กลรักนักดีไซน์
...โบแว...หนุ่มฝรั่งเศสเอาแต่ใจรักการออกแบบเสื้อผ้าเป็นชีวิตจิตใจทำให้คนอื่นเข้าใจผิดอยู่บ่อยๆ
...เพลิงฟ้า...สาวไทยหนีไปอยู่ปารีส
...เรื่องของคนเอาแต่ใจกับคนชอบตามใจมาเจอกันจะเกิดอะไรขึ้น...
Tags: รักลวง อิสระ

ตอน: Designer's desire By คชสีห์ 10

กลรักนักดีไซน์ (Designer's desire By คชสีห์) 10

สามวันที่โบแวตามติดเพลิงฟ้า และพาเพลิงฟ้าไปค้างที่โรงแรม จนเป็นเรื่องปกติของพจน์กับพรนภา แต่พุทธรักษ์หมั่นไส้ จึงไม่ต้อนรับเท่าไร โบแวมาก็หลบไปอีกทาง เพราะไม่ว่าจะพูดอะไรก็ไม่มีใครฟังเขา กลับห้ามเขาพูดมากกว่า

เพลิงฟ้าพิงที่อกโบแว ส่วนโบแวก็โอบแล้ววาดภาพของเขาไป เพลิงฟ้าอ่านนิยายของเธอไปเรื่อยๆ

“นิยายที่แม่เอามาให้โอเคไหม” พรนภาถามลูกสาวที่อยู่กับโบแวอย่างมีความสุข แม้จะหวั่นใจไปบ้าง แต่ตอนนี้ลูกสาวมีความสุขจึงไม่พูดอะไรมาก

“ดีจ๊ะ” เพลิงฟ้าลุกขึ้นไม่พิงอกเขา แต่โบแวก็ล็อกเอวเธอไม่ยอมให้ห่าง เธอจึงพิงอกเขาอีกรอบแล้วหันไปมองหน้าเขา “มีอะไรคะ”

“พิงเถอะ” โบแวบอกแล้วร่างภาพด้วยมือซ้ายอย่างคล่อง

“ถนัดมือซ้ายเหรอจ๊ะ” พรนภาถามเป็นภาษาฝรั่งเศส

“ถนัดสองมือเลยครับ” โบแวตอบแล้วก็ยังคงขีดๆ เขียนๆ ไปเรื่อยๆ

เสียงโทรศัพท์ของโบแวดังขึ้น จึงปล่อยมือจากเพลิงฟ้าแล้วรับสาย “มีอะไรอีก เลอา”

“โบแว!!! ฮือ” เลอาร้องไห้ก่อนจะได้พูด

“มีอะไรเลอา” โบแวตกใจเมื่อได้ยินเสียงพี่สาวร้องไห้ ก็ลุกออกไปหาที่คุย

เพลิงฟ้าแค่มองตามแล้วอ่านนิยายต่อ

โบแวหาที่เหมาะได้ก็พอดีพี่สาวตั้งสติได้ “เล่ามาสิ เกิดอะไรขึ้น”

“แม่เกิดอุบัติเหตุรถยนต์น่ะ โบแว คืองี้นะ แม่น่ะไปตามอองรีที่ลอนดอน ตั้งใจจะไปเซอร์ไพซ์ แต่กลับประหลาดใจเอง ไปเจออองรีอยู่กับผู้หญิงอื่น แม่ก็เลยกลับปารีสแล้วก็หายไปสามวัน มารู้วันนี้เองตอนเกิดอุบัติเหตุ โบแวรีบกลับปารีสนะ มาช่วยพี่ดูแม่ แม่ออกจากห้องผ่าตัดแล้วยังไม่ได้สติเลย” เลอาถอนหายใจยาว

“นี่พ่อรู้หรือยัง” โบแวถามพี่สาวให้แน่ใจ เขาก็เดินกลับมาเก็บของของเขาแล้วบอกลาทุกคน “ลานะครับ”

แต่ละคนมองเขาถือมือถือแล้วก็เดินออกไปอย่างรวดเร็วเหมือนตอนมา เพลิงฟ้าก็ไม่ทันได้ถาม พอออกไปดู เขาก็ขับรถออกไปแล้ว

“อะไรของเขานะ” เวอจินี่งุนงง เพราะโบแวไม่พูดะไรเลย

คนที่เหลือได้แต่ถอนหายใจ คนอย่างโบแวอยากไปไหนทำอะไรไม่เคยคิดถามใครสักคน

โบแวขับรถแล้วถามรายละเอียดพี่สาวไปเรื่อยๆ ก็รีบไปเก็บของที่โรงแรมแล้วจ่ายทุกอย่างก่อนกลับ

“เดี๋ยวผมตามพ่อให้ พี่ไม่ต้องกังวล ไม่เกินสองชั่วโมง ผมก็ถึงแล้ว” โบแวบอกแล้วกดตัดสายวางหู ก่อนขับรถแบบรีบเร่งกลับปารีส โดยลืมโทรบอกเพลิงฟ้า

เพลิงฟ้านั่งรอเขาจนเย็นแล้ว ก็รู้ว่าเขาไม่มา เธอก็ทำใจได้บ้าง อย่างโบแวไม่ค่อยรู้ตัวหรอกว่าจะมีใครรอหรือยังไง อยากไปไหนก็ไป เธอก็ไม่กังวลถามหา แม้จะต้องทำใจอยู่เหมือนกัน กับคนนิสัยอย่างเขา แต่ก็พยายามเตือนตัวเองว่าอย่าได้คิดอะไรกับเขามากไปกว่าปัจจุบัน

“เป็นไงล่ะ โดนมันทิ้งอีกแล้วล่ะสิ” พุทธรักษ์ถามน้องสาวกลางวงโต๊ะอาหาร

“เสือกทุกเรื่องที่ไม่ใช่เรื่องของตัวรึไง” เพลิงฟ้าย้อนถามแล้วพยายามเก็บอาการหงุดหงิด

