รักรออุ้ม: ทักษิณา (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
ความคึกคะนอง ย่ามใจของเขา กับความอ่อนด้อยประสบการณ์ของเธอ ก่อเกิดหนึ่งชีวิตที่ไม่ตั้งใจขึ้นมา
‘น้องปั้น’ หรือ เด็กชายปกกานต์ หนูน้อยไร้เดียงสาเปรียบดั่งแสงสว่างสาดเข้ามาในชีวิตที่มืดมนของ ‘ปกเกศ’ เธอตั้งใจจะปกป้องลูกน้อยจากทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่เว้นแม้แต่...บิดาแท้ๆ ของแก ซึ่งไม่เคยดีพอในสายตาของเธอด้วยเช่นกัน
‘กานต์ชนก’ ชายหนุ่มทายาทนักธุรกิจคนดัง รูปหล่อพ่อรวยครบสูตรหนุ่มในฝัน แต่นิสัยและพฤติกรรมนั้นค่อนไปในทางฝันร้าย
เขาไม่เคยคิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อใคร จนมาพบกับปกเกศ ผู้หญิงสวยธรรมดาๆ ที่เขาไม่เคยคิดอะไรมากไปกว่า ‘เล่นแล้วทิ้ง’
ทว่าการเล่นกลับเลยเถิด...ก่อเกิดหนูน้อยน่ารัก ที่เหมือนเขาราวกับแกะ เพียงแค่แรกเห็นก็นึกอยากอุ้ม
...แต่ทุกอย่างไม่ใช่เรื่องง่ายเสียแล้ว...
อีกบทพิสูจน์หัวใจ ความรัก และคำว่า ‘ครอบครัว’
แม้เกิดจากความไม่ตั้งใจ แต่ ‘น้องปั้น’ คือดวงใจของแม่ และที่ไม่มีใครรู้เลยก็คือ...เด็กน้อยเป็นแก้วตาของพ่อด้วยเช่นกัน
***************
นิยายเรื่องนี้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ซึ่งถ่ายทอดผ่านปลายปากกา "ทักษิณา" เจ้าของบทประพันธ์นิยายรักสุดแสนน่ารักมากมาย ที่เคยถูกสร้างเป็นละคร ทั้งทางช่อง 3 และช่อง 7 มาแล้วอย่าง #บ่วงอธิฏฐาน #เรือนล้อมรัก กลับมาครั้งนี้ ‘ทักษิณา’ ขอเอาใจแฟนๆ ด้วยนิยายรักโรแมนติกดราม่าที่ #มีลูกเป็นสื่อรัก ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ ใครสายนี้รับรองว่าต้องโดนใจกับความน่ารักน่าหยิกของ ‘น้องปั้น’ ใน ‘รักรออุ้ม’ อย่างแน่นอนจ้า พ่วงด้วยความร้ายกาจ เอาแต่ใจ และความเจ้าเล่ห์ของว่าที่คุณพ่อมือใหม่อย่าง ‘กานต์ชนก’ ! พูดเลยทั้งฟิน+ดราม่า ตะเตือนไต #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 3 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านนิยายออนไลน์ ได้แก่ ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbooktogothailand และร้านขายการ์ตูนบงกช-หมึกจีน-นิยาย บาร์บี้บิวตี้
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
**หนังสือพร้อมส่ง**
คุ้มสุดด้วยจำนวน 521 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ 4 ตอนท้ายเล่มหวานฟินเต็มอิ่มจุใจ!)
ราคา: 365฿ (จากปก 395฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 410฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 435฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
‘น้องปั้น’ หรือ เด็กชายปกกานต์ หนูน้อยไร้เดียงสาเปรียบดั่งแสงสว่างสาดเข้ามาในชีวิตที่มืดมนของ ‘ปกเกศ’ เธอตั้งใจจะปกป้องลูกน้อยจากทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่เว้นแม้แต่...บิดาแท้ๆ ของแก ซึ่งไม่เคยดีพอในสายตาของเธอด้วยเช่นกัน
‘กานต์ชนก’ ชายหนุ่มทายาทนักธุรกิจคนดัง รูปหล่อพ่อรวยครบสูตรหนุ่มในฝัน แต่นิสัยและพฤติกรรมนั้นค่อนไปในทางฝันร้าย
เขาไม่เคยคิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อใคร จนมาพบกับปกเกศ ผู้หญิงสวยธรรมดาๆ ที่เขาไม่เคยคิดอะไรมากไปกว่า ‘เล่นแล้วทิ้ง’
ทว่าการเล่นกลับเลยเถิด...ก่อเกิดหนูน้อยน่ารัก ที่เหมือนเขาราวกับแกะ เพียงแค่แรกเห็นก็นึกอยากอุ้ม
...แต่ทุกอย่างไม่ใช่เรื่องง่ายเสียแล้ว...
