รักรออุ้ม: ทักษิณา (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
ความคึกคะนอง ย่ามใจของเขา กับความอ่อนด้อยประสบการณ์ของเธอ ก่อเกิดหนึ่งชีวิตที่ไม่ตั้งใจขึ้นมา
‘น้องปั้น’ หรือ เด็กชายปกกานต์ หนูน้อยไร้เดียงสาเปรียบดั่งแสงสว่างสาดเข้ามาในชีวิตที่มืดมนของ ‘ปกเกศ’ เธอตั้งใจจะปกป้องลูกน้อยจากทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่เว้นแม้แต่...บิดาแท้ๆ ของแก ซึ่งไม่เคยดีพอในสายตาของเธอด้วยเช่นกัน
‘กานต์ชนก’ ชายหนุ่มทายาทนักธุรกิจคนดัง รูปหล่อพ่อรวยครบสูตรหนุ่มในฝัน แต่นิสัยและพฤติกรรมนั้นค่อนไปในทางฝันร้าย
เขาไม่เคยคิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อใคร จนมาพบกับปกเกศ ผู้หญิงสวยธรรมดาๆ ที่เขาไม่เคยคิดอะไรมากไปกว่า ‘เล่นแล้วทิ้ง’
ทว่าการเล่นกลับเลยเถิด...ก่อเกิดหนูน้อยน่ารัก ที่เหมือนเขาราวกับแกะ เพียงแค่แรกเห็นก็นึกอยากอุ้ม
...แต่ทุกอย่างไม่ใช่เรื่องง่ายเสียแล้ว...
อีกบทพิสูจน์หัวใจ ความรัก และคำว่า ‘ครอบครัว’
แม้เกิดจากความไม่ตั้งใจ แต่ ‘น้องปั้น’ คือดวงใจของแม่ และที่ไม่มีใครรู้เลยก็คือ...เด็กน้อยเป็นแก้วตาของพ่อด้วยเช่นกัน
***************
นิยายเรื่องนี้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ซึ่งถ่ายทอดผ่านปลายปากกา "ทักษิณา" เจ้าของบทประพันธ์นิยายรักสุดแสนน่ารักมากมาย ที่เคยถูกสร้างเป็นละคร ทั้งทางช่อง 3 และช่อง 7 มาแล้วอย่าง #บ่วงอธิฏฐาน #เรือนล้อมรัก กลับมาครั้งนี้ ‘ทักษิณา’ ขอเอาใจแฟนๆ ด้วยนิยายรักโรแมนติกดราม่าที่ #มีลูกเป็นสื่อรัก ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ ใครสายนี้รับรองว่าต้องโดนใจกับความน่ารักน่าหยิกของ ‘น้องปั้น’ ใน ‘รักรออุ้ม’ อย่างแน่นอนจ้า พ่วงด้วยความร้ายกาจ เอาแต่ใจ และความเจ้าเล่ห์ของว่าที่คุณพ่อมือใหม่อย่าง ‘กานต์ชนก’ ! พูดเลยทั้งฟิน+ดราม่า ตะเตือนไต #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 3 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านนิยายออนไลน์ ได้แก่ ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbooktogothailand และร้านขายการ์ตูนบงกช-หมึกจีน-นิยาย บาร์บี้บิวตี้
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
**หนังสือพร้อมส่ง**
คุ้มสุดด้วยจำนวน 521 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ 4 ตอนท้ายเล่มหวานฟินเต็มอิ่มจุใจ!)
ราคา: 365฿ (จากปก 395฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 410฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 435฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
‘น้องปั้น’ หรือ เด็กชายปกกานต์ หนูน้อยไร้เดียงสาเปรียบดั่งแสงสว่างสาดเข้ามาในชีวิตที่มืดมนของ ‘ปกเกศ’ เธอตั้งใจจะปกป้องลูกน้อยจากทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่เว้นแม้แต่...บิดาแท้ๆ ของแก ซึ่งไม่เคยดีพอในสายตาของเธอด้วยเช่นกัน
‘กานต์ชนก’ ชายหนุ่มทายาทนักธุรกิจคนดัง รูปหล่อพ่อรวยครบสูตรหนุ่มในฝัน แต่นิสัยและพฤติกรรมนั้นค่อนไปในทางฝันร้าย
เขาไม่เคยคิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อใคร จนมาพบกับปกเกศ ผู้หญิงสวยธรรมดาๆ ที่เขาไม่เคยคิดอะไรมากไปกว่า ‘เล่นแล้วทิ้ง’
ทว่าการเล่นกลับเลยเถิด...ก่อเกิดหนูน้อยน่ารัก ที่เหมือนเขาราวกับแกะ เพียงแค่แรกเห็นก็นึกอยากอุ้ม
...แต่ทุกอย่างไม่ใช่เรื่องง่ายเสียแล้ว...
