กาลครั้งหนึ่งนั้น(ในความบังเอิญ)
เธอกับเขา ความทรงจำที่เคยมีร่วมกันมาก็แค่... อดีตกิ๊ก!
Tags: แต่งงาน,อดีต,รัก,บุพเพสันนิวาส,พรหมลิขิต

ตอน: บทที่ ๒๐ สุดทาง (50%)

จิรสุตากลับมาพร้อมปุณณมาตอนเกือบบ่ายสามโมง หล่อนเข้าไปรับหน้าที่เป็นผู้ช่วยป้าแทนเพื่อนสนิท จากนั้นศศิพิมพ์ก็ถูกเตะโด่งให้ไปรวมกลุ่มที่ห้องโถง ด้วยทิฐิที่ต่างฝ่ายต่างถือไว้ทำให้ยังไม่คุยกัน จิรศักดิ์ที่มองอยู่ก็ได้แต่เหนื่อยหน่ายเมื่อเห็นลูกชายที่ด่าก็แล้ว กล่อมก็แล้วให้ยอมลงให้เมียยังตีหน้าตายไม่รู้สึกรู้สา



“จันทร์พายายหนูไปอาบน้ำนะคะคุณลุง”



ราวสี่โมงเย็นปุณณมาก็เอ่ยขึ้น เธออุ้มลูกน้อยไว้ในอ้อมแขน พี่เลี้ยงเด็กหญิงถือตะกร้าข้าวของที่ขนมา



“คุณพิมพ์ไปดูพี่อาบน้ำให้ยายหนูกันไหมคะ”



ศศิพิมพ์ที่กำลังหาทางหนีความอึดอัดนี้รีบรับคำ เธอลุกขึ้นยืนปุบปับ “ไปสิคะพี่จันทร์ เอ่อคุณพ่อคะพิมพ์ไปกับพี่จันทร์นะคะ”



“ไปเถอะลูก--” ศศิพิมพ์ยิ้มรับไม่สนิทนักเมื่อได้ยิน “หัดไว้เผื่อมีเป็นของตัวเองจะได้ชิน”



ยินแล้วจิรสินก็ชักกรุ่นๆ อยากบอกพ่อตัวเหลือเกินว่าคงไม่มีทาง เพราะว่าที่แม่ป้องกันไว้แน่นหนาขนาดไหน แต่หากพูดออกไปตามใจปากแน่นอนว่าอาจจะต้องทะเลาะกันอีกซึ่งเขาไม่ชอบเลย ดังนั้นชายหนุ่มจึงได้แต่ถอนหายใจแรงๆ และทำทีเป็นเก็บของเล่นเด็กไป



ซึ่งท่าทีของเขาก็ชัดเสียจนคนเห็นนึกระอา คงมีเพียงศศิพิมพ์เท่านั้นที่ยิ่งหน้าหงอยลงไปอีก จิรศักดิ์สงสารลูกสะใภ้เลยย้ำให้ปุณณมากับศศิพิมพ์พายายหนูไปลงน้ำป๋อมแป๋มเสีย



“ดูสินอารมณ์ไม่ค่อยอยู่กับร่องกับรอยนะคะพี่ว่า”



เดินกันมาสักพัก ประโยคคำถามแทงใจก็ถูกส่งมา



“คืออย่าว่าพี่ยุ่งเลยนะคะ มีปัญหาอะไรกันหรือเปล่า”



บางทีนะ ศศิพิมพ์คิดว่าปุณณมาก็ดูซื่อ แต่บางครั้งก็แอบร้าย



“ก็ไม่มีอะไรหรอกค่ะ”



“ฝันคะ”



ปุณณมาเป็นคนพูดเพราะเสมอ ตั้งแต่เธอรู้จักหล่อนมาปีกว่าจำได้ว่าไม่เคยได้ยินหล่อนพูดคำหยาบ จริงๆ ต้องบอกว่าไม่เคยได้ยินกระทั่งปุณณมาพูดห้วนๆ หรือกระโชกโฮกฮากกับใคร



“พายายหนูไปอาบน้ำก่อนได้เลยค่ะ ขอพี่คุยกับคุณพิมพ์สักพักแล้วจะตามไปนะ”



“อ่าพิมพ์--”