อีกบทพิสูจน์หัวใจ ความรัก และคำว่า ‘ครอบครัว’
แม้เกิดจากความไม่ตั้งใจ แต่ ‘น้องปั้น’ คือดวงใจของแม่ และที่ไม่มีใครรู้เลยก็คือ...เด็กน้อยเป็นแก้วตาของพ่อด้วยเช่นกัน
***************
นิยายเรื่องนี้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ซึ่งถ่ายทอดผ่านปลายปากกา "ทักษิณา" เจ้าของบทประพันธ์นิยายรักสุดแสนน่ารักมากมาย ที่เคยถูกสร้างเป็นละคร ทั้งทางช่อง 3 และช่อง 7 มาแล้วอย่าง #บ่วงอธิฏฐาน #เรือนล้อมรัก กลับมาครั้งนี้ ‘ทักษิณา’ ขอเอาใจแฟนๆ ด้วยนิยายรักโรแมนติกดราม่าที่ #มีลูกเป็นสื่อรัก ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ ใครสายนี้รับรองว่าต้องโดนใจกับความน่ารักน่าหยิกของ ‘น้องปั้น’ ใน ‘รักรออุ้ม’ อย่างแน่นอนจ้า พ่วงด้วยความร้ายกาจ เอาแต่ใจ และความเจ้าเล่ห์ของว่าที่คุณพ่อมือใหม่อย่าง ‘กานต์ชนก’ ! พูดเลยทั้งฟิน+ดราม่า ตะเตือนไต #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 3 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านนิยายออนไลน์ ได้แก่ ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbooktogothailand และร้านขายการ์ตูนบงกช-หมึกจีน-นิยาย บาร์บี้บิวตี้
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
**หนังสือพร้อมส่ง**
คุ้มสุดด้วยจำนวน 521 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ 4 ตอนท้ายเล่มหวานฟินเต็มอิ่มจุใจ!)
ราคา: 365฿ (จากปก 395฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 410฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 435฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
Tags: ลูก ครอบครัว ดราม่า โรแมนติก ท้อง
ตอน: บทที่ 9 -100%
“พี่เกศจะไปไหน ไม่เอา น้องดาไม่ให้พี่เกศไปไหนนะ...พ่อขา พ่อห้ามพี่เกศเร็ว หนูไม่ให้พี่เกศไปไหนนะคะ!” นวินดาตามเข้าไปนั่งบนโซฟาตัวเดียวกับบิดา กอดแขนกำยำเขย่าวิงวอนขอร้องท่านทั้งน้ำตา
ทว่าวสินยังคงเอาแต่เมินหน้าหนีไปทางอื่นอย่างมีทิฐิ
ปกเกศคอตก อย่าว่าแต่อาเลย ตัวเธอเองยังทำใจไม่ได้แล้วอาวสินจะยอมรับได้อย่างไรกัน
หญิงสาวทรงกายลุกขึ้นจากเก้าอี้บุนวมที่นั่งอยู่ ค่อยๆ เดินเลี่ยงออกจากห้องนั่งเล่นไปเงียบๆ คิดว่าถ้าเธอไม่อยู่ ทุกคนอาจจะสบายใจขึ้น แต่แล้วเสียงห้าวของธีรไนยกลับดังขึ้น
“ตกลงว่าจะเอาเด็กไว้แน่ๆ แล้วใช่ไหม”
เขาถามน้องสาว ปกเกศชะงักไปเล็กน้อย นิ่งคิดชั่วครู่ ก่อนพยักหน้า แววตาเศร้าแต่เด็ดเดี่ยว
“เด็กไม่มีความผิด เกศฆ่าเขาไม่ลงหรอกค่ะ”
“งั้นเกศก็ยิ่งต้องอยู่ที่นี่ จะไปอยู่ที่อื่นให้ลำบากทำไม อยู่ที่นี่ให้พี่กับน้องดาช่วยดูแลดีกว่า” ธีรไนยสั่งโดยไม่ขอความเห็นจากบิดา เขาเชื่อว่าท่านจะต้องเห็นด้วยกับเขา ไม่ว่าจะโกรธปกเกศเพียงใด แต่ท่านก็เป็นคนมีเหตุผลเสมอ
“จริงด้วยค่ะพี่เกศ ทำตามที่พี่ไนยว่าเถอะ วิธีนี้ดีที่สุดแล้ว จะออกไปอยู่คนเดียวไม่ปลอดภัยหรอกค่ะ” นวินดาเห็นด้วยกับพี่ชาย
“เกศ...คือเกศ...” ปกเกศอึกอัก อยากรับปากสองพี่น้อง แต่ก็ติดที่อาวสิน ไม่รู้ว่าท่านจะอยากต้อนรับเธอเหมือนเดิมอยู่อีกหรือเปล่า
อาอาจไม่อยากเห็นหน้าหลานเลวๆ อย่างเธออีกแล้ว...
