รักรออุ้ม: ทักษิณา (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
ความคึกคะนอง ย่ามใจของเขา กับความอ่อนด้อยประสบการณ์ของเธอ ก่อเกิดหนึ่งชีวิตที่ไม่ตั้งใจขึ้นมา
‘น้องปั้น’ หรือ เด็กชายปกกานต์ หนูน้อยไร้เดียงสาเปรียบดั่งแสงสว่างสาดเข้ามาในชีวิตที่มืดมนของ ‘ปกเกศ’ เธอตั้งใจจะปกป้องลูกน้อยจากทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่เว้นแม้แต่...บิดาแท้ๆ ของแก ซึ่งไม่เคยดีพอในสายตาของเธอด้วยเช่นกัน
‘กานต์ชนก’ ชายหนุ่มทายาทนักธุรกิจคนดัง รูปหล่อพ่อรวยครบสูตรหนุ่มในฝัน แต่นิสัยและพฤติกรรมนั้นค่อนไปในทางฝันร้าย
เขาไม่เคยคิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อใคร จนมาพบกับปกเกศ ผู้หญิงสวยธรรมดาๆ ที่เขาไม่เคยคิดอะไรมากไปกว่า ‘เล่นแล้วทิ้ง’
ทว่าการเล่นกลับเลยเถิด...ก่อเกิดหนูน้อยน่ารัก ที่เหมือนเขาราวกับแกะ เพียงแค่แรกเห็นก็นึกอยากอุ้ม
...แต่ทุกอย่างไม่ใช่เรื่องง่ายเสียแล้ว...
อีกบทพิสูจน์หัวใจ ความรัก และคำว่า ‘ครอบครัว’
แม้เกิดจากความไม่ตั้งใจ แต่ ‘น้องปั้น’ คือดวงใจของแม่ และที่ไม่มีใครรู้เลยก็คือ...เด็กน้อยเป็นแก้วตาของพ่อด้วยเช่นกัน
***************
นิยายเรื่องนี้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ซึ่งถ่ายทอดผ่านปลายปากกา "ทักษิณา" เจ้าของบทประพันธ์นิยายรักสุดแสนน่ารักมากมาย ที่เคยถูกสร้างเป็นละคร ทั้งทางช่อง 3 และช่อง 7 มาแล้วอย่าง #บ่วงอธิฏฐาน #เรือนล้อมรัก กลับมาครั้งนี้ ‘ทักษิณา’ ขอเอาใจแฟนๆ ด้วยนิยายรักโรแมนติกดราม่าที่ #มีลูกเป็นสื่อรัก ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ ใครสายนี้รับรองว่าต้องโดนใจกับความน่ารักน่าหยิกของ ‘น้องปั้น’ ใน ‘รักรออุ้ม’ อย่างแน่นอนจ้า พ่วงด้วยความร้ายกาจ เอาแต่ใจ และความเจ้าเล่ห์ของว่าที่คุณพ่อมือใหม่อย่าง ‘กานต์ชนก’ ! พูดเลยทั้งฟิน+ดราม่า ตะเตือนไต #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 3 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านนิยายออนไลน์ ได้แก่ ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbooktogothailand และร้านขายการ์ตูนบงกช-หมึกจีน-นิยาย บาร์บี้บิวตี้
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
**หนังสือพร้อมส่ง**
คุ้มสุดด้วยจำนวน 521 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ 4 ตอนท้ายเล่มหวานฟินเต็มอิ่มจุใจ!)
ราคา: 365฿ (จากปก 395฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 410฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 435฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
‘น้องปั้น’ หรือ เด็กชายปกกานต์ หนูน้อยไร้เดียงสาเปรียบดั่งแสงสว่างสาดเข้ามาในชีวิตที่มืดมนของ ‘ปกเกศ’ เธอตั้งใจจะปกป้องลูกน้อยจากทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่เว้นแม้แต่...บิดาแท้ๆ ของแก ซึ่งไม่เคยดีพอในสายตาของเธอด้วยเช่นกัน
‘กานต์ชนก’ ชายหนุ่มทายาทนักธุรกิจคนดัง รูปหล่อพ่อรวยครบสูตรหนุ่มในฝัน แต่นิสัยและพฤติกรรมนั้นค่อนไปในทางฝันร้าย
เขาไม่เคยคิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อใคร จนมาพบกับปกเกศ ผู้หญิงสวยธรรมดาๆ ที่เขาไม่เคยคิดอะไรมากไปกว่า ‘เล่นแล้วทิ้ง’
ทว่าการเล่นกลับเลยเถิด...ก่อเกิดหนูน้อยน่ารัก ที่เหมือนเขาราวกับแกะ เพียงแค่แรกเห็นก็นึกอยากอุ้ม
...แต่ทุกอย่างไม่ใช่เรื่องง่ายเสียแล้ว...