อีกบทพิสูจน์หัวใจ ความรัก และคำว่า ‘ครอบครัว’
แม้เกิดจากความไม่ตั้งใจ แต่ ‘น้องปั้น’ คือดวงใจของแม่ และที่ไม่มีใครรู้เลยก็คือ...เด็กน้อยเป็นแก้วตาของพ่อด้วยเช่นกัน
***************
นิยายเรื่องนี้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ซึ่งถ่ายทอดผ่านปลายปากกา "ทักษิณา" เจ้าของบทประพันธ์นิยายรักสุดแสนน่ารักมากมาย ที่เคยถูกสร้างเป็นละคร ทั้งทางช่อง 3 และช่อง 7 มาแล้วอย่าง #บ่วงอธิฏฐาน #เรือนล้อมรัก กลับมาครั้งนี้ ‘ทักษิณา’ ขอเอาใจแฟนๆ ด้วยนิยายรักโรแมนติกดราม่าที่ #มีลูกเป็นสื่อรัก ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ ใครสายนี้รับรองว่าต้องโดนใจกับความน่ารักน่าหยิกของ ‘น้องปั้น’ ใน ‘รักรออุ้ม’ อย่างแน่นอนจ้า พ่วงด้วยความร้ายกาจ เอาแต่ใจ และความเจ้าเล่ห์ของว่าที่คุณพ่อมือใหม่อย่าง ‘กานต์ชนก’ ! พูดเลยทั้งฟิน+ดราม่า ตะเตือนไต #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 3 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านนิยายออนไลน์ ได้แก่ ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbooktogothailand และร้านขายการ์ตูนบงกช-หมึกจีน-นิยาย บาร์บี้บิวตี้
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
**หนังสือพร้อมส่ง**
คุ้มสุดด้วยจำนวน 521 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ 4 ตอนท้ายเล่มหวานฟินเต็มอิ่มจุใจ!)
ราคา: 365฿ (จากปก 395฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 410฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 435฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
Tags: ลูก ครอบครัว ดราม่า โรแมนติก ท้อง
ตอน: บทที่ 9 -50% + หนังสือพร้อมส่ง!
เดิมทีสำหรับปกเกศ โลกใบนี้ของเธอมันหม่นมัวตั้งแต่วันที่มารดาสิ้นลมหายใจไปเมื่อสิบปีก่อนนั่นแล้ว
โลกนี้ไม่มีสีสันสวยงามเหมือนอย่างเคย เพราะหัวใจเหมือนด้านชาไปส่วนหนึ่ง แต่ก็ยังมีบิดาที่เป็นเหมือนโลกอีกใบของเธออยู่...จนห้าปีก่อน โลกอีกใบของเธอก็เลือนหายไป
ชีวิตทุกวันของเธอจึงหมดไปกับการเรียนและการทำงานเพื่อที่จะได้ไม่ต้องคิดมาก เธอยังคงมีความหวังว่าจะได้พบบิดาที่หายตัวไปเมื่อห้าปีก่อน...ตราบใดที่ยังไม่พบศพของบิดา ชีวิตของเธอก็ยังมีความหวัง
ทว่าวันนี้ ชีวิตของปกเกศกลับถึงจุดพลิกผันสำคัญอีกครั้ง...เป็นจุดเปลี่ยนอย่างชนิดที่ไม่มีวันย้อนกลับได้อีกต่อไป
“นี่ อย่าเอาแต่เดินหนีสิ คุยกันให้รู้เรื่องก่อน เกศ!!”
ธีรไนยกำลังเครียดมาก...สาเหตุไม่ได้มาจากตัวเขาเอง แต่เป็นเพราะหญิงสาวร่างบอบบางในชุดเอี๊ยมขาสั้นดูทะมัดทะแมงน่าเอ็นดู เหมือนเด็กสาวแรกรุ่นอายุไม่น่าจะเกินยี่สิบปี ทั้งที่เจ้าตัวบรรลุนิติภาวะไปแล้วเมื่อสองเดือนก่อน
เจ้าของ ‘ข่าวใหญ่’ ที่เขาเพิ่งรู้มาไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้
“เกศรู้...พี่ไนยจะด่าเกศใช่ไหม”
เจ้าของใบหน้าหวาน ปากนิดจมูกหน่อยน่าเอ็นดู โดยเฉพาะดวงตากลมโตที่ดูซื่อ จริงใจ เวลานี้ช่างหม่นเศร้าเหมือนดวงดาวอับแสง
ธีรไนยขบกรามแน่น...เห็นน้องเจ็บ เขาก็เจ็บตามไปด้วย
“เรื่องมันเกิดวันนั้นใช่ไหม ที่เกศบอกว่าไปค้างคืนบ้านเพื่อน?”
