที่ลืมตามองเขา แล้วก็เลยออกไปคุยนอกห้องนอนแทน
“ค่ะ ได้ค่ะ พีชจะคอยเฝ้าดูเขาให้นะคะ ไม่ต้องห่วง” เพลิงฟ้ารับปากพรศักดิ์แล้วก็หันไปมองแอนน์ที่นั่งกังวลกัดเล็บไปเรื่อยๆ กลัวเรื่องคดีความก็กลัว กลัวคนตายก็กลัว เธอจึงวางสายแล้วเดินไปปลอบแอนน์แทน
“เธอว่าเขาจะเป็นอะไรไหม ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ นะ” แอนน์พูดซ้ำๆ อย่างหวาดกลัว
“ฉันคิดว่าเขาจะต้องปลอดภัย” เพลิงฟ้าปลอบแอนน์แล้วมองอย่างเชื่อมั่น
แอนน์พยักหน้าช้าๆ ตั้งใจรอฟังข่าว
สักพักโบแวก็มาถึงแล้วโทรหาเพลิงฟ้า จากนั้นก็ถามเหตุการณ์แล้วมองเธออย่างสงสัย เพราะไม่เข้าใจว่าทำไมนายแบบหนุ่มถึงตามเธอไปถึงบ้านเขา
“เขาเป็นเพื่อนฉันตั้งแต่สมัยอยู่เมืองไทย คุณไม่รู้เหรอ เขาเป็นลูกชายของเวอจินี่” เพลิงฟ้าบอกเล่าประวัติเขาในที่สุด
โบแวครุ่นคิดแล้วพยักหน้า เห็นสีหน้าประหลาดใจของเธอแล้วรู้สึกแปลกใจ เขาหิวก็เดินไปซื้อแซนวิชมาเผื่อสองสาวที่นั่งรออยู่ คนขับรถชนก็คือแอนน์เจ้าหน้าที่ในบริษัทแม่เขา และยังเป็นลูกสาวเพื่อนชาวอังกฤษของแม่อีกด้วย ซึ่งก็พักอยู่ที่ทาวเฮาส์ไม่ห่างจากบ้านเขาเท่าไรนัก
“กินสักหน่อยจะได้มีแรงรอ” โบแวพูดกับแอนน์ด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล และส่งแซนวิชให้แอนน์พร้อมกาแฟ ก่อนจะส่งให้เพลิงฟ้าด้วย พูดแกมบังคับ กระแทกน้ำเสียงเล็กน้อย “ถ้าไม่กินจะป้อน”
เพลิงฟ้ามองเขาพูดกับแอนน์ผิดกับพูดกับเธอ แล้วรู้สึกแปลกๆ ก่อนจะค่อยๆ กินทั้งที่ไม่อยาก และไม่ได้กลัวเขาป้อน แต่กลัวเขาจับยัดใส่ปากเธอมากกว่า จึงกินช้าๆ ตาก็มองประตูห้องฉุกเฉิน
โบแวนั่งเอามือพาดที่พนักพิงของเพลิงฟ้า ขณะที่เพลิงฟ้านั่งตัวตรงและรอคอยอย่างเป็นห่วง เธอพยายามกินจนหมด เพราะเมื่อหยุด โบแวจะสะกิดให้เธอกินจนหมด แล้วยังต้องดื่มกาแฟรออีก
สักพักพยาบาลก็ลากคนไข้ออกมา แล้วพาไปห้องเพื่อตรวจอาการอีกรอบ
“ขาน่าจะหัก พาไปเอ็กซเรย์ก่อน” หมอสั่งแล้วก็คุยกับญาติคนไข้
เพลิงฟ้าจะรับเป็นเจ้าของไข้ แต่แอนน์รีบแสดงตัวเพื่อให้การช่วยเหลือคนเจ็บ แล้วเพลิงฟ้าจึงเงียบ เมื่อแอนน์ต้องการแสดงความรับผิดชอบ เธอจึงไม่ขัดข้อง
เพลิงฟ้าโทรหาพรศักดิ์อีกครั้ง ครั้งนี้เสียงเหมือนไม่ได้นอนต่อ จึงคุยกันสะดวก “หมอว่าขาหักค่ะ ดีที่รถขับไม่เร็วมาก นี่คนขับก็รอดูอาการเป็นเพื่อน เขาจะรับเป็นเจ้าของไข้เองค่ะ”
“แล้วส่วนอื่นเป็นยังไง” พรศักดิ์เรียกภรรยากับลูกสาวขึ้นมาเพื่อบอกเล่าแล้ว ได้แต่รอข่าว เพราะไม่มีใครนอนลงอีก
“ก็มีแผลที่แขน เพราะตอนโดนจนรถเบรกพอดี ที่ขาแรงหน่อย แต่นิกเอามือกันหน้าไว้ แขนเลยกระแทรก ตัวเขาเลยไปฟุบอยู่หน้ารถค่ะ แล้วเอนลงนอนราบที่พื้นค่ะ” เพลิงฟ้าบอกเล่าแล้วถอนหายใจ “พีชช่วยพยุงเขา แต่เขามีสติดีค่ะ ยังพูดเล่นกับพีชอยู่เลย”
“เดี๋ยวเวอจินี่จะจองตั๋วกลับปารีสเลยนะ ขอบใจมากที่ส่งข่าว ลุงจะไปด้วย ไม่อยากให้เวอจินี่เดินทางคนเดียว เอลโตแล้วอยู่คนเดียวได้แหละ” พรศักดิ์พูดถึงเอลิซา ลูกสาววัยยี่สิบของตนที่กำลังเรียนอยู่ในมหาวิทยาลัยที่เชียงใหม่
“โอเคค่ะ ช่วงนี้พีชจะคอยดูให้ก่อนนะคะ ยังไงช่วยดำเนินการเร็วๆ ด้วยค่ะ” เพลิงฟ้าบอกเล่าแล้วก็ถอนหายใจ เห็นโบแวนั่งมองก็กลับไปนั่งข้างเขา “เบื่อไหมคะ คือว่ายังไงคงต้องอยู่รอก่อนน่ะค่ะ นิกเป็นเพื่อนฉันด้วย”
“ไม่เห็นเคยบอก” โบแวเงียบมานานแล้วก็ถามสิ่งที่ข้องใจ
“เพราะไม่คิดว่าจะต้องมาเห็นเขาโดนรถชนน่ะสิคะ” เพลิงฟ้าพูดเสียงดังแล้วก็ถอนหายใจ
“เอาล่ะๆ ใจเย็นๆ รู้ว่าเธอใจไม่ดี แต่ช่วยใจเย็นๆ ด้วยพีช” โบแวเห็นเธอโวยวาย ก็รีบหยุด ก่อนดึงเธอมากอด ขณะที่แอนน์มองทั้งสองคนแบบแปลกๆ ไม่ค่อยเข้าใจนัก
เพลิงฟ้าร้องไห้ออกมาทันที เมื่อเขากอด โบแวถึงแปลกใจว่าทำไมเธอต้องร้องไห้ หรือจะเป็นห่วงนีกอลามากเกินไปแล้ว เขาเริ่มสงสัยว่าจะมากเกินกว่าการเป็นเพื่อน
“เรากลับบ้านกันก่อนเถอะ พรุ่งนี้เช้าค่อยมาใหม่” โบแวสรุป ก่อนบอกเพลิงฟ้า