อีกบทพิสูจน์หัวใจ ความรัก และคำว่า ‘ครอบครัว’
แม้เกิดจากความไม่ตั้งใจ แต่ ‘น้องปั้น’ คือดวงใจของแม่ และที่ไม่มีใครรู้เลยก็คือ...เด็กน้อยเป็นแก้วตาของพ่อด้วยเช่นกัน
***************
นิยายเรื่องนี้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ซึ่งถ่ายทอดผ่านปลายปากกา "ทักษิณา" เจ้าของบทประพันธ์นิยายรักสุดแสนน่ารักมากมาย ที่เคยถูกสร้างเป็นละคร ทั้งทางช่อง 3 และช่อง 7 มาแล้วอย่าง #บ่วงอธิฏฐาน #เรือนล้อมรัก กลับมาครั้งนี้ ‘ทักษิณา’ ขอเอาใจแฟนๆ ด้วยนิยายรักโรแมนติกดราม่าที่ #มีลูกเป็นสื่อรัก ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ ใครสายนี้รับรองว่าต้องโดนใจกับความน่ารักน่าหยิกของ ‘น้องปั้น’ ใน ‘รักรออุ้ม’ อย่างแน่นอนจ้า พ่วงด้วยความร้ายกาจ เอาแต่ใจ และความเจ้าเล่ห์ของว่าที่คุณพ่อมือใหม่อย่าง ‘กานต์ชนก’ ! พูดเลยทั้งฟิน+ดราม่า ตะเตือนไต #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 3 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านนิยายออนไลน์ ได้แก่ ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbooktogothailand และร้านขายการ์ตูนบงกช-หมึกจีน-นิยาย บาร์บี้บิวตี้
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
**หนังสือพร้อมส่ง**
คุ้มสุดด้วยจำนวน 521 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ 4 ตอนท้ายเล่มหวานฟินเต็มอิ่มจุใจ!)
ราคา: 365฿ (จากปก 395฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 410฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 435฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
Tags: ลูก ครอบครัว ดราม่า โรแมนติก ท้อง
ตอน: บทที่ 6 -100%
ปกเกศออกจากบ้านมาในสภาพเสื้อยืดแขนสั้นสีขาว กางเกงผ้ายืดขาสั้นสีฟ้ากับรองเท้าแตะหูคีบราคาถูก ใบหน้าหวานใสเกลี้ยงเกลาไม่มีกระทั่งแป้งฝุ่น พอวางสายจากเขา เธอก็รีบวิ่งออกจากบ้านมา ไม่สนใจว่าสภาพหน้ามันแผล็บของตัวเอง จะสร้างความขุ่นใจให้คนที่รออยู่มากมายเพียงใด
เธอไม่ได้ให้เกียรติเขาบ้างเลย...
กานต์ชนกผู้เคยแต่ได้รับความเอาใจใส่ ได้พบเห็นแต่สาวสวยเครื่องสำอางจัดเต็มแน่นทุกอณู รู้สึกหงุดหงิดเมื่อต้องมาเห็นสาวหน้าหวานแต่มันแผล็บ ผมยาวชี้ฟูดูกระเซอะกระเซิง แถมเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายก็ยัง ‘บ้าน’ สุดๆ เขาแทบไม่อยากเชื่อว่านี่จะเป็นคนเดียวกับสาวสวยพราวเสน่ห์ในค่ำคืนนั้น...อย่างกับคนละคน!
“จะมองอีกนานไหมคุณ มีอะไรก็พูดมาสิ ฉันจะได้รีบกลับ มีธุระต้องทำอีกเยอะ”
ไม่ใช่แค่สภาพที่เต็มทน แต่เสียงของเธอก็ยังห้วน ไม่มีความอ่อนหวานอ่อนน้อมแต่อย่างใดอีกด้วย
เธอทำให้เขาหงุดหงิด เผลอแยกเขี้ยวใส่อย่างลืมตัว
“ไปคุยกันในรถแล้วกัน มานี่” ชายหนุ่มดึงมือ พาเธอเดินไปที่รถสปอร์ตหรูของเขา ซึ่งจอดเอาไว้ในลานจอดรถของผับ ไม่ไกลกันนัก จัดแจงจับยัดร่างเล็กเข้าไปทางตอนหลังของรถ โดยมีร่างสูงใหญ่ของเขาตามเข้าไปติดๆ แล้วปิดประตูตามมาเสียงดังสนั่น
ปกเกศรู้สึกไม่ต่างกับว่าถูกขังอยู่ในห้องแคบๆ แล้วอีกฝ่ายก็อยู่ใกล้ชิดมากเกินไป หัวใจเธอเต้นแรงด้วยความอึดอัดคับข้องและยังหวาดผวาอยู่ไม่หาย แต่ต้องพยายามบอกตัวเองให้เข้มแข็งเข้าไว้ เธอจะไม่ยอมให้เขาได้ใจข่มเหงเธอยังไงก็ได้อีกต่อไปแล้ว!
“เธอลาออกจากงานทำไม ต้องการหลบหน้าฉันเหรอ”
คำถามแรกของเขา ก็ทำให้อีกฝ่ายกวาดตามองชายหนุ่มอย่างหมั่นไส้ แม้ปากเธอจะไม่พูดอะไรมาก แต่ดวงตากลมโตสื่อออกมาสารพัด
ไอ้บ้า ไอ้คนหลงตัวเอง ปีศาจ มารร้าย นิสัย...
“เปล่า ไม่มีความจำเป็นอะไรที่ฉันจะต้องหลบหน้าคุณ”
“งั้นลาออกจากงานทำไม” กานต์ชนกถามย้ำ ไม่ยอมปล่อยให้ผ่านเลยไปง่ายๆ
“เหตุผลส่วนตัว ทำไมฉันต้องบอกคุณด้วย” ปกเกศย้อนเขากลับกวนๆ แต่พอเห็นหน้าเหมือนหมีถูกหยิกของอีกฝ่าย เลยพูดต่อว่า “ไม่มีอะไร...ฉันแค่ไม่อยากกลับบ้านดึกอีก เปลี่ยนไปทำงานที่อื่น กลับไม่ดึกเท่า ปลอดภัยดี...”