“พ่อไม่ได้ไล่เกศสักหน่อย พ่อยังไม่ออกปากเลย อย่าคิดมากสิ” ธีรไนยดักคอเสียงเรียบแล้วเหลือบมองไปทางบิดา เห็นท่านเองก็ลอบมองเขาอยู่ แต่ไม่พูดอะไร
หากพ่อไม่เห็นด้วยกับเขา ท่านก็คงค้านออกมาแล้ว การนิ่งเฉยของท่านก็คือคำตอบที่ทำให้เขารู้แล้วว่าบิดาก็คิดเช่นเดียวกับเขา เพียงแต่ไม่ยอมพูดออกมาเท่านั้น
“...แต่เกศรู้สึกผิด...เกศไม่อยากให้อาวสินเกลียดเกศมากไปกว่านี้...”
“อาไม่ได้เกลียดเกศ”
เสียงเรียบทว่าทุ้มมั่นคงของวสินเอ่ยขึ้น ปกเกศเงยหน้าขึ้นมองคนเป็นอาตาโต ตื่นเต้น แต่อีกฝ่ายยังคงเมินไปทางอื่นไม่ได้หันมามองเธอ
“อาเกลียดตัวเอง ที่ดูแลเกศแทนพี่วสุไม่ดีพอ...ต่อไป เกศไม่ต้องไปทำงานพิเศษแล้ว ตั้งใจเรียนแล้วก็ดูแลสุขภาพตัวเองให้ดี เอาไว้คลอดลูกก่อนแล้วจะเอายังไงค่อยว่ากัน”
วสินตัดสินเสร็จสรรพ ลูกชายและลูกสาวของเขาถึงกับยิ้มอย่างโล่งใจออกมา นวินดานั้นรีบโผเข้าไปกอดญาติสาว ดีใจสุดขีด
“เห็นไหม น้องดาบอกแล้วว่าพี่เกศไม่ต้องไปไหน พ่อไม่ได้เกลียดพี่เกศสักหน่อย เลิกคิดมากได้แล้วน้า น้องดาจะช่วยพี่เกศเลี้ยงลูกเอง!”
ปกเกศยิ้มออกมาได้ทั้งน้ำตา หากยังไม่ทันได้เอ่ยปากอะไร เสียงแหลมเจ้ากี้เจ้าการของภานีก็ดังแทรกเข้ามา
“อะไรกัน คลอดลูกอะไร ใครมีลูก ตายแล้ว ฉันตกข่าวเรื่องสำคัญอะไรไปหรือเปล่า” เข้ามาถึง ภานีก็สอดรู้สอดเห็น หูตาตื่นสนใจขึ้นมาทันที โดยเฉพาะเรื่องจำพวกนี้ ดวงตาเรียวแหลมกวาดมองไล่ไปที่หญิงสาวสองคนซึ่งนั่งอยู่คู่กัน พินิจใบหน้าของทั้งสองแล้วก็เอะใจกับหน้าขาวซีด ดวงตาคลอน้ำตาของปกเกศ
“เอ๊ะ...อย่าบอกนะว่า ยายเกศ?” ภานีหน้าตาตื่น ชี้นิ้วไปที่ลูกเลี้ยงของตัวเอง มือสั่นระริก
“แกท้องเหรอ!?”
“ไม่เกี่ยวอะไรกับน้านี อย่ามาชี้หน้าพี่เกศ!”
