กาลครั้งหนึ่งนั้น(ในความบังเอิญ)
เธอกับเขา ความทรงจำที่เคยมีร่วมกันมาก็แค่... อดีตกิ๊ก!
Tags: แต่งงาน,อดีต,รัก,บุพเพสันนิวาส,พรหมลิขิต

ตอน: ๑๙ คลางแคลง (255%)

“มาสมน้ำหน้า”

จิรสินคิดว่าฟังผิด “ว่าอะไรนะ”

“ตี๊ถามว่าขาเตียงคุณยังดีอยู่เหรอ”

ชายหนุ่มผ่อนลมหายใจ “คุณจะเกลียดผมอะไรหนักหนาตี๊ เรื่องระหว่างเรามันจบมานานแล้วนะ ใจคอคุณจะไม่ทำเรื่องอะไรที่มันดีกว่านี้เลยเหรอ”

หญิงสาวเบ้ปาก “ฉันอยากได้แบบบ้านแบบใหม่” พูดแล้วก็เปิดกระเป๋าหยิบซองสีน้ำตาลขนาดครึ่งเอสี่ออกมา “ตามนี้นะ ขอดูสักวันพุธ” ครั้นจิรสินจะพูดเธอก็รีบขัด “ของป๋าคุณพล”

ชายหนุ่มกลืนคำปฏิเสธลงคอ เพราะป๋าที่ว่าคือคนที่เคยมีบุญคุณกับเขา จะปฏิเสธก็ใช่ที่

“ป๋าจะให้ตี๊กับพลเป็นของขวัญวันแต่งงานน่ะ ด่วนนะ”

“ก็ได้” จิรสินผ่อนลมหายใจและหยิบซองจะมาเปิดดู

“ว่าแต่คุณยังไม่มีลูกอีกเหรอสิน แต่งงานมาตั้งนาน”

“ใช่ ก็เหมือนที่คุณว่าจะแต่ง จะแต่งแต่ยังไม่แต่งสักทีนั่นละตี๊”

ตีรณาหัวเราะหึ ท่าทางไม่แยแส “เคยถามเมียคุณไหมว่าทำไมไม่ยอมมีลูกกับคุณสักที บางทีนะเมียคุณอาจจะรอใครก็ได้จริงไหม”

“นี่คงเป็นเรื่องยุแยงประจำวันสินะ”

“ฉันก็คงยุแยงหรอกถ้าจะไม่เห็นแฟนเก่ากับเมียคุณมาด้วยกัน”

จิรสินถอนหายใจพลางส่ายหน้า

“คุณควรกะ--”

“วันก่อนฉันเจอที่คลินิกเพื่อนฉัน ดูสนิทสนมกันดีจังนะ”

ตีรณาลุกขึ้นยืนยืดตัวตรง “อ้อ เกือบลืม แล้วที่คุณไม่มีลูกสักทีน่ะเคยคิดไหมว่าทำไม แต่ฉันรู้นะแล้วก็จะบอกให้เอาบุญ เห็นเมียคุณขนซื้อยาคุมไปขนาดนั้นฉันว่า หล่อนคงไม่อยากมีลูกกับคุณมากกว่า!”

หล่อนยักไหล่และยิ้มหยัน

“บาย”

จากนั้นนางแบบสาวก็เดินเชิดหน้าออกจากห้องไป จังหวะเดียวกันจิรสุตาก็เดินนำแม่บ้านถือถาดใส่แก้วกาแฟเข้ามา พอสวนกันเธอก็หน้าเหวอก่อนถือแก้วกาแฟแล้วเข้าไปนั่งลงตรงหน้าจิรสิน

“ยายนั่นมาทำไมน่ะพี่สิน”

จิรสินหน้านิ่วท่าทางไม่สบอารมณ์แต่ก็ยังคุมตัวเองไว้ได้

“มาเรื่องงาน คุณพงษ์พันธ์นายเก่าพี่อยากให้พี่ซ่อมบ้านเก่าให้”