“จริง?” เขาถามอีกเพราะยังไม่เชื่อ
แต่เมื่อปกเกศพยักหน้ายืนยัน กานต์ชนกก็ตัดใจแล้วเปลี่ยนเรื่องพูด ด้วยการหยิบกระดาษเช็คเงินสดขึ้นมาชูหราต่อหน้าเธอ นัยน์ตาคมกริบจ้องดวงตากลมโตของหญิงสาวนิ่ง
“แล้วนี่อะไร ทำไมไม่เอาไปขึ้นเงิน เอามาคืนฉันทำไม?”
ปกเกศหันหน้าหนี รู้ว่าหน้าตัวเองร้อนผ่าวไปหมด...ไม่อยากให้เขาเห็น แต่อีกฝ่ายก็ยังขยับกายเข้ามา ใช้สองมือแกร่ง ดึงเธอให้หันมาประจันหน้า
หญิงสาวชะงัก ตกตะลึงตัวแข็งทื่อ ลมหายใจสะดุด ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเข้ามาใกล้ขนาดนี้เลยไม่ได้เตรียมใจ แต่ก็รีบปัดมือเขาออกจากแก้มตัวเองทันทีที่ตั้งสติได้
ปกเกศไม่พอใจอย่างแรง เขาถือวิสาสะแตะต้องตัวเธออีกแล้ว...!
รังสีความชิงชังแผ่ซ่านออกมาจากดวงตากลมโตของเธอ
กานต์ชนกถึงกับสะดุดกึก โทสะพุ่งปรี๊ด
ไม่เคยมีใครใช้สายตาแข็งกระด้างแบบนี้มองเขามาก่อน ผู้หญิงบ้านๆ หน้ามันแผล็บ แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าราคาถูกคนนี้กลับมองเขาราวกับเป็นกิ้งกือไส้เดือนที่เธอชังน้ำหน้านักหนา เธอยังไม่รู้จักเขาดีพอ...ปกเกศสมควรได้รับรู้ เธอจะมาหยามคนอย่างเขาไม่ได้!
“ยังไม่ตอบเลยนะ เกิดบ้าอะไรถึงเอาเช็คมาคืน...จะให้เชื่อเหรอว่าเธอไม่อยากได้เงิน?” เขาเย้ยหยัน ดูหมิ่น
“ใช่ค่ะ ไม่มีใครหรอกที่ไม่อยากได้เงิน” ปกเกศตอบโต้ ยื่นมือไป หยิบกระดาษแผ่นเล็กที่มีมูลค่านั้นมาโยนใส่หน้าเขาอย่างไม่แยแส
“แต่เงินที่ได้มาจากคุณ...ฉันไม่เอา ต่อให้มากกว่านี้เป็นร้อยเท่าพันเท่ายังไงก็ไม่ต้องการ ฉันไม่ได้มีอาชีพอย่างที่คุณกำลังยัดเยียด!”
หญิงสาวเน้นย้ำชัดเจนทุกถ้อยคำ พร้อมสบตากับเขาไม่หลบ
กานต์ชนกถึงกับนิ่งอึ้งไป ริมฝีปากบางเฉียบเม้มเข้าหากันแน่นอย่างคนเจ้าอารมณ์ และเขาก็แสดงออกด้วยการหยิบเอาเช็คแผ่นนั้นขึ้นมา แล้วยัดใส่ลงไปในฝ่ามือเล็กๆ ของเธอ แล้วกำรวบมือหญิงสาวเอาไว้แน่นจนเธอนิ่วหน้า
ปกเกศพยายามดึงมือตัวเองออกจากอุ้งมือทรงพลังของเขา แต่ไม่สามารถสู้แรงที่มหาศาลกว่าได้ กานต์ชนกกดมือเธอเอาไว้แน่นกว่าเดิม จงใจทั้งลงโทษและแสดงให้เธอตระหนักชัดว่า เขานั้น ‘เหนือกว่า’ เธอ ในทุกๆ ทาง
“ฉันไม่สนว่าเธอจะอยากรับหรือไม่อยาก...คนอย่างฉัน ถ้าให้แล้วก็คือให้ เธอต้องรับเอาไว้ ไม่งั้นฉันจะถือว่า ที่เธอไม่ยอมรับเงินของฉัน มันเป็นเพราะเธอกำลังเล่นละครเรียกร้องความสนใจ...คิดจะมาเหนือเมฆเหรอ ไม่มีประโยชน์หรอก มุกนี้ฉันเจอมาเยอะ เบื่อแล้ว รีบรับแล้วไปซะ!”
เขาตบท้ายด้วยการออกคำสั่งเสียงเข้ม วางอำนาจ ใบหน้าหล่อเหลาระบายรอยยิ้มเลือดเย็น เหมือนยิ้มของปีศาจร้ายทำเอาปกเกศกลืนน้ำลายฝืดคอ ทั้งกลัวและโกรธ สองความรู้สึกตีกันมั่วไปหมด
หญิงสาวนั่งนิ่งอดทนรอ จนเขาปล่อยมือในที่สุด วินาทีนั้นเจ้าตัวรีบสูดลมหายใจเข้าปอดลึก เรียกความกล้า หยิบเอากระดาษที่ยับยู่อยู่ในมือตัวเองขึ้นมา ค่อยๆ บรรจงฉีกจนกลายเป็นชิ้นเล็กไม่เหลือสภาพ จากนั้นจึงโปรยใส่กานต์ชนก ตอกย้ำให้เขาตระหนักชัดแจ่มแจ้งว่า เธอไม่แยแส ‘ไม่-เคย-ต้อง-การ’ เงินของเขา
“ปกเกศ!!”