นวินดาออกหน้าโต้กลับภานีอย่างไม่พอใจ ผู้หญิงคนนี้เป็นคนนอกครอบครัว เข้ามาถึงก็ส่งเสียงแหลมทำเจ้ากี้เจ้าการโวยวายเป็นเรื่องใหญ่โต เธอยิ่งอยากให้พี่สาวสบายใจอยู่
“ไม่เกี่ยวได้ยังไง ไม่ต้องมาปกป้องกันเลย ทำผิดขนาดนี้แล้วยังจะช่วยกันอีก อับอายขายหน้าชาวบ้าน งามไส้กันหมดล่ะงานนี้”
เป็นดั่งคาด เรื่องจำพวกนี้ลองได้รู้ถึงหูภานีแล้ว อีกฝ่ายเป็นต้อง ‘ตีข่าว’ สนุกปาก ไม่ได้นึกถึงใจคนอื่นเลย
นวินดาตวัดสายตามองผู้สูงวัยกว่าอย่างตำหนิ ไม่พอใจ แต่ฝ่ายนั้นไม่ได้สนใจใคร ยังคงเอาเป็นเอาตายกับปกเกศ
“ฉันคิดไม่ถึงจริงๆ นะยายเกศ เห็นหงิมๆ ติ๋มๆ เอาการเอางาน ที่แท้ก็แอบใจแตก นี่ถ้าพ่อของแกยังอยู่ เขาคงเสียใจมาก”
ปกเกศน้ำตาคลอ กำมือตัวเองเข้าหากันแน่น แม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่ใช่คนสำคัญของเธอ แต่ภานีก็อ้างถึงบิดาให้เธอยิ่งเจ็บปวด
“ฉันที่ไม่เกี่ยวด้วยก็ต้องเดือดร้อนไปด้วย แล้วนี่ฉันจะตอบพวกเพื่อนๆ ยังไง อับอายขายขี้หน้า อยากจะบ้าตาย...เออ แล้วนี่ตกลงใครเป็นพ่อเด็ก” บ่นโวยวายยาวเหยียดแล้วเพิ่งนึกเรื่องสำคัญได้ ภานีอยากเห็นหน้า ‘พ่อ’ ของเด็กในท้องแม่ลูกเลี้ยงแสนดี ใจจะขาดรอนๆ
“ว่าไง ทำไมไม่ตอบ นี่พ่อเด็กมันรู้เรื่องแล้วหรือยังว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง...บอกมันหรือยัง...นี่ อย่าเอาแต่เงียบสิยายเกศ ตอบมาเร็วๆ เข้า!”
“ผมเป็นพ่อเด็กเอง!”
“พี่ไนย!!”
ธีรไนยประกาศก้องออกมา ท่ามกลางภาวะความกดดันทั้งหลายที่กำลังตกอยู่กับปกเกศ หญิงสาวถึงกับหันขวับไปมองหน้าญาติหนุ่มด้วยความตื่นตระหนก
ภานีเองก็คาดไม่ถึง เธอจ้องมองธีรไนยเหมือนไม่อยากเชื่ออยู่ดี จนชายหนุ่มต้องยืนยันย้ำชัด
“ผมเป็นพ่อของเด็กในท้องเกศเอง มีปัญหาอะไรก็มาลงที่ผม อย่าว่าเกศ ทุกอย่าง...ผมรับผิดชอบเอง”
“พี่ไนย...” ปกเกศน้ำตาร่วงเผาะ มองพี่ชายด้วยความตื้นตัน...
พี่ไนยดีกับเธอเหมือนพระมาโปรด เขาช่างแตกต่างจากผู้ชายคนนั้น...คนที่เป็นพ่อแท้ๆ ของลูกเธอ
“ระ...เรื่องจริงเหรอเนี่ย...ไม่น่าเป็นไปได้...” สาวใหญ่ยังไม่อยากเชื่อ ตลอดมาถึงธีรไนยจะสนิทสนมคอยดูแลห่วงใยปกเกศ แต่ก็เป็นเหมือนพี่น้องกันมากกว่า มันไม่น่าเชื่อ...
“ผมพูดขนาดนี้แล้วยังจะไม่จริงอีกได้ยังไงล่ะ ผมไม่เอาเรื่องพวกนี้มาล้อเล่นหรอก มันไม่ตลก” ธีรไนยย้ำยืนยันชัดเจน พร้อมกันนั้นก็ขึงตาดุสั่งไม่ให้นวินดาหรือปกเกศปริปากพูดอะไร ไม่เห็นประโยชน์ที่จะต้องบอกความจริงกับภานี เพราะยิ่งรู้จะยิ่งแล้วใหญ่ ให้คิดว่าเขาเป็นพ่อเด็กเองน่าจะดีและจบเรื่องเร็วที่สุดแล้ว
“โธ่ถัง ที่แท้ก็กินกันเอง ปากบอกว่าเป็นเหมือนพี่น้อง ที่แท้ก็พี่น้องท้องติดกัน”
“หุบปากเดี๋ยวนี้เลยภานี ถ้าเธอยังคิดจะอยู่ในบ้านนี้ต่อไป!” วสินเอ่ยเสียงเครียด หน้าเคร่ง ตาเรียวดุเอาเรื่องจ้องเขม็งไปที่พี่สะใภ้ปากมากของตัวเองอย่างไม่พอใจยิ่ง
ผู้หญิงปากร้ายเหลือทนน่าเอือมระอาคนนี้ ทำให้เขาที่ไม่เคยคิดทำร้ายผู้หญิงอยากจะ ‘ตบให้ปลิว’ วันละหลายๆ รอบ!