“ไอ้พีช นี่หวังดีนะ” พุทธรักษ์พูดเพราหวังดีกับน้องสาวจริงๆ

“หวังดีหรือเยาะเย้ย มันก็แค่เส้นบางๆ ถ้าคิดว่าหวังดีก็เงียบไปเลยดีกว่าไหม” เพลิงฟ้าย้ำปิดปากพี่ชาย

“เชอะ” พุทธรักษ์หงุดหงิดที่น้องสาวดูจะไม่หวั่นไหว

คนอื่นๆ ก็นิ่งเงียบไป เพราะหลายวันมานี้ สองพี่น้องทะเลาะกันจนชินตา ได้แต่ปล่อยทั้งสองคนทะเลาะกันไป จนกระทั่งโทรศัพท์เข้า เพลิงฟ้าก็กดรับสาย

“อะไรนะ” เพลิงฟ้าถามปลายสาย

“อืม มอร์กานเข้าโรงพยาบาล ขับรถชน ได้ยินว่าเมาแล้วขับ ตอนนี้ยังไม่ฟื้นเลย” แอนน์โทรมาบอก แล้วก็บอกเล่าเหตุการณืตามที่รู้มา จากนั้นก็วางสาย

“โบแวรีบกลับเพราะว่ามอร์กานรถชนค่ะ” เพลิงฟ้าบอกเล่า

เวอจินี่ตกใจ ก็ถามรายละเอียด “มอร์กานเป็นยังไงบ้าง”

“ยังไม่ฟื้นค่ะ รายละเอียดพีชก็ไม่รู้นะคะ แอนน์โทรมาบอกเฉยๆ ค่ะ” เพลิงฟ้าบอกเล่า

นีกอลาได้ยินชื่อแอนน์ก็เกิดไอเดียดี แล้วก็รอจนทุกคนแยกย้าย เขาก็เข้าห้องแล้วโทรหาแอนน์ “สวัสดีครับ จำผมได้ไหม”

แอนน์กดรับก็จำเบอร์อยู่แล้ว หวังให้เขาโทรหามานาน “จำได้สิคะ นีกอลามีอะไรคะ”

“พอดีพีชพูดถึงคุณ ผมก็เลยนึกถึง ไม่ต้องกังวลเรื่องคดีนะครับ ผมไม่คิดจะเอาเรื่องหรอก ขอแค่จ่ายค่ารักษาผมก็พอ” นีกอลาบอกอย่างอารมณ์ดี

“แต่คุณเสียรายได้นะ งานที่คุณรับไว้ก็ไปทำไม่ได้” แอนน์ให้รู้สึกเป็นห่วงนายแบบหนุ่มมากเป็นพิเศษ เพราะอัธยาศัยดี ไม่ถือโอกาสเอาเปรียบ

“เรื่องนั้นไม่ต้องกังวลหรอกครับ มีคนรอแทนผมเยอะ ใครๆ ก็อยากได้งานกัน แต่พอดีผมห่วงสุขภาพมากกว่า” นีกอลาบอกแล้วก็อมยิ้มที่เจอสาวอังกฤษขี้กังวล ก่อนนึกถึงจุดประสงค์ของการโทรมาได้ “ได้ยินคุณบ่นว่าเหงา ไม่คิดจะสนใจออกไปเที่ยวหาหนุ่มๆ มาแก้เหงาบ้างเหรอครับ หนุ่มฝรั่งเศสนิสัยดีเยอะนะครับ”

“ถ้าเยอะจริง ฉันคงซวย เพราะเจอแต่คนไม่จริงใจ” แอนน์บ่นอย่างไม่คิดมาก

“ผมว่าคนฝรั่งเศส ถ้าเอาชนะใจได้ก็ไม่เจ้าชู้หรอกครับ ถามจริงๆ คุณไม่สนใจโบแวบ้างเหรอ” นีกอลาถามขึ้นและคิดว่าแอนน์ไม่น่าจะแปลกใจ เมื่อโบแวเป็นหนุ่มที่อยู่ใกล้และดูดีที่สุด

แอนน์หัวเราะขำ รีบปฏิเสธทันที “ไม่ไหวหรอกค่ะ คุณนีกอลา คุณไม่รู้หรอกว่าในออฟฟิศนี้มีกี่คนที่นอนกับโบแว โบแวหน้าตาดี สาวๆ ก็หลง แต่ถ้าไม่ใช่เพราะเคยควงกับอันนา ถึงขั้นจะแต่งงานแล้วหยุดทุกอย่าง ไม่มีใครเชื่อหรอกค่ะ ว่าอย่างโบแวจะลงหลักปักฐานกับใคร สุดท้ายพอเลิกกับอันนา ก็กลับไปเหมือนเดิม”

“ในเมื่อคุณรู้ว่าถ้าชนะใจเขาได้แล้ว เขาก็จะรักคุณคนเดียว ทำไมไม่ลองเอาชนะใจเขาให้ได้ละครับ” นีกอลาพยายามเชียร์โบแว โบแวจะได้เลิกยุ่งกับเพลิงฟ้า โดยไม่สนใจว่าเพลิงฟ้ากับโบแวจะมีความสัมพันธ์แบบไหนกันแน่

แอนน์รู้สึกผิดปกติที่อยู่ๆ นีกอลาก็เชียร์โบแวจนน่าแปลกใจ “โบแวเป็นคนเอาแต่ใจค่ะ เอาใจยากมากนะคะ”

“เป้าหมายยิ่งยาก ยิ่งน่าสนใจนะครับ เมื่อได้ชัยชนะก็น่าภูมิใจ การฝึกเสือให้เชื่องมันก็เป็นความท้าทาย” นีกอลายุส่งให้แอนน์สนใจโบแวแทน