“อยู่ใกล้แค่นี้ไม่ต้องเสียงดังก็ได้คุณ!” เธอเอ็ดอึง หงุดหงิด “ตอนนี้ก็อย่างที่เห็น เช็คของคุณมันกลายเป็นเศษขยะชิ้นเล็กชิ้นน้อย ไม่มีค่าอะไรแล้ว เพราะงั้น ธุระของเราจบแล้วนะ...ลาก่อนค่ะคุณกานต์ชนก หวังว่าจะไม่ต้องเจอหน้ากันอีกตลอดชีวิต...ไม่ต้องโทร.หาฉันอีกนะ ไม่งั้นฉันจะแจ้งความว่าคุณเป็นไอ้โรคจิต ตามตื๊อ”
ปกเกศเอ่ยอย่างเย็นชา ใบหน้าหวานสงบนิ่ง เยือกเย็น อยากให้เขาตระหนักว่า เธอไม่ได้ล้อเล่น หรือใช้ ‘มุก’ อะไรทั้งสิ้น
กานต์ชนกเองก็นิ่งเงียบไป ทว่าภายในใจของเขากลับคุกรุ่นร้อนรุ่ม
ชายหนุ่มใช้ดวงตาคมกริบเข้มจัดจนดูน่ากลัวของตนเอง ทอดมองตามหลังร่างบอบบางที่ผลักประตูรถของเขาแล้วก้าวเดินลงไปด้วยท่าทีมั่นคง ไม่มีลังเล เหลียวหลัง
เธอคิดว่าตัวเองเป็นใคร...ช่างไม่สำเหนียกตัวเองบ้างเลย
ช่างสิ ไม่อยากได้เงินก็ไม่ต้องเอา เขาเองก็ไม่อยากเห็นหน้าผู้หญิงจองหองอย่างเธอไปชั่วชีวิตเหมือนกัน!!
**************
ปกเกศกลับเข้าบ้านทันเวลาตั้งโต๊ะอาหารเย็นพอดี อาวสินของเธอกลับมาแล้วและกำลังช่วยนวินดาจัดโต๊ะอาหาร ปกเกศมองหาไม่เห็นนิลยาจึงเอ่ยปากถามน้องสาวอย่างแปลกใจ
“น้องดา ยายนิลอยู่ที่ไหนเหรอ”
“อ้าว พี่นิลไม่ได้บอกพี่เกศเหรอคะ เห็นว่ามีธุระด่วนต้องรีบกลับบ้าน เลยขอตัวกลับไปก่อนแล้วน่ะค่ะ น้องดานึกว่าพี่เกศรู้แล้วเสียอีก”
นวินดาบอกอย่างงุนงง แต่ปกเกศฉงนยิ่งกว่า ทำไมเพื่อนรักของเธอถึงได้เร่งรีบกลับไปก่อนทั้งที่น่าจะอยู่ทานข้าวเย็นด้วยกันแท้ๆ
หรือว่า...จริงด้วย ลืมไปเลย พี่ไนยพาแฟนกลับมาบ้านด้วยอย่างนี้ นิลยาคงลำบากใจมาก...หนีกลับไปก่อนเลยน่าจะดีกว่าต้องทนเห็นภาพบาดตาบาดใจ...
“เฮ้อ อุตส่าห์ทำแต่กับข้าวของโปรดของพี่ไนยไว้ทั้งนั้น แต่ไม่ยอมมากินด้วยกัน ยายนิลบ้า!” ปกเกศอดบ่นไม่ได้ แต่ไม่ทันเห็นจริงๆ ว่าธีรไนยกับช่อฟ้าเดินเข้ามาในห้องอาหารแล้ว
“นิลทำกับข้าวพวกนี้ให้พี่เหรอ”
ธีรไนยเอ่ยถาม ได้ยินที่น้องสาวทั้งสองพูดกันพอดี
“ใช่แล้วค่ะพี่ไนย ถึงพี่นิลจะไม่ยอมรับตรงๆ แต่กับข้าวพวกนี้ก็เป็นของโปรดพี่ไนยล้วนๆ เลยนะคะ ดูสิ อร่อยด้วยนะ น้องดาแอบชิมแล้ว” นวินดาตอบคำถามของพี่ชายแทนปกเกศ พร้อมกันนั้นก็ชี้ชวนให้เขามองอาหารบนโต๊ะไม้ตัวยาวซึ่งล้วนเป็นของโปรดของเขาทั้งสิ้น
ธีรไนยอึ้ง เงียบไป จนเสียงของช่อฟ้าดังแทรกขึ้น
“แย่จังเลยนะคะ ต้องให้ ‘คนอื่น’ เดือดร้อนมาทำอาหารให้...คราวหน้าฟ้าจะแวะมาทำอาหารให้ทุกคนทานเองค่ะ รับรองว่าฝีมือฟ้าไม่แพ้ใครเหมือนกัน”
หญิงสาวเอ่ยยิ้มแย้มเหมือนคุยปกติ ทว่าทุกคนกลับนิ่งเงียบ เว้นแต่นวินดา
“พี่นิลไม่ได้เดือดร้อนหรอกค่ะ น้องดาเห็นพี่นิลทำกับข้าวไปก็ยิ้มไป มีความสุขจะตาย อีกอย่าง พี่นิลก็เป็นเพื่อนสนิทที่มหาวิทยาลัยของพี่เกศ ไม่ใช่คนแปลกหน้าอะไรนี่คะ”
“เหรอจ๊ะ...” ช่อฟ้าสูดหายใจแรง ดวงตาเรียวรีตวัดมองนวินดาหลายต่อหลายรอบ ข่มกลั้นความไม่พอใจเอาไว้ เพราะนี่คือน้องสาวแท้ๆ ของคนที่เธอชอบ
“แต่ก็ยังเรียนกันอยู่ไม่ใช่เหรอจ๊ะ น่าจะเอาเวลาว่างไปอ่านหนังสือเรียนมากกว่าจะมานั่งทำกับข้าวบ้านคนอื่นนะจ๊ะ”
