กลรักนักดีไซน์
...โบแว...หนุ่มฝรั่งเศสเอาแต่ใจรักการออกแบบเสื้อผ้าเป็นชีวิตจิตใจทำให้คนอื่นเข้าใจผิดอยู่บ่อยๆ
...เพลิงฟ้า...สาวไทยหนีไปอยู่ปารีส
...เรื่องของคนเอาแต่ใจกับคนชอบตามใจมาเจอกันจะเกิดอะไรขึ้น...
Tags: รักลวง อิสระ

ตอน: Designer's desire By คชสีห์ 08-09

กลรักนักดีไซน์ (Designer's desire By คชสีห์) 08

เสียงรถจักรยานยนต์สองล้อดังลั่นสนาม เพลิงฟ้าตกใจเมื่อเขาบอกว่าให้รีบมาสนามแข่งรถ มีเรื่องจะบอกและให้แต่งตัวเป็นพีโอนี่ด้วย ลำบากฌอง-ปิแยร์ต้องจับเธอแต่งตัวเซ็กซี่แล้วพามาส่งที่ข้างสนาม

“มากันแล้ว” โบแวเข้าไปโอบเอวงาม วันนี้เธอมาในชุดกระโปรงสั้นสีชมพูเข้มสวยมาก เขาจูบดูดดื่มไม่สนใจว่าใครจะมอง “จูบนางฟ้านำโชคก่อนลงแข่ง”

“อะไรนะคะ จะลงแข่งจริงๆ เหรอ” เพลิงฟ้าตกใจ เพราะขาเขาเพิ่งหายไม่ถึงปีเลย

“แน่นอน จะรออะไรอีก ฌอง นายพาพีโอนี่ไปนั่งรอก่อนนะ” โบแวขึ้นควบรถคู่ใจของเขา แล้วสวมหมวกกันน็อค

“ตลอดล่ะ มัน ไปกันเถอะ พีโอนี่” ฌอง-ปิแยร์พาเพลิงฟ้าไปหาที่นั่งรอ จะได้ไม่หนวกหูเสียงบิดอีกด้วย

เพลิงฟ้าไม่เคยมาสนามแข่งรถแบบนี้ พอมาก็ตื่นตาตื่นใจมาก เกาะกระจกมอง แล้วฌอง-ปิแยร์ก็ชี้คันสีแดงแสบตาให้เห็นชัดๆ เธอก็ลุ้นว่าเขาจะได้ชัยหรือไม่

โทรศัพท์สั่นถี่ๆ เพลิงฟ้าก็ก้มลงมอง เห็นเป็นเวอจินี่โทรมาก็รีบรับ “สวัสดีค่ะ เวอจินี่”

“นิกเขาถามหา อยากให้มาเยี่ยมน่ะ ดื้อมากเลย ป้าไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว” เวอจินี่ทนไม่ไหว เพราะลูกชายรบเร้า

“วันนี้คงไม่ได้เข้าไปเยี่ยมค่ะ พรุ่งนี้ตอนเย็นแล้วกันนะคะ” เพลิงฟ้าได้แต่ปฏิเสธ เพราะรู้ว่ายังไงโบแวคงไม่ยอมให้เธอคลาดสายตาแน่ หลังแข่งรถเสร็จ

“แวะมาก่อนสักเดี๋ยวไม่ได้เหรอ เมื่อวานก็ไม่มา ป้ากับลุงรออยู่นะจ๊ะ” เวอจินี่พยายามช่วยลูกชายเต็มที่ หวังอยากให้ทั้งสองได้ปรับความเข้าใจกันมากขึ้น

นีกอลาเองก็ทำใจแล้ว ถ้าเพลิงฟ้าควงกับโบแว หล่อนคงมีอะไรกับโบแวไปแล้ว เขาก็หัวสมัยใหม่พอที่จะไม่ถือเรื่องพวกนี้ หวังอยากให้ความรู้สึกดีๆ กลับคืนมาก็เท่านั้น

เพลิงฟ้าคุยอีกเล็กน้อยก่อนวางสาย กลัวพลาดตอนที่โบแวเข้าเส้นชัย “ถึงไหนแล้วค่ะ”

“จะเข้าเส้นชัยแล้วล่ะ เฉียดฉิวกับเบอร์สิบห้าดูสิ” ฌอง-ปิแยร์ชี้เบอร์สิบห้าสีเขียวให้ดู ซึ่งก็ตีคู่กันมา ผลัดกันเข้าโค้งก่อนหลังตลอด เขาถึงกับบ่น “ฝีมือมันตกไปหน่อยนะ”

“ก็เพิ่งหายนี่คะ” เพลิงฟ้ามองในแง่ดี

“เพิ่งหายอะไร ตั้งหลายเดือนแล้ว” ฌอง-ปิแยร์แย้งแล้วก็ลุ้นกับโค้งสุดท้ายแล้ว

เพลิงฟ้ามองตามอย่างเป็นห่วง สุดท้ายชุดสีแดงของเขาก็เข้าเส้นชัย ฌอง-ปิแยร์จับมือเพลิงฟ้าลากลงไปที่ข้างสนาม เพราะนัดเพื่อนไว้แล้ว พอมาถึงโบแวเห็นเพลิงฟ้าก็รีบเดินเข้ามาหา อุ้มเพลิงฟ้าตัวลอยแล้วปล่อยยืนแล้วจูบหวานซึ้ง ได้ยินเสียงโห่ร้องของเพื่อนๆ แล้วก็ออกจากสนามเพื่อให้รอบใหม่เข้ามา

เพลิงฟ้าโดนเขาจูงมือพาออกไปที่นั่งพัก รู้สึกงงๆ เพราะเพื่อนเขาเยอะมาก แสดงว่าเขามาประจำ แต่เพลาๆ ไปพักหลังนี่เอง สักพักเขาก็ปลีกตัวออกมา พาเธอไปขึ้นรถสปอร์ตของเขา

“เฮ้ย ฌอง กลับก่อนนะ” โบแวบอกเพื่อน และเพื่อนก็โบกมือลา แล้วกลับไปหาคู่หมั้นสาวขึ้นรถตัวเอง

เพลิงฟ้าได้แต่เป็นตุ๊กตาหน้ารถ ให้เขาขับพาไปทานมื้อค่ำที่ร้านหรูแห่งหนึ่ง เขาชวนทานมื้อค่ำ สั่งอาหารแล้วไม่ยอมสั่งไวน์ กลับสั่งแชมเปญกลับบ้าน เขาไม่ยอมดื่มที่ร้าน

“เป็นไง ขี่ดีไหม” โบแวถามแล้วโอบไหล่ เขาเลือกโต๊ะที่เป็นโซฟาตัวยู จะได้โอบไหล่เธอได้

“น่าจะดี แต่ฌองบอกว่าฝีมือตก เพราะขี่สูสีกับอีกคน” เพลิงฟ้าไม่กล้าบอกว่าเธอไม่ได้ดูอยู่ช่วงหนึ่ง เพราะมัวคุยสายกับเวอจินี่

“อืม ก็มีบ้าง เพิ่งกลับไปขี่ได้ไม่กี่รอบก็ลงแข่ง ก็เลยระวังหน่อย” โบแวยอมรับความเห็นของเพื่อน “ช่างเถอะ ต่อไปไม่แข่งละ จะขี่อย่างเดียว เคลียร์สมองให้โล่งๆ”

โบแวมองเพลิงฟ้าที่อยู่ในชุดแสนเปรี้ยวแต่ดูหรูหรา แต่งหน้าทำผมแบบจัดเต็ม ชุดสีแดงเพลิงสั้น โชว์ผิวขาวเหลืองของเธอได้ดี อากาศเย็นพอควรแต่มีเสื้อโค้ทตัวหนาช่วยให้อุ่นได้

“วันนี้ที่ทำงานเป็นยังไงบ้าง มีใครพูดเรื่องฉันกับเธออีกหรือเปล่า” โบแวเห็นเธอยิ้มไม่พูดมากก็ดีใจแล้ว แต่ก็รู้จากเพื่อนว่าเพลิงฟ้าต้องเจออะไรบ้าง

“ไม่มีแล้วค่ะ เพื่อนคุณปรามไว้ ไม่อยากให้เรื่องถึงมอร์กานค่ะ วันนี้ก็เลยทำงานปกติค่ะ” เพลิงฟ้าบอกตามปกติ แต่ไม่ยอมเล่าเรื่องที่เธอต้องปั่นงานแทบตาย กว่าจะออกมาได้ตามที่เขาต้องการ เขาชอบทำอะไรแบบไม่วางแผนแบบนี้เสมอ และใครๆ ก็สนับสนุนให้เขาทำแบบนี้ตลอด เขาจึงเคยตัว

เมื่อทานอาหารเสร็จแล้ว เขาก็เอาแชมเปญกลับ เมื่อถึงบ้านเขาก็เปิดแชมเปญแล้วดื่มกับเธอเพียงลำพัง แล้วเริ่มกอดจูบเธอ ทำให้เธอหัวเราะ รอจนดื่มหมดขวดก็ค่อยๆ เดินขึ้นบันไดไปชั้นบน

“เดี๋ยวก่อนค่ะ ยังไม่เมานี่ ขอไปอาบน้ำก่อนนะคะ” เพลิงฟ้าผลักเขาออกไป แต่เขายังกอดหลวมๆ

“ไม่ต้องอาบหรอก เธอหอมจะตาย” โบแวพูดแล้วดึงเธอตรงไปยังห้องนอนของเธอ

“ไม่เอาค่ะ อาบน้ำก่อนสิ” เพลิงฟ้าพยายามไล่เขาไปอาบน้ำ แต่คงยาก เพราะเขาปิดล็อคประตู แล้วผลักเธอลงบนเตียง แล้วเริ่มกิจกรรมที่เขาโปรดปราน

“พิชิตชัยให้ครบถ้วน” โบแวพูดขึ้นทำให้อารมณ์เพลิงฟ้าสะดุดลง

“พิชิตชัยไปแล้วไม่ใช่เหรอคะ” เพลิงฟ้าถามอย่างงุนงง

“ยังไม่ครบ” โบแวพูดพลางรูดซิบลง แล้วถอดชุดที่ตอนนี้แสนเกะกะ

“ยังไงคะ” เพลิงฟ้าถามงุนงง แล้วช่วยเขาถอดเสื้อผ้าเช่นกัน

“ก็พิชิตชัยชนะครั้งแรกหลังกระดูกร้าว แล้วก็ต้องพิชิตเทพธิดานำโชคของฉันด้วยไงล่ะ พีช” โบแวจูบเธอแล้วเอาทุกอย่างที่ค้างอยู่บนร่างเธอออกไปให้พ้นทาง

เพลิงฟ้าเพิ่งเข้าใจจึงหัวเราะเท่านั้น ไม่รู้ทำไมจึงตามใจจอมเผด็จการอย่างเขา แต่ดูเหมือนไม่มีใครปฏิเสธความต้องการของเขาได้เลย

**************************

เสียงโทรศัพท์ปลุกเพลิงฟ้าตื่นจากฝัน เธอควานหาแล้วนึกไม่ออกว่าทิ้งกระเป๋าถือไว้ที่ไหน เพราะโบแววุ่นวายกับการพิชิตเทพธิดาแห่งชัยชนะของเขาเหลือเกิน สุดท้ายต้องลุกจากเตียงแล้วควานหาที่พื้นแทน เมื่อเจอก็กดรับสาย

“สวัสดีค่ะ” เพลิงฟ้าพูดเป็นภาษาฝรั่งเศส

“พีชเหรอลูก” เสียงผู้หญิงปลายสายคือแม่ของเพลิงฟ้าเอง

“แม่มีอะไรจ๊ะ” เพลิงฟ้าพูดเป็นภาษาถิ่น

“เวอจินี่บอกว่าลูกกับนิกเข้าใจกันดีแล้ว แม่ก็เลยอยากรู้ว่าลูกจะหายโกรธแพร์หรือยัง” พรนภาถามเสียงค่อยๆ เกรงใจลูกสาวอยู่มาก แต่ตอนนี้ที่บ้านสบายอยู่ เพราะพุทธรักษ์กับเพลิงฟ้าส่งเงินให้ทุกเดือน ร้านค้าก็พออยู่ได้ แต่จะสุขสบายตอนลูกส่งเงินมาให้นี่เอง