เขาคาดเดาเสียงราบเรียบ แต่ทว่าใบหน้าเครียดขรึม ดวงตาเรียวจริงจังคาดคั้น
คนถูกถามไม่ยอมตอบ แต่หันกลับไปก้มหน้าก้มตาเดินจ้ำเอาๆ รู้สึกปวดหนึบที่ศีรษะ หัวใจก็เต้นเร็วจนผิดปกติ
เธอไม่อยากนึกถึง ‘คืนนั้น’ ไม่อยากเลย แต่ก็เพราะคืนนั้น จึงมีวันนี้...
“แล้วเกศจะเอายังไงต่อไป เกศยังเรียนไม่จบเลย รู้หรือเปล่าว่าจะต้องเจอกับอะไรบ้าง” ธีรไนยเดินตามมา น้ำเสียงของเขาเป็นกังวลและห่วงใย หญิงสาวซาบซึ้งกับความห่วงใยที่ธีรไนยมอบให้ ขนาดนี้เขาก็ยังไม่ว่าเธอสักคำ
แต่เธอก็ยังตอบเขาไม่ได้ ปกเกศต้องการเวลาตัดสินใจ
นี่เป็นเรื่องใหญ่ที่สุดในชีวิตเธออีกครั้งหนึ่ง นับตั้งแต่ที่เสียมารดาไปเมื่อสิบปีก่อน และบิดาก็มาหายตัวไปเมื่อห้าปีที่แล้ว
“ถ้าเกศ...เอาออก...พี่ไนยจะว่าเกศใจร้ายไหม” ปกเกศลองเอ่ยถามดู เสียงเบา ดวงตาคู่สวยยังจ้องมองพื้นทางเดินปูลาดด้วยแผ่นคอนกรีตเป็นตารางสี่เหลี่ยมจัตุรัสอย่างครุ่นคิด
อีกฝ่ายเงียบไป ก่อนตอบอย่างระมัดระวังเช่นกัน
“ถ้าเกศไม่ไหวจริงๆ พี่ก็ไม่ว่าอะไรเราหรอก” เขายกมือลูบศีรษะทุย ผมยาวเคลียไหล่ของเธอนุ่มสลวย ละมุนมือ “แต่พี่อยากให้เกศคิดให้ดีก่อน ถ้าทำไปแล้วต้องเสียใจไปตลอดชีวิต พี่ว่า...มันไม่คุ้มหรอก”
“เกศรู้ค่ะพี่ไนย...แต่มันกะทันหันจริงๆ เกศยังคิดอะไรไม่ออก...” เธอเปรยเสียงแผ่วเบา ไม่อยากขยายความให้ธีรไนยใจเสียตามไปด้วยอีกคน ตอนนี้เธอแทบไม่มีเรี่ยวแรงจะเดินด้วยซ้ำ เนื้อตัวเบาหวิวไปหมด
ในหัวสมองมืดทึบ เหมือนคนเดินคลำทางอยู่ท่ามกลางความมืดมิด
ไม่รู้จะไปทางไหน...ไม่รู้ควรทำเช่นไร...มันมืดมนไปหมด!