“ยายนิลไม่ได้มาทำกับข้าวทุกวันหรอกค่ะ นานๆ จะทำสักที...พี่ฟ้าไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ เกรดของพวกเราไม่ตกเพราะเรื่องแค่นี้แน่นอนค่ะ”
ปกเกศออกตัวแทนเพื่อนรักทันที ความจริงอยาก ‘จัด’ มากกว่านี้เพราะชักรู้สึกตงิดๆ กับคำพูดของช่อฟ้า แต่เห็นแก่ว่ารายนั้นเป็นคนรักของธีรไนย พี่ชายแสนดีที่เธอทั้งรักและเคารพรองจากอาวสิน เธอไม่อยากมีปัญหาให้พี่ชายไม่สบายใจ
“เอาเถอะ มากินข้าวกัน วันนี้พ่อกลับช้าหน่อยเลยต้องรอกันไปหมด โทษทีๆ มากินข้าวกันเถอะ หนูนิลอุตส่าห์ทำไว้ให้ น่ากินทั้งนั้นเลย”
วสินขัดขึ้น ทำไม่รู้ไม่ชี้ เรียกให้ทุกคนพากันเข้าไปล้อมวงรอบโต๊ะอาหารขนาดกลางของครอบครัวซึ่งหลายวันมานี้อบอุ่น พร้อมหน้าพร้อมตากว่าปกติ นั่นเพราะว่าปกเกศไม่ได้ไปทำงานพิเศษที่ไหนมาหลายวันแล้ว
ธีรไนยตักชิมอาหารทุกอย่างที่นิลยาตั้งใจทำให้เขา รสชาติอาหารไม่ได้เลวร้ายเลย อร่อยด้วย ดวงตาเรียวดำขลับของชายหนุ่มดูอบอุ่นเมื่อเจ้าตัวยิ้มน้อยๆ อารมณ์ดี
ทว่าช่อฟ้าที่นั่งข้างๆ กัน ไม่ได้เหมือนกับธีรไนย หญิงสาวแทบกลืนอะไรไม่ลงคอ มันฝืดไปหมด
*******************
อะแฮ่มๆ ตื่นเต้น >///< สนพ.ได้เล่มตัวอย่างรักรออุ้มจากโรงพิมพ์แล้วนะคะ ^O^ สวยละมุนน่ารักมากๆ เลยค่ะ
นักอ่านท่านใดอยากได้รักรออุ้มมาอ่านเป็นล็อตแรก ยังคงสั่งจองในราคาพิเศษได้จนถึงวันที่ 16 กันยายน 2561 นะคะ
(หนังสือพร้อมส่งปลายเดือนกันยายน 2561 แต่คาดว่าน่าจะเร็วกว่านั้นเป็นช่วงกลางเดือนแทนค่ะ)
ดูตัวอย่างหนังสือได้ที่เพจปลายปากกาสำนักพิมพ์จ้า แอดมินน่าจะลงให้ดูกันประมาณบ่ายสามโมงของวันนี้ค่ะ
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
เธอไม่ได้ให้เกียรติเขาบ้างเลย...
กานต์ชนกผู้เคยแต่ได้รับความเอาใจใส่ ได้พบเห็นแต่สาวสวยเครื่องสำอางจัดเต็มแน่นทุกอณู รู้สึกหงุดหงิดเมื่อต้องมาเห็นสาวหน้าหวานแต่มันแผล็บ ผมยาวชี้ฟูดูกระเซอะกระเซิง แถมเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายก็ยัง ‘บ้าน’ สุดๆ เขาแทบไม่อยากเชื่อว่านี่จะเป็นคนเดียวกับสาวสวยพราวเสน่ห์ในค่ำคืนนั้น...อย่างกับคนละคน!
“จะมองอีกนานไหมคุณ มีอะไรก็พูดมาสิ ฉันจะได้รีบกลับ มีธุระต้องทำอีกเยอะ”
ไม่ใช่แค่สภาพที่เต็มทน แต่เสียงของเธอก็ยังห้วน ไม่มีความอ่อนหวานอ่อนน้อมแต่อย่างใดอีกด้วย
เธอทำให้เขาหงุดหงิด เผลอแยกเขี้ยวใส่อย่างลืมตัว
“ไปคุยกันในรถแล้วกัน มานี่” ชายหนุ่มดึงมือ พาเธอเดินไปที่รถสปอร์ตหรูของเขา ซึ่งจอดเอาไว้ในลานจอดรถของผับ ไม่ไกลกันนัก จัดแจงจับยัดร่างเล็กเข้าไปทางตอนหลังของรถ โดยมีร่างสูงใหญ่ของเขาตามเข้าไปติดๆ แล้วปิดประตูตามมาเสียงดังสนั่น
ปกเกศรู้สึกไม่ต่างกับว่าถูกขังอยู่ในห้องแคบๆ แล้วอีกฝ่ายก็อยู่ใกล้ชิดมากเกินไป หัวใจเธอเต้นแรงด้วยความอึดอัดคับข้องและยังหวาดผวาอยู่ไม่หาย แต่ต้องพยายามบอกตัวเองให้เข้มแข็งเข้าไว้ เธอจะไม่ยอมให้เขาได้ใจข่มเหงเธอยังไงก็ได้อีกต่อไปแล้ว!