แอนน์ฟังไปฟังมาก็รู้ว่านีกอลาคงอยากให้เธอเข้าหาโบแว นึกถึงท่าทีที่เขามีแต่เพลิงฟ้า ทั้งที่เพลิงฟ้าไม่ใช่ผู้หญิงที่ดูมีเสน่ห์ก็แปลกใจ แต่ก็รู้ว่านีกอลากับเพลิงฟ้าเป็นเพื่อนสมัยเด็กกัน

“คุณพูดเหมือนอยากให้ฉันเอาชนะโบแว” แอนน์ทวนสิ่งที่เขาพยายามสื่อสารกับเธอ

“เปล่าหรอกครับ ก็เห็นว่าโบแวเหมาะสมกับคุณมาก คุณเป็นคนดี ส่วนโบแวก็มีเส้นสายในวงการเยอะ อีกอย่างเวลาเขารักใครจริงๆ เขาก็จะซื่อสัตย์กับคนนั้นนี่ครับ” นีกอลาพยายามโน้มน้าวแอนน์

แอนน์เห็นว่าเขาคงอยากได้เพลิงฟ้าคืน อีกทั้งการได้เส้นสายในวงการก็เป็นเรื่องน่าสนใจอีกด้วย ถึงจะสนใจนีกอลา แต่เห็นแล้วว่านีกอลาดูจะอยากได้เพื่อนสมัยเด็กที่ไม่น่าสนใจคืนมากกว่า เธอจึงพิจารณาตามเหตุผล

โบแวดูน่าท้าทายก็จริง แต่แอนน์ฟังน้ำเสียงตื่นเต้นของนีกอลา ก็ทำให้รู้สึกเสียดายเช่นกัน ใครๆ ก็อยากได้เพลิงฟ้า ทั้งที่ไม่น่าสนใจเลยสักนิด

**************************

สายตาเขามองแม่ที่นอนนิ่งสงบ และยังไม่ฟื้น เขาก็กุมมือแม่เขาอยู่ข้างเตียง พ่อเขาพาโนอาไปเที่ยว จึงยังไม่กลับมา พอติดต่อได้ก็รีบจองตั๋วกลับในวันรุ่งขึ้น ซึ่งก็คือวันนี้ โบแวโมโหเล็กน้อย เพราะโนอาเล่นแง่ไม่ยอมให้พ่อเขารับสาย จนกระทั่งพ่อเขามาเจอเข้า จึงแย่งมารับสาย

เสียงถอนหายใจดังขึ้นในห้อง เลอาเข้ามาในห้องท่าทางหงุดหงิด ก่อนคุยกับน้องชาย “มารีโทรมาบอกต้องปิดต้นฉบับ ไม่งั้นจะพิมพ์ไม่ทัน แม่ยังไม่ได้ดูตัวอย่างเลย”

“บ่นอะไรนักหนา ก็หัดทำงานแทนแม่บ้างสิ ไม่ใช่รอขอเงินแม่ทุกเดือนๆ” โบแวหันไปดุพี่สาวที่ไม่ค่อยชอบทำงานเท่าไรนัก และว่างงานก็เอาแต่จะชวนไปซื้อของ ปกติแค่ถ่ายแบบเดินแบบได้เงิน งานสบายแต่ไปตรงเวลาเสมอ

เลอาถอนหายใจยาว หยิบเล่มตัวอย่างสามเล่มออกมาแล้วถอนหายใจยาว ก่อนนั่งลงดูตรวจดูเทียบกันทั้งสามเล่ม ตรวจอยู่นานพอดู

สักพักเสียงเปิดประตูดังขึ้น ฌากหน้าตาตื่นแล้วมองร่างมอร์กานที่นอนสงบ แล้วยืนสงบใจ ก่อนนั่งที่ข้างเตียง

“ไอ้อองรี” ฌากโกรธที่คนรักของภรรยาทำให้ต้องตกสภาพแบบนี้

มอร์กานมีแผลที่หน้าจำนวนมาก ขาหัก แขนหัก แผลถลอกอีกเพียบ แล้วยังหลับไม่ฟื้นอีกต่างหาก เห็นสภาพแล้วเขาก็ยิ่งโมโห

“นี่ให้ใครไปเก็บของของแม่ออกจากบ้านมันหรือยัง” ฌากถามขึ้น

“เมื่อวานโทรไปนัด จะไปเอาวันพรุ่งนี้แหละค่ะ” เลอาตอบพ่อแล้ววางงานไว้ก่อน “พ่อคะ นี่พ่อมาคนเดียวเหรอ”

“ใช่ จากสนามบินก็ตรงมานี่เลย ให้โนอาเอากระเป๋าไปเก็บให้ เป็นห่วงแม่พวกลูกเนี่ยแหละ พรุ่งนี้เอาของแม่ไปไว้ที่บ้านพ่อนะ” ฌากบอกลูกสาว

“อย่าเลยครับ ให้แม่ไปอยู่บ้านผมดีกว่า ผมให้คนเตรียมห้องไว้ให้แม่แล้ว” โบแวรู้ว่าแม่ไม่มีทางไปอยู่ร่วมบ้านกับโนอา จึงจัดแจงห้องไว้ให้แม่อยู่

“แล้วแกจะอยู่ดูแลแม่แกหรือยังไง” ฌากถามย้ำกับลูกชาย

“ผมก็ให้พยาบาลไปคอยดูแลแม่น่ะสิ” โบแวบอกแล้วก็นั่งวาดรูปต่างๆ

ฌากเห็นลูกชายทำงานก็บอก “พ่อว่าจะทำโปรเจค อยากให้แกออกแบบให้สอดคล้องกัน พ่อจะสร้างเทรนด์ขึ้น”