“อยู่กับยายหนูทั้งวันบางทีพี่ก็เหนื่อย” ปุณณมาเอ่ยแบบไม่เว้นช่องว่างให้เธอได้ปฏิเสธ “ฟังดูไม่เหมือนคนเป็นแม่ใช่ไหมคะ นี่พี่ก็ยังงงตัวเองอยู่เหมือนกัน บางครั้งก็เหนื่อยจนเบื่อ จนท้อแต่ก็เลิกเป็นไม่ได้”



ศศิพิมพ์นิ่งฟังเพราะไม่รู้จะพูดอะไร



“เดินไปคุยไปตามยายหนูดีกว่าค่ะ แต่เดินช้าๆ หน่อยหนึ่งนะ พี่อยากจะพักบ้าง” หล่อนเอ่ยกลั้วหัวเราะ “พี่ไม่เคยคิดเลยนะว่าจะมียายหนู ตอนพี่แต่งงานกับเขาพี่ก็เหมือนสาวๆ แหละ งานแต่งงานหรู แขกเยอะ ตัวพี่เป็นเจ้าหญิง แล้วก็ตัวเขา... เป็นเจ้าชาย”



“ตอนนั้นคงมีความสุขมากเลยนะคะพี่จันทร์”



“ใช่ค่ะมีความสุขเหมือนอยู่บนสวรรค์ ห้าหกเดือนแรกแบบว้าว เหมือนเราอยู่ในหนังเลย ดินเนอร์ สังสรรค์ แต่งตัวสวยๆ สามีเอาอกเอาใจ พูดกันตามตรง พี่ไม่เคยคิดถึงสินเลย”



ฟังแล้วศศิพิมพ์ก็เริ่มกรุ่นๆ ไม่พอใจ หล่อนหักอกเขาจนแทบจะเป็นบ้า แล้วก็ไปเสวยสุขแบบไม่มีความรู้สึกผิดสักนิด!



“ไม่เคยคิดจนวันหนึ่ง สวรรค์ที่พี่เจอมันเป็นแค่ภาพลวง เหมือนทุกอย่างมันไปถึงจุดอิ่มตัว พี่เบื่อ เบื่อกับชีวิตแบบนั้น ส่วนเขาก็เริ่มเบื่อกับการยึดติดอยู่กับผู้หญิงแค่คนเดียว แปลกไหมรักที่พี่ว่าเหมือนปานจะกลืนกินนั่นหายไปชั่วพริบตาเดียว



“สลายไปหมดเลย เหลือแต่ความเบื่อหน่าย ช่วงนั้นแหละที่พี่เริ่มคิดถึงสิน เริ่มเปรียบเทียบเขากับสิน เราทะเลาะกันบ่อยขึ้น พี่เหมือนคนบ้าวิ่งตามเขาไปทุกที่ พี่เป็นหนักถึงกับต้องจ้างนักสืบตามเขาว่าเขาไปนอนกับใครมาบ้าง ตีโพยตีพาย พี่โวยวายจน... จนเหนื่อย แต่ก็ยังไม่มีอะไรดีขึ้น หนำซ้ำยังแย่ลงกว่าเดิม



“พี่เลยเปลี่ยนความคิดใหม่ พยายามมากที่จะท้องเพื่อจะดึงเขาไว้ ทำทุกอย่างจนเหมือนผู้หญิงไม่มียางอาย พี่บริการเขาเรื่องเซ็กส์ดึงเขาไว้ด้วยเรื่องเซ็กส์ ยาคุมที่เคยกินประจำพี่ทิ้งแทบไม่แตะเลย”

คำว่ายาคุมทำให้ศศิพิมพ์ชะงัก หลังฮันนีมูนเธอเคยกินมันอยู่ครั้งหนึ่ง แต่รู้สึกว่าจะแพ้แล้วพอลองเปลี่ยนยี่ห้อใหม่ก็ยังเหมือนเดิม เธอก็เลยไม่แตะต้องอีก ทิ้งมันไว้ในลิ้นชักโต๊ะเครื่องแป้งนั่นเอง แถมพอรับงานที่คลินิกเพื่อนของตีรณา คุณหมอก็ยังเอื้อเฟื้อด้วยการแถมยาคุมมาให้เธอถุงใหญ่ ทั้งๆ ที่เธอบอกว่าไม่ได้ใช้ อีกฝ่ายก็ยังคะยั้นคะยอให้มา บอกว่าเอามาแจกคนรู้จักก็ได้ เธอจึงรับมาเพราะไม่อยากให้เสียน้ำใจ