“ไม่ค่ะ ฉันจะรอจนกว่าเขาจะไปพักห้องคนไข้” เพลิงฟ้าปาดน้ำตาแล้วหยุดร้องไห้
ใจเธอก็กลัวเขาเป็นอะไร โดยไม่ได้คุยกันอีก เรื่องในอดีตเธอพร้อมจะลืมแล้ว ถ้าเพียงสามารถปรับความเข้าใจกันได้ ก่อนที่ใครจะเป็นอะไรไป
“โอเค เธอล่ะแอนน์กลับก่อนไหม ฉันจะช่วยดูแลให้” โบแวหันไปถามแอนน์ที่กำลังนั่งถอนหายใจ และเธอก็ไม่กล้าตัดสินใจ “กลับไปก่อน ไม่ต้องกลัวอะไร เดี๋ยวจะอยู่เป็นธุระให้เอง”
แอนน์จึงถอนหายใจแล้วถือกระเป๋าไว้
“ไปแท็กซี่ใช่ไหม” โบแวถามให้แน่ใจอีกรอบ
“ค่ะ คงต้องอย่างนั้นค่ะ” แอนน์ตอบแล้วก็เดินไปที่ทางออกเพื่อกลับ
โบแวโอบไหล่เพลิงฟ้าแล้วถอนหายใจยาว
“จริงๆ คุณกลับก่อนก็ได้นะคะ คือยังไงนิกก็ไม่เกี่ยวกับคุณ” เพลิงฟ้าพูดอย่างเกรงใจ
“นี่เธอเกรงใจหรือเธออยากไล่ฉัน นีกอลาเป็นลูกของเวอจินี่ไม่ใช่เหรอ เวอจินี่ไม่ใช่เพื่อนแม่ฉันหรือไง” โบแวเริ่มหงุดหงิดกับท่าทีของเธอ
“ขอโทษค่ะ ฉันเกรงใจจริงๆ” เพลิงฟ้าบอกตามตรง ไม่รู้เขาหงุดหงิดอะไรหนักหนา
“รอเป็นเพื่อนเธอแหละ พรุ่งนี้เธอลางานไม่ใช่เหรอ” โบแวพูดขึ้น เพราะรู้ว่าเธอลางาน และทำงานที่ค้างอยู่เสร็จแล้ว
“ก็ใช่ค่ะ” เพลิงฟ้าตอบตามตรง
“แล้วเธออยากจะเป็นนางแบบอยู่ไหม” โบแวถามเรื่องอื่นแทนเรื่องอุบัติเหตุ
“ไม่ค่ะ” เพลิงฟ้าเห็นเขาเปลี่ยนเรื่องก็เปลี่ยนเรื่องตาม ตอนนี้ไม่อยากกวนอารมณ์ใคร
“ถ้าเขามีจ็อบก็น่าจะลองดู ได้เงินพิเศษด้วย จะได้เอาไว้ซื้ออะไรที่อยากได้” โบแวใจเย็นลงก็พูดตามปกติ
“คุณเห็นฉันอยากได้อะไรเหรอ” เพลิงฟ้าย้อนถามแต่ไม่ตั้งใจกวนประสาท
โบแวเห็นด้วย เพราะแม้แต่เสื้อผ้ายังไม่ค่อยจะซื้อใหม่เลย เขาเห็นเธอเพลียๆ และนี่ก็ดึกมากแล้ว หมอก็เข้ามาบอกว่าต้องดามเหล็ก จึงต้องผ่าตัดเลย พวกเขาก็ต้องรออีก จึงเดินเรื่องขอห้องพักฟื้น เพราะต้องดูอาการว่าสมองถูกกระทบกระเทือนหรือไม่
“นอนพักสักเดี๋ยวเถอะ” โบแวเห็นไม่มีใครก็ดึงเธอมาซบไหล่เขา ปล่อยให้เธอพักสายตาบ้าง
เพลิงฟ้าก็เหนื่อยเต็มที ก็ซบไหล่เขาแล้วหลับไปพักใหญ่ กว่าหมอจะมาสะกิดเรียกแล้วพาคนไข้ที่ทำแผลทุกอย่างเรียบร้อยแล้วไปนอนพักฟื้น โชคดีที่แค่ขาหัก ไม่มีอาการช้ำในจนเกินการรักษา ไม่อย่างนั้นเพลิงฟ้าคงได้แต่รู้สึกผิดที่ทำให้เขาต้องมาขอโทษซ้ำๆ แบบนี้
ทิฐิบางอย่างปล่อยวางบ้างก็ดี...
*********************
กลรักนักดีไซน์ (Designer's desire By คชสีห์) 07
เมื่อได้เห็นนีกอลาเข้าห้องพักฟื้นแล้ว เพลิงฟ้าก็คลายใจได้บ้าง แล้วก็ชวนโบแวกลับบ้าน เพราะเกรงใจที่เขามานั่งอยู่เป็นเพื่อน ก่อนไปเพลิงฟ้าก็โทรบอกพรศักดิ์ว่านีกอลาปลอดภัยไม่ต้องกังวล
“ขอบใจที่รอดูจนเขาปลอดภัยดี ลุงกำลังทำเรื่องเดินทางอยู่ ยังไงก็ต้องไป แม่เขากังวลน่ะ” พรศักดิ์บอกในตอนท้าย
“ค่ะๆ พีชขอกลับไปนอนพักก่อนนะคะ” เพลิงฟ้าบอกกล่าวแล้วก็ขึ้นรถโบแว เมื่อถึงบ้านแล้วโบแวก็เอารถไปจอด จากนั้นก็เดินไปขึ้นเตียง แล้วพักผ่อน
เพลิงฟ้าจัดการตัวเองจนเรียบร้อยแล้วก็ออกมาใส่เสื้อกางเกงนอน แล้วขึ้นเตียงเช่นกัน ขณะที่โบแวแค่ถอดเสื้อผ้าออกเท่านั้น แล้วหลับพักผ่อน เมื่อเพลิงฟ้าขึ้นเตียง เขาก็รวบเธอมากอด เพลิงฟ้าเริ่มชินกับการแก้ผ้านอนของเขาแล้ว
ทั้งสองนอนหลับจนถึงช่วงสายของวัน แล้วก็มีสายเข้า เพลิงฟ้าหาโทรศัพท์แล้วกดรับ “ค่ะ”
“พีช” นีกอลาตื่นแล้วก็โทรหาเพลิงฟ้าทันที
“นิกฟื้นแล้วเหรอ ดีจัง” เพลิงฟ้างัวเงียแล้วก็ถอนหายใจยาว “บอกลุงพรให้แล้วนะ”
“รู้แล้วล่ะ ก่อนโทรหาเธอ โทรไปที่บ้านมา ขอบใจที่เป็นธุระให้นะ เอ่อ คือ เธอจะเข้ามาไหม” นีกอลาถามอย่างเกรงๆ กลัวเธอจะทิ้งเขาแล้วไม่สนใจอีก
“อีกเดี๋ยวว่าจะเข้าไป ขอเวลานิดนึง” เพลิงฟ้าบอกแล้วรู้สึกว่าโบแวพลิกตัว แต่พอเธอจะหลบไปคุยในห้องน้ำ โบแวก็ยึดเธอเอาไว้ กอดไม่ยอมให้ไปไหน
“ได้ จะรอ” นีกอลาปวดไปทั้งตัว เขาเอามือขึ้นประสานกันหน้า แล้วต้องกุมหัวไว้เพื่อปกป้อง ทุกอย่างเขาทำไปตามสัญชาตญาณ ดีที่สมองไม่บวม แม้จะมีแรงกระแทกทำให้มึนงงบ้างก็ตาม และถือว่าโชคดีมากที่คนขับไม่ได้ขับเร็วอะไรด้วย เขาจึงเป็นแค่นี้ ก็ถือว่าเคราะห์หนักพอควร