“พี่วสิน แค่นี้ก็ต้องโกรธด้วยเหรอ นีพูดเรื่องจริงนะ พี่ควรต้องเล่นงานลูกชายบ้างแล้วล่ะ มาทำยายเกศท้องป่องทั้งๆ ที่ยังไม่ได้แต่งงาน เรียนก็ยังไม่จบ อับอายขายหน้าชาวบ้านเขาไปทั่ว” ภานีไม่เห็นว่าตัวเองผิดตรงไหน ในเมื่อเธอพูดความจริง
“ผมจะแต่งงานกับเกศครับ น้านีไม่ต้องห่วง”
คำประกาศเปรี้ยงของธีรไนย สร้างความตื่นตระหนกให้ทุกคน ภานีถึงกับอ้าปากค้าง ในขณะที่ปกเกศเองเบิกตาโต ตกใจ
“พี่ไนยพูดอะไร...ใครแต่งกับใครนะ?” ปกเกศย้อนถามเสียงแผ่วหวิว อยากคิดว่าตัวเองหูฝาดไปเองมากกว่า
“นั่นสิธีรไนย...เธอจะแต่งกับยายเกศได้ยังไง แล้วแฟนของเธอล่ะ?” ภานียังอุตส่าห์เป็นห่วงช่อฟ้า แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าคำถามของเจ้าตัวนั้น เป็นที่สนใจอยากรู้ของทุกคนเช่นกัน
ธีรไนยมีช่อฟ้าอยู่แล้ว เขาจะมาแต่งงานรับผิดชอบปกเกศได้อย่างไรกัน...
“ผมจะเลิกกับฟ้า” ชายหนุ่มตอบเสียงกังวานหนักแน่น หลังจากที่ตริตรองดูแล้วครู่หนึ่ง สำหรับธีรไนยแล้ว ครอบครัวของเขาต้องมาก่อนสิ่งอื่นใด
“เจ้าไนย แกคิดดีแล้วเหรอ...” วสินเอ่ยถามลูกชาย เขามองปราดเดียวก็เข้าใจ ธีรไนยอยากช่วยปกเกศ ถึงเขาไม่เห็นด้วยนักแต่ก็พอใจที่ปกเกศจะไม่ต้องขึ้นชื่อว่า ‘ท้องไม่มีพ่อ’
“ผมแน่ใจครับพ่อ ผมจะแต่งงานกับเกศ จะรับผิดชอบลูกของเกศให้ดีที่สุด” ธีรไนยยืนยันหนักแน่น มั่นคง ทำเอาทุกคนปราศจากความคลางแคลงใจใดๆ อีกต่อไป
นวินดาหันมาเขย่าแขนส่งยิ้มให้ปกเกศเป็นเชิงปีติยินดีกับเธอด้วย ทว่าเจ้าของเรื่องกลับยังคงยิ้มไม่ออก
เธอจะเป็นภาระให้พี่ชายมากขนาดนั้นได้อย่างไร...พี่ไนยไม่ได้ทำอะไรผิด ทำไมจะต้องมาเสียสละความสุขทั้งชีวิตเพื่อคนอย่างเธอด้วย
ไม่ได้หรอก...มันไม่ยุติธรรม มันไม่ถูกต้อง…
****************
โอ๊ยๆ พี่ไนยทำไมช่างแสนดีเช่นนี้ ตรงข้ามกับนายกานต์ชนกลิบ เหอๆ
วันนี้วันสุดท้ายของการสั่งจองรักรออุ้มแล้วนะคะ^^
นักอ่านท่านใดยังลังเล เดี๋ยวไม่ทันน้าาาา
หลังจากปิดจองแล้ว สามารถสั่งซื้อได้ตามราคาปกค่ะ
รอบจัดส่งทุกวันจันทร์ และวันพฤหัสบดีจ้า
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
ทว่าวสินยังคงเอาแต่เมินหน้าหนีไปทางอื่นอย่างมีทิฐิ
ปกเกศคอตก อย่าว่าแต่อาเลย ตัวเธอเองยังทำใจไม่ได้แล้วอาวสินจะยอมรับได้อย่างไรกัน
หญิงสาวทรงกายลุกขึ้นจากเก้าอี้บุนวมที่นั่งอยู่ ค่อยๆ เดินเลี่ยงออกจากห้องนั่งเล่นไปเงียบๆ คิดว่าถ้าเธอไม่อยู่ ทุกคนอาจจะสบายใจขึ้น แต่แล้วเสียงห้าวของธีรไนยกลับดังขึ้น
“ตกลงว่าจะเอาเด็กไว้แน่ๆ แล้วใช่ไหม”
เขาถามน้องสาว ปกเกศชะงักไปเล็กน้อย นิ่งคิดชั่วครู่ ก่อนพยักหน้า แววตาเศร้าแต่เด็ดเดี่ยว
“เด็กไม่มีความผิด เกศฆ่าเขาไม่ลงหรอกค่ะ”
“งั้นเกศก็ยิ่งต้องอยู่ที่นี่ จะไปอยู่ที่อื่นให้ลำบากทำไม อยู่ที่นี่ให้พี่กับน้องดาช่วยดูแลดีกว่า” ธีรไนยสั่งโดยไม่ขอความเห็นจากบิดา เขาเชื่อว่าท่านจะต้องเห็นด้วยกับเขา ไม่ว่าจะโกรธปกเกศเพียงใด แต่ท่านก็เป็นคนมีเหตุผลเสมอ
“จริงด้วยค่ะพี่เกศ ทำตามที่พี่ไนยว่าเถอะ วิธีนี้ดีที่สุดแล้ว จะออกไปอยู่คนเดียวไม่ปลอดภัยหรอกค่ะ” นวินดาเห็นด้วยกับพี่ชาย
“เกศ...คือเกศ...” ปกเกศอึกอัก อยากรับปากสองพี่น้อง แต่ก็ติดที่อาวสิน ไม่รู้ว่าท่านจะอยากต้อนรับเธอเหมือนเดิมอยู่อีกหรือเปล่า
อาอาจไม่อยากเห็นหน้าหลานเลวๆ อย่างเธออีกแล้ว...