ศศิพิมพ์ผ่อนลมหายใจนึกถึงแล้วก็ยกมือขึ้นลูบท้อง กรณีของเธอกับปุณณมาไม่เหมือนกัน นี่พยายามกันแทบตายแต่เด็กๆ ก็ยังไม่มา

“แต่พี่ก็ไม่ท้อง”

คำของปุณณมาทำศศิพิมพ์ฉงน

“จริงค่ะไม่ท้อง แต่มาท้องตอนไหนรู้ไหมคะ คุณพิมพ์เคยได้ยินไหม สามีข่มขืนภรรยา”

ปุณณมาสูดลมหายใจเข้าลึก ขณะคนฟังยกมือขึ้นปิดปาก

“เขา... เมากลับมา” คนพูดยิ้มเยาะ “พี่ไม่เต็มใจ พี่เหนื่อยกับการวิ่งตามเขา พี่อยากเลิกแต่เขาไม่ยอม พี่ถูกขังให้อยู่แต่ในบ้านรอเขามา รอให้เขามาทำแบบนั้นกับพี่ คิดดูสิยายหนูเกิดมาในสภาพแบบนั้นน่ะ”

ศศิพิมพ์แค่ได้ยินยังสะเทือนใจ แล้วคนที่เจอกับตัวเล่า

“พี่เกลียดตัวเองที่มีส่วนทำให้แกเกิดมาแบบนั้น”

ปุณณมานิ่งไปพัก เธอสูดลมหายใจเข้าลึกและพูดต่อ

“พี่หนีออกมาได้ โชคดีที่พี่ยังมีคนคอยช่วยที่โน่นให้พี่ได้หลบอยู่แบบสงบๆ แต่พอผ่านไปสักเดือนพี่ก็รู้ตัวว่าท้อง คิดดูสิ พอรู้ว่าท้องพี่ดันอยากกลับไปหาเขา บอกไม่ถูกเหมือนกันนะว่าทำไม แต่พี่ก็ไป ไปเพื่อจะเจอว่าเขาอยู่กับคนอื่น

“เป็นผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้ กำลังมีความสุขกันสุดๆ แล้วพี่ก็กลับไทย พี่ทนไม่ได้ ทนไม่ไหวที่สวรรค์ที่พี่เคยคิดไว้มันเป็นเหมือนนรกดีๆ นี่เอง ตอนนี้แหละที่พี่คิดถึงสินจับใจ สินเจ้าชู้พี่ไม่เถียงแต่เขาให้เกียรติผู้หญิงมาก คบใครคบทีละคน”

คนเล่าคงนึกได้

“ตอนคบกันเขาเป็นแบบนั้น แต่หลังจากพี่ไปจากเขา มันก็อีกเรื่องซึ่งพี่ก็ปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ว่ามันเกิดจากพี่”

ยิ่งได้ฟังก็ยิ่งเจ็บในใจ ปุณณมาคงอยากบอกกลายๆ ว่ายังรักจิรสินอยู่ บางทีนี่อาจเป็นวิธีบอกว่าหล่อนกำลังทวงของของหล่อนคืน

“พี่รู้สึกผิดนะคะ ผิดกับสินมากจริงๆ ยิ่งเขาช่วยพี่มากเท่าไหร่พี่ก็ยิ่งรู้สึกผิดมากเท่านั้น แล้วไอ้ความรู้สึกผิดนี่พี่คิดว่าคุณพิมพ์คงเข้าใจ”

ผู้ฟังชะงัก จิรสินเล่าเรื่องเธอให้ปุณณมาฟังหรือ ซึ่งสีหน้าของศศิพิมพ์ก็ชัดเจนเสียจน ปุณณมาไม่เดาให้ยาก

“ใช่ค่ะ สินเล่า”

ศศิพิมพ์แทบหยุดหายใจ นี่คือเรื่องส่วนตัวของเธอแต่เขากลับเอาเรื่องมาเล่าให้คนอื่นฟัง