“เธอลาออกจากงานทำไม ต้องการหลบหน้าฉันเหรอ”
คำถามแรกของเขา ก็ทำให้อีกฝ่ายกวาดตามองชายหนุ่มอย่างหมั่นไส้ แม้ปากเธอจะไม่พูดอะไรมาก แต่ดวงตากลมโตสื่อออกมาสารพัด
ไอ้บ้า ไอ้คนหลงตัวเอง ปีศาจ มารร้าย นิสัย...
“เปล่า ไม่มีความจำเป็นอะไรที่ฉันจะต้องหลบหน้าคุณ”
“งั้นลาออกจากงานทำไม” กานต์ชนกถามย้ำ ไม่ยอมปล่อยให้ผ่านเลยไปง่ายๆ
“เหตุผลส่วนตัว ทำไมฉันต้องบอกคุณด้วย” ปกเกศย้อนเขากลับกวนๆ แต่พอเห็นหน้าเหมือนหมีถูกหยิกของอีกฝ่าย เลยพูดต่อว่า “ไม่มีอะไร...ฉันแค่ไม่อยากกลับบ้านดึกอีก เปลี่ยนไปทำงานที่อื่น กลับไม่ดึกเท่า ปลอดภัยดี...”
“จริง?” เขาถามอีกเพราะยังไม่เชื่อ
แต่เมื่อปกเกศพยักหน้ายืนยัน กานต์ชนกก็ตัดใจแล้วเปลี่ยนเรื่องพูด ด้วยการหยิบกระดาษเช็คเงินสดขึ้นมาชูหราต่อหน้าเธอ นัยน์ตาคมกริบจ้องดวงตากลมโตของหญิงสาวนิ่ง
“แล้วนี่อะไร ทำไมไม่เอาไปขึ้นเงิน เอามาคืนฉันทำไม?”
ปกเกศหันหน้าหนี รู้ว่าหน้าตัวเองร้อนผ่าวไปหมด...ไม่อยากให้เขาเห็น แต่อีกฝ่ายก็ยังขยับกายเข้ามา ใช้สองมือแกร่ง ดึงเธอให้หันมาประจันหน้า
หญิงสาวชะงัก ตกตะลึงตัวแข็งทื่อ ลมหายใจสะดุด ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะเข้ามาใกล้ขนาดนี้เลยไม่ได้เตรียมใจ แต่ก็รีบปัดมือเขาออกจากแก้มตัวเองทันทีที่ตั้งสติได้
ปกเกศไม่พอใจอย่างแรง เขาถือวิสาสะแตะต้องตัวเธออีกแล้ว...!
รังสีความชิงชังแผ่ซ่านออกมาจากดวงตากลมโตของเธอ
กานต์ชนกถึงกับสะดุดกึก โทสะพุ่งปรี๊ด
ไม่เคยมีใครใช้สายตาแข็งกระด้างแบบนี้มองเขามาก่อน ผู้หญิงบ้านๆ หน้ามันแผล็บ แต่งตัวด้วยเสื้อผ้าราคาถูกคนนี้กลับมองเขาราวกับเป็นกิ้งกือไส้เดือนที่เธอชังน้ำหน้านักหนา เธอยังไม่รู้จักเขาดีพอ...ปกเกศสมควรได้รับรู้ เธอจะมาหยามคนอย่างเขาไม่ได้!
“ยังไม่ตอบเลยนะ เกิดบ้าอะไรถึงเอาเช็คมาคืน...จะให้เชื่อเหรอว่าเธอไม่อยากได้เงิน?” เขาเย้ยหยัน ดูหมิ่น
“ใช่ค่ะ ไม่มีใครหรอกที่ไม่อยากได้เงิน” ปกเกศตอบโต้ ยื่นมือไป หยิบกระดาษแผ่นเล็กที่มีมูลค่านั้นมาโยนใส่หน้าเขาอย่างไม่แยแส
“แต่เงินที่ได้มาจากคุณ...ฉันไม่เอา ต่อให้มากกว่านี้เป็นร้อยเท่าพันเท่ายังไงก็ไม่ต้องการ ฉันไม่ได้มีอาชีพอย่างที่คุณกำลังยัดเยียด!”
หญิงสาวเน้นย้ำชัดเจนทุกถ้อยคำ พร้อมสบตากับเขาไม่หลบ
กานต์ชนกถึงกับนิ่งอึ้งไป ริมฝีปากบางเฉียบเม้มเข้าหากันแน่นอย่างคนเจ้าอารมณ์ และเขาก็แสดงออกด้วยการหยิบเอาเช็คแผ่นนั้นขึ้นมา แล้วยัดใส่ลงไปในฝ่ามือเล็กๆ ของเธอ แล้วกำรวบมือหญิงสาวเอาไว้แน่นจนเธอนิ่วหน้า
ปกเกศพยายามดึงมือตัวเองออกจากอุ้งมือทรงพลังของเขา แต่ไม่สามารถสู้แรงที่มหาศาลกว่าได้ กานต์ชนกกดมือเธอเอาไว้แน่นกว่าเดิม จงใจทั้งลงโทษและแสดงให้เธอตระหนักชัดว่า เขานั้น ‘เหนือกว่า’ เธอ ในทุกๆ ทาง
“ฉันไม่สนว่าเธอจะอยากรับหรือไม่อยาก...คนอย่างฉัน ถ้าให้แล้วก็คือให้ เธอต้องรับเอาไว้ ไม่งั้นฉันจะถือว่า ที่เธอไม่ยอมรับเงินของฉัน มันเป็นเพราะเธอกำลังเล่นละครเรียกร้องความสนใจ...คิดจะมาเหนือเมฆเหรอ ไม่มีประโยชน์หรอก มุกนี้ฉันเจอมาเยอะ เบื่อแล้ว รีบรับแล้วไปซะ!”