“เทรนด์อะไรครับ” โบแวถามพ่อ แล้วก็เริ่มนั่งข้างๆ กันคุยเรื่องงาน

สักพักมอร์กานก็ขยับตัวแล้วลืมตาขึ้น ได้ยินเสียงสามีกับลูกคุยกันเรื่องงาน ก็นึกว่าฝัน รู้สึกเจ็บปวดไปหมดทั้งตัว พอความเจ็บปวดชัดเจนเธอก็ร้องเสียงแหบแห้ง

“มอร์กาน” ฌากทิ้งเรื่องงานแล้วเข้าไปประคองภรรยา

“ฌาก” เสียงค่อยๆ ดังมาจากปาก “ทำไมมันเจ็บปวดแบบนี้”

“หมอ” ฌากตะโกนเรียกอย่างขาดสติ แล้วโบแวก็กดเรียกพยาบาล

“แม่ดื่มน้ำก่อน” เลอาวางงานแล้วเอาน้ำดื่มมาให้แม่

“ทำไมปิดตาแม่ไปข้าง” มอร์กานถามลูกชายแล้วพยายามจะเอาที่ปิดตาออก

“ใจเย็นๆ แม่จำไม่ได้เหรอว่าเกิดอุบัติเหตุ” โบแวพยายามห้ามแม่แล้วให้เลอาเล่าแทน จนหมอเข้ามาก็ค่อยปล่อยหมอทำงาน แล้วออกมารอข้างนอก

“พ่อขอไปด้วย” ฌากตัดสินใจบอกลูกสาว อยากจะไปดูหน้าไอ้คนชั่วที่ทำร้ายภรรยาเขา

“อย่าเลยพ่อ ใครจะดูแลแม่ล่ะ” โบแวห้ามไม่ให้พ่อไปหาเรื่องคนรักเก่าของแม่

“ใช่ พ่ออยู่กับแม่แหละดีแล้ว หนูรู้ว่าของแม่มีอะไรบ้าง เคยไปยืมของแม่ใช้บ่อยๆ หนูไปเก็บกับโบแวเอง แล้วจะพาไปบ้านโบแวด้วย ห้ามพ่อไปโวยวายหาเรื่องเขาอีก” เลอากับโบแวช่วยกันห้าม

“แต่เพราะมันไม่ซื่อกับแม่แก แม่แกถึงได้เสียใจจนเกิดอุบัติเหตุแบบนี้” ฌากแย้ง รำคาญที่ลูกๆ เห็นว่าเขาจะไปก่อเรื่อง

“พ่อ แม่เขาโตแล้ว เขาเป็นผู้ใหญ่ จะเสียใจยังไง เขาก็จะรับผิดชอบพฤติกรรมของตัวเอง นี่ไม่ได้เข้าข้างใคร แต่แค่มอบตำแหน่งชู้ให้เขา โดยไม่หย่ากับพ่อ มันก็มากเกินผู้ชายคนไหนจะรับได้แล้ว พ่อก็หยุดเถอะ อย่าไปหาเรื่องเขาเลย ดีแค่ไหนแล้ว เขาไม่ทิ้งแม่ไปตั้งแต่พ่อทิ้งแม่” โบแวพูดตามตรงอย่างหงุดหงิด

ฌากก็ขมวดคิ้วแล้วฮึดฮัด ก่อนนั่งลงที่ด้านนอก รอจนหมอตรวจดูอาการภรรยาเสร็จ แล้วก็พูดคุยกับหมอตามปกติ แล้วเข้าไปเยี่ยมภรรยา เขานั่งบนเตียงแล้วกุมมือมอร์กานที่ดูจะพยายามรวบรวมสติอย่างมาก

“ต่อไปนี้ฉันจะดูแลเธอเองนะ” ฌากบอกเล่าแล้วยกมือมอร์กานขึ้นมาแนบหน้า

“แค่พูดก็ดีใจแล้ว” มอร์กานก็พอเข้าใจว่าสามีคงรู้สึกผิด จึงอยากรับผิดชอบ “เอ้อ จริงสิ นี่แม่นอนไปนานแค่ไหน”

“วันนี้วันที่สามค่ะ” เลอาบอกแล้วก็จูบหลังมือแม่อย่างโล่งใจ

โบแวเข้าไปจูบแก้มแม่ข้างที่ไม่มีแผล แล้วก็มองอย่างโล่งใจ

“สามวันนี่มาเฝ้าแม่กันหมดเลยเหรอ” มอร์กานถามงุนงง

“พ่อน่ะ เพิ่งติดต่อได้เมื่อวาน ก็จับเครื่องมาถึงวันนี้เลยครับ ส่วนผมกับเลอานั่งเฝ้าอยู่นี่แหละ เลอารู้เรื่องก่อนเลยเฝ้าแม่ตลอด” โบแวบอกเล่าตามความจริง

“ขอโทษที ต่อไปนี้แม่จะไม่ทำอะไรอย่างนี้อีกแล้ว” มอร์กานถอนหายใจยาว เหนื่อยจะต้องไล่ตามหาความรักอีกแล้ว ตอนนี้ซึ้งใจที่ลูกๆ มาอยู่เฝ้าดูแลมากกว่า ก่อนถามถึงเรื่องงาน “เล่มตัวอย่างของแม่ใครไปดูแลแล้วบ้าง”

“หนูเอามาด้วยค่ะ มีสามเล่มสามภาษา ตอนแรกก็รับฝากมาเฉยๆ” เลอาบอกเล่า

“เอามาให้แม่ดูหน่อย” มอร์กานบอกลูกสาว แต่ฌากเดินมาขวาง

“เพิ่งฟื้นยังจะทำงานอีกนะ พอเลย ให้ลูกดูแลแทน เลอานั่งดูมาทั้งวันแล้ว” ฌากบอกเล่าแล้วส่ายหน้าไม่ให้มอร์กานทำงาน