“พ่อไม่ได้ไล่เกศสักหน่อย พ่อยังไม่ออกปากเลย อย่าคิดมากสิ” ธีรไนยดักคอเสียงเรียบแล้วเหลือบมองไปทางบิดา เห็นท่านเองก็ลอบมองเขาอยู่ แต่ไม่พูดอะไร
หากพ่อไม่เห็นด้วยกับเขา ท่านก็คงค้านออกมาแล้ว การนิ่งเฉยของท่านก็คือคำตอบที่ทำให้เขารู้แล้วว่าบิดาก็คิดเช่นเดียวกับเขา เพียงแต่ไม่ยอมพูดออกมาเท่านั้น
“...แต่เกศรู้สึกผิด...เกศไม่อยากให้อาวสินเกลียดเกศมากไปกว่านี้...”
“อาไม่ได้เกลียดเกศ”
เสียงเรียบทว่าทุ้มมั่นคงของวสินเอ่ยขึ้น ปกเกศเงยหน้าขึ้นมองคนเป็นอาตาโต ตื่นเต้น แต่อีกฝ่ายยังคงเมินไปทางอื่นไม่ได้หันมามองเธอ
“อาเกลียดตัวเอง ที่ดูแลเกศแทนพี่วสุไม่ดีพอ...ต่อไป เกศไม่ต้องไปทำงานพิเศษแล้ว ตั้งใจเรียนแล้วก็ดูแลสุขภาพตัวเองให้ดี เอาไว้คลอดลูกก่อนแล้วจะเอายังไงค่อยว่ากัน”
วสินตัดสินเสร็จสรรพ ลูกชายและลูกสาวของเขาถึงกับยิ้มอย่างโล่งใจออกมา นวินดานั้นรีบโผเข้าไปกอดญาติสาว ดีใจสุดขีด
“เห็นไหม น้องดาบอกแล้วว่าพี่เกศไม่ต้องไปไหน พ่อไม่ได้เกลียดพี่เกศสักหน่อย เลิกคิดมากได้แล้วน้า น้องดาจะช่วยพี่เกศเลี้ยงลูกเอง!”
ปกเกศยิ้มออกมาได้ทั้งน้ำตา หากยังไม่ทันได้เอ่ยปากอะไร เสียงแหลมเจ้ากี้เจ้าการของภานีก็ดังแทรกเข้ามา
“อะไรกัน คลอดลูกอะไร ใครมีลูก ตายแล้ว ฉันตกข่าวเรื่องสำคัญอะไรไปหรือเปล่า” เข้ามาถึง ภานีก็สอดรู้สอดเห็น หูตาตื่นสนใจขึ้นมาทันที โดยเฉพาะเรื่องจำพวกนี้ ดวงตาเรียวแหลมกวาดมองไล่ไปที่หญิงสาวสองคนซึ่งนั่งอยู่คู่กัน พินิจใบหน้าของทั้งสองแล้วก็เอะใจกับหน้าขาวซีด ดวงตาคลอน้ำตาของปกเกศ
“เอ๊ะ...อย่าบอกนะว่า ยายเกศ?” ภานีหน้าตาตื่น ชี้นิ้วไปที่ลูกเลี้ยงของตัวเอง มือสั่นระริก
“แกท้องเหรอ!?”
“ไม่เกี่ยวอะไรกับน้านี อย่ามาชี้หน้าพี่เกศ!”