“พี่อยากเคลียร์นะคะ ถ้ามันทำให้คุณพิมพ์สบายใจขึ้น”

“พี่จันทร์หมายความว่ายังไงคะ พิมพ์ไม่เข้าใจ พี่จันทร์จะบอกอะไรกับพิมพ์กันแน่”

“พี่อยากสารภาพกับคุณพิมพ์” ปุณณมามองหน้าศศิพิมพ์แน่วนิ่ง “พี่อยากกลับมาหาสินค่ะ”

คำแค่เพียงคำเดียว แต่ดันเหมือนกับปลายเข็มที่สะกิดหนองในใจของศศิพิมพ์ เธอถึงกับผงะก้าวถอยหลังเลยทีเดียวเพราะไม่คิดว่าจะได้ยินอะไรแบบนี้

ปุณณมาสารภาพว่าต้องการแย่งสามีของเธอ

ศศิพิมพ์เม้มปากแน่น มองปุณณมาอย่างผิดหวัง เธออยากประณามอยากด่าอีกฝ่ายว่าหน้าด้าน หน้าด้านมากจริงๆ ที่ถึงกับกล้าขอสามีจากภรรยาของเขา

หญิงสาวเบือนหน้าหนีกำมือแน่น และพออีกฝ่ายเปิดปากจะพูดเธอก็หมุนตัวก้าวจากมาเร็วๆ เธอทนไม่ได้ ทนไม่ได้อีกต่อไป!





“คุณคงสงสัยว่าฉันอยากเจอคุณไปทำไม”

ตีรณายิ้มเยื้อนยามเอ่ยกับณวัฒน์ที่มาพร้อมกับอรนุชา เรานัดกันที่ร้านกาแฟเงียบๆ ริมแม่น้ำเจ้าพระยา นักสืบของตีรณาทำงานได้ดีเยี่ยม และเธอก็ได้ข้อมูลของอดีตคนรักของศศิพิมพ์มาไว้ในมือ

เป็นข้อมูลชั้นเยี่ยม

“สงสัยแน่ครับเพราะผมว่าเราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แล้วผมก็ไม่มีเพื่อนคนไหนที่เป็นเพื่อนของคุณแน่นอนคุณตีรณา”

ณวัฒน์เอ่ยพลางวางซองสีน้ำตาลที่ถือมาลงบนโต๊ะ

“น้องอรบอกว่าคุณมาหาเธอ แล้วก็ฝากซองนี้ไปให้ผม คุณต้องการอะไรกันแน่”

“ฉันแค่อยากบอกว่า”

เธอย้ำ

“แฟนคุณน่ะ กำลังจะโดนประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเหมือนกับฉัน”

อรนุชาเม้มริมฝีปาก “พี่ณุกับพี่พิมพ์ไม่ได้เป็นอะไรกันแล้ว”

“เหรอคะ” นางแบบสาวยิ้มเย็น “ขอโทษทีฉันพูดคำตกไป”

ณวัฒน์ส่ายหน้า

“คุณพูดธุระของคุณมาเถอะ นี่มันรูปสามีพิมพ์กับ--” เขาหรี่ตามอง “เท่าที่ผมรู้ ผู้หญิงในรูปเคยเป็นแฟนเขา แล้วก็เด็กคนนั้นเป็นลูกของเธอกับสามีเก่า”

“ใช่” ตีรณายักไหล่ “แต่ที่ทุกคนถูกหลอกก็คือเด็กคนนี้เป็นลูกของสิน”

ณวัฒน์ผ่อนลมหายใจ

“คุณจะแต่งเรื่องหลอกเด็กก็ไปที่อื่นเถอะ”





ดังปัณณ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 17 ส.ค. 2561, 22:58:48 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 17 ส.ค. 2561, 22:58:48 น.

จำนวนการเข้าชม : 732





<< ๑๙ คลางแคลง -จบตอน-   ๒๐ สุดทาง (100%) >>
กาซะลองพลัดถิ่น 18 ส.ค. 2561, 05:07:43 น.
โอ้วว ไปกันใหญ่แล้ว...ขอสวีทหวาน มากกว่าดราม่าเนอะ...


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account