“เลอาจะรู้เรื่องไหม” มอร์กานยกมือข้างที่ไม่หักกวักเรียก

“เธอจะขยับอะไรหนักหนา ไว้พรุ่งนี้ค่อยทำงาน” ฌากไม่ยอมให้ภรรยาทำงานเด็ดขาด

“เส้นตายมันวันที่ฉันเกิดอุบัติเหตุ ถ้าไม่รีบเดี๋ยวพิมพ์ไม่ทัน ส่งต้นฉบับไปที่ลอนดอนกับมิลานไม่ทัน เงินทั้งนั้น” มอร์กานบอกเล่า ก่อนต้องยอมครึ่งทาง “เอางี้แล้วกัน ให้เลอามานั่งข้างๆ จะได้เรียนรู้งานฉบับเร่งด่วน ตกลงไหม”

“ก็ได้ นี่เธอหิวไหม ฉันจะได้ไปหาอะไรมาให้กิน” ฌากถามด้วยความเป็นห่วง

“เดี๋ยวพยาบาลก็คงเอาอาหารมาให้ล่ะ หิวก็หิว ไม่ได้กินอะไรมาหลายวันแล้วนี่” มอร์กานบอกเล่า แล้วเรียกมาดู

โบแวได้แต่พาพ่อออกไป เขาก็ไปหาซื้ออาหารมาให้พี่สาวเขาเช่นกัน แล้วก็คุยเรื่องงานกับเขาด้วย พอกลับมาเสร็จ แม่ก็ยังตรวจงานไม่เสร็จ จึงได้แต่รอ

สักพักประตูก็เปิดออกอีก เป็นช่วงบ่ายของวัน เวอจินี่เดินเข้ามา แล้วมองเพื่อนด้วยความเป็นห่วง “ดีใจที่เธอฟื้นสักที โทษทีนะ ไม่ได้มาแต่วันแรก พ่อแม่พีชมาเยี่ยม เลยต้องต้อนรับ ใจคอก็ไมค่อยดี โทรหาเลอา ตามฟังข่าวตลอด แล้วนี่ครอบครัวพีชก็มาอยู่ที่ปารีสกันหมดแล้ว เตรียมตัวกลับเมืองไทย ฉันก็รีบมาเยี่ยมเลย”

“รีบมาทำไม มาก็ได้ดูฉันนอนล่ะ เพื่อนรัก” มอร์กานสวมแว่นตาอยู่ ตาอีกข้างก็ไม่ได้ใช้

“นี่ยังทำงานอีกเหรอ” เวอจินี่ถอนหายใจ เพื่อนเป็นผู้หญิงทำงานมาแต่ไหนแต่ไร

“ใช่สิ เดี๋ยวงานออกไม่ทัน รำคาญก็แต่เหลือตาข้างเดียวเนี่ยแหละ อาการเจ็บปวดก็ได้ยาช่วยได้ แต่ก็ยังเจ็บหนักพอประมาณ” มอร์กานบอกแล้วกวักมือเรียกเพื่อนมานั่งข้างๆ

“ตาไปโดนอะไร ได้ยินว่ามีถุงลมนิรภัยไม่ใช่เหรอ” เวอจินี่ถามแล้วตกใจอยู่ไม่น้อย

“ก็มี พอดีลืมตัวยกมือขึ้นกัน แหวนเพชรก็เลยข่วนตาเข้าให้ ดีที่แผลไม่ลึก” มอร์กานบอกเล่าเพื่อน ลูกชายเพื่อนเองก็เพิ่งเกิดอุบัติเหตุ “แล้วนี่นีกอลาไปแล้ว”

“นิกเหรอ ไปเป็นเพื่อนครอบครัวพีช ส่วนพีชแวะซื้อดอกไม้ข้างล่าง เดี๋ยวก็คงขึ้นมา” เวอจินี่บอกตามตรง

โบแวได้ฟังก็หยุดคุยงานกับพ่อ แล้วพูดขึ้น “ผมไปหากาแฟก่อนนะครับ เดี๋ยวซื้อมาเผื่อ แต่แม่ยังดื่มไม่ได้นะ”

“รู้แล้วน่า ถึงจะอยากได้ก็เถอะ” มอร์กานส่ายหน้าช้าๆ แล้วก็ถอนหายใจยาว เพราะง่วงแต่งานต้องเดิน เพราะช้ามาสามวันแล้ว

โบแวออกไปแล้วก็รออยู่ที่ลิฟต์ รอจนกระทั่งเพลิงฟ้ามาพร้อมช่อดอกไม้และกำลังจะเดินออกมา เห็นเจ้าของผมสีทองยาวสยายเสียก่อน ก็โดนเข้าดึงกลับเข้าไปในลิฟต์อีกรอบ ต้อนเธอไปอยู่ตรงมุมลิฟต์ ไม่สนใจว่าใครจะอยู่ด้วยแล้วจูบที่ริมฝีปากอิ่มอย่างดูดดื่ม

เพลิงฟ้าได้สติก็ผลักเขาออก “อะไร”

“ก็อยากจูบไง” โบแวบอกแล้วยืนเงียบอยู่ในลิฟต์

เพลิงฟ้าหน้าแดงเมื่อเขาจู่โจมไม่ทันได้ตั้งตัว “มอร์กานเป็นยังไงบ้าง”

“ฟื้นแล้ว ก็ทำงานทั้งที่ดูเพลียจะตายไป” โบแวตอบไปตามเรื่อง เมื่อลิฟต์ลงมาที่ชั้นแม่เขา ลิฟต์เปิดเขาก็ดันเธอลงไปก่อน “ไปซื้อกาแฟก่อนนะ”

เพลิงฟ้าก็งุนงง พยักหน้าแล้วเดินไปที่ห้องคนป่วยตามที่เขาบอก เอาช่อดอกไม้ให้และทักทาย “สวัสดีค่ะ บอส”