เพลิงฟ้าค่อยๆ ปลดมือโบแวออก แต่โบแวลืมตาแล้วมองเธออย่างสงสัย จึงอธิบาย “คือฉันจะไปเยี่ยมนิกหน่อยค่ะ นิกฟื้นแล้ว ฉันก็เลยว่าจะไปดูหน่อย เผื่อเขาต้องการอะไร”
โบแวสะบัดหัวไปมา ก่อนพยักหน้า แต่ไม่ยอมคลายอ้อมแขน ยังคงกอดไว้ รู้สึกเหมือนเหตุการณ์เดียวกับอันนาจะเกิดขึ้น ยังไงนีกอลาก็ถือว่าเป็นเพื่อนสมัยเด็กของเพลิงฟ้า และดูเหมือนเธอจะอ่อนไหวมากกับเรื่องนี้ ทำให้เขาชักหวั่นใจ เขาคงรับไม่ไหว ถ้าเธอจะไปหาเพื่อนสมัยเด็กแล้วทิ้งเขาตามลำพังเหมือนที่อันนาเคยทำ
โบแวอ่อนไหวมากขึ้น ถึงจะรู้ว่านีกอลาอยู่โรงพยาบาล แต่เขาก็หวง เพียงไม่กล้าบอกตามตรง
“ปล่อยก่อนสิคะ ฉันต้องไปเตรียมตัว” เพลิงฟ้าขืนตัวเองมากขึ้น พยายามจะลุกจากเตียง
“ฉันจะไปด้วย” โบแวบอกแล้วลุกขึ้น สวมเสื้อคลุมกลับห้องตัวเองแล้วไปเตรียมตัว
เพลิงฟ้าก็แต่งตัวเช่นกัน นึกแปลกใจอยู่ว่าเขาจะมาคอยรับส่งทำไม ไม่ได้สนิทกับนีกอลาสักหน่อย ถึงจะเป็นลูกเพื่อนแม่ก็เถอะ หรือเพราะเป็นห่วงแอนน์ แต่ก็ไม่เคยเห็นเขาทักทายกับแอนน์เลย เมื่อไปที่สำนักงาน หากเธอก็สลัดความคิดทิ้งไป
โบแวโอบเอวเพลิงฟ้าที่วันนี้ใส่ชุดกระโปรงพาไปขึ้นรถ และขับพาเธอไปโรงพยาบาลที่อยู่ไม่ไกลนัก เมื่อไปถึงเขาก็จอดให้เธอลงก่อนแล้วค่อยไปหาที่จอดรถ
เพลิงฟ้าขึ้นไปที่ห้องพักฟื้น เคาะประตูแล้วเปิดเข้าไป เห็นนีกอลากำลังนั่งดูโทรทัศน์ และยิ้มออกเมื่อเธอมา ยิ่งรู้สึกดีเมื่อเธอเข้าไปกอดเขา
“นึกถึงเหตุการณ์ทีไร ฉันก็ใจเสียทุกครั้ง นึกว่าพอหันไปแล้วเธอล้มลงกับพื้น เห็นหัวกระแทก ตกใจน้ำตาไหลเลย” เพลิงฟ้าถอนหายใจยาว
นีกอลาโอบกอดร่างบางแล้วดึงให้นั่งบนเตียงเขา แม้ปวดแขน แต่ดีใจที่มีเธอในอ้อมแขน เพลิงฟ้าไม่ถึงกับซบอกเขา ปล่อยเขาเกาะเอวไปอย่างนั้น
“ยังไงฉันก็ต้องปรับความเข้าใจกับเธอให้ได้ก่อนหรอกน่า” นีกอลาลูบผมเธออย่างอ่อนโยน
“ช่างมันเถอะ ฉันไม่อยากให้เวอจินี่ต้องเสียใจ เอาเป็นว่าไม่มีอะไรติดค้างกันแล้วนะ” เพลิงฟ้าบอกแล้วถอนหายใจยาว ก่อนตกใจเพราะนีกอลาดึงเธอไปกอดเอาไว้แน่น
โบแวเปิดประตูเข้ามาพอดี เห็นนีกอลาโอบกอดเหมือนเธอกำลังซบอกอีกฝ่ายก็โมโห เดินกลับออกไปแล้วปิดประตูแรงๆ
เพลิงฟ้าได้ยินเสียงปิดประตูดังลั่นก่อนนึกได้ “โบแว”
เธอผละออกจากอ้อมแขนนีกอลาจนอีกฝ่ายร้องโอย เพราะแรงผลัก “ขอโทษนะ โบแวโกรธอะไรไม่รู้ เดี๋ยวขอไปดูเขาก่อน”
“ไปเถอะ” นีกอลาถอนหายใจ ต่อให้เพลิงฟ้าหายโกรธก็ไม่ได้หมายความว่าจะกลับมารักเขาอีก
เพลิงฟ้ารีบออกไปจากห้อง สวนกับแอนน์พอดี แค่พยักหน้าทักทายกันเท่านั้น แล้วก็หันรีหันขวาง เห็นโบแวเข้าไปในลิฟต์ก็รีบวิ่งแต่ไม่ทัน รีบกดลิฟต์ตัวข้างๆ ที่มาจอดพอดีก็รีบเข้าไป
โบแวหงุดหงิดหนัก เดินออกลิฟต์ได้ก็ตรงไปที่รถ เพลิงฟ้าวิ่งตามมาแต่ก็ไม่ทัน เขากระชากรถออกไปแล้ว เธอก็หันซ้ายแลขวาไม่รู้จะทำยังไง จึงลองกดโทรหาเขาแต่เขาก็ไม่รับ เธอไม่รู้จะทำยังไง จึงขึ้นไปเยี่ยมนีกอลาก่อน เห็นแอนน์กำลังคุยอยู่
“ผมก็ประมาทเกินไป ไม่ทันเห็นรถคุณที่เลี้ยงโค้งมาพอดี” นีกอลาบอกเล่า เห็นสีหน้าของอีกฝ่ายท่าทางจะรู้สึกผิดมาก
“ฉันจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายเอง พร้อมเงินค่าเสียหายค่ะ ไม่ต้องกังวลนะคะ” แอนน์ถอนหายใจอย่างโล่งอกที่นีกอลาไม่เอาเรื่องมากนัก
“ไว้ค่อยคุยรายละเอียดเรื่องนี้นะครับ” นีกอลาบอกเล่า เมื่อเห็นเพลิงฟ้าก็ยิ้ม นึกว่าหล่อนจะหนีกลับไปเสียแล้ว
“ฉันจะมาบอกว่าจะกลับก่อนนะ โบแวหงุดหงิดอะไรก็ไม่รู้ ฉันไม่อยากให้เขาเกิดอุบัติเหตุอีก คนอะไรก็ไม่รู้ใจร้อนมาก” เพลิงฟ้าพูดขึ้น ก่อนนึกได้ว่าแอนน์อยู่ในห้องนี้ด้วย แต่เมื่อพูดออกไปแล้ว ก็คงไม่ต้องกลัวอะไรอีก
“อืม แล้วเธอจะกลับมาอีกไหม” นีกอลาไม่กล้ารั้งไว้มากๆ เกิดเพลิงฟ้านึกรำคาญขึ้นมา เขาก็หมดหวังสานสัมพันธ์อีกรอบ
“บ่ายๆ มาแน่ อยากได้อะไรไหม” เพลิงฟ้าถามอีกรอบ
“อยากได้สิ” นีกอลาพูดขึ้นแล้วยิ้มจางๆ