นวินดาออกหน้าโต้กลับภานีอย่างไม่พอใจ ผู้หญิงคนนี้เป็นคนนอกครอบครัว เข้ามาถึงก็ส่งเสียงแหลมทำเจ้ากี้เจ้าการโวยวายเป็นเรื่องใหญ่โต เธอยิ่งอยากให้พี่สาวสบายใจอยู่
“ไม่เกี่ยวได้ยังไง ไม่ต้องมาปกป้องกันเลย ทำผิดขนาดนี้แล้วยังจะช่วยกันอีก อับอายขายหน้าชาวบ้าน งามไส้กันหมดล่ะงานนี้”
เป็นดั่งคาด เรื่องจำพวกนี้ลองได้รู้ถึงหูภานีแล้ว อีกฝ่ายเป็นต้อง ‘ตีข่าว’ สนุกปาก ไม่ได้นึกถึงใจคนอื่นเลย
นวินดาตวัดสายตามองผู้สูงวัยกว่าอย่างตำหนิ ไม่พอใจ แต่ฝ่ายนั้นไม่ได้สนใจใคร ยังคงเอาเป็นเอาตายกับปกเกศ
“ฉันคิดไม่ถึงจริงๆ นะยายเกศ เห็นหงิมๆ ติ๋มๆ เอาการเอางาน ที่แท้ก็แอบใจแตก นี่ถ้าพ่อของแกยังอยู่ เขาคงเสียใจมาก”
ปกเกศน้ำตาคลอ กำมือตัวเองเข้าหากันแน่น แม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่ใช่คนสำคัญของเธอ แต่ภานีก็อ้างถึงบิดาให้เธอยิ่งเจ็บปวด
“ฉันที่ไม่เกี่ยวด้วยก็ต้องเดือดร้อนไปด้วย แล้วนี่ฉันจะตอบพวกเพื่อนๆ ยังไง อับอายขายขี้หน้า อยากจะบ้าตาย...เออ แล้วนี่ตกลงใครเป็นพ่อเด็ก” บ่นโวยวายยาวเหยียดแล้วเพิ่งนึกเรื่องสำคัญได้ ภานีอยากเห็นหน้า ‘พ่อ’ ของเด็กในท้องแม่ลูกเลี้ยงแสนดี ใจจะขาดรอนๆ
“ว่าไง ทำไมไม่ตอบ นี่พ่อเด็กมันรู้เรื่องแล้วหรือยังว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง...บอกมันหรือยัง...นี่ อย่าเอาแต่เงียบสิยายเกศ ตอบมาเร็วๆ เข้า!”
“ผมเป็นพ่อเด็กเอง!”
“พี่ไนย!!”
ธีรไนยประกาศก้องออกมา ท่ามกลางภาวะความกดดันทั้งหลายที่กำลังตกอยู่กับปกเกศ หญิงสาวถึงกับหันขวับไปมองหน้าญาติหนุ่มด้วยความตื่นตระหนก
ภานีเองก็คาดไม่ถึง เธอจ้องมองธีรไนยเหมือนไม่อยากเชื่ออยู่ดี จนชายหนุ่มต้องยืนยันย้ำชัด
“ผมเป็นพ่อของเด็กในท้องเกศเอง มีปัญหาอะไรก็มาลงที่ผม อย่าว่าเกศ ทุกอย่าง...ผมรับผิดชอบเอง”
“พี่ไนย...” ปกเกศน้ำตาร่วงเผาะ มองพี่ชายด้วยความตื้นตัน...
พี่ไนยดีกับเธอเหมือนพระมาโปรด เขาช่างแตกต่างจากผู้ชายคนนั้น...คนที่เป็นพ่อแท้ๆ ของลูกเธอ
“ระ...เรื่องจริงเหรอเนี่ย...ไม่น่าเป็นไปได้...” สาวใหญ่ยังไม่อยากเชื่อ ตลอดมาถึงธีรไนยจะสนิทสนมคอยดูแลห่วงใยปกเกศ แต่ก็เป็นเหมือนพี่น้องกันมากกว่า มันไม่น่าเชื่อ...
“ผมพูดขนาดนี้แล้วยังจะไม่จริงอีกได้ยังไงล่ะ ผมไม่เอาเรื่องพวกนี้มาล้อเล่นหรอก มันไม่ตลก” ธีรไนยย้ำยืนยันชัดเจน พร้อมกันนั้นก็ขึงตาดุสั่งไม่ให้นวินดาหรือปกเกศปริปากพูดอะไร ไม่เห็นประโยชน์ที่จะต้องบอกความจริงกับภานี เพราะยิ่งรู้จะยิ่งแล้วใหญ่ ให้คิดว่าเขาเป็นพ่อเด็กเองน่าจะดีและจบเรื่องเร็วที่สุดแล้ว
“โธ่ถัง ที่แท้ก็กินกันเอง ปากบอกว่าเป็นเหมือนพี่น้อง ที่แท้ก็พี่น้องท้องติดกัน”
“หุบปากเดี๋ยวนี้เลยภานี ถ้าเธอยังคิดจะอยู่ในบ้านนี้ต่อไป!” วสินเอ่ยเสียงเครียด หน้าเคร่ง ตาเรียวดุเอาเรื่องจ้องเขม็งไปที่พี่สะใภ้ปากมากของตัวเองอย่างไม่พอใจยิ่ง
ผู้หญิงปากร้ายเหลือทนน่าเอือมระอาคนนี้ ทำให้เขาที่ไม่เคยคิดทำร้ายผู้หญิงอยากจะ ‘ตบให้ปลิว’ วันละหลายๆ รอบ!