“อืม คงงั้นค่ะ” เพลิงฟ้าถอนหายใจ นั่งที่พื้นเอาหลังพิงเตียง

“เวอจินี่โทรมาชวนแม่ไปเที่ยวฝรั่งเศส แพร์จะออกเงินให้ แม่อยากเจอพีช พ่อก็จะไปด้วย” พรนภาเห็นลูกสาวไม่โวยวายเหมือนเดิม ก็คิดว่าน่าจะดีขึ้นมากแล้ว

“เมื่อไรคะ พีชไม่แน่ใจว่าจะมีเวลาหรือเปล่า แม่ไม่พักฟื้นให้หายดีก่อนค่อยมาละคะ” เพลิงฟ้าถามถึงจะรู้ว่าแม่หายดีแล้วก็ตาม

“แม่อยากไปเยี่ยมนิกด้วยน่ะ ลูก อีกอย่างเวอจินี่ก็อยู่ด้วย เวอจินี่บอกว่าจะพาไปบ้านพักที่ต่างเมือง บ้านเขาเองน่ะ เขาไม่อยากอยู่บ้านพักแขกของญาตินานๆ อีกอย่างเวอจินี่จะกลับไทยเมื่อลูกชายเขาหายดีน่ะ” พรนภาจะอ้างเวอจินี่

“ก็ลองดูแล้วกัน ถ้าพีชลางานได้ก็จะลา แต่ถ้าลาไม่ได้ แม่ก็อยู่กับเวอจินี่ไปแล้วกัน” เพลิงฟ้าพูดตามตรงอย่างนี้เสมอ เพราะเธอก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน

“พีชก็ลองหาทางดูนะ แม่ไม่ได้เจอพีชมาสองปีกว่าแล้วนะ แม่กับพ่อก็อยากเจอพีชบ้าง” พรนภาพยายามพูดกับลูกดีๆ ไม่อยากให้ลูกงอแงและหนีหายไปอีก

“อยู่ตลอดคงไม่ได้หรอก แต่ถ้าไปบ้างก็ได้ เพราะต้องไปต่างเมืองด้วย พีชก็ต้องทำงาน” เพลิงฟ้าบอกตามตรง หากไม่ทำตรงนี้แล้วเธอก็ไม่รู้จะไปหางานที่ไหนอีก

“พีชคิดอยากกลับมาทำงานที่เมืองไทยไหม ลูก เวอจินี่บอกว่าลูกเริ่มเดินแบบแล้ว งานที่เมืองไทยก็มีนะ” พรนภาอยากให้ลูกมาอยู่ใกล้ๆ

“ไม่ค่ะ พีชสบายใจกับที่นี่ เอางี้แล้วกัน แม่ก็ดูช่วงเวลาหน่อย พีชจะได้เตรียมตัว แล้วแม่ก็ไปตรวจให้ครบด้วย อย่าให้ไม่สบายอีก พ่อกับแพร์จะไม่ได้ว่าพีช” เพลิงฟ้าพยายามตัดบท เพราะโบแวพลิกตัวมาแล้วยกศีรษะเขาเล็กน้อย มองเธอ

“พ่อกับแพร์ว่าพีชเรื่องอะไร” พรนภาเป็นงง เพราะลูกสาวก็ไม่ได้บอกเรื่องนี้

“ก็ว่าพีชไม่อยู่ดูแลแม่ บอกว่าพีชไม่อยู่เมืองไทยทำให้แม่ไม่ยอมไปหาหมอ” เพลิงฟ้าหลุดปากไปแล้วก็บอกเล่าตามตรง

“อ้าว ทำไมพ่อกับแพร์พูดอย่างนี้ล่ะ เดี๋ยวแม่จัดการเอง พีชไม่ต้องคิดมาก แม่ไม่ไปโรงพยาบาลเพราะแม่ดื้อเอง แต่แม่อยากให้พีชมาอยู่กับแม่บ้าง สักเดือนน่ะ” พรนภาพูดตามที่ใจคิด

“พีชจะลองดู ช่วงนี้พีชลางานบ่อย พีชเลยไม่แน่ใจ เดี๋ยวเจ้านายลำบากใจ” เพลิงฟ้าเห็นว่าแม่คงคุยอีกนาน จึงจะย้ายไปหาที่คุย แต่พอเดินผ่านโบแว โบแวกลับดึงข้อมือเธอไว้ แล้วลากลงมานั่งที่เตียง เพลิงฟ้าหันไปมองเขา แล้วลงไปนอนบนเตียง ถูกโบแวกอดไว้ แบบไม่สนใจว่าเธอจะคุยกับใคร

“เอาล่ะ แม่คุยแค่นี้แหละ ที่นั่นเช้ามืดอยู่เลยล่ะสิ พีชนอนหลับให้สบายนะ แม่ขอบใจมากที่ส่งเงินมาให้พ่อแม่ตลอด” พรนภาไม่ลืมขอบใจลูกแบบนี้เสมอ

“พีชรักพ่อแม่นะคะ” เพลิงฟ้าบอกแล้วฟังแม่ตัดสาย

เธอก็พลิกหันมามองเขาที่ซุกหน้าที่แผ่นหลังของเธอ ก่อนถูกกอดเอวไว้แน่น เธอก็วางมือถือไว้ที่หัวเตียงฝั่งเขา เพราะตอนแรกตั้งใจจะเดินไปคุยในห้องน้ำ เดินผ่านมาทางเตียงฝั่งเขาแล้วโดนเขาดึงให้นอนที่เตียงแล้วกอด

ไม่รู้ว่า...ความสัมพันธ์นี้จะจบลงที่ไหน

**************************

เสียงลากเส้นดังอยู่ในห้องทำงาน เขาไม่เปิดเพลงหรือดูอะไร แต่กำลังดูแบบร่างคร่าวๆ ของตัวเองแล้วเขียนเพิ่มเติมไปเรื่อยๆ จนกระทั่งทีมงานมาถึง แต่ที่เขาไม่รู้คือพ่อเขามาด้วย

ฌากกระแทกเท้าบนพื้นไม้ก็ทำเสียงดังได้ดี

โบแวเงยหน้าขึ้นมอง เห็นสีหน้าพ่อแล้วก็รู้ว่าต้องมีเรื่อง เขาชี้ให้ทีมงานออกไปก่อน ค่อยคุยกับพ่อ พอประตูปิดลง เขาค่อยพูด “พ่อมาเรื่องชีรัก ผม แม่และเลอาคุยกันแล้วว่าจะสานต่อ โดยไม่ใช้แบรนด์ของราฟาแร็ง ก็พ่อไม่ให้ผ่าน ผมกับแม่เห็นว่ามันดี ผมกับแม่มีเงินทุน”

“แกไม่คิดจะบอกฉันสักคำ แล้วไม่ยอมเข้าออฟฟิศ ไม่ยอมบอกด้วยว่าแกจะทิ้งฉัน” ฌากโกรธจัดเมื่อรู้เรื่องนี้ “แล้วแกเอาทีมงานฉันไปทำงานให้แกด้วย”

“ผมไม่ได้เอาทีมงานพ่อมาทำงานนี้ ผมเอามาทำงานให้พ่อนั่นแหละ ดูนี่” โบแวเอางานออกแบบของตัวเองที่จะทำในแบรนด์ชื่อตัวเองออกมาให้พ่อดู

ฌากมองแล้วก็พยักหน้า ก่อนขมวดคิ้ว “แกอย่ามาเปลี่ยนเรื่อง”

“พ่อไม่ทำ ผมก็มีทางไป ให้ผมเอาของที่จะขายไปโยนไว้ห้องเก็บของไม่ใช่วิธีของผม ไม่ต้องห่วง ผมไม่ได้เอางานของราฟาแร็งมาใช้ ผมไม่มีทางให้รีอามาฟ้องผมได้หรอก ถึงผมจะไม่เก่งบริหาร แต่ผมก็ไม่โง่ เรื่องพวกนี้ผมปรึกษาทนายความของผมตลอด” โบแวบอกเล่าแล้วก็มองพ่ออีกครั้ง “พ่อมีอะไรอีกไหม”

“ไม่ต้องทำชีรัก เอามา เดี๋ยวพ่อเคลียร์กับรีอาเอง” ฌากไม่อยากให้ลูกแยกไปทำ เขาหวังว่าราฟาแร็งจะเป็นของลูกเขาต่อไป

“ไม่ทันแล้วครับ แม่กับเลอาจดทะเบียนการค้าแล้ว เลอาอยากทำมาก เห็นว่าตอนนี้ไม่ได้รับงานเดินแบบแล้ว จะมาทำงานบริหารเต็มตัว ช่วยงานแม่ที่นิตยสารด้วย สามีเขาอยากให้อยู่เป็นที่มากกว่าเดินทางไปทั่วโลกเดินแบบเหมือนเมื่อก่อนอีก เลอาก็อิ่มตัวด้วย ตอนผมเอาโครงการไปเสนอ เลอาอยู่ด้วยพอดี แม่เลยให้เลอาเอาไปศึกษา อาทิตย์หน้าจะเริ่มงานแล้ว” โบแวอธิบายแล้วเริ่มทำงานของเขาต่อ

“ทำไมพวกแกถึงต่อต้านฉันนัก” ฌากพูดตัดพ้อ เหมือนทุกคนกำลังจะทิ้งเขาไป

โบแวเงยหน้าอีกครั้ง ก่อนตอบ “ไม่มีใครต่อต้านพ่อ พ่อต่างหากที่ผลักพวกเราออกมา เพราะเชื่อรีอามากไป แทนที่จะให้เลอาเข้าไปช่วยงาน พ่อกลับเชื่อรีอาไม่ให้เลอาเข้าไป เพราะงั้นพ่อก็ต้องยอมรับการตัดสินใจของตัวเองให้ได้”

“แม่แกออกเงินทุนให้เหรอ” ฌากถามให้แน่ใจจะได้ไปถามภรรยา

“เปล่าครับ เงินเราสามคน เราไม่ได้ทำใหญ่โตนัก ถ้าพ่อกลัวเรื่องนั้น แต่เราจะค่อยๆ ทำ ยังไม่ได้หาแหล่งเงินทุนเพิ่ม ตั้งใจค่อยๆ ทำ” โบแวทำแล้วก็เอางานของพ่อกลับมา เพราะมันยังแค่ภาพร่าง แต่ที่เรียกทีมงานมา เพราะจะให้ไปเตรียมตัวหาผ่า ชุดสามสิบชุดที่จะออกวางขายในฤดูร้อน

ฌากถอนหายใจยาว “พ่อแค่อยากบอกว่า ทีหลังมีอะไรก็พูดกับพ่อตรงๆ สิ ไม่ใช่ไปทำกันแล้วให้พ่อมารู้เอง”

โบแวเงยหน้าอีกรอบแล้วถอนหายใจ เพราะพ่อกำลังขัดจังหวะเขา “พ่อจะมาบ่นทำไม จำได้ไหมว่าพ่อตบหน้าผมต่อหน้ารีอา เพราะรีอาไม่สนใจโครงการนี้ ผมเอาไปเสนอแม่ แล้วทำไม ตอนนี้พวกผมกำลังทำอะไรหลายอย่างที่รีอาไม่ชอบ พ่อมีปัญหาอะไรอีกไหม”

โบแวเห็นพ่อโกรธและกำลังจะเข้ามาหาเขา เขาก็ชี้หน้าพ่อให้หยุดไว้ก่อน “พ่อคิดว่าครั้งนี้ผมจะปล่อยให้พ่อตบหน้าเหรอ คิดใหม่ได้นะ”

“โบแว!!!” ฌากตะคอกเสียงดังลั่น “แกขึ้นเสียงกับฉันทำไม”

“แล้วพ่อมายุ่งตอนผมทำงานทำไม มางอแงเอาอะไรอีก พ่อเป็นคนล้มโครงการเอง ผมแค่เอาไปเสนอใหม่กับคนอื่นแล้วทำไม” โบแวหงุดหงิดเป็นกำลัง อยากทำงานให้มันเสร็จๆ

เสียงเปิดประตูเข้ามาดังลั่น มอร์กานเข้ามาหลังทีมงานของโบแวโทรไปบอก มองสองพ่อลูกกำลังทะเลาะกัน

“ฌาก โบแว ขอให้เว้นระยะห่างกันหน่อยนะ” มอร์กานพูดขึ้น แล้วก็ดึงเพลิงฟ้าเข้ามาในห้อง “พีชพาโบแวออกไปจากห้องทำงาน พาไปห้องนอนก็ได้”