สถานะของเธอทุกวันนี้ ก็ไม่ต่างอะไรกับเด็กกำพร้าที่ได้รับความอุปการะจากอาวสินและธีรไนย ทั้งสองคอยจุนเจือช่วยเหลือทุกอย่าง ขณะที่ตัวเธอเองก็ทำงานพิเศษตอนเย็นหลังเลิกเรียนกับวันหยุดเสาร์อาทิตย์ แทบไม่มีเวลาอ่านหนังสือเรียนอยู่แล้ว หากต้องมารับภาระเพิ่มอีกหนึ่งชีวิต...จะทำอย่างไรดี
แวบหนึ่ง ใบหน้าคมเข้ม ดวงตาคมกริบสีดำสนิท ดูมีอำนาจของใครคนนั้นผ่านแวบเข้ามาในหัวสมองที่มืดทึบ
กานต์ชนก ธรรมธาดา นักธุรกิจหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรง ทายาทคนเดียวของคุณก่อกิจ ธรรมธาดา เจ้าของบริษัทธรรมธาดาแอดเวอร์ไทซิ่ง บริษัทผลิตงานโฆษณาอันดับต้นๆ ของเมืองไทย
เธอเคยเห็นเขาตามหน้าหนังสือพิมพ์ กานต์ชนกรูปร่างหน้าตาดีมาก เขาเป็นที่สนใจในแวดวงสื่อสังคมชั้นสูงอยู่แล้ว...ตอนแรกปกเกศไม่คิดว่าเขาจะเป็นคนเดียวกับที่เธอเคยเห็นในหน้าข่าวสังคม แต่มาแน่ใจก็เมื่อได้เห็นนามสกุลของเขาบนกระดาษเช็คในเช้าวันนั้น...
เธอไม่ได้ตาโตเพราะเขาเป็นคนรวยและโด่งดัง ปกเกศรู้ว่าคนระดับนี้ไม่มีทางมาสนใจผู้หญิงธรรมดาแบบเธอ
เท่าที่รู้มา กานต์ชนกก็มีว่าที่คู่หมั้นอยู่แล้ว แต่เขาก็ยังมาเที่ยวสถานบันเทิงยามค่ำคืน หิ้วสาวสวยมากหน้าหลายตาไปต่อหลังร้านปิดอยู่บ่อยๆ
หากย้อนเวลากลับไปได้ เธอจะไม่เข้าไปข้องเกี่ยวหรือเฉียดใกล้สถานบันเทิงยามค่ำคืนนั่น...เธอจะไม่มีวันเดินเข้าไปสู่หายนะของชีวิตอย่างที่ผ่านมา...
หญิงสาวร้อนผ่าวที่กระบอกตา ต้องกะพริบตาถี่ๆ ไล่ละอองน้ำที่เริ่มก่อตัวเพิ่มมากขึ้น มือเล็กเรียวยกขึ้นลูบหน้าท้องแบนราบของตัวเองแผ่วเบา กิริยาทะนุถนอมโดยไม่รู้ตัว
หายนะหรือ...
ใช่...ชีวิตของเธอตอนนี้มันเข้าขั้นวิกฤติ หายนะของจริง หากเธอไม่ทำอะไรสักอย่างกับเด็กคนนี้...
*************
“ว่าไงนะคะ...ทะ...ท้อง...!?”
นวินดาร้องเสียงหลง อ้าปากค้าง เช่นเดียวกับวสินที่หน้าถอดสีไปเหมือนกันทันทีที่ได้ยินหลานสาวสารภาพความจริงออกมาจากปาก
วสินมึนงงไม่ต่างจากถูกหมัดลุ่นๆ ฟาดใส่หลายทีซ้อน มันเป็นเรื่องเหลือเชื่ออย่างที่สุด ไม่น่าเป็นไปได้เลย สำหรับเขามันช่างไม่ต่างจากเห็นพระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกเลยด้วยซ้ำ
“จริงเหรอ...นี่ไม่ได้ล้อกันเล่นใช่ไหม...เรื่องจริงเหรอ?” วสินคราง ยังไม่อยากเชื่ออยู่ดี จนลูกชายต้องยืนยันอีกครั้ง
“เรื่องจริงครับพ่อ” ธีรไนยพยักหน้าช้าๆ แต่มั่นคง เท่านั้นเอง ทั้งสามคนพ่อลูกในห้องก็ต่างเงียบงัน
ปกเกศเองก็ได้แต่ก้มหน้านิ่งเงียบ สำนึกผิด รู้ว่าได้ทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจที่ทุกคนมีให้เธอเสมอมา พังทลายไปจนหมดสิ้นแล้ว
ทั้งหมดเป็นความผิดของเธอคนเดียว...
“เกศขอโทษค่ะอา...เกศไม่ดีเอง ทำให้ทุกคนต้องอับอาย...ขอโทษนะคะ หนูขอโทษ...”
เสียงเล็กๆ แหบเครือ ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบงันที่น่าอึดอัด วสินถึงกับเบือนหน้าไปทางอื่น ยังทำใจยอมรับไม่ได้ แม้รู้ทั้งรู้ว่าหลานสาวกำลังเฝ้ามองมาอย่างรอคอย
อาวสินเกลียดเธอแล้ว...