“พี่วสิน แค่นี้ก็ต้องโกรธด้วยเหรอ นีพูดเรื่องจริงนะ พี่ควรต้องเล่นงานลูกชายบ้างแล้วล่ะ มาทำยายเกศท้องป่องทั้งๆ ที่ยังไม่ได้แต่งงาน เรียนก็ยังไม่จบ อับอายขายหน้าชาวบ้านเขาไปทั่ว” ภานีไม่เห็นว่าตัวเองผิดตรงไหน ในเมื่อเธอพูดความจริง
“ผมจะแต่งงานกับเกศครับ น้านีไม่ต้องห่วง”
คำประกาศเปรี้ยงของธีรไนย สร้างความตื่นตระหนกให้ทุกคน ภานีถึงกับอ้าปากค้าง ในขณะที่ปกเกศเองเบิกตาโต ตกใจ
“พี่ไนยพูดอะไร...ใครแต่งกับใครนะ?” ปกเกศย้อนถามเสียงแผ่วหวิว อยากคิดว่าตัวเองหูฝาดไปเองมากกว่า
“นั่นสิธีรไนย...เธอจะแต่งกับยายเกศได้ยังไง แล้วแฟนของเธอล่ะ?” ภานียังอุตส่าห์เป็นห่วงช่อฟ้า แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าคำถามของเจ้าตัวนั้น เป็นที่สนใจอยากรู้ของทุกคนเช่นกัน
ธีรไนยมีช่อฟ้าอยู่แล้ว เขาจะมาแต่งงานรับผิดชอบปกเกศได้อย่างไรกัน...
“ผมจะเลิกกับฟ้า” ชายหนุ่มตอบเสียงกังวานหนักแน่น หลังจากที่ตริตรองดูแล้วครู่หนึ่ง สำหรับธีรไนยแล้ว ครอบครัวของเขาต้องมาก่อนสิ่งอื่นใด
“เจ้าไนย แกคิดดีแล้วเหรอ...” วสินเอ่ยถามลูกชาย เขามองปราดเดียวก็เข้าใจ ธีรไนยอยากช่วยปกเกศ ถึงเขาไม่เห็นด้วยนักแต่ก็พอใจที่ปกเกศจะไม่ต้องขึ้นชื่อว่า ‘ท้องไม่มีพ่อ’
“ผมแน่ใจครับพ่อ ผมจะแต่งงานกับเกศ จะรับผิดชอบลูกของเกศให้ดีที่สุด” ธีรไนยยืนยันหนักแน่น มั่นคง ทำเอาทุกคนปราศจากความคลางแคลงใจใดๆ อีกต่อไป
นวินดาหันมาเขย่าแขนส่งยิ้มให้ปกเกศเป็นเชิงปีติยินดีกับเธอด้วย ทว่าเจ้าของเรื่องกลับยังคงยิ้มไม่ออก
เธอจะเป็นภาระให้พี่ชายมากขนาดนั้นได้อย่างไร...พี่ไนยไม่ได้ทำอะไรผิด ทำไมจะต้องมาเสียสละความสุขทั้งชีวิตเพื่อคนอย่างเธอด้วย
ไม่ได้หรอก...มันไม่ยุติธรรม มันไม่ถูกต้อง…
****************
โอ๊ยๆ พี่ไนยทำไมช่างแสนดีเช่นนี้ ตรงข้ามกับนายกานต์ชนกลิบ เหอๆ
วันนี้วันสุดท้ายของการสั่งจองรักรออุ้มแล้วนะคะ^^
นักอ่านท่านใดยังลังเล เดี๋ยวไม่ทันน้าาาา
หลังจากปิดจองแล้ว สามารถสั่งซื้อได้ตามราคาปกค่ะ
รอบจัดส่งทุกวันจันทร์ และวันพฤหัสบดีจ้า
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์ เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 16 ก.ย. 2561, 13:56:47 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 16 ก.ย. 2561, 13:56:47 น.
จำนวนการเข้าชม : 693
| << บทที่ 9 -50% + หนังสือพร้อมส่ง! | บทที่ 10 -30% >> |