เพลิงฟ้าโดนมอร์กานลากมาด้วยอย่างงุนงง ก่อนเดินเข้าไปหาโบแวที่ตอนนี้กำลังกัดกรามแน่น

“ผมว่าแม่พาพ่อกลับไปดีกว่า ผมอยากทำงาน” โบแวส่ายหน้าเป็นเชิงห้ามเพลิงฟ้า

มอร์กานถอนหายใจ ก่อนมองสามี “คุณไปคุยกับฉันที่ห้องข้างบน เรามีเรื่องต้องคุยกันเยอะเลย”

ฌากจ้องหน้าไม่ค่อยพอใจนัก สุดท้ายยอมออกจากห้องทำงานในบ้านของลูกชาย ตามไปที่ห้องชั้นสองเพื่อคุยกับภรรยา เพราะมีปัญหาที่ต้องคุยกัน

เพลิงฟ้าไม่รู้จะทำยังไง อยู่ๆ ก็โดนลากมา

“กลับไปทำงานเถอะ แล้วเรียกทีมงานที่ห้องรับแขกให้หน่อย ขอบใจมาก” โบแวถอนหายใจยาวแล้วนั่งทำงานของเขาต่อ

มอร์กานอ่านลูกชายขาด เพราะรู้ว่าถ้าเอาเพลิงฟ้ามาด้วยลูกชายต้องไม่ก่อเรื่องแน่นอน

เพลิงฟ้าออกมาเรียกทีมงานให้เขา แล้วถอนหายใจยาว สักพักก็เอากระเป๋าแล้วตั้งใจจะกลับไปทำงานต่อ แต่มาดามโบวิเย่ว์บอกให้รอมอร์กานก่อน

บ้านหลังนี้เก็บเสียงทั้งหมด ป่านนี้ไม่รู้ว่ามอร์กานพูดอะไรกับฌากบ้าง เธอก็ได้แต่นั่งรอ นานพอควรที่มอร์กานจะออกมากับฌากแล้วโอบเอวกันตามปกติ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

“ตกลงตามที่เธอว่าแหละ ฉันใจร้อนไปหน่อย เลยไปกวนอารมณ์ลูกตอนทำงาน” ฌากถอนหายใจยาว เมื่อปรับความเข้าใจกับภรรยาได้

“โบแวต้องขอโทษคุณด้วย ที่ทำกิริยาไม่ดีกับพ่อ พีชไปเรียกโบแวมา บอกให้มาขอโทษพ่อเขา” มอร์กานบอกเพลิงฟ้า และเพลิงฟ้าก็ทำตาม

“เด็กคนนี้เหรอ ที่โบแวชอบ” ฌากถามเมื่อเพลิงฟ้าเข้าไปในห้องทำงานของโบแว

“ใช่ ยิ่งกว่าอันนาอีก” มอร์กานบอกเล่า

“แล้วพีโอนี่ล่ะ” ฌากยังไม่รู้ความลับเท่าไรนัก

“คนเดียวกัน แต่คุณต้องสัญญาว่าจะไม่บอกใคร ไม่ว่าจะคู่ขาคนไหนหรือรีอา” มอร์กานดักคอสามีไว้ก่อน

“เด็กคนนี้กับพีโอนี่คือคนเดียวกัน” ฌากทวนคำอย่างงุนงง เขาเคยเจอพีโอนี่ แต่กับเด็กคนนี้ที่ทำผมยุ่งๆ ปิดหน้าผิดตา ทำเอาเขางงไปเหมือนกัน

สักพักโบแวก็ออกมา ทำหน้ายุ่งๆ ก่อนจะพูด “ขอโทษครับ”

“อืม พ่อก็ต้องขอโทษด้วยที่มาวุ่นวายกับแก แม่อธิบายแล้ว พ่อก็เข้าใจแล้ว” ฌากก็พูดกับลูกชายดีๆ

“ขอบคุณครับ” โบแวขอบคุณที่พ่อเข้าใจแล้ว

“เอาล่ะ ทำงานตามหน้าที่ของตัวเองไป” มอร์กานบอกลูกชาย แล้วเข้าไปประคองหน้าลูกชาย ก่อนหอมแก้ม “อย่าดื้อกับพ่อนักสิ ลูกชายแม่”

“ครับๆ” โบแวรับปากแม่ ก่อนมองเพลิงฟ้า “แม่ต้องให้พีชกลับไปทำงานไหม”

“แล้วแต่พีช” มอร์กานบอก

“งานยังไม่เสร็จค่ะ ขอกลับไปทำงานก่อนนะคะ” เพลิงฟ้ารีบบอก เพราะงานค้างจริงๆ

“ก็ดี เพราะพรุ่งนี้จะลางานไม่ใช่เหรอ” มอร์กานรู้มาว่าเพลิงฟ้าจะลางานหนึ่งอาทิตย์เพื่อไปต่างเมือง

“ค่ะ จะไปรับแม่ที่สนามบินแล้วพาไปชาลง-อ็อง-ช็องปาญค่ะ บ้านของเวอจินี่ค่ะ” เพลิงฟ้าบอกเล่าตามปกติ

“รู้จักกับเวอจินี่ด้วย ขากลับเอาปีโนเมอนีเยมาฝากด้วยแล้วกันนะ” ฌากพูดถึงไวน์ขาวที่เขาชอบ

“แพง อยากได้ก็เอาเงินมา จะให้ขนกลับมาให้” มอร์กานบอกแล้วก็หัวเราะ

“ไงก็ต้องไปบ้านของเวอจินี่อยู่แล้ว ไปดูราคาแล้วมาบอกแล้วกัน สามลังเดี๋ยวแถมค่าหิ้วให้อีก” ฌากพูดแล้วก็หัวเราะ ก่อนตบท้าย “เอาปีที่ดีที่สุดนะ”

“พีชจะรู้ไหม ไม่ต้องกังวลหรอกนะ ไปถามเวอจินี่ เขาก็บอกเองแหละ เพราะบ้านเขาอยู่ไม่ไกลจากแหล่งผลิตเท่าไร เรากลับกันเถอะ ขับรถดีๆ ล่ะ” มอร์กานบอกฌากที่ออกไปขึ้นรถตัวเองแล้วกลับไปก่อน ส่วนตัวเองก็โอบเอวลูกชายแล้วพูดเตือนสติ “จะยังไงเขาก็พ่อ อย่าใส่อารมณ์กับพ่อนักนะลูก”

“ตอนแรกผมก็พูดปกติแหละครับ พ่อแหละหาเรื่องผม ตัวเองไม่เอาเอง แล้วมาว่าผมเหมือนผมไปปล้นเขามา” โบแวอธิบายให้แม่เข้าใจ

มอร์กานวางมือที่บ่าของลูกชายร่างสูงโปร่ง “แม่รู้ว่าพ่อเขาเป็นคนแบบนั้น แต่ลูกรัก จะยอมให้พ่อสักคน มันจะอะไรหนักหนา เอาล่ะ แม่ไม่กวนเวลาทำงานของลูกแล้ว” เธอยืดตัวหอมแก้มลูกชายอีกรอบ ก่อนหันไปเรียก “กลับไปทำงานของเราให้เสร็จดีกว่านะ”

“ค่ะ” เพลิงฟ้ารับคำมอร์กานแล้วเดินไปขึ้นรถ

โบแวก็เข้าบ้านแล้วปิดประตู เขามีงานต้องทำ และต้องส่งต่อเหมือนกัน เพราะงั้นเขาก็จะมัวช้าไม่ได้ เพราะตอนนี้มีถึงสองโครงการในมือเขา และเขาก็พักจากอุบัติเหตุมานานเกินไปแล้ว

ใจก็ครุ่นคิด...ถ้าเพลิงฟ้าไปบ้านเวอจินี่จะเกิดอะไรขึ้นระหว่างนีกอลากับเพลิงฟ้าหรือไม่

**************************

สนามบินที่แสนวุ่นวาย เธอมารับครอบครัวจากเมืองไทย เพราะเวอจินี่ล่วงหน้าไปที่ชาลง-อ็อง-ช็องปาญแล้ว ดีที่มีรายละเอียดการเดินทางชัดเจน พอจะเดินทางไปได้

“สวัสดีค่ะ แม่ พ่อ เออ ไงแพร์” เพลิงฟ้าทักทายทุกคน ก่อนโยนกุญแจรถให้ “แกขับ”

“เออรู้แล้วน่า” พุทธรักษ์รับกุญแจแล้วก็เดินตามไปที่จอดรถ

พุทธรักษ์หน้าตาเหมือนเพลิงฟ้าตอนเป็นพีโอนี่ ผิดที่ส่วนสูงไม่ธรรมดา สูงกว่าเพลิงฟ้าเป็นคืบ และเพลิงฟ้าก็ถือว่าเป็นคนผู้หญิงตัวสูง เมื่อพ่อแม่ก็เป็นคนตัวสูงจากกรรมพันธุ์ กับการออกกำลังกายทำให้ทั้งสองสูงมากสำหรับค่าเฉลี่ยของคนไทย ที่สำคัญทั้งสองเป็นฝาแฝดกัน

“เอาแผนที่มาไหม” พุทธรักษ์พยายามคุยกับเพลิงฟ้า แต่เพลิงฟ้าโยนแผนที่ให้ แล้วสวมแว่นตากันแดด

เพลิงฟ้าไปนั่งด้านหลัง เพราะพ่อเธอชอบเมารถ จึงควรนั่งหน้าด้านข้างคนขับมากกว่า เธอนั่งกับแม่ที่ด้านหลัง และไม่ว่าพุทธรักษ์จะชวนคุยยังไงก็ไม่มีการตอบมากความจากน้องสาว

ระยะทางก็ใช้ได้ขับอยู่สี่ชั่วโมงก็ถึง เพราะแวะพักกลางทางเป็นระยะ หาอะไรทานและแวะซื้อของกินไปเรื่อยๆ แบบไม่เร่งรีบนัก พอถึงบ้านของเวอจินี่แล้ว นีกอลากับพุทธรักษ์ก็ทักทายกันอย่างร่าเริง

“ไม่คิดว่าแกจะมาด้วย ตอนแม่บอก ยังนึกเลยว่าจะมีเวลาเหรอ” นีกอลาทักทายเพื่อนอย่างเพลิดเพลิน

“ผู้ชายห่าอะไรวะ มัวแต่ทักทายกันเหมือนผู้หญิง แทนที่จะเก็บของเข้าบ้านก่อน ค่อยกอดจูบกันตามใจชอบ” เพลิงฟ้าพูดขึ้นลอยๆ ทำให้พุทธรักษ์ได้สติ รีบมาชวน

“ก็นะไม่ได้เจอกันนาน” พุทธรักษ์แก้ตัวแทนเพื่อน

“คืนนี้ก็นอนแก้ผ้ากอดกันให้เต็มที่เลย ไม่มีใครว่าหรอก” เพลิงฟ้าย้อนใส่อีกรอบ ทำเอาสองหนุ่มสะอึก

“เออ ช่วยเดี๋ยวนี้แหละ แม่งชอบว่าเป็นเกย์อยู่เรื่อย” พุทธรักษ์ทำหน้ายุ่งๆ แล้วขนของพ่อแม่เข้าบ้าน ถอนหายใจเล็กน้อยเพราะพ่อแม่ไม่ยอมเข้ามาเป็นกรรมการอย่างเคย เข้าบ้านไปทักทายเวอจินี่แล้ว ส่วนพรศักดิ์กลับไป ตอนรู้ว่าลูกชายปลอดภัย เพราะลางานได้แค่สองอาทิตย์

เพลิงฟ้ากับพุทธรักษ์ช่วยกันถือกระเป๋าพ่อแม่เข้าบ้าน ก่อนทักทายเวอจินี่ที่อยู่บ้านกับลูกชาย โดยมีคนเฝ้าบ้านคอยทำหน้าที่อำนวยความสะดวกให้

“นิกพาพีชกับแพร์เอาของไปเก็บที่ห้องที” เวอจินี่เห็นว่าลูกชายเดินเองได้ ให้นอนเฉยๆ กล้ามเนื้อก็จะลีบเสียเปล่าๆ

“ครับ” นีกอลารับคำอย่างมีความสุข

แม่เขามีบ้านหลังใหญ่ที่เก่าแก่พอควร ตระกูลแซดูมีหลายสาขา แม่เขาชอบงานการกุศลก็เลยไปทำงานที่เมืองไทย เจอพ่อแล้วก็แต่งงานกันแล้วไม่ค่อยได้กลับมาอยู่ฝรั่งเศสเท่าไร แต่ก็มีเงินหุ้นส่วนของธุรกิจเข้าบัญชีตลอด แม่เขาจะมาฝรั่งเศสบ้าง แล้วดูบัญชีปีละสองครั้ง