“เอ้อ มาก็ดีแล้ว มาช่วยดูงานตรงนี้หน่อยสิ ฉันรู้ว่าเธอไม่ได้เป็นคนทำ เพราะลาพักร้อน แต่เนี่ยต้องเข้าใจนะว่าฉันนอนป่วย” มอร์กานได้ทีก็จับเพลิงฟ้ามาทำงานทันที

“ได้ค่ะ บอส” เพลิงฟ้าบอกแล้วก็นั่งอีกข้างของเลอา

“ตรงนี้ต้องแก้นะ คำนี้ใช้ได้ยังไง” มอร์กานชี้ให้เพลิงฟ้าดู

เลอาก็ขมวดคิ้ว เพราะตอนนี้เพลิงฟ้ากลายเป็นมือขวาของแม่เธอไปเสียแล้ว

“อ๋อ สำนวนของคนนี้เขาเป็นแบบนี้ค่ะ” เพลิงฟ้าจัดหน้ามานาน ทำงานออกแบบกราฟฟิคให้สำนักงานนี้บ่อยๆ จึงแทบจะจำสำนวนของแต่ละคนได้เลย

“ตัวอักษรสีแบบนี้ไม่เหมาะวางที่มิลาน มารีปล่อยมาได้ยังไง” มอร์กานบอกอย่างหงุดหงิด “วงให้หน่อยสิ ไปเอาสมุดสีมาให้หน่อย ฉันจะดูเองว่าจะเอาสีอะไร”

“คือว่าฉันยังไม่ได้เข้าสำนักงานเลยค่ะ” เพลิงฟ้าบอกเล่า

“เลอาไม่ได้เอามา ปกติพวกนี้มันจะมาเป็นชุด” มอร์กานตำหนิลูกสาวเล็กน้อย “มารีไม่ได้ฝากมาเหรอไง”

เลอามองแม่ทำหน้างุนงง ก่อนนึกขึ้นได้ “ไอ้ที่มีสีเยอะๆ คลี่ออกเป็นพัดได้น่ะเหรอคะ”

“ใช่ เวลาแม่แก้ต้องใช้ด้วย เราไม่ได้ดูแค่เนื้อหา ต้องดูเทรนด์ตลาดแฟชั่นด้วย พีชโทรไปสั่งให้ใครเอามาให้ทีสิ” มอร์กานออกคำสั่ง ก่อนนึกขึ้นได้ “เรียกมารีมาเลย จะได้แก้จบๆ”

“ค่ะ” เพลิงฟ้าโทรไปหามารีแล้วบอกสิ่งที่มอร์กานต้องการ ก่อนปล่อยให้เลอาวงตามคำสั่งของมอร์กานที่ใช้มือไม่ถนัด

เลอาหงุดหงิดเล็กน้อยที่แม่เอาแต่คุยกับเพลิงฟ้าเป็นเชิงปรึกษา กับเธอพูดเหมือนเด็กฝึกงาน ทั้งที่ปกติ แม่จะเอาใจเธอมากเป็นพิเศษ ทำให้เริ่มไม่ชอบใจเพลิงฟ้ามากขึ้น

โบแวกลับมาพร้อมกาแฟหลายถ้วย แล้วยื่นให้ทุกคน ทั้งยังยื่นให้เพลิงฟ้า “กาแฟดำเข้มเหมือนของฉัน”

“ขอบคุณค่ะ” เพลิงฟ้าขอบคุณแล้วโดนมอร์กานเรียกมาดูงานต่อ

เลอาขมวดคิ้วอิจฉาที่โบแวรู้ว่าเพลิงฟ้าชอบดื่มกาแฟแบบไหน แสดงว่าเพลิงฟ้าพิเศษพอๆ กับอันนา คนรักเก่าของน้องชาย จึงถามน้องชาย “แล้วของพี่ล่ะ”

“กาแฟลาเต้เพิ่มวิปครีม เป็นนางแบบเก่าไม่รู้ว่ากินแต่ของหวานๆ มันๆ ได้ยังไง” โบแวพูดแซวพี่สาว

เลอาก็งอนน้องชาย นึกว่าน้องชายพูดหาเรื่อง “ก็มีวิธีไม่ให้อ้วนแล้วกัน”

มอร์กานถอนหายใจอยากดื่มแต่หมอน่าจะห้าม จึงบอกให้เวอจินี่เปิดฝาแล้วเอามาให้ดม “คิดถึงกาแฟนะ”

เวอจินี่หัวเราะ เธอก็ได้กาแฟเช่นกัน จึงทำตามที่เพื่อนต้องการ “เธอนี่เหมือนเดิมทุกอย่าง ทำงานเหมือนไม่ได้ป่วย”

“ก็นะ สามวันงานมันต้องแก้แล้วส่งโรงพิมพ์ ไม่ใช่มาคาอยู่ตรงนี้ ทีหน้าทีหลังจะเกิดอุบัติเหตุต้องคิดให้ดีแล้ว” มอร์กานพูดให้ทุกคนหัวเราะ

“แล้วเขาจะเรียกอุบัติเหตุเหรอไง” ฌากเห็นแล้วมั่นไส้ ก่อนนั่งคุยงานกับลูก เสียงค่อยๆ

ไม่นานห้องก็มีมารีมาถึง ฌากกับโบแวก็หยุดคุยงานแล้วอ่านหนังสือที่เอามาด้วยแทน โบแวร่างภาพแล้วฌากก็มองๆ จึงขอกระดาษมาทำงานด้วย พูดคุยเปรียบเทียบ สองพ่อลูกก็พูดแบบแข่งกันอีก ทำให้มอร์กานต้องเงยหน้าแล้วห้าม แล้วสองพ่อลูกก็คุยกันดี และยอมฟังคำติของอีกฝ่ายแทน