“จะเอาอะไรล่ะ เดี๋ยวเอามาให้” เพลิงฟ้าถามซ้ำอีกรอบ
“อยากได้เห็นหน้าเธอไงล่ะ” นีกอลาพูดแล้วทำให้เพลิงฟ้าขำ
“นะ ฝากแอนน์ด้วยนะ อย่าพูดจาร้ายๆ กับแอนน์รู้ไหม” เพลิงฟ้าพูดแล้วก็หัวเราะสดใส
“เดี๋ยวคุณแอนน์ก็คงกลับ” นีกอลาพูดอย่างไม่จริงจังนัก
“ถ้าคุณต้องการเพื่อน ฉันอยู่ก็ได้นะคะ” แอนน์ยืนรอคำตอบ
“ก็ถ้าคุณไม่มีธุระ ก็รบกวนด้วย” นีกอลาบอกตามมารยาท จะให้เขาออกปากไล่ก็ใช่เรื่อง
“อยู่เป็นเพื่อนเขานี่แหละจ๊ะ นิกเขาเป็นมิตรนะ เดี๋ยวบ่ายๆ เย็นๆ จะมาใหม่” เพลิงฟ้าบอกเล่า แล้วก็ออกจากห้องไป เพื่อกลับไปดูว่าโบแวกลับบ้านหรือเปล่า
แอนน์ก็หาที่นั่ง สักพักก็เริ่มพูดคุยกับนีกอลา นีกอลาก็โทรหาตัวแทนของเขาเพื่อแจ้งเรื่องเขาเจออุบัติเหตุ เมื่อแอนน์เตือนเขา แล้วก็กลายเป็นการพูดจาที่ดี
***************************
เมื่อเพลิงฟ้ามาถึงบ้านก็เจอแต่มาดามโบวิเย่ว์ เธอจึงนั่งรอ โทรหาโบแวก็ปิดเครื่องก็ได้แต่เป็นกังวล ไม่รู้อะไรกวนใจเขา ก่อนมีสายเข้าให้เข้าสำนักงาน เธอจึงออกไปทำงานา ก่อนแวะไปหานีกอลา เจอแอนน์นั่งอยู่ไม่ไปไหน
“คือที่ออฟฟิศตามไปช่วยทำอีกงานน่ะ เดี๋ยวค่อยแวะมาอีกทีตอนเลิกนะ นิก” เพลิงฟ้าพูดภาษาฝรั่งเศสกับเขาตามมารยาท เพราะยังไงแอนน์ก็ฟังเข้าใจอยู่แล้ว
“มีเรื่องอะไรเหรอ” แอนน์ถาม เพราะวันนี้เธอก็มัวยุ่งเรื่องอุบัติเหตุจึงไม่ได้เข้าออฟฟิศเช่นกัน
“เรื่องนิตยสารหัวอื่นน่ะ ไม่เกี่ยวกับเธอหรอก ฉันไปก่อนนะ” เพลิงฟ้าเข้าไปสวมกอดนีกอลาเป็นการลา แต่เขาไม่ยอมปล่อยง่ายๆ เธอจึงสะกิดเขาเบาๆ ให้ปล่อย
นีกอลาแค่คลายอ้อมแขน แต่ถามเพลิงฟ้าอีก “ตอนเย็นมาแน่นะ”
“อืม ว่าจะเข้าไปรับงาน แล้วรีบกลับ ยังไม่เจอโบแวเลย ไม่รู้เขาโมโหอะไร” เพลิงฟ้าบอกเล่า ก่อนปลดมือเขาออกแล้วลาอีกที “ไปละนะ แอนน์ ถ้าเบื่อก็ไม่ต้องเฝ้าเขาหรอกนะ เขาไม่ขึ้นค่าเสียหายหรอก”
นีกอลาหัวเราะไปกับแอนน์ เพราะรู้ว่าเพลิงฟ้าพูดเล่นด้วยกันทั้งคู่
“จ๊ะ” แอนน์รับคำเท่านั้น ไม่เคยเห็นเพลิงฟ้าพูดเล่นหัวแบบนี้
ท่าทางของเพลิงฟ้าในที่ทำงานคือเฉยชา คาดว่าเพราะสนิทกับนีกอลาจึงดูผ่อนคลายมากกว่าที่ทำงาน
เพลิงฟ้าเคลียร์งานแล้วก็ฟังกองบรรณาธิการออกแบบ พอดีเจ้าหน้าที่กราฟฟิกอีกคนลางาน ทำให้ทุกคนต้องหาคนที่ว่างมาทำ ซึ่งเพลิงฟ้าเคลียร์งานตัวเองเสร็จแล้ว จึงโดนโยนงานมาให้ เธอไม่เกี่ยงอยู่แล้ว แค่มีเวลาให้ทำงานเท่านั้น
“เอาล่ะๆ วีฟ เธอช่วยเงียบก่อนได้ไหม โซอี้เป็นหัวหน้ากองบรรณาธิการ ถ้าเธอแย่งเขาพูดอย่างนี้ก็คุยงานไม่เสร็จสักที ขอร้องนะ เงียบและฟัง” เพลิงฟ้าเริ่มรำคาญเจเนวีฟที่พยายามเอาตัวเองไปใส่นิตยสาร
“พีช เธอมาขัดคอฉันทำไม” เจเนวีฟหันมาหาเรื่องเพลิงฟ้าอย่างไม่พอใจนัก
“ก็เธอแย่งโซอี้พูดตลอดเวลา ฉันมึน เธอทำเฉพาะคอลัมน์ของตัวเองไปก็น่าจะพอไหม” เพลิงฟ้าปวดหัวกับเรื่องที่เกิดขึ้นมากมาย
“ฉันแค่อยากช่วยให้ฟีย์มีความทันสมัยเข้ากับตลาดเด็กสาววัยรุ่นต่างหาก” เจเนวีฟแก้ตัวอย่างไม่รู้สึกผิด
พอดีหัววีฟวร์เคลียร์จบไปสองปักษ์แล้ว หัวฟีย์ขาดคนจึงต้องไปหาคนมาช่วย
“โซอี้ ถ้าเธอเคลียร์เนื้อหาในเล่มหมดแล้วค่อยเรียกฉันก็แล้วกัน” เพลิงฟ้าหมดความอดทน เบื่อความเอาแต่ใจของเจเนวีฟมาก เมื่อก่อนก็ว่าเยอะแล้ว ตั้งแต่ย้ายไปอยู่กับแฟนก็มากขึ้นเรื่อยๆ
“จะรีบไปสนองความต้องการโบแวเพื่อไต่เต้าเป็นหัวหน้าฝ่ายกราฟฟิคหรือไง” เจเนวีฟหลุดปากมาคำหนึ่ง แล้วต้องรู้ตัวว่าเล่นผิดเรื่อง
เพลิงฟ้าตบหน้าเพื่อนอย่างแรงจนตัวปลิว แล้วทำท่าจะเอาเรื่องอีกจนโซอี้และมารีที่เดินผ่านมาต้องห้าม ไม่งั้นเพลิงฟ้าจะใส่มากกว่านี้
“แกพูดอะไรของแกฮะ ฉันเคารพปิแยร์ตลอด ไม่เคยคิดจะแย่งงานเขาเลย ส่วนเรื่องฉันกับโบแวก็แค่เพื่อนกัน แกหาเรื่องมากไปแล้ว” เพลิงฟ้าจะเข้าไปกระทืบอีก
เจเนวีฟก็ไม่ยอมแพ้จะเข้ามาตอบโต้ สุดท้ายห้องประชุมก็กลายเป็นตลาดสดดังลั่น
“หยุดเดี๋ยวนี้นะ!!!” มารีตะโกนเสียงดังลั่น ทำให้เพลิงฟ้ากับเจเนวีฟสงบ “เฮ้อ”