“แล้วยังไง นางเป็นสะใภ้เต็มตัวแล้วเหรอถึงได้เที่ยวเดินสารให้พ่อผัวได้ตลอดแบบนี้”

พี่ชายโคลงศีรษะ “คงจงใจมาป่วนประสาทพี่กับพิมพ์น่ะ”

จิรสุตาเออออ “แต่เพราะพิมพ์ไม่อยู่นางเลยไม่มีใครให้ป่วนถึงได้กลับไปไวปานนั้น โฮะยายนี่ป่วยปะเนี่ย คนอะไร้”

คำบ่นของจิรสุตาไม่เข้าหู วันนี้ศศิพิมพ์หยุดงานหนึ่งวันเพราะต้องไปช่วยศศินิภาเคลียร์งานที่รับมาให้ทันเวลาส่ง เป็นงานสำคัญและเห็นว่าถ้าไม่ทันอาจจะต้องโดนปรับเป็นแสนบาทสำหรับความล่าช้า

จิรสินยกมือขึ้นกุมขมับและถอนหายใจยาว

‘ยาคุม’ คำนี้ติดอยู่ในใจเขา ที่เรายังไม่มีลูกกัน ที่ศศิพิมพ์ต้องป้องกันแบบนี้ มันแสดงได้ไหมว่าเธอยังไม่ไว้ใจเขา ว่าเธอไม่ต้องการที่จะมีลูกของเรา

ค่ำนั้นจิรสินกลับบ้านและพบว่าศศิพิมพ์ยังกลับมาไม่ถึง เธอโทรศัพท์บอกเขาแค่เพียงสั้นๆ ว่าคงกลับดึก และเขาก็ได้ยินแว่วๆ ถึงเสียงของณวัฒน์

ชายหนุ่มยกมือขึ้นลูบหน้า หลังนั่งเฝ้าฟองน้ำที่กำลังจัดการกับข้าวเย็น คำพูดของตีรณายังก้องอยู่ในหัวและมันผลักดันให้เขาพิสูจน์

ร่างสูงใหญ่ก้าวขึ้นบันไดไปยังชั้นบนอีกครั้ง

โต๊ะเครื่องแป้งคือเป้าหมาย เขาเข้าไปหยุดและเลื่อนเปิดลิ้นชัก ของในลิ้นชักมีไม่มาก แต่ชิ้นหนึ่งที่เห็นชัดคือแผงยาสีชมพู

จิรสินหัวตื้อไปพักใหญ่กว่าจะหยิบขึ้นมาดู

แผงยาถูกแกะกินไปแล้ว และถุงใบใหญ่สกรีนชื่อคลีนิกในนั้นเมื่อเปิดออกดูก็พบกับแผงยาคุมยี่ห้อเดียวกันไม่ต่ำกว่าสิบแผง

หากเป็นแผนของตีรณา เขาก็ไม่เห็นว่าจะมีใครเข้ามายัดแผงยาพวกนี้ที่บ้านของเราได้ นอกจากคนในบ้านจะถือมันเข้ามาเอง ชายหนุ่มทั้งอยากหัวเราะและร้องไห้ไปในคราวเดียวกัน

ความเข้าใจมันคืออะไรกันแน่ ตอนนี้เขาไม่รู้เลยจริงๆ

สรุปคืนนั้นศศิพิมพ์ไม่ได้กลับบ้านแต่ค้างที่บ้านพี่สาวของเธอ เธอกลับมาในเช้าวันรุ่งขึ้น และสิ่งที่เห็นคือสามีนอนอยู่ที่โซฟาด้านล่าง ท่าทางจิรสินไม่ค่อยดีนัก ผมเผ้ายุ่งเหยิงและมีกลิ่นเหล้าคลุ้ง ส่วนหลักฐานวางอยู่บนโต๊ะ