“เกศจะย้ายไปอยู่ข้างนอกค่ะ ทุกคนจะได้ไม่ต้องอับอาย...เกศขอโทษจริงๆ อย่าเกลียดเกศเลยนะคะ...” หญิงสาวแข็งใจพูดต่อ จากนั้นจึงยกมือไหว้วสิน น้ำตาไหลพรากอาบแก้มนวลลออเปียกปอน
นวินดาเห็นแล้วก็พลอยน้ำตาไหลตามไปด้วย
บิดาของเธอยังคงเอาแต่เมินหน้าหนีไปทางอื่นแล้วนิ่งเงียบ ไม่ปริปากเอ่ยคำใด เธอเดาความคิดของท่านไม่ออก แต่ก็รู้ว่าบิดาคงเจ็บปวดไม่แพ้กัน...สำหรับบิดาแล้ว พี่เกศก็เหมือนลูกสาวอีกคนหนึ่งของท่าน
“รู้ว่ามันผิดแล้วทำทำไม ก่อนทำไม่คิด...ตอนนี้มาขอโทษมันได้ประโยชน์อะไร อาไม่คิดเลยว่าเกศจะทำตัวน่าผิดหวังได้ขนาดนี้...”
วสินระบายความเจ็บปวดออกมาบ้าง น้ำตาลูกผู้ชายปริ่มคลอหน่วยตา...เสียใจที่เขาดูแลหลานสาวไม่ดีพอ
ปากเขาบอกว่าเอ็นดูปกเกศเหมือนลูกสาวแท้ๆ ของเขาคนหนึ่ง แต่ความเป็นจริงเขากลับปล่อยปละละเลยอีกฝ่ายให้ต้องผจญกับชะตากรรมอันเลวร้าย โดยไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้เลย
“เกศเสียใจที่ทำให้อาวสิน น้องดา แล้วก็พี่ไนยผิดหวัง...เกศขอรับผิดชอบสิ่งที่เกศทำลงไป จะไม่ให้ใครเดือดร้อนไปด้วย...เกศจะรีบย้ายออกจากบ้านนี้ให้เร็วที่สุดค่ะ” ปกเกศเอ่ยเสียงเครือเจือสะอื้น น้ำตาท่วมท้น
************
โอ๊ยๆ สงสารหนูเกศ เป็นความผิดที่เธอไม่ได้ก่อ ฮือ
แจ้งข่าวด้วยจ้านักอ่านทุกท่าน หนังสือรักรออุ้มพร้อมส่งแล้วนะคะ ทีมงานช่วยกันแพ็กสุดฤทธิ์เพื่อนักอ่านทุกท่านจ้า55555 รอรับกันได้เลยน้าาา เริ่มทยอยส่งตั้งแต่เมื่อวานแล้วค่ะ (เหตุนี้เลยมาลงนิยายช้า แหะๆ)
ใครสนใจสั่งจองในราคาพิเศษ ยังได้ถึง 16 กันยายนนี้นะคะ หนังสือพร้อมส่งทันที ฉะนั้นเหมือนสั่งซื้อในราคาพิเศษนั่นเองจ้า
ในเล่มมีที่คั่นกับโปสการ์ดปลายปากกาให้โดยเฉพาะสำหรับนักอ่านที่สั่งซื้อกับสนพ.โดยตรงนะคะ>///<
เล่มสวย น่ารัก และ...หนามากๆค่ะ เต็มอิ่มจุใจสุดๆ
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
โลกนี้ไม่มีสีสันสวยงามเหมือนอย่างเคย เพราะหัวใจเหมือนด้านชาไปส่วนหนึ่ง แต่ก็ยังมีบิดาที่เป็นเหมือนโลกอีกใบของเธออยู่...จนห้าปีก่อน โลกอีกใบของเธอก็เลือนหายไป
ชีวิตทุกวันของเธอจึงหมดไปกับการเรียนและการทำงานเพื่อที่จะได้ไม่ต้องคิดมาก เธอยังคงมีความหวังว่าจะได้พบบิดาที่หายตัวไปเมื่อห้าปีก่อน...ตราบใดที่ยังไม่พบศพของบิดา ชีวิตของเธอก็ยังมีความหวัง
ทว่าวันนี้ ชีวิตของปกเกศกลับถึงจุดพลิกผันสำคัญอีกครั้ง...เป็นจุดเปลี่ยนอย่างชนิดที่ไม่มีวันย้อนกลับได้อีกต่อไป
“นี่ อย่าเอาแต่เดินหนีสิ คุยกันให้รู้เรื่องก่อน เกศ!!”