โซอี้กับอีกคนยึดเจเนวีฟไว้ ส่วนเพลิงฟ้านั้นก็มีเจ้าหน้าที่อีกสองคน ฌอง-ปิแยร์ก็ได้แต่ส่ายหน้า เพราะมีคนไปเรียกเขามาพอดี
“ใครเริ่มก่อน” ฌอง-ปิแยร์ถามก่อนคนแรก
“พีชค่ะ” เจเนวีฟรีบเสนอชื่อเพลิงฟ้าก่อนเลย
“จะไล่ฉันออกก็ได้ ฉันไม่สนใจแล้ว” เพลิงฟ้าพูดตรงๆ เลย แล้วสะบัดหน้าจะออกไปจากห้อง
“หยุดนะ!! พีช!!” ฌอง-ปิแยร์รีบสั่งไม่ให้เพลิงฟ้าออกไปจากห้องประชุม
ปิแยร์...หัวหน้ากราฟฟิคก็เดินเข้ามา เพราะมีคนไปตาม จึงขวางทางเพลิงฟ้าได้พอดี “เห็นว่าทะเลาะกัน เลยรีบมาดู เกิดอะไรขึ้น”
“เจเนวีฟกล่าวหาว่าพีชมีอะไรกับโบแวเพื่อแย่งตำแหน่งของคุณค่ะ ปิแยร์” เจ้าหน้าที่คนหนึ่งที่ไม่ชอบเจเนวีฟพูดขึ้น “พีชเลยโกรธแล้วเข้าไปตบเจเนวีฟค่ะ”
เสียงถอนหายใจดังขึ้น ปิแยร์กับมารีมองหน้ากันแล้วส่ายหน้า ฌอง-ปิแยร์ได้ยินชื่อเพื่อนก็หงุดหงิด
“เจเนวีฟ นี่เธอกล้าเอาเรื่องส่วนตัวของโบแวมาพูดในที่ประชุมของเราเลยเหรอ เธอก็รู้นะว่ามอร์กานไม่ชอบให้พนักงานคนใดพูดถึงลูกเขาแบบนี้ เธออยากออกไปหางานใหม่ใช่ไหม” ฌอง-ปิแยร์ถามให้ชัดๆ
เจเนวีฟได้ฟังก็ตกใจ เพราะคนในสำนักงานนี้รู้ดีว่าต้องไม่พูดพาดพิงถึงโบแว ลูกชายสุดที่รักของมอร์กาน แต่เธอเผลอหลุดปากพูดออกไป เมื่อมีคนลือไปทั่ว โบแวไม่แคร์สายตาใคร ถ้ามา แทนที่จะพาคู่ขาเข้าห้องใดในสำนักงาน กลับมานั่งที่โต๊ะเพลิงฟ้าเพื่อทำงานของตัวเอง
ขณะเดียวกันโบแวก็มีข่าวกับนางแบบสาวคนสวยอีกคน ที่ควงคู่โชว์หวานไปออกงานอีกหลายงาน นางแบบคนพิเศษที่ไร้ที่มาที่ไป แต่โบแวดูจะหลงใหลมาก ชนิดเรียกมาใช้งานแล้วพากลับด้วยตลอด
“เอาล่ะๆ ให้ถือว่าเรื่องนี้ไม่เคยเกิดขึ้น พวกเธอทะเลาะกันเรื่องงานเพราะความเห็นไม่ลงรอยแล้วกัน” มารีไกล่เกลี่ยทันที เบื่อจะมาวุ่นวายกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง อีกอย่างถ้าเจเนวีฟผิดพลาดอาจมีปัญหามาถึงเธอได้
“เรื่องงานอาร์ต โซอี้เธอไปสรุปในทีมให้เรียบร้อยแล้วเอามาคุยกับฉัน ฉันจะคุยกับพีชเอง พวกเธอต้องรู้นะว่าฝ่ายฉันจัดสรรงานกันลงตัวแล้ว พวกเธอฝ่ายบรรณาธิการช้ากันเอง ฉันมีกำหนดส่งงานมาทางฝ่ายฉันชัดเจน พวกเธอต้องแก้ปัญหา ไม่ใช่เรียกลูกน้องฉันกลับมาจากลาพักแล้วก็มาทำเสียงดังใส่ ลูกน้องฉันไม่ใช่คนรับใช้พวกเธอ” ปิแยร์ปกป้องลูกน้องออกชัดเจน
“ใจเย็นๆ ค่ะ เดี๋ยวฉันจะสรุปงานให้นะคะ มารีคะ ยังไงฉันขอเปลี่ยนคนก็แล้วกัน จะได้ไม่มีปัญหากับพีช” โซอี้รู้ว่าเพลิงฟ้าทำงานด้วยง่ายกว่าเจเนวีฟ จึงเลือกเพลิงฟ้าแทน
“งั้นฉันจะส่งแอนน์มาแทนแล้วกัน แต่เธอต้องรีบสรุปงานไม่ใช่เหรอ แอนน์ก็ลาไปทำธุระด้วย” มารีบอกแล้วถอนหายใจ
ตอนนี้คงต้องหาคนมาดิวงานกับเพลิงฟ้าใหม่ ปกติเพลิงฟ้าเป็นคนง่ายๆ คุยงานได้สบายที่สุดในทีมกราฟฟิก ไม่เรื่องมาก แต่ไม่ชอบเปิดเผยเรื่องส่วนตัว ไม่ว่าใครจะถามยังไง ก็ไม่พูด แต่ถ้าใครลากไส้เรื่องส่วนตัวหล่อนมาพูด ปกติจะเดินหนี แต่เพราะเกี่ยวกับลูกชายเจ้าของบริษัท ทำให้ขาดสติไปได้
เพลิงฟ้าเดินตามแรงเจ้านายออกไปจากห้องประชุม ไม่สนใจปัญหาของฝ่ายบรรณาธิการ
ปิแยร์เดินมาก็คุยกับลูกน้อง “ผมว่าคุณต้องใจเย็นกว่านี้นะ พีช ผมรู้ว่าคุณไม่ชอบให้ใครมาวุ่นวายเรื่องส่วนตัว และรู้ว่าโบแวเข้ามาวุ่นวายกับคุณก่อน แต่คนในออฟฟิศ เขานึกอยากพูดกัน ก็ต้องเข้าใจว่าการนินทามันเกิดขึ้นได้ อย่าพยายามใส่ใจ”
“ค่ะ บอส” เพลิงฟ้ารับฟังเจ้านายเสมอ
“แล้วไม่ต้องคิดมาก ถ้าผมไม่เก่งจริง ผมไม่ได้อยู่ตำแหน่งนี้นานๆ หรอก อีกอย่างผมทำงานกับคุณ ก็พอรู้นิสัยคุณ อย่าคิดมาก” ปิแยร์บอกอย่างเข้าใจ
เพลิงฟ้าเห็นเวลาเลิกงานก็ไปเยี่ยมนีกอลา เห็นแอนน์ยังอยู่และกำลังคุยเรื่องงานทางโทรศัพท์ เห็นเขากำลังดุโทรทัศน์อยู่ “ไง ดีขึ้นไหม”
“ก็เหมือนเมื่อเช้าล่ะ กินอะไรมาหรือยัง” นีกอลาเห็นเธอทำท่าทางเหนื่อยๆ
แอนน์รีบคุยงานแล้วก็รีบจดมาตลอดชั่วโมงแล้ว เพราะถึงเข้าไปตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์ เธอต้องเริ่มโจทย์ใหม่เลย และรู้ว่าเพลิงฟ้ากับเจเนวีฟมีเรื่องกัน