ห้องคนป่วยจึงกลายเป็นห้องทำงานไปโดยปริยาย เพราะคนป่วยไม่ยอมหลับง่ายๆ จนกว่างานจะเข้าที่

**************************

หญิงสาวผมแดงขมวดคิ้วเข้าหากัน หลังจากได้ทำงานร่วมกับแม่วันนั้น เธอก็เข้ามาทำงานแทนแม่ และพยายามพิสูจน์ตัวเองว่าไม่ใช่แค่คนเดินสารให้แม่เท่านั้น จึงเรียกเจนน่าผู้ช่วยคนหนึ่งของแม่เข้ามา

“มีอะไรเหรอคะ คุณเลอา” เจนน่าขมวดคิ้วสงสัย

นานๆ ครั้งมอร์กานถึงจะเรียกใครเข้ามา แต่ก็จะเรียกเข้ามาเรื่องงานเท่านั้น มีพักหลังที่เรียกเพลิงฟ้าเข้ามาหาบ่อย จนเธอผิดสังเกต ไปถามเพื่อนฝ่ายบุคคล เห็นว่าเพลิงฟ้าลางานบ่อยมาก ทำให้ไม่ชอบขี้หน้า เพราะมีอคติเป็นทุนที่โบแวมักไปนั่งที่โต๊ะเพลิงฟ้าอยู่บ่อยๆ และกลับด้วยกันบ้างเป็นครั้งคราว ในออฟฟิศก็ลือกันหนาหู เรื่องที่โบแวควงเพลิงฟ้าเพื่ออะไรสักอย่าง แต่เมื่อเทียบกับนางแบบสาวพีโอนี่ แล้วก็ไม่น่าจะมาเลือกเพลิงฟ้าเลย ทำให้สงสัยมากเป็นพิเศษ

“รู้จักพีช คนไทยที่อยู่ฝ่ายกราฟฟิคไหม” เลอาถามเพราะอยากรู้ความเคลื่อนไหวของเพลิงฟ้าในที่ทำงาน

เลอาดูเหมือนจะถามผิดคน เพราะถามคนที่ไม่ชอบเพลิงฟ้า พักหลังเจนน่าสุมหัวกับเจเนวีฟเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูล จนรู้สึกว่าเพลิงฟ้าเป็นศัตรูคนต่อไปของพวกเธอ

“มีอะไรเหรอคะ คุณเลอา พีชคนนี้ไปก่อเรื่องอะไรอีกเหรอคะ” เจนน่าเป็นฝ่ายถามแทน แต่ก็เกริ่นเหมือนเพลิงฟ้าชอบก่อเรื่องในสำนักงาน

“ทำไมถึงคิดว่าคนคนนี้จะก่อเรื่องล่ะ” เลอาถามกลับอย่างสงสัย

“แม่นี่น่ะ ตั้งแต่รู้จักกับคุณโบแวก็ทำตัวเป็นคนใหญ่คนโตค่ะ ครั้งก่อนตบเพื่อนร่วมงานกลางที่ประชุม เพราะไม่เปิดรับข้อโต้แย้งของฝ่ายบรรณาธิการ จะจัดอาร์ตตามใจ ทั้งที่ปกติแล้วฝ่ายบรรณาธิการต้องเป็นผู้กำหนดรูปแบบถึงจะถูก ตัวเองมีหน้าที่สนับสนุนฝ่ายบรรณาธิการชัดๆ” เจนน่าได้ทีก็ใส่ไฟเต็มพิกัด

“มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ มอร์กานรู้ไหม” เลอาต้องการสืบเรื่องให้ละเอียด

“ใครจะกล้าพูดล่ะค่ะ ยิ่งมอร์กานให้ท้าย ก็ยิ่งเหลิงใหญ่ สงสัยรอเวลานี้มานานค่ะ” เจนน่าจัดเต็ม เพราะหงุดหงิดมานานแล้ว แต่หาทางเล่นงานเพลิงฟ้าไม่ได้สักที

“แม่เนี่ยนะให้ท้าย แม่ฉันไม่เคยให้ท้ายใครนอกจากลูกหรอกย่ะ” เลอาพูดอย่างมั่นใจ

“อย่าว่านินทามอร์กานเลยนะคะ พักหลังมอร์กานเอ็นดูพีชมากค่ะ จึงไม่เห็นข้อเสียของหล่อน ตอนนี้หล่อนนึกอยากหยุดก็หยุด ถึงปกติจะไม่ค่อยมีการบังคับให้ฝ่ายกราฟฟิคมาทำงานทุกวัน แต่ยังไงงานก็ต้องเสร็จ นี่อะไร อิดออดไม่ค่อยยอมมารับงาน หัวหน้าฝ่ายกราฟฟิคก็รักเอ็นดูจนผิดปกติค่ะ” เจนน่าเอาข้อสงสัยของตัวเองมาใส่หัวเลอาเสียหมด

อคติที่มีอยู่แล้วก็ยิ่งมากกว่าเดิม...

“เธอมีอะไรไปทำก็ไปทำเถอะ” เลอาโบกมือไล่ แล้วถอนหายใจยาว

เจนน่าใส่ไฟพอแล้วก็ถอยออกมา ตั้งใจว่าจะใส่ไฟวันละนิด แล้วเดี๋ยวจะโทรบอกเจเนวีฟถึงแผนการครั้งนี้ คาดว่าเจเนวีฟที่อยากเอาคืนเพลิงฟ้าอยู่แล้วคงพอใจ

สักพักมีคนบอกว่าแอนน์มาหา เธอก็รีบให้เข้ามา เพราะสนิทคุ้นเคยกันดีอยู่ เสียอย่างเดียวครั้งก่อนแอนน์ต้องดูแลแม่เธอจึงไม่ได้มาเป็นเพื่อนเจ้าสาว