เพลิงฟ้ารู้จักห้องดี เพราะเคยมานอนพักหลายครั้ง ที่นี่ก็ห่างจากปารีสไม่ถึงสองร้อยกิโลเมตร แต่เพลิงฟ้าก็ไม่ค่อยได้มาเท่าไร เกรงใจเวอจินี่อยู่พอสมควร

เพลิงฟ้าเก็บของในห้องพ่อแม่แล้วก็ไปห้องตัวเอง จากนั้นก็ออกมานั่งคุยกับทุกคน แต่เธอก็ไม่ค่อยได้พูดมากอะไร สักพักมีสายเข้าเธอรู้จักปลายสายดี จึงขอตัวไปคุยในห้อง

“โนรามีอะไรเหรอ” เพลิงฟ้าถามคนรักเก่าด้วยความแปลกใจ ก่อนได้ยินเสียงร้องไห้ “เธอร้องไห้ทำไม”

“ฟรังซัวร์ทิ้งฉันไปหานางแบบใหม่” โนราบอกเล่า

“อ๋อ นึกว่าเรื่องอะไร หาเอาใหม่สิ” เพลิงฟ้าบอกอย่างไม่ใส่ใจนัก

โนราชะงัก ไม่คิดว่าเพลิงฟ้าจะพูดอย่างเฉยชาอย่างนี้ “เพราะอย่างนี้หรือเปล่า เธอถึงไม่เสียใจเท่าไรตอนฉันเลิกกับเธอ”

“ไม่ใช่โนรา ฉันก็เสียใจ แต่จะให้ฉันทำยังไง ร้องไห้ฟูมฟาย แล้วเธอจะกลับมาไหม เธอตัดสินใจแล้ว และเป็นผู้ใหญ่มากแล้ว ฉันก็คิดว่าเธอคิดดีแล้ว ฉันก็เคารพการตัดสินใจของเธอ ทีนี้เธอก็ต้องมาคิดแล้วนะว่า จะมายึดติดกับคนที่เลิกรักเธอแล้วได้อะไร ตั้งสติแล้วมองหาคนใหม่ๆ ไม่ดีกว่าเหรอ” เพลิงฟ้าบอกเล่าตามปกติก็รักและตามใจโนรามาก แต่เวลานี้เธอต้องเทความสนใจให้หนุ่มจอมเอาแต่ใจมากกว่า

“ออกมาหาอะไรกินกันไหม” โนรายังคงเป็นโนรา ยามเหงาก็ร้องหาเพลิงฟ้า

“คงไม่ได้หรอก ฉันไม่ได้อยู่ในปารีส ฉันลางานสองอาทิตย์น่ะ พ่อแม่มาจากเมืองไทย ฉันต้องดูแลท่าน ช่วงนี้เธอก็หาอะไรทำไปก่อนแล้วกัน” เพลิงฟ้าบอกเล่าเธอก็ไม่เชิงปฏิเสธเสียทีเดียว

“ฉันตามไปด้วยได้ไหม อีกสามวันถึงจะมีงาน” โนราถามเพราะไม่อยากอยู่ตามลำพัง

“ไม่ได้หรอก โนรา ฉันอยากอ้อนแม่ฉันน่ะ แค่นี้ก่อนนะ พวกเขารอฉันอยู่ ไว้ค่ำจะโทรหาอีกทีนะ” เพลิงฟ้าบอกลาแล้วไปอยู่ร่วมกับครอบครัว

ใจตอนนี้คิดถึงโบแวมากกว่าโนรา เมื่อเช้าเขายังนอนหลับอยู่ตอนเธอบอกลา แต่ช่วงนี้เขาทำงานหนักมาก ทำสองโครงการพร้อมกันทำให้เขาแทบไม่มีแรงทำอะไรนอกจากงานกับนอน

ตกเย็นหลังทานมื้อค่ำแล้ว เพลิงฟ้าก็นั่งดูโทรทัศน์ที่พุทธรักษ์เอามาด้วย เป็นละครที่เจ้าตัวแสดงเอง ทำให้เพลิงฟ้าลุกกลับห้องนอนตัวเองแล้วอ่านหนังสือแทน

เสียงเคาะประตูดังขึ้น สักพักนีกอลาก็เปิดประตูเข้ามา แล้วยิ้มให้ “หนังสือสนุกอย่างงั้นเชียว”

“ก็ปกตินะ” เพลิงฟ้าตอบ ก่อนพยักหน้าให้มานั่งที่เตียง “มานั่งบนเตียงสิ แล้วเอาหมอนรองขาด้วย”

“เห็นไม่ดูละคร” นีกอลาอยากถามแต่ก็เริ่มเกรงใจแล้ว

“ก็ไม่ชอบดูทีวีมาแต่ไหนแต่ไรแล้วนี่นะ” เพลิงฟ้าตอบตามตรง

“เวลาอยู่กับโบแวทำอะไรกัน” นีกอลาก็ถามขึ้นมาอย่างหลุดปาก

เพลิงฟ้ามองหน้าเขาแล้วขมวดคิ้ว นีกอลาก็รู้แล้วว่าเธอไม่พอใจ

“ขอโทษๆ ไม่ต้องตอบหรอก ถือว่าไม่ได้พูดก็แล้วกัน” เขารีบแก้ไขสถานการณ์

“ทีหลังไม่ต้องมาถามเรื่องพวกนี้อีก ฉันจะทำอะไรกับโบแวก็เป็นเรื่องของฉันกับโบแว” เพลิงฟ้าจ้องอย่างไม่ยอมแพ้ ถอนหายใจยาว “เราเป็นแค่เพื่อน อย่ายุ่งเรื่องส่วนตัวของฉัน”

“ถ้าวันหนึ่งเรามีโอกาสเป็นมากกว่าเพื่อนล่ะ” นีกอลาถามขึ้น เพื่อหยั่งเชิง

“ไม่มีโอกาสนั้นอีกต่อไปแล้ว” เพลิงฟ้าถอยอกมาให้ห่าง ก่อนพูดตัดบท “ออกไปเถอะ อย่าทำให้ลำบากใจไปมากกว่านี้เลย”

“พีช ฉันรู้ว่าฉันรักพีช” นีกอลาตัดสินใจบอกรักเธอ

“แต่มันก็เปลี่ยนอะไรไม่ได้หรอก เพราะฉันไม่ได้รักนายอีกแล้ว” เพลิงฟ้าพูดอย่างมั่นใจ

“ทำไมล่ะ ความรักที่เราเคยมีให้กัน มันไม่หายไปหรอกนะ ฉันเชื่อว่าเธอยังรักฉันอยู่” นีกอลามั่นใจในสิ่งที่คิด

“เชื่อเถอะ เมื่อคนคนหนึ่งเคยรักมากกว่าหนึ่งคน ถึงความรักที่มีต่อคนคนนั้นยังอยู่ แต่ความเลวร้ายมันซ่อมไม่ได้หรอก ถึงให้อภัยก็ไม่ทำให้ความรักมันกลับคืนมาไม่ได้ อีกอย่างฉันเคยรักคนอื่นมาแล้ว ฉันก็จะเดินหน้ารักคนต่อๆ ไป ฉันไม่เดินถอยหลัง ถ้าคิดจะรักกันก็ให้รักแบบเพื่อนแล้วกันนะ” เพลิงฟ้าแจกแจงให้เรียบร้อย ก่อนบอก “ออกไปเถอะ มันดูไม่ดีสำหรับคนเป็นเพื่อนกัน”

“แต่กับโบแว เธอให้เขานอนด้วย” นีกอลาพูดอย่างหงุดหงิด

“ก็ฉันพอใจ” เพลิงฟ้าตอบสั้นๆ ก็ทำให้นีกอลาโกรธและพยายามเดินออกไปจากห้อง ก็มาเจอพุทธรักษ์ที่เดินมาพอดี เห็นเพื่อนสะบัดหน้าไปก็งง มองฝาแฝดปิดประตูล็อกแล้วก็งงใหญ่

“แกไปกวนอารมณ์พีชมันทำไม” พุทธรักษ์ถามเพื่อนแล้วถอนหายใจ

“ทำไมไม่ไปเตือนน้องสาวแกว่าเที่ยวนอนกับผู้ชายระวังท้อง” นีกอลาโกรธก็พูดกระแทกใส่หน้าเพื่อน

“มันจะนอนกับใครก็เรื่องของมัน ฉันไม่เกี่ยว แกก็ไม่เกี่ยว” พุทธรักษ์เตือนเพื่อนอย่างหวังดี

“ฉันยังรักพีชอยู่” นีกอลาสารภาพกับเพื่อนแล้วมีสีหน้าจริงจัง

แม้รู้ตัวดีว่าที่ผ่านมา ไม่พยายามขอโทษเพลิงฟ้ามากพอ คิดว่าปล่อยไว้ก่อน ก็คงดีกว่าพอเวลาผ่านไปอะไรๆ อาจจะดีขึ้น เมื่อมารู้ว่าเพลิงฟ้ากับโบแวเหมือนจะคบหากัน เขาก็ร้อนใจขึ้นมา

“สายไปแล้ว” พุทธรักษ์บอกเพื่อน ตั้งแต่รู้ว่าน้องสาวมีแฟนเป็นผู้หญิงก็มันใจได้เลยว่าน้องสาวจะไม่หวนกลับมารักเพื่อนเขาอีก เมื่อก่อนพวกเขาคิดว่าน้องสาวฝาแฝดจะรู้สึกตลกไปด้วย และไม่โกรธจากสิ่งที่พวกเขาทำ หากมันไม่ใช่เลย

“พีชมันเคยรักกับโนรา มันยังเลิกได้เลย แล้วแกเนี่ย มีโจทย์กับมัน มีเหรอมันจะกลับมารักแก”

“ทำไมไม่ได้วะ ถ่านไฟเก่าไง” นีกอลาแย้งอย่างไม่ยอมแพ้

“นิก แกมองความจริงหน่อยได้ไหม พีชมันกำลังควงหนุ่มอื่นอยู่ไม่ใช่เหรอ ที่มันดีกับแกก็เพราะแกขาหัก แต่จะไปบังคับให้มันกลับมารักแก เดี๋ยวมันก็ยิ่งถอยห่างจากแกหรอก” พุทธรักษ์บอกตามตรง เดานิสัยได้ เพราะกับเขา น้องสาวยังตึงๆ อยู่เลย

“ฉันจะทำให้พีชกลับมารักฉันให้ได้” นีกอลาพูดอย่างมีหวัง ก่อนยกมือห้ามเพื่อน “ไม่ต้องพูดแล้วถ้าแกจะไม่ให้กำลังใจ”

“ก็อยากให้แต่กลัวแกผิดหวัง” พุทธรักษ์ได้แต่ถอนหายใจยาว

นีกอลาไม่ฟัง เข้าห้องล็อกประตูแล้วนอนพัก

พุทธรักษ์ได้แต่ถอนหายใจ เจอแต่คนไม่ยอมรับความจริง ก่อนเดินเข้าห้อง เพราะพ่อแม่ก็ปิดโทรทัศน์แล้วเข้าห้องไปหมดแล้ว ตอนนี้ขอแค่ครอบครัวกลับมาใกล้ชิดกันเหมือนเดิม เขาก็พอใจแล้ว

**************************



กลรักนักดีไซน์ (Designer's desire By คชสีห์) 09

ห้าวัน...เพลิงฟ้าอยู่กับครอบครัวอย่างสงบด้วยการไม่พูดมาก นึกถึงโบแวเป็นระยะ แต่เมื่อเขาไม่โทรมา เธอก็ไม่โทรหา แม้จะอยากโทร ก็ไม่รู้จะโทรไปเรื่องอะไร อีกอย่างโบแวก็งานยุ่งมาก ถ้าเขาอยากคุยด้วยก็โทรหาเอง

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เห็นเบอร์ของโบแว ก็กดรับ “สวัสดีค่ะ”