“ใช่แล้วล่ะ ได้แซนวิชมาน่ะ วันนี้ฉันเหนื่อยมาก กลับก่อนนะ พักผ่อนเยอะๆ ล่ะ” เพลิงฟ้าตัดบททันที ก่อนโบกมือให้นีกอลากับแอนน์ แล้วออกไปจากห้องคนป่วย
แอนน์คุยงานเสร็จก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้นีกอลาฟัง
“อ๋อ อย่างนี้นี่เอง” นีกอลาละเรื่องพีโอนี่ไว้ ก่อนพูดขึ้น “อย่างพีชคงไม่ใช่เสปกของโบแวหรอกมั้ง”
“ใครๆ ก็ว่างั้น แต่เจเนวีฟกับเจนน่าไม่คิดงั้น คนอื่นเขามองว่าโบแวแค่ได้เจอศิลปินอีกคนเป็นเพื่อนกัน เข้าใจกันมากกว่า เห็นโบแวไปนั่งโต๊ะพีชทีไรก็ทำแต่งาน พีชนี่เขาชอบผู้หญิงน่ะ แฟนเก่าเขาก็เป็นนางแบบสวยมาก แต่แฟนเขาดันไปติดใจผู้ชายเสียก่อน เลยเลิกกับเขา” แอนน์เล่าตามที่รู้
“อ๋อ” นีกอลาไม่เชื่อเรื่องนี้เท่าไร เพียงแต่เขาลืมนึกไปว่าเขาไม่ได้ติดต่อเพลิงฟ้ามาหลายปี ตั้งแต่เพลิงฟ้าเรียนมหาวิทยาลัย และมาไกลถึงฝรั่งเศส ทุกอย่างเปลี่ยนไปมากเหลือเกิน
เขายังเห็นความรู้สึกที่ยังหลงเหลืออยู่ในแววตาของเธอ
***************************
เสียงไขประตูเข้ามาในช่วงตีสองของวันใหม่แล้ว เขาเห็นแสงไฟที่เตาผิงเทียมส่องไปยังร่างบางที่นอนห่มผ้าอยู่ที่โซฟากลางห้องรับแขก เหมือนเพลิงฟ้ากำลังรอเขา
โบแวยอมรับว่าเขากลัวจะเหมือนอันนาอีก พอมีเพื่อนสมัยเด็กเข้ามา หล่อนก็จะทิ้งเขาไปอยู่กับเพื่อนสมัยเด็กอีกครั้ง สายตาเขามองร่างบางที่ทอดกายยาวเหยียดนอนห่มผ้าอย่างสบายอารมณ์ ไม่รู้ว่ากำลังรอเขาอยู่หรือเปล่า แต่ใจเขาหวั่นไหวได้อย่างน่าประหลาด และเขาก็ตัดสินใจปลุกเธอขึ้นไปนอนชั้นบน
“พีชๆ ไปนอนข้างบนเถอะ” โบแวปลุกเธอด้วยการสะกิดเบาๆ แล้วเขย่าที่สะโพกเธอ
เพลิงฟ้าสะดุ้งตื่นแล้วได้กลิ่นน้ำหอมไม่คุ้นก็ผงะ ก่อนตั้งสติได้เมื่อเห็นเขา
“มานอนทำไมตรงนี้ ไม่ไปนอนในห้อง” โบแวพยายามปรับเสียงให้ราบเรียบ
เธอจ้องมองเขาแล้วรวมกับกลิ่นน้ำหอมที่ไม่คุ้นก็รู้ว่าเขาหนีไปไหน เธอกลับรู้สึกโกรธที่เขาหนีไปปล่อยเธอเผชิญหน้ากับสิ่งต่างๆ ของวันนี้เพียงลำพัง
เพลิงฟ้าลุกขึ้นแล้วเดินหนีเขาทันที...
โบแวเห็นเธอรีบเดินขึ้นชั้นสองก็แปลกใจ พอขึ้นไปถึงชั้นสามก็ดึงคุยกันอยู่ตรงทางเดิน “เป็นอะไร”
“วันหลังถ้าคุณแค่ต้องการไปนอนกับผู้หญิง ก็ควรรับสายก่อนจะไปทำอย่างนั้นบ้างสิ ฉันก็เป็นห่วงว่าคุณเป็นอะไรอยู่ทั้งวัน แค่บอกว่าไปคลายเครียดหรือไปสนุกก็ได้ ฉันจะได้ไม่ต้องกังวลว่าคุณมีเรื่องอะไร” เพลิงฟ้าใส่เขาเป็นชุด
“เป็นห่วงฉันเหรอ” โบแวถามอย่างงุนงง
“ไม่ให้เป็นห่วงได้ไง ปิดประตูห้องคนไข้ปัง เดินกระแทกๆ หนีไปเฉย นึกว่ามีเรื่องอะไรอีก” เพลิงฟ้าพูดแล้วเดินเข้าห้อง พอเขาเดินตาม เธอก็ผลักเขา “ฉันไม่มีอารมณ์จะมารับรู้เรื่องบนเตียงของคุณ เพราะงั้นไปนอนห้องคุณเถอะ”
“ฉันยังไม่ได้บอกเลย” โบแวก็สงสัยอีก
“กลิ่นน้ำหอมผู้หญิง คิดว่ามันเหมือนผู้ชายหรือไง และมันฉุนมาก ฉันคงนอนไม่หลับ” เพลิงฟ้าไล่เขาไปนอนห้องเขา แล้วเข้าห้องตัวเองพร้อมปิดล็อก
โบแวดมกลิ่นตัวเองแล้วถอนหายใจ กลิ่นของแม่สองสาวนั่นติดตัวเขา จึงกลับไปห้องตัวเองเพื่ออาบน้ำ กลับมาอีกทีพร้อมกุญแจห้องเพลิงฟ้า ไขได้แต่พอจะกดคันประตู ปรากฏว่ากดไม่ลง เหมือนมีอะไรค้ำอยู่ จึงเคาะประตูเรียก
“พีชเอาอะไรที่ขวางคันประตูออกไปที” โบแวบอกแต่ไม่ได้ยินเสียงตอบ ก็รออยู่นานไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย ก็เคาะเรียกอีก “ให้ตายเถอะ นี่มันจะตีสามอยู่แล้วนะ ทำไมต้องทำแบบนี้ด้วย”
เพลิงฟ้าไม่ตอบแล้วก็พยายามนอนให้หลับ
โบแวเตะประตูเสียงดังเข้ามาในห้อง ก่อนปิดประตูห้องตัวเองเสียงดังลั่น แล้วพยายามนอนที่เตียงตัวเองให้หลับ ขณะที่เพลิงฟ้าได้ยินเสียงเขากลับห้องไปแล้วก็เลื่อนตู้ออกจากประตู จากนั้นก็ล็อคห้องแล้วนอนต่อ รู้สึกใจเต้นแรงเพราะอารมณ์โกรธกับความรู้สึกที่บอกไม่ได้ว่าเป็นความรู้สึกอะไร
โบแวพลิกตัวไปมาบนเตียงแล้วลุกขึ้นนั่ง จากนั้นก็ดมกลิ่นตัวเอง ถอนหายใจแล้วเดินไปอาบน้ำอีกรอบ พอเดินผ่านที่นอน เขาก็อยากลองอีกครั้ง อย่างน้อยเธออาจยอมใจอ่อนเปิดประตูแล้วคุยกันบ้าง