ขวดเหล้าว่างเปล่าล้มกลิ้ง กับแก้วที่ตกอยู่ที่พื้น

หญิงสาวเข้าไปทรุดลงนั่งที่ปลายเท้าของสามี นึกแปลกใจเพราะร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นเขาแตะเหล้าสักนิด นอกจากจะไปสังสรรค์

เขามีปัญหาอะไรในใจหรือ

นัยน์ตาศศิพิมพ์หม่นลง เขาเครียดเรื่องอะไรกัน

หากเป็นเรื่องงานเธอก็ไม่เห็นว่าจะมีอะไรให้เครียดจนต้องพึ่งเหล้า แล้วถ้าเรื่องส่วนตัว...

หญิงสาวสะบัดศีรษะบอกตัวเองอย่าคิดมาก

เธอกำลังจะเอื้อมมือไปปลุกแต่จิรสินก็รู้สึกตัวเสียก่อน เขามองเธออยู่แล้วและนัยน์ตาแดงก่ำ

“กลับมาแล้วเหรอคะ” เสียงเอ่ยถามแหบแห้งเพราะเมาค้าง และศศิพิมพ์ก็ยิ้มบางส่งให้ เธอลุกขึ้นยืนเมื่อเขาตั้งท่าจะลุกขึ้นนั่ง ชายหนุ่มชะงักและหลับตาลงพร้อมถอนหายใจเฮือกใหญ่ ครั้นลืมตาเขาก็ยกมือขึ้นนวดที่ต้นคอ

เธอทำราวกับไม่อยากอยู่ใกล้

อารมณ์หึงหวงรวมผิดหวังเล่นงานจนจิรสินกลัวควบคุมตัวเองไม่ได้ เขาเหลียวมองภรรยาแค่นิดเดียวจากนั้นก็ลุกขึ้นยืน

“พิมพ์จะใช้ห้องน้ำตอนนี้ไหม”

คำตอบคือเธอส่ายหน้า

“งั้นพี่ใช้ก่อนนะ” พูดจบเขาก็เดินกลับขึ้นชั้นบนไป ศศิพิมพ์มองตาม เสียดในใจเสียจนต้องนั่งลงอีกครั้ง