“เปิดประตูหน่อยสิ” โบแวบอกเล่า เพราะเขากดกริ่งแล้วยังไม่มีคนมาเปิด

“เปิดประตูไหนคะ” เพลิงฟ้าถามให้แน่ใจ เธอเข้ามาล้างหน้าล้างตา

“ประตูหน้าเนี่ยแหละ” โบแวบอกก่อนหันมาเพราะได้ยินเสียงเปิดประตู นึกว่าเพลิงฟ้าแต่เห็นผู้ชายหน้าตาเหมือนเพลิงฟ้าแทน

“คุณมาหาเวอจินี่เหรอครับ” พุทธรักษ์พูดภาษาฝรั่งเศสกับอีกฝ่าย

“คุณเป็นพี่ชายพีชเหรอ” โบแวถามแล้วยังไม่วางสาย จนกระทั่งเพลิงฟ้าเดินออกมาจากห้อง เห็นโบแวก็ค่อยยืนยัน

พุทธรักษ์หันมาทางน้องสาว เพราะโบแวมองแต่เพลิงฟ้าเท่านั้น “มาหาพีชน่ะเอง”

“ขอบใจ แพร์ นี่โบแว” เพลิงฟ้าแนะนำ กลับถูกโบแวลากออกไปข้างนอก เธอจึงขืนตัว “อะไร”

“ไปด้วยกันหน่อย” โบแวบอกอย่างเอาแต่ใจ

เพลิงฟ้ารีบดึงเขากลับ แล้วบอกห้าม “ฉันจะต้องอยู่กับครอบครัว ไปไหนไม่ได้หรอก”

“แล้วต้องอยู่นานแค่ไหน” โบแวก็ถามอย่างกวนประสาท

พุทธรักษ์ได้ยินก็ขมวดคิ้ว ไม่ชอบท่าทางของโบแวเลย ทั้งที่คิดว่าจะไม่ยุ่งเรื่องส่วนตัวของน้องสาวแล้ว แต่ก็อดถามไม่ได้ “แปลว่าอะไรวะ”

“อย่ายุ่งน่า แพร์ จะไปไหนก็ไปเลยนะ” เพลิงฟ้าไล่พี่ชายไปแล้วคุยกับโบแว “อย่างน้อยกลางวันฉันต้องอยู่กับครอบครัว”

“โอเค” โบแวก็เดินเข้าบ้านเวอจินี่แทน “แล้วเวอจินี่อยู่ไหม”

“อยู่ในสวนข้างหลัง” เพลิงฟ้าบอกเล่า แล้วโบแวก็ดึงแขนเธอไปที่สวนด้านหลัง

“นำทางไปสิ” โบแวบอก หลังจากไม่รู้ว่าประตูด้านหลังอยู่ตรงไหน

“ก็เห็นดึงนึกว่าเคยมา” เพลิงฟ้ากอดแขนโบแวแล้วพาเดินไปที่ด้านหลัง

พุทธรักษ์ได้แต่เดินตาม เป็นงงอยู่เหมือนกันว่าน้องสาวดูสนิทสนมมาก เมื่อก่อนเขาก็สนิทกับน้องสาวมาก ตั้งแต่มีเรื่องกันครั้งนั้นแล้ว ความเหินห่างก็เข้ามาแทนที่ความสนิทสนม เขากับน้องสาวบางครั้งก็นอนเตียงเดียวกันเสมอ แม้จะเข้าสู่ชีวิตวัยรุ่นแล้วก็ตาม ความที่เป็นฝาแฝดและสนิทกันมาก

โบแวเดินตามแรงดึงของเพลิงฟ้าไปจนถึงด้านหลัง เจอเวอจินี่กับพ่อแม่หล่อนกำลังทานของว่างและอ่านหนังสือกันอยู่ ก็เข้าไปทักทายด้วยการเดินเข้าไปกอดเวอจินี่ที่เงยหน้าขึ้นมาเห็นพอดี

“เอ้อ ไงจ๊ะ โบแว มาได้ยังไง” เวอจินี่เป็นงงที่โบแวมาถึงที่นี่

“แม่ให้แผนที่มาครับ” โบแวบอก ก่อนยื่นมือจับมือกับพ่อแม่ของเพลิงฟ้าตามที่เวอจินี่แนะนำ

“นี่โบแว ลูกชายมอร์กาน เจ้านายของพีช แล้วมอร์กานก็เป็นเพื่อนสนิทของฉันด้วย นี่พจน์กับพร พ่อแม่ของพีชนะ” เวอจินี่ต้องแนะนำให้อย่างงุนงง “ว่าแต่มีอะไรเหรอ ถึงมาที่นี่”

“อยากเจอพีชครับ” โบแวบอกตามตรง

“มีอะไรกับพีชเหรอ” พจน์ถามอย่างงุนงง

“ไม่มีพีชนอนไม่หลับครับ” โบแวบอกเล่าทำเอาคนอื่นๆ ทำหน้าไม่ถูกเลยทีเดียว

เพลิงฟ้าได้ยินก็หัวเราะ ไม่ได้หงุดหงิดอะไรนัก “ไม่ได้นอนมากี่วันแล้ว”

“นอนทุกวัน แต่หลับๆ ตื่นๆ งานยุ่งด้วย ห้าวันนอนรวมกันไม่ถึงสิบห้าชั่วโมง” โบแวตอบแล้วหาที่นั่ง พอนั่งได้ก็ลากเพลิงฟ้าไปนั่งข้างๆ

“เป็นแฟนกันเหรอ” พจน์ถามอย่างงุนงง

“เปล่าจ๊ะ พ่อ เพื่อนกัน” เพลิงฟ้าตอบเป็นภาษาไทย แล้วค่อยหันไปคุยกับโบแวเป็นภาษาฝรั่งเศส “ง่วงไหม ไปนอนไหม”

“ไม่เป็นไรยังไหวอยู่” โบแวพูดแล้วก็นั่งเล่น

“หิวไหม ขับรถมาเองเลยเหรอ” เพลิงฟ้าถามเห็นเขานั่งนิ่งๆ

พจน์กับพรนภาต่างก็มองโบแวด้วยความแปลกใจ เห็นโบแวเป็นหนุ่มผมทองยาวสยาย ท่าทางดูอ้อนแอ้น แต่วิธีการพูดดูเอาแต่ใจและตรงไปตรงมามาก ส่วนเวอจินี่หันไปเห็นลูกชายออกมากับพุทธรักษ์ แล้วก็ถอนหายใจยาว เธอก็คิดอยู่ว่าลูกชายน่าจะมีความหวังน้อยลงทุกที

“ออกไปหาอะไรกินไหม” โบแวถามเพลิงฟ้า

“ที่นี่มีของกินเยอะ ไปหาของกินกันเถอะ” เพลิงฟ้าดึงมือโบแวให้ลุกขึ้น เขาก็ลุกตาม

พจน์มองความสัมพันธ์แปลกๆ ของลูกสาวแล้วหันไปมองเวอจินี่ “นั่นคือแฟนของพีชเหรอครับ”

เวอจินี่ถอนหายใจแล้วส่ายหน้า “ไม่ใช่ค่ะ เขาเป็นเพื่อนกัน”

“โธ่ พ่อ ไอ้พีชมันก็บอกแล้วว่าเพื่อน ไม่ใช่แฟน” พรนภาทวนคำ แต่ท่าทางสองคนนั่นก็ไม่เหมือนเพื่อนจริงๆ

“เด็กสมัยนี้เป็นเพื่อนกันสนิทกันดีนะ” พจน์พูดสั้นๆ แต่พุทธรักษ์กับนีกอลามองหน้ากันก็พอรู้แล้วว่าไม่น่าใช่เพื่อนธรรมดา

******************************

เมื่อเพลิงฟ้าพาโบแวเดินเข้าครัว เธอก็ถูกกอดจากด้านหลัง จากนั้นก็ถูกจูบดูดดื่มอย่างร้อนแรง จนต้องผลักเขาเบาๆ ก่อนที่อะไรๆ จะไปไกลกว่านั้น เพราะเขาไม่เคยสายตาใคร “อะไรเนี่ย”

“แค่อยากจูบ” โบแวบอกแล้วถอยไปนั่งไขว้ห้างและรอของกินอย่างไม่ใส่ใจเท่าไรนัก

เพลิงฟ้าถอนหายใจยาว หากเพราะเป็นจอมเอาแต่ใจนี่แหละ เธอถึงยอมแพ้ให้ตลอด จากนั้นก็เปิดตู้เย็นเอาของมาเข้าตู้อบให้

“ไปห้องน้ำหน่อยนะ ทางไหน” โบแวบอกแล้วไปตามทางที่เพลิงฟ้าชี้

เสียงเปิดประตูเข้ามาอีกรอบ เพลิงฟ้าไม่ได้หันมาดู กำลังปอกผลไม้อยู่ “นี่งานเสร็จแล้วเหรอ”

“ทำไมนัดไอ้นั่นมาที่นี่” พุทธรักษ์ถามน้องสาวอย่างไม่พอใจนัก เพราะพ่อแม่ยิงคำถามใส่เขา แล้วก็บ่นๆ อย่างงุนงง กับความสัมพันธ์ของเพลิงฟ้ากับโบแว แต่ทั้งสองกลับบอกว่าเพื่อนกัน

เพลิงฟ้าหันมามองแล้วขมวดคิ้ว “ไม่ได้นัด โบแวมาเอง”

“บอกให้กลับไปเลยนะ” พุทธรักษ์บอกให้น้องสาวไล่ผู้ชายกลับไป

เพลิงฟ้าสบตาพี่ชายแล้วปักมีดลงเขียง “อย่ามายุ่งเรื่องของฉันกับโบแว เรื่องของแก ฉันยังไม่ยุ่งเลยนะ”

“เรื่องของฉันมันมีอะไร” พุทธรักษ์ย้อนถาม

“เรื่องผู้หญิงคนไหนล่ะ นิกบอกหมดแล้ว” เพลิงฟ้าย้อนถามบ้าง

“ตลก ไม่มี เอาเป็นว่าให้เขากลับไปเถอะ พ่อแม่จะได้ไม่คิดมาก อยู่เมืองนอก จะอะไรยังไงกันก็ไม่ว่า แต่ต่อหน้าพ่อแม่เนี่ย ขอล่ะ” พุทธรักษ์พยายามไม่ให้น้องสาวเอาผู้ชายเข้าบ้าน

“หยุดพูดไปเลยนะ อย่ามาเสือกเรื่องส่วนตัวของฉัน ไม่งั้นฉันจะกลับล่ะ รำคาญ!!!” เพลิงฟ้าตัดบท แล้วปลอกผลไม้ต่อ

“พีช” พุทธรักษ์พยายามจะคุยกับฝาแฝด

“เบื่อ โว๊ย!!” เพลิงฟ้าหันหน้ามาแล้วโวยใส่คู่แฝด “มึงอย่ามาเสือกเป็นห่วงอะไรกูตอนนี้นะ ไอ้แพร์

“โอเคๆ ไม่ยุ่งแล้วก็ได้” พุทธรักษ์กลัวน้องโวยวายใส่เต็มที่ จึงรีบเดินออกไป ก็เห็นโบแวยืนอยู่หน้าประตู ปล่อยให้เขาทะเลาะกับน้อง ดีที่พูดภาษาไทย จึงไม่เข้าใจ

โบแวเดินสวนเข้ามา เห็นท่าทางไม่พอใจของเพลิงฟ้าก็ขมวดคิ้ว “มีอะไรเหรอ”

“เปล่า” เพลิงฟ้ากระแทกน้ำเสียงแล้วปอกผลไม้จนเสร็จ จากนั้นก็เอาอาหารออกมาแล้ววางให้เขาทานพร้อมส้อม “ทานสิ”

โบแวทานอย่างเงียบๆ และไม่ถามอะไรอีก มองเธอเอาผลไม้ที่ปอกบางส่วนออกไป คิดว่าคงเอาไปให้พ่อแม่เธอ แล้วเธอก็กลับมานั่งลงข้างๆ เขา เขาก็โอบเอวเธอกอดหอมอย่างอ้อนๆ ทำให้เพลิงฟ้าอารมณ์ดีขึ้น

“นี่ง่วงไหมคะ เอารถอะไรมา” เพลิงฟ้าถามโบแวหลายเรื่องแต่ไม่เคยถามเหตุผลที่เขาตามเธอไปทุกที่

“รถยนต์สิ มีตั้งหลายคัน เอาให้เธอยืมคันหนึ่งแล้วก็คันที่ใช้ปกตินั่นแหละ” โบแวพูดถึงรถสปอร์ตสีเหลืองสดของเขาแต่งอย่างดี เครื่องแรงจัดแบบต้องใช้ทักษะในการขับขี่ ส่วนคันที่ให้เพลิงฟ้ายืมมา เป็นคันที่พี่สาวเขามายืมใช้บ้าง