เมื่อไขประตูแล้ว เขาก็กดคันประตูได้อย่างง่ายดาย และเปิดเข้าไปได้ มีแสงสลัวเล็กน้อย ทำให้เขามองเห็นเพลิงฟ้าหลับสบายบนเตียงของเธอ เพราะคิดว่าเขาคงไม่กลับมาแล้ว แต่คิดผิดถนัด เมื่อเขาทิ้งน้ำหนักลงด้านหลังของเธอ เธอก็ตกใจมาก เขาใช้มือปิดปากเธอแล้วบอก
“ฉันเอง”
เพลิงฟ้าได้สติว่า ‘ฉันเอง’ คือใครก็ทุบเขาแรงๆ ก่อนว่าเขา “ทำบ้าอะไรของคุณ ฉันตกใจแทบตาย”
“ก็เธอไม่ยอมเปิดประตูให้ฉันเข้ามาดีๆ” โบแวตอบอ้อมแอ้ม พยายามจับมือเธอที่ทุบเขาอย่างโกรธ “ขอโทษๆ หยุดทุบเสียที”
เพลิงฟ้าได้สติก็หันหลังให้
“เธอโกรธที่ฉันนอนกับผู้หญิงอื่น หรือโกรธที่ฉันไม่รับโทรศัพท์แล้วทำให้เป็นห่วงกันแน่” โบแวถามจริงๆ จังๆ
เสียงถอนหายใจดังขึ้น เพลิงฟ้าต้องตั้งสติ “โกรธที่ทำให้เป็นห่วง โกรธที่คุณทำให้ฉันเจอสถานการณ์วุ่นวายในวันนี้”
“สถานการณ์วุ่นวาย?” โบแวกอดร่างบางในอ้อมแขน “นี่เธอคงไม่ได้ออกไปตามหาฉันตามที่ต่างๆ หรอกนะ”
“ไม่ได้ไปค่ะ ไม่รู้จะไปตามที่ไหน คิดว่าเพื่อนคุณคงรู้ เห็นเขาที่สำนักงาน” เพลิงฟ้าตอบตามตรง และทำให้โบแวแอบไม่พอใจที่เธอไม่คิดจะตามหาเขา
เพลิงฟ้าเห็นเขาเงียบก็พลิกตัวหันไปมอง ลืมไปว่าไม่ได้เปิดไฟ หันไปก็ใช่ว่าจะเห็นสีหน้าเขา แต่กลายเป็นว่าเขาพลิกตัวมาทางเธอดึงมือเธอไปโอบกอดเขาเสียอย่างนั้น แถมเขายังจูบเธออีก จนเธอต้องผลักเขาออกไป
“อะไรเนี่ย”
“แค่อยากจูบ”
“เอาแต่ใจตลอด”
“ก็เป็นอย่างนี้มาตลอด”
เพลิงฟ้าขี้เกียจต่อปากต่อคำ รู้แต่ว่าเขากำลังกระชับอ้อมแขนดึงเธอเข้าอ้อมกอดเขาให้แน่นขึ้น จากนั้นเขาก็ซบหน้าที่อกเธอ อกเธออิ่มและเต็มไม้เต็มมือมากขึ้น ซึ่งก็มาจากฝีมือเขาอีกนั่นแหละ
“ตกลง สถานการณ์วุ่นๆ อะไร” โบแวเงยหน้าขึ้นมอง แต่โดนเธอผลักออก แต่ก็ยังอยู่ในอ้อมแขนเขา
“เรื่องที่ออฟฟิศน่ะ เขาพูดว่าฉันนอนกับคุณเพื่อแย่งตำแหน่งหัวหน้าฉัน” เพลิงฟ้าบอกเล่าตามตรง
โบแวผงะแล้วเปิดไฟ มองหน้าเพลิงฟ้าตามตรง “มีคนพูดอย่างนั้นจริงๆ เหรอ”
“อืม ฉันว่าต่อไปคุณไปคุยงานกับแม่คุณแล้วไม่ต้องแวะไปหาฉันเลย เรื่องพีโอนี่อีก ไม่ไหวแล้วนะ ฉันไม่ชอบออกงาน” เพลิงฟ้าบอกเล่าแล้วพยายามผลักเขาให้พ้นตัวจะได้นอนตะแคงหันหลังให้เขา
“ไม่เห็นจะสน ใครอยากพูดอะไรก็พูดไป” โบแวปล่อยเธอพลิกตัวหันหลังให้ แล้วสวมกอดจากด้านหลัง
เพลิงฟ้าถอนหายใจ จะทำยังไงให้จอมบงการอย่างเขามองเห็นปัญหาต่างๆ เธอพลิกตัวหันมาทางเขา ก็ถูกเขาจับแขนไปกอดเขา แล้วเขาก็จูบเธอแนบแน่นอีกรอบ แล้วถอนจูบ แล้วซบที่ไหล่เธอ
“ถามจริงๆ เถอะ ทำไมอยู่ๆ ก็ออกไป” เพลิงฟ้าถามเขาอย่างใจเย็น แล้วโอบกอดเขา
ทำไมคนเราจึงต้องโหยหาอ้อมแขนใครสักคนเพียงนี้...
“รู้สึกเหมือนเธอจะทิ้งฉันเหมือนอันนา” โบแวพูดสั้นๆ
“ทำไมคิดแบบนั้น” เพลิงฟ้าไม่รู้เรื่องโบแวกับคนรักมากนัก
“อันนาทิ้งฉันไปหาเพื่อนสมัยเด็ก เหมือนเธอกับนีกอลา” โบแวถอนหายใจ ไม่อยากอธิบายเท่าไรนัก
เพลิงฟ้าได้ฟังเหตุผลเขาแล้วถอนหายใจ ก่อนอธิบาย “ทำไมคิดว่าฉันจะแต่งงานกับนิก อีกอย่างนิกไม่แต่งงานกับฉันหรอก”
“จะรู้ไหม รู้สึกเหมือนพวกเธอจะมีความหลังกัน” โบแวไม่อยากอธิบายยาวๆ
“ช่างมัน ฉันไม่คิดว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นเลยนะคะ อย่างน้อยก็ตอนนี้” เพลิงฟ้าไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นไหม และระหว่างเขากับเธอก็แค่เพื่อนคนพิเศษที่ไม่พูดอะไรกันมาก แต่ยอมรับสิ่งที่อีกฝ่ายเป็น ก่อนพูดตบท้าย “ฉันก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเราสองคนเป็นอะไรกันแน่”
โบแวนิ่งเงียบไม่พูดมาก ไม่รู้ว่าควรอยู่ในฐานะไหนกันดี “นอนกันเถอะ”
เพลิงฟ้ารู้ว่าที่เขาเงียบ เขาก็คงทบทวนอยู่บ้าง แต่บอกได้เลยว่าทั้งเธอและเขาต่างก็กลัวที่จะคิดถึงจุดนี้
โบแว...คือชายที่เธอไม่ควรจะรักแต่ใจกลับโหยหา
เพลิงฟ้า...คือหญิงที่เขาปรารถนาแต่ไม่อาจครอบครอง
***************************
นิ่งอึ้ง...