ท่าทางเขาเย็นชาเสียจนเธอเจ็บ เจ็บเหมือนถูกเข็มทิ่มเข้าที่หัวใจ




สายวันอาทิตย์สุพนิตโทรศัพท์หาศศิพิมพ์และชวนมารับประทานอาหารเย็นที่บ้าน สองสามีภรรยาที่แทบจะนับคำพูดกันได้จึงต้องหันหน้าเข้าหากัน แต่ก็ดูจะไม่มีประโยชน์อะไร เราไม่พูดถึงเรื่องนั้นกันอีกก็จริง แต่ใจก็ยังคิดวกไปวนมาไม่วาย
ทุกอย่างยังดำเนินไปเหมือนปกติ แต่ในความปกตินั้นมีความผิดปกติซ่อนตัวอยู่
ครั้นถึงบ้าน จิรสินก็ผละไปหาลูกสาวของปุณณมาในทันที ทิ้งให้ศศิพิมพ์ที่ไม่ได้ตามไปได้แต่มอง เห็นดังนั้นแล้วเธอจึงพาตัวเองไปอยู่กับสุพนิตแล้วก็จิรสุตา
อารมณ์น้อยใจเล่นงานจนน้ำตาแทบซึม ปกติศศิพิมพ์ไม่เคยเป็นเช่นนี้ แต่พักนี้แค่เรื่องเล็กนิดเดียวกลับกระทบใจเธอเสียมากมาย
จากในครัวมองออกไปที่โถงกลาง ซึ่งตอนนี้บ้านหลังใหญ่กลายเป็นเนอร์สเซอรี่ย่อมๆ แม้ไม่ใช่หลานแท้แต่เพราะเอ็นดูที่นานๆ จะมีเด็กในบ้าน สุพนิตกับจิรศักดิ์เลยค่อนข้างเห่อ ข้าวของเครื่องใช้เด็ก ของเล่น แม้แต่สภาพห้องยังจัดให้เหมาะกับเด็ก
ยายหนูตัวน้อยเริ่มจะคลานได้แล้ว ตอนนี้จิรสินกำลังปรบมือเรียกให้เด็กหญิงคลานเข้าไปหา ปุณณมาคอยดูแลลูกอยู่ใกล้ๆ กัน แม้จิรศักดิ์จะอยู่ด้วย แต่ยิ่งมองศศิพิมพ์ก็ยิ่งปวดใจ
ทั้งสองคนดูเหมือนพ่อแม่มือใหม่จริงๆ
“พิมพ์จ๊ะ หนูพิมพ์”
คำเรียกลอยเลย ศศิพิมพ์ดูมีสมาธิมากกับการปอกหอมใหญ่ถ้าหากว่ามือจะไม่หยุดนิ่ง สุพนิตมองสบตากับหลานสาวและลอบถอนหายใจ ท่าทีอย่างนี้ไม่ต้องเดาให้ยากก็พอรู้ว่าสองสามีภรรยามีปัญหากัน
“พิมพ์”
ฝ่ามือที่แตะหน้าผากทำเอาศศิพิมพ์สะดุ้ง จิรสุตาร้องอุ้ยเพราะเสียวว่ามีดจะบาดมือเพื่อนสนิท
“เป็นอะไรลูกดูใจลอย”
สุพนิตเอ่ยถามและจิรสุตาก็พลอยบ่น “มีดเกือบบาดมือแน่ะ”
ศศิพิมพ์ยิ้มแห้ง “เอ่อคิดเรื่องงานนิดหน่อยค่ะ เพลินๆ ก็เลยเผลอไป”
“ผมหงอกขึ้นจะเต็มหัวแล้วน่ะ”
ผู้เป็นเพื่อนเหน็บ ศศิพิมพ์จึงได้แต่หัวเราะแหะๆ
“ว่าแต่ตัวรุมๆ ไม่สบายหรือเปล่า” คำถามนี้จากแม่สามี
“ไม่น่าใช่ค่ะคุณแม่ ปกติพิมพ์ก็ตัวจะร้อนมากหน่อย”
ปฏิเสธไปอย่างนั้นเอง มันก็จริงว่าเธอไม่ค่อยสบายตัวเท่าไหร่ แต่ก็คงเป็นเพราะนอนน้อยติดๆ กันเลยออกจะเพลียๆ
“ป้าคะไม่ใช่มีข่าวดีเหรอ จับไปตรวจอีกทีดีไหมคะ”
คำเย้าทำให้จิรสุตาถูกป้าของตัวหยิก
“อย่ามาแซะป้านะ คราวก่อนหน้าแตกกันยังอายไม่หาย”
ทั้งศศิพิมพ์ ทั้งจิรสุตาหลุดหัวเราะออกมา เพราะเมื่อเดือนก่อนประจำเดือนศศิพิมพ์เลทไปหลายวัน พอจิรสุตารู้ก็สปอยล์กับป้ากับลุงเสียจนอีกฝ่ายขนซื้อที่ตรวจครรภ์มาให้เป็นสิบ แต่พอถึงบ้าน เจ้าตัวที่หน้าซีดหน้าเซียวกำลังยื่นมือไปรับกระเป๋าน้ำร้อนจากสามีมาอังท้อง
ผลคือ... ประจำเดือนมันมาหลังกำหนดเดิมในวันที่สิบ




ดังปัณณ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 15 ส.ค. 2561, 22:29:03 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 15 ส.ค. 2561, 22:29:03 น.

จำนวนการเข้าชม : 747





<< ๑๙ คลางแคลง (200%)   ๑๙ คลางแคลง -จบตอน- >>
กาซะลองพลัดถิ่น 16 ส.ค. 2561, 03:20:21 น.
ดราม่า...มาแล้ว...


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account