“อ๋อค่ะ” เพลิงฟ้าขับรถไม่ค่อยแข็งเท่าไร ขับไปรับพ่อแม่ที่สนามบินได้ก็ถือว่าลุ้น แต่ก็มีใบขับขี่สากลเพื่อความไม่ผิดพลาด ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะได้ไม่ผิดมากนัก

“พี่ชายคุณว่าอะไรเหรอ พูดภาษาไทย ฟังไม่รู้เรื่องเลย” โบแวถามขึ้น เมื่อนึกได้

เพลิงฟ้าแปลกใจเล็กน้อยที่เขาถามขึ้นมา “ไม่มีอะไร อยู่ๆ มันเกิดบ้ารักครอบครัวขึ้นมา อยากให้อยู่กันแต่ครอบครัว”

“ฉันมาขัดจังหวะหรือเปล่า” โบแวถามแล้วก็แปลกใจอยู่บ้าง

“ขัดจังหวะอะไรคะ” เพลิงฟ้าถามอย่างงุนงง

“พี่คุณอาจจะอยากให้คุณคบหากับเพื่อนสมัยเด็กของคุณก็ได้” โบแวแกล้งพูดแหย่ตามที่สงสัย

“มันไม่กล้าหรอกค่ะ ฉันจะคบใครก็เรื่องของฉัน ตอนนี้ฉันมีอิสระ ไม่คิดจะมีแฟนให้ปวดหัวหรอกค่ะ” เพลิงฟ้าพูดตัดบทเขา นานๆ ครั้งเขาถึงจะคุยเรื่องนี้กับเธอ

โบแวแค่พยักหน้า ทานจนอิ่มแล้วก็ล้างจานเอง ไม่ต้องรอให้เธอล้าง จากนั้นเขาก็จูงมือเธอออกไปหาที่นั่งที่สวนกระจก พอนั่งได้สักพักเขาก็เอาสมุดมาร่างภาพ บ่ายแก่จัดอีกนิด เขาก็ผล็อยหลับซบไหล่เพลิงฟ้าที่อ่านนิยายอยู่

เพลิงฟ้าหันไปมองก็แค่พิงพนัก ให้เขาได้พิงพนักด้วยแล้วจะได้พักผ่อนให้สบายใจ

พจน์มองแบบนั้นแล้วไม่อยากเชื่อว่าเป็นเพียงเพื่อนธรรมดา แต่คนอื่นๆ ก็ไม่อยากพูดอะไรมาก เพราะภรรยาห้ามไม่ให้พูด

******************************

ตกเย็นโบแวก็ร่วมทานอาหารค่ำอย่างสงบ มีการพูดคุยเล็กน้อยระหว่างทานอาหาร แต่หลายคนอึดอัด ซึ่งก็ไม่เป็นปัญหาของคนเอาแต่ใจอย่างโบแว เพราะเขาไม่แคร์ความในใจของใครนัก เมื่อถึงเวลากลับเขาก็ดึงมือเพลิงฟ้าและบอกลาทุกคน

“อะไร” พุทธรักษ์ถามอย่างงุนงง

“ไม่มีอะไร เดี๋ยวไปเอาเสื้อกันหนาวก่อนนะ โบแว” เพลิงฟ้าบอกแล้วไปหยิบเสื้อในห้อง

“นี่จะไปไหน” พุทธรักษ์ถามน้องสาวอย่างงุนงง

เพลิงฟ้าไม่ตอบมาก เดินไปที่ห้องตัวเอง โดยไม่ตอบ เพราะขี้เกียจวุ่นวาย

“ก็ไปโรงแรมที่ผมพักอยู่ไง” โบแวเป็นคนตอบ

“คุณจะมาพาน้องสาวผมไปค้างที่โรงแรมไม่ได้นะ” พุทธรักษ์แย้ง เมื่อเห้นว่าไม่เหมาะสม

ใจจริงเขาอิจฉาโบแวที่น้องสาวให้ความสนิทสนมด้วย เขาก็อยากกลับไปสนิทสนมกับน้องสาวเหมือนเมื่อก่อน เห็นว่ามีโอกาสก็อยากคว้าไว้ แต่กลายเป็นว่าให้อภัยพร้อมระยะห่าง เรื่องบางอย่างเมื่อมันผ่านไปแล้วก็ยากจะให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมอีก

“ทำไมไม่ได้ ก็พีชบอกจะไปเอง” โบแวขมวดคิ้วงุนงง

เวอจินี่ได้ยินก็ช่วยพุทธรักษ์อธิบาย “คืองี้นะโบแว วัฒนธรรมไทยกับฝรั่งเศสไม่เหมือนกัน”

“พีชโตแล้ว เป็นผู้ใหญ่แล้ว ต้องให้ใครมาตัดสินใจแทนอีก” โบแวถามอย่างไม่เข้าใจนัก

เพลิงฟ้าออกมาแล้วก็ถอนหายใจ “นี่มันเรื่องอะไรกัน ฉันจะไปไหน ไปค้างที่ไหนก็เรื่องของฉันนะ ไอ้แพร์ บอกแล้วนะว่าอย่ามายุ่งเรื่องของฉัน ขอโทษด้วยเวอจินี่”

“แม่ พ่อ” พุทธรักษ์หาคนช่วย

“ไอ้แพร์ อย่าทำเหมือนกูเป็นเด็กเล็กนะ มึง ตัวมึงเองนอนกับผู้หญิงมากี่คนแล้ว ยุ่งเรื่องส่วนตัวของกูทำไม” เพลิงฟ้าถามฝาแฝดอย่างหงุดหงิด

“กูผู้ชาย” พุทธรักษ์เถียงข้างๆ คูๆ

“แล้วมึงนอนกับผู้ชายหรือไง ผู้หญิงที่มึงนอนด้วยน่ะ มีพ่อมีแม่ไหม มีพี่มีน้องไหม ไอ้สันดาน อย่ามาวุ่นวายกับเรื่องส่วนตัวของกูอีกนะมึง” เพลิงฟ้าเถียงกลับทำเอาพี่ชายพูดไม่ออก

“แม่ พูดอะไรมั่งดิ” พุทธรักษ์แย้งไม่ได้ก็หันไปหาคนช่วย

พรนภาก็มองหน้าสามี ก่อนจะพูดขึ้น “อย่าลืมกลับมาเช้าๆ นะลูก พรุ่งนี้ต้องไปไร่องุ่น”

“ค่ะ” เพลิงฟ้าตอบแล้วรีบดึงโบแวออกไปจากบ้าน

“แม่” พุทธรักษ์หันไปมองแม่อย่างหงุดหงิดที่แม่ไม่ช่วย

“แพร์ อย่าทำให้ตัวเป็นพ่อของพีชได้ไหม พีชโตแล้ว พีชอยากคบใครก็อย่าไปยุ่งกับพีช ไม่อยากให้น้องพูดดีๆ ด้วยเหรอ อย่าไปวุ่นวายเรื่องส่วนตัวของน้องเลย” พรนภาตัดบท เบื่อจะเป็นกรรมการให้ลูกแล้ว

“แต่แม่ พีชอาจเสียใจเพราะไอ้ผู้ชายหน้าสวยก็ได้นะ” พุทธรักษ์อธิบายอย่างหงุดหงิด

“ที่แกเป็นห่วงเพราะเขาหน้าดี ว่างั้นเถอะ” พจน์ถามแล้วส่ายหน้าช้าๆ

“หรือพ่อไม่เป็นห่วง คนระดับนั้นจะมาจริงใจอะไรกับพีชมัน” พุทธรักษ์แย้งด้วยความเป็นห่วง

“พีชก็ต้องเรียนรู้เอง” พรนภาตอบในตอนท้าย แล้วชวนสามีไปพักผ่อนในห้อง

พุทธรักษ์หันมามองเวอจินี่แล้วถอนหายใจ “ป้าว่าเขาจะทำให้พีชเสียใจไหมครับ”

“ไม่หรอก ป้าก็หวังอย่างนั้นนะ” เวอจินี่ไม่กล้าบอกความจริง

คนอย่างโบแวคาดเดาไม่ค่อยได้เรื่องความต้องการ ที่แน่ๆ เบื่อเมื่อไรก็ไป ไม่สนใจอีก สิ่งที่น่าเป็นห่วงคงเป็นเรื่องนี้ แต่เรื่องเพลิงฟ้าจะเสียใจไหม เป็นเรื่องที่ยังต้องคิด เมื่อเพลิงฟ้าก็ไม่บอกอะไรให้ชัดเจนกับความสัมพันธ์ครั้งนี้

******************************

เมื่อถึงโรงแรมแล้ว โบแวก็ถอดเสื้อผ้าออกหมดแล้วสวมแต่เสื้อคลุม ส่วนเพลิงฟ้าอาบน้ำมาแล้ว ก็แค่เปลี่ยนเป็นสวมชุดนอนที่เอามาด้วยเท่านั้น แล้วก็ขึ้นเตียงเพื่อนอนพัก เธอหันหลังให้โบแว ส่วนโบแวก็แค่นอนกอดเธอไว้เท่านั้น

“ยังนอนไม่เต็มอิ่มเลย” โบแวพูดขึ้นขณะกอดเธอไว้ในอ้อมแขน

“ก็คิดอยู่ว่าได้นอนแค่ไหน ทำไมถึงมีปัญหาเรื่องนอนแบบนี้นะ” เพลิงฟ้าวางมือที่มือเขาแล้วประสานมือกับเขา

“ก็คิดอยู่ แต่เครียดเรื่องงานด้วยแหละ” โบแวถอนหายใจยาว ซบหน้าที่หลังเธอ ก่อนถาม “ไม่คิดจะแก้ผ้านอนบ้างเหรอ”

เพลิงฟ้าหัวเราะแล้วปล่อยมือ ก่อนหยิกหลังมือเขาแรงๆ “ใครจะไปแก้ผ้านอนได้เหมือนคุณล่ะ ถอยไปหน่อยได้ไหม อะไรก็ไม่รู้ชนโดนก้น”

โบแวก็หัวเราะตาม “อะไรจะมาโดนได้ล่ะ ก็กอดแนบชิดแบบนี้ แต่ไม่มีอารมณ์จะต่อหรอกนะ ง่วงจะตายอยู่แล้ว”

“ช่วงบ่ายก็นอนไปตั้งสองชั่วโมง ยังง่วงอีกเหรอคะ” เพลิงฟ้าเป็นงง เพราะเขาหลับสนิทมาก

“ง่วงสิ ได้กอดเธอแล้วรู้สึกว่าหลับได้สบายเลย” โบแวพูดแล้วก็เอาแก้มแนบหลังเพลิงฟ้า

“ฉันไม่ใช่หมอนข้างนะ อยากได้หมอนข้างก็ไปหาซื้อสิคะ” เพลิงฟ้าพูดแล้วก็ขำ

“หมอนข้างอย่างเธอ เงินเท่าไรก็ซื้อไม่ได้หรอก นอนกันเถอะนะ ต้องตื่นเช้าอีก” โบแวพูดขึ้นอย่างตั้งใจไว้

“ฟังภาษาไทยออกด้วยเหรอคะ” เพลิงฟ้าถามอย่างแปลกใจ

“ภาษาไทยอะไรล่ะ” โบแวเป็นงง เพราะเขาไม่เข้าใจที่แม่เธอพูดกับเพลิงฟ้าสักนิด

“ก็แม่ฉันบอกให้ฉันกลับที่บ้านแต่เช้า คุณฟังเข้าใจด้วยเหรอ” เพลิงฟ้าถามอย่างงุนงง

“ไม่เข้าใจสักนิด” โบแวบอกตามตรง

“แล้วบอกให้ว่าจะตื่นแต่เช้าไปไหนคะ” เพลิงฟ้าถามโบแว

“เถอะน่า เช้าก็เช้าสิ ง่วงแล้ว อย่าชวนคุยได้ไหม” โบแวไม่ตอบมากความ แล้วก็กอดเธอไว้แล้วพยายามหลับ

เพลิงฟ้าแปลกใจนิดๆ แล้วก็ไม่ถามอีก ปล่อยเขาหลับอย่างมีความสุข เพราะเสียงลมหายใจของเขาช่างสม่ำเสมอและชัดเจน คาดว่าเขาคงหลับได้อย่างมีความสุข