แอนน์เข้ามาทักทายอย่างสนิทสนม ก่อนเอาของมาให้ “ยินดีที่มาทำงานวันแรกนะจ๊ะ”

“เธอมาก็ดีแล้วแอนน์ ฉันล่ะกำลังหาเพื่อนคุย ไม่เห็นมีงานอะไรเยอะแยะ แม่ฉันทำอะไรมากมายที่นี่ก็ไม่รู้” เลอาได้เพื่อนคุยก็ดีใจ

“มอร์กานก็ทำทุกอย่างแหละ ตรวจสอบบัญชีด้วย งานละเอียดนะ มอร์กานคอยดูงบดุลน่ะ แล้วก็ไปประชุมฝ่ายบรรณาธิการเพื่อหาข้อสรุป ดีที่คุยไปล่วงหน้าแล้ว ก็มีการปรับแก้ให้ทันสมัยบ้างแต่ก็จะมีแผนล่วงหน้า เพราะงั้นเธอน่าจะทำงานง่ายเข้า” แอนน์อธิบายแล้วยิ้มให้เพื่อน

“เธอรู้จักพีชไหม” เลอาก็ถามอีกรอบ

“รู้จักสิ ทำไมเหรอ พีชนิสัยดีนะ ทำงานเรียบร้อย แล้วก็ไม่ทำอะไรโดยพลการ ถ้าเห็นสิ่งผิดพลาด จะเอางานไปคุยกับหัวหน้าเขาก่อน ไม่ข้ามหน้าข้ามตาจ๊ะ” แอนน์กลับพูดคนละอย่างกับเจนน่า

“ฉันว่าไม่ขนาดนั้นหรอกมั้ง” เลอาแย้งเพราะอคติที่มีอยู่

“มีอะไรเหรอ” แอนน์งุนงงอยู่มาก ไม่เข้าใจว่าทำไมเลอาถึงสนใจพีช

“คือเขากับโบแวน่ะ มีอะไรหรือเปล่านะ” เลอาถามแบบปรึกษาเพื่อน

“ไม่รู้สิ แต่โบแวเขาควงอีกคนออกงานไม่ใช่เหรอ คิดว่าคงไม่จริงจังหรอกมั้ง” แอนน์นึกสนใจโบแวบ้าง ยังไงโบแวก็ถือว่ามีภาษีดี แต่ก็แอบเสียดายนีกอลา เพราะนีกอลาก็เป็นคนหนุ่มหน้าตาดีเวลาคุยด้วยก็สนุก

“ก็ใช่ แต่นางแบบก็คือนางแบบ หาที่จะจริงใจกับดีไซเนอร์อย่างโบแวยากนะ เข้ามาก็หวังผลประโยชน์ทั้งนั้น” เลอาบอกตามตรง

เธอก็อยู่วงการนี้รู้ดีมาก ที่ไม่มีใครกล้าทำอะไรเธอ เพราะพ่อแม่และน้องชายต่างก็เป็นผู้ทรงอิทธิพลในวงการ ดังนั้นเธอจึงเลือกเพื่อนอยู่มาก แต่ก็พยายามพิสูจน์ตนเองว่าไม่ได้อยู่ในวงการด้วยเส้นอย่างเดียวเท่านั้น

“เธอว่าโบแวเขาจะจริงจังกับผู้หญิงบ้างไหม หมายถึงจริงจังถึงขั้นแต่งงานน่ะ” แอนน์ถามเพราะไม่ค่อยวางใจนัก

“นี่เธอสนใจโบแวเหรอ” เลอาถามอย่างสงสัย เห็นหน้าตายุ่งยากใจของแอนน์ก็หัวเราะ “เอาจริงเหรอ ตั้งนานทำไมเพิ่งมาคิด”

“ก็ไม่ใช่อะไร เห็นเธอกังวลเลยสงสัย” แอนน์ก็ตอบอ้อมๆ

“ชอบโบแวเหรอ ทำไมล่ะ ชอบหนุ่มร้ายๆ เหรอ” เลอาไม่ยอมเปลี่ยนเรื่อง

“เปล่านะ ใครจะไปชอบผู้ชายร้ายๆ ล่ะ ไม่พูดแล้ว ไปทำงานดีกว่า เดี๋ยวมารีว่าเอา ไปก่อนนะ” แอนน์ลุกออกไป

“ถ้าเธอจริงใจกับโบแวจริงๆ ฉันจะช่วยนะ” เลอาอยากให้น้องชายได้กับผู้หญิงดีๆ อย่างแอนน์มากกว่าเพลิงฟ้าหรือพีโอนี่ ยิ่งตอนนี้น้องชายทำท่าจะจริงจังไม่กับคนใดก็คนหนึ่ง เธอยิ่งนึกเสียดาย

“พูดอะไรแบบนั้น โบแวบังคับได้ก็แปลกแล้ว” แอนน์บอกตามตรง ท่าทางที่โบแวแสดงความห่วงใยเพลิงฟ้าก็พอเดาได้ว่าเข้าถึงยากแล้ว ก่อนตัดบท “ไปก่อนนะจ๊ะ เดี๋ยวไว้ค่อยคุยกันใหม่”

เลอาก็โบกมือลาเพื่อนแล้วก็ครุ่นคิด เธอก็มีเพื่อนดีๆ น่ารักๆ หลายคน แนะนำให้น้องชายรู้จักบ้างจะเป็นไร แอนน์ก็นิสัยดี เป็นคนซื่อสัตย์ ทำงานขยัน

**************************
konhin : ทำไวแรงพอควรค่ะ ^^ ค่อยๆ เผยนะคะ



เพลิงวารี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 15 ส.ค. 2561, 21:49:42 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 15 ส.ค. 2561, 21:50:24 น.

จำนวนการเข้าชม : 797





<< Designer's desire By คชสีห์ 08-09   Designer's desire By คชสีห์ 11 >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account