เขาตบท้ายด้วยการออกคำสั่งเสียงเข้ม วางอำนาจ ใบหน้าหล่อเหลาระบายรอยยิ้มเลือดเย็น เหมือนยิ้มของปีศาจร้ายทำเอาปกเกศกลืนน้ำลายฝืดคอ ทั้งกลัวและโกรธ สองความรู้สึกตีกันมั่วไปหมด
หญิงสาวนั่งนิ่งอดทนรอ จนเขาปล่อยมือในที่สุด วินาทีนั้นเจ้าตัวรีบสูดลมหายใจเข้าปอดลึก เรียกความกล้า หยิบเอากระดาษที่ยับยู่อยู่ในมือตัวเองขึ้นมา ค่อยๆ บรรจงฉีกจนกลายเป็นชิ้นเล็กไม่เหลือสภาพ จากนั้นจึงโปรยใส่กานต์ชนก ตอกย้ำให้เขาตระหนักชัดแจ่มแจ้งว่า เธอไม่แยแส ‘ไม่-เคย-ต้อง-การ’ เงินของเขา
“ปกเกศ!!”
“อยู่ใกล้แค่นี้ไม่ต้องเสียงดังก็ได้คุณ!” เธอเอ็ดอึง หงุดหงิด “ตอนนี้ก็อย่างที่เห็น เช็คของคุณมันกลายเป็นเศษขยะชิ้นเล็กชิ้นน้อย ไม่มีค่าอะไรแล้ว เพราะงั้น ธุระของเราจบแล้วนะ...ลาก่อนค่ะคุณกานต์ชนก หวังว่าจะไม่ต้องเจอหน้ากันอีกตลอดชีวิต...ไม่ต้องโทร.หาฉันอีกนะ ไม่งั้นฉันจะแจ้งความว่าคุณเป็นไอ้โรคจิต ตามตื๊อ”
ปกเกศเอ่ยอย่างเย็นชา ใบหน้าหวานสงบนิ่ง เยือกเย็น อยากให้เขาตระหนักว่า เธอไม่ได้ล้อเล่น หรือใช้ ‘มุก’ อะไรทั้งสิ้น
กานต์ชนกเองก็นิ่งเงียบไป ทว่าภายในใจของเขากลับคุกรุ่นร้อนรุ่ม
ชายหนุ่มใช้ดวงตาคมกริบเข้มจัดจนดูน่ากลัวของตนเอง ทอดมองตามหลังร่างบอบบางที่ผลักประตูรถของเขาแล้วก้าวเดินลงไปด้วยท่าทีมั่นคง ไม่มีลังเล เหลียวหลัง
เธอคิดว่าตัวเองเป็นใคร...ช่างไม่สำเหนียกตัวเองบ้างเลย
ช่างสิ ไม่อยากได้เงินก็ไม่ต้องเอา เขาเองก็ไม่อยากเห็นหน้าผู้หญิงจองหองอย่างเธอไปชั่วชีวิตเหมือนกัน!!
**************
ปกเกศกลับเข้าบ้านทันเวลาตั้งโต๊ะอาหารเย็นพอดี อาวสินของเธอกลับมาแล้วและกำลังช่วยนวินดาจัดโต๊ะอาหาร ปกเกศมองหาไม่เห็นนิลยาจึงเอ่ยปากถามน้องสาวอย่างแปลกใจ
“น้องดา ยายนิลอยู่ที่ไหนเหรอ”
“อ้าว พี่นิลไม่ได้บอกพี่เกศเหรอคะ เห็นว่ามีธุระด่วนต้องรีบกลับบ้าน เลยขอตัวกลับไปก่อนแล้วน่ะค่ะ น้องดานึกว่าพี่เกศรู้แล้วเสียอีก”
นวินดาบอกอย่างงุนงง แต่ปกเกศฉงนยิ่งกว่า ทำไมเพื่อนรักของเธอถึงได้เร่งรีบกลับไปก่อนทั้งที่น่าจะอยู่ทานข้าวเย็นด้วยกันแท้ๆ
หรือว่า...จริงด้วย ลืมไปเลย พี่ไนยพาแฟนกลับมาบ้านด้วยอย่างนี้ นิลยาคงลำบากใจมาก...หนีกลับไปก่อนเลยน่าจะดีกว่าต้องทนเห็นภาพบาดตาบาดใจ...