******************************

หลังจากได้หลับสนิทตลอดคืน โบแวก็ค่อยๆ ลืมตาตื่นในความมืด เขามองนาฬิกา เป็นช่วงเช้ามืดของวัน ก็ได้ยิ้ม ตอนนี้เพลิงฟ้าพลิกตัวหันหน้ามาทางเขา แล้วกอดเขาไว้ ส่วนเขานอนหงายสบายใจมาก ขาเธอพาดมาบนขาเขาเป็นปกติ เขาค่อยๆ วางเธอบนที่นอนแล้วเดินเปลือยไปเข้าห้องน้ำ

เมื่อออกมาแล้วก็จูบเธออย่างหนักหน่วง รุกเร้าอย่างร้อนแรง จนเพลิงฟ้าสะดุ้งตื่น แล้วผลักเขาตาม สัญชาตญาณ พยายามตั้งสติ ก่อนนึกขึ้นได้ว่าเป็นโบแว ขณะที่โบแวก็ชะงักไปเช่นกัน

เพลิงฟ้าถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนบ่นใส่เขา “จะทำอะไรก็ช่วยปลุกกันก่อนได้ไหมคะ”

โบแวก็หัวเราะ ถ้าตอนนี้เปิดไฟ คงเห็นเธอทำหน้ายุ่งๆ แน่นอน “ขอโทษ อารมณ์มันพาไปน่ะ มาต่อกันนะ”

“ขอไปแปรงฟันก่อนได้ไหมคะ” เพลิงฟ้าบอกแต่ก็รู้ว่าเขาคงไม่ยอมง่ายๆ

“ช่างเถอะ จูบกันจนไม่สนใจแล้วนี่นะ” โบแวพูดแล้วจูบเธอต่อโดยไม่สนใจ

“เดี๋ยวก่อนค่ะ คุณมีถุงยางใช่ไหม” เพลิงฟ้าถามให้แน่ใจ

“ต้องมีสิ” โบแวตอบอย่างเข้าใจความหมาย “ฉันรู้น่าว่าอะไรควรไม่ควร มาเถอะ”

เพลิงฟ้าได้แต่ตามใจปล่อยเขาทำตามอารมณ์ความต้องการ รู้อยู่ว่าเขายังไงก็ไม่ยอมให้ใครขัดขืน ก็ต้องยอมให้ความร่วมมือเขา อีกทั้งเธอก็ไม่ชอบขัดใจคนเอาแต่ใจอย่างเขาเสียด้วย เรียกว่าความต้องการต้องกัน

เสียงร้องครวญครางดังเป็นระยะ ความสามารถของโบแวที่จะดึงความต้องการของผู้หญิงทุกคนที่เขาต้องการความสุขจากเธอออกมา เสียงหอบหายใจดังประสาน เพลิงฟ้าดึงผ้าปูเตียงและบิดตัวไปมาสอดรับกับจังหวะที่เขาขยับ

เธอรู้สึกซาบซ่านรัญจวนใจทุกครั้ง ขณะที่โบแวก็งัดทุกความสามารถมาใช้เพื่อให้ความสุขทั้งเขาและเธอ ต่างฝ่ายต่างผลัดกันให้ความสุข เพลิงฟ้าก็เรียนรู้ว่าเขาชอบแบบไหน ขณะที่เขาก็บีบบังคับให้เธฮเรียนรู้ให้ความสุขสมกันและกันอย่างไร้ข้อกังขา

เพลิงฟ้าทิ้งตัวลงที่เตียงนอนคว่ำเมื่อต่างก็สุขสมกันเต็มที่ โบแวก็ทิ้งตัวลงข้างๆ หอบหายใจพอประมาณ ก่อนเสียงโทรศัพท์ของเพลิงฟ้าก็ปลุกในห้อง เพื่อบอกให้เธอเตรียมตัวไปเที่ยวกับแม่

พอเพลิงฟ้าคว้ามือถือ โบแวก็คว้าข้อมือเธอ “อย่าเพิ่งไปเลยนะ”

“โบแวคะ ฉันต้องกลับแล้ว ไว้ต่อเย็นนี้นะ” เพลิงฟ้ากดปิดนาฬิกาปลุกในมือถือ แล้วก็ปลดมือเขาออก

“เฮ้อ” โบแวถอนหายใจยาว ก่อนงัดตัวเองขึ้นจากเตียงด้วย “ไปด้วยก็ได้ ยังไงก็ไม่มีอะไรทำอยู่แล้ว”

“ตามใจค่ะ ไปอาบน้ำกันเถอะ” เพลิงฟ้าดึงมือเขาชวนไปอาบน้ำด้วยกัน จะได้เร็วขึ้น

เมื่ออาบน้ำเสร็จแล้วก็แต่งตัวกันอย่างรวดเร็ว ไม่มีชักช้า แล้วโบแวก็ขับรถพาเพลิงฟ้ากลับไปที่บ้านของเวอจินี่ อากาศยังยังเย็นสบายอยู่แม้จะเริ่มเป็นฤดูใบไม้ผลิแล้วก็ตาม

“ถามจริงๆ จะไปซื้ออะไรที่ไร่องุ่น” โบแวถามเพราะหล่อนก็ไม่ใช่นักดื่ม

“ไม่รู้ค่ะ แค่หาที่เที่ยว พรุ่งนี้ว่าจะไปไร่ดอกไม้ อย่างมากก็ไปถ่ายรูปกันค่ะ นานๆ ทีพ่อแม่มาเที่ยวก็พาเที่ยว บางวันก็พักบ้าง” เพลิงฟ้าบอกเล่าแล้วมองถนนไปเรื่อยๆ เมื่อคืนมาตอนกลางคืน เลยไม่ได้สักเกตเมืองเท่าไร

โบแวก็พยักหน้า แล้วขับไปจอดในบริเวณบ้านของเวอจินี่ เห็นรถจอดอยู่สองคัน เมื่อเขาลงจากรถก็ตามเพลิงฟ้าเข้าไปในบ้าน เพลิงฟ้าเข้าไปหยิบของใช้อื่นๆ ช่วยหิ้วตะกร้าปิกนิก สวมเสื้อกันหนาวไว้พอสมควร

“มันจะไปด้วยเหรอ” พุทธรักษ์ถามน้องสาวอย่างไม่ชอบหน้านัก

“มีปัญหาอะไรนักหนา” เพลิงฟ้าย้อนถามอย่างกวนประสาท

“วันหน้าโดนมันหักอกขึ้นมาจะหาว่าไม่เตือน ให้มันขับก็แล้วกัน ไปขับแทนเวอจินี่ดีกว่า” พุทธรักษ์ไม่ชอบขี้หน้าโบแวเท่าไร เพราะเดาได้ว่าผู้ชายหน้าตาดีๆ ไม่มีทางจริงจังกับน้องสาวเขา และได้ข่าวจากนีกอลาว่าเป็นเสือผู้หญิงตัวยงด้วย คั่วนางแบบหลายคน แล้วก็ไม่ชอบใคร นี่ก็เพิ่งเลิกกับแฟน ก็มาควงเพลิงฟ้าต่อ ช่วงนี้ก็มีผู้หญิงพัวพันอยู่หลายคนด้วย

เพลิงฟ้าส่ายหน้า ก่อนตอบ “เขาจะมาหักอกฉันได้ไง ก็ไม่ได้เป็นอะไรกัน อีกอย่างฉันไม่รักผู้ชายอย่างโบแวให้ปวดใจวันหน้าหรอกน่า”

“เออ เตือนตัวเองให้หนักๆ ด้วย” พุทธรักษ์เดินไปขอกุญแจจากเวอจินี่

เพลิงฟ้าก็ส่งกุญแจให้โบแว “ขอรบกวนขับให้ทีค่ะ แพร์จะไปขับให้เวอจินี่ค่ะ”

“ได้สิ ไปตามพ่อแม่มาขึ้นรถสิ” โบแวบอกเล่าแล้วก็ไปนั่งประจำที่คนขับ

พจน์มาถึงก็นั่งข้างคนขับ แล้วยิ้มให้โบแว “ผมเมารถน่ะ นั่งข้างหลังไม่ค่อยได้”

โบแวได้ยินอีกฝ่ายพูดภาษาฝรั่งเศสได้ก็ยิ้มให้แล้วพยักหน้าเท่านั้น “คุณนั่นเอง ที่พีชเคยบอกว่าไม่สบายจนเขาต้องคอยพยาบาล”

พจน์มองอย่างงงๆ แล้วพยักหน้า “ใช่ครับ ไม่รู้ว่าพีชเล่าให้คุณฟังด้วย”

“ตอนผมไม่สบาย เขาก็คอยดูแลผม ผมเคยกระดูกขาร้าวน่ะครับ เขาคอยช่วยผม เขาจึงเล่าให้ฟังบ้าง แต่ไม่ค่อยละเอียดหรอกครับ” โบแวเล่าความตามเรื่อง จนกระทั่งพรนภากับเพลิงฟ้ามาขึ้นรถ

พุทธรักษ์ก็ขับนำ...โบแวก็แค่ขับตามเท่านั้น

เมื่อไปถึงไร่องุ่นก็ได้แต่มอง เพราะเพิ่งพ้นฤดูหนาวมาเท่านั้น โบแวขึ้นไปนั่งในส่วนของร้านอาหาร แล้วปักหลักทันที “ใครจะถ่ายรูปก็ตามสบายนะครับ ผมจะขอทานมื้อเช้าแล้วก็ดื่มไวน์ตรงนี้แหละ”

“อย่าดื่มมากนะคะ คุณต้องขับรถอีก” เพลิงฟ้าเตือนเขา ไม่อยากให้เขาประมาท

“ไม่ต้องกังวลเรื่องนั้นหรอก ดื่มแค่พอประมาณแหละ” โบแวบอกแล้วเอาสมุดร่างภาพมาเริ่มวาดภาพ เมื่อเงยหน้าขึ้นก็มองไปทั่ว แล้วหาแรงบันดาลใจไปเรื่อยๆ

เพลิงฟ้าพอแม่ไปเดินดูรอบๆ โดยไม่พูดมาก เพราะอากาศยังเย็นอยู่ แต่ก็พอเห็นยอดองุ่นที่กำลังออกมาหลังจากหลบความหนาวเย็น

“ไม่เหมือนไร่องุ่นในเมืองไทยเลยนะ” พรนภาพูดตามที่เห็น

“มันก็อย่างนี้แหละค่ะ อากาศยังเย็นอยู่ แค่ก็เข้าฤดูใบไม้ผลิแล้ว” เพลิงฟ้าบอกเล่า แล้วก็รู้สึกว่ามือถือสั่น พอดูก็รู้ว่าเป็นโนราที่พยายามโทรหาเธอทุกวัน ก็กดรับสาย “ไงจ๊ะ โนรา”

“พีชกลับปารีสเมื่อไร พอดีจะต้องไปถ่ายแบบอีกแล้ว” โนราถามเพราะงานแทรก ตอนแรกว่าจะหวนกลับไปหาเพลิงฟ้าอีกครั้ง เมื่อมีงานแทรกแบบนี้ก็ต้องรีบทำเงินไว้ก่อน

“อีกเก้าวัน ไปทำงานเถอะ ไม่ต้องกังวลหรอก เพื่อนเธอยังอีกหลายคนนี่ ฉันคงไม่ว่างขนาดนั้นหรอก” เพลิงฟ้าไม่ได้บอกเรื่องงานเดินแบบของเธอ แต่โนราเห็นภาพก็รู้ได้เองโดยไม่ต้องบอก เพราะเคยแต่งหน้าทำผมเป็นเพื่อนกันอยู่

“งานยุ่งอย่างนั้นเลยเหรอ” โนราถามอย่างสงสัย ไม่รู้ว่าเพลิงฟ้ามีงานถ่ายแบบอีกกี่งาน

“ก็พอควรล่ะนะ” เพลิงฟ้าไม่ยอมบอกตารางของเธอ เพราะไม่อยากให้โนราเข้ามาวุ่นวายกับชีวิตตอนนี้

“พีช เธอรับงานเยอะเหรอ น่าจะรับงานคู่ฉันบ้างนะ เราจะได้เจอกันเวลาทำงาน” โนราพูดอย่างมีความหวัง