ธีรไนยกำลังเครียดมาก...สาเหตุไม่ได้มาจากตัวเขาเอง แต่เป็นเพราะหญิงสาวร่างบอบบางในชุดเอี๊ยมขาสั้นดูทะมัดทะแมงน่าเอ็นดู เหมือนเด็กสาวแรกรุ่นอายุไม่น่าจะเกินยี่สิบปี ทั้งที่เจ้าตัวบรรลุนิติภาวะไปแล้วเมื่อสองเดือนก่อน
เจ้าของ ‘ข่าวใหญ่’ ที่เขาเพิ่งรู้มาไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้
“เกศรู้...พี่ไนยจะด่าเกศใช่ไหม”
เจ้าของใบหน้าหวาน ปากนิดจมูกหน่อยน่าเอ็นดู โดยเฉพาะดวงตากลมโตที่ดูซื่อ จริงใจ เวลานี้ช่างหม่นเศร้าเหมือนดวงดาวอับแสง
ธีรไนยขบกรามแน่น...เห็นน้องเจ็บ เขาก็เจ็บตามไปด้วย
“เรื่องมันเกิดวันนั้นใช่ไหม ที่เกศบอกว่าไปค้างคืนบ้านเพื่อน?”
เขาคาดเดาเสียงราบเรียบ แต่ทว่าใบหน้าเครียดขรึม ดวงตาเรียวจริงจังคาดคั้น
คนถูกถามไม่ยอมตอบ แต่หันกลับไปก้มหน้าก้มตาเดินจ้ำเอาๆ รู้สึกปวดหนึบที่ศีรษะ หัวใจก็เต้นเร็วจนผิดปกติ
เธอไม่อยากนึกถึง ‘คืนนั้น’ ไม่อยากเลย แต่ก็เพราะคืนนั้น จึงมีวันนี้...
“แล้วเกศจะเอายังไงต่อไป เกศยังเรียนไม่จบเลย รู้หรือเปล่าว่าจะต้องเจอกับอะไรบ้าง” ธีรไนยเดินตามมา น้ำเสียงของเขาเป็นกังวลและห่วงใย หญิงสาวซาบซึ้งกับความห่วงใยที่ธีรไนยมอบให้ ขนาดนี้เขาก็ยังไม่ว่าเธอสักคำ
แต่เธอก็ยังตอบเขาไม่ได้ ปกเกศต้องการเวลาตัดสินใจ
นี่เป็นเรื่องใหญ่ที่สุดในชีวิตเธออีกครั้งหนึ่ง นับตั้งแต่ที่เสียมารดาไปเมื่อสิบปีก่อน และบิดาก็มาหายตัวไปเมื่อห้าปีที่แล้ว
“ถ้าเกศ...เอาออก...พี่ไนยจะว่าเกศใจร้ายไหม” ปกเกศลองเอ่ยถามดู เสียงเบา ดวงตาคู่สวยยังจ้องมองพื้นทางเดินปูลาดด้วยแผ่นคอนกรีตเป็นตารางสี่เหลี่ยมจัตุรัสอย่างครุ่นคิด
อีกฝ่ายเงียบไป ก่อนตอบอย่างระมัดระวังเช่นกัน
“ถ้าเกศไม่ไหวจริงๆ พี่ก็ไม่ว่าอะไรเราหรอก” เขายกมือลูบศีรษะทุย ผมยาวเคลียไหล่ของเธอนุ่มสลวย ละมุนมือ “แต่พี่อยากให้เกศคิดให้ดีก่อน ถ้าทำไปแล้วต้องเสียใจไปตลอดชีวิต พี่ว่า...มันไม่คุ้มหรอก”
“เกศรู้ค่ะพี่ไนย...แต่มันกะทันหันจริงๆ เกศยังคิดอะไรไม่ออก...” เธอเปรยเสียงแผ่วเบา ไม่อยากขยายความให้ธีรไนยใจเสียตามไปด้วยอีกคน ตอนนี้เธอแทบไม่มีเรี่ยวแรงจะเดินด้วยซ้ำ เนื้อตัวเบาหวิวไปหมด
ในหัวสมองมืดทึบ เหมือนคนเดินคลำทางอยู่ท่ามกลางความมืดมิด
ไม่รู้จะไปทางไหน...ไม่รู้ควรทำเช่นไร...มันมืดมนไปหมด!