“เฮ้อ อุตส่าห์ทำแต่กับข้าวของโปรดของพี่ไนยไว้ทั้งนั้น แต่ไม่ยอมมากินด้วยกัน ยายนิลบ้า!” ปกเกศอดบ่นไม่ได้ แต่ไม่ทันเห็นจริงๆ ว่าธีรไนยกับช่อฟ้าเดินเข้ามาในห้องอาหารแล้ว
“นิลทำกับข้าวพวกนี้ให้พี่เหรอ”
ธีรไนยเอ่ยถาม ได้ยินที่น้องสาวทั้งสองพูดกันพอดี
“ใช่แล้วค่ะพี่ไนย ถึงพี่นิลจะไม่ยอมรับตรงๆ แต่กับข้าวพวกนี้ก็เป็นของโปรดพี่ไนยล้วนๆ เลยนะคะ ดูสิ อร่อยด้วยนะ น้องดาแอบชิมแล้ว” นวินดาตอบคำถามของพี่ชายแทนปกเกศ พร้อมกันนั้นก็ชี้ชวนให้เขามองอาหารบนโต๊ะไม้ตัวยาวซึ่งล้วนเป็นของโปรดของเขาทั้งสิ้น
ธีรไนยอึ้ง เงียบไป จนเสียงของช่อฟ้าดังแทรกขึ้น
“แย่จังเลยนะคะ ต้องให้ ‘คนอื่น’ เดือดร้อนมาทำอาหารให้...คราวหน้าฟ้าจะแวะมาทำอาหารให้ทุกคนทานเองค่ะ รับรองว่าฝีมือฟ้าไม่แพ้ใครเหมือนกัน”
หญิงสาวเอ่ยยิ้มแย้มเหมือนคุยปกติ ทว่าทุกคนกลับนิ่งเงียบ เว้นแต่นวินดา
“พี่นิลไม่ได้เดือดร้อนหรอกค่ะ น้องดาเห็นพี่นิลทำกับข้าวไปก็ยิ้มไป มีความสุขจะตาย อีกอย่าง พี่นิลก็เป็นเพื่อนสนิทที่มหาวิทยาลัยของพี่เกศ ไม่ใช่คนแปลกหน้าอะไรนี่คะ”
“เหรอจ๊ะ...” ช่อฟ้าสูดหายใจแรง ดวงตาเรียวรีตวัดมองนวินดาหลายต่อหลายรอบ ข่มกลั้นความไม่พอใจเอาไว้ เพราะนี่คือน้องสาวแท้ๆ ของคนที่เธอชอบ
“แต่ก็ยังเรียนกันอยู่ไม่ใช่เหรอจ๊ะ น่าจะเอาเวลาว่างไปอ่านหนังสือเรียนมากกว่าจะมานั่งทำกับข้าวบ้านคนอื่นนะจ๊ะ”
“ยายนิลไม่ได้มาทำกับข้าวทุกวันหรอกค่ะ นานๆ จะทำสักที...พี่ฟ้าไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ เกรดของพวกเราไม่ตกเพราะเรื่องแค่นี้แน่นอนค่ะ”
ปกเกศออกตัวแทนเพื่อนรักทันที ความจริงอยาก ‘จัด’ มากกว่านี้เพราะชักรู้สึกตงิดๆ กับคำพูดของช่อฟ้า แต่เห็นแก่ว่ารายนั้นเป็นคนรักของธีรไนย พี่ชายแสนดีที่เธอทั้งรักและเคารพรองจากอาวสิน เธอไม่อยากมีปัญหาให้พี่ชายไม่สบายใจ
“เอาเถอะ มากินข้าวกัน วันนี้พ่อกลับช้าหน่อยเลยต้องรอกันไปหมด โทษทีๆ มากินข้าวกันเถอะ หนูนิลอุตส่าห์ทำไว้ให้ น่ากินทั้งนั้นเลย”
วสินขัดขึ้น ทำไม่รู้ไม่ชี้ เรียกให้ทุกคนพากันเข้าไปล้อมวงรอบโต๊ะอาหารขนาดกลางของครอบครัวซึ่งหลายวันมานี้อบอุ่น พร้อมหน้าพร้อมตากว่าปกติ นั่นเพราะว่าปกเกศไม่ได้ไปทำงานพิเศษที่ไหนมาหลายวันแล้ว
ธีรไนยตักชิมอาหารทุกอย่างที่นิลยาตั้งใจทำให้เขา รสชาติอาหารไม่ได้เลวร้ายเลย อร่อยด้วย ดวงตาเรียวดำขลับของชายหนุ่มดูอบอุ่นเมื่อเจ้าตัวยิ้มน้อยๆ อารมณ์ดี
ทว่าช่อฟ้าที่นั่งข้างๆ กัน ไม่ได้เหมือนกับธีรไนย หญิงสาวแทบกลืนอะไรไม่ลงคอ มันฝืดไปหมด
*******************
อะแฮ่มๆ ตื่นเต้น >///< สนพ.ได้เล่มตัวอย่างรักรออุ้มจากโรงพิมพ์แล้วนะคะ ^O^ สวยละมุนน่ารักมากๆ เลยค่ะ
นักอ่านท่านใดอยากได้รักรออุ้มมาอ่านเป็นล็อตแรก ยังคงสั่งจองในราคาพิเศษได้จนถึงวันที่ 16 กันยายน 2561 นะคะ
(หนังสือพร้อมส่งปลายเดือนกันยายน 2561 แต่คาดว่าน่าจะเร็วกว่านั้นเป็นช่วงกลางเดือนแทนค่ะ)
ดูตัวอย่างหนังสือได้ที่เพจปลายปากกาสำนักพิมพ์จ้า แอดมินน่าจะลงให้ดูกันประมาณบ่ายสามโมงของวันนี้ค่ะ
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 3 ก.ย. 2561, 13:57:44 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 3 ก.ย. 2561, 13:57:44 น.
จำนวนการเข้าชม : 622
<< บทที่ 6 -60% | บทที่ 7 -50% >> |