แจ็คเกอลีนบุกมาถึงออฟฟิศของมอร์กาน เมื่อรู้ว่าพีโอนี่เป็นเด็กของมอร์กานแล้วเข้าไปคุยกับมอร์กาน ท่าทางคุยกันยาวสักพัก เพลิงฟ้าก็โดนเรียกไปในห้องทำงานของมอร์กาน แล้วรูดปิดม่านไว้หมด
“นี่เหรอ พีโอนี่ตัวจริง” แจ็คเกอลีนจ้องอย่างสงสัย
สาวแว่นไม่แต่งตัวผมเผ้ารุงรังปกปิดความเป็นสาวเฉี่ยวแบบพีโอนี่หมด
“ใช่ นี่แหละพีโอนี่ เอาล่ะ ฉันบอกเธอแล้วว่าเขาไม่สนใจหรอก เขาอายุยี่สิบห้าแล้วนะ มันแก่เกินไปสำหรับวงการนางแบบหรือเปล่า” มอร์กานพยายามปกป้องเพลิงฟ้ามาก
“ฉันปฏิเสธคุณไปแล้วนะคะ” เพลิงฟ้าบอกทันทีแล้วมีสีหน้าตื่นๆ
“ได้โปรดเถอะ ฉันเอารูปเธอไปหางานมาให้แล้ว โบแวบอกแล้วแต่เธอ ฉันกลัวเธอไม่รับ เลยไปหางานมาให้แล้ว นี่ไง” แจ็คเกอลีนเอางานมาวาง มีรายละเอียดพร้อม เพราะถูกชะตากับพีโอนี่แต่แรกเห็น เมื่อมาเจอตัวจริงก็ยังไม่ถอย
“นี่แจ็คกี้ เธอทำเกินไปแล้วนะ พีโอนี่ยังไม่ได้รับงานเลย” มอร์กานตำหนิรุ่นน้องแล้วส่ายหน้า ก่อนมองราคาได้ค่าจ้าง แล้วหันไปมองเพลิงฟ้า ก่อนบอก “รับเถอะ แบรนด์นี้เขาไม่รับนางแบบอายุเยอะง่ายๆ ด้วย เธอนี่เก่งจริงๆ แจ็คกี้”
“แน่นอน มันเป็นหน้าที่ของฉันที่อยากจะได้ลูกค้าใหม่ หมายถึงเธอที่เป็นนางแบบก็เป็นลูกค้าฉัน แล้วก็เจ้าของสินค้าน่ะ รับเถอะ รายได้เยอะนะ” แจ็คเกอลีนพยายามขอร้อง
เพลิงฟ้ามองหน้ามอร์กานที่พยักเพยิดให้รับงาน ก่อนตอบรับ “ได้ค่ะ”
“งั้นเรามาเซ็นสัญญาส่วนแบ่งค่าตัวเลยนะ เธอรับไปเจ็ดสิบ ฉันขอสามสิบเลยนะ งานนี้จ้างแบบครอบคลุม ไม่งั้นค่าจ้างไม่เยอะอย่างนี้หรอก” แจ็คเกอลีนดีใจมาก ร่าเริงขึ้นมาทันที
“เดี๋ยวก่อน ฉันต้องการข้อตกลงที่จะไม่เปิดเผยตัวจริงของเด็กคนนี้ด้วย” มอร์กานออกโรงปกป้องเพลิงฟ้าชัดเจน พรุ่งนี้เพื่อนเธอก็จะเดินทางมาจากเมืองไทยพร้อมสามีชาวไทย เธอไม่อยากโดนเพื่อนตำหนิกับวิธีการดูแลเด็กของเธอ
“โอเค เดี๋ยวให้ผู้ช่วยฉันจัดการร่างสัญญาเลยนะ แล้ววันที่ไปเซ็นสัญญากับเจ้าของบริษัทเซเว่นสตาร์เนี่ย ต้องไปในลักษณะของพีโอนี่นะ” แจ็คเกอลีนย้ำ เพราะไม่อยากให้ใครเห็นว่าพีโอนี่เป็นสินค้ามีตำหนิ
“อืม ได้เลย” มอร์กานเป็นคนตกลงแทน “ขอสัญญาก่อน จะได้เอามาศึกษา”
“ได้เลย” แจ็คเกอลีนโทรไปสั่งผู้ช่วยให้ทำเอกสารสัญญาส่งเมลมาทันที
มอร์กานมองเพลิงฟ้าหนักใจก็เข้าใจว่าอีกฝ่ายไม่อยากวุ่นวายมาก ถ้าเธอรับงาน หน้าตาของพีโอนี่ก็ไปมากกว่าอยู่ในปารีส เมื่อเทียบกับงานของโบแว แต่จะทำยังไงได้ เมื่อแจ็คเกอลีนใช้วิธีนี้ในการบีบบังคับให้เพลิงฟ้ารับงานในฐานะพีโอนี่
เมื่อจัดการอ่านทวนสัญญาแล้ว มอร์กานเอาให้ทนายความศึกษา แจ็คเกอลีนก็พยายามจะบีบให้เซ็นในวันนี้เลย โดยยอมแก้ตามที่มอร์กานต้องการทุกอย่าง เมื่อทนายความเห็นว่าสัญญาเป็นธรรม ก็เป็นอันตกลงกัน โดยเพลิงฟ้าให้แจ็คเกอลีนทำหน้าที่รับงานแทนหมด สัญญาปีต่อปี ส่วนแบ่งให้ดูตามความเหมาะสมกับงาน ซึ่งจะต้องคอยดูกันต่อไปในอนาคต
มอร์กานมองเฉพาะงานแรกที่รายได้หกหลักเท่านั้น ที่เธอเน้นมาก เพราะสัญญาตัวอื่นต้องส่งสัญญาส่วนแบ่งให้ต่างหาก เรื่องอื่นก็ไม่คิดอะไรมาก เพราะยังไงเพลิงฟ้าก็คงให้ช่วยดูอีกในอนาคต
แจ็คเกอลีนนัดแนะเวลาอีกครั้งแล้วก็ขอตัวกลับ
“แล้วงานของคุณล่ะคะ” เพลิงฟ้าถามอย่างงุนงง
“ก็ทำไปสิ ยังไงก็ไม่ต้องเข้าออฟฟิศตลอดเวลาอยู่แล้วนี่นะ” มอร์กานบอกอย่างไม่คิดมากแล้วโบกมือให้เพลิงฟ้ากลับไปได้แล้ว
ท่าทางมอร์กานกับโบแวก็เหมือนกันอยู่มาก แต่ถ้าเพลิงฟ้าเคยเห็นท่าทีของฌากกับโบแว จะยิ่งมั่นใจว่าโบแวเหมือนฌากมากกว่ามอร์กานเยอะ
***************************
เพลิงวารี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 12 ส.ค. 2561, 13:38:14 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 12 ส.ค. 2561, 13:38:14 น.
จำนวนการเข้าชม : 655
<< Designer's desire By คชสีห์ 05 | Designer's desire By คชสีห์ 08-09 >> |