สถานะของเธอทุกวันนี้ ก็ไม่ต่างอะไรกับเด็กกำพร้าที่ได้รับความอุปการะจากอาวสินและธีรไนย ทั้งสองคอยจุนเจือช่วยเหลือทุกอย่าง ขณะที่ตัวเธอเองก็ทำงานพิเศษตอนเย็นหลังเลิกเรียนกับวันหยุดเสาร์อาทิตย์ แทบไม่มีเวลาอ่านหนังสือเรียนอยู่แล้ว หากต้องมารับภาระเพิ่มอีกหนึ่งชีวิต...จะทำอย่างไรดี
แวบหนึ่ง ใบหน้าคมเข้ม ดวงตาคมกริบสีดำสนิท ดูมีอำนาจของใครคนนั้นผ่านแวบเข้ามาในหัวสมองที่มืดทึบ
กานต์ชนก ธรรมธาดา นักธุรกิจหนุ่มรุ่นใหม่ไฟแรง ทายาทคนเดียวของคุณก่อกิจ ธรรมธาดา เจ้าของบริษัทธรรมธาดาแอดเวอร์ไทซิ่ง บริษัทผลิตงานโฆษณาอันดับต้นๆ ของเมืองไทย
เธอเคยเห็นเขาตามหน้าหนังสือพิมพ์ กานต์ชนกรูปร่างหน้าตาดีมาก เขาเป็นที่สนใจในแวดวงสื่อสังคมชั้นสูงอยู่แล้ว...ตอนแรกปกเกศไม่คิดว่าเขาจะเป็นคนเดียวกับที่เธอเคยเห็นในหน้าข่าวสังคม แต่มาแน่ใจก็เมื่อได้เห็นนามสกุลของเขาบนกระดาษเช็คในเช้าวันนั้น...
เธอไม่ได้ตาโตเพราะเขาเป็นคนรวยและโด่งดัง ปกเกศรู้ว่าคนระดับนี้ไม่มีทางมาสนใจผู้หญิงธรรมดาแบบเธอ
เท่าที่รู้มา กานต์ชนกก็มีว่าที่คู่หมั้นอยู่แล้ว แต่เขาก็ยังมาเที่ยวสถานบันเทิงยามค่ำคืน หิ้วสาวสวยมากหน้าหลายตาไปต่อหลังร้านปิดอยู่บ่อยๆ
หากย้อนเวลากลับไปได้ เธอจะไม่เข้าไปข้องเกี่ยวหรือเฉียดใกล้สถานบันเทิงยามค่ำคืนนั่น...เธอจะไม่มีวันเดินเข้าไปสู่หายนะของชีวิตอย่างที่ผ่านมา...
หญิงสาวร้อนผ่าวที่กระบอกตา ต้องกะพริบตาถี่ๆ ไล่ละอองน้ำที่เริ่มก่อตัวเพิ่มมากขึ้น มือเล็กเรียวยกขึ้นลูบหน้าท้องแบนราบของตัวเองแผ่วเบา กิริยาทะนุถนอมโดยไม่รู้ตัว
หายนะหรือ...
ใช่...ชีวิตของเธอตอนนี้มันเข้าขั้นวิกฤติ หายนะของจริง หากเธอไม่ทำอะไรสักอย่างกับเด็กคนนี้...
*************
“ว่าไงนะคะ...ทะ...ท้อง...!?”
นวินดาร้องเสียงหลง อ้าปากค้าง เช่นเดียวกับวสินที่หน้าถอดสีไปเหมือนกันทันทีที่ได้ยินหลานสาวสารภาพความจริงออกมาจากปาก
วสินมึนงงไม่ต่างจากถูกหมัดลุ่นๆ ฟาดใส่หลายทีซ้อน มันเป็นเรื่องเหลือเชื่ออย่างที่สุด ไม่น่าเป็นไปได้เลย สำหรับเขามันช่างไม่ต่างจากเห็นพระอาทิตย์ขึ้นทางทิศตะวันตกเลยด้วยซ้ำ
“จริงเหรอ...นี่ไม่ได้ล้อกันเล่นใช่ไหม...เรื่องจริงเหรอ?” วสินคราง ยังไม่อยากเชื่ออยู่ดี จนลูกชายต้องยืนยันอีกครั้ง
“เรื่องจริงครับพ่อ” ธีรไนยพยักหน้าช้าๆ แต่มั่นคง เท่านั้นเอง ทั้งสามคนพ่อลูกในห้องก็ต่างเงียบงัน
ปกเกศเองก็ได้แต่ก้มหน้านิ่งเงียบ สำนึกผิด รู้ว่าได้ทำลายความไว้เนื้อเชื่อใจที่ทุกคนมีให้เธอเสมอมา พังทลายไปจนหมดสิ้นแล้ว
ทั้งหมดเป็นความผิดของเธอคนเดียว...