“โนรา ฉันว่า เราเลิกกันแล้วก็ควรจะจบนะ ไม่ต้องเจอกันดีกว่า รอให้ต่างฝ่ายต่างก็มีคนใหม่แล้ว เราค่อยมาเจอกันดีกว่านะ ขอโทษจริงๆ ฉันคิดว่ามันน่าจะวุ่นวายน้อยกว่า” เพลิงฟ้าพูดแค่นั้นทำให้โนราวางสายอย่างเอาแต่ใจ

เพลิงฟ้าถอนหายใจยาว หวังว่าโนราจะโกรธจนไม่ยุ่งกับเธออีก เมื่อเดินทั่วแล้วไม่มีอะไรก็ไปที่ร้านอาหารกึ่งร้านค้า เห็นโบแวเปิดไวน์แล้วจิบเงียบๆ ร่างภาพตามใจชอบแต่ยังไม่ลงสี

“สั่งอาหารกันเถอะแม่” พุทธรักษ์นั่งลงอย่างเสียไม่ได้ เว้นที่ไว้ให้พ่อมานั่ง

เพลิงฟ้าช่วยนีกอลานั่งลง แล้วก็นั่งข้างๆ เพราะนีกอลาดึงให้เธอนั่งตรงนั้น อีกข้างของนีกอลาคือเวอจินี่ ตรงข้ามของโบแวจึงเป็นพรนภา เพลิงฟ้าจึงนั่งตรงข้ามพ่อตัวเอง

โบแวไม่เข้าใจว่าทำไมพี่ชายเธอไม่ค่อยชอบเขานัก คงจะเชียร์เพื่อนมากกว่าเขา แต่เพลิงฟ้าดูไม่อะไรมาก และสั่งอาหารเพื่อทานมื้อเที่ยงตามปกติ

“ตอนแรกว่าจะปิ๊กนิกกัน แต่ดูแล้วไม่ไหวนะ” พุทธรักษ์พูดขึ้นทำลายความเงียบ

“ทำไมไม่พูดภาษาฝรั่งเศส เสียมารยาท” เพลิงฟ้าตำหนิพี่ชายแทน

“ก็อยากพูดภาษาไทย ใครไม่เข้าใจก็ไม่ต้องเข้าใจ” พุทธรักษ์พูดอย่างไม่แคร์ใคร

“ขอโทษแทนพี่ชายฉันด้วยนะคะ คนไร้มารยาท พ่อแม่อบรมเท่าไรก็ไม่รู้จักจำ โง่ๆ อย่างนี้ไม่รู้ว่าไปติดที่ไหนมาค่ะ” เพลิงฟ้าหันไปพูดกับโบแวแบบนั้นทำให้พุทธรักษ์เสียหน้า

“โอ๊ย!! ไอ้พีช ทำไมต้องด่ากูขนาดนี้ด้วยวะ” พุทธรักษ์ก็โวยวายขึ้นมา

“อย่าไปสนใจค่ะ คนบ้า” เพลิงฟ้าบอกโบแว ทำให้โบแวหัวเราะเล็กน้อย

“หัวเราอะไรวะ” พุทธรักษ์ก็พูดภาษาฝรั่งเศสใส่โบแว

“ปากผมทำไมจะหัวเราะไม่ได้” โบแวก็ย้อนถามอย่างไม่สนใจ

“เสือผู้หญิงอย่างแก แค่เห็นหน้าก็ไม่ชอบแล้ว” พุทธรักษ์พูดอย่างหงุดหงิด

“ถึงผมจะเป็นเสือผู้หญิงแต่ผู้หญิงก็เต็มใจแบบไร้ข้อผูกมัด เพราะผมเปิดเผยเสมอ ไม่เคยให้ความหวังใคร” โบแวพูดขึ้นแล้ววางส้อมลง ชนิดที่เรียกว่าถ้ามีเรื่องก็ยินดีตอบโต้

“พอเถอะ” เวอจินี่พูดขึ้นเพื่อห้ามทัพ

อีกคนยังไงก็ลูกเพื่อน อีกคนก็ญาติห่างๆ น้องสาวของพรศักดิ์แต่งงานกับลูกพี่ลูกน้องของพจน์ แม้ไม่มีความเกี่ยวพันด้านสายเลือดแต่บ้านก็อยู่ใกล้กัน ทำให้สนิทกันไปเอง

โบแวจึงหันไปอีกทาง แล้วดื่มไวน์ของเขาต่อ พร้อมของว่าง

คนอื่นๆ ก็เริ่มสั่งอาหาร แล้วก็ไม่มีใครคุยกันเท่าไรนัก จนกระทั่งมีสายเข้า โบแวก็รับสาย

“มีอะไร เลอา” เขาถามพี่สาวที่ตอนนี้อยู่บ้านเฉยๆ

“เบื่อ นี่แม่บอกพี่ว่านายหนีไปไหนอีกแล้ว” เลอาถอนหายใจยาว เธอยังทำงานไม่เต็มตัว จึงมีเวลาว่างมาก

“เบื่อก็ไปช่วยแม่ทำงานสิ” โบแวไม่ตอบ แต่ไล่พี่สาวไปช่วยแม่ทำงาน

“กลับมาเมื่อไรไปช็อปปิ้งกันไหม” เลอาถามน้องชาย

“ไม่ไป กลับไปต้องทำงานอีก ไม่มีเวลา ว่างนักก็ไปหางานทำ ไม่ต้องโทรมาป่วนเลยนะ แค่นี้นะ โทรไปเมาท์กับเพื่อนๆ เธอสิ” โบแวตัดบทไล่พี่สาวไปหาคนอื่นทันที

“อยู่ไหน อยู่กับใคร” เลอาถามน้องชายอย่างสงสัย

“อยู่ที่บ้านเกิดเวอจินี่ กับเวอจินี่” โบแวอ้างเวอจินี่แทน

“ไปหาเวอจินี่ทำไม” เลอาสงสัยมากขึ้น ร้อยวันพันปีโบแวไม่เคยเข้าไปยุ่งกับเพื่อนแม่คนไหน

“เรื่องของเธอไหม อย่ามายุ่ง ไปหาอะไรทำไปจะได้ไม่ว่างมาวุ่นวายกับเรื่องส่วนตัวของฉัน แล้วก็เข้าออฟฟิศแทนฉันด้วย มีงานการตลาดต้องจัดการ อย่าคิดแต่ว่าออกเงินแล้วไม่ต้องทำอะไรนะ ไปทำงานที่เธอต้องทำแล้วเลิกนอนรอสามีไปวันๆ ได้แล้วนะ อย่าพูดอะไรอีก รำคาญ ไปทำงานน่ะ เข้าใจไหม” โบแวเล้งใส่พี่สาวแล้วก็วางสาย ทำเอาคนอื่นๆ มองเขาแล้วก็พูดคุยกันต่อโดยไม่สนใจ

เวอจินี่เห็นโบแวพูดแรงๆ กับพี่สาว แสดงว่าช่วงนี้เลอาคงว่างจัด แล้วชวนน้องชายออกเที่ยวบ่อยๆ “เลอาโทรมาเหรอจ๊ะ”

“ครับ ว่างจัด บอกให้เข้าออฟฟิศก็ไม่เข้า” โบแวบ่นอย่างไม่จริงจังนัก

“ออฟฟิศของฌากหรือของมอร์กานล่ะ” เวอจินี่ชวนคุยไปเรื่อยๆ โบแวจะได้ไม่เหมือนคนวงนอก

“ของผมล่ะครับ ตอนนี้ผม แม่แล้วก็เลอาเปิดบริษัทใหม่ จะทำเสื้อผ้าตลาดกลาง รำคาญภาพพจน์ราฟาแร็ง อะไรๆ ก็ผมทำหมด แม่ทำพีอาร์กับการตลาด บอกให้เลอาเข้าร่วมก็เอาแต่บ่นว่าข้าวใหม่ปลามัน ไม่อยากห่างกันเท่าไร ผมก็ไม่รู้จะพูดยังไง” โบแวบ่นไปตามเรื่องแล้วก็ทานอาหารของตนไปเรื่อยๆ

“เลอาไม่เคยทำงานบริษัทก็อย่างนี้แหละจ๊ะ อดทนเอาหน่อย เดี๋ยวก็เข้าที่เข้าทางซักที” เวอจินี่บอกเล่าเท่านั้น ก่อนหันไปถามลูกชาย “นิกรู้จักเลอาไหม เขาเป็นนางแบบที่มีชื่อเสียงมากนะ”

“ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวครับ แต่ก็รู้ว่าเขามีชื่อเสียงในวงการอยู่” นีกอลาบอกเล่าตามที่เขารู้มา

“พอแต่งงานแล้วเลอาก็ไม่รับงานอีก ก็ต้องว่างมากเป็นธรรมดา” โบแวบอกเล่าอีกรอบ

“ก็ให้เวลาเลอาหน่อยจ๊ะ” เวอจินี่ให้กำลังใจโบแว

โบแวก็รับคำเท่านั้น แล้วหยิบสมุดมาร่างภาพต่อ

พจน์มองโบแวร่างภาพแล้วก็มองผมยาวสลวยของโบแว แล้วมองลูกสาว แล้วก็เริ่มงง เพราะตอนนี้เห็นโบแววาดออกแบบภาพเสื้อผ้า น่าจะเป็นเกย์มากกว่าชายแท้ แล้วเอาลูกสาวไว้ทำอะไร

“มีอะไรจ๊ะ พ่อ” เพลิงฟ้าถามพ่อ

พจน์ไม่กล้าพูดภาษาฝรั่งเศสก็เลยถามลูกสาวตรงๆ “เขาเป็นกระเทยหรือเปล่า”

เพลิงฟ้าได้ฟังก็หัวเราะแล้วส่ายหน้า “ไม่ใช่จ๊ะ พ่อ แมนแท้ๆ”

“แล้วทำไมออกแบบเสื้อผ้าล่ะ เป็นเกย์เหรอ” พจน์งุนงงมากกับท่าทีของลูกสาว

“ก็แพร์ก็บอกแล้วไงว่าเขาเป็นเสือผู้หญิง” เพลิงฟ้าส่ายหน้าช้าๆ

“เสือผู้หญิงยังไง เนี่ยเห็นไหมออกแบบเสื้อผ้าเนี่ย ไม่ใช่กระเทยเหรอ” พจน์ถามย้ำอีกรอบ

เวอจินี่จึงหัวเราะแล้วส่ายหน้า “ไม่ใช่หรอกค่ะ คุณพจน์ เขาเป็นผู้ชายแท้ๆ นี่แหละค่ะ เขาชอบออกแบบเสื้อผ้า เลยทำให้ดูตุ้งติ้งไปบ้าง เห็นอย่างงี้นะคะ เคยแข่งรถชนะหลายรอบแล้ว เรื่องต่อยตีไม่เป็นรองใครเหมือนกันค่ะ แม่เขาปวดหัวมาก เพราะตามใจแต่เด็ก ก็เลยเอาแต่ใจมาก”

พจน์ขมวดคิ้วไม่อยากเชื่อแต่ก็คงต้องเชื่อ

“เชื่อเถอะพ่อ เขาเนี่ยแมนจริงๆ” เพลิงฟ้าหัวเราะเล็กน้อย ก่อนเตือน “อย่าไปว่าเขาเป็นกระเทย เป็นเกย์เชียว เขาโกรธนะคะ”

“อืมๆ” พจน์ก็ยังคงสงสัยอยู่ดี

โบแวก้มหน้าก้มตาร่างภาพ คิดแบบแล้วก็ขีดๆ วาดๆ ลงรายละเอียดลบทิ้งไปบ้าง เพลิงฟ้าเคยถามเขาว่าทำไมไม่ใช่เทคโนโลยีให้มากกว่านี้ แต่เจ้าตัวยืนยันว่าชอบแบบนี้ จึงไม่ถามให้วุ่นวายอีก

******************************

โพสทันเว็บอื่นๆ แล้วนะคะ
ขอบคุณที่ติดตามคะ

konhin : คิดถึงเหมือนกันค่ะ



เพลิงวารี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 13 ส.ค. 2561, 11:47:32 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 13 ส.ค. 2561, 11:47:32 น.

จำนวนการเข้าชม : 679





<< Designer's desire By คชสีห์ 06-07   Designer's desire By คชสีห์ 10 >>
konhin 14 ส.ค. 2561, 12:48:53 น.
อยากรู้มากๆว่า โดนฝาแฝดกับแฟนเก่าทำอะไรไว้ ทำไมถึงได้โกรธสุดๆเกือบจะไม่เผาผีกันแบบนี้


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account