“เกศขอโทษค่ะอา...เกศไม่ดีเอง ทำให้ทุกคนต้องอับอาย...ขอโทษนะคะ หนูขอโทษ...”
เสียงเล็กๆ แหบเครือ ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบงันที่น่าอึดอัด วสินถึงกับเบือนหน้าไปทางอื่น ยังทำใจยอมรับไม่ได้ แม้รู้ทั้งรู้ว่าหลานสาวกำลังเฝ้ามองมาอย่างรอคอย
อาวสินเกลียดเธอแล้ว...
“เกศจะย้ายไปอยู่ข้างนอกค่ะ ทุกคนจะได้ไม่ต้องอับอาย...เกศขอโทษจริงๆ อย่าเกลียดเกศเลยนะคะ...” หญิงสาวแข็งใจพูดต่อ จากนั้นจึงยกมือไหว้วสิน น้ำตาไหลพรากอาบแก้มนวลลออเปียกปอน
นวินดาเห็นแล้วก็พลอยน้ำตาไหลตามไปด้วย
บิดาของเธอยังคงเอาแต่เมินหน้าหนีไปทางอื่นแล้วนิ่งเงียบ ไม่ปริปากเอ่ยคำใด เธอเดาความคิดของท่านไม่ออก แต่ก็รู้ว่าบิดาคงเจ็บปวดไม่แพ้กัน...สำหรับบิดาแล้ว พี่เกศก็เหมือนลูกสาวอีกคนหนึ่งของท่าน
“รู้ว่ามันผิดแล้วทำทำไม ก่อนทำไม่คิด...ตอนนี้มาขอโทษมันได้ประโยชน์อะไร อาไม่คิดเลยว่าเกศจะทำตัวน่าผิดหวังได้ขนาดนี้...”
วสินระบายความเจ็บปวดออกมาบ้าง น้ำตาลูกผู้ชายปริ่มคลอหน่วยตา...เสียใจที่เขาดูแลหลานสาวไม่ดีพอ
ปากเขาบอกว่าเอ็นดูปกเกศเหมือนลูกสาวแท้ๆ ของเขาคนหนึ่ง แต่ความเป็นจริงเขากลับปล่อยปละละเลยอีกฝ่ายให้ต้องผจญกับชะตากรรมอันเลวร้าย โดยไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้เลย
“เกศเสียใจที่ทำให้อาวสิน น้องดา แล้วก็พี่ไนยผิดหวัง...เกศขอรับผิดชอบสิ่งที่เกศทำลงไป จะไม่ให้ใครเดือดร้อนไปด้วย...เกศจะรีบย้ายออกจากบ้านนี้ให้เร็วที่สุดค่ะ” ปกเกศเอ่ยเสียงเครือเจือสะอื้น น้ำตาท่วมท้น
************
โอ๊ยๆ สงสารหนูเกศ เป็นความผิดที่เธอไม่ได้ก่อ ฮือ
แจ้งข่าวด้วยจ้านักอ่านทุกท่าน หนังสือรักรออุ้มพร้อมส่งแล้วนะคะ ทีมงานช่วยกันแพ็กสุดฤทธิ์เพื่อนักอ่านทุกท่านจ้า55555 รอรับกันได้เลยน้าาา เริ่มทยอยส่งตั้งแต่เมื่อวานแล้วค่ะ (เหตุนี้เลยมาลงนิยายช้า แหะๆ)
ใครสนใจสั่งจองในราคาพิเศษ ยังได้ถึง 16 กันยายนนี้นะคะ หนังสือพร้อมส่งทันที ฉะนั้นเหมือนสั่งซื้อในราคาพิเศษนั่นเองจ้า
ในเล่มมีที่คั่นกับโปสการ์ดปลายปากกาให้โดยเฉพาะสำหรับนักอ่านที่สั่งซื้อกับสนพ.โดยตรงนะคะ>///<
เล่มสวย น่ารัก และ...หนามากๆค่ะ เต็มอิ่มจุใจสุดๆ
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์ เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 13 ก.ย. 2561, 09:28:07 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 13 ก.ย. 2561, 09:34:38 น.
จำนวนการเข้าชม : 550
| << บทที่ 8 -100% | บทที่ 9